Bloggang.com : betweentheframes : หนังแห่งปี 2009 ไม่ได้มีแค่ 10 เรื่อง

หนังแห่งปี 2009 ไม่ได้มีแค่ 10 เรื่อง

ต่อไปนี้คือหนังที่ปลื้มที่สุดในปี 2009 (มีมากกว่า 10 เรื่อง เพราะว่ากินกันไม่ลง) หนังทุกเรื่องในรายการนี้สามารถพูดได้เต็มปากว่านี่คือ "หนึ่งในหนังที่เยี่ยมที่สุดแห่งปี" เรียงลำดับตัวอักษรตามนี้

Bright Star

หลังจากได้ดูสมใจอยาก ก็เกิดอารมณ์อยากดูซ้ำอีกๆ ไปหลายๆๆๆ รอบ เพราะว่านี่อาจจะเป็นหนังรักที่ีเยี่ยมที่สุดแห่งทศวรรษนี้ (แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนที่ดูแล้วจะมีอารมณ์ร่วมไปซะหมด) สิ่งที่น่าทึ่งมากในหนังเรื่องนี้คือ การแสดงประเภทคู่ของทั้ง Abbie Cornish กับ Ben Whishaw ที่กระตุ้นต่อมอารมณ์อ่อนไหวแบบเกือบเอาเขื่อนแตก งดงามที่สุด แสนตราตรึง ironic แบบข้ามกาลเวลา รวมถึงนักแสดงคนอื่นๆ ก็เยี่ยมยอดไม่แพ้กัน งงมากกับสถาบันมอบรางวัลทั้งหลายที่แทบจะไม่เอ่ยถึงงานสตรีนิยมชิ้นโบว์แดงแห่งทศวรรษของแคมเปียนเลย นี่เป็นหนังที่ช่วยเตือนตัวเองว่าทำไมยังรักหนังตระกูล Drama Romance (เฉพาะเรื่องที่ทำได้ขั้น "ขอบายศรี" แบบเรื่องนี้) ตลอดมา และจะรักตลอดไป

Crazy Heart

Ryan Bingham เขียนเนื้อร้องเพลง The Weary Kind ของหนังเรื่องนี้ ฟังดูเรียบง่าย แต่ "ความหมายระหว่างบรรทัด" สุดแสนทรงพลัง ลงตัวกับบริบทหนังมากๆ (โดยเพาะท่อน Somehow this don't feel like home anymore กับ And this ain't no place for the weary kind) Jeff Bridges พิสูจน์ว่าการ "กลืนหาย" เป็นตัวละครที่สวมบทบาทเพื่อทำให้คนดูได้สัมผัสกับ "จิตวิญญาณ" ของตัวละครนั้นๆ ต้องใช้ศาสตร์และศิลป์แห่งการแสดงขั้นเทพขนาดไหน แต่ที่ทำให้ชอบเรื่องนี้มากเข้าไปอีก คือการแสดงอันไร้ที่ติของ Maggie Gyllenhaal ทั้งคู่รับส่งอารมณ์ในแต่ละฉากกันได้แบบมี "นวล" และ "นัย" ได้เยี่ยมยุทธ์เหลือเกิน บท Bad Blake นักร้องเพลงลูกทุ่งขี้เหล้าน่าจะส่งให้คว้ารางวัลใหญ่แห่งปีได้ไม่ยาก และถ้า Maggie Gyllenhaal จะขึ้นไปรับรางวัลออสการ์แทน Mo'Nique ก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ Robert Duvall กับ Colin Farrell ก็เยี่ยมยอดในบทสมทบ

An Education

หนังแจ้งเกิดของ Carey Mulligan ที่น่าจะอนาคตไกลแน่ๆ หลังจากเรื่องนี้ ชอบฉากที่เถียงกับ พ่อ ครู และครูใหญ่ ใส่สารแฝงเร้นแบบเนียนๆ ด้วยการใช้นวนิยาย เจน แอร์ และ การใช้มายาคติ "สวรรค์สูญ" จากอีเดน

