"เศรษฐกิจพอเพียงก็เลี้ยงตัวได้"
|
||||||||||||||
ผ้าเช็ดหน้า ผ้าชวนฝัน ช่วงใกล้สอบ ผมกับเพื่อนมักจะรวมกลุ่มกันติวข้อสอบโดยใช้สถานที่ของบ้านเพื่อนบ้าง หอพักของเพื่อนบ้าง บ้านผมเองบ้าง และบางทีก็มาที่สถาบันในช่วงวันหยุด เมื่อวันอาทิตย์ก่อนนี้ พวกเราห้าคนไปติวกันที่บ้านเพื่อนแถวสามแยกไฟฉาย ตอนเย็นผมก็นั่งรถเมล์กลับบ้าน พอขึ้นบนรถเมล์ ผมก็พบผ้าเช็ดหน้าสีชมพูอ่อน ลายดอกไม้เล็ก ๆ จาง ๆ พับทบอย่างดีวางอยู่บนเบาะที่นั่ง ผมหยิบขึ้นมาดู เป็นผ้าลินินมีกลิ่นหอม และยังสะอาดสอ้าน ผมคิดว่าคงเป็นของผู้โดยสารคนใดคนหนึ่งที่ทำตกเอาไว้ วันรุ่งขึ้นเป็นวันจันทร์ ผมจึงเอาผ้าไปให้เพื่อนดู เพื่อนทั้งกลุ่มพินิจพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้วก็ฟันธงว่าต้องเป็นของผู้หญิงแน่ ๆ เพราะสีชมพู ลายน่ารัก กลิ่นหอมอ่อน ๆ เหมือนน้ำหอม เพื่อนอีกคนแนะนำว่าให้เอาไปซักเสียก่อน ไม่รู้ว่ามีเชื้อโรคอะไรติดมาบ้างหรือเปล่า แค่ผ้าเช็ดหน้าผืนเดียว ทำไมผมจึงคิดเรื่อยเปื่อยไปไกลก็ไม่รู้ ผมเคยอ่านหนังสือเขาว่าผู้หญิงมักจะทำผ้าเช็ดหน้าตกกลางทางเป็นการอ่อยเหยื่อ แล้วผู้ชายเก็บได้นำมาคืน ทำให้รู้จักกัน ได้สร้างสัมพันธ์กันต่อไป แต่ผ้าเช็ดหน้าผืนนี้ เจ้าของเขาจะอ่อยเหยื่อกับใครล่ะ เพราะคนขึ้นรถเมล์มีทุกเพศ ทุกวัย จนไม่สามารถเจาะจงผู้ใดได้ ผ้าเช็ดหน้านี้ ภาษาอังกฤษใช้ว่า handkerchief ผมอดสงสัยไม่ได้ว่า ทำไมใช้คำว่า hand ที่แปลว่ามือ หรือว่าผ้าเช็ดหน้านี้เดิมทีคือคือผ้าเช็ดมือมาก่อน ประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 5 เขาเล่าว่ามีกลาสีเรือชาวฝรั่งเศสกลุ่มหนึ่งเดินทางกลับจากดินแดนทางตะวันออก เขาได้นำผ้าลินินน้ำหนักเบาผืนใหญ่กลับมาด้วย เพราะเขาเห็นชาวนาของจีนใช้ผ้านี้คลุมศีรษะกันแดด ผ้านี้มีน้ำหนักเบา ผู้หญิงชาวฝรั่งเศสซึ่งชอบความสวยงามอยู่แล้วจึงนำไปดัดแปลงเป็นผ้าคลุมศีรษะ แล้วเรียกผ้านี้ว่า couvrechef ซึ่งแปลว่า การคลุมศีรษะ แล้วการแต่งกายโดยมีผ้าคลุมศีรษะนี้ก็แพร่กระจายไปถึงคนอังกฤษ แต่คนอังกฤษเรียกผ้านี้ว่า kerchief และจะคลุมศีรษะเฉพาะเมื่ออยู่กลางแจ้ง ถ้าอยู่ในร่มจะถือติดมือไว้เพื่อความโก้เก๋ ต่อมาผ้าชนิดนี้จึงเรียกชื่อใหม่ว่า hand kerchief ซึ่งยังไม่เป็น handkerchief อย่างในปัจจุบัน น่าแปลกใจมาก ๆ ว่า ในประเทศจีนนั้น