Group Blog All Blog
|
The Healer (Twilight Fanfic) บทที่11 - งานคืนสู่เหย้า วันนี้เป็นวันที่แดดแรงหลงฤดูแน่ๆ เป็นวันที่หาได้ยากจริงๆ ในช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ควรจะถูกห่อหุ้มด้วยความหนาวเย็นไปเรียบร้อยแล้ว หากแต่มันกลับกลายเป็นวันที่อบอุ่นและเจิดจ้าที่สุดด้วยอุณหภูมิราวๆ 21 องศาเซลเซียส ทุกๆ คนดูจะกระตือรือร้นเป็นพิเศษ ไม่ใช่เพราะอากาศดีเพียงอย่างเดียวหรอก แต่เพราะอาทิตย์นี้จะมีงานสำคัญด้วยน่ะสิ เสาร์นี้จะมีงานคืนสู่เหย้า และคืนวันศุกร์ซึ่งก็คือคืนนี้ จะมีการแข่งขันนัดสำคัญ แม้กระทั่งพวกผู้ชายที่เคยหลบลี้หนีหน้าฉันก็กลับมาเป็นมิตรอีกครั้งอย่างน่าประหลาด พวกเขาโบกมือและทักทายฉันด้วย นี่คงเป็นเพราะการขาดเรียนของเหล่า พี่ชายตัวดี ของฉันนั่นเอง วันนึ้จึงมีแค่ฉันกับเจคอบเท่านั้นที่มาเรียนตามปกติ วันนี้ช่วงพักกลางวันเราเลยมานั่งกับกลุ่มเพื่อนๆ ของแอนาเบล ที่โต๊ะอาหารมีเพื่อนสาวสองคนที่เรียนคาบที่สี่มาร่วมด้วยเธอคือเอ็มม่าและซาร่า รวมทั้งเทเล่อร์, โจเอลและเด็กผู้ชายเงียบๆ ที่ชื่อเอเดรียนอีกคน ทุกคนกำลังคุยกันเรื่องแผนการในคืนนี้และคืนพรุ่งนี้อย่างออกรสออกชาติ ฉันตื่นเต้นจริงๆ นะนี่ มันต้องสนุกยิ่งกว่าปีที่แล้วแน่ๆ ฉันรู้สึกได้เลยหล่ะ แอนาเบลกล่าว อะไรทำให้เธอคิดงั้นเหรอ? ฉันอดถามไม่ได้ ปีที่แล้วฉันไปงานกับไมค์น่ะสิ เพราะงั้นอะไรๆ ในปีนี้ก็ต้องดีกว่าเดิมอยู่แล้ว เธอตอบพร้อมกับทำหน้าขำๆ งั้น มีแผนอะไรสำหรับงานคืนสู่เหย้ากันล่ะ? เอ็มม่าถาม ฉันแอบมองไปทางเจคอบซึ่งกำลังคุยอยู่กับเทเล่อร์ สงสัยจริงๆ ว่าเขาได้ยินเรื่องที่ฉันกำลังคุยอยู่หรือเปล่า ฉันยังไม่รู้แผนการของเขาอยู่ดี แต่ฉันก็อยากให้เขาไปด้วยใจจะขาด นี่เป็นงานเต้นรำงานแรกในชีวิตของฉันและเขาก็ควรไปอยู่ที่นั่นด้วยเพื่อร่วมเต้นรำกับฉัน ถึงแม้เราจะอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ก็ตามทีเถอะ ฉันว่าพวกเราน่าจะเตรียมตัวไปงานด้วยกันนะ มันน่าสนุกออก ใช่มั้ยล่ะ? ถ่ายรูปด้วยกันก่อนแล้วค่อยออกไปที่งาน เนสซี่ เธอขับนะ รถเธอดูดีที่สุดในหมู่พวกเราแล้วน่ะ แอนาเบลจัดแจงบรรยายแผน ได้เลย ไม่มีปัญหาจ้ะ เฮ้ เนสซี่ ถ้าเธอเป็นคนขับรถงั้นเราน่าจะไปเตรียมพร้อมกันที่บ้านของเธอนะ ซาร่าถามเชิงขอความเห็น แต่ฉันรู้ดีว่านั่นเป็นเพียงแผนการที่จะใช้ฉันเป็นทางผ่านเพื่อที่เข้าถึงตัวพี่ชายผู้น่าหลงใหลของฉันหรือแท้จริงแล้วคือพ่อของฉันนั่นเอง ทำไมเธอยังหวังอยู่อีกฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน อืม โอเค ฉันต้องขออนุญาติพ่อกับแม่ก่อน แต่คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหานะ ปาร์ตี้หลังงานเลิกที่บ้านเทเล่อร์จะต้องสนุกสุดยอดแน่ๆ บ้านเขาสวยมาก แถมยังมีห้องเฉพาะสำหรับเล่นเกมที่ชั้นใต้ดินอีกด้วยนะ เอ็มม่าบอก เทเล่อร์ได้ยินชื่อตัวเองในบทสนทนาของพวกเราจึงหันมา พวกเธอติดหนี้ฉันครั้งนึงนะ พ่อแม่ฉันจะให้ฉันเก็บกวาดทั้งบ้านเพื่อแลกกับการจัดปาร์ตี้น่ะ เขาบอก เถอะน่า เทเล่อร์ คุณก็รู้ว่าพวกเราน่ะซึ้งใจแค่ไหน เอ็มม่าตอบพร้อมกับส่งรอยยิ้มมีนัย