พระเครื่อง : แหล่งข้อมูลบทความพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง และวัตถุมงคล
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2556
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
22 ธันวาคม 2556
 
All Blogs
 
เปิดหลังคาท้าลมหนาวกับ SLK200 AMG DYNAMIC (ตอนที่2)

เปิดหลังคาท้าลมหนาวกับ SLK200 AMG DYNAMIC (ตอนที่2)

ลมหนาวโชยโบกมาพร้อมกับบรรยากาศของการเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในประเทศไทย ทดสอบ Mercedes Benz SLK200 AMG Dynamic ยนตรกรรมโรสเตอร์เปิดหลังคาสุดแหล่มในช่วงต้นฤดูหนาว...

เมื่อสภาพอากาศเป็นใจสิ่งแรกสุดที่ีคุณควรจะทำบนรถ Mercedes Benz SLK200 AMG Dynamic คือการพับหลังคาลง มันควรจะเป็นเช่นนั้น ในรถที่มีรูปแบบ Roadster การขับขี่แบบกินลมชมวิวทิวทัศน์แบบไหลไปเรื่อยๆ เหมาะสมมากกว่าจะนำมันมาขับซิ่งใช้ความเร็วสูง เนื่องจากรูปแบบเปิดประทุนของตัวรถ แม้ SLK จะมีการขับขี่ด้วยความเร็วสูงดีเยี่ยมจากการปิดหลังคา แต่มันจะดูดีและมอบสิ่งที่แปลกแยกแตกต่างจากรถยนต์ทั่วไปเมื่อเอาหลังคาลงไปเก็บไว้ยังใต้ฝากระโปรงท้าย การขับด้วยความเร็วสูงด้วยรูปแบบพับหลังคาลงนอกจากจะทำให้ผมบนหัวของคุณยุ่งเหยิงแล้ว ดวงตาของคุณอาจได้รับผลกระทบจากกระแสลม ความเร็วต่ำบนรถเปิดประทุนจึงเป็นสิ่งพิเศษที่เชื่อมโยงผู้ขับกับธรรมชาติรอบๆ ตัวอย่างแท้จริง หลังคาที่พับเก็บได้ยังสามารถกางออกด้วยความรวดเร็วพอที่จะกันศีรษะคุณจากสายฝนที่ตกลงมาอย่างกะทันหัน ด้วยตัวถังที่แบน ด้านหน้ายาว ท้ายสั้นกุด นี่คือรูปแบบของรถไร้หลังคาในอดีตที่ค่ายตราดาวพยายามสื่อให้เห็นถึงนวัตกรรมสปอร์ตโรสเตอร์สองที่นั่งซึ่งโยงใยอดีตอันงดงามของรถยนต์ประเภทนี้ให้เข้ากับสภาพการใช้งานในปัจจุบันได้อย่างกลมกลืน


ตำแหน่งท่านั่งที่ถูกปรับเบาะให้เตี้ยสุดๆ ส่งผลให้ความรู้สึกเหมือนนั่งอยู่ใน Cockpit ของเครื่องบินรบ มันทั้งกระชับและมีมุมมองด้านหน้าที่เปิดโล่งจากกระจกบานหน้าขนาดใหญ่ที่มีองศาของความลาดเอียงมากกว่ารถซีดาน เสาหน้าที่โค้งต่ำลงถูกวิศวกรของ Mercedes Benz ออกแบบมาเพื่อลดค่าแรงต้านทานของอากาศกับลดกระแสลมหมุนวนที่จะเข้ามายังห้องโดยสารเพื่อพับหลังคาวิ่ง ส่วนมุมมองด้านหลังมีเสาท้ายขนาดใหญ่บดบังจนต้องเพิ่มความระมัดระวังเมื่อต้องเปลี่ยนเลนกะทันหัน เสาท้ายทรงโค้งที่พับเก็บได้กับเบาะที่ต่ำเตี้ยคือจุดบอดของมุมมองในตำแหน่งการขับ SLK R172 ซึ่งมีท่านั่งที่ค่อนข้างต่ำแต่ไม่มากจนมองไม่เห็นเหมือนซุปเปอร์คาร์บางรุ่น เบาะยังปรับยกได้สูงเพียงพอต่อความต้องการสำหรับลูกค้าที่มีรูปร่างเล็ก


