Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2554
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
2 กรกฏาคม 2554
 
All Blogs
 
The White Ribbon (2009) ...ยิ่งชำระล้าง...ก็ยิ่งโสมม (เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ)



Michael Haneke ผกก.ชาวออสเตรียผู้กำกับหนังเรื่องนี้ให้คำนิยามกับเรื่องราวของหนังเรื่องนี้ว่าเป็น"จุดกำเนิดของการก่อร้ายทุกประเพศ ไม่ว่าจะการก่อการร้ายทางการเมืองหรือศาสนา (the origin of every type of terrorism, be it of political or religious nature.)"

แม้แต่คำบรรยายเปิดเรื่องของตัวละครครูหนุ่มในวัยชราก็ยังบอกว่าเรื่องราวในหนังเรื่องนี้คงจะช่วยอธิบายสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในประเทศนี้(เยอรมัน)ตอนนี้(ยุคจักรวรรดิไรช์ที่สาม หรือที่รู้กันอย่างกว้างขวางในฐานะยุคนาซีเยอรมนี)ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น



เหล่าตัวละครเด็กๆในหนังเรื่องนี้ก็ไม่ต่างอะไรไปจากผลไม้ ที่ภายนอกแลดูสุกงอมด้วยการใช้ชีวิตตามกรอบระเบียบอันเข้มงวดอย่างมีวินัย แต่ภายในกลับเน่าหนอนด้วยความเจ็บปวดที่ค่อยๆก่อตัวกันเป็นความอำมหิตผิดมนุษย์

แต่ถึงตัวหนังจะให้หลักฐานกับคนดูมากพอที่จะได้ข้อสรุปว่าเด็กๆเหล่านี้คือผู้ที่ก่อเรื่องร้ายๆทั้งหลายในหมู่บ้านขึ้นมาจริงๆ จนแล้วจนรอด...ตัวหนังก็ไม่ได้เปิดโปงข้อเท็จจริงนี้อย่างโจ่งแจ้ง

เหมือนๆกับที่ผลงานหนังเรื่องก่อนๆของผกก. Haneke อย่าง Funny Games ไม่ยอมให้คนดูได้เห็นฉากรุนแรงต่างๆแบบซึ่งๆหน้า หรือ Cache (Hidden) ที่สุดท้ายแล้วก็ไม่ยอมเปิดเผยว่าใครเป็นคนส่งเทปวิดีโอแอบถ่ายทั้งหมดมาที่บ้านของตัวเอกของเรื่อง

และก็เหมือนกับหนังเรื่องก่อนๆของผกก. Haneke ที่ให้ความสำคัญกับจุดเริ่มต้นมากกว่าปลายทาง คำถามมากกว่าคำตอบ The White Ribbon เองก็ให้ความสำคัญกับการนำเสนอสภาพแวดล้อมที่เด็กๆเหล่านี้เติบโตขึ้นมา ซึ่งก็ถือได้ว่าเป็นหลักฐานที่สำคัญที่สุดและเด่นชัดที่สุดเท่าที่ตัวหนังพึงจะเสนอให้กับคนดูได้

โดยเฉพาะในส่วนของสถาบันครอบครัว ที่เสาหลักของบ้านอย่างผู้เป็นพ่อ ไม่ว่าจะบาทหลวงผู้เข้มงวด,หมอผู้มกมุ่นในกาม,หรือบารอนผู้บ้าอำนาจ ต่างก็ส่งผลโดยตรงต่อตัวตนของผู้เป็นลูก ดั่งคำโบราณว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น

มันจึงออกจะเป็นเรื่องตลกร้ายนิดๆตอนที่บาทหลวงแสดงท่าทีอึ้งทะมึนในฉากตอนท้ายเรื่องที่ครูหนุ่มบอกกับบาทหลวงว่าเรื่องราวร้ายๆทั้งหมดในหมู่บ้านอาจเป็นฝีมือของเด็กๆ ทั้งๆที่ความสกปรกโสมมที่พึงมีอยู่ในตัวตนของเด็กๆเหล่านี้ ส่วนหนึ่งล้วนมาจากการพยายามชำระล้างเด็กๆเหล่านี้ของตัวบาทหลวงเอง

