~...คอยถักทอความฝัน...และรอจนกว่าวันที่ฝันก้าวออกมาเป็นความจริง...~
<<
มกราคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
25 มกราคม 2551

ฝากหัวใจไว้ที่กลางภู ภาค2...บทที่3









“เฮ๊ย...ตุ่มน้อย...ทางนี้ๆ” เสียงเรียกที่ดังมาแต่ไกลนั้นทำเอาเท้าที่กำลังก้าวขึ้นบันไดตึกคณะบริหารเป็นต้องหยุดชะงักก่อนจะเหลียวมองไปรอบๆ เพื่อหาที่มาของต้นเสียงนั้น

ร่างในชุดนักศึกษาสีขาวสะอาดตากับกระโปรงทรงเอที่ยาวแค่พอปิดเข่านั้นดูเดินลำบากเพราะรองเท้าคัทชูส้นเตี้ยสีขาวนวลตาที่เจ้าตัวกำลังสวมใส่อยู่นั่นเอง

ตุ่มน้อย...แหนมเนือง...หมูน้อย...นี่คือฉายาที่บรรดาเพื่อนๆในกลุ่มต่างพร้อมใจสมัครสมานเรียกเธอได้ทุกเมื่อเชื่อวัน ฉายาแรก...ได้มาจากไอ้จ๊อบเพื่อนชายปากมอมที่เรียกเธอตั้งแต่เจอหน้ากันครั้งแรกในวันเฟรชชี่ ...ฉายาที่สองที่ไม่ค่อยนิยมเอ่ยจากปากเพื่อนๆ กันสักเท่าไหร่นี้เกิดขึ้นเมื่อตอนเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันเกิดของเธอเอง และคงเป็นโชคร้ายของเธอที่เหล่าเพื่อนๆ ต่างพากันกรูเข้าร้านอาหารเวียตนาม ฉายานี้เลยบังเกิดขึ้นโดยความไม่ตั้งใจ หมูน้อย...ชื่อนี้เป็นชื่อที่เธอโกรธและงอนมากๆในตอนแรกที่มีคนเรียกขาน แน่ล่ะว่ามันก็ต้องมาจากไอ้ป้ายชื่อของเธอที่เขียนติดไว้ว่า “กุณ” ซึ่งมาจาก กุณฑิรา ชื่อจริงของเธอ และก็ไอ้จ๊อบอีกตามเคยที่เป็นผู้ตั้งฉายานี้ เพื่อนๆในกลุ่มอีกห้าหกคนที่เหลือเลยพากันเรียกไปด้วย และที่โหดร้ายสำหรับผู้หญิงตัวค่อนข้างท้วมแบบเธอนั่นก็คือ ทั้งเหล่าเพื่อนร่วมคณะ รุ่นน้อง รุ่นพี่ ต่างพากันเรียกชื่อนี้ตามกันไปเสียหมด คิดดูสิ...ว่าเธอเจอมามากมายขนาดไหน...

กุณฑิราวางหนังสือเรียนเล่มหนาลงบนโต๊ะก่อนจะปลดกระเป๋าผ้าใบโตลายช้างแมมมอธแล้ววางทับกับกองหนังสือนั่นอีกที

“ทำไมวันนี้ดูแกเดินแปลกๆ อ่ะตุ่มน้อย” จ๊อบถามขึ้นอย่างเป็นห่วง

“ก็จะเพราะอะไรได้ล่ะ ถ้าไม่ใช่ไอ้รองเท้าระยำคู่นี้เนี่ย” กุณฑิรายกเท้าให้เพื่อนดู ก่อนจะหย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆเพื่อนสาวอีกคน

“โอ้โห...แกไปถอยรองเท้าใหม่มาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย” ออยเพื่อนหุ่นนางแบบถามขึ้น

