จิบชาชมดอกไม้ไปพลาง คุยกันเบาๆ ที่สวน..เจ้าแก้ว กังไส





Group Blog
 
 
ตุลาคม 2552
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
2 ตุลาคม 2552
 
All Blogs
 

บาปปาริชาต บทนำ

กลีบดอกไม้สีแดงโปรยลงมาเป็นสาย ราวกับไม้ใหญ่ออกดอกบานสะพรั่งอยู่เหนือนศีรษะ แต่ต้องลมจนกลีบดอกไม้ร่วงดั่งสายฝน แต่เมื่อเงยหน้ามองขึ้นไปยังเบื้องบนกลับพบเพียงความว่างเปล่า หามีพืชพันธุ์ใดๆ อยู่ เบื้องบนมีเพียงแผ่นฟ้ากว้างสีหม่นเท่านั้น หนำซ้ำมิอาจระบุเวลาได้ว่าเป็นรุ่งสางหรือใกล้ย่ำค่ำ สีฟ้าหมองๆ มองดูน่าอึดอัดใจหล่อนไม่ชอบมันเอาเสียเลย ท้องฟ้าไม่ปลอดโปร่งซ้ำยังอึมครึมคล้ายว่าอีกไม่นานจะมีพายุร้ายเข้ามาเยือน หญิงสาวไม่ทราบว่าที่แห่งนี้คือที่ใด มันจะใช่ภพมนุษย์หรือไม่นั้นหล่อนก็ไม่กระจ่างแจ้งแก่ใจตนเอง รู้เพียงแต่สายลมนั้นยังสงบนิ่งไม่มีสิ่งใดเคลื่อนไหวในภพนี้ เว้นแต่กลีบดอกไม้สีแดงสดร่วงหล่นลงมาไม่ขาดสาย กลีบดอกไม้นั่นสีแดงสดราวกับเลือด!

ร่างอรชรเดินตรงไปเรื่อยๆ ตามเส้นทางอันทุรกันดารนั่น ทางเดินแคบๆ เส้นนี้หล่อนเห็นมันจนเจนตาในความฝัน ใช่หล่อนกำลังฝัน หญิงสาวบอกตนเอง แม้จะพอมีสติว่าตนเองกำลังอยู่ในห้วงแห่งความฝัน แต่ไม่อาจทำอะไรได้มากกว่านั้น สิ่งที่หล่อนทำมีเพียงเดินตรงไปเรื่อยๆ เหมือนทุกครั้ง เมื่อเดินพ้นไประยะหนึ่งท้องฟ้าสีหมองหม่นเมื่อครู่ก็แปรเปลี่ยนเป็นท้องฟ้ายามรัตติกาล ที่มืดสลัวมีเพียงเสี้ยวจันทร์ของคืนเดือนแรมเป็นแสงสว่างเพียงหนึ่งเดียว

“ขะจ๋ายหน่อยปะเดี๋ยวจะมีคนมาหันเหียก่อน”

เสียงสั่งให้เร่งมือเพราะกลัวจะมีใครมาเห็นเข้า นั่นออกมาจากปากของหล่อนเอง ทว่าโทนเสียงทุ้มกว่าและแฝงไปด้วยโทสะ มิได้มีแววขลาดกลัวอย่างที่หล่อนเป็นอยู่

“ก๋างป่าก๋างดอยจะอี้จะมีไผมาผ่อละ อี่นาย” เสียงผู้ชายตอบมาเป็นสำเนียงคำเมือง แย้งว่ากลางดอยแบบนี้จะมีใครมาเห็นได้เล่า

หล่อนไม่รู้ว่าเขามายืนเคียงข้างตั้งแต่เมื่อใด รู้แต่เพียงว่าเป็นเช่นนี้ทุกครั้งที่ฝัน นอกจากผู้ชายคนนี้แล้วยังมีอีกชายหญิงสองคน คนหนึ่งเป็นชายร่างกายบึกบึนเยี่ยงเดียวกับชายคนแรก พวกเขาทั้งสองมิได้สวมเสื้อ นุ่งเพียงผ้าสีตุ่นผืนเดียวร่างพันกายไว้บ่งบอกว่าเป็นชนชั้นแรงงาน คนเดินนำหน้าแบกจอบมาสองด้าม คนเดินตามหลังหอบร่างแบบบางที่ไร้สติสัมปชัญญะของผู้หญิงนางหนึ่งไว้บนบ่า