ผ้าคลุมศีรษะจะใช้กับหญิงชาวนา แต่ในทวีปยุโรป ผ้าคลุมศีรษะกลับใช้กับผู้หญิงในสังคมชั้นสูง แต่เป็นการใช้เพื่อแฟชั่นมากกว่าจะใช้กันแดดจริง ๆ เพราะผู้หญิงต่างก็ใช้ร่มกันแดดกันอยู่แล้ว ในยุคต่อ ๆ มา คนที่สั่งน้ำมูกนิยมใช้แขนเสื้อเช็ด ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่สุภาพ ถือว่าไม่มีวัฒนธรรม ด้วยเหตุนี้คนจึงใช้ผ้าซับเหงื่อ ที่เรียกว่า sudarium ซึ่งเป็นผ้าที่มีอยู่แล้วมาใช้สั่งน้ำมูก แล้วก็เอาผ้านี้ไปซับเหงื่อและเช็ดหน้าตาอีก ซึ่งทำให้เลอะเทอะและน่ารังเกียจแก่บุคคลทั่วไป กาลต่อมาจึงมีคนคิดตัดผ้าให้เหลือชิ้นเล็ก ๆ สำหรับสั่งน้ำมูก แต่บางคนไม่มีน้ำมูกให้สั่งก็เลยนำไปเช็ดหน้าตา จึงเรียกผ้านี้ว่า ผ้าเช็ดหน้า ส่วนภาษาอังกฤษยังคงใช้ handkerchief ตามที่เคยเรียก แต่เขียน hand กับ chief ให้ติดกันเพื่อความสะดวกเท่านั้น ผ้าเช็ดหน้าที่ผมเก็บได้ ผมนำไปซักสองครั้งแล้ว กลิ่นหอมอ่อน ๆ นั้นก็ยังไม่จางหายไป ใจผมกระหวัดไปถึงเจ้าของผ้า เธอเป็นใครกันหนอ แล้วจะรู้ไหมว่าเธอทำผ้าตกบนรถเมล์ ผมเอาผ้านั้นวางไว้บนโต๊ะเขียนหนังสือที่บ้าน แล้วก็มองมันทุกวันที่อ่านหนังสือ ให้ผ้าผืนน้อยเป็นกำลังใจให้ผม เมื่อไม่กี่วันมานี้ ผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นหายไป ปรากฏว่าน้องสาวของผมเอาไปใช้ ผมโวยกับเธอเสียงดังว่าเธอทำได้ยังไง เธอบอกว่าผ้าสีสวยดีขอยืมไปใช้ชั่วคาว น้องสาวคนเดียวทำไมผมจะให้ไม่ได้เล่า แล้วเมื่อสองสามวันนี้ แม่น้องสาวตัวดีก็มาบอกผมว่าเพื่อนร่วมห้องชั้น ม.5 ของเธอมีผ้าเช็ดหน้าที่สีและลายเดียวกับของผมหลายผืน เพื่อนคนนี้เคยมาที่บ้าน ผมเองก็รู้จัก "หน้าหมวย ๆ ใส่เหล็กดัดฟัน ผมชี้ ๆ น่ะเหรอ" ผมถามน้องสาวเมื่อนึกหน้าเพื่อนของเธอได้ น้องสาวผมพยักหน้า ผมสะดุดใจขึ้นมา เลยถามว่าแล้วบ้านเธอคนนี้อยู่ที่ไหน น้องสาวบอกว่าอยู่สามแยกไฟฉาย โอย...ผมอยากจะเป็นลม รู้สึกเหมือนว่าสวรรค์ลอยห่างไกลออกไป แต่นรกหล่นตูม...ลงมาตรงหน้า
ไม่ได้ออกครับ เมาคลื่นตายเลยครับ ผมประจำการอยู่บนฝั่ง
โดย: BaLL182
 วันที่: 8 กรกฎาคม 2549 เวลา:14:41:31 น. อะไรจะขนาดนั้น จะเป็นนรกหรือสวรรค์ดีครับพี่บาส สำหรับคนญี่ปุ่นก็ได้รับวัฒนธรรมผ้าเช็ดหน้านี้มาจากตะวันตกเช่นเดียวกัน ซึ่งจะเขียนว่า ハンカチอ่านว่า hankachi ครับ โดย: ดนย์
