เรื่องเล่าจากต่างแดน
<<
มิถุนายน 2552
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
8 มิถุนายน 2552
 
 
I am not maid exchange ตอนเจ็ด

ตอน ทัวร์นิวยอร์คก่อนเข้าบ้าน (ตอนจบ)
พอถึงหกโมงเย็น ฉันก็แต่งตัวที่คิดว่าสวยแล้ว แหะ ๆ
พร้อมกับเสื้อกันหนาวตัวใหญ่
คลุมปิดทั้งตัวประมาณหนัง
เจ้าพ่อเซี้ยงไฮ้มาเองด้วยหนึ่งตัว
เพราะฉันหนาวมาก ๆ
คนอื่นจะใส่อะไรไม่สนใจ
รู้ว่ามันแค่ฤดูใบไม้ร่วง แต่ฉันหนาว
เป็นกระเหรี่ยงพึ่งมาจากเขตุร้อนนี่นา

วันนั้นฉันกับเพื่อนคนไทยหลายคน
ที่ไปทัวร์ด้วยกัน แต่ฉันจะอยู่กับเพื่อน (คนบ้านเดียวกัน)
ที่นั่งเครื่องมาด้วยกันตลอด
เพราะว่าตอนนี้เราเป็นเพื่อนซี้กันไปแล้ว
แล้วก็มีเพื่อนเกาหลีอีกคนหนึ่ง ที่ฉันพึ่งรู้จัก
คนนี้หน้าตาน่ารัก แล้วก็นิสัยดี
เป็นคนแบบค่อนข้างเรียบร้อย
ฉันยังคิดในใจว่า แล้วยังงี้จะไปเลี้ยงเด็กอเมริกันไหวเหรอ
ทำไมท่าทางเรียบร้อยจัง ถ้าเทียบกับลิงทโมน
จากเมืองไทยทั้งหลายแล้ว คนละเรื่องกันเลย แหะๆ
ขนาดเหล่าบรรดาออแพร์ไทยดูอ่อน ๆ แล้วนะ
เจอเกาหลีเข้าไปยิ่งดูอ่อนกว่าเราอีก (สวย ใส ไร้เดียงสา)
แล้วพวกเราก็ขึ้นรถบัส
โดยมีไกด์หนึ่งคนเป็นคนนำเที่ยว
เขาก็แนะนำตัว แจกแผ่นพับมากมาย
บอกว่าเราจะไปไหนกันบ้าง
ก็มีไปดูโรงละครโอเปร่า (ไม่รู้ไปดูทำไม)
ไทมสแคร์ ไชน่าทาวน์
ชมวิวบนตึกร็อคเฟลเลอร์ (Rockefeller)
และซากปรักหักพังที่เกิดจากโศกนาฎกรรม
ในวันที่สิบเอ็ดกันยายน อีกหนึ่งเหตุการณ์
ที่ต้องจารึกในประวัติศาสตร์ “เวอร์เทรดเซ็นเตอร์”
เอาแค่รู้โปรแกรมจากไกด์นำเที่ยวคร่าว ๆ
ว่าจะไปไหนกันบ้าง ฉันก็เกิดอาการตื่นเต้นทันที
รู้สึกว่าตั้งแต่มาเหยียบอเมริกา
วันนี้พึ่งจะได้รู้สึกสดชื่นและมีความสุข แหะ ๆ
แต่แล้วมันก็อยู่ได้ไม่นาน
ความรู้สึกที่กำลังมีความสุขอยู่ดี ๆ
ก็ถูกมารมาผจญ มารที่อยู่ในท้องฉัน (แต่ไม่ใช่มารหัวขนนะค่ะ)
ก็เริ่มทำงานทันที ฉันเริ่มจากอาการกระอักกระอ่วน
คลื่นไส้อยากอาเจียนตอนที่ยังอยู่ในรถ
(ฉันไม่ได้ท้องนะ มาอเมริกาแค่ห้าวันจะท้องได้ยังไง
ถึงแม้จะแอบสบตากับหนุ่มหล่อที่แผนกต้อนรับบ่อย ๆ
ก็ตาม แต่ไม่ใช่ปลากัดนะจะได้ท้องได้ แหะ ๆ)
ก็หันไปบอกเพื่อนว่าตัวเองอาการไม่ดี
เพื่อนก็บอกว่าเป็นอะไรมากไหม
ไปกินอะไรมา ในใจก็คิด ไม่ได้ไปกินอะไรเลย
นอกจากกินข้าวที่ก็กินมาตลอดชีวิต
แค่ไม่ได้กินห้าวันเอง พอกลับไปกินอีก
จะมีอาการแพ้เลยเหรอ มันจะไม่ดูดัดจริตไปหน่อยเหรอ เหอะ ๆ
คิดในใจว่าซวยแน่แล้ว มาเป็นอะไรตอนจะไปเที่ยว
ถ้าของเก่าออกมาในรถตอนนี้
เพื่อน ๆ คงหมดสนุกและเหม็นด้วยแน่ ๆ
ฮือ ๆ ทำไงดี พอรถไปจอดสถานที่แรก
โรงละครโอเปร่าเท่านั้นหล่ะ
ฉันวิ่งลงรถก่อนใครเพื่อน
ใคร ๆ คงคิดว่า ฉันคงจะชอบละครโอเปร่ามาก ๆ
แน่ ๆ ถึงได้รีบวิ่งลงไปดูก่อนใครเพื่อนเลย
วิ่งลงไปตรงไปหาห้องน้ำก่อนเลย
ประมาณแบบวิ่งเร็วยิ่งกว่า
พวกเจ้ามือหวยใต้ดินวิ่งหนีตำรวจซะอีก
ไปถึงห้องน้ำเท่านั้นปล่อยออกมาอย่างเต็มที่
ดีนะที่ไม่ถึงขนาดต้องลงไปนั่งพับเพียบกอดชักโครกเอาไว้
ยังไม่ถึงขนาดนั้น เพราะว่าไม่ได้เมา เหอะ ๆ