พวงมาลัยปรับใกล้-ไกลและสูง-ต่ำได้ด้วยมุมที่เหมาะสมกับทุกสรีระ ท่านั่งแบบจมลึกแบบที่ผมใช้ขับทดสอบรถสปอร์ต ยังช่วยให้การขับเข้าโค้งด้วยความเร็วมีความมั่นคง ผมปรับระยะเบาะนั่งให้พอดีกับพวงมาลัยแบบสามก้านโดยให้แขนงอเล็กน้อยไม่ตึงจนเกินไป สวิชท์ควบคุมการปรับเบาะใช้งานได้ง่ายและมีรูปแบบเหมือนกับ Mercedes Benz รุ่นใหม่ทุกคัน กระจกมองข้างและกระจกมองหลังเคลือบสารตัดแสง ทำให้มองเห็นได้อย่างชัดเจนในทุกช่วงเวลาของการขับขี่ใช้งาน กุญแจสตาร์ตยังคงอนุรักษ์กลิ่นอายแบบคลาสสิก เจ้า SLK 200 AMG R172 ใช้การบิดกุญแจเมื่อเสียบเข้ากับช่องรับเหมือนรถทั่วไป เสียงเครื่องยนต์ 1.8 ลิตรติดเทอร์โบในรอบเดินเบาเงียบสนิทจากการเก็บเสียงที่ดี ถึงแม้จะเป็นรถเปิดประทุนคันเล็ก วัสดุซับเสียงที่ใช้ก็มีคุณภาพมากพอในการป้องกันเสียงแปลกปลอมจากภายนอก และช่วยทำให้ห้องโดยสารเงียบมากยิ่งขึ้นเมื่อหลังคาถูกกางปกคลุมอยู่เหนือศีรษะ รูปแบบ Coupe เมื่อหลังคากระจกถูกยกตัวขึ้นมาปกปิด Cockpit มีความสวยงามแบบสปอร์ตสองประตูท้ายสั้น และจะงามมากยิ่งขึ้นเมื่อหลังคาทั้งผืนถูกพับเก็บในรูปแบบ Roadster


ปัจจุบันมี Roadster ในตลาดรถพรีเมี่ยมของประเทศไทยไม่มากนัก เริ่มจาก BMW Z4 Mazda MX-5 Nissan 370Z Roadster Audi TT Roadster Porsche Boxster ส่วน Honda หลังจากสิ้นสุดสายการผลิต S2000 ก็ยังคงไม่มีรถประเภทนี้ออกมาขาย และสำหรับ Toyota MR-S / MR2 แน่นอนว่า GT86 Opentop จะเข้ามาสานต่อแทนที่ภายในปี 2015 นี้ เจ้า SLK200 AMG Dynamic เปรียบเหมือนมวยตัวเล็กที่มีหมัดอันหนักหน่วง แม้จะเป็นรุ่นเครื่องยนต์เล็กสุดในโมเดล แต่ด้วยแรงบิดที่พอดิบพอดีกับน้ำหนักตัว ทำให้มันเป็นรถเปิดประทุนสองที่นั่งที่ขับได้มัน (มาก) คันหนึ่งของวงการ สัมผัสและความรู้สึกไม่ได้แตกต่างไปจาก Mazda MX-5 NC หรือแม้แต่ BMW Z4 sDRIVE20i ทั้งความรู้สึกของพวงมาลัยและอัตราเร่งรวมถึงความเร็วปลายที่ใกล้เคียงกันมาก แต่ความแตกต่างกันระหว่างคู่ต่อสู้ทั้งสามคันที่มองเห็นได้อย่างชัดเจนก็คือรูปลักษณ์แบบสปอร์ตเปิดหลังคาที่ใช้หลังคาแข็งแบบพับเก็บได้ Mercedes Benz SLK200 AMG Dynamic มีหน้าตาที่ดุดันเอาจริงเอาจังและมีการขับที่ดีสมกับการเป็น DNA ของโรสเตอร์ชื่อดังในอดีตจากค่ายตราดาว ส่วน BMW Z4 นั้นเชื่อมโยงอดีตอันรุ่งเรืองของ 507 Roadster กับ Mazda MX-5 ยนตรกรรมเปิดหลังคาที่ขายดีที่สุดในโลก จากสมรรถนะที่ดีเยี่ยมและระดับราคาที่ถูกกว่าสุดหล่อจากเมืองเบียร์ทั้งสองคัน


