สวัสดีครับ...อาจารย์
เนื้อหามีประโยชน์มากเลยครับ ขอบคุณสำหรับบทความดีๆครับ

ดีใจคะ!!! ที่เนื้อหามีประโยชน์สำหรับทุกคน หวังว่าคงนำไปปรับใช้ได้ตามความต้องการนะค่ะ

อ.หน่อย

สุดยอดครับอาจารย์
ผมเรียนกับอาจารย์อีกคนไม่เห็นจะบอกแนว อย่างงี้ให้เป็นตัวอย่างเลย สั่งเอาๆ โฮ๊ะๆๆ

ขอบคุณมากเลยค่ะอาจารย์ ที่อาจารย์ลงให้ ออกข้อสอบมั๊ยคะ อิอิ

ถ้าออกแบบนี้ จะทำได้ไหมค่ะ ฮิฮิ!!!

ขอบคุณค่ะอาจารย์ ช่วยได้มาก ๆ คะในการสอบ
ชอบรอยยื้มอาจารย์มากคะ
สวัสดีปีใหม่คะ รวย ๆ นะคะ

อาจารย์ค่ะ ถ้าอยากจะเขียนคู่ืมือการปฏิบัติงานการประเมินผลความพึงพอใจของผู้ใช้บริการจะต้องมีเนื้อหารายละเอียดอย่างไรบ้างค่ะ (ทำงานตั้งแต่ออกแบบสอบถามและประมวลผล วิเคราะห์สรุปผล) ขอบคุณค่ะ

ตอบห้อง 3
ดีใจคะที่เข้าใจในบทเรียนและทำข้อสอบได้
แม้ปีใหม่นี้อาจารย์จะไม่รวยเงินทอง (ไม่มีดวงทางลาภลอย) แค่นักศึกษาได้รับประโยชน์ อ.หน่อยก็ดีใจแล้ว
ด้วยรอยยิ้มที่มาจากความจริงใจคะ

ตอบเจี๊ยบ!!!
การออกแบบสอบถาม ประมวลผล วิเคราะห์ และสรุป "คู่มือปฏิบัติงานการประเมินผลความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ" ควรใช้วิธีการดำเนินงานในรูปแบบการวิจัยธุรกิจ และนำผลสรุปไปใช้เป็นคู่มือปฏิบัติงานขององค์กรที่เราต้องการ
คงจะต้องคุยกันยาวแน่ๆ แต่จะนำข้อมูลต่าง ๆ ลงใน blog เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่สนใจด้วยนะคะ

ขอบพระคุณมากค่ะ ก็จะติดตามใน blog และศึกษาเนื้อหาและ
ลองจะเขียนดู ขอให้อาจารย์หน่อยมีสุขภาพที่แข็งแรง และให้ิวิทยาทานในวิชาการต่างๆกับเพื่อนทั่วโลก ดีใจมากค่ะที่ได้รับคำแนะนำ เห็นเวลาตอบเมล์แล้วค่อนข้างดึก รักษาสุขภาพ ตอนนี้หวัดระบาด

อาจารย์ค่ะ ได้อ่านคำตอบอาจารย์แล้ว สงสัยว่าเจี๊ยบจะเขียนไม่ชัดเจนในคำถามหรือเปล่า คือ จะเขียนขั้นตอนหรืออธิบายการที่เราได้ทำงานออกแบบสอบถาม ประมวลผล วิเคราะห์และสรุปผลการประเมินความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ ที่ได้ทำงานเสร็จสิ้นแล้วอธิบายเป็น flowchart หรือบรรยายเพื่อคนอื่นมาอ่านแล้วจะได้เข้าใจวิธีการทำงานของเราและปฏิบัติงานแทนได้ เขียนในรูปแบบคู่มือการปฏิบัติงาน

ตอบ เจี๊ยบคะ ขอถามราบละเอียดอีกหน่อยนะค่ะ

ความหมายคือ การวิจัยเสร็จสิ้นแล้ว แต่อยากจะเขียนวิธีการทำงาน หรือกระบวนการที่ทำวิจัย เริ่มตั้งแต่ออกแบบสอบถาม จนกระทั่งประเมินผลความพึงพอใจ โดยเขียนเป็นรูปแบบ work flow process ที่ทำมาทั้งหมด ไม่ทราบว่า อ.หน่อยเข้าใจถูกหรือเปล่าค่ะ

(วิธีการทำงานของเจี๊ยบ หมายถึงวิธีที่เราวิจัย และปฎิบัติแทนได้ หมายถึงคนอื่นสามารถทำวิจัยต่อได้ ใช่หรือเปล่าค่ะ)

