|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
The White Ribbon (2009) ...ยิ่งชำระล้าง...ก็ยิ่งโสมม (เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ)
Michael Haneke ผกก.ชาวออสเตรียผู้กำกับหนังเรื่องนี้ให้คำนิยามกับเรื่องราวของหนังเรื่องนี้ว่าเป็น"จุดกำเนิดของการก่อร้ายทุกประเพศ ไม่ว่าจะการก่อการร้ายทางการเมืองหรือศาสนา (the origin of every type of terrorism, be it of political or religious nature.)"
แม้แต่คำบรรยายเปิดเรื่องของตัวละครครูหนุ่มในวัยชราก็ยังบอกว่าเรื่องราวในหนังเรื่องนี้คงจะช่วยอธิบายสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในประเทศนี้(เยอรมัน)ตอนนี้(ยุคจักรวรรดิไรช์ที่สาม หรือที่รู้กันอย่างกว้างขวางในฐานะยุคนาซีเยอรมนี)ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
เหล่าตัวละครเด็กๆในหนังเรื่องนี้ก็ไม่ต่างอะไรไปจากผลไม้ ที่ภายนอกแลดูสุกงอมด้วยการใช้ชีวิตตามกรอบระเบียบอันเข้มงวดอย่างมีวินัย แต่ภายในกลับเน่าหนอนด้วยความเจ็บปวดที่ค่อยๆก่อตัวกันเป็นความอำมหิตผิดมนุษย์
แต่ถึงตัวหนังจะให้หลักฐานกับคนดูมากพอที่จะได้ข้อสรุปว่าเด็กๆเหล่านี้คือผู้ที่ก่อเรื่องร้ายๆทั้งหลายในหมู่บ้านขึ้นมาจริงๆ จนแล้วจนรอด...ตัวหนังก็ไม่ได้เปิดโปงข้อเท็จจริงนี้อย่างโจ่งแจ้ง
เหมือนๆกับที่ผลงานหนังเรื่องก่อนๆของผกก. Haneke อย่าง Funny Games ไม่ยอมให้คนดูได้เห็นฉากรุนแรงต่างๆแบบซึ่งๆหน้า หรือ Cache (Hidden) ที่สุดท้ายแล้วก็ไม่ยอมเปิดเผยว่าใครเป็นคนส่งเทปวิดีโอแอบถ่ายทั้งหมดมาที่บ้านของตัวเอกของเรื่อง
และก็เหมือนกับหนังเรื่องก่อนๆของผกก. Haneke ที่ให้ความสำคัญกับจุดเริ่มต้นมากกว่าปลายทาง คำถามมากกว่าคำตอบ The White Ribbon เองก็ให้ความสำคัญกับการนำเสนอสภาพแวดล้อมที่เด็กๆเหล่านี้เติบโตขึ้นมา ซึ่งก็ถือได้ว่าเป็นหลักฐานที่สำคัญที่สุดและเด่นชัดที่สุดเท่าที่ตัวหนังพึงจะเสนอให้กับคนดูได้
โดยเฉพาะในส่วนของสถาบันครอบครัว ที่เสาหลักของบ้านอย่างผู้เป็นพ่อ ไม่ว่าจะบาทหลวงผู้เข้มงวด,หมอผู้มกมุ่นในกาม,หรือบารอนผู้บ้าอำนาจ ต่างก็ส่งผลโดยตรงต่อตัวตนของผู้เป็นลูก ดั่งคำโบราณว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น
มันจึงออกจะเป็นเรื่องตลกร้ายนิดๆตอนที่บาทหลวงแสดงท่าทีอึ้งทะมึนในฉากตอนท้ายเรื่องที่ครูหนุ่มบอกกับบาทหลวงว่าเรื่องราวร้ายๆทั้งหมดในหมู่บ้านอาจเป็นฝีมือของเด็กๆ ทั้งๆที่ความสกปรกโสมมที่พึงมีอยู่ในตัวตนของเด็กๆเหล่านี้ ส่วนหนึ่งล้วนมาจากการพยายามชำระล้างเด็กๆเหล่านี้ของตัวบาทหลวงเอง
ไม่ว่าจะด้วยท่าทีอันเย็นชา,คำพูดเสียดแทงใจ,การลงไม้อย่างรุนแรง,และการผูกริบบิ้นขาว ที่ตัวบาทหลวงถือว่าเป็นการย้ำเตือนถึงความขาวบริสุทธิ์
