น้ำท่วมไปไหน? ฉันไปปฏิบัติธรรม
จะว่าไปแล้วแม้จะทำตัวบนเส้นทางสายเอกนี้ แต่ยังไม่เคยเข้าปฏิบัติธรรมจริงๆ จังๆ เสียที มีโอกาสฟังเทศนาจากพระอาจารย์ทวีป กตปุญฺโญ จากสำนักสงฆ์แทนวันดีเจริญสุข ที่ DMG
ได้ยินว่าท่านมีเปิดฝึกปฏิบัติธรรมด้วย เมื่อเห็นตารางแล้วมีแบบศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เลยตั้งใจจะไปฝึกดู ลงทะเบียนไว้รุ่นที่ ๗๗ ระหว่างวันที่ ๔-๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๔
เมื่อใกล้ถึงวันจริง น้ำท่วมกรุงเทพฯ ต้องย้ายไปทำงานที่สระบุรี แต่ก็เดินทางกลับมาเข้าปฏิบัติธรรมจนได้ ไปถึงค่ำแล้ว ตอนนั่ง Taxi ผ่านห้าแยกลาดพร้าวน้ำเริ่มท่วมแล้ว ได้แต่คิดว่าจะท่วมถึงคอนโดเราไหมหนอ?
๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ที่นี่ถือศีล ๘ เลยต้องงดอาหารเย็น ไปถึงพระอาจารย์เทศน์อยู่พอดี ลงทะเบียน แล้วก็เข้าไปฟัง จากนั้นเอาของไปเก็บ รุ่นนี้มีผู้ชาย ๓ คน ผู้หญิง ๑๖ คน ปกติคนเยอะกว่านี้มาก ครั้งนี้ติดน้ำท่วมกัน กลางคืนนอนหลับบนเสื่ออย่างสบาย
๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ตื่นมาทำวัตรเช้า ตอนตีห้า พระมหาทวีป กตปุญโญ เทศนาว่า หน้ามืด เพราะถูกบาป อกุศลเข้าครอบงำ
อาจารย์อ้อยและอาจารย์สมบูรณ์จากโรงพยาบาลนครธน ชั้น ๑๒ มาสอน ๑๕ ท่าของฤาษีดัดตนที่คัดสรรแล้ว หัวหน้าทีมชมรมอายุวัฒนา ของโรงพยาบาลนครธน บอกว่าคนเราต้องมี กายดี จากอาหารและการออกกำลังกาย ใจดี ด้วยการปฏิบัติธรรม สังคมดี ให้พิจารณาทิศหก
จากนั้นทานอาหารเช้า แล้วก็พักผ่อน เริ่มปฏิบัติอีกครั้ง ๙.๐๐ น. เดินจงกรมตั้งแต่ ๑-๖ จังหวะ แบบ ๖ จังหวะจะเป็น ยกส้นหนอ > ยกหนอ > ย่างหนอ > ลงหนอ > แตะหนอ > กดหนอ นั่งสมาธิอีก ๒๐ นาทีแล้วเดินจงกรมต่อ
คอนโดแจ้งสถานะมาว่าขณะนี้สถานะเฝ้าระวังสูงสุด ปริมาณระดับน้ำบนถนนหน้าโครงการ สูงกว่าผิวถนน ๒๐-๒๕ ซม. ในโครงการยังแห้ง ทีมงานได้เฝ้าระวังระดับน้ำอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมป้องกันอย่างเต็มที่ สรุปว่าน้ำท่วมแล้วที่คอนโดเรา
นั่งสมาธิกับเดินจงกรมหลายรอบเลยวันนี้ ทั้งเช้า สาย บ่าย เย็น
ทำวัตรเย็นตอนหกโมงเย็น พระอาจารย์เทศน์ว่า สวดมนต์เป็นยาทา ภาวนาเป็นยากิน แต่สวดมนต์ก็เป็นการภาวนาอย่างหนึ่งด้วย วิธีทำให้พ้นทุกข์ ๑. ฟังธรรม ๒. สวดมนต์