“ที่ตลาดนัดเมื่อวันอังคารอ่ะสิ เห็นสวยดี ถูกใจอ่ะ เลยซื้อมา ที่ไหนได้ทรยศกันซะงั้น รู้ดีงี้ไม่ซื้อมาให้เปลืองตังค์หรอกขอบอก...” หญิงสาวพูดอย่างหัวเสีย พลางถอดรองเท้าออกก่อนจะวางเท้าทับกับรองเท้าเอาไว้เฉยๆ ก่อนที่สายตาจะเหลือบไปเห็นขนมลูกชุบในกล่องพลาสติกที่รองก้นไว้ด้วยใบตองวางอยู่บนโต๊ะ

“ว้าว...ใครซื้อมาเนี่ย?” พูดยังไม่จบคำถามดีสาวเจ้าก็ยื่นมือไปหยิบลูกชุบที่เป็นลูกมะละกอนั่นเข้าปาก แล้วก็ตามด้วย ส้ม มังคุด ชมพู พริก แอบเปิ้ล ตามลงไปอย่างไม่นับชิ้นกันเลยทีเดียว

“โห...ไม่เกินห้านาที เกลี้ยงเลย แล้วแบบนี้เมื่อไหร่จะหายเป็นตุ่มน้อยซะทีล่ะกุณ” ปอ หญิงสาวคนเดียวที่ยอมเรียกชื่อเล่นจริงๆของเธอเอ่ยออกมาอย่างขำๆ

“แหม...ก็เราอยู่ในวัยเจริญเติบโต ต้องกินเยอะๆไว้สิ เดี๋ยวสารอาหารไปหล่อเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ อิอิ” กุณฑิราแก้ตัวอย่างถูๆไถๆ ก่อนจะส่งยิ้มแหยที่เจ้าตัวมักทำบ่อยๆ ส่งไปให้อีกครั้ง

“โห...นี่แกจะเอาให้โตสักแค่ไหนเชียวตุ่มน้อย แค่นี้ยังไม่พอใช่ปะ?” ออยเอ่ยแซวก่อนที่คนปากมอมประจำกลุ่มจะเริ่มร้องเพลงที่แสนจะเสียดแทงหัวใจดวงน้อยๆ ของเธอ

“ตุ่มใส่น้ำ...ใส่น้ำให้เต็มตุ่ม ใส่น้ำให้เต็มตุ่ม ตุ่มตะลุ่มตุ่มโป๊ะ โป๊ะปะโล๊ะโป๊ะตุ่ม ฮิ้ววววววว” จ๊อบเริ่มร้องและเริ่มลุกขึ้นเต้นท่าตุ่มน้ำที่จำได้จากวันเฟรชชี่ซึ่งนั่นก็เรียกเสียงปรบมือและเสียงหัวเราะจากสมาชิกในกลุ่มที่เหลือได้เป็นอย่างดี

“นั่นดิ...เดี๋ยวถ้าแกยัดเข้าปากไปมากๆ มันก็จะกลายร่างจากตุ่มน้อยเป็น...ช้างน้อยไม่รู้ด้วยนะ” แอ๊ปเพื่อนสาวคนสวยเอ่ยขึ้นอย่างขำๆ

“พอเลยๆๆๆ” กุณฑิรากระแทกกล่องพลาสติกที่ตอนนี้เหลือแค่ใบตองรองก้นลงกับโต๊ะอย่างแรง ก่อนจะส่งสายตาอาฆาตให้กับเพื่อนๆทุกคน

“เมื่อไหร่พวกแกจะเลิกซ้ำเติมฉันสักทีวะ ความจริงฉันก็ไม่ได้อ้วนขนาดนั้นซะหน่อย ก็แค่...มีไขมันสะสมบ้างก็เท่านั้นเองอ่ะ” หญิงสาวพูดตามความจริง “พวกแกอย่าเอาหุ่นผอมแห้งแรงน้อยของพวกแกมาเป็นมาตรฐานการวัดกับฉันจะได้มั้ย ขอเลยๆ ฉันน่ะสูงร้อยหกสิบเอ็ดน้ำหนักห้าสิบ กำลังดีเลยนะถึงจะเกินมาตรฐานมานิดๆหน่อยๆ ก็เหอะ ลมพัดก็ไม่ปลิว ไม่ใช่ผอมกว่ากุ้งแห้งกิโลละสามร้อยอย่างพวกแกอ่ะ” หญิงสาวก็ยังคงพูดๆๆๆ ไปอย่างอัดอั้น และดูเหมือนว่าจะหมดความอดทนแล้วด้วย