เขายิ้มตอบ อันที่จริงฉันก็พอจะรู้อยู่ว่าเขาทำไปไม่ได้เพื่อเอาใจพวกเราหรอก แต่เพื่อเอาใจเธอต่างหาก ไม่แน่ว่าเขาอาจจะคาดหวังให้คืนพรุ่งนี้เป็นการเริ่มต้นสำหรับอะไรสักอย่างก็เป็นได้ งั้นพวกเราผู้ชายจะไปเจอที่งานเลยนะ? เขาถาม ฉันมองไปที่เจคอบอีกครั้ง เขาจะไปงานกับพวกผู้ชายเหรอ? ฉันค่อยโล่งใจขึ้นมาบ้าง ไม่ใช่เพราะกลัวว่าเขาจะพาสาวอื่นไปงานหรอก แต่ก็ยังดีใจอยู่ดีที่ได้ยินอย่างนั้น คุณจะไปงานเต้นรำกับพวกเขาใช่มั้ย? ฉันอดถามเขาไม่ได้ เขาพยักหน้าและยิ้มตอบ ฉันยิ้มกว้างกลับไป นี่แอนาเบล ฉันตื่นเต้นที่จะได้เจอคริสเตียนจริงๆ นะ ซาร่าบอก ฉันเห็นแอนาเบลมีสีหน้าแดงระเรื่อขึ้น ฉันเองก็ตื่นเต้นเหมือนกันที่จะได้เห็นเขาสักที มันเหมือนกับว่าฉันรู้จักเขาไปเรียบร้อยแล้วจากการที่ได้ยินได้ฟังแอนาเบลพูดถึงเขา ฉันรู้ว่าเขาชอบ ดร.เป๊บเปอร์ เขาชอบเล่นสโนวบอร์ดและถ้าทำให้เขาหัวเราะหนักๆ ละก็ เขาจะน้ำตาเล็ดออกมาเลยทีเดียว ฉันแทบอดไม่ไหวที่จะได้เห็นตัวจริงของเขาเสียที เธอมักจะเล่าเจาะลึกถึงรายละเอียดของเขาเลยหล่ะ อย่างเช่นครั้งแรกที่เขาจูบเธอ วันถัดมาเธอก็รีบโทรมาหาฉันแต่เช้า เขาเดินมาส่งเธอที่บ้านหลังจากออกเดทและจูบเธอตรงระเบียงบ้านก่อนที่จะกล่าวราตรีสวัสดิ์กับเธอ ฉันก็หวังมานานเหมือนกันว่าระหว่างเจคอบกับฉันมันจะง่ายขนาดนั้นบ้างแต่แน่นอนว่าอะไรๆ ก็ยังคงยุ่งยากอยู่ดี แต่ยังไงก็ตามฉันก็ยังสนุกสนานกับการได้ร่วมดีใจและได้เพ้อฝันตามเรื่องของเธอไปพร้อมๆ กันเธอมักจะเล่าทุกๆ รายละเอียดของการเดททุกครั้งให้ฉันฟัง เป็นต้นว่า เขาแต่งตัวแบบไหนและคำพูดโรแมนติกๆ ที่เขาบอกกับเธอ ฉันก็แทบรอให้พวกเธอพบเขาไม่ไหว เขาเองก็ตื่นเต้นมากๆ เหมือนกัน ไว้ฉันจะรีบโทรไปหาเขาทันทีที่เราถึงบ้านเทเล่อร์เลยหล่ะ เธอบอก ถ้าเขากลายเป็นไอ้โรคจิตขึ้นมาละก็ ฉันไม่ให้เข้าบ้านจริงๆ นะ เทเลอร์ล้อ ฉันหัวเราะชอบใจขณะที่แอนาเบลหันไปหาเขาแล้วปาองุ่นใส่ ฉันตื่นเต้นมากเกินกว่าที่จะหลับได้ลงในคืนนั้น เหมือนกับย้อนเวลากลับไปคืนก่อนไปโรงเรียนวันแรกอีกครั้ง เรากลับมาถึงบ้านหลังจากเกมการแข่งขันก่อนงานคืนสู่เหย้าเมื่อสองสามชั่วโมงก่อน แน่นอนว่าทีมของพวกเราแพ้ เป็นผลให้แอนาเบลชวนพวกลุงๆ อาๆ ของฉันเข้าร่วมทีมฟุตบอลในปีหน้าอีกครั้ง ฉันดีใจที่ครอบครัวทั้งหมดของฉันมาร่วมงานด้วยในที่สุด ถึงแม้ฉันจะรู้ดีว่ามันออกจะน่าเบื่อสำหรับพวกเขามากแค่ไหนที่ต้องมานั่งดูเฉยๆ เอสเม่และคาร์ไลส์ก็มานั่งดูการแข่งขันด้วย ไม่มีครอบครัวคัลเลนผู้เก็บเนื้อเก็บตัวอีกต่อไปแล้ว เพราะทุกคนมาร่วมนั่งเชียร์และต่างก็ดูเหมือนเป็นครอบครัวมนุษย์ธรรมดาๆ ทั่วๆ ไป ชุดไปงานของฉันแขวนอยู่ที่บานประตูห้องน้ำ อลิซช่วยฉันเตรียมการเครื่องแต่งตัวที่จะใส่ไปงาน มันดูสวยงามน่าหลงใหลที่สุด ฉันหยิบไม้แขวนที่ห้อยชุดมาครอบไว้ที่คอ ชุดสวยก็ทาบทับอยู่กับตัวฉันพอดี ฉันนึกภาพว่าจะดูเป็นยังไงเมื่อใส่มันในคืนพรุ่งนี้ พอดีว่าคนเขียนเค้าไม่ได้พูดถึงชุดของเนสซี่ที่ใส่ไปงานเลย ก็เลยจิ้นเอาเองว่ามันน่าจะออกมาประมาณนี้สำหรับชุดไปงานคืนสู่เหย้า จะเป็นเดรสที่เลยเข่ามาหน่อยนึง