ด้วยความที่เป็นคอมเพล็กส์แนวตั้งซึ่งสร้างคร่อม MRT - Somerset ทำให้ “313@Somerset” เนืองแน่นไปด้วยนักช้อปฯไม่แพ้แหล่งช้อปปิ้งหัวมุมถนนย่านสถานี Orchard เพราะที่นี่กวาดแบรนด์ขวัญใจสาวๆ มาเปิดให้ช้อปครบครัน ไม่ว่าจะเป็น Forever 21, Zara, Uniqlo, Levi’s, HMV และอื่นๆ อีกเพียบ

หมดพลังช้อปและรู้สึกหิวขึ้นมาเมื่อไหร่ ก็มีหลายทางให้เลือกชิม อย่างบนชั้น 5 มีฟู้ดคอร์ตเจ้าดัง “Food Republic” ที่รวบรวมอาหารสิงคโปร์ให้เลือกจุใจ แต่ถ้าอยากเปลี่ยนอารมณ์มากินเป็นมื้อกิจจะลักษณะ ลองเดินวนๆ ชั้นล่าง ซึ่งเป็นแหล่งรวมร้านอาหารหลากหลายสัญชาติให้เลือกชิม ถ้ายังตัดสินใจเลือกไม่ได้ ขอแนะนำหนึ่งร้านที่มีคิวรอยาวยืดที่สุด(ช่วงวันหยุดและอาหารเย็น)ก็คือ Marche (มาเช่)


หน้าร้านที่สาขา 313@Somerset

Marche เป็นร้านอาหารสัญชาติสวีเดน ซึ่งจัดร้านตามคอนเซ็ปต์ซุ้มอาหารที่เน้นคุณภาพและความสดใหม่ อาหารทุกเมนูจะปรุงขึ้นจากวัตถุดิบให้เราเห็นตรงหน้า และไม่ได้เน้นหนักไปทางสวีดิชอย่างเดียว โดยรวมเป็นอาหารยุโรปมากกว่า พูดแบบนี้อย่าเพิ่งร้องว้า...เพราะบรรยากาศของร้านไม่ได้เกร็งเดสกะอะไรเลย เหมือนเราเข้าไปนั่งในโรงนาที่บรรยากาศอบอุ่นมีเสียงพูดคุยจ้อกแจ้กอย่างไรอย่างนั้น พอเข้าไปในร้านพนักงานจะแจกการ์ดให้คนละใบ จะกินอะไรก็เดินไปที่ซุ้มนั้น สั่งแล้วยื่นการ์ดให้รูด ไปจ่ายเงินเอาทีเดียวตอนกลับ เรียกว่าคอนเซ็ปต์เดียวกับเซ็นทรัลฟู้ดฮอลล์บ้านเรานั่นเอง

ซุ้มอาหารที่มีคนต่อคิวยาวยืดเป็นประจำก็คือ “Swiss Rosti” เมนูมันฝรั่งขูดเป็นเส้นจี่ลงในกะทะชุ่มเนยจนเริ่มเกรียมและเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลทอง เสร็จแล้วคว่ำใส่จานทานกับซาวครีมตัดเลี่ยน บีบเลมอนลงไปนิดหน่อย ชอบความซาบซ่านก็ฝนhorse raddishหรือวาซาบิฝรั่งใส่ลงไป ใครจะสั่งไส้กรอกสารพัดชนิดทานเพิ่มด้วยก็จะยิ่งอร่อยเหาะ ขอแนะนำไส้กรอกเยอรมัน ทานแล้วเข้ากันเป็นอย่างยิ่ง วางปุ๊บแย่งกันหนุบหนับแป๊บเดียวหมด ราคาอยู่ที่ S$5.50 ส่วนไส้กรอกเยอรมันเพิ่มอีก S$6.90/ชิ้น


Swiss Rosti และ double german sausage (Coarse Pork Sausage)