พอปล่อยไปรอบแรกแล้ว
ก็รู้สึกสบายท้องขึ้นมาอย่างมหาศาล
แต่ว่าก็เกิดอาการหมดแรงเลย
เพื่อนก็มาถามว่าเป็นยังไงบ้าง
ถามอย่างเดียวไม่พอ ได้ทีบ่นใหญ่
เหมือนเป็นแม่เราอีกคน ไปกินอะไรมา
ทำไม อย่างงั้น อย่างงี้ อยากจะอ๊วกอีกรอบ
เพราะอาการเป็นห่วงของเพื่อนนี่หล่ะ
เสร็จแล้วเราก็ไปเทียวกันต่อ
แม้ว่าฉันจะหมดแรงเพราะพิษจากข้าว (มื้อแรกในอเมริกา)
แต่ว่าเสียเงินไปแล้ว ก็ต้องเที่ยวให้คุ้ม
ต้องมีแรงเดิน อย่าให้เสียเงินปล่าว
แล้วต้องนอนรอในรถ
พอคิดแบบนี้แล้ว ขามันก็สั่งให้มีแรงเดินยังไงยังงั้นเลย
แบบว่าต่อมความงกมันทำงาน
เลยทำให้ร่างกายมีเรี่ยวมีแรงขึ้นมาทันที
เราไปชมวิวกันี่ตึกร็อคเฟลเลอร์
โอ้แม่เจ้า โรคกลัวความสูงของฉันกำเริบอีกแล้ว
เพื่อนฉันก็จริง ๆ เลย
ไม่รู้ว่าคุณเธออยากจะถ่ายรูปอะไรนักหนา
ไม่คิดถึงคนที่กลัวความสูงอย่างฉัน
(แต่เก็บซ่อนไว้) เก๊กไว้คะ เก๊กไว้
อย่าให้ใครรู้ว่าเรากลัวความสูง
ไม่งั้นอายเขา เหอะ ๆ ฉันก็ขอเป็น
คนถ่ายรูปให้ ถ้าจะถ่ายให้ฉัน
เอาแบบอยู่ตรงข้างในหน่อยก็ได้
ไม่ต้องไปยืนตรงนอกมากหรอก
ได้เหมือนกัน แต่ยังดีวันนี้วันนั้นลมแรง
เราเลยอยู่ข้างนอกกันนานไม่ได้
(ชอบความหนาวก็ตอนนี้หล่ะ)
เพื่อนก็หนาว ฉันก็หนาว
เลยมีข้ออ้างให้ได้เข้าข้างในกัน
ดีไปไม่งั้นกว่าจะถ่ายรูปให้คุณเพื่อนเสร็จ
ฉันคงหัวใจวายตายไปซะก่อน เหอะ ๆ

จากนั้นเราก็ไปไทมแสคร์
ฉันเป็นคนชอบซื้อโปสการ์ดมาก ๆ
คือว่าสะสมตั้งแต่สมัยอยู่เมืองไทยแล้ว
ถ้าไปเที่ยวจังหวัดไหน หรือที่ไหนก็จะซื้อเก็บไว้ตลอด
หรือถ้าใครไปเที่ยวต่างประเทศ
หรือไปที่ไหนก็จะบอกว่า
ของฝากไม่ต้องเอาโปสการ์ดมาก็พอ
คือประเด็นหลัก ๆ คือมันถูก แหะ ๆ
สะสมได้ สะสมไป ของที่ระลึกอย่างอื่น
แพงก็แพง หนักก็หนัก
ว่าไปนั้น จริง ๆ ก็คือ งกนั่นเอง
เพราะว่าโปสการ์ดไม่ว่าที่ไหน
มันก็ราคาถูกสุดแล้วในร้านขายของที่ระลึก
ก็คิดว่าจะซื้อโปสดการ์ดหลายใบหน่อย
ส่งให้ที่บ้าน ระหว่างที่เลือกเสร็จแล้วก็ไปจ่ายเงิน
เพื่อนอีกคนเขาก็ซื้อหลายอย่างเหมือนกัน
เห็นเพื่อนไปถามคนขายว่า ราคาเท่าไหร่
คนขายก็บอกห้าบาท
เพื่อนก็มาบอกฉันว่า เฮ้ย
คนขายเขาบอกว่าห้าบาท
ทำไมที่นี่ใช้เงินเหรียญ
แล้วเรียกบาทเหมือนบาทเราเลย
ฉันก็อ้าวจริงเหรอ ไหนดูสิ ฉันก็ไปถามบ้าง
ราคาเท่าไหร่ ได้ยินมาเหมือนกันเลย
ฟายบาท อ้าวบอกว่าห้าบาทเหมือนกัน
เหอะ ๆ มาถึงอเมริกา
ยังใช้เงินบาทเหมือนเมืองไทยเลย เหอะ ๆ
ตอนหลังมาเข้าใจว่าที่แท้มันคือ บลักส์ (bucks)
แต่ถ้าฟังดี ๆ มันก็คือบาทนั่นเอง
แหม ๆ เห็นอย่างนี้ประเทศไทยเราก็อินเตอร์เหมือนกันนะ
ใช้เงินสกุลเดียวกันกับอเมริกาซะด้วย ฮ่า ๆ ๆ
แก้ตัวไปนั่น ที่แท้ก็ด้วยความบ้านนอก
ในการใช้ภาษาของตัวเองแท้ ๆ
คิดแล้วยังขำไม่หาย เรื่องความเปิ่นใน
การใช้ภาษาอังกฤษยังมีอีกเยอะ
เอาไว้อ่านในตอนต่อ ๆ ไปหล่ะกันคะ
ออกจากไทมแสคร์ฉันก็หมดแรงแล้ว
เพราะว่าหลังจากที่ของเก่าออกไป
และไม่ได้มีของใหม่เข้ามาแต่อย่างใด
มันก็หิว และเริ่มไม่มีแรง แต่ก็ต้องทน
เกิดเป็นคนต้องทนให้ได้ แม่บอกไว้ ฮ่า ๆ
คิดถึงเงินที่เสียไป แล้วจะได้มีแรงเดิน
(งกไม่เลิกจริง ๆ) ไปอีกสองสามแห่ง
ตามในรายการทัวร์ที่ระบุ
แล้วก็สุดท้ายพาพวกเราไปจอดรถ
ที่ฝั่งที่มองเห็นเทพเสรีภาพแบบไกลโพ้นมาก ๆ
คือที่เคยเห็นเทพีเสรีภาพใหญ่ ๆ ในหนัง
จากตรงที่พวกเรามองดูนั่นคือเห็นเป็น
ตัวเล็กนิดเดียวไปเลย
มืดก็มืดเห็นแค่แสงไฟรีบเหรี่
ไม่รู้จะพาไปดูทำไม เหอะ ๆ
คงหวังดีประมาณว่าถ้ามานิวยอร์ค
ไม่เห็นเทพีเสรีภาพก็เหมือนมาไม่ถึง
แต่มาดูแบบนี้มันก็เหมือนมาไม่ได้ดูอยู่ดี
แล้วการสิ้นสุดของทัวร์ (เสียเงิน) ก็จบลง
บางคนก็ชอบ บางคนก็บอกว่าไม่สมกับเงินที่เสียไป
ต่างคนต่างจิตต่างใจ
แต่สำหรับฉันก็ไม่ได้เลวร้ายเท่าไหร่
ถ้าเกิดไม่มีอาการปั่นป่วนในท้องคงจะสนุกกว่านี้ เหอะ ๆ