SLK ใช้ความพยายามในการสื่อให้เห็นถึงตัวตนที่แท้จริงของ Sport Roadster ตั้งแต่ที่ย่านความเร็วต่ำ พวงมาลัยกระชับแม่นยำและตอบสนองทันทีซึ่งดูเหมือนจะมากเกินไปด้วยซ้ำ มันมีอัตราเร่งที่ 7.0 วินาทีซึ่งทำให้คุณสนุกได้ทุกขณะจิตหากพบเจอทางโล่งหรือแม้แต่โค้งที่คุ้นเคย แรงดึงขณะกระโจนออกจากจุดหยุดนิ่งทำให้มันกลายเป็นทางเลือกของพวกคนมีเงินรักสนุกที่ชอบรถเปรียวๆ แบบนี้ กดคันเร่งเบาๆ แค่ 1,500 รอบต่อนาทีมันจะเคลื่อนตัวอย่างง่ายดายไปตามสภาพการจราจรในเมือง ทุกประสาทสัมผัสบ่งบอกถึงความลับบางอย่างด้านไดนามิกที่กำลังจะถูกเปิดเผยเมื่อคุณกล้าเติมความเร็วให้เพิ่มมากขึ้น ในสภาพการณ์ที่ปิดหลังคามันแทบจะไม่มีความแตกต่างจาก Sport - Coupe สองที่นั่งสุดสวยแม้แต่น้อย เชื่อเถอะว่ามันจะยิ่งดูดีมากขึ้นเมื่อหลังคาถูกพับเก็บ


ความเร็วประมาณ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รอบเครื่องยนต์ของ SLK 200 AMG Dynamic อยู่ในระดับ 1,800-1,900 รอบต่อนาที ทำให้ตัวเลขอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงดีขึ้น จากการใช้รอบเครื่องต่ำในย่านความเร็วเดินทางเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นที่แล้ว ผมลองกดคันเร่งลงลึกเพื่อทดสอบอัตราเร่งและการไต่ระดับความเร็ว รอบเครื่องกวาดขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อเทอร์ไบน์เริ่มต้นการหมุนประจุอากาศเข้าสู่ท่อร่วมไอดี แรงบิด 270 นิวตันเมตรจากเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร เหมาะสมกับน้ำหนักตัว 1.5 ตัน ผลักดัน R172 ให้พุ่งทะยานผ่านย่านความเร็ว 140-160-180 ไปจนถึง 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมงโดยไม่ต้องรอกันนานนัก ความเร็วปลายที่ 237 กิโลเมตรต่อชั่วโมงตามที่วิศวกรของ Benz ได้เคลมไว้ ไม่มีถนนที่ยาวมากพอในการไปถึงจุดนั้น แต่ผมมั่นใจว่ามันไปถึงได้อย่างแน่นอนจากคันเร่งที่ยังเหลือระยะให้กดอีกพอสมควร