“พวกแก...แก...แก...แก....แล้วก็แก...” กุณฑิรายกมือขาวๆ ชี้หน้าเพื่อนเรียงตัวก่อนจะพูดเสียงดังฟังชัดที่พาให้เพื่อนๆ ถึงกับหัวเราะค้างยกมือกุมท้องกันไม่พอว่า

“คอยดูนะ...ไอ้ตุ่มน้อยอย่างฉันจะผอมให้ดู!!!!”




เสียงกีตาร์ใสๆ พร้อมกับเสียงร้องที่แสนจะคุ้นหูที่ดังแว่วๆ ลอยมากับสายลมนั้นทำให้ร่างที่ดูหนากว่าคนอื่นๆ ในกลุ่มเพื่อนต้องหยุดก้าวเท้าที่กำลังจะก้าวขึ้นบันไดตึกนั้นลง ก่อนจะหมุนตัวปรับสายตาดูไปรอบๆ บริเวณ เพื่อหาที่มาของเสียงนั้น และดูเหมือนว่าการหยุดชะงักของเธอคราวนี้จะได้ผล เพราะเธอหาที่มาของต้นเสียงนั้นเจอพอดี

ร่างสูงเด่นพ่วงด้วยหน้าตาหล่อเหลานั้นกำลังนั่งเล่นกีตาร์คู่กายพลางขับขานเสียงร้องให้ไปตามท่วงทำนองอย่าไพเราะ และเธอคงดีใจกว่าที่เป็นอยู่นี้ถ้าหากรอบๆ กายเขาเป็นเพื่อนชายที่เธอมักเห็นว่าไปไหนมาไหนด้วยกันประจำมากกว่าที่จะเป็นหญิงสาวหน้าตาจิ้มลิ้มคนนี้

“เพราะจังเลยค่ะพี่บอม” เสียงหวานแหววที่ฟังดูแล้วเหมือนกับว่าเจ้าตัวพยายามดัดให้ฟังดูไพเราะนั้นเอ่ยชมคนข้างกายที่เพิ่งร้องเพลงจบลง ก่อนจะยิ้มหวานให้เขาเป็นการตบท้าย และคนที่ถูกชมนั้นก็กลับส่งยิ้มตอบให้เสียด้วย ซึ่งหากถ้าเขามองเลยมาสักนิดก็คงจะเห็นเธอยืนอยู่ ณ ที่ตรงนี้แล้ว แต่คนๆ นั้นก็ไม่เลือกที่จะทำ

กุณฑิราหันกลับไปบอกเพื่อนๆ ที่กำลังยืนรอเธออยู่ด้วยประโยคสั้นๆ ว่า

“เดี๋ยวฉันมานะ ขึ้นไปก่อนได้เลย เดี๋ยวตามไป...”

พูดจบร่างที่ดูท้วมนิดๆ ก็รีบเดินจ้ำเข้าไปตรงที่ชายหนุ่มหญิงสาวคู่นั้นนั่งอยู่ทันที โดยไม่สนใจว่าเพื่อนจะเรียกหรือรั้งไว้เลยแม้แต่น้อย

“เพราะจริงๆ ด้วยค่ะพี่บอม” กุณฑิรานั่งลงตรงเก้าอี้ข้างๆ เขาก่อนจะตวัดสายตาไปมองหญิงอีกคนที่ดูแล้วมีรูปลักษณ์ที่ดีกว่าเธอทุกอย่างนั้นอย่างไม่พอใจ ราวกับว่า หล่อนจะมาแย่งของรักของเธอไป เสียนี่

กรพัฒน์เองก็ตกใจไม่น้อยเมื่อจู่ๆ ร่างคุ้นตาที่เจ้าตัวมักพามาให้เขาเห็นบ่อยๆ นั้นมานั่งลงข้างกายอย่างรวดเร็ว แถมยังส่งสายตาไม่พอใจไปให้กับสาวสวยน่ารักที่เขาตั้งใจจะขายขนมจีบอีกด้วย แล้วแบบนี้จะไม่ให้เขาโกรธยังไงไหว ก็เขาไม่ได้เป็นอะไรกับเธอเสียหน่อยนี่นะ