วันที่: 9 กรกฎาคม 2549 เวลา:13:34:09 น.ที่ผมถามว่า มีใครรู้จักเธอ? .เธอชื่อ สเตฟฟี่ กราฟครับ รายละเอียดพร้อมรูปเธอ มีให้ดูพร้อมแล้วที่Blogของผมครับ ขอบคุณนะครับที่ไปมาหาสู่กันเสมอ ณ เวลานี้ ขอเชียร์เทนนิส แป๊บนึงครับ (บอลโลก รอเดี๋ยว) เฟดเดอเรอร์ เฟดเดอเรอร์ เชียร์ เฟดเดอเรอร์ ครับ ตั้งแต่รอบแรก ผ่านมาจนถึงรอบชิงเฟดเดอเรอร์ ยังไม่เคยเสียเซ็ทให้ใครเลย เฟดเดอเรอร์ ในวัย 24 เขาไม่ยอมบอกว่า มั่นใจแค่ไหน? เพียงแต่บอกว่า คอร์ทแบบนี้ ผมค่อนข้างถนัดกว่าคอร์ทดิน. แต่ว่าก็ว่าเถอะ สาวๆและหนุ่มวัยสาว มีสิทธ์กรี๊ดหนุ่มวัย 19 ย่าง 20 ที่กำลัง Hot เหลือหลาย สู้ไม่ถอย แรงไม่มีวันหมด คือ เอกลักษณ์ของเขา เจ้าหนุ่มกางเกงสามส่วน เสื้อไร้แขน นาดาล หรือ ราฟา ของคุณแป๋วแหวว โดย: yyswim
วันที่: 9 กรกฎาคม 2549 เวลา:21:15:54 น. เล่าซะเห็นภาพพจน์เลย ผ้าเช็ดหน้าผืนนึง จินตนาการกว้างไกล โรเมนติกมากเลยครับ โดย: ต่อตระกูล
วันที่: 10 กรกฎาคม 2549 เวลา:3:05:41 น.5555 ผมก็เคยมีประสบการณ์คล้ายๆ กันนี้แหละ ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมบล็อกนะครับ ท่าทางคุณอาจจะเป็นผู้โชคดีล่ะครับ เดี๋ยวยังไงจะมาตามตัวถึงบล็อกเลยครับ (น่ากลัวไปไหม? 55 กลัวไม่มีใครเอาของรางวัลอ่ะ)
โดย: Due_n
วันที่: 10 กรกฎาคม 2549 เวลา:12:29:09 น.คุณ basbas น่าจะเป็นคนเล่าเรื่องผ้าเช็ดหน้าได้ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยอ่านมาเลยนะครับนี่ เข้าใจหาข้อมูลมาประกอบ แล้วโยงเข้าเรื่องใกล้ตัว... แล้วจะแวะมาอ่านเรื่อย ๆ เมื่อมีเวลาครับ
โดย: piangdin
วันที่: 11 กรกฎาคม 2549 เวลา:5:51:22 น.อ่า..เค้าไมสวยหรือไงคะ ถึงกลายเป็นนรกหล่นตูมซะงั้นอ่ะ
 แต่พูดถึงว่า เพื่อนน้องก็ดีนะคะ สานสัมพันธ์กันง่ายหน่อย อิอิ  โดย: LaZyDaizY
วันที่: 11 กรกฎาคม 2549 เวลา:9:39:41 น.# 01  # 02  # 03  โดย: yyswim
วันที่: 11 กรกฎาคม 2549 เวลา:10:49:29 น.ผ้าเช็ดหน้าสีขาวสามารถใช้ได้กับทุกเทศกาล ทุกสถานที่ จะไปเรียน จะไปออกงานกลางคืน หรือจะไปงานศพ ก็ใช้ได้ # 04  # 05  # 06  # 07  # 08  # 09  # 10  # 11  # 12  # 13  # 14  # 15  # 16  # 17  # 18  # 19  # 20  # 21  # 22  # 23  # 24  # 25  # 26  # 27  โดย: yyswim
วันที่: 11 กรกฎาคม 2549 เวลา:10:54:08 น.โลกมันกลมดีนะคะ...