ฉันเริ่มฝันกลางวันถึงการเต้นรำกับเจคอบ และนึกสนุกอยากเล่นอะไรขึ้นมาจึงเดินไปเปิดเพลงช้าที่เป็นเพลงโปรดของฉันและเริ่มเคลื่อนตัวพริ้วไหวไปมาอยู่หน้ากระจก ฉันมองดูชายกระโปรงพัดพริ้วไปมาตามท่วงทำนองของเพลงแล้วหัวเราะคิกคักให้กับความบ้าบอของตัวเอง ทันใดนั้นฉันก็พลันเหลือบไปมองที่หน้าต่างเพราะนึกขึ้นได้ว่าเปิดมันทิ้งเอาไว้ พอมองออกไปนอกหน้าต่างด้านล่างก็พบว่าเจคอบกำลังยืนพิงเค้าเตอร์ห้องครัวในบ้านของเขา กำลังมองมาที่ฉันพร้อมรอยยิ้มบนหน้า ฉันหน้าแดงฉับพลันด้วยความเขินอาย รีบหยิบชุดแขวนคืนที่เดิมแล้วปิดไฟเข้านอนทันที วันต่อมาผ่านไปอย่างรวดเร็วราวกับติดปีก ท้องฟ้าค่อนข้างมืดครึ้มแต่กระนั้นอากาศก็ยังอบอุ่นผิดฤดูอยู่ดี สำหรับซาร่าเธอคงผิดหวังน่าดูที่พบว่าพ่อของฉันไม่อยู่บ้านเมื่อพวกเธอมาถึง พวกผู้ชายทุกคนในบ้านออกไปข้างนอกเพื่อปล่อยให้สาวๆ ได้ใช้พื้นที่อย่างเต็มที่ ทุกคนพากันทึ่งเมื่อเห็นขนาดของบ้าน จนแอนาเบลออกปากว่าปีหน้าฉันคงต้องรับผิดชอบเป็นเจ้าภาพในงานอาฟเตอร์ปาร์ตี้หรือแม้แต่ปาร์ตี้ธรรมดาๆ แล้วแต่จะมีตั้งแต่นี้ต่อไป ส่วนเอสเม่กับซาร่าแทบไม่อยู่ห่างกันเลยตลอดเวลาที่อยู่ในบ้าน ฉันเฝ้าดูแอนาเบลซึ่งทำตัวเป็นกันเองเข้ากับครอบครัวของฉันได้ง่ายมาก เธอพูดคุยกับอลิซและแม่อย่างสนิทสนมราวกับว่าพวกเธอได้กลายเป็นเพื่อนสนิทกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เธอไม่รู้สึกเก้อเขินเมื่ออยู่ต่อหน้าโรซาลี่เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ ฉันรู้สึกผิดเล็กน้อยที่เอ็มม่าเอาแต่มองกลับไปกลับมาเปรียบเทียบระหว่างตัวเธอกับโรซาลี่ ไม่เห็นจำเป็นต้องทำอย่างนั้นเลยนี่นา หลังจากที่พวกเราแต่งตัวกันเสร็จเรียบร้อย ก็ตัดสินใจมาเล่นสนุกหน้ากล้องกันต่อ พวกเราหัวเราะอย่างสนุกสนานเต็มที่ขณะที่ทำท่าถ่ายรูปตลกๆ ของตัวเองที่สวนหลังบ้าน เอสเม่ทำอาหารให้พวกเรารองท้องเสียก่อนที่จะไปงานเต้นรำ ส่วนนี่ก็เป็นระเบียงหลังบ้านคัลเลนที่มีพื้นที่สวนอยู่ด้วยนิดหน่อย ถัดไปก็จะเป็นสระว่ายน้ำและบ้านริมสระของเจคอบ (ที่ไม่ได้อยู่ในรูปอ่ะนะแหะๆ) เนสซี่ ครอบครัวเธอนี่สุดยอดไปเลย แอนาเบลบอกพร้อมกับโอบแขนรอบตัวฉันขณะที่แม่ถ่ายรูปคู่ให้พวกเรา ฉันหัวเราะอย่างมีความสุข ฉันรู้จ้ะ มาสิ ฉันจะถ่ายรูปเธอกับเบลล่าให้ เธอบอกขณะที่เอื้อมมือไปรับกล้องถ่ายรูปจากแม่ จ้ะ ฉันก็อยากถ่ายรูปกับเธอเหมือนกันนะ แอนาเบล แม่พูดพร้อมกับยื่นกล้องให้เธอ แม่ก้าวมายืนข้างๆ ฉันและเราก็โอบแขนรอบเอวของกันและกันและแนบศรีษะเข้าหากัน แอนาเบลมีสีหน้าพิศวงนิดหนึ่งตอนที่เธอยกกล้องขึ้น กล้องเป็นอะไรไปเหรอ? ฉันถาม เปล่าจ้ะ ขอโทษที ฉันไม่เคยสังเกตมาก่อนเลยว่าพวกเธอหน้าคล้ายกันมาก แม่หัวเราะ เป็นธรรมดาเวลาที่เธออยู่กับใครนานๆ เธอก็มักจะละม้ายคล้ายคนๆ นั้นเข้าไปทุกทีๆ น่ะ แอนาเบลหัวเราะ เอ้ายิ้ม! ในตอนนั้นเองฉันก็ได้ยินเสียงรถแล่นมาตามถนน ครอบครัวคนอื่นๆ ของฉันกลับมาแล้ว คาร์ไลส์เป็นคนแรกที่ก้าวลงจากรถและเดินมาที่ลานหลังบ้าน ช่างเป็นเซอร์ไพรส์ที่น่ารักอะไรอย่างนี้ กลับมาบ้านก็มีแต่สาวสวยเต็มบ้านไปหมด พวกเธอดูดีทุกคนเลย