“เมื่อกี๊กุณจะขึ้นตึก แต่ได้ยินเสียงกีตาร์ของพี่บอมเสียก่อน ก็เลยยืนแอบฟังอยู่ตรงนู้น...แน่ะค่ะ” เจ้าตัวบอกก่อนจะชี้มือไปยังตำแหน่งที่เธอยืนอยู่เมื่อสักครู่ประกอบไปด้วย “กุณจำเสียงกีตาร์พี่บอมได้ด้วยนะ แถมยังจำเสียงพี่บอมได้ขึ้นใจเลยด้วย” เจ้าตัวบอกอย่างภาคภูมิใจก่อนจะส่งยิ้มจริงใจไปให้คนที่เธอแอบปลื้มมาตลอดสามปี

“เอ่อ...แล้วน้องกุณไม่ไปเรียนเหรอครับ?” เขาถามกลับอย่างที่คนฟังคิดเข้าข้างตัวเองไปแล้วว่าเขาคงเป็นห่วง โดยที่ไม่รู้เลยว่าไอ้จุดประสงค์ที่แท้จริงแล้วนั้น เขาก็อยากให้เธอไปพ้นๆ จากตรงนี้เสียทีอีกอย่างคือ เขารำคาญเต็มทน!

“อ๋อ...เดี๋ยวก็จะไปแล้วล่ะค่ะ กุณและมาทักพี่บอมก่อนไปเรียนน่ะ” เธอบอกง่ายๆ และตรงกับความเป็นจริงที่สุด

“ขอบคุณมากนะ พี่ว่าน้องกุณรีบไปเรียนดีกว่า เดี๋ยวจะสาย” เสียงนุ่มๆ นั้นช่วยทำให้ประโยคเมื่อครู่ฟังดูกลายเป็นความห่วยใยได้อย่างไม่น่าเชื่อ

“ค่ะ...งั้นกุณไปเรียนก่อนนะคะ” หญิงสาวยกกระเป๋าขึ้นคล้องแขนก่อนจะลุกขึ้นเตรียมออกเดิน ใจก็อยากเห็นรอยยิ้มของเขาให้ชื่นใจอีกสักนิด แต่ดูเหมือนว่าทันทีที่เขารับคำเสร็จเขาก็สนใจแค่หญิงอีกคนข้างๆกายเท่านั้น และทำเหมือนกับว่า เธอได้อันตรธานหายไปจากตรงนั้นเสียแล้ว

“เอ่อ...พี่บอมคะ” เธอตัดสินใจเรียกชื่อเขาอีกครั้ง

“ครับ”

“กุณจะไปเรียนแล้วนะคะ” ยิ้มให้กุณสักทีได้ไหมคะเนี่ย กุณจะไปเรียนแล้วนะ!!!

“ครับ” เขาตอบเหมือนเดิมก่อนจะพยักหน้าอย่างรับรู้

“ค่ะ ไปก็ได้ค่ะ” แม่ตุ่มน้อยของเพื่อนๆ ตัดสินใจหันหลังก่อนจะออกก้าวเดิน แต่เดินไปได้ไม่กี่ก้าวเท่านั้น เธอก็ตัดสินใจเดินกลับมาหารุ่นพี่ที่แสนจะปลื้มใหม่ และบอกคำเดิมว่า

“กุณจะไปเรียนจริงๆ แล้วนะพี่บอม”

กรพัฒน์แอบถอนหายใจเบาๆ อย่างเหนื่อยใจก่อนจะตัดสินใจตอบกลับไปเบาๆ

“อืม...ตั้งใจเรียนนะครับ”

เสียงนุ่มๆ จากคนตรงหน้า ฟังดูเหมือนจะฝังลึกเข้าไปในโสตประสาทของกุณฑิรา จนทำให้เธอยิ้มกว้างแก้มแทบปริขนาดนี้

“ค่ะ...กุณจะตั้งใจเรียน พี่บอมก็เหมือนกันนะคะอย่าเข้าสายล่ะ เพราะพี่บอมมีเรียนการวิจัยการตลาดนะคะ อย่าลืมล่ะ” กุณฑิราพูดอย่างจำได้ ก็เพราะว่าเธอน่ะไปสืบตารางเรียนของเขามาแล้วเรียบร้อย แล้วจะไม่ให้เธอรู้ได้อย่างไรกันเล่า...