กลุ่มคนทั้งหมดย่ำเท้าอย่างเร่งรีบด้วยเกรงว่าจะมีใครมาเห็นเข้า หญิงสาวจำได้ดีว่าจุดมุ่งหมายปลายทางนั้นอยู่ที่ไหน ในใจนั้นหล่อนไม่อยากไปและเริ่มเกิดความหวาดหวั่นขึ้นมา แต่กลับเร่งฝีเท้าเดินไม่หยุดหย่อน ปากก็ยังพร่ำบ่นไปด้วยความโกรธา เมื่อแน่ใจว่าเข้าป่ามาลึกพอควรที่จะไม่มีผู้ใดมาแลเห็นการกระทำในคืนนี้ หล่อนก็สั่งให้บ่าวชายทั้งสองขุดดินเป็นหลุมกว้าง

เสียงจอบฟันดินลงมาครั้งแล้วครั้งเล่ายิ่งหลุมลึกลงเท่าใด หญิงสาวยิ่งทวีความหวาดกลัวมากขึ้น ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพวกเขาคิดจะทำอะไรกับร่างแบบบางไร้สตินั่น หล่อนกลัวใจพวกเขานักจึงพยายามร้องห้าม แต่เสียงที่พูดออกไปกลับกลายเป็น

“เฮ่งมือหน่อยก๋า! ปะเดี๋ยวอีนี่มันฟื้นมาดอก” เป็นหล่อนนั่นแหละที่บงการคนอื่นๆ ให้กระทำการอันร้ายกาจนี้เอง

ไม่นานนักหลุมนั้นก็กว้างพอขนาดที่จะฝังคนๆ หนึ่งได้ หญิงสาวหน้าตาหมดจดงดงามถูกลากมาวางในหลุมนั้นยังมีลมหายใจแผ่วๆ แต่หาได้ทำให้ผู้ใดใจอ่อนไม่

“อี่นาย หลุมยังบ่ฮึกปอ...ปะเดี๋ยวหมามันจะมาขุดเอาได้” บ่าวของหล่อนคัดค้านอยากให้ขุดหลุมลึกกว่านี้ ด้วยเกรงว่าจะมีสัตว์มาขุดคุ้ยเอาได้

“ใน๋ป่าใน๋ดงจ๋ะอี้ถึงหมามันขุดศพอีนี่ขึ้นมาได้ ไผจะมาหันเข้าเล่าก๋า ถึงหันเขาก๋อบ่ฮู้ว่าเป็นปู้ใดดอก จะนึกว่าผีบ่มีญาติน่ะก๋า” เมื่อเป็นคำสั่งนายชายทั้งสองจึงไม่คัดค้านอีก

ร่างเล็กของผู้หญิงนางนั้นถูกหย่อนลงไปในหลุดดิน ว่าแล้วพวกบ่าวก็พากันเขี่ยดินกลบหลุม โดยมีหล่อนยืนยิ้มมองดูเหตุการณ์ทั้งหมดด้วยความสาแก่ใจความสาแก่ใจ แต่แล้วอยู่ๆ ร่างในหลุมที่หมดสติมาตลอดกลับฟื้นขึ้นมา นางมองกลุ่มคนด้วยท่าทางมึนงง แต่เมื่อดินเริ่มท่วมร่างนางก็แน่ใจได้ว่าคนเหล่านี้ประสงค์ร้ายและนางกำลังจะถูกฝังทั้งเป็น นางกรีดร้องขอความช่วยเหลือก่อนจะจ้องไปที่หญิงสาวทั้งน้ำตา ละม้ายตั้งคำถามตัดพ้อต่อว่า และขอความเมตตากรุณาอยู่ในที แต่ไร้ความการุณใดๆ ตอบรับกลับมา

“ลาทีอีฟองคำ...” หญิงนางที่ยืนอยู่เหนือหลุมดินกล่าวด้วยสีหน้าเหี้ยมเกรียม

หลังจากนั้นไม่ว่าหญิงสาวชื่อฟองคำจะกรีดร้องดิ้นรนอย่างไร ความช่วยเหลือก็มิมีมาถึง หล่อนยังยืนดูมือที่ควานไขว่คว้าขึ้นไปตะกายอากาศด้วยสีหน้าเย็นชา