อ.หน่อยต้องขอโทษด้วย เพราะช่วงนี้ไปต่างจังหวัด เลยตอบช้า

อาจารย์ค่ะ ใช่แล้วค่ะ คือเราประเมินผลความพึงพอใจของผู้รับบริการเสร็จแล้ว(เข้าชมนิทรรศการ)แล้วจะเขียนเป็นรูปแบบตาม
flowr chart หรืออธิบายหรือเรียกว่าเขียนคู่มือการปฏิบัติงานค่ะ
อาจารย์เข้าใจถูกแล้วค่ะ ขอบคุณ

สวัสดีปีใหม่ 2553 ค่ะ อาจารย์หน่อย ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยโปรดอำนวยพรให้อาจารย์และครอบครัวมีความสุขสวัสดิ์และมีความสำเร็จราบรื่นตลอดไป

ขอตอบเจี๊ยบแบบน้ำๆก่อน ส่วนเนื้อๆจะต้องขอมองรายละเอียดของงานก่อนนะค่ะ

ก่อนอื่นเราจะต้องเขียนงานที่เราทำหรือรับผิดชอบตั้งแต่เริ่มต้น หมายถึง Job Description ของตัวเองว่ามีอะไรบ้าง ในที่นี้อ.หน่อยเข้าใจว่าเจี๊ยบทำงานเกี่ยวกับการจัดนิทรรศการ หรือจัด event ให้กับบริษัท (ไม่ทราบถูกต้องหรือเปล่า เพราะข้อมูลน้อยมาก)

1. เริ่มจากเตรียมงาน เราจะต้องวางแผนการออกแบบสอบถาม ถ้าข้อมูลแบบสอบถามมีอยู่แล้วก็ควรนำมาตรวจสอบดูว่าจะต้องปรับปรุงเพิ่มเติมในเรื่องของความพึงพอใจ เรื่องใดบ้าง ของการจัดงานแต่ละครั้งให้เหมาะสมกับแต่ละงานหรือไม่ (ควรให้ครอบคลุมทุกเรื่อง)
2. จัดพิมพ์เอกสาร ตามจำนวนที่คิดว่าจะมีผู้เข้าดูนิทรรศการ อาจจะต้องเผื่อไว้บ้าง
3. มอบหมายให้ใครเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องของการแจกแบบสอบถาม และเก็บรวบรวม (ในการแจกแบบสอบถามควรจะมีปากกาให้ผู้ตอบ ซึ่งเพิ่มความสะดวกแก่ผู้ตอบ และเป็นการจูงใจที่จะได้ข้อมูลมากขึ้น)
4. การเก็บรวบรวมข้อมูล ตรวจแบบสอบถาม (แยกข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ออก)
5. นำข้อมูลมาทำการวิเคราะห์ ใน excel
6. จัดพิมพ์สรุปข้อมูลเป็นกราฟ (แท่ง /วงกลม)
ึ7. นำเสนอผู้บริหาร

ไม่แน่ใจว่าตอบตรงคำถามหรือเปล่า ยังไงก็ขอข้อมูลเพิ่มเติมด้วยนะค่ะ

ขอบคุณมากสำหรับคำอวยพร ขอให้เจี๊ยบโชคดีและมีความสุข ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานที่รับผิดชอบ ในปีใหม่นี้นะค่ะ

อาจารย์ค่ะ เจี๊ยบได้จัดทำแบบสอบถามซึ่งมีคำถามความพึงพอใจเกี่ยวกับการจัดนิทรรศการไว้แล้วและได้แจกให้กับผู้เข้าชมนิทรรศการตอบและนำมาวิเคราะห์ผลในโปรแกรม spss for windows ประมวลผลและอธิบายผลความพึงพอใจเสร็จหมดแล้ว อาจารย์ค่ะเจี๊ยบจะส่งข้อมูลเพิ่มเติมไปทางอีเมล์ของอาจารย์จะได้เห็นรายละเอียด คำตอบของอาจารย์ก็ใช่ แต่อยากได้คำอธิบายในลักษณะทางการมากกว่านี้ค่ะ ลักษณะขั้นตอนต่างๆในรายละเอียดค่ะ ขอบคุณค่ะ ช่วงนี้เจ๊ยบต้องขอเวลาหน่อยพราะเดินทุางไปตจว.ค่ะ(ทำบุญ)

ดีคะ ! ส่งรายละเอียดมาทาง mail หรือแนบ file มาด้วยก็ได้
ทำบุณเผื่อ อ.หน่อยด้วยนะคะ