เมื่อเห็นร่างที่เจ้าตัวช่างจะพามาให้คุ้นตานั้นจากไปแล้วกรพัฒน์ถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ด้วยความโล่งใจ หล่อนบอกว่าจำเสียงกีตาร์เขาได้ นี่ถ้าเป็นหญิงที่นั่งอยู่ข้างกายเขาตอนนี้เขาคงดีใจ แต่คนที่จำได้กลับเป็นหล่อนเสียนี่

หรือจะเปลี่ยนกีตาร์ใหม่ซะให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยวะ...

ความคิดนี้แล่นเข้ามาในสมองแว๊บหนึ่ง ก่อนจะถูกลบไปด้วยเจ้าตัวเอง

ถึงจะเปลี่ยนใหม่ หล่อนก็คงจะมานั่งจำเสียงกีตาร์ใหม่ของเขาจนได้อยู่ดีนั่นแหละน่า...



ภวินทร์มองร่างสูงของเพื่อนรักที่อยู่ในชุดนักศึกษาที่ดูแล้วเนี้ยบตั้งแต่หัวจรดเท้านั้นอย่างขำๆ

“นี่ถามจริงนะ...เอ็งไม่อึดอัดบ้างไงวะที่ต้องคอยทำตัวถูกระเบียบตั้งแต่หัวจรดเท้าแบบนี้ แถมยังต้องคอยเก๊กหน้าขรึมกับพวกน้องๆ อีก เป็นข้านะ โคตรอึดอัดเลยล่ะ” เจ้าตัวพูดพลางก้มมองตัวเองไปด้วย

“ก็อึดอัดแหละ แต่จะให้ทำไงได้ล่ะ ก็ไม่ใช่พวกเอ็ง เอ็ง แล้วก็เอ็งเหรอ ที่ยัดเยียดตำแหน่งนี้ให้ฉันน่ะ บอกตรงๆ ไม่ได้อยากจะเป็นเลยนะ ไอ้พี่วินัยเนี่ย” กรพัฒน์บอกกับภวินทร์อย่างอารมณ์เสีย นึกอยากจะปลดเนคไทด์ออกให้รู้แล้วรู้รอด ใช่ว่าการเป็นพี่วินัยจะต้องอยู่ในกฏระเบียบตลอดเวลา แต่เป็นเพราะตัวเขาเองมากกว่าที่อยากทำตัวให้สมกับตำแหน่งที่หลายๆ คนไว้วางใจ และให้สมกับที่รุ่นน้องหลายๆ คนให้ความนับถืออีกด้วย

“โธ่เอ๊ย...เอาน่าบอม เดี๋ยวก็จะจบแล้ว คิดมาก...” พริมรตาบอกเพื่อนอย่างใจเย็น

“เฮ้อ...บอมอยากกลับภูจะแย่อยู่แล้วนะพิม จะได้ไปช่วยพ่อกับแม่ทำงาน” เขาพูดพลางนึกถึงครอบครัวที่น่ารักของเขา

“ดีเนอะบอมเนี่ย...อยากเรียนจบเร็วๆ จะได้ไปช่วยพ่อโกแม่ฝ้ายแล้วก็พี่เบส ไม่เห็นจะเหมือนบางคนเลย เป็นคุณหนูเล็กของภูแท้ๆ แต่กลับมัวสนใจแต่เรื่องสาวๆ ให้ขอเบอร์คนนู้นทีคนนี้ที ไร้สาระชะมัด” พริมรตาตวัดสายตามองคุณหนูเล็กแห่งภูฟ้าอย่างเคืองๆ