หลวงพ่อขอให้ทำต่อเมื่อกลับบ้าน ๑. เวลาโกรธอย่าพูดกับใคร ๒. สวดมนต์ก่อนนอน หรือ ตอนเช้า ๓. ท่องบทสวดที่ไม่ต้องดูหนังสือให้ได้ เช่น อิติปิโส
๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ตื่นมาทำวัตรเช้า ตอนตีห้า พระอาจารย์เทศนาเรื่องการสวดมนต์ที่ถูกวิธีก็เป็นภาวนาได้ ลักษณะนิสัยของคน ๑. ศรัทธาจริต จะเชื่อง่าย ให้รำลึกถึงพระพุทธเจ้าบ่อยๆ นั่งเพ่งพระพุทธรูปจนติดตาแล้วนั่งสามาธิ หายใจเข้าว่าพุท หายใจออกว่าโธ เป็นพุทธาปัสสนานุสติ สติ = รู้ก่อนทำ รู้ก่อนคิด รู้ก่อนพูด ๒. โทสะจริต เป็นคนเร็ว ใจร้อน ให้หมั่นเจริญเมตตา แผ่เมตตา เริ่มจากตัวเอง แล้วให้ผู้อื่นโดยต้องนึกหน้าคนเหล่านั้นให้ออกด้วย เป็นเมตตาภาวนา ๓. โมหะจริต ไม่รู้ตัวเองว่ากำลังหลง ติดเพื่อนที่ไม่ดี งมงาย ชอบขอจากพระพุทธเจ้า ห้ามนั่งสมาธิด้วยตัวเอง ต้องมีพระอาจารย์เป็นพี่เลี้ยง ให้เข้าวัด หมั่นเข้าหาผู้รู้ ๔. ราคะจริต เป็นคนเนี๊ยบ ติดสวยติดงาม ใช้อสุภะกรรมฐาน ๕. วิตกจริต ขี้กังวล ให้ทำกิจกรรมอื่นก่อนนั่งสมาธิ ใช้อานาปานสติ ๖. พุทธิจริต รู้หมด อ่านตัวเองให้ออก บอกตัวเองให้ได้ ใช้ตัวเองให้เป็น
หลังจากนั้น ถูพื้น ถูห้องน้ำ ทานอาหารเช้า นั่งที่ลานหินโค้ง ชอบตรงนี้จัง ถ่ายภาพเก็บไว้หน่อย
เห็นน้องที่มาฝึกด้วยเก็บใบไม้ในลานหินโค้ง เลยเข้าไปเก็บด้วย
จากนั้นร่วมกิจกรรมกับชาวพุทธที่มาทำบุญวันอาทิตย์ เที่ยงทานข้าว บ่ายฝึกต่อ เดินจงกรมกับนั่งสมาธิ
บ่ายสี่โมงก็กลับ ถ่ายรูปร่วมกันก่อนกลับ
รู้สึกดีมากเลยที่ได้เริ่มปฏิบัติ ตั้งใจว่าจะเอามาฝึกต่อ
หากมีบุญกุศลใดจากการปฏิบัติธรรมครั้งนี้ ขอให้บุญกุศลนั้นส่งถึงทุกท่านด้วยนะครับ
Create Date : 12 พฤศจิกายน 2554 |
|
3 comments |
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2554 5:20:07 น. |
Counter : 1199 Pageviews. |
|
|
|
ชอบใจที่บอกว่าหลวงพ่อให้มาทำต่อ 3 ข้อ
ปัจจุบันทำข้อ 2 และ 3 เป็นประจำจนติดเป็นนิสัย คือตอนตื่นนอน อาจจะก่อนหรือหลังอาบน้ำ ก็จะสวดมนต์บทอิติปิโส ส่วนก่อนนอนก็เช่นกันค่ะ (ยกเว้นง่วงจริง ๆ ก็ขอผ่าน)
ส่วนข้อ 1 พยายามทำอยู่ค่ะ เพราะรู้ตัวเหมือนกันว่าเวลาโกรธ ทำให้เราพูดไปโดยไม่ยั้งคิด