เรื่องการเดินทางของผ้าเช็ดหน้า 1 ผืน...ย้อนไปถึงต้นกำเนิดมาจนถึงการตามจนเจอเจ้าของเนี่ย...เล่าได้เป็นเรื่องเป็นราวดีจังค่ะ โดย: หวัน (หวันยิหวา
) วันที่: 11 กรกฎาคม 2549 เวลา:11:48:16 น.เรื่องบางเรื่องก็เป็นเรื่องที่ไม่น่าค้นหาคำตอบนะ ปล่อยให้จินตนาการมันพาไปแล้วจะรู้สึกว่ามีความสุขกว่าจะรับรู้เรื่องจริง 5555
โดย: mymamee
วันที่: 11 กรกฎาคม 2549 เวลา:14:23:44 น.ขอบคุณครับ ที่แวะไปเยี่ยมบ้าน พอดีช่วงนี้ติดหนังแผ่นเกาหลีอ่ะ เลยไม่ค่อยได้ออนไลน์ คงหากันเจอแล้วนะครับ ชอบบล๊อคคุณมากให้ความรู้ดี
โดย: Walkerahead (Walkerahead
) วันที่: 11 กรกฎาคม 2549 เวลา:19:47:26 น.อิฉาจัง ยังดีนะเนี่ยที่เก็บได้แล้วเจอเจ้าตัว อิอิ ที่น่ารัก
ช่วยเก็บผ้าเช็ดหน้าของฉัน หน่อยได้มั้ย เพราะฉันทำมันตก ฉันกลัวใครคว้าไป.....  โดย: C'est Si Bon (C'est Si Bon
) วันที่: 11 กรกฎาคม 2549 เวลา:23:21:25 น......ผ้าเช้ดหน้า ผืนน้อย.......
.... น่ารักจังเลยคะ ความโรแมนติก ที่แฝงไปด้วยความรู้ อิอิอิอิ.... ... ..... .........   โดย: *-*topiw*-*
วันที่: 12 กรกฎาคม 2549 เวลา:19:35:51 น.แวะมาเยี่ยมอีกครั้ง เอ่อ ความเห็นแรก ผมพิมพ์คำว่าโอกาศผิด ผิดได้ไงเนี่ย..ขอโทษทีนะครับ
โดย: bite25
วันที่: 13 กรกฎาคม 2549 เวลา:9:49:30 น.คุณเบียร์ครับ เฉลยว่า เธอไม่เป็นอย่างที่ผมหวังไว้น่ะครับ แฮ่ะ ๆ ๆ...มันตรงกันข้ามเลย
โดย: basbas
วันที่: 15 กรกฎาคม 2549 เวลา:11:20:22 น.เกือบหวานๆๆ อิอิ หักมุมไปหน่อย คิคิ
ได้ความรู้เรื่องผ้าเช็ดหน้าไปด้วย ภาพผ้าเช็ดหน้าที่ปักลายดอกไม้มีระบายที่ขอบสวยจัง แต่ไม่เคยพกผ้าเช็ดหน้าเลย นอกจากผ้าขนหนูเช็ดผมแล้วไม่มีผ้าเช็ดหน้าเลยเรา ที่ไม่อยากพกเพราะกลัวหล่นแล้วคนเก็บได้ ฮ่าๆๆ (กลัวเอาไปฝันร้าย อิอิ)  โดย: กวิสรา
วันที่: 16 กรกฎาคม 2549 เวลา:15:12:53 น. |
basbas
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?] สนใจเรื่องทั่วไป ใจชอบเล่นกีฬา แต่เรียนไฟฟ้าครับ All Blog
Friends Blog
Link MY VIP Friend           |
|||||||||||||
| Pantip.com
| PantipMarket.com
| Pantown.com
| © 2004 BlogGang.com
allrights reserved.
|
||||||||||||||
ขอบคุณคุณบาสที่เอาที่มาอันน่าสนใจมาแทรกไว้ในเรื่องได้แบบน่ารักลงตัว
ว่าแล้วผมถือโอศลองเปิดดิคดูคำว่า handkerchief พบว่าเรียกแบบinformalสั้นๆว่า hanky หรือ hankie ก็ได้ครับ