ตอนที่สองกับการขับขี่ทดสอบยนตรกรรม SUV ระดับพรีเมี่ยม Volvo XC60 D4...

พยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาเกี่ยวกับพายุนารีที่จะพัดเข้าสู่ประเทศไทยในวันที่ 15 ตุลาคม 2556 กำลังจะสร้างความยากลำบากในการขับทดสอบ Volvo XC60 D4 สภาพอากาศที่เอาแน่อะไรไม่ได้ในช่วงก่อนเปลี่ยนฤดู รวมกับพายุดีเปรสชั่นที่พัดปกคลุมประเทศไทยจนทำให้ภาคตะวันออกมีน้ำท่วมขังหลายพื้นที่สร้างปัญหาให้กับการขับ SUV คันนี้อยู่ไม่น้อย เนื่องจากมีเวลาไม่มากนักเมื่อดูจากแผนที่อากาศ พายุที่กำลังเคลื่อนตัวเข้าไทยในวันรุ่งขึ้นทำให้ผมต้องรีบแจ้นพาเจ้า XC60 ออกทางไกลทันทีที่รับรถมาจากสำนักงานใหญ่ของ Volvo Car Thailand แถบคลองตัน ท้องฟ้าที่ส่ออาการไม่ปกติเดี๋ยวมึดเดี่ยวสว่างกับอากาศที่ร้อนอบอ้าวรวมถึงกระแสลมที่นิ่งสงบผิดปกติ ทำให้สามารถรับรู้ได้ว่าอีกไม่นานนักฝนจะต้องตกลงมาอย่างแน่นอน

สัดส่วนความสูง 1,713 มิลลิเมตรทำให้การนั่งในตำแหน่งเบาะคนขับมีมุมมองที่ไกลมากกว่ารถเก๋งทั่วไป รูปแบบ SUV ของมันยังบ่งบอกถึงตัวตนความเป็นรถลุย (แม้จะขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หน้า) ขนาดที่บึกบึนใหญ่โตพอฟัดพอเหวี่ยงกับ BMW X3 xDRIVE 20D รวมทั้ง Subaru Forester XT ซึ่งเป็นรถคู่แข่งสายพันธุ์ลุยด้วยกันทั้งคู่ รถ Volvo XC60 D4 ยังมีห้องโดยสารที่โอ่โถงกว้างขวาง การดีไซน์และการจัดวางอุปกรณ์ในรูปแบบและสไตล์ของ Volvo นับว่ามีความเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนรถยี่ห้ออื่น ๆ ทั้งตัวเบาะแบบทูโทน คอนโซลโฟมขึ้นรูปหุ้มหนัง แผงคอนโซลกลางที่ใช้ไม้แผ่นใหญ่สีเหลือง ทุกสิ่งทุกอย่างภายใน Cockpit ของ XC60 คล้ายงานฟอร์นิเจอร์ในห้องรับแขกหรู ๆ ที่โดดเด่นมากคืองานแผงประตูหุ้มเดินกรอบด้วยอัลลอยสีเงิน กับหัวเกียร์ดีไซน์ใหม่ที่ใช้พลาสติกใสสีขาวมาหุ้มให้เข้ากับหนังแท้ได้อย่างกลมกลืน สำหรับมุมมองด้านหลังมีเสาท้ายที่ค่อนข้างใหญ่บดบังอยู่พอสมควร ทดแทนด้วยกระจกฝาท้ายบานใหญ่ที่ช่วยเพิ่มมุมมองด้านหลังบวกกับขนาดของความสูงทำให้การขับขี่ควบคุมเจ้ารถคันนี้มีทัศนวิสัยที่กว้างไกลพอสมควร