คาร์ไลส์ชมขณะที่เอสเม่เดินตรงไปหาเขาและจูบเบาๆ ที่แก้ม หวัดดีค่ะ ปู่ เอ้ยพ่อ! นี่แอนาเบล, ซาร่าและเอ็มม่าค่ะ ฉันแนะนำขณะที่ผายมือไปที่แต่ละคน พ่อเธอก็เท่ห์ไม่หยอกเหมือนกันนะ ฉันได้ยินซาร่ากระซิบกับเอ็มม่า ดีใจที่ได้พบพวกหนูทุกคนนะ อาแน่ใจว่าพวกเธอต้องสนุกกับงานเต้นรำคืนนี้แน่นอน คาร์ไลส์แทนตัวเองว่าอากับพวกเธอ ด้วยความจริงที่ว่าเขายังดูหนุ่มเกินกว่าที่จะเป็นลุงของใคร คนอื่นๆ ในครอบครัวที่เหลือทยอยกันเดินเข้ามาที่สวนหลังบ้าน ทุกคนยังสวมกางเกงยีนส์อยู่เลย เจคอบเป็นคนสุดท้ายที่เดินผ่านประตูออกมา เขาดูตกตะลึงไปเล็กน้อยพอเห็นฉันเข้า ฉันเห็นพ่อเหลือบกลับไปมองเขาและเจคอบก็เสเงยหน้าขึ้นดูฟ้าแก้เก้อ พวกคุณยังไม่แต่งตัวอีกเหรอเนี่ย? แอนาเบลถามเพราะเห็นพวกเขายังอยู่ในชุดลำลอง พ่อหัวเราะแล้วตอบ พวกผู้ชายน่ะใช้เวลาเตรียมตัวแค่สิบนาทีก็พอแล้ว ฉันรู้ว่าที่จริงแล้วพวกเขาใช้เวลาน้อยกว่านั้นซะอีก พวกเราถ่ายรูปกันต่ออีกหลายรูปและอยู่คุยเล่นกันอีกพักหนึ่งก่อนที่จะตัดสินใจออกจากบ้าน ฉันแอบมองเจคอบสองสามครั้งและพบว่าเขาก็กำลังจ้องมองมาที่ฉันอยู่เสมอๆ เช่นกัน ฉันรู้สึกได้ว่าสายตาเขาจับจ้องอยู่ที่ฉันตลอดเวลา สงสัยจริงว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ฉันเดินไปหาพ่อแต่ท่านกลับเร่งฉันให้ออกไปที่งานได้แล้ว ไว้เจอกันที่งานนะเนสซี่ พ่อพูด แล้วพวกเราทั้งสี่คนก็ก้าวขึ้นรถของฉันและมุ่งหน้าไปที่งานเต้นรำ โรงยิมถูกเปลี่ยนสภาพให้กลายเป็นฉากในหนังของวัยรุ่นเรื่องหนึ่ง สายรุ้งกระดาษและลูกโป่งสีสันสวยงามถูกจัดวางกระจัดกระจายไปทั่วพื้น ไฟคริสต์มาสก็ถูกนำไปห้อยแขวนตกแต่งแป้นบาสเก็ตบอล ฉันชอบทุกอย่างในงาน ทุกคนลงไปเต้นอยู่บนฟลอร์เต้นรำ ฉันมองดูแสงระยิบระยับจากลูกบอลดิสโก้และไฟหลากสีฉายกระทบเข้ากับใบหน้าของแต่ละคน เอ็มม่าและซาร่ารีบวิ่งเข้าไปหาเพื่อนๆ ของเธอ ฉันว่าเธอต้องรีบไปเล่าเรื่องที่ไปบ้านฉันให้พวกเขาฟังอย่างแน่นอน ส่วนแอนาเบลลากแขนฉันเข้าไปที่ฟลอร์ทันที เร็วเข้า เต้นหน่อย! เธอพูดขณะดึงฉันเข้าไป เสียงดนตรีเป็นจังหวะระทึกหนักหน่วง แทบจะรู้สึกได้ว่ามันสะเทือนเข้าไปถึงตับไตไส้พุงของฉันเลยทีเดียว ฉันสนุกกับการเต้นไปทั่วฟลอร์ พวกผู้หญิงที่เหลือเข้ามาร่วมกับเราทีหลัง พวกเราหัวเราะกันอย่างสนุกสนานเต็มที่พร้อมกับถ่ายรูปไปด้วย ฉันเห็นครอบครัวของฉันเพิ่งมาถึง พ่อกับแม่ยิ้มให้ฉันในขณะที่พวกเขากำลังเดินมา ฉันออกจะอิจฉาในความสง่างามเวลาที่พวกท่านอยู่ด้วยกัน พ่อสวมสูทสีดำมันขลับขณะที่แม่เองก็ดูสง่างามไม่แพ้กันในชุดเดรสสีน้ำเงินเข้ม ฉันโบกมือเพื่อเรียกให้พวกเขามาเต้นด้วย และได้ยินพ่อพยายามเกลี้ยกล่อมแม่อยู่พักหนึ่ง ไม่ช้าไม่นานพวกท่านก็เดินมาหาฉันพร้อมด้วยอลิซ, แจสเปอร์, โรซาลี่และเอ็มเม็ต ฉันกวาดสายตาไปรอบๆ โรงยิมเพื่อมองหาเจคอบแต่ไม่เห็นเขาเลย ซักพักฉันก็เห็นเทเล่อร์ ฉันได้ยินเจคอบบอกว่าจะมากับเขานี่ ฉันเดินไปหาเทเล่อร์เพื่อถามว่าเจคอบอยู่ที่ไหน เมื่อกี้เขายังอยู่ตรงนี้อยู่เลยเนสซี่ ไม่รู้ไปไหนแล้วเหมือนกัน เขาบอก ใจฉับวูบหล่น บางทีเขาอาจจะเปลี่ยนใจไม่มาแล้วก็ได้ แล้วแอนาเบลก็ปรากฏตัวขึ้นข้างๆ ตัวฉันและลากฉันกลับเข้าไปในฟลอร์อีกครั้ง มาเร็วเนสซี่ มาเต้นกับพวกเราหน่อย เธอบอก ฉันหันกลับไปหาเธอและตามเธอกลับไปที่ฟลอร์ แต่สายตายังคงกวาดไปทั่วห้องเพื่อมองหาเจคอบแต่ก้ไม่เห็นเขาอีกเลยเช่นกัน (อ้าว... เจค แกหายหัวไปอยู่ไหนล่ะเนี่ย) งานเต้นรำเป็นไปอยู่อย่างนี้เกือบตลอดทั้งคืน เราหยุดพักเพื่อหาอะไรดื่มกันนิดหน่อย ส่วนฉันก็ใช้เวลาสอดส่ายสายตาอย่างระวังระไวขณะที่เราเดินไปรอบๆ ยิมแต่ก็ไม่มีวี่แววเจคอบเลย คืนเต้นรำล่วงเลยไปชั่วโมงแล้วชั่วโมงเล่า ดนตรีเริ่มผ่อนคลายเป็นจังหวะช้าลงเรื่อยๆ ฉันนั่งลงที่โต๊ะและเฝ้าดูคนอื่นๆ จับคู่กันเต้นรำในเพลงช้า นี่คงเป็นตอนที่แย่ที่สุดของงานละมั้งเนี่ย ฉันมองดูแอนาเบลเต้นรำกับไมค์ เธอหันมาทำหน้าตลกล้อเลียนเขาทุกครั้งที่เขาหมุนเธอให้หันมาทางฉัน ฉันนึกไม่ออกเลยว่าเขาชวนเธอไปเต้นรำได้ยังไง เขาดูวางท่างี่เง่าออกจะตาย ตอนนั้นเองที่พ่อเดินมาที่โต๊ะแล้วยื่นมือออกมาหาฉัน คงไม่เป็นการทำให้ลูกอับอายหรอกใช่มั้ยถ้าจะเต้นรำกับพ่อสักเพลง? พ่อถาม ฉันถอนใจแล้วยื่นมือออกไปเป็นการตอบรับ คงจะขายหน้าอยู่บ้างหล่ะค่ะเพราะคนเดียวที่หนูเต้นด้วยคือพี่ชายของหนูแต่ก็นะ... ฉันตอบ พ่อจับมือเดินนำฉันไปยังฟลอร์เต้นรำ ซื่อบื้อจริงๆ เลยเรา ฉันคิด พ่ออาจจะต้องขอโทษลูกในเรื่องนั้น พ่อคิดว่าการไปโรงเรียนด้วยกันกับพ่อคงไม่ง่ายนัก โดยเฉพาะพ่อที่อ่านความคิดได้ด้วย พ่ออยากให้ลูกรู้ว่าผู้ชายทุกคนในห้องนี้อยากเต้นรำกับลูกใจจะขาด เป็นความผิดของพ่อเองที่ไปขู่ให้พวกเขากลัว ฉันกลอกตาไปมา หนูก็ว่างั้นหล่ะค่ะพ่อ ฉันตอบแต่ตายังคงมองหาเจคอบ พ่อพูดจริงๆ นะ เจ้าสเป็นซ์คนนั้นเถียงกับตัวเองทั้งคืนว่าจะขอลูกเต้นรำ โชคร้ายที่เขากลัวเกินกว่าที่จะลอง ฉันมองไปทางสเป็นซ์ผู้ซึ่งกำลังจ้องมองฉันจากอีกฝั่งห้องทันที เขากำลังยืนพิงกำแพงอยู่ ฉันมองพ่อด้วยสีหน้าว่า เราจำเป็นต้องคุยเรื่องนี้กันจริงๆ เหรอคะ เขาหัวเราะ ลูกรู้มั้ยว่าคนเป็นพ่อส่วนใหญ่น่ะไม่ต้องรับมือเรื่องหนุ่มๆ กับลูกสาวเร็วขนาดนี้ ปกติแล้วก็อีกตั้งเก้าหรือสิบปีโน่นแน่ะ ถ้าพ่อเป็นพ่อของคนธรรมดาทั่วไป พ่อคะ เราจำเป็นต้องคุยเรื่องนี้กันจริงๆ เหรอคะ เขาถอนใจ พ่อแค่อยากให้ลูกรู้ว่า แม่กับพ่อรักลูกมากแค่ไหน หนูก็รักพ่อกับแม่มากค่ะ ฉันบอกอย่างไม่อยากให้เรื่องยาว ฉันยังไม่อยากให้มันกลายเป็นฉากซึ้งๆ ของพ่อลูกในงานเต้นรำ เราอยากให้ลูกรู้ว่า ไม่ว่าลูกจะตัดสินใจยังไง เราก็เชื่อใจลูกนะ นี่ตกลงเราจะเล่นบทซึ้งกันจริงๆ เหรอเนี่ย? ฉันคิด ฉันยังไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะเล่นบทแสดงความรักยิ่งใหญ่ระหว่างพ่อกับลูกในเวลาแบบนี้ หนูทราบค่ะพ่อ ฉันตอบน้ำเสียงไร้น้ำอดน้ำทนด้วยหวังว่าเราจะจบการสนทนานี้เร็วๆ และเราอยากให้ลูกรู้ว่า เรารู้ดีว่าลูกจะตัดสินใจถูก เพราะลูกได้เติบโตมาเป็นหญิงสาวที่ฉลาดเฉลียวและสง่างาม ฉันยิ้มตอบ ขอบคุณค่ะพ่อ พ่อไม่ได้ตอบอะไรอีกหลังจากนั้น จนเราเต้นรำกันจนจบเพลง ลูกลองไปชวนสเป็นซ์เต้นรำสิ ดูท่าคืนนี้เขาคงไม่กล้าชวนลูกเองหรอก พ่อบอกกับฉันหลังเดินกลับมาที่โต๊ะ ฉันเลิกคิ้วใส่เขา หลังจากความคิดเลยเถิดเกินงามของสเป็นซ์ต่อฉัน เคยสร้างปัญหาให้พ่อมาแล้ว พ่อยังจะอยากให้ฉันไปชวนเขาเต้นรำอีกเหรอ? พ่อยักไหล่ พ่อจะยกโทษให้เขาซักครั้ง อีกอย่างมันคงดูประหลาดถ้าคืนนี้ลูกจะได้เต้นรำกับพี่ชายแค่คนเดียว จริงมั้ย? ฉันเดินข้ามห้องไปยังฟากที่สเป็นซ์ยืนอยู่ เขาดูประหลาดใจที่ฉันเป็นฝ่ายมาหาเขาเอง ฉันได้ยินเสียงหัวใจเขาเต้นแรงขึ้น หวัดดีสเป็นซ์ ฉันทัก เฮ้ เนสซี่ แล้วก็แทนที่ด้วยความเงียบที่น่าอึดอัด เอ่อ.. เธอจะเต้นรำกับฉันได้ไหม? ฉันเอ่ยชวน ความเงียบงันกลับคืนมาอีกครั้ง สเป็นซ์? ได้ ได้สิได้เลย เขาตอบ ฉันยื่นมือให้เขานำไปที่ฟลอร์ มือของเขาสั่นน้อยๆ และเริ่มมีเหงื่อออก ฉันวางมือลงบนไหล่ของเขาขณะที่เขาประทับมือเข้ากับเอวของฉัน ฉันมองแล้วยิ้มให้เขานิดหนึ่ง พยายามให้เขาผ่อนคลาย เขายิ้มตอบกลับมาอย่างเกร็งๆ คืนนี้เต้นรำสนุกมั้ยล่ะ? ฉันถามเขา อื้ม แล้วฉันก็มองไปรอบๆ ฟลอร์เพื่อหวังว่าจะเจอเจคอบที่ไหนซักแห่ง และเห็นอลิซกับแจสเปอร์กำลังเต้นรำกัน ฉันยิ้มให้อลิซและเธอก็ยิ้มตอบ โชคไม่ดีนักที่แจสเปอร์แยกเขี้ยวยิ้มเยือกเย็นให้สเป็นซ์อีกครั้ง ฉันรู้สึกว่ามือเขากระตุก เขาคงกำลังเถียงกับตัวเองในใจว่าจะยังเต้นต่อไปหรือว่าจะวิ่งหนีดีละมัง ฉันถอนหายใจและมองเหม่อออกไปไกลหวังลึกๆ ในใจว่า น่าจะเป็นเจคที่ฉันกำลังเต้นรำอยู่ด้วย (ขอโทษนะสเป็นซ์) ฉับพลันฉันก็รู้สึกว่ามือของสเป็นซ์กระชับฉันเข้าไปใกล้ยิ่งขึ้น เหมือนกับเขาจะตัดสินใจได้แล้วว่าจะไม่แคร์สายตาของเหล่า พี่ชาย ของฉัน ฉันเริ่มกังวลเพราะไม่อยากเต้นรำใกล้ชิดใครขนาดนี้ ฉันไม่อยากให้เขาเข้าใจผิด ฉันเงยหน้าขึ้นมองเป็นการปรามแต่เขากำลังเตรียมที่จะพูดอะไรซักอย่าง เนสซี่ ผม... เขาชะงักค้างอยู่แค่นั้นขณะที่ฉันรู้สึกถึงฝ่ามือที่อบอุ่นบนหลังของฉัน เนสซี่ ได้โปรดเต้นรำกับผม เจคอบกระซิบเบาๆ ที่ข้างหู สัมผัสจากลมหายใจของเขารวยรินอยู่ข้างๆ ต้นคอของฉัน (โอ้โห! เจค แกมาขโมยตัวนางเอกแบบนี้เลยเหรอเนี่ย สงสารสเป็นซ์อีกแล้วอ่ะ) ฉันรู้สึกได้เลยว่าแก้มของฉันเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ ฉันมองกลับไปที่สเป็นซ์ สีหน้าเขาบ่งบอกถึงความพ่ายแพ้(ต่อเจคอบ) เขาแพ้ก่อนที่จะมีโอกาสได้ทันสู้เสียอีก เขาเดินจากไปอย่างเงียบๆ ฉันหันกลับมาหาเจคอบ หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อฉันมองเขาเต็มตา เขาดูสมบูรณ์แบบที่สุด ฉันไม่เคยเห็นเขาแต่งตัวเป็นทางการมาก่อนเลย เขาสลัดคราบเครื่องแต่งกายสบายๆ มาแต่งตัวไปงานได้อย่างสมบูรณ์แบบจริงๆ แน่นอนหล่ะว่าไม่ผูกไทด์ (ฉันก็เพิ่งจะคิดว่าแกหล่อก็งานนี้แหล่ะเจคเอ๊ย...) ฉันวางแขนทั้งสองบนไหล่ของเขา เกือบจะต้องขเย่งจนสุดปลายเท้าเสียแล้วเพราะเขาสูงกว่าฉันมาก ฉันรู้สึกถึงอ้อมแขนอันอบอุ่นที่โอบกระชับรอบเอวดึงฉันเข้าไปใกล้ยิ่งขึ้น ฉันเงยหน้ามองขึ้นไปเพื่อที่จะได้พบกับสายตาของเขาที่มองลงมาเช่นกัน เราแทบไม่ได้พูดอะไรกันเลย มันรู้สึกเหมือนมีกระแสไฟฟ้าวิ่งผ่านร่างของเราทั้งคู่ หัวใจของฉันเริ่มเต้นรัวและเพิ่งรู้สึกตัวว่าเราอยู่ใกล้กันแค่ไหน