แต่สำหรับตัวเด็กๆเองแล้ว มันคือตราบาปที่ค่อยๆกัดกินความขาวบริสุทธิ์ที่แท้จริงในใจของพวกเขาไป
ผกก. Haneke เลือกที่จะถ่ายทำหนังเรื่องนี้ด้วยฟิล์มขาวดำเพื่อที่ภาพของหนังจะให้ความรู้สึกเหมือนกับเป็นภาพประกอบในหนังสือประวัติศาสตร์
ซึ่งก็นับว่าไม่เสียแรงเปล่าเลยสำหรับการลงทุนศึกษาบรรดาผลงานหนังขาวดำของผกก. Ingmar Bergman ของ Christian Berger ตากล้องของหนัง เพราะผลลัพธ์ที่ออกมานั้นถือได้ว่าสวยงาม เป็นหนึ่งในหนังหลังยุคหนังขาวดำที่ถ่ายภาพขาวดำออกมาได้สวยที่สุด พอๆกับหนังจากฝั่งฮอลลีวู้ดอย่าง Raging Bull, Schindler's List, และ Good Night, and Good Luck.
ทีมนักแสดงในหนังต่างก็ทำหน้าที่ในส่วนของตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะ Burghart Klaubner ในบทบาทหลวงผู้เข้มงวด
และเหล่านักแสดงเด็กที่คัดมาจากนักแสดงเด็กกว่าเจ็ดพันคนก็แสดงได้อย่างเป็นธรรมชาติจนเข้าขั้นเกินคำบรรยายด้วยการทำท่าทางใสซื่อกลบเกลื่อนความอำมหิตของตัวเองที่ดูๆไปแล้วก็ชวนให้นึกถึงเหล่าเด็กๆในหนังสยองขวัญแฟรนไชส์ Children of the Corn
The White Ribbon ถือได้ว่าเป็นหนังที่มีองค์ประกอบศิลป์เป็นเลิศ แต่ด้วยเวลาสองชั่วโมงครึ่งกับการดำเนินเรื่องที่ช้า เนิบนิ่ง รวมถึงหลายๆฉากที่ทำท่าเหมือนกับว่าไม่มีอะไรในก่อไผ่ ทำให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่เรียกร้องความอดทนและการตีความจากคนดู(และยังอาจรวมถึงการเอากลับมาดูซ้ำใหม่อีกอย่างน้อยหนึ่งถึงสองรอบขึ้นไป)เป็นอย่างสูงไปอย่างช่วยไม่ได้
และถ้าคนดูสามารถตอบสนองสิ่งที่ตัวหนังเรียกร้องได้ครบหมด(ซึ่ง...จะเชื่อหรือไม่ก็ตาม แต่มันก็ไม่ใช่อะไรที่ยากอย่างที่คิด) หนังเรื่องนี้จะกลายเป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่ลึกซึ้ง รุนแรงที่สุดเท่าที่คนดูพึงจะได้จากการดูหนังเรื่องไหนๆก็ตาม
สรุป...หนังดีกรีปาล์มทองคำของเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์เรื่องนี้ก็เข้าอีหรอบเดียวกับหนังดีกรีปาล์มทองคำส่วนใหญ่ คือไม่ได้เป็นหนังสำหรับคนดูทุกคน(โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนดูหนังกระแสหลัก)
แต่สำหรับใครก็ตามที่เป็นที่คนที่ดูหนังแล้วชอบคิด ชอบตีความ และ/หรือเป็นแฟนานุแฟนหนังของผกก. Haneke ...แน่นอนว่าไม่ควรพลาดหนังเรื่องนี้ด้วยประการทั้งปวง
8.0/10
Create Date : 02 กรกฎาคม 2554 |
Last Update : 2 กรกฎาคม 2554 7:25:06 น. |
|
1 comments
|
Counter : 3293 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Nanatakara วันที่: 4 กรกฎาคม 2554 เวลา:7:58:30 น. |
|
|
|
| |
|
|