|
|
ค ว า ม จ ริ ง ที่ ผู้ บ ริ โ ภ ค ไ ม่ อ ย า ก ย อ ม รั บ-ความลับของผลิตภัณฑ์และสินค้า
สวัสดีค่ะ
ช่วงนี้เรามีเรื่องราวต้องอัพเดตกันเยอะเลย แต่คิดว่าหลายๆคนคงมุ่งไปดูตอนจบของคุณชายภัทรอยู่ ^^
เรื่องราววันนี้เป็นสิ่งที่ดิฉันได้จากเก็บเกี่ยวการเรียนรู้มาสักพักนึงแล้ว บวกกับการศึกษาเรื่องโยคะตลอดเวลาจึงทำให้มองเห็นหลายๆอย่างในชีวิตในมุมที่กว้างขึ้นและชัดเจนขึ้น จึงจะนำมาเล่าให้คุณๆฟังในวันนี้ ซึ่งขอบอกว่า อาจจะยาวและไม่ค่อยเข้าตาใครสักเท่าไหร่ (ถ้ามีคนอ่านให้ฟังก็อาจจะไม่เข้าหูนะ)
เรื่องราวของผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย เช่น แชมพู สบู่เหลวต่างๆ
ปัจจุบันเราค่อนข้างตื่นตัวกันในเรื่องของความเป็นธรรมชาติ แต่ในความตื่นตัว คนมักจะตื่นตูมกันซะเป็นส่วนใหญ่ รู้อะไรแล้วก็แชร์กันออกไปอย่างรวดเร็วในโลกไซเบอร์ อะไรก็ธรรมชาติๆ ซึ่งดิฉันไม่ปฏิเสธค่ะว่าอยากได้อะไรที่เป็นธรรมชาติๆจริงๆเหมือนกัน แต่ในความเป็นจริงคือ.....
ผลิตภัณฑ์ในตลาดเกือบทั้งหมด ไม่มีอะไรเป็นธรรมชาติ 100%
ซึ่งเหตุผลมันก็เพราะลูกค้าหรือผู้ซื้ออย่างเราๆนะแหละ!!
ดิฉันมามองเห็นความจริงในข้อนี้ชัดเจนมากขึ้นตอนที่ไปอบรมเรื่องของน้ำหอมเมื่อปลายปีที่แล้ว
มีใครเคยคิดบ้างมั๊ยว่าทำไมน้ำหอมจึงมีกลิ่นหอมเหมือนเดิมไม่ว่าจะผลิตกันมากี่รุ่นต่อกี่รุ่น แล้วเริ่มต้นกำเนิดน้ำหอมนั้นมีความเป็นมาอย่างไร ซึ่งเราจะพบข้อมูลเกี่ยวกับน้ำหอมในอินเตอร์เน็ตน้อยมาก นั่นก็เพราะว่าอุตสาหกรรมน้ำหอมเป็นปัจจัยหลักของผลิตภัณฑ์ทั้งหลายในโลกนี้ คุณต้องเข้าใจและเห็นภาพซะก่อนว่าสิ่งที่ทำเริ่มแรกเมื่อคุณจะซื้อผลิตภัณฑ์สักชิ้นนั่นคือการดมกลิ่นค่ะ ถ้ากลิ่นถูกใจ ...การตัดสินใจซื้อก็ง่ายขึ้น ส่วนรูปลักษณ์ของผลิตภัณฑ์นั้นเป็นสิ่งที่คนพิจารณารองลงมาค่ะ แล้วจึงมาเป็นคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ ดังนั้นการจะให้ผลิตภัณฑ์มีการถูกซื้ออยู่ตลอดเวลาต่อเนื่องจึงต้องทำให้กลิ่นเหมือนเดิมตลอดค่ะ แล้วจะทำอย่างไรให้เหมือนเดิมตลอดเวลาหรือคะ? ก็การโคลนนิ่งน้ำหอมไงคะ!!