อาจารย์ค่ะ ได้ส่งรายละเอียดทางmail ให้อาจารย์ไปแล้ว 30 ธ.ค. ไม่ทราบว่าได้รับรึเปล่าค่ะ ได้ทำบุญให้อาจารย์ด้วยค่ะ วัดสุนันทวราราม จ.กาญจนบุรีค่ะ

ลองส่งมาใหม่ที่ patteera_noie@yahoo.com หรือ patteeranoie@gmail.com ก็ได้คะ

ขอบคุณมากคะที่ทำบุญเผื่อ ถ้ามีโอกาสไปทำบุญที่เชียงใหม่ก็อย่าลืมส่งข่าวให้อ.หน่อยด้วยนะค่ะ

อาจารย์ค่ะได้ส่งรายละเอียดเพิ่มเติมไปที่ patteera_noie@yahoo.com เมื่อ 4 ม.ค.53 เวลาประมาณ 9.00 น. ค่ะ

ได้รับแล้วค่ะ

ตอบเจี๊ยบนะค่ะ

อ.หน่อยได้อ่านงานวิจัยที่ส่งมาให้แล้ว รู้สึกงานวิจัยชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับองค์กรอย่างมากถ้าได้นำไปปฏิบัติ หรือได้รับการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจริง เพราะวัตถุประสงค์ของการวิจัย คือการนำไปแก้ปัญหา ปรับปรุง กระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพ และเพื่อให้ผู้ใช้บริการ มีความพึงพอใจสูงสุด (จริงหรือเปล่า)

เบื้องต้น ควรจะนำข้อเสนอแนะ และข้อคิดเห็นแต่ละด้าน มาจัดกลุ่ม ตามโครงสร้างหน้าที่รับผิดชอบของแต่ละงานก่อน ต้องถามเจี๊ยบว่า โครงสร้างองกรค์หรือ organization structure ที่มีอยู่นั้นแบ่งเป็นฝ่ายอะไรบ้าง และแต่ละข้อๆมีส่วนเกี่ยวข้องกับฝ่ายใหน เช่น "การดูแลผลงานของศิลปินที่นำมาประกวด หรือนำมาแสดงในนิทรรศการ เป็นหน้าที่ของฝ่ายใดที่ควรจะต้องรับผิดชอบ" อย่าลืมนะค่ะว่า ผลงานที่ศิลปินสร้างสรรค์ขึ้นมานั้น เป็นสิ่งรักหวงแหน และมีค่าที่สุดของเขา จึงควรที่จะต้องมีฝ่ายรับผิดชอบ ดูแลรักษาตั้งแต่จุดเริ่มรับผลงาน จนกระทั่งมอบผลงานคืนให้ศิลปินแล้ว
อีกตัวอย่าง "ความผิดพลาดในเรื่องของป้ายแสดงผลงาน หรือชื่อของศิลปิน อยู่ในความรับผิดชอบของฝ่ายใด ซึ่งควรที่จะต้องตรวจสอบก่อน ถ้านึกถึงว่ามีใครเขียนชื่อเราผิด เรารู้สึกอย่างไร มันคงไม่ต่างไปจากคนอื่นใช่ใหมค่ะ"

ขั้นต่อมา re-Job
ดังนั้นองค์กรเอง ควรนำ Job description หรือที่เรียกกันก็คือใบพรรณางานนั่นแหละคะ มาทำการปรับปรุง ใส่ความรับผิดชอบในหน้าที่งานของแต่ละงานให้ชัดเจน พร้อมทั้งประชุมชี้แจงให้แต่ละฝ่ายรับทราบในงานของตัวเอง ว่าหน้าที่ความรับผิดชอบหลักมีอะไรบ้าง หน้าที่ความรับผิดชอบที่รองลงมามีอะไร และในแต่ละฝ่ายจะต้องประสานงานกับใคร มันก็คือ work flow ที่จะทำนั้นแหละคะ

แต่อย่างไรก็ตามบุคลากรที่จะทำงานในองค์กรแบบนี้ ควรมีการพัฒนาเรื่องของ service mind, การประสานงาน, การสื่อสาร โดยเฉพาะต้องมีจิตใจในด้านบริการ คำนึงถึงการทำให้ลูกค้ามีความพึงพอใจสูงสุดเป็นอันดับแรกคะ

ถ้าเจี๊ยบสามารถทำเบื้องต้นนี้ได้ อ.หน่อยคิดว่างานของเราเสร็จไปแล้ว 80%

วันนี้แค่นี้ก่อนนะค่ะ ไม่ทราบว่าตอบตรงคำถามหรือเปล่า ยังไงก็ส่งความคิดเห็นมาอีก จะได้ช่วยกันคิดคะ