Everlasting Moments

หนังภาพสวยๆ จากสวีเดน ซ่อนประเด็นสตรีนิยมได้อย่างชาญฉลาด ชอบเรื่องราวที่ดูเหมือนจะเรียบง่าย แต่รายละเอียดการเล่าเรื่องมีอะไรให้ค้นหามากมายจริงๆ

Fish Tank

หนังที่แสดงความจริงใจที่สุดในการเสนอชีวิตวัยรุ่นลอนดอนยุคปัจจุบัน คู่ไปกับเรื่องราวของความรักและการหลอกลวง หนังซ่อนความคิดลึกซึ้งของประสบการณ์เด็กผู้หญิงไว้ได้น่าคิดมาก การแสดงของ Katie Jarvis กับ Rebecca Griffiths เป็นตัวขับเคลื่อนหนังให้น่าสนใจตลอดเวลา หนังทำออกมาได้ซาบซึ้งจากความหม่นเศร้าของเรื่องได้ลงตัวแบบไม่มีความเฝืออยู่เลย เพราะการกำกับแนว social-realism ด้วยการใช้คู่ขนานตรงข้าม ของ Andrea Arnold

Goodbye Solo

หนังเรื่องที่สามของบาห์รานี ผู้กำกับที่นอกจากจะน่าจับตาแล้ว ยังไม่ก้าวพลาดเลยซักครั้งในทศวรรษนี้ ตั้งแต่เรื่อง Man Push Cart และ Chop Shop จนน่าจะเรียกได้ว่าบาห์รานีควรจะเป็น ผู้กำกับอเมริกันแห่งทศวรรษ

Grey Gardens

ตั้งแต่รูปแบบสารคดี มาที่ละครเพลงที่เข้าชิงรางวัลโทนี่ จนมาถึงภาพยนตร์ฉายทางโทรทัศน์ ต่อยอดสารสตรีนิยมที่หนักแน่น ด้วยบทเยี่ยมยุทธ์สำนัก Patricia Rozema งานชิ้นนี้จึงออกมาโดดเด่น สดใหม่ มีเอกภาพและเอกลักษณ์เฉพาะตัว

Inglourious Basterds

หนังสงครามประเภท fan fiction ที่ก๋ากั่น กล้าหาญ ปราดเปรื่อง และเฉียบคมที่สุดแห่งปี จัดวางคู่ตรงข้าม (นอกเหนือจากตัวละครสีสรรพ์จี๊ดจ๊าด) ได้อย่างเหมาะเจาะลงตัวและมีนัยสำคัญแบบไม่มั่วซั่ว สามารถทำให้หนังที่มีความซับซ้อน จริงจัง "ดูเหมือน" หนังบ้าๆ บอๆ ได้ด้วย นักแสดงทั้งประเภทเดี่ยว (โดยเฉพาะ Chrisophe Waltz) และกลุ่มสามารถทำหน้าที่ของตัวเองตามที่ศักยภาพของบทเรียกร้องได้สุดยอด นอกจากจะดูสนุกแล้ว ยังคงรักษาจุดยืนสตรีนิยมได้ไม่แพ้ Kill Bill และ Deathproof

The Hurt Locker

เหมือนกับว่าหนังเรื่องนี้ไม่ได้วิพากษ์สงครามอิรักแต่อย่างใด แต่ถ้าพินิจพิเคราะห์ให้ดีในหลายๆ ฉาก ส่อนัย "หลอกด่า" สงครามอิรักได้อย่างแนบนียน

Los Abrazos Rotos

งานแพรวพราวเรื่องล่าสุดของ Almodovar เล่นกับสีได้อย่างมีนัยสำคัญ (โดยเฉพาะสีแดง) Cruz ยังเล่นได้น่าทึ่งอีกครั้ง แต่ได้เข้าชิงออสการ์จากเรื่อง Nine ไม่ใช่เรื่องนี้ มันเป็นไปได้ยังไง แต่ก็นั่นแหละ ออสการ์มันเป็นอย่างนี้แหละ