ในเมืองแรงบิด 400 นิวตันเมตร จากเครื่องดีเซล 5 สูบ 20 วาล์ว กับชุดอัดอากาศเทอร์โบแรงได้ใจ กดคันเร่งเบา ๆ มันจะพุ่งออกตัวทันที หากกดกันแบบสุด ๆ ก็แทบจะกระโจนออกตัวกันเลยทีเดียว การออกแบบอัตราทดในเกียร์ 1 ที่เข้มข้นขนาดนี้มีไว้เพื่อนำพาตัวถังหนักเกือบสองตันให้ปลิวไปตามแรงเท้าได้อย่างสะดวกโยธิน มันทำให้ผู้ขับขี่ไม่รู้สึกถึงความอืดอาดเชื่องช้าบนรถคันนี้แต่อย่างใดทั้งสิ้น เกียร์ตัดต่อขึ้นลงสั้น ๆ ไปตามสภาพการจราจรที่ค่อนข้างจราจลได้อย่างเนียนลื่นไร้อาการกระตุกกระชากหรือแข็งกระด้าง บนถนนในกรุงเทพฯ จากการเปิดใช้โหมดการขับเคลื่อน City Safety การเฝ้าระแวดระวังขั้นสูงจะเกิดขึ้นในย่านความเร็วต่ำ ทั้งการช่วยเบรกด้วยตัวของมันเอง เป็นการเบรกแบบฉุกเฉินหากผู้ขับเผลอหรือขาดความระมัดระวังที่ย่านความเร็วไม่เกิน 30 กิโลมตรต่อชั่วโมง ตอบสนองต่อรถคันข้างหน้ารวมถึงคนเดินเท้าที่เฉียดเข้าใกล้ตัวรถจนอาจก่อให้เกิดอันตราย ผมเปิดมันไว้เพื่อเฝ้าดูการทำงานของ  City Safety แต่ไม่ยอมให้มันเข้ามาแทรกแซงในเรื่องของการเบรกแต่อย่างใดทั้งสิ้น อย่างที่บอกว่าการเบรกแบบฉุกเฉินด้วยระบบ City Safety จะเกิดขึ้นแบบฉับพลันทันทีที่เซ็นเซอร์ตรวจพบการเข้าใกล้วัตถุกีดขวางด้านหน้าจนมันตัดสินใจว่าจะก่อให้เกิดการชน (ที่ความเร็วไม่เกิน 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) มันจะเบรกแบบเต็มกำลังชนิดหัวทิ่มหัวตำ ซึ่งสื่อมวลชนสายยานยนต์ได้ทำการทดสอบมาแล้วเมื่อครั้งเปิดตัวรถ Volvo V60

ระบบบังคับเลี้ยวในย่านความเร็วต่ำเมื่อขับในเมืองมีน้ำหนักที่พอดิบพอดี ไม่เบาหรือหนักจนเกินไป เบาะหุ้มหนังแท้แบบทูโทนสีน้ำตาลอ่อนสลับเข้มนั่งได้สบายก้นแต่ไม่นุ่มนิ่มเท่ากับเบาะของ Volvo 760 Turbo หรือแม้แต่ใกล้เคียงกับเบาะที่นั่งสบายสุด ๆ ของ 960 แต่มันอาจแลกเปลี่ยนด้วยความคงทนจากความหนาของหนังแท้ที่ใช้ห่อหุ้ม อย่างไรก็ตาม คุณสามารถขับมันได้ทั้งวันตั้งแต่ขับในเมืองไปจนถึงการออกเดินทางไกล ตำแหน่งของท่านั่งที่ดีและมีความสูงทำให้ไม่เกิดอาการเมื่อยเนื้อปวดตัวแต่อย่างใดทั้งสิ้น ความคล่องแคล่วว่องไวในเมืองเมื่อลองเปลี่ยนทิศทางมุดไปมุดมาด้วยตัวรถที่มีเรือนร่างโตกว่ารถปกติ มันเหมือนกับการขับรถสเตชั่นแวนกอนดี ๆ สักคันที่ถูกเอาไปยกจนสูงโย่งโก๊ะ จุดเด่นอีกตำแหน่งของรถทดสอบคันนี้คือการมีฝาท้ายที่เปิดหรือปิดได้ด้วยการกดปุ่มเพียงแค่ครั้งเดียว ไม่ว่าจะกดสั่งงานบนรีโมตคอนโทรล กดปุ่มเปิด-ปิดฝาท้ายที่สวิตช์ในห้องโดยสาร ฝาท้ายจะเปิดออกหรือปิดลงได้ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็ก มันช่วยเพิ่มความสะดวกสบายเมื่อคุณต้องถือของชิ้นใหญ่จนไม่สามารถเอื้อมมือไปเปิดฝาท้ายแล้วออกแรงยกด้วยตัวเองได้