อาจารย์ขอบคุณค่ะ ที่อ่านงานวิจัยและเหมือนกำลังใจที่ได้รับ ก็จะนำข้อแนะนำมาเป็นข้อเสนอแนะในองค์กรแต่ส่วนเจี๊ยบเองไม่ได้ทำหน้าที่ในการดำเนินการด้านนิทรรศการ จะรับผิดชอบเกี่ยวกับการทำหน้าที่ด้านประเมินผล แต่ได้นำภาระงานของหน่วยงานมาตั้งเป็นคำถาม และงานที่จะต้องทำต่อไปคือจะต้องเขียนอธิบายขั้นตอนของการทำงานวิจัยชิ้นนั้นตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ อาจารย์พอมีข้อเสนอแนะหรือตัวอย่าง หรือหนังสือแนะนำบ้างมั้ยค่ะ เพราะตอนนี้ได้อ่านเกี่ยวกับการประเมินผลโครงการ การเขียนรายงานโครงการ เป็นต้น

สวัสดีค่ะเจี๊ยบ
อ.หน่อยต้องขอโทษด้วย สิ่งที่ตอบไปเข้าใจว่าเจี๊ยบจะต้องนำไปปฏิบัติ (หมายถึงขั้นตอนที่ต้องนำไปปฎิบัติท้ายที่สุด) แต่ถ้าจะต้องเขียนอธิบายขั้นตอนของการทำงานวิจัยตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ ก็ควรเริ่มตั้งแต่

ขั้นตอนการทำวิจัย
1. กำหนดเรื่อง วางแผนหัวข้อที่จะทำวิจัย Research Headline
1.1 เลือกปัญหา
- แนวทางในการเลือกปัญหาเพื่อทำวิจัย
- เรื่องที่ควรทำวิจัย
- การตั้งชื่อเรื่องงานวิจัย
1.2 วิเคราะห์ปัญหา
- ที่มาของปัญหา สิ่งที่ต้องการทราบจากการวิจัย
- ขอบเขตการวิจัย
- สิ่งที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัย(ทฤษฎีที่จะนำมาใช้ในงานวิจัย)
- ข้อความหรือคำที่เป็นปัญหา
- คาดคะเนผลการวิจัย

2. วางแผนงานและออกแบบงานวิจัย Plan & Design
2.1 ระเบียบวิธีวิจัย
2.2 เครื่องมือวิธีวิจัย (ออกแบบสอบถาม)
2.3 กระบวนการสุ่มตัวอย่าง
- กำหนดกลุ่มประชากรที่จะทำการศึกษา
- เลือกหน่วยของการสุ่มตัวอย่าง
- เลือกขอบเขตของการสุ่มตัวอย่าง
- เลือกแบบการสุ่ม
- เลือกขนาดของตัวอย่าง
- เลือกแผนในการสุ่มตัวอย่าง
- เลือกตัวอย่าง
2.4 วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล
2.5 การวิเคราะห์ข้อมูล
2.6 แผนการดำเนินการ
2.7 เขียนโครงการ
- บทนำ
- ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา
- วัตถุประสงค์ของการวิจัย
- สมมติฐานของการวิจัย
- ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
- ขอบเขตของการวิจัย
- ประชากร/กลุ่มตัวอย่าง
- ตัวแปรที่เกี่ยวข้อง
- นิยามศัพท์เฉพาะ
- แนวคิดและทฤษฎี ตลอดจนงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
- ตัวแบบ/กรอบคิดในการวิจัย
- ระเบียบวิธีวิจัยที่ใช้
- รูปแบบการวิจัย (ระเบียบวิธีวิจัย)
- เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูล วิธีการเลือกตัวอย่าง
- วิธีการวิเคราะห์ข้อมูล
- เอกสารอ้างอิง

3. เก็บรวบรวมข้อมูล
3.1 เตรียมการ สร้างเครื่องมือ/ออกแบบสอบถาม จัดทำคู่มือการลงรหัส
3.2 ปฏิบัติการ ในห้องทดลอง/ภาคสนาม
- สร้างเจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูล
- คัดเลือกและมอบหมายงาน
- การควบคุมและประเมินผลงาน
- ทำตารางปฏิบัติงาน
- การจ่ายค่าตอบแทน (ถ้ามี)