“ อีมานพะจนไป๋จากชีวิตกูเหียเต๊อะ!” หล่อนสบถออกมาก่อนจะถ่มน้ำลายลงหลุม

ในขณะที่บ่าวของหล่อน ใช้จอบฟันมือหญิงชื่อฟองคำให้ลดลง เลือดแดงฉานไหลทะลักออกมาจากข้อมือเรียวขาว ความเจ็บปวดทวีเสียงครวญครางจากใต้ดินให้ยิ่งโหยหวน คนในหลุมยังไขว่คว้าสะเปะสะปะอย่างสิ้นหวัง คมจอบฟันลงมาอีกครั้งครานี้รุนแรงยิ่งกว่าครั้งแรก ส่งผลมือบางนั้นขาดรุ่งริ่งห้อยติดข้อมือคล้ายเป็นเพียงเศษเนื้อชิ้นหนึ่ง กระดูกขาวโพนแทงโผล่ออกมาจากบาดแผลพร้อมๆ กับเลือดแดงไหลเป็นสาย ปลายนิ้วของฟองคำยังไม่หมดความรู้สึกแม้จะฉีกขาดจากประสาทควบคุมแล้วก็ตาม นิ้วยาวดังลำเทียนนั่นยังกระตุกอีกสองสามครั้ง หล่อนเห็นเข้าก็เบ้ปากด้วยความขยะแขยงเหลือประมาณ

“อีนี่มันตายยากตายเย็นแต้! ” พลางปรายตาสั่งให้บ่าวเร่งมือ หนนี้เมื่อคมจอบฟันลงมาโดยแรง ส่งผลให้มือเรียวที่เหลือเพียงเศษซาก กระเด็นขาดจากร่างมาหล่นแทบเท้าหล่อน

หญิงสาวกรีดร้องออกมาสุดเสียงกับภาพอันโหดร้ายในความฝัน หล่อนหวาดกลัวการกระทำของคนกลุ่มนั้น นึกสงสารผู้หญิงที่โดนฝังทั้งเป็นในหลุมนั้นจับใจ แต่ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้ ยิ่งพยายามห้ามปรามเท่าใดเสียงที่หลุดออกมากลับกลายเป็นสั่งการเร่งให้ปลิดชีวิตฟองคำเร็วขึ้นอีก เสียงร้องด้วยความตกใจก็กลายเป็นเสียงหัวร่อด้วยความสาแก่ใจ สะท้อนจิตใจอันโหดเหี้ยม เสียงหัวเราะแหลมนั้นยังดังก้องไปทั่วโสตประสาทไปจนกระทั่งหล่อนตื่นขึ้นมา ยังอุปทานว่าเสียงนั้นยังคงดังก้องอยู่ในหู!


ต่อตอนหน้าค่ะ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



เม้าท์สักนิด

เจ้าแก้วเขียนเรื่องแนวอิงประวัติศาสตร์ กับ แนวลึกลับเอาไว้บ้างค่ะ
แต่ยังไม่เคยเอาลงที่ไหนมาก่อนเพราะว่าเขียนไม่จบสักเรื่อง(พูดให้ถูก
ก็คือเขียนดองนั่นเอง ) แล้วเนื่องจากตัวเองเป็นคนเขียนช้า เดี๋ยวจะ
ไม่ทันใจคนอ่าน

จริงๆ โดนทวงก็ดีใจนะคะแปลว่ามีคนติดตามงานเราจริงไหมคะ? แต่ว่าเจ้าแก้ว
เขียนตามอารมณ์และค่อนข้างบิ้วท์ยากสักนิด กลัวทำให้คนอื่นอารมณ์ค้าง
เลยว่าเขียนให้จบๆ ก่อนแล้วค่อยลงละกัน โดยมากจะทำแบบนั้น แต่เรื่องนี้
ยังไม่จบหรอกค่ะแค่ใกล้จะจบ เลยตายใจเอามาลงได้คิดว่าคงไม่ทำให้รอ
นานนักค่ะสำหรับเรื่องนี้ กำลังพยายามสลัดตัวขี้เกียจอยู่ค่ะ