การใช้ชีวิตบนรถคันนี้กับครอบครัวในช่วงวันหยุดคงต้องมองหาทางที่ลุย ๆ สักหน่อยแต่ต้องไม่โหดร้ายมากนักเนื่องจากมันเป็นรถลุยแต่ขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หน้าไม่ใช่ตัวเต็มในชุดขับสี่แบบ AWD แทนที่จะขับมันด้วยความน่าเบื่อบนถนนที่ติดขัดของกรุงเทพมหานคร บนไฮเวย์ มันทำตัวได้ดีพอใช้ แต่อย่าคาดหวังถึงแรงฉุดมหาศาลในย่านรอบเครื่องยนต์เกิน 3,500 รอบต่อนาที เมื่อลงคันเร่งลึกเพื่อแซงในย่านความเร็วเกิน 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง การคิกดาวน์เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ความเร็วจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นช้า ๆ เป็นไปอย่างต่อเนื่องแต่ไม่มีความรู้สึกว่ารุนแรง มันไหลไปตามอัตราทดแบบ 6 สปีด ซึ่งเป็นเกียร์อัตโนมัติแบบทริปทรอนิกส์ ความมั่นคงบนไฮเวย์เกิดจากการกระจายน้ำหนักเพลาขับที่ดีเยี่ยม รวมถึงน้ำหนักของพวงมาลัยที่ความเร็วสูงก็ยังให้ความมั่นใจได้ดี ล้ออัลลอยลาย 6 ก้านตัน ๆ ขอบ 7.5x18" มียางไซส์ 235/60/R18 103V เป็นยางราคาแพงยี่ห้อ  Pirelli รุ่น P ZERO ROSSO ยางส่งถ่ายกริ้บของการยึดเกาะและทำงานกับระบบรองรับได้อย่างลงตัวเนื่องจากความสดใหม่ เสียงบดของยางที่เกิดขึ้นกับผิวถนนดังลอดเข้ามาให้พอได้ยินเมื่อปิดเครื่องเสียงแล้ววิ่งที่ความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนเสียงการทำงานของเครื่องยนต์ดีเซลรหัส D4 เงียบขึ้นมากเมื่อเทียบกับเครื่องดีเซลรุ่นเก่า เสียงของเครื่องยนต์ในรอบสูงยังช่วยทำให้เลือดลมสูบฉีดจากเสียงการทำงานของชุดอัดอากาศแบบเทอร์โบเมื่อมันเริ่มต้นการบูส

XC60 D4 2013 รุ่นใหม่มีความอ่อนช้อยลงตัว เรือนร่างที่โค้งมนได้สัดส่วนลบความแข็งกระด้างของรุ่นที่แล้วไปจนหมดสิ้น ภาพลักษณ์โดยรวมของตัวรถดีขึ้น แต่ยังคงมีบางจุดที่ด้อยกว่าคู่ต่อสู้ทั้งระบบขับเคลื่อนและระบบส่งกำลัง แต่มันมีการขับขี่ที่ดีและยังมีระบบความปลอดภัยที่เหนือชั้น ตัวถังที่ทนแรงบิดและผ่านการทดสอบการชนปะทะในระดับห้าดาวของ EURO NCAP ระบบช่วยในการอำนวยความสะดวกและปกป้องผู้ขับกับผู้โดยสารในระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันนับสิบรายการที่ถูกบรรจุอยู่ในรถคันนี้ การเปลี่ยนแปลงในบางแง่มุมของวัสดุที่ใช้สร้างทำให้น้ำหนักโดยรวมของมันเบาลง ซึ่งส่งผลไปถึงอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ดี เมื่อขับใช้งานในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพมหานคร มันทำอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 10.7 กิโลเมตรต่อลิตร ส่วนการวิ่งทางไกลมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 14.7 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งนับว่าเป็นรถ SUV หรูที่มีความประหยัดอยู่ในระดับแนวหน้าของวงการ สำหรับเครื่องยนต์ 5 สูบ 2.0 ลิตร ซึ่งเป็นเครื่องดีเซลนั้น ให้สมรรถนะของการฉุดลากที่ดี ทั้งการวิ่งซอกแซกไปในเมืองใหญ่หรือการวิ่งทางไกลยาวๆก็ทำได้ดีน่าประทับใจ