พวกเราก็กลับมาถึงโรงแรมราว ๆ
สี่ทุ่มกว่า ๆ แล้วต่างคนต่างแยกย้ายกันไปหน่อย
วันนั้นเป็นอีกวันที่ฉันรู้สึกเหนื่อยมาก
พรุ่งนี้อบรมต่อถึงบ่ายสามก็จะได้เข้าบ้านโฮสแล้ว
ตื่นเต้น ๆ แต่ว่าเข้าบ้านโฮสตอนนี้สภาพแบบดูไม่ได้เลย
เหนื่อย เพลีย โทรม ถ้าโฮสเจอจะตกใจไหมเนี๊ยะ
คิดในใจไปต่าง ๆ นานา แล้วก็หมดแรงนอนไป
คืนนั้นกำลังนอนฝันดี ๆ อยู่แล้วเชียว
อยู่ ๆ ก็มีเสียงสัญญาณอะไรไม่รู้ดังมาก ๆ
เพื่อนในห้องตื่นขึ้น บอกว่าสัญญาณเตือนว่าไฟไหม้
ให้เรารีบออกไปข้างนอกกัน เท่านั้นหล่ะ
ฉันที่นอนอยู่เพราะอาการเหนื่อย
และอ่อนเพลียจากอาการอ๊วกเมื่อตอนหัวค่ำ
ลุกขึ้นมีแรงขึ้นมาทันที
สมองสั่งงานแบบเหมือนเคยเห็นในหนังอย่างไรอย่างนั้น
กำลังจะรีบลงไปยังไม่วายลืมคว้าเอากระเป๋าสะพาย
(ใบใหญ่เหมือนกัน) เพราะคิดเหมือนกัน
ว่าจะเอากระเป๋าเดินทางใบใหญ่ลงไปด้วย
แต่คงไม่ไหว ขืนเอาสองใบลงไป
ด้วยตายก่อนลงไปได้แน่นอน
ก็คว้าเอาใบเล็ก เพราะว่าในนั้นมีกระเป๋าเงิน
และหนังสือเดินทาง ฯ วิ่งหน้าตื่นตามเพื่อน ๆ
คนอื่นลงไปทางบันไดหนีไฟ
ไปรวมตัวกันอยู่อีกด้านของโรงแรม
ทุกคนลงมาด้วยสภาพไม่ต่างกัน
คิดแล้วก็ขำ ๆ คืออากาศมันหนาวมากเลย
แต่ว่าในห้องเราเปิดฮีตเตอร์ (เครื่องทำความอุ่น)
ทำให้แต่ละคนจะใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นกันมาก ๆ
รีบวิ่งลงมา หนาวก็หนาว บางคนแบก
เอาของลงมาด้วยเยอะมาก
เพื่อนบางคนไม่ลืมเอาคอมพิวเตอร์ลงมาด้วย เหอะ ๆ
หนาวก็หนาว เราก็ต้องรอจนกระทั่ง
พนักงานมาบอกว่าปลอดภัยแล้ว
ให้กลับห้องพักได้ พวกเราก็งงต่างแยกย้าย
กันกลับห้องพักไป ฉันคิดในใจว่ามันเกิดอะไร
แต่ด้วยความง่วงเลยไม่อยากจะสงสัยอะไร
ขอนอนต่อก่อน พอตอนเช้าถึงได้รู้ว่ามี
คนสูบบุหรี่ในห้องเลยทำให้สัญญาณกันไฟไหม้ดัง
โห ใครกันช่างทำไปได้ แหม มันน่าจริง ๆ คิดแล้วยังขำไม่หาย
ตอนนั้นก็กลัวจริง ๆ นึกว่าไฟไหม้จริง ๆ
ดีนะที่เป็นแค่ควันบุหรี่ เหอะ ๆ
แถมตอนหลัง มีเพื่อนบางคนที่ไม่รู้เรื่องด้วย ประมาณว่าหลับกัน
ทั้งห้องไม่ได้ยินเสียงสัญญาณทั้งเพื่อนคนไทย
และชาติอื่นในห้องนั้น พร้อมใจกันนอนหลับจริง ๆ
ถ้าไฟไหม้จริง ๆ คงได้ตายหมู่ เหอะ ๆ

โปรดติดตามตอนต่อไป ตอนหน้าเผชิญหน้ากับโฮส และเข้าบ้านแล้ว เรื่องราวกำลังเข้มข้นแล้วนะค่ะ



Create Date : 08 มิถุนายน 2552
Last Update : 8 มิถุนายน 2552 10:03:50 น. 2 comments
Counter : 504 Pageviews.

 
ว้าา

จบหมดซะละ ยังไงก็รอตอนต่อไปอยู่นะคะ

ปล. อ่านทั้งโรบินฮู้ด ทั้งออแพร์เลย ติดงอมแงม หุหุ


โดย: ngbobber IP: 61.90.129.178 วันที่: 8 มิถุนายน 2552 เวลา:14:44:42 น.  

 
555 ขำอ่ะคนเหนื่อยก้อเหนื่อยยังมีเหตุการณไรแบบนี้อีก


โดย: fuangfar วันที่: 11 มิถุนายน 2552 เวลา:11:04:57 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

ถนนที่ทอดยาว
Location :
Toronto, ON Canada

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




จากเด็กบ้านนอกเดินทางสู่เมืองนอก กับประสบการณ์ใหม่ ๆ ในต่างแดน และเรื่องเล่าชีวิตจริงคนที่อยู่ในต่างประเทศ ที่มองดูว่าสวยงาม นั่นจริงเหรอ
[Add ถนนที่ทอดยาว's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com