ซุ้ม “พิซซ่าและพาสต้า” ก็เป็นอีกหนึ่งซุ้มฮิตของเรา พิซซ่ามี 2 ขนาดเล็ก-ใหญ่ อบด้วยเตาอิฐให้เห็นกันตำตา สั่งปุ๊บท่านพี่เชฟถึงจะรีดแป้ง โรยเนื้อโรยชีสกันให้เห็นตรงหน้า ดังนั้นถ้าใครหิวมากก็อย่าได้สั่งเพราะต้องรอนานสิบกว่านาที แต่ถ้าแฟนคลับพิซซ่าอยากลองแนะนำให้สั่งพิซซ่าพาร์ม่าแฮมกับร็อคเก็ตสลัด...สุดยอด! ตัวแป้งบางและเกรนนี่นิดๆ เหมือนใช้แป้งโฮลวีตทำ ส่วนพาสต้าที่นี่ทำเส้นให้เห็นกันสดๆ มีซอสหลากหลายรูปแบบตามความต้องการ (small Parma Ham Pizza = S$15.90)


พิซซ่า Parma Ham


ซุปเห็ด ที่หอมละมุนแต่ไม่เลี่ยน มีเนื้อเห็ดมากมายในทุกคำที่กิน

“เครป” ที่นี่มีทั้งแบบคาวและหวาน เป็นอีกหนึ่งเมนูน่าทานที่คนมักต่อคิวเสมอ(S$7.50) ยังมี “สลัดแบบผักสดและผักย่าง” เป็นภูเขาเลากาให้เลือกตักกันแบบบุฟเฟต์คิดราคาต่อจานเล็กหรือใหญ่(L-S$11.90) ซุ้มของทอดมี “คาลามารี่” หรือปลาหมึกชุบแป้งทอดทานกับซาวครีม(S$9.90) คนรักสุขภาพจะเลือกสั่งปลาหรือเห็ดรวมชุบแป้งทอดก็น่าอร่อย คนรักเนื้อมีซุ้มเนื้ออบ ขาหมูเยอรมัน ไส้กรอกสดสารพัดสารพันไว้ทานกับมันบดหอมมันละมุนลิ้น(ขาหมู S$18.90, มันบด S$1.30) กระทั่งหอยนางรมก็มีพนักงานมาแกะกันสดๆ ตามสั่ง(S$3.0 ea) นอกจากนั้นยังมี "บูยาเบ" หรือซุปปลา "Paella" หรือข้าวอบซีฟู้ดแบบสเปน(S$15.90) และอื่นๆ อีกมากมาย คิดว่าถ้าคนๆ หนึ่งจะกินอาหารให้ครบทั้งมาเช่ คงต้องแวะเวียนมาหลายครั้งหลายคราเอาการอยู่ ฉันเองก็ตั้งเป้าจะกินให้ครบให้ได้ แต่คงเป็นเป้าระยะยาว เพื่อรักษาสมดุลธนบัตรไม่ให้กระเป๋าฉีกขาดก่อนถึงวัยอันควร!



หอนางรมแกะสดๆ


Calamari


Seafood Paella


Salad


ที่พิเศษคือที่นี่จะมี "อาหารพิเศษตามเทศกาล" อย่างช่วงประมาณเดือน กค.-มิย.จะมี "White Asparagus หรือหน่อไม้ฝรั่งขาว" มาเป็นวัตถุดิบให้สั่งต้มในน้ำผสมเนยจนสุกได้ที่(butter bath) ทานกับซอสฮอลันเดสและมันฝรั่งสดใหม่เพื่อลิ้มลองรสชาติแท้ๆ หรือจะเอาไปโปะเป็นหน้าพิซซ่าทางพี่มาเช่เค้าก็จัดให้(แต่ไม่อยากแนะนำเลย เพราะรสชาติแท้ๆ ของมันอร่อยล้ำทะลุปรอทจริงๆ ขอแนะนำเมนูแรกนะ)