4. วิเคราะห์ข้อมูล ***
4.1 วิเคราะห์ข้อมูลขั้นต้น การบรรยายลักษณะกลุ่มตัวอย่าง
4.2 วิเคราะห์ข้อมูล เพื่อตอบวัตถุประสงค์/ทดสอบสมมติฐาน
เปลี่ยนสภาพข้อมูล
- ลงรหัส (สมุดคู่มือลงรหัส)
- ตรวจสอบข้อมูล
- แก้ไขข้อมูล
- นำข้อมูลเข้าโปรแกรม
- เลือกกระบวนการวิเคราะห์
- เลือกตัวแปรที่จะวิเคราะห์
- รันข้อมูลและดูผลลัพธ์

- เหตุที่มาของงานวิจัย (ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา)
- สิ่งที่ต้องการทราบจากการวิจัย (วัตถุประสงค์ของการวิจัย และประโยชน์)
- ขอบเขตของการวิจัย (ประชากร กลุ่มตัวอย่าง)
- สิ่งที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัย (ตัวแปรในการวิจัย กรอบแนวคิด)
- ข้อความหรือคำที่เป็นปัญหา (นิยามศัพท์เฉพาะ)
- คาดคะเนผลการวิจัย (สมมติฐานของการวิจัย)

5. เขียนรายงานการวิจัย
บทที่ 1 บทนำ
บทที่ 2 ทบทวนวรรณกรรม
บทที่ 3ส มมติฐานและตัวแบบงานวิจัย
บทที่ 4 ระเบียบวิธีวิจัย
บทที่ 5 รายงานผลการวิจัย เสนอผลการวิเคราะห์และอธิบายสรุปไม่ใส่ความคิดเห็น

บทที่ 6 สรุปผลการวิจัย อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ
- สรุปผลการวิจัย
- จุดมุ่งหมาย
- วิธีการวิจัย
- ผลการวิจัย หรือสิ่งที่ค้นพบจากการวิจัย
- อภิปรายผล สิ่งที่พบโดยยึดทฤษฎีเป็นแนวทาง
- ข้อเสนอแนะ การใช้ผลการวิจัย สิ่งที่อาจจะทำวิจัยเพิ่มเติม
- เอกสารอ้างอิง

หนังสือแนะนำ การวิจัยธุรกิจ Business Research , รศ. ศิริวรรณ เสรีรัตน์ และคณะ, สำนักพิมพ์ดวงกมลสมัย, 2541

คิดว่าน่าจะนำไปใช้ได้นะคะ

อาจารย์หน่อยค่ะขอบพระคุณมากๆค่ะ นี่ละค่ะที่จะเขียนอธิบายตามหัวข้อที่อาจารย์แนะนำ สำหรับเจี๊ยบเองแ้ล้วว่าการลงมือทำวิจัยยังสบายๆ กว่าการลงรายละเอียดเขียน เขียน อธิบายสิ่งที่เราไ้ด้ทำมันเขียนไม่ค่อยออก จะค่อนไปทางภาษาพูดมากกว่า แต่จะพยายามอ่านตำราแล้วเขียนเชิงวิชาการผสมผสาน กลัวมากว่าจะไปลอกวรรณกรรมผู้อื่นค่ะ ต้องขอบพระคุณอาจารย์

จะให้กำลังใจอยู่เบื้องหลังนะคะ อย่าเพิ่งท้อซะก่อนนะ

ขอบคุณค่ะอาจารย์หน่อย ก็จะเพียรพยายาม ไม่งั้นก็ทำงานแบบ ตายซากแน่

สวัสดีค่ะ อ.หน่อย วันเทศกาลความรักและวันตรุษจีนขอให้อ.หน่อย มีความสุข สุขภาพแข็งแรงนะค่ะ ส่วนงานที่เคยเสนอให้อ.
ทำเป็นงานวิจัยเสร็จแล้วค่ะ เหลือแต่ Job Describtion อยากยกตัวอย่าง แต่ไม่แน่ใจว่าถูกต้องหรือไม่

ขอบคุณมากนะคะ
อ.หน่อยก็ขอให้เจี๊ยบมีความสุข มีแต่คน(รุม)รัก และเป็นที่รักของทุกคน ตลอดไปนะ

สำหรับ JD ลองส่งมาให้อ.หน่อยช่วยตรวจสอบให้ก็ได้ ยินดีเสมอค่ะ

คำที่กล่าวว่า “การวิจัยต้องมีการวางแผนงานที่ชัดเจน มีการออกแบบ(design) วิธีวิจัยที่เหมาะสมและถูกต้อง และขั้นตอนของการปฏิบัติต้องกำหนดไว้อย่างละเอียด” นั้น หมายความว่าอย่างไร