น้ำหอมตั้งต้นโดยส่วนใหญ่มาจากน้ำมันหอมระเหยที่สกัดมาจากธรรมชาตินำมาผสมกันทำให้กลิ่นมีความเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเพื่อความน่าสนใจหรือหอมขึ้นนั่นเอง เมื่อเราเอาน้ำมันหอมระเหยมาผสมกันจะได้กลิ่นที่ต้องการแล้ว ก็เอามาใช้แต่คนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจธรรมชาติว่า วันเวลาที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลาทำให้น้ำมันหอมระเหยที่สกัดได้มีกลิ่นที่ไม่เหมือนกัน เช่น น้ำมันหอมระเหยดอกมะลิที่ได้ในช่วงฤดูร้อนจะไม่เหมือนฤดูฝน และน้ำหอมระเหยดอกมะลิในหน้าฝนปีนี้ก็จะไม่เหมือนของปีที่แล้วค่ะ ดังนั้นจึงเป็นกรรมของผู้ผลิตที่อาจจะโดนลูกค้าต่อว่า เนื่องจากกลิ่นไม่เหมือนเดิม ก็คิดว่าผู้ผลิตคดโกงหรือทำอะไรไม่ถูกต้อง แต่เพราะความเป็นธรรมชาติ จึงไม่สามารถควบคุมได้ เหมือนที่สภาพอากาศบางปีก็แย่และเลวร้าย ไร้ซึ่งเหตุผล ทำให้บางปีพืชผัก ผลไม้ไม้สามารถให้ผลผลิตอย่างที่ต้องการได้
ดังนั้น....สิ่งที่ผู้ผลิตน้ำหอมจะทำคือการโคลนนิ่ง นำน้ำหอมที่ได้ไปเข้าห้องแลป ในแลปจะมีเครื่องที่ใช้แยกสารเคมีต่างๆในน้ำมันหอมระเหยที่เราผสมไว้แล้ว เมื่อผ่านเครื่องปุ๊ป ตัวอย่างน้ำหอมก็จะวิ่งไป เมื่อจับสารเคมีใดได้ก็จะขึ้นชื่อสารเคมีตัวนั้นออกมา ในน้ำมันหอมระเหยหนึ่งกลิ่น อาจให้ชื่อสารเคมีตั้งแต่ไม่กี่สิบอย่างจนถึงร้อยอย่างได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะเอารายชื่อสารทั้งหมดไปเตรียมวัสดุ เมื่อเอาสารเคมีทั้งหมดนี้มาผสมกัน ก็จะได้กลิ่นที่เหมือนต้นฉบับทุกประการ แต่เป็นน้ำหอมที่กลิ่นไม่มีการเปลี่ยนแปลงอีกแล้วค่ะ จึงสามารถนำมาใส่ผลิตภัณฑ์ได้
ซึ่งก็เป็นเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับน้ำหอมค่ะ!!