เครื่อง 1.8 ลิตร รุ่นใหม่ล่าสุดของ Mercedes Benz ยังมีระบบ BlueEFFICIENCY ในโหมด Eco ที่ผมใช้วิ่งตลอดการทดสอบ ช่วยลดการใช้พลังงานโดยไม่จำเป็นและลดค่าเชื้อเพลิง สำหรับมาตรฐานของการปล่อยมลพิษเทียบเท่ามาตรฐาน EURO-5 การกระจายน้ำหนักในระดับ 50/50 ยังส่งถ่ายความแม่นยำและมั่นคงของการควบคุมแทบจะทุกระดับความเร็ว โดยเฉพาะความรู้สึกตอนเข้าโค้งที่ยอดเยี่ยมและหมดจด คุณไม่จำเป็นต้องผลักดันมันจนไปถึงขอบเขตที่จำกัดของระบบรองรับเนื่องจากเป็นรถที่พับหลังคาได้ การขับแบบรุนแรงนั้น อาการจะยิ่งเพิ่มเป็นเท่าทวีคูณบนรถที่มีท้ายสั้นแบบนี้ พวงมาลัยถ่ายทอดสภาพพื้นผิวถนนส่งตรงมายังข้อมืออย่างชัดเจน ทั้งการตอบสนองบนโค้งที่ระบบบังคับเลี้ยวทำงานร่วมกับแชสซีส์และระบบช่วยทรงตัวได้อย่างดีเยี่ยม ท้ายที่ค่อนข้างไวจากระยะฐานล้อกับความสั้นกุดของบั้นท้ายรวมถึงการขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หลังจะออกอาการเมื่อใส่กันใกล้ขอบเขตของจุดที่จะก่อให้เกิดหายนะ การยึดเกาะที่ดีเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับรถยนต์ทุกคันโดยเฉพาะรถสปอร์ตและช่วงล่างแบบสปอร์ตของ SLK200 AMG Dynamic สอบผ่านในจุดนี้ได้อย่างไร้ข้อกังขาทั้งปวง


มันมีน้ำหนักตัวพอๆ กับ Z4 20i รวมถึงแรงม้าและแรงบิดก็ยังใกล้เคียงกันอีกด้วย เพียงแต่ความจุเครื่องยนต์ของ SLK 200 น้อยกว่านิดหน่อย เทอร์โบแปรผันทำหน้าที่ผลักดันอากาศไปยังห้องเผาไหม้ ผ่านการลดอุณหภูมิอากาศก่อนประจุเข้าไปยังท่อร่วมไอดีด้วยอินเตอร์คูลเลอร์ สร้างกำลัง 270 นิวตันเมตรหรือ 27.5 กิโลกรัมเมตรที่ 5,200 รอบซึ่งทำให้ขับได้ง่ายทั้งการวิ่งเรื่อยๆ ในเมืองหรือปิดหลังคาควบกันบนไฮเวย์ เครื่อง 1.8 เทอร์โบพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ตัวนี้ยังมีเสียงการทำงานที่เร้าใจแม้จะเป็นเพียงแค่เครื่องแถวเรียงสี่กระบอกสูบ แต่เสียงจากท่อที่ผ่านการปรับแต่งในรอบกลางๆ ถึงสูงเร่งเร้าให้คุณกดมันหนักข้อขึ้นไปอีก สภาพการณ์แบบปิดหลังคามีการผลึกปิดกั้นเสียงจากภายนอกแทบไม่แตกต่างไปจากรถหลังคาแข็งปกติเท่าใดนัก หลังคากับวัสดุซับเสียงและยางขอบประตูขนาดความหนามากกว่ารถทั่วไปปิดกั้นเสียงลมและเสียงยางได้ตามมาตรฐานของ Mercedes Benz มันเหนือกว่ารถโรสเตอร์แบบหลังคาผ้าใบที่่ย่านความเร็วสูง แต่ก็แลกเปลี่ยนด้วยน้ำหนักของชุดหลังคา ซึ่งไม่ว่าจะเป็นแบบกระจกหรืออะลูมิเนียมก็แพงและหนักกว่าหลังคาผ้าใบแทบทั้งสิ้น