ตอบด้วยนะครับผู้รู้

การที่เราจะทำงานวิจัยอะไรก็ตามสักชิ้นหนึ่งนั้น เริ่มต้นเราจะต้องวางแผนการวิจัย (research plan) เสียก่อน เพื่อที่จะช่วยทำให้ผู้วิจัยได้รู้รายละเอียด และขั้นตอนต่าง ๆ ในการวิจัย เหมือนกับการวางแผนว่าเราจะต้องเดินไปในทิศทางไหน ทำไมจะต้องศึกษาวิจัยเรื่องนี้ วิจัยไปทำไม วิจัยแล้วเกิดประโยชน์อะไรบ้าง กับใคร ต้องใช้งบประมาณ หรือเสียเงินเท่าไหร่ คุ้มค่ากับการที่จะต้องทำวิจัยหรือไม่ (What ,Why, When, Who, Where, How, Howmuch ?) เพราะถ้าเราไม่สามารถตอบคำถามเหล่านี้ได้ การวิจัยก็ไม่เกิดประโยชน์ เสียเวลา เสียเงินเปล่าๆ และถ้าเราไม่กำหนดขั้นตอนรายละเอียดการปฏิบัติไว้ให้ชัดเจน ผู้วิจัยเองก็อาจหลงลืม หรือข้ามขั้นตอนนั้นไป ทำให้ผลสรุปงานวิจัยไม่สมบูรณ์ ผิดเพี้ยน ดังนั้นการวางแผนวิจัยจะมี 3 ส่วนคือ

บทนำ ประกอบด้วย
1. เหตุผลในการศึกษา
2. วิธีการวิจัยที่เหมาะสม และเป็นส่วนขยายของการวิจัยก่อนหน้านี้
3. จุดมุ่งหมายของการศึกษา
4. สมมุติฐานการวิจัย

วิธีการ ประกอบด้วย
1. ผู้มีส่วนร่วมในการวิจัย เช่น กลุ่มตัวอย่าง
2. เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย เครื่องมือที่ใช้แยกเป็น 2 ส่วน คือ เครื่องมือที่ใช้ที่เป็นเอกสาร เช่น แบบทดสอบเชาวน์ปัญญา แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบวัดเจตคติ เป็นต้น เครื่องมืออีกชนิดหนึ่ง คือ อุปกรณ์ต่างๆ เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ เป็นต้น โดยสิ่งเหล่านี้ต้องอธิบายถึงความจำเป็นและประสิทธิภาพของเครื่องมือต่าง ๆ ด้วย
3. การดำเนินการวิจัย เป็นส่วนที่อธิบายแบบแผนการวิจัย และการนำไปใช้ด้วย รวมทั้งวิธีการดำเนินการต่าง ๆ เช่น การทดลอง การเก็บข้อมูล เป็นต้น
4. การวิเคราะห์ข้อมูล เป็นส่วนที่ต้องอธิบายถึง การนำข้อมูลมาวิเคราะห์ ตามจุดมุ่งหมายหรือสมมุติฐานการวิจัยที่ได้กำหนดไว้ มีการแปลผล และสรุปผลการวิจัย

ตอบยาวไปหรือเปล่าค่ะ เอาแค่สรุปย่อๆก่อนนะ

เรียนอาจารย์หน่อย
ไม่ได้คุยกันนานมาก เพราะเคร่งอยู่กับงานที่เคยปรึกษาอาจารย์
เรื่องการเขียนงานในหน้าที่ตนเอง เป็น JD ก็หาอ่านจากหลายๆที่
เลยเขียนเป็นลักษณะพรรณนา เพราะการเขียนเป็นขั้นตอนนั้น
เห็นได้ว่างานที่ัรับผิดชอบ เ่ช่น การประเมินผลความพึงพอใจฯ
ไม่ค่อยได้ติดต่อกับฝ่ายอื่น ๆ เลยเขียนลักษณะพรรณนา
อ.ค่ะ มีถามอีกนิด พอดีต้องเขียน1. คำบรรยายลักษณะของงานในหน้าที่ 2. รายละเอียดและหน้าที่ของงานที่ปฏิบัติ(ให้บอกความยากง่าย) ทั้งสองข้อนี้ควรเขียนอย่างไร เหมือนหรือต่างกันขอคำแนะนำด้วย เพราะตอนนี้ได้เขียนงานของตัวเองแล้วรู้สึกว่ามันก็ไม่่ต่างกัน วันมาฆบูชาเข้าวัดทำบุญด้วยนะ

