อริสต้า จับมือวีเอ็มแวร์ และไมโครซอฟท์
เปิดตัว 3 เน็ตเวิร์กแอพพลิเคชั่นใหม่ล่าสุด ที่ทำงานบน Arista Extensible Operating System เพิ่มความสะดวกในการปฏิบัติงาน รองรับการตั้งค่าได้สมบูรณ์แบบ เพิ่มประสิทธิภาพและความคล่องตัวสำหรับผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์...
อริสต้า เน็ตเวิร์กส์ (Arista Networks) เปิดตัวเน็ตเวิร์กแอพพลิเคชั่นใหม่ 3 รายการ ที่ทำงานบน Arista Extensible Operating System (EOS) ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการเครือข่ายที่ก้าวล้ำมากที่สุดในโลก เพื่อเพิ่มความสะดวกในการปฏิบัติงานด้านไอที โดยแอพพลิเคชั่นใหม่ ได้แก่ OpenWorkload, Smart System Upgrade และ Network Telemetry ด้วยการใช้ประโยชน์จาก Arista EOS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการเครือข่ายเพียงหนึ่งเดียว ที่รองรับการตั้งค่าได้อย่างสมบูรณ์ เน็ตเวิร์กแอพพลิเคชั่นเหล่านี้ รวมถึง Associated Partner Ecosystems ช่วยยกระดับการรับรู้แอพพลิเคชั่นสำคัญๆ ในดาต้าเซ็นเตอร์
มิลิน ดีไซ ผู้อำนวยการฝ่ายการจัดการผลิตภัณฑ์ของวีเอ็มแวร์ กล่าวว่า องค์กรธุรกิจปรับใช้เน็ตเวิร์กเวอร์ช่วลไลเซชั่นเพิ่มมากขึ้นเพื่อลดความยุ่งยากซับซ้อนของระบบไอที และปรับปรุงความรวดเร็วในการดำเนินธุรกิจ วีเอ็มแวร์ และอริสต้า ร่วมมือกันเพื่อผนวกรวมแพลตฟอร์ม Arista EOS และ VMware NSX ซึ่งจะรองรับการใช้รูปแบบการปฏิบัติงานเดียวกัน สำหรับเวิร์กโหลดทั้งแบบเวอร์ชวลและฟิสิคอล จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความคล่องตัวสำหรับผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์
ด้าน วีเจย์ เทวารี ผู้จัดการโครงการ Principal Group Program สำหรับ Windows Server and System Center ของไมโครซอฟท์ กล่าวว่า ด้วยมาตรฐานของไมโครซอฟท์ สำหรับการจัดการดาต้าเซ็นเตอร์ ลูกค้าจะได้รับประโยชน์จากการใช้งานแบบพลักแอนด์เพลย์ (plug-and-play) เมื่อใช้สวิตช์ที่รองรับ OMI ของอริสต้า สวิตช์ เหล่านี้ มีคุณสมบัติเป็นไปตามข้อกำหนดของ Windows เพราะทำงานร่วมกับ Windows Server and System Center 2012 R2 ได้อย่างกลมกลืน โดยไม่จำเป็นต้องติดตั้งซอฟต์แวร์เพิ่มเติม
เครือข่ายคลาวด์ที่กำหนดด้วยซอฟต์แวร์ (Software Defined Cloud Networking - SDCN) ของอริสต้า ผสานรวมหลักการที่ทำให้ระบบคลาวด์คอมพิวติ้งเป็นขุมพลังที่ต่อเนื่อง นั่นคือ ระบบการทำงานแบบอัตโนมัติ การจัดสรรบริการด้วยตนเอง และการปรับขนาดเชิงเส้นทั้งในแง่ของประสิทธิภาพและการประหยัดค่าใช้จ่าย ประกอบกับแนวโน้มล่าสุดใน SDN ที่นำเสนอเน็ตเวิร์กเวอร์ชวลไลเซชั่น การปรับแต่งค่าสถาปัตยกรรมที่เรียบง่าย และระดับราคาที่เหมาะสม การผสานรวมนี้สร้างซอฟต์แวร์ที่เหนือชั้นสำหรับการเพิ่มมูลค่าของเครือข่าย ในดาต้าเซ็นเตอร์ขององค์กรและผู้ให้บริการ กล่าวคือ เป็นสถาปัตยกรรมใหม่สำหรับระบบที่สำคัญในโครงสร้างพื้นฐานไอทีที่เพิ่มความสะดวกในการจัดการและจัดสรร เพิ่มความรวดเร็วในการให้บริการ ลดค่าใช้จ่าย และเปิดโอกาสในการสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง ควบคู่ไปกับการขยายขีดความสามารถของผู้ดูแลระบบในการควบคุมและตรวจสอบอย่างทั่วถึง