ต้องยอมรับว่าเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด 7G-Tronic Plus ทำงานช้ากว่าเกียร์ ZF 8HP ของ Z4 e89 อยู่เล็กน้อยแต่ไม่ส่งผลไปถึงอารมณ์ของการควบคุม แป้นเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์หลังพวงมาลัย Steering-Wheel Gearshift Paddles ใช้งานได้จริงแต่มีการรีเลย์นิดหน่อยเพื่อถนอมเกียร์ทั้งลูกไม่ให้ลาจากก่อนเวลาอันควร หากไม่ม่ีกลไกป้องกันการชิฟเกียร์ต่ำในย่านความเร็วสูงที่ไม่มีความสัมพันธ์กันกับรอบเครื่องยนต์ เกียร์ 7G-Tronic Plus เหมาะมากและมีคาร์แลคเตอร์ที่เข้ากันได้ดีกับเครื่องยนต์ตัวเล็กสมรรถนะสูง สำหรับการเร่งความเร็วใน SLK200 AMG ให้เข้าใกล้กับขีดจำกัดของตัวรถในโค้ง มันจะออกอาการท้ายปัดคล้ายกับ BMW Z4 / Mazda MX-5 / Toyota GT86 ซึ่งเป็นรถสปอร์ตวางเครื่องด้านหน้าขับเคลื่อนล้อหลัง การหักพวงมาลัยที่องศาสูงๆ ไปพร้อมกับการจมคันเร่งบน SLK จะทำให้มันสามารถหมุนได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะถนนที่มีผิวเปียกลื่น อาการเหล่านี้ถือเป็นปกติของรถแบบสองที่นั่งเปิดประทุนท้ายสั้น ฐานล้อที่ยาวกับจังหวะของการถ่ายเทน้ำหนักที่ไม่สมดุลในขณะที่เข้าโค้งด้วยสปีดความเร็วที่เกินขอบเขต ยาง  Continental รุ่น Conti sport-contact คู่หน้าขนาด 225/40/R18 92Y กับยางหลัง 245/35/R18 92Y เป็นยางต่างไซส์แบบหน้าเล็กหลังใหญ่ม่ีกริ้บของการยึดเกาะในระดับสปอร์ตคาร์ มันวิ่งได้ดีมากแม้จะสะเทือนซางอยู่บ้างเนื่องจากยางหน้าและหลังเป็นยางแก้มเตี้ยแบบที่นักซิ่งนิยมชมชอบ ยาง   Continental Conti sport-contact มีระยะความสูงจากพื้นไปถึงขอบล้ออัลลอยไม่มากนักทำให้การส่งถ่ายอารมณ์ความรู้สึกขณะขับขี่มีการสั่นสะเทือนอยู่บ้างเพื่อพบเจอกับผิวถนนที่ไม่มีความสม่ำเสมอ


ระบบรองรับที่ปรับเซตมาในแบบสปอร์ตค่อนข้างแข็งกว่ารุ่นพี่ทั้ง 2 โมเดลที่ผ่านมา ความแข็งแลกเปลี่ยนกลับคืนด้วยการยึดเกาะที่มั่นคงซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับรถยนต์สมรรถนะสูงแบบนี้ ค่าที่เป็นกลางด้านไดนามิกและพลศาสตร์ของการปรับตั้งช่วงล่างส่งผลไปถึงการควบคุมในย่านความเร็วสูงและทำให้มันมีความเสถียร อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ต้นว่าโรสเตอร์แบบ SLK เมื่อพับหลังคาเก็บไม่มีความจำเป็นที่จะต้องขับให้เร็วประดุจพายุ ไหลมันไปเรื่อยๆเมื่อพบกับถนนโล่งๆ ดื่มด่ำกับวิวทิวทัศน์สองข้างทางพร้อมสูดบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความสดชื่นริมทะเลในช่วงฤดูหนาว รถ SLK200 AMG Dynamic เป็นได้ทั้งสปอร์ตจีทีแบบหลังคาแข็งและโรสเตอร์เปิดหลังคาท้าสายลม มันขึ้นอยู่กับห้วงเวลาและโอกาสในการวิ่งแบบเปิดประทุนซึ่งมีเวลาไม่มากนักสำหรับสภาพอากาศแบบเมืองร้อนของประเทศไทย หากคุณชอบที่จะขับมันในแบบไร้หลังคา จงทำและอย่าได้แคร์สายตาของผู้คนที่กำลังเฝ้ามองดูมัน เจ้า SLK วิ่งด้วยความเร็วต่ำลัดเลาะไปตามถนนเลียบชายหาดในช่วงเย็นเป็นภาพที่น่ามองไม่น้อยเลยทีเดียว


