หลังจากที่รัฐบาลสิงคโปร์ได้ออกมาตรการควบคุมระดับความร้อนแรงของราคาอสังหาริมทรัพย์ภายในประเทศรอบใหม่ เป็นที่คาดการณ์ว่าบรรดาผู้ซื้อและนักลงทุนชาวสิงคโปร์จะหันมาให้ความสนใจกับตลาดอสังหาฯ ในต่างประเทศมากขึ้น ตามรายงานของพร็อพเพอร์ตี้กูรู (PropertyGuru) เว็บไซต์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ของเอเชีย 

 

รายละเอียดของมาตรการดังกล่าวซึ่งเริ่มมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันเสาร์ที่ 12 มกราคม 2556 นั้นรวมไปถึงการขึ้นระดับอัตราอากรแสตมป์ขึ้นเป็น 3-8% ทั้งนี้ รัฐบาลสิงคโปร์กล่าวว่าการออกมาตรการดังกล่าวเป็นเหมือนการตั้งด่านเพื่อชะลอตลาดอสังหาฯของสิงคโปร์และเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดภาวะฟองสบู่แตกในอนาคต 

 

มาตรการควบคุมระดับความร้อนแรงของราคาอสังหาฯ ฉบับใหม่ล่าสุด ได้ถูกประกาศออกมาเป็นทางการผ่านรายงานจำนวน 12 หน้าเมื่อช่วงเย็นของวันศุกร์ที่ผ่านมา (11 มกราคม 2556) อย่างไรก็ดี เนื้อหาของมาตรการดังกล่าวนั้นออกมาเพื่อควบคุมระดับดีมานด์ของบรรดานักเก็งกำไรมากกว่า ส่วนผู้ซื้อเพื่อการอยู่อาศัยจริงนั้นจะไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากมาตรการฉบับใหม่นี้ 

 

เป็นที่น่าสังเกตว่า หลังจากที่รัฐบาลสิงคโปร์ได้ออกมาตรการควบคุมตลาดอสังหาฯ ในรอบก่อน ผู้ซื้อและนักลงทุนชาวสิงคโปร์ต่างหันมาให้ความสนใจโครงการในมาเลเซียกันมากขึ้น และความสนใจในตลาดอสังหาฯต่างประเทศก็ได้แผ่กว้างออกไปทั่วภูมิภาค 

 

ในปีที่ผ่านมา ก็เป็นไปตามที่ พร็อพเพอร์ตี้กูรูได้คาดการณ์ไว้นั่นคือมีดีเวลลอปเปอร์ชาวต่างชาติเข้ามาจัดโร้ดโชว์หรือแสดงโครงการของตนในประเทศสิงคโปร์เป็นจำนวนมากเป็นประวัติการณ์ ชาวสิงคโปร์เริ่มให้ความสนใจในตลาดอสังหาฯ ต่างประเทศโดยเฉพาะในประเทศมาเลเซีย ไทย สหราชอาณาจักร และออสเตรเลียเพิ่มมากขึ้น แม้แต่ตลาดอสังหาฯ ที่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมของผู้ซื้อและนักลงทุนทั่วไปอย่างในบราซิล แคนนาดา และฟิลิปปินส์ก็มีผู้ซื้อชาวสิงคโปร์ให้ความสนใจอยู่เป็นจำนวนมาก 

 

นายสตีฟ เมลูอิช ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร็อพเพอร์ตี้กูรู กล่าวว่า “อสังหาริมทรัพย์ยังคงเป็นการลงทุนที่น่าสนใจและมั่นคง ซึ่งนับจากนี้ไป เราคงจะได้เห็นผู้ซื้อและนักลงทุนชาวสิงคโปร์เข้าไปซื้ออสังหาฯ ในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น” 

 

ในขณะที่ราคาอสังหาฯ ในสิงคโปร์นั้นมีราคาสูงมาก การลงทุนในตลาดอสังหาฯ ต่างประเทศจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า แม้แต่ในทำเลอย่างออสเตรเลียและลอนดอน 

 

นายเมลูอิชยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “การเพิ่มขึ้นของราคาอสังหาฯ ในอัตราที่ลดลง ผนวกกับซัพพลายจำนวนมากที่กำลังจะเข้าสู่ตลาดและการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ในระดับที่ต่ำ แสดงให้เห็นว่าการลงทุนในตลาดอสังหาฯ สิงคโปร์ในตอนนี้ดูจะเสี่ยงกว่าการลงทุนในตลาดต่างประเทศ มาตรการที่ออกมาล่าสุดนี้น่าจะเป็นจุดพลิกผันที่สำคัญของตลาดอสังหาฯสิงคโปร์” 

 

ในปีที่ผ่านมา พร็อพเพอร์ตี้กูรูประสบความสำเร็จในการจัดงานแสดงอสังหาริมทรัพย์ทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และฮ่องกงเป็นจำนวนทั้งสิ้น 15 ครั้ง และในแต่ละครั้งมีดีเวลลอปเปอร์เข้าร่วมงานมากถึง 10 ราย รวมไปถึงมีช่วงของการบรรยายจากกูรูด้านอสังหาฯ ชั้นแนวหน้าของประเทศนั้นๆ และในสิงคโปร์เอง การจัดอีเวนท์โดยบริษัทในเครือของพร็อพเพอร์ตี้กูรูจากมาเลเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ และนานาชาติก็ได้รับความสนใจจากผู้คนในประเทศเป็นจำนวนมาก เช่นเดียวกับยอดขายภายในงานดังกล่าวที่ถือว่าประสบความสำเร็จเช่นกัน 

 

“ในสิงคโปร์ เราได้เห็นดีมานด์ที่มีอยู่มากทั้งจากชาวสิงคโปร์เองและชาวต่างชาติจากการจัดงานในแต่ละครั้งของเรา และเราคิดว่าความสนใจในอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศของชาวสิงคโปร์มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในตลาดประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงอย่างมาเลเซีย ไทย และฟิลิปปินส์ ที่มีการคาดการณ์ตัวเลข GDP ที่สูงและภาพรวมในเรื่องของราคาอสังหาฯ ที่ดี”  

 

“ไม่เฉพาะเพียงในสิงคโปร์เท่านั้น เรายังมองเห็นถึงดีมานด์จากผู้ซื้อทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ การซื้ออสังหาฯ ในต่างประเทศเริ่มกลายเป็นเทรนด์ที่น่าสนใจ และเราเชื่อว่าในช่วงปี 2556 นี้ เราจะได้เห็นดีเวลลอปเปอร์ต่างชาติเซ็ทกลุ่มเป้าหมายเป็นชาวสิงคโปร์ รวมไปถึงผู้ซื้อและนักลงทุนทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น”