สวัสดีคะ
ดีใจที่ยังคิดถึงกันอยู่ หวังว่าเจี๊ยบคงสบายดีนะคะ คำถามที่เจี๊ยบถามมารู้สึกว่าเจี๊ยบคงหนักใจมาก ไม่เห็นส่งมาให้ลองอ่านดูเลย จะได้ตอบถูก เอาเป็นว่าจะขอตอบสั้นๆก่อนส่วนรายละเอียด อ.หน่อยจะส่งทางเมล์ให้จะดีกว่า
"คำบรรยายลักษณะงาน หรือ Job Description เรียกสั้นๆกันว่า JD นั้นก็บอกอยู่แล้วว่าจะต้องมีการบรรยาย หรือพรรณนา แต่มันจะต้องมีหลักเกณฑ์ ไม่ใช่เขียนแบบเล่าเรื่อง ส่วนรายละเอียดหน้าที่ของงานที่ปฏิบัติ เป็นส่วนหนึ่งที่อยู่ใน JD อยู่แล้ว ตัวอย่างเช่น ตำแหน่งหัวหน้าสาขาร้านขายกาแฟ

หน้าที่งานโดยสรุป (Job Summary)
มีหน้าที่บริหารงานภายในร้าน และรับนโยบายจากสำนักงานใหญ่เพื่อนำไปปฏิบัติให้ถูกต้อง รวมทั้งการดูแลและให้คำแนะนำ สอนงานแก่พนักงานภายในร้าน ตลอดจนรับผิดชอบการให้บริการแก่ลูกค้าได้อย่างประทับใจ

หน้าที่ความรับผิดชอบหลัก (Main Job Responsibilities)
1. เป็นผู้รับนโยบายจากบริษัท และนำไปปฏิบัติให้ได้ตามมาตรฐานที่บริษัทกำหนด
2. บริหารงาน ควบคุมดูแล ประสานงานกับสำนักงานใหญ่เพื่อให้กิจการภายในร้านดำเนินไปได้อย่างเรียบร้อย พร้อมให้บริการลูกค้าอยู่เสมอ
3. ควบคุมดูแล และตรวจสอบสต๊อควัตถุดิบให้เพียงพอต่อการขาย รวมถึงการสั่งซื้อสิ่งของเครื่องใช้ตามนโยบายที่บริษัทกำหนดไว้
4. ดูแล ให้คำแนะนำ และสอนงานแก่ผู้ใต้บังคับบัญชาได้อย่างถูกต้อง รวมถึงการปกครองด้วยความเป็นธรรมและเสมอภาค
5. ดูแลและให้บริการลูกค้าได้อย่างถูกต้องรวดเร็วด้วยกิริยามารยายที่สุภาพ กระตือรือร้น และสร้างความประทับใจ
6. ตรวจสอบ ดูแลทรัพย์สินภายในร้าน มิให้สูญหายและตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิดให้พร้อมใช้งาน
7. จัดประชุมและจัดทำรายงานประจำวันเพื่อเสนอต่อผู้บังคับบัญชา
8. สรุปยอดขายประจำวันและนำส่งเงินเข้าบัญชีธนาคารของบริษัท

หน้าที่ความรับผิดชอบอื่นๆ (Other Job Responsibilities)
สามารถทำหน้าที่แทนพนักงานชงกาแฟ และพนักงานเสริฟได้ รวมถึงการทำความสะอาดภายในร้าน หากพนักงานไม่เพียงพอและมีลูกค้ามาก

อย่างย่อก่อนนะคะ เพราะจะต้องมีตัวชี้วัด หรือผลสำเร็จของงานด้วย

สวัสดีค่ะ อาจารย์หน่อย ได้อ่านและเข้าใจ ตอนนี้ได้เขียนงานของตัวเอง(ผลงาน)เสร็จแล้ว กำลังจะดำเนินการต่อไป
หากมีข่าวดีจะเมล์มาบอก(ผ่าน) แต่ต้องขอบพระคุณอาจารย์ด้วย
ที่ให้กำลังใจและคำแนะนำ หากมีโอกาสได้ไปเชียงใหม่หรืออาจารย์ลงมากรุงเทพฯ ก็บอกกล่าวด้วย

สุดยอดค่า

ขอบคุณมากค่ะ คราวนี้หนูก็ทำรายงาน essay ได้แล้วค่า

สวัสดีอ.หน่อย หนูได้ประโยชน์จากกรอบของอ.มากค่ะ
ตอนนี้กำลังเสนอร่างการวิจัยอย่ค่ะ แต่ยังคิดหัวขข้อไม่ออกค่ะสับสนไปหมดแล้ว