ตำแหน่งของเครื่องยนต์ที่วางไว้ด้านหน้า โดยร่นจุดยึดแท่นเครื่องแท่นเกียร์เข้าไปใกล้กับกึ่งกลางของตัวรถเพื่อการกระจายน้ำหนักที่ดี ประสานการทำงานไปกับระบบรองรับที่ยอดเยี่ยมและแรคพวงมาลัยแบบ Direct Steer มันคือกลไกพวงมาลัยแบบ Rack And Pinion ทำงานด้วยปั๊มไฟฟ้า เมื่อลองเข้าโค้งแรงๆเพื่อหาอาการ มันจะมีแรงต้านไปที่ระบบบังคับเลี้ยว เมื่อยางและช่วงล่างเริ่มตึงเครียดจากการรับแรงที่เข้ามากระทำ ในบางขณะ เหมือนกับว่า SLK 200 AMG คันนี้ ใช้พลังอย่างแท้จริงในการควบผ่านทางโค้งด้วยความเร็ว อาการหน้าทิ่มและโคลงตัวเกิดขึ้นบ้างเมื่อวิ่งผ่านผิวถนนที่ไม่เรียบ การปรับตั้งค่าความแข็งของระบบรองรับจากโรงงานโดยเน้นให้มีความนุ่มสบายส่งผลต่อการควบคุมบ้างแต่ไม่มาก เมื่อต้องพบกับลอนคลื่นบนถนนในขณะใช้ความเร็วสูง ในโหมด Sport ผมลองลากเกียร์ยาวๆ ให้ความเร็วไหลขึ้นสู่ระดับ 160-190 กิโลเมตรต่อชั่วโมงบนเส้นทางมุ่งหน้าสู่อำเภอแกลง สภาพการของช่วงล่างเปลี่ยนแปลงไปจนสัมผัสได้ ในโหมด Sport ทุกอย่างดูแข็งขันขึ้นและไวมากขึ้น ระบบควบคุมการทรงตัวที่แม่นยำทำให้ผมกล้าที่จะใส่มันหนักข้อมากขึ้นไปอีกนิด ชุดส่งกำลังแบบ 7-G Tronic ในโหมดแมนนวลที่ต้องกดสวิตช์แป้น paddle shift เปลี่ยนอัตราทดด้วยตัวเองสร้างความรื่นเริงบันเทิงใจได้ดี SLK 200 AMG คันทดสอบ พุ่งทะยานไต่ระดับความเร็วไปตามการกดที่แป้นเปลี่ยนเกียร์หลังพวงมาลัย มันว่องไวและไม่มีการรีรอชะงักชักช้า ไหลลื่นไปตามนิ้วมือที่กระดิกเปลี่ยนอัตราทดขึ้น-ลง ระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกลไกควบคุมการทรงตัว ESP ที่คอยเฝ้าระวังการเสียอาการหรือเสียสมดุลของตัวรถ จะเข้ามาแทรกแซงทันทีที่เซ็นเซอร์ตรวจจับได้ ด้วยการลดกำลังของเครื่องยนต์ลง ตามด้วยการลดการหมุนของล้อที่เริ่มเสียระดับของการยึดเกาะ แต่ผมไม่กล้าผลักดันมันจนไปถึงยังจุดนั้นเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างความปลอดภัยกับอันตรายจากการทดสอบอยู่ใกล้กันนิดเดียว โดยมีจิตใต้สำนึกของการควบคุมเครื่องจักรแสนสวยที่คอยกระตุ้นเตือนให้ระวังถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น หากเพลิดเพลินไปกับความเร็วที่มันมอบให้เมื่อกดคันเร่งไฟฟ้าลงลึกกับราคาที่ต้องจ่าย 3.5 ล้านบาทเมื่อทำมันพังส่งผลไปถึงน้ำหนักเท้าขวาที่ยกขึ้นบ่อยครั้งมากกว่าการทดสอบรถบ้านๆ ทั่วไป