“ใช่ๆ ทำไมเอ็งไม่คิดเหมือนบอมมันบ้างวะไอ้หนึ่ง พ่อวินกับแม่กานต์คิดถึงจะแย่แล้วมั้ง เดือนนี้เอ็งก็ยังไม่ได้กลับภูเลยไม่ใช่เหรอ?” ป้อมถามขึ้น

“อ้าว...ไหนเมื่ออาทิตย์ที่แล้วแกบอกฉันว่าจะกลับภูไม่ใช่เหรอ แล้วหายไปไหนมา?” พริมรตาถามเสียงดัง มองเพื่อนอย่างหาเรื่องและถ้าคำตอบจากคนตาคมตรงหน้านั้นเป็นที่ไม่น่าพอใจแล้วล่ะก็...สงสัยว่างานนี้นายตาคมอาจจะกลายเป็นนายตาเขียวจากฝีมือเธอก็เป็นได้

“เอ้า...เอ็งไม่ได้บอกพิมเหรอว่าเอ็มตามน้อ..ง....” ชื่อของหญิงสาวที่เป็นต้นเหตุให้ภวินทร์ต้องโกหกพริมรตานั้นถูกกลืนหายไปพร้อมๆ กับที่ขนมปังสังขยาเกือบครึ่งชิ้นที่ภวินทร์จับยัดใส่ปาก เพื่อไม่ให้เกิดอาการ ปากโป้ง ได้

“น้องเหรอ...น้องอะไรป้อม บอกพิมสิ!” พริมรตาคาดคั้น สาวร่างเล็กลุกขึ้นยืนพร้อมกับถลกแขนเสื้อนักศึกษารออย่างเตรียมพร้อม

ภวินทร์ปิดปากเพื่อนอย่างแน่นกลัวว่าเพื่อนจะคายขนมปังชิ้นที่โชคร้ายที่สุดในรอบสัปดาห์นั้นออกมา ถลึงตาใส่อย่างรู้กันก่อนจะพูดเสียงรอดไรฟันไป “เอ็งอย่าบอกพิมนะไอ้ป้อม ไม่งั้นเจอดี” ไม่นานภวินทร์ก็ต้องปล่อยมือออกจากปากเพื่อนรักก่อนจะสวมบทบาทไหลลื่นปานปลาไหลใหม่อีกเป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่ทราบได้

“แหม...หิวก็ไม่บอกนะเอ็งอ่ะ ต้องให้ข้าป้อน มีมือก็หัดหยิบเองบ้างสิวะ” ภวินทร์รีบแก้ตัวพลางมองเพื่อนที่กำลังทุบอกอึกอักเพราะความจุกนั้นอย่างสะใจเล็กๆ เพื่อนๆ คนอื่นๆ ก็พากันหัวเราะไปตามๆ กัน

“มันตามน้องไหมกลับพิจิตรนู้น…” หนุ่มที่นั่งฝั่งตรงข้ามกับภวินทร์บอกกับพริมรตาเสียงดังฟังชัด โดยไม่สนใจตัวปัญหาที่ส่งสายตาอาฆาตแค้นมาให้

“หา...นี่แกไม่กลับไปหาพ่อกับแม่ แต่ดันตามน้องไหมไปที่พิจิตร แถมยังโกหกฉันอีกเหรอหนึ่ง?” พริมรตาถามกลับ มือเล็กๆ ถูกกำเป็นหมัดแน่น

“พิมอย่าโกรธๆ ใจเย็นๆ” น้ำฝนปรามเพื่อนเบาๆ เพราะรู้ดีว่าสิ่งที่เพื่อนเกลียดที่สุดนั้นคือการโกหก และที่ร้ายไปกว่านั้นคือ...คนๆ นั้นกลับเป็นภวินทร์ ที่คอยโกหกกันอยู่เสมอ

“แกโกหกฉันกี่ครั้งแล้วหนึ่ง ทำไมแกต้องโกหกฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบนี้ด้วยวะ แล้วนี่ถึงกับตามน้องไหมไปถึงพิจิตร นี่นายกับน้องเขาคงจะยังไม่ได้....” สมมติฐานของพริมรตายังไม่ทันหลุดออกจากปาก ภวินทร์ก็ขัดขึ้นมาก่อน