เกริ่นนิดนึงว่าหน่อไม้ฝรั่งขาวเป็นพืชที่บังคับให้โตกันในที่มืดจนมีสีขาว รสชาติจะหวานล้ำโดยไม่ต้องปรุงรส (ขนาดพนักงานแคชเชียร์ยังบอกอายๆ เลยว่าเค้าชอบเมนูนี้มาก มันหวานจริงๆ) เจ้าบูเล่าให้ฟังว่าพอถึงหน้าของหน่อไม้ฝรังขาวทีไร คนเยอรมันจะพากันสั่งแต่เจ้านี่ทานเป็นอาหารกลางวันไม่มีเบื่อ คงไม่ต้องถามนะคะว่าทำไมช่วงที่ว่าฉันถึงแวะเวียนไปมาเช่อยู่หลายครั้ง







ส่วนเมนูของหวานมีให้เลือกเยอะมาก ทั้งไอศครีมหลากรส(ที่นี่เป็นเจ้าของเดียวกันกับMovenpick ยี่ห้อโรงแรมและไอศครีมดังระดับโลก) ทิรามิสุ(S$4.90) หรือ bread&butter Pudding(S$5) ก็เข้มข้นหอมครีมชนิดที่ ”จำเป็น” ต้องลืมวิธีสะกดคำว่าอ้วนตอนกินกันไปเลย

“เมนูเครื่องดื่ม” ที่นี่ก็มีหลายอย่างที่น่าสนใจ ทั้งน้ำผลไม้แยกกากสดๆ (S-S$3.70, L-S$5.20) น้ำบ๊วยเค็มผสมส้มจี๊ด(เป็นส่วนผสมอันแปลกใหม่ที่ฉันค้นพบว่ามันลงตัวอย่างบอกไม่ถูก) root beer, ginger beer ยี่ห้อดังแสนอร่อยก็มีไว้บริการ (คนประเทศนี้มักเครื่องดื่มสองชนิดนี้มาก)


เอาเป็นว่าถ้าใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศจากอาหารสิงคโปร์ มาทานอาหารยุโรปในบรรยากาศที่เราสามารถอ้าปากหัวเราะก๊ากได้โดยไม่มีใครหันมามองตาขวางล่ะก็ ขอแนะนำที่นี่เลย

โดยเฉพาะถ้ามาช่วงเวลา 11.00-15.00 ได้ เค้ามี lunch special คือคิดราคาอาหารบางเมนูลดลงมาอยู่ที่ S$8.80 ซึ่งไม่ใช่เมนูคุณน้องสุนัขเมินนะคะ เป็นเมนูอร่อยๆ ทั้งนั้น อย่าง Rosti topped with mushroom ragout หรือ juicy rotisserie roasted chicken lets with homemade garlic mashed potato หรือ Caesar Salad with smoked salmon and handmade pizza เริ่มน้ำลายไหลเมื่อไหร่ก็จดที่อยู่ไป คราวหน้าแวะมาทานกันนะ

ตอนนี้ Marche มี 2 สาขาคือ
1. 313@Somerset ชั้น 1, MRT Somerset : ไม่เห็นร้านอาหารอย่าหวั่นไหว เพราะด้านบนเค้าจัดให้เป็นร้าน Deli ขายพวกขนมปังและแซนวิชย่าง เดินไปทางขวาของร้าน จะมีซอกและบันไดเลี้ยวลงไป ร้านอาหารจะอยู่ชั้นล่าง

2. Vivocity ชั้น 3, MRT Habour Front : ให้ออกไปด้านนอก จะเห็นร้านเด่นตระหง่านอยู่คนละฟากฟั่งกับ No Signboard

Create Date : 10 มิถุนายน 2553
Last Update : 10 มิถุนายน 2553 9:24:41 น.		12 comments
Counter : 3980 Pageviews.
Share Tweet