Ponyo

งานแอนิเมชั่นชั้นครูของมิยาซากิ งดงามด้วยมนต์เสน่ห์ที่ลุ่มลึก เรื่องราวของเด็ก 5 ขวบกับปลาทองที่กลายมาเป็นเพื่อน ผจญภัยไปด้วยกัน ชอบฉากเปิดกับฉากที่อยู่ในเรือมาก

Precious

หนังแห่งปีอีกเรื่องที่พูดถึง การดิ้นรนสุดชีวิต เพื่อตระหนักถึงคุณค่าของตัวเอง ผู้กำกับ Lee Daniels กลับมาท็อปฟอร์มอีกครั้งหลังจากกำกับหนังที่ไม่ได้ความอย่าง Shadowboxer ด้วยการไม่เรียกร้องให้คนดูมาสงสาร เพรเชียส แต่ท้าทายให้มาทำความเข้าใจชีวิตมากกว่า กับทีมนักแสดงที่ตีบทกระจุย โดยเฉพาะ Mo'Nique ฉากจบของหนังเรื่องนี้ ช่างทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง

A Serious Man

หนังตลกร้ายที่ร้ายที่สุดแห่งปี เล่าเรื่องเปรียบเทียบจาก Book of Job (ที่เป็นภาษาฮิบรู) เฉือนแง่มุม ศาสนา ครอบครัว และ จริยศาสตร์ โดยเฉพาะแง่มุมของความไร้สาระในการพยายามทำความเข้าใจพระประสงค์ของพระเจ้า ได้อย่างแยบคายและลุ่มลึก คนที่โดดเด่นเป็นพิเศษคือ Michael Stuhlbarg นี่คืองานคลาสสิกอีกชิ้นของพี่น้องเคิน นับจาก No Country for Old Men

Sin Nombre

มีหลายฉากที่ถ่ายภาพสวยมาก ทั้งๆ ที่เป้นหนังสมจริงเกี่ยวกับความยากลำบากของคนอพยพยเข้าสหรัฐอเมริกา นอกจากภาพจะสวยแล้วยังสามารถเล่าเรื่องได้สุดยอด

La teta asustada

หนังวาทกรรมสตรีนิยมจากเปรู คว้ารางวัล Golden Bear กับ FIPRESCI Prize ที่ Berlin Film Festival หลุดเข้าไปชิงออสการ์สาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศ นักแสดงหญิงมีพลังบนจอทุกครั้งที่ปรากฏตัว

35 Shots of Rum

หนังที่โครงเรื่องไม่เป็นไปตามขนบ แต่ทำความเข้าใจกับ "อารมณ์รัก" ของมนุษย์ได้เยี่ยมที่สุดในรอบปี หนังพูดน้อย แต่พูดขึ้นมาเมื่อไหร่เป็น "ได้มาก" ทุกครั้งไป Descas มีพลังทุกครั้งที่ปรากฏตัว ทั้งตอนที่พูดและไม่พูด ชอบฉากที่ พูดคำคมทั้งที่เมาต่อหน้าเพื่อนๆ หนังเยี่ยมยอดเพราะไม่ได้มีวาระแอบแฝงใดๆ ที่จะพยายามเทศนาคนดู แต่ทำให้ได้ตระหนักสาระสำคัญมากมาย

The White Ribbon

เหตุฆาตกรรม โรงนาไฟไหม้ และเหตุการณ์อื่นๆ ในหมู่บ้านเยอรมัน ช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ใครเป็นคนก่อเรื่องดูจะฟันธงไม่ได้ แต่นี่ไม่ใช่หนังพุ่งประเด็นว่าใครเป็นคนทำ ความชั่วร้ายนั้นดูจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้โดยไม่ต้องอาศัยที่มาที่ไปอย่างมีเหตุผล หนังพยายามจะบอกเราว่าความกลัวคือสาเหตุสำคัญที่ทำให้เราสูญเสียเสรีภาพไป

Up

แอนิเมชั่นที่มีดีมากกว่าสีสวยเรื่องนี้ น่าจะเรียกน้ำตาจากคนดูใจแข็งได้มากที่สุดแห่งปี ด้วยบทที่แข็งแรง ลุ่มลึกกับการแฝงนัย "สูญเสียการดำเนินชีวิตเพื่อให้ได้ชีวิตของตัวเองมา" และ "การปล่อยวาง" เพื่อหาความสุขกับปัจจุบัน