สำหรับเรื่อง "บาปปาริชาต" นี้ เป็นแนวที่ไม่ใช่เคยปล่อยออกมาสู่โลกภายนอก
แล้วก็...อาจจะไม่เหมาะกับนามปากกาแก้วกังไส เพราะที่เขียนๆ ลงๆ ไป
ส่วนมากเป็นแนวกุ๊กกิ๊กเลิฟคอมมันดี้น่ะค่ะ เลยกำลังคิดว่าควรจะตั้งนามปากกา
อีกสักชื่อก็น่าจะดี เอาไว้แยกประเภทของนิยาย แต่...แต่...เอิ่ม...คือ
ยังคิดไม่ออกค่ะ เพราะงั้นเอาไว้
เขียนจบแล้วค่อยคิดอีกทียังไม่สาย

ยังไงก็ฝากนิยายเรื่องใหม่ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ






 

Create Date : 02 ตุลาคม 2552
9 comments
Last Update : 3 ตุลาคม 2552 0:03:16 น.
Counter : 792 Pageviews.

 

โอ่ะ .. ยังไม่จบ แล้วจะลงจนจบมั้ย เดี๋ยวขาดใจไปเสียก่อน .. อ่านอะไรแล้วต้องจบเีสียด้วย ..

อ่านจากบทนำแล้ว น่าดิดตามมาก สะกิดต่อมอยากรู้ได้ผลดีทีเดียว จะคอยมาอ่านอีกเรื่อย ๆ นะคะ

 

โดย: ปลายทางของสายรุ้ง 2 ตุลาคม 2552 22:49:28 น.  

 

เริ่มต้นก็ชวนติดตามแล้วค่ะ สยองตอนสับมือ อึ๋ย รอตอนต่อไปนะคะ

 

โดย: กุลธิดา IP: 71.28.112.3 3 ตุลาคม 2552 0:19:29 น.  

 

ชวนติดตามค่ะ

 

โดย: หริชา (หริชา ) 6 ตุลาคม 2552 14:17:27 น.  

 





ปลายทางของสายรุ้ง : ไม่ต้องห่วงค่ะจะลงจนจบค่ะ

กุลธิดา : ดีจังมีคนบอกว่าสยองด้วย

หริชา : อย่าลืมมาอ่านตอนต่อไปนะคะ

 

โดย: แก้วกังไส 7 ตุลาคม 2552 2:38:27 น.  

 

เจอภาษาถิ่นเข้าไปถึงกับมึน แต่เรื่องน่าติดตามดีค่ะ

 

โดย: p IP: 58.8.144.71 22 ตุลาคม 2552 14:41:58 น.  

 

เพิ่งได้ฤกษ์แวะมาอ่านบทนำค่ะ บอกได้เลยค่ะว่า... น่ากลัวมาก ๆ เลย

 

โดย: หวานเย็นผสมโซดา 11 พฤศจิกายน 2552 12:38:55 น.  

 

น่ากลัวมากเลยค่ะ


แล้วก็น่าติดตามด้วย อิอิ

 

โดย: nan (*-*-MeMoRy PolaRiS-*-* ) 22 มีนาคม 2553 20:23:48 น.  

 

เรื่องนี้จำได้ว่าเคยติดตามอ่าน ที่เวบ เด็กดี.com ค่ะ ดีล่ะ จะได้ติดตามอ่่านต่อไป เพราะชอบอ่านนิยายแนวนี้มากเลยค่ะ

 

โดย: Ching Ho IP: 101.115.17.240 9 เมษายน 2556 14:25:39 น.  

 

เรื่องนี้จำได้ว่าเคยติดตามอ่าน ที่เวบ เด็กดี.com ค่ะ ดีล่ะ จะได้ติดตามอ่่านต่อไป เพราะชอบอ่านนิยายแนวนี้มากเลยค่ะ

 

โดย: Ching Ho IP: 101.115.27.171 9 เมษายน 2556 20:24:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


แก้วกังไส
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 54 คน [?]







ผลงานเขียนที่ผ่านมาค่ะ

รักนี้(แค้น)ต้องชำระ


Amethyst Sonata
เพลงรัก..ลิขิตหัวใจ



บาปปาริชาต

Friends' blogs
[Add แก้วกังไส's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.