เว็บไซต์สปีดเทสต์ เผยสถิติ กรุงเทพฯ นครราชสีมา และเชียงใหม่ ยอดผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทดสอบความเร็วสูงสุดในประเทศ ออสเตรเลียคว้าแชมป์ผลทดสอบสูงสุดของโลก ขณะที่ไทยผลทดสอบต่ำกว่าเกณฑ์...
เมื่อ วันที่ 28 มิ.ย. เว็บไซต์ Speedtest.or.th (สปีดเทสต์) เว็บไซต์ทดสอบความเร็วอินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ได้จัดงานประชุมร่วมกับตัวแทนผู้ดูแลเว็บไซต์ เพื่อรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางการปรับปรุงคุณภาพการให้บริการ อินเทอร์เน็ตและการปรับปรุงระบบ Speedtest.or.th โดย นายศุภเดช สุทธิพงศ์คณาสัย เลขาธิการ สมาคมผู้ดูแลเว็บไทย เปิดเผยว่า การจัดงานในวันนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเชิญคนทำเว็บไซต์ ผู้ดูแลเว็บไซต์ และบล็อกเกอร์ มารับทราบสถิติความเร็วอินเทอร์เน็ตไทยในปัจจุบัน พร้อมทั้งระดมความเห็นเพื่อเป็นข้อเสนอแนะในการปรับปรุงประสิทธิภาพ อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ซึ่งจะรวบรวมและสรุปข้อเสนอแนะดังกล่าวไปยังสำนักงานคณะกรรมกิจการกระจาย เสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ต่อไป
เลขาธิการ สมาคมผู้ดูแลเว็บไทย กล่าวว่า เว็บสปีดเทสต์เริ่มให้บริการทดสอบความเร็วอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2552 โดยปัจจุบันทำงานร่วมกับ กสทช. มีวัตถุประสงค์เพื่อวัดความเร็วและรวบรวมสถิติอินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ซึ่งมีการจัดเก็บข้อมูลสถิติและจัดส่งให้ กสทช. ทั้งหมด สำหรับระบบที่ใช้บริการคือ Engine OOKLA ที่ซื้อลิขสิทธิ์มาจากต่างประเทศ
นายศุภเดช กล่าวอีกว่า ปัจจุบันค่าเฉลี่ยการทดสอบดาวน์โหลดอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยอยู่ที่ 70% ซึ่งถือเป็นตัวเลขในระดับต่ำกว่าต่างประเทศซึ่งค่าเฉลี่ยจะอยู่ระหว่าง 80-90% ส่วนประเทศที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ออสเตรเลีย โดยมีค่าเฉี่ยประมาณ 97% ดังนั้นค่าเฉลี่ยที่เหมาะสมกับบริการอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยนั้นควรอยู่ที่ 85%
"ปัญหาที่ทำให้ผู้บริโภคไม่สามารถรับความเร็วอินเทอร์เน็ตได้ เต็มที่ พบว่าส่วนมากไม่ได้มาจากการให้บริการของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต แต่เป็นปัญหาจากผู้บริโภคเอง อาทิ สเปกคอมพิวเตอร์เป็นรุ่นเก่าเกินไป คอมพิวเตอร์ติดไวรัสจึงทำให้เครื่องทำงานช้าลงหรือทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ และสายโทรศัพท์เป็นสายเก่า ส่วนจังหวัดที่มีจำนวนการทดสอบความเร็วอินเทอร์เน็ตสูงสุด 3 อันดับแรก คือ กรุงเทพฯ นครราชสีมา และเชียงใหม่ โดยเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่มีผลการสอบทดสอบความเร็วอินเทอร์เน็ตสูงสุดของ ประเทศไทย ซึ่งได้ผลอยู่ที่ประมาณ 80% อย่างไรก็ตาม พบว่าในการทดสอบความเร็วอินเทอร์เน็ตนั้นมีผลการทดสอบที่ต้องคัดทิ้งกว่า 44% เนื่องจากผู้ทดสอบจำนวนมากระบุข้อมูลไม่ตรงกับความจริง ทั้งจังหวัดที่ทำการทดสอบและแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตที่ใช้บริการ" เลขาธิการ สมาคมผู้ดูแลเว็บไทย กล่าว
นายศุภเดช กล่าวด้วยว่า ขณะนี้เว็บสปีดเทสต์มีการพัฒนาเวอร์ชั่นใหม่ โดยเน้นการใช้งานง่ายขึ้นและเพิ่มหมวดร้องเรียนไปยัง กสทช. เพื่อให้ผู้ที่ต้องการร้องเรียนผลการทดสอบอินเทอร์เน็ตสามารถส่งข้อมูลไปยัง กสทช. ได้ง่ายและรวดเร็ว แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้มีการพัฒนาโดยจะมีการเชื่อมต่อกับเฟซบุ๊ก เพื่อให้ผู้ที่ต้องการทดสอบความเร็วอินเทอร์เน็ตสามารถลงชื่อเข้าใช้ได้ สะดวกขึ้น ขณะเดียวกันก็มีเวอร์ชั่นโมบายล์สำหรับผู้ทดสอบที่ใช้งานสมาร์ทโฟนและ แท็บเล็ต ซึ่งสามารถใช้งานผ่านบราวเซอร์โดยระบบจะนำเข้าสู่ speedtest.or.th/m ส่วนการพัฒนาแอพพลิเคชั่นสปีดเทสนั้นคาดว่าจะมีการพัฒนาออกมาให้ใช้งานได้ ภายในสิ้นปีนี้.