ร่างกายของเราทาบประกบกันพอดีกระทั่งฉันรู้สึกได้ถึงแรงเต้นของหัวใจเขาที่ทาบอยู่กับเนื้อตัวของฉัน ทันใดนั้นฉันก็รู้สึกเหมือนถูกทรมาน รู้ดีว่าฉันไม่สามารถคิดกับเขาในทางที่ฉันต้องการได้ ฉันติดอยู่ตรงกลางระหว่างความหวังที่เราจะสามารถเป็นอะไรกันได้มากกว่านั้น แต่ก็รู้อยู่แก่ใจว่าเขายังไม่พร้อมที่จะเป็นอะไรกับฉันในทางนั้น ฉันต้องดึงตัวเองออกมาเพราะสิ่งที่ฉันกำลังรู้สึกอยู่มันทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นเมื่อเรายิ่งอยู่ใกล้กัน เมื่อฉันไม่มีทางได้สมใจในสิ่งที่หวัง ฉันก็ไม่อยากทรมานตัวเองมากไปกว่านี้ ฉันพยายามผละออก เจค ฉันกระซิบ ได้โปรด... มันใกล้เกินไปแล้ว ฉันดิ้นรนอยู่ในอ้อมแขนของเขา เขาไม่ได้พูดอะไรกลับยิ่งรั้งตัวฉันให้แนบแน่บยิ่งขึ้น ลมหายใจฉันขาดห้วง ฉันคงจะแหลกเหลวคามือเขาเป็นแน่ เขาไม่แคร์เลยหรือไงกันว่ามันจะส่งผลยังไงกับฉันบ้าง? หากเมื่อเขาผละจากไปและความจริงเข้ามาแทนที่ ฉันรู้ดีว่าฉันคงจะต้องตกอยู่ในห้วงทุกข์แสนสาหัสอีกครั้งเมื่อมันจบลงและไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าการเต้นรำ เขาโน้มตัวลงมาและฉันรู้สึกถึงริมฝีปากของเขาไล้แผ่วเบาอยู่กับหน้าผากของฉัน ลมหายใจอุ่นๆ ทำให้แก้มฉันแดงปลั่ง ฉันอยากจะเงยหน้าขึ้นไปหาและบังคับให้เขาจูบฉันแต่ฉันไม่มีความกล้าขนาดนั้น ฉันได้แต่ก้มหน้ามองตรง ริมฝีปากนุ่มๆ ของเขาแตะแก้มฉันเบาๆ และหยุดลงข้างๆ ริมฝีปากของฉัน ฉันหยุดหายใจ แขนรั้งไหล่ของเขาแน่นขึ้น ได้ยินเสียงหัวใจเขาเต้นแรงขึ้นอีก ฉันตระหนักว่าร่างกายของเขาอุ่นขึ้นเมื่อเหงื่อหยดเล็กๆ ของเขาหล่นลงบนต้นคอของฉัน ได้โปรดจูบฉัน ฉันคิด เพลงหยุดลงและเขาก็เช่นกัน ไม่นะ! ฉันปล่อยให้ตัวเองมีความหวังเพื่อที่จะผิดหวังในท้ายที่สุดละหรือ ฉันผิดหวังต่อตัวเองจริงๆ ที่ปล่อยใจอย่างโง่เง่าถึงเพียงนั้น ฉันกลัวที่จะมองหน้าเขา เขาจะมีปฏิกิริยากับฉันยังไงนะ? ฉันรวบรวมความกล้าที่จะเชิดหน้าขึ้นมองไปยังใบหน้าของเขา ทันใดนั้นฉันก็รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง มีอะไรบางอย่างเปลี่ยนไป เพียงแต่ฉันไม่รู้ว่ามันคืออะไร หรือบางทีฉันอาจจะรู้แต่กลัวเกินไปหากว่าคิดไปเอง เขายิ้มตอบฉัน กุมมือฉันเอาไว้ วิธีที่เขาลูบไล้ที่หลังมือของฉันด้วยนิ้วโป้งให้สัมผัสลึกซึ้งอย่างเหลือเชื่อที่สุด เจค! เนสซี่! เร็วเข้า เราจะไปกันแล้วนะ! อาฟเตอร์ปาร์ตี้! แอนาเบลตะโกนเรียกจากระยะไกล ฉันหันหน้าไปทางเธอ เธอกำลังโบกมือเรียกเรา ตอนที่ฉันกำลังเดินไปหาเธอ ฉันเหลือบเห็นครอบครัวของฉันแวบหนึ่ง ในรอยยิ้มของพ่อกับแม่มีร่องรอยของความเศร้าเจืออยู่บางๆ ขณะที่เราโบกมือให้กัน ************************ จบบทที่ 11 ************************ PS. : ในที่สุดเจ้าเจคก็ตัดสินใจได้สักทีนะ ฉันดีใจกับแกด้วยจริงๆ และเริ่มจากบทนี้เป็นต้นไป เนื่องจากเจคตัดสินใจได้แล้วว่าจะมองเนสซี่ในแบบหญิงสาวและคนรักจริงๆ เสียที ก็เลยเปลี่ยนคำแทนตัวเป็นผม และเรียกเนสซี่ว่าคุณแล้วจ้า รอตอนต่อไปอยู่นะคะพี่อุ๋ม
กดดันๆๆๆๆ คิคิ โดย: kookkaid IP: 119.42.98.75 วันที่: 16 สิงหาคม 2552 เวลา:14:37:43 น.