“เฮ๊ย...ไม่ๆๆๆ ฉันไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอกน่า สุภาพบุรุษพอ”

“หึ...สุภาพบุรุษ แต่กลับลืมพ่อกับแม่ แบบนี้ใช้ได้ที่ไหน” น้ำฝนตอบกลับบ้างอย่างโกรธๆ ไปตามเพื่อน

“อย่าทะเลาะกันเลย พิมยังไม่ชินอีกเหรอ?” กรพัฒน์เอ่ยเสียงนุ่มตามเคย คนที่น้อยครั้งจะพูดแบบเขาเมื่อพูดขึ้นมาก็สามารถหยุดสงครามน้อยๆ ตรงหน้าได้เหมือนกัน

“โธ่เอ๊ย...เคืองแกว่ะให้ตาย...” พริมรตานั่งลงบนเก้าอี้ตามเดิม

“ใจเย็นๆ พิม บอมว่าหนึ่งคงไม่ได้ตั้งใจมั้ง...” กรพัฒน์พยายามพูดไกล่เกลี่ย

“บอมก็รู้ว่าเราเกลียดคนโกหก แต่หนึ่งก็โกหกเราตลอดเลย”

“หนึ่งขอโทษ นะพิมนะ เดี๋ยวเย็นวันศุกร์นี้หนึ่งกลับภูพร้อมบอมเลยก็ได้ น้า...ขอโทษนะ นะๆ” นิ้วชี้ใหญ่ๆ ของภวินทร์ยื่นไปจิ้มๆ ตรงต้นแขนเล็กๆ ของพริมรตาอย่างออดอ้อน

พริมรตาเชิดใส่คนข้างๆ อย่างหมั่นไส้ นึกอยากจะโกรธเขาจริงๆ อย่างปากว่า แต่ใจกลับทรยศเธอทุกทีไป เพราะว่าถึงเขาจะทำตัวแย่แค่ไหนเธอก็โกรธเขาไม่ลงเสียที

“หายโกรธนะๆ หนึ่งขอโทษนะพิมนะ” ภวินทร์ชักเริ่มใจเสีย เมื่อเพื่อนที่เขาแคร์เอามากๆ อย่างพริมรตาเฉยมากไปกว่าปกติทุกครั้ง

พริมรตามองตาคมแป๋วๆ ของเขาอีกครั้งก่อนจะถอนหายใจออกมาหนักๆ

“เออๆ หายโกรธก็ได้ แต่ฉันจะไปภูกับแกด้วย เพราะจะไปฟ้องพ่อวินกับแม่กานต์เรื่องการกระทำของแก อ๊ะๆๆ อย่าขัด ไม่งั้นก็ไม่หายโกรธจริงๆด้วย ตกลงตามนี้ โอเค้?” เธอดักคอเพื่อนที่ทำท่าว่าจะแย้งได้ทัน ก่อนจะยื่นคำขาดทันที

“ครับ”




*** มาแล้วค่ะ หลังจากที่หายเงียบไปนาน แต่วันนี้เพียงดาวมารายงานตัวแล้วนะคะ ช่วงนี้คิดมุกไม่ค่อยออกเลย ไม่รู้ว่าสนุกหรือเปล่านะคะ แต่ก็พยายามให้ถึงที่สุดแล้วค่ะ***








 

Create Date : 25 มกราคม 2551
2 comments
Last Update : 28 กุมภาพันธ์ 2551 20:59:00 น.
Counter : 489 Pageviews.

 

ตัวละครเยอะยัง

จำเกือบไม่หวาดไม่ไหว แหะๆ


สู้ๆน้องพี่ เก่งกว่าพี่อยู่แล้ว แค่นี้ไม่เท่าไหร่หรอกใช่ม๊า

 

โดย: มัยดีนาห์ 26 มกราคม 2551 13:39:21 น.  