คอยให้กำลังใจทุกคนคะ

สวัสดีค่ะอาจารย์
หนูขอรบกวนอ.หน่อยค่ะ คือว่าacademic underpinning ในbusiness research แปลว่าอะไรค่ะ รบกวนอีกคำถามน่ะค่ะ ชื่อเรื่องสามารถตั้งเป็นคำถามได้ไหมค่ะ
เวปนี้มีประโยชน์มากๆๆ ขอบพระคุณมากน่ะคร่า

ขอบพระคุณค่ะ

ขอบพระคุณค่ะ

ขอบคุณสำหรับเนื้อหาค่ะ มีประโยชน์มากค่ะ

เรียนอ.หน่อยค่ะ
ตอนนี้เรียนป.โท (เอกทรัพย์ฯ) กำลังทำ IS
เรื่องการสรรหาและการคัดเลือกตัวแทนประกันชีวิตฯ
ไม่รู้จะเริ่มต้นบที่ 1-3 อย่างไรช่วยแนะนำด้วยนะค่ะ
(Tanyaporn17@gmail.com)

ตอบ คุณธันย่าค่ะ
เริ่มต้นจากการตั้งชื่อเรื่องที่จะวิจัยก่อน เช่น "การศึกษาพฤติกรรมความต้องการในการสรรหาคัดเลือกของตัวแทนประกันชีวิต" (ตั้งให้โดนๆนะคะ)
บทที่ 1 บทนำ
ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา
เขียนให้ผู้อ่านเข้าใจว่า เหตุใดผู้วิจัยจึงเลือกทำการวิจัยเรื่องนี้ ชี้ให้เห็นความสำคัญของปัญหา กำหนดประเด็นที่ต้องการเขียน ได้แก่
– เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น รายละเอียดของเหตุการณ์โดยสรุปเป็นอย่างไร ถ้าเป็นปัญหา มีลักษณะของปัญหาอย่างไร
– ความรุนแรงของปัญหา
– ความสัมพันธ์ หรือผลกระทบต่อสิ่งอื่นๆถ้ามีจะทำให้เกิดอะไร
– ประเด็นปัญหาที่จะวิจัย
เช่น สภาพแวดล้อมที่มีผลกระทบต่อการสรรหาคัดเลือก
อย่าลืมวัตถุประสงค์ ขอบเขตของการศึกษา และวิธีวิจัยใส่ลงไปด้วยนะคะ

บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ลองค้นหางานวิจัยที่มีผู้ทำไว้แล้ว ในเรื่องของการสรรหา คัดเลือกพนักงาน
บทที่ 3 วิธีดำเนินงานโครงการ/วิธีดำเนินการวิจัย ในเรื่องตัวแปร ประชากรกลุ่มตัวอย่างเป็นใคร จำนวนเท่าใด

ลองดูตัวอย่างงานวิจัยที่คล้ายๆกัน นำมาเป็นแนวคิด อาจจะได้ไอเดียบ้างนะคะ

สวัสดีค่ะ อ.หน่อย
หนูเรียน มสธ. อยู่ค่ะอยากได้คำแนะนำการทำโครงงานวิจัย เกี่ยวกับความต้องการเรียนต่อป.โท หนูไม่รู้จะตั้งชื่อเรื่องอะไรดีค่ะ ได้ศึกษาบ้างแล้วแต่ไม่รู้จะออกแบบโครงงานยังไงดีค่ะ

"ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกศึกษาต่อระดับปริญญาโท ในมหาวิทยาลัยของรัฐ"
"พฤติกรรมและปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกศึกษาต่อระดับปริญญาโทในมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช"

พอดีหนูมีเรื่องที่จะทำวิจัยแล้วแต่อยู่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กอาจต้องปิดตัวลงงานวิจัยก็ยังไม่เสร็จเราจะไปต่อยังไงค่ะ ขอบคุณค่ะ
duulean@hotmail.com

ขอรายละเอียดเพิ่มอีกหน่อยได้ไหมคะ อ่านแล้วยังงงอยู่เลย

ขอบคุณครับสำหรับแนวทางการศึกษา

สวัสดีค่ะอาจารย์ตอนนี้หนูกำลังศึกษาอยยู่มสธหนูอยากได้แนวทางการเขียนโครงวิจัยเรื่องความต้องการศึกษาต่อปริญญาโทของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมธิราชเพื่อทำกิจกรรมส่งค่ะโดยไก่IP10.250.14.179-182

มีประโยชน์ต่อนักศึกษามาครับ

คิดไม่ได้