ไม่ว่าจะด้วยท่าทีอันเย็นชา,คำพูดเสียดแทงใจ,การลงไม้อย่างรุนแรง,และการผูกริบบิ้นขาว ที่ตัวบาทหลวงถือว่าเป็นการย้ำเตือนถึงความขาวบริสุทธิ์

แต่สำหรับตัวเด็กๆเองแล้ว มันคือตราบาปที่ค่อยๆกัดกินความขาวบริสุทธิ์ที่แท้จริงในใจของพวกเขาไป



ผกก. Haneke เลือกที่จะถ่ายทำหนังเรื่องนี้ด้วยฟิล์มขาวดำเพื่อที่ภาพของหนังจะให้ความรู้สึกเหมือนกับเป็นภาพประกอบในหนังสือประวัติศาสตร์

ซึ่งก็นับว่าไม่เสียแรงเปล่าเลยสำหรับการลงทุนศึกษาบรรดาผลงานหนังขาวดำของผกก. Ingmar Bergman ของ Christian Berger ตากล้องของหนัง เพราะผลลัพธ์ที่ออกมานั้นถือได้ว่าสวยงาม เป็นหนึ่งในหนังหลังยุคหนังขาวดำที่ถ่ายภาพขาวดำออกมาได้สวยที่สุด พอๆกับหนังจากฝั่งฮอลลีวู้ดอย่าง Raging Bull, Schindler's List, และ Good Night, and Good Luck.



ทีมนักแสดงในหนังต่างก็ทำหน้าที่ในส่วนของตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะ Burghart Klaubner ในบทบาทหลวงผู้เข้มงวด

และเหล่านักแสดงเด็กที่คัดมาจากนักแสดงเด็กกว่าเจ็ดพันคนก็แสดงได้อย่างเป็นธรรมชาติจนเข้าขั้นเกินคำบรรยายด้วยการทำท่าทางใสซื่อกลบเกลื่อนความอำมหิตของตัวเองที่ดูๆไปแล้วก็ชวนให้นึกถึงเหล่าเด็กๆในหนังสยองขวัญแฟรนไชส์ Children of the Corn



The White Ribbon ถือได้ว่าเป็นหนังที่มีองค์ประกอบศิลป์เป็นเลิศ แต่ด้วยเวลาสองชั่วโมงครึ่งกับการดำเนินเรื่องที่ช้า เนิบนิ่ง รวมถึงหลายๆฉากที่ทำท่าเหมือนกับว่าไม่มีอะไรในก่อไผ่ ทำให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่เรียกร้องความอดทนและการตีความจากคนดู(และยังอาจรวมถึงการเอากลับมาดูซ้ำใหม่อีกอย่างน้อยหนึ่งถึงสองรอบขึ้นไป)เป็นอย่างสูงไปอย่างช่วยไม่ได้

และถ้าคนดูสามารถตอบสนองสิ่งที่ตัวหนังเรียกร้องได้ครบหมด(ซึ่ง...จะเชื่อหรือไม่ก็ตาม แต่มันก็ไม่ใช่อะไรที่ยากอย่างที่คิด) หนังเรื่องนี้จะกลายเป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่ลึกซึ้ง รุนแรงที่สุดเท่าที่คนดูพึงจะได้จากการดูหนังเรื่องไหนๆก็ตาม



สรุป...หนังดีกรีปาล์มทองคำของเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์เรื่องนี้ก็เข้าอีหรอบเดียวกับหนังดีกรีปาล์มทองคำส่วนใหญ่ คือไม่ได้เป็นหนังสำหรับคนดูทุกคน(โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนดูหนังกระแสหลัก)

แต่สำหรับใครก็ตามที่เป็นที่คนที่ดูหนังแล้วชอบคิด ชอบตีความ และ/หรือเป็นแฟนานุแฟนหนังของผกก. Haneke ...แน่นอนว่าไม่ควรพลาดหนังเรื่องนี้ด้วยประการทั้งปวง




8.0/10


Create Date : 02 กรกฎาคม 2554
Last Update : 2 กรกฎาคม 2554 7:25:06 น. 1 comments
Counter : 3293 Pageviews.

 
เป็นหนังดีที่ดูแล้วไม่ค่อยอินอีกเรื่องสำหรับผมนะคร้าบ


โดย: Nanatakara วันที่: 4 กรกฎาคม 2554 เวลา:7:58:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Apple101
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add Apple101's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.