 

ช่วยเปลี่ยนสีตัวอักษรได้มั้ยค่ะ มันอ่านยากนะค่ะ

 

โดย: nok_new IP: 124.120.66.55 27 มกราคม 2551 15:59:47 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ตัวเล็ก-ตากลม
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




...ฉันไม่ใช่คนหน้าตาดี...
หลายคนบอกว่าตาฉันกลมตัวฉันเล็ก
ฉันเลยตั้งฉายาให้ตัวเองอย่างน่ารักน่าหยิกว่า
"ตัวเล็กตากลม"






Host for Free Uppic.NET!!


Pic=new Array("http://i11.photobucket.com/albums/a171/merrymod/anibfly13.gif", "http://i11.photobucket.com/albums/a171/merrymod/anibfly12.gif", "http://i11.photobucket.com/albums/a171/merrymod/anibfly11.gif") MaxSpeed=4; MinSpeed=2; /************************ Nothing needs altering below ************************/ load = new Array() for(i=0; i < Pic.length; i++) { load[i] = new Image(); load[i].src = Pic[i]; } n=Pic.length; n6=(document.getElementById&&!document.all); ns=(document.layers); ie=(document.all); d=(ns||ie)?'document.':'document.getElementById("'; a=(ns||n6)?'':'all.'; n6r=(n6)?'")':''; s=(ns)?'':'.style'; if (ns){ for (i=0; i < n; i++) document.write(""); } if (ie||n6){ for (i=0; i < n; i++) document.write("
"); } VB=0; HB=0; R=new Array(); PB=new Array(); RD=new Array(); Y=new Array(); X=new Array(); D=new Array(); SP=new Array(); BY=new Array(); BX=new Array(); for (i=0; i < n; i++){ Y[i]=10; X[i]=10; D[i]=Math.floor(Math.random()*70+10); SP[i]=Math.floor(Math.random()*MaxSpeed+MinSpeed); } function Curve(){ plusMinus=new Array(1,-1,2,-2,3,-3,0,1,-1,0,5,-5) for (i=0; i < n; i++){ R[i]=Math.floor(Math.random()*plusMinus.length); RD[i]=plusMinus[R[i]]; } setTimeout('Curve()',1500); } function MoveRandom(){ var H=(ns||n6)?window.innerHeight:document.body.clientHeight; var W=(ns||n6)?window.innerWidth:document.body.clientWidth; var YS=(ns||n6)?window.pageYOffset:document.body.scrollTop; var XS=(ns||n6)?window.pageXOffset:document.body.scrollLeft; for (i=0; i < n; i++){ BY[i]=-load[i].height; BX[i]=-load[i].width; PB[i]=D[i]+=RD[i]; y = SP[i]*Math.sin(PB[i]*Math.PI/180); x = SP[i]*Math.cos(PB[i]*Math.PI/180); if (D[i] < 0) D[i]+=360; Y[i]+=y; X[i]+=x; VB=180-D[i]; HB=0-D[i]; //Corner rebounds! not necessary but looks nice. if ((Y[i] < 1) && (X[i] < 1)) {Y[i]=1;X[i]=1;D[i]=45;} if ((Y[i] < 1) && (X[i] > W+BX[i])) {Y[i]=1;X[i]=W+BX[i];D[i]=135;} if ((Y[i] > H+BY[i]) && (X[i] < 1)) {Y[i]=H+BY[i];X[i]=1;D[i]=315;} if ((Y[i] > H+BY[i]) && (X[i] > W+BX[i])) {Y[i]=H+BY[i];X[i]=W+BX[i];D[i]=225;} //Edge rebounds! if (Y[i] < 1) {Y[i]=1;D[i]=HB;} if (Y[i] > H+BY[i]) {Y[i]=H+BY[i];D[i]=HB;} if (X[i] < 1) {X[i]=1;D[i]=VB;} if (X[i] > W+BX[i]) {X[i]=W+BX[i];D[i]=VB;} var temp=eval(d+a+"pics"+i+n6r+s); temp.top=Y[i]+YS; temp.left=X[i]+XS; } setTimeout('MoveRandom()',70); } Curve(); MoveRandom(); //-->
[Add ตัวเล็ก-ตากลม's blog to your web]