รอนิดนึงนะ วันนี้ขอหยุดพักเฉยๆ นอนกลิ้งเกลือก และทำงานบ้านเล็กน้อยนิดนึง ...
(เริ่มออกอาการขี้เกียจแล้วสิ) โดย: amuro4ever วันที่: 16 สิงหาคม 2552 เวลา:14:57:20 น.
ขออ่านด้วยนะ ชอบมากต้องขอบคุณอย่างแรง
โดย: pa-to31 IP: 222.123.241.179 วันที่: 16 สิงหาคม 2552 เวลา:17:06:07 น.
ช่วยแต่งต่อด้วยนะครับ สนุกมากๆ
จะเข้ามาชมทุกวันครับ รบกวนช่วยแต่งต่อด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ โดย: เอครับ IP: 125.24.123.46 วันที่: 16 สิงหาคม 2552 เวลา:17:24:18 น.
รอ ติด ตาม ตอน ต่อ ไป คร่า ..*-*
โดย: นู๋มด IP: 114.128.161.252 วันที่: 16 สิงหาคม 2552 เวลา:17:35:28 น.
พี่อุ๋มไม่ปล่อยให้พวกเรารอนานหรอกชิมิคะ ^ o ^
โดย: นู๋มาย IP: 124.121.236.158 วันที่: 16 สิงหาคม 2552 เวลา:18:59:31 น.
เว้นไว้เช็คเรตติ้งหน่อยนะ แป่ว! อันที่จริงแล้วขี้เกียจ อาทิตย์นี้ท่าทางจะงานเข้าตั้งแต่ต้นสัปดาห์เลยอ่ะ อาจจะไม่ได้แปลเร็วอย่างที่เคย รอกันหน่อยนะ โดย: amuro4ever วันที่: 17 สิงหาคม 2552 เวลา:7:23:13 น.
มาทำให้อยากแล้วจากไปให้รอนานอีกละ
แต่พี่อุ๋มคงไม่ทำให้น้องๆๆ รอนาน (จนเกินไปหรอก) จิงมะคะ เหอเหอ กดดันๆๆๆๆ ต่อไป โดย: kookkaid IP: 210.4.138.41 วันที่: 17 สิงหาคม 2552 เวลา:10:39:59 น.
เพิ่งเข้ามาครั้งแรกคะ ขอบคุณมากๆคะ คุณอุ๋ม
รอต่อนะค่ะ โดย: paaratee IP: 125.25.186.166 วันที่: 17 สิงหาคม 2552 เวลา:22:44:58 น.
วันเน้อ่านตั้งแต่บทที่ 4 จนมาถึงบทนี้แล้วค่ะ
รออ่านตอนต่อไปอยู่นะค่ะ อย่าให้รอนานนะค่ะ....เด๋วจาลงแดงซะก่อน..อิอิ ขอบคุณมากๆเลยค่ะที่แปลให้ได้อ่านกาน แอบกดดันนิสนึงอย่าให้รอนานนะค่ะ..แหะๆ โดย: เปิ้ล IP: 203.146.0.227 วันที่: 18 สิงหาคม 2552 เวลา:16:59:35 น.
ขอบคุณนะค่ะ ที่แปลมาให้อ่านกัน
โดย: cha IP: 58.9.248.21 วันที่: 18 สิงหาคม 2552 เวลา:20:14:03 น.
ขอบคุณนะคะ เพิงมาเป็นสมาชิกรักคนแปล อ่านจนไม่อยากทำอะไรเลยติดๆๆๆๆ
แปลต่อนะคะ ขอบคุณค่ะ โดย: parn IP: 124.120.249.59 วันที่: 8 พฤศจิกายน 2552 เวลา:21:31:47 น.
|
amuro4ever
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?] |
แถมๆ แฟชั่นสำหรับเบลล่าในงานเต้นรำคืนสู่เหย้า คนเขียนอธิบายว่ามันเป็นชุดกระโปรงคอกเทลสีน้ำเงินเข้ม งานคอกเทลส่วนใหญ่จะเป็นกระโปรงสั้นเลยเข่ามานิดนึง คล้ายชุดของหนูน้อยเนสซี่นั่นแหล่ะ แต่อยากให้เบลล่าเซ็กซี่ขึ้นกว่าเดิมอีกนิด เลยนึกภาพออกมาเป็นชุดนี้
เซ็กซี่มะ