Air guide หลังพนักพิงศีรษะที่ติดตั้งมาให้ ช่วยลดเสียงลมปะทะและกระแสลมหมุนวนภายในห้องโดยสารยามพับหลังคาลง มันคืออุปกรณ์เสริมซึ่งในอังกฤษเจ้าของรถจะต้องควักกระเป๋าเพิ่มอีก 300 ปอนด์ แต่ Mercedes Benz Thailand ให้มาฟรีๆ บนชุดแต่ง AMG Sports Package แผ่นกันลมแสนกลจะพลิกตัวเองจากด้านหลังเพื่อปกป้องทรงผมของสุภาพสตรี (แต่ไม่น่าจะทำได้ดีนักที่ย่านความเร็วสูง) ช่วงล่างและแชสซีส์ตอบสนองได้ดีขึ้นกว่ารุ่นที่แล้ว เบรกมั่นใจได้ในทุกระดับความเร็ว แชสซีส์ของ SLK R172 ทำงานได้ดีเทียบเท่า BMW Z4 e89 เมื่อจับคู่กับช่วงล่างแบบแมคเฟอร์สันสตรัทและมัลติลิ้งค์ พวงมาลัยที่ปรับเซตมาเป็นอย่างดีทำให้การขับแทบไม่ต้องออกแรงมากนักในการควบคุม ที่ความเร็วต่ำมันง่ายจนเหมือนกับขับ C-Class มีเพียงแค่ทัศนวิสัยมุมมองด้านข้างและด้านหลังเท่านั้นที่ต้องมองกันให้ขาดก่อนเปลี่ยนทิศทาง กำลัง 184 แรงม้า พอดีกับรูปทรงและน้ำหนักตัว 1,470 กิโลกรัม ทำให้มันคล่องแคล่วปราดเปรียวเหมือนรถเล็กสมรรถนะสูงทั่วไป

การขับขี่รถสปอร์ตเปิดหลังคาคือกิจกรรมทางอารมณ์อย่างแท้จริง หากแต่สภาพดินฟ้าอากาศของประเทศไทยไม่ค่อยจะเอื้ออำนวยมากนักทำให้รถประเภทนี้สามารถเปิดหลังคากันได้เพียงแค่ไม่กี่วันในหนึ่งปี เมื่อฤดูหนาวอันแสนสั้นมาเยือนแล้วจากไปอย่างรวดเร็ว เวลา 19.30 น. ผมขับเจ้า SLK 200 AMG R172 มุ่งหน้ากลับสู่กรุงเทพฯ ท่ามกลางความว่างเปล่าและอากาศที่เย็นยะเยือกของความกดอากาศสูงที่พัดปกคลุมทางด่วนมอเตอร์เวย์พร้อมกับความสมหวังหลังจากเฝ้ารอมานานเพื่อที่จะได้ขับขี่สปอร์ตเปิดหลังคาคันนี้อีกครั้งเป็นหนที่สอง ชายและหญิงจำนวนไม่น้อยหมายปองอยากเป็นเจ้าของรถยนต์ที่มีสไตล์เป็นของตัวเองแบบ SLK R172 โดยภาพรวม รถ SLK 200 AMG Dynamic มีเครื่องยนต์ขนาดเล็กที่ประหยัดเชื้ิอเพลิง แถมยังคงอัตราเร่งตีนต้นให้ได้สนุกสนานกับการออกตัวด้วยความรวดเร็ว ระบบส่งกำลัง 7-G Tronic ทำงานอย่างลื่นไหลและนิ่มนวลในการส่งถ่ายแรงบิดไปยังเฟืองท้าย รูปลักษณ์และการควมคุมขับขี่อยู่ในระดับที่ดีไม่แตกต่างไปจากคู่แข่งอย่าง Audi TT Roadster / BMW Z4 sDRIVE 20i / หรือแม้แต่สปอร์ตเปิดหลังคาเครื่องวางกลางอย่าง Porsche Boxster ถึงแม้มันจะห่างไกลจากคำว่า Super Car แต่จิตวิญญาณอันเข้มข้นของ Sport-Roadster ที่มีอยู่ใน Mercedes Benz SLK 200 AMG คือคำตอบของนักขับที่นิยมรถเปิดหลังคาทุกคน.




Create Date : 22 ธันวาคม 2556
Last Update : 22 ธันวาคม 2556 10:03:08 น. 0 comments
Counter : 1280 Pageviews.

amulet108
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 96 คน [?]








Friends' blogs
[Add amulet108's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.