ส่วน แอนชัล ซาดานา รองประธานอาวุโส ฝ่ายวิศวกรรมลูกค้าของอริสต้า เน็ตเวิร์กส์ กล่าวว่า EOS ของอริสต้ายังคงรั้งตำแหน่งผู้นำอุตสาหกรรม ด้วยนวัตกรรมเครือข่ายที่กำหนดด้วยซอฟต์แวร์ (Software Defined Networking - SDN) รวมไปถึงเน็ตเวิร์กแอพพลิเคชั่นที่แปลกใหม่ และความสามารถที่ก้าวล้ำของ SDN ซึ่งรองรับการควบคุมอย่างเป็นระบบ การตรวจสอบติดตามอย่างมีประสิทธิภาพ และการแก้ไขปัญหาโดยอัตโนมัติ สถาปัตยกรรมของ Arista EOS บวกกับฮาร์ดแวร์ที่ก้าวล้ำ และความร่วมมือกับบริษัทชั้นนำในแต่ละหมวดหมู่เทคโนโลยี ก่อให้เกิดความสามารถด้านเครือข่ายที่เหนือชั้น การสาธิตเทคโนโลยี VMware NSX ที่ผนวกรวมเข้ากับ EOS ที่งาน VMworld นับเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของความร่วมมือที่สุดยอดอย่างแท้จริง
สำหรับ 3 แอพพลิเคชั่นใหม่ บน Arista EOS ได้แก่
OpenWorkload ระบบ เครือข่ายที่เรียบง่ายสำหรับสภาพแวดล้อมแบบเวอร์ช่วลไลเซชั่น และคลาวด์ ช่วยให้ระบบสวิตซ์เครือข่ายที่แยกกระจัดกระจายสามารถรองรับเวิร์กโหลดแบบโมบายล์ได้อย่างแท้จริง อริสต้าและวีเอ็มแวร์ทำงานร่วมกันเพื่อให้สวิตช์ Arista EOS สามารถผนวกรวมอย่างกลมกลืนเข้ากับ VMware NSX™ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับเน็ตเวิร์กเวอร์ช่วลไลเซชั่น เพื่อจัดหาบริการเกตเวย์บนฮาร์ดแวร์สำหรับเซิร์ฟเวอร์แบบ Non-Virtualized และ VLAN ที่มีอยู่ นอกจากนี้ อริสต้า ยังผสานรวมเทคโนโลยีเข้ากับ OpenStack และแพลตฟอร์มอื่นๆ เพื่อรองรับการจัดสรรแบบอัตโนมัติ การเคลื่อนย้ายเวิร์กโหลดที่มีการบันทึกสถานะ และการตรวจสอบเวิร์กโหลดอย่างทั่วถึง
Smart System Upgrade ลด ภาระที่เกิดจากการอัพเกรดเครือข่าย ลดระยะเวลาหยุดทำงานของแอพพลิเคชั่น และลดความเสี่ยงที่เกิดขึ้นระหว่างการควบคุมการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ นอกจากนี้ ยังจัดหาชุดฟีเจอร์ที่ปรับแต่งได้อย่างเต็มที่เพื่อรองรับการผนวก รวมเทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐานดาต้าเซ็นเตอร์จากพันธมิตรหลายราย เช่น ไมโครซอฟท์, F5 และ Palo Alto Networks โดย Open Management Infrastructure (OMI) ของไมโครซอฟท์ ช่วยให้สามารถเปิด หรือปิดการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างราบรื่น ลูกค้าจึงใช้งานซอฟต์แวร์รุ่นใหม่ล่าสุดได้อยู่เสมอ โดยไม่ต้องหยุดระบบโดยไม่จำเป็น
Network Telemetry รูปแบบใหม่ สำหรับการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่ขั้นตอนการตรวจจับข้อผิดพลาด ไปจนถึงขั้นตอนการแยกข้อผิดพลาด สตรีมข้อมูลเกี่ยวกับสถานะของเครือข่าย รวมถึงข้อมูลสถิติเครือข่ายทั้งในส่วนของเครือข่ายอันเดอร์เลย์ (Underlay) และโอเวอร์เลย์ (Overlay) ไปจนถึงแอพพลิเคชั่นจาก Splunk, ExtraHop, Corvil และ Riverbed ด้วยการเปิดเผยข้อมูลโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญให้แก่เลเยอร์ของแอพพลิเคชั่น จึงสามารถป้องกันปัญหาในลักษณะเชิงรุกได้อย่างมีประสิทธิภาพ.