Up in the Air

หนังที่ออกมาได้ "ถูกที่ถูกเวลา" ที่สุด พิสูจน์ว่าหนังที่ดูสนุกไม่จำเป็นต้องเป็นหนังที่หลีกหนี ด้วยการแสดงที่น่าทึ่งของนักแสดงทุกคน (Anna Kendrick ในเรื่องนี้มีเสน่ห์กว่าเรื่อง Twilight ซะอีก แต่ที่โดดเด้งกว่าใครในเรื่องนี้คือ Vera Farmiga) แถมยังมีบทที่ใส่รายละเอียดของเรื่องและตัวละครอย่างชาญฉลาด กำกับได้ลงตัว แสดงว่า Thank You for Smoking กับ Juno ที่ทำออกมาได้เจ๋งขนาดนั้นนี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

Create Date : 28 มกราคม 2553

Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2553 3:30:12 น.

21 comments

Counter : 1286 Pageviews.

- Bright Star + The White Ribbon + An Education อยากดูมากๆ
- Crazy Heart เพลงเพราะ
- The Hurt Locker ดูไปได้นิดเดียว -*-
- Inglourious Basterds อยากดูโค่ยๆ
- Everlasting Moments เคยได้ยินเหมือนกัน
- Grey Gardens อยากดูๆ
- A Serious Man กลัวดูไม่รู้เรื่อง
- Sin Nombre อยากดู
- Up เคยดูเพียงเรื่องเดียวในนี้

โดย: McMurphy

วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:5:22:42 น.

โดย: veerar

วันที่: 3 มีนาคม 2553 เวลา:0:13:36 น.

สุขสันต์วันเกิดครับ ขอให้มีสุขภาพร่างกายที่เเข็งเเรง คิดสิ่งใดก็ขอให้สมปรารถนา ร่ำรวยเงินทองเเละมีความสุขยิ่งๆขึ้นไปทุกวันครับ

โดย: Don't try this at home.

วันที่: 3 มีนาคม 2553 เวลา:0:19:52 น.

สุขสันต์วันเกิด ขอให้พบกับสิ่งดีๆ ในชีวิตนะค่ะ

โดย: brackleyvee

วันที่: 3 มีนาคม 2553 เวลา:2:53:42 น.

สุขสันต์วันคล้ายวันเกิดสำหรับคนเกิดวันเดียวกันนะคะ
ขอให้มีความสุข สมหวัง มีพลังในการต่อสู้สิ่งต่างๆ อย่าเจ็บ อย่าจน อย่ามีหนี้ นะคะ

โดย: Thatcha70

วันที่: 3 มีนาคม 2553 เวลา:3:15:53 น.

โดย: debry

วันที่: 3 มีนาคม 2553 เวลา:5:10:54 น.

โดย: กุหลาบสีส้ม

วันที่: 3 มีนาคม 2553 เวลา:7:59:35 น.

สุขสันต์วันเกิดค่ะ

โดย: I_sabai

วันที่: 3 มีนาคม 2553 เวลา:8:16:49 น.

Happy Birthday นะคะ

มีความสุขกับวันของเราเนอะ

โดย: ลั่นทมขาว

วันที่: 3 มีนาคม 2553 เวลา:8:52:28 น.

โดย: ooyporn

วันที่: 3 มีนาคม 2553 เวลา:8:55:45 น.

โดย: TREE AND LOVE

วันที่: 3 มีนาคม 2553 เวลา:9:40:24 น.

ป้าเชิญนางฟ้า...มาอวยพรวันเกิดค่ะ
ขอให้พบแต่สิ่งดีๆ คนที่ดีมีจิตใจดี
และเหตุการณ์ดีๆรวมทั้ง...
ความรักที่ดีที่สุดในชีวิตนะคะ
หวังว่าคงจะไม่ช้าไปนะคะ
*********
******
*****
***
*