การนำรถคันนี้ไปลุยในพื้นที่ทุรกันดารสามารถทำได้แม้จะมีเพียงแค่ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า เมื่อวิ่งผ่านทางลูกรังที่มีหลุมบ่อขนาดใหญ่ กันสะเทือนที่ปรับมาให้รองรับกับสภาพทางโหด ๆ ซึมซับการสั่นสะเทือนได้ดี เซ็นเซอร์แจ้งเตือนวัตถุกีดขวางจะร้องเตือนตลอดเวลาเมื่อรับรู้ว่ารถกำลังอยู่ในระนาบองศาที่ผิดปกติ หลุมลึก พุ่มไม้หรือเนินที่มีความลาดชันโดนเจ้าเซ็นเซอร์สแกนตรวจจับได้แล้วแปรเปลี่ยนเป็นสัญญาณเสียงเพื่อเตือนคนขับให้รับรู้ว่ากำลังลุยอยู่บนทางที่ไม่ปกติ การไต่เนินชันอาจทำได้ไม่ดีเท่ากับรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อแต่มันก็สามารถตะกายไปจนได้แบบทุลักทุเล ระบบควบคุมการทรงตัวเมื่อเกิดการโคลง Roll Stability Control - RSC ทำหน้าที่ตรวจจับและปรับอาการโคลงของรถเพื่อป้องกันการพลิกคว่ำแต่ในสภาพทางที่ไม่มีความสม่ำเสมอแบบนี้ควรลดความเร็วแล้วประคองพวงมาลัยลัดเลาะไปตามขอบของหลุมบ่อ ดีกว่าจะอัดแบบไม่ยั้งแล้วสุดท้ายก็พลาดจนไปต่อไม่ได้ ที่ชอบก็คือขระที่ลุยทางไม่เรียบนั้น เสียงในห้องโดยสารที่เงียบแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในขั้นตอนของการประกอบได้ดี แซสซีส์ที่แข็งแกร่งยังลดการบิดตัวขณะขับลงเนินชนิดหน้าทิ่ม หรือเอียงกระเท่เร่เมื่อไต่ขอบทางที่สูงต่ำไม่เท่ากัน

คุณไม่จำเป็นต้องประกอบอาชีพหมอ นักบินหรือวิศวกรก็สามารถขับเจ้า Volvo XC60 D4 ได้อย่างไม่เคอะเขินหากคุณชอบรถยนต์ประเภท SUV ระดับพรีเมี่ยมที่มีความปลอดภัยสูง เมื่อต้องจ่ายไปถึง 3 ล้าน สิ่งที่จะได้รับกลับมาคือรถครอบครัวไซล์กลางค่อนไปทางตัวโตมากกว่าปกติจากความสูง คุณจะได้ระบบความปลอดภัยที่เหนือกว่ารถคู่แข่งและการขับขี่ที่สะดวกสบาย แรงบิด 400 นิวตันเมตร เพียงพอที่จะนำพาเจ้า XC60 D4 ให้ไปในทุก ๆ ที่ที่มีถนนได้อย่างอยู่รอดปลอดภัย ด้วยเงิน 3 ล้าน คุณจะได้ภายในที่ตกแต่งในสไตล์ สแกนดิเนเวียอันเป็นเอกลักษณ์ของ Volvo กับภาพลักษณ์ที่ดูดีมีชาติตระกูลรวมถึงความประหยัดที่แถมพกมาให้ ค่าย Volvo มักจะทำรถยนต์สำหรับครอบครัวเพื่อการใช้งานที่สมบุกสมบัน XC60 D4 อาจไม่เหมาะสำหรับทุก ๆ คน แต่มันเหมาะสมมากเมื่อคุณต้องการแสดงความห่วงใยต่อครอบครัวที่คุณรักเมื่อต้องเดินทางร่วมกันในช่วงวันหยุดพักผ่อน.