ทีนี้มาดูแชมพูหรือสบู่เหลวบ้างนะคะ โดยส่วนใหญ่ก็เป็นการคัดลอกมาจากธรรมชาติ เช่นเดียวกับการผลิตน้ำหอมนั่นแหละค่ะ เพราะหัวสบู่ที่ได้จากการทำปฏิกิริยาของน้ำมันกับน้ำด่างจริงๆนั้นอาจจะไม่ได้เหมือนกันทุกครั้ง เนื่องด้วยคุณภาพของน้ำมันที่ได้จากพืชมีความแตกต่างกันในแต่ละครั้งการผลิตและน้ำด่างที่ได้จากธรรมชาติจริงๆนั้นก็มีค่าความเป็นกรด-ด่างไม่สม่ำเสมอ จึงทำให้เกิดการคัดลอกสารที่ได้ในลักษณะเดียวกับการคัดลอกน้ำหอมค่ะ
ทีนี้ถ้าเป็นสบู่ธรรมชาติจริงๆมันก็จะมีค่าการทำความสะอาดต่างกันไปตามแต่น้ำมันที่ใช้ซึ่งผู้ผลิตก็ต้องมีความเข้าใจด้วย เช่นถ้าสบู่ที่ทำจากน้ำมันมะพร้าวจะมีค่าการทำความสะอาดสูงและอาจเกิดการระคายเคืองสูง แต่มีฟองเยอะและมีลักษณะฟองที่เป็นลูกใหญ่ๆ ในสมัยโบราณมักเอาสบู่จากน้ำมันมะพร้าวไว้ล้างจาน หรือสบู่ที่ได้จากน้ำมันมะกอกหรือน้ำมันละหุ่ง จะมีค่าการทำความสะอาดที่มีความอ่อนโยน แต่ฟองน้อย ฟองที่ได้จะมีความเล็กและละเอียด หรือบางทีอาจจะไม่มีฟอง ก็มักจะไว้สระผม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็มักจะเอามาผสมกันเพราะเรายังติดการมีฟองเยอะๆค่ะ
ซึ่งตรงนี้มีรายละเอียดอีกเยอะมาก แต่แค่อยากให้คุณๆทราบไว้ว่าส่วนใหญ่เป็นสารเคมีที่คัดลอกมาจากธรรมชาติค่ะ ดังนั้นมันก็จะเป็นเรื่องของการตลาดว่าเจ้าของผลิตภัณฑ์จะใช้ตรงไหนมาโปรโมท ซึ่งบางทีมันอาจไม่ใช่ความจริงทั้งหมดแต่เนื่องจากว่าสามารถจำหน่ายผลิตภัณฑ์ได้มาก การจะเสียค่าปรับบ้างก็ไม่ทำให้เจ้าของผลิตภัณฑ์กระทบกระเทือนแต่อย่างใดค่ะ ^^ และอีกอย่างก็เพราะความต้องการของผู้ซื้อนะแหละ ถ้าไม่ทำเช่นนี้ก็ไม่สามารถจำหน่ายผลิตภัณฑ์ได้
ตัวดิฉันเองก็จะทำสบู่ธรรมชาติไว้ใช้เอง แต่คงต้องพัฒนาอีกนานกว่าจะออกจำหน่ายได้ และก็ไม่แน่ว่าจะจำหน่ายได้ เนื่องจากต้นทุนจะสูงมาก ขั้นตอนก็ยุ่งยาก ต้องเอาหัวสบู่ไปตุ๋นเป็นหลายๆชั่วโมง และนอกจากนี้เมื่อได้สบู่เหลวหรือสบู่ก้อนออกมาแล้วยังต้องเอาทิ้งไว้อีกอย่างน้อยสามถึงสี่สัปดาห์ เพื่อให้เกิดการทำปฏิกิริยาอย่างสมบูรณ์ค่ะ ซึ่งถ้าจะจำหน่ายจริงๆ ราคามันคงจะสูงลิ่วที่เดียวค่ะ ยังไม่นับองค์ประกอบอื่นๆที่จะต้องใส่ในผลิตภัณฑ์อีกนะคะ ดังนั้นจึงต้องผลิตโดยใช้สารเคมีกันไปก่อน แต่ก็เลือกที่อ่อนโยนที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และเหมาะสมกับตลาดค่ะ
เป็นอย่างไรบ้างค่ะ ความลับของผลิตภัณฑ์ที่ไม่ค่อยมีใครเข้าใจค่ะ คนเข้าใจก็ไม่อยากอธิบายค่ะ เพราะมันเยอะอย่างนี้แหละ -_-"
หากสนใจผลิตภัณฑ์ Mandala ก็สามารถเข้าไปดูกันได้ที่ www.facebook.com/Mandalaproducts ค่ะ^^
| Create Date : 24 พฤษภาคม 2556 |
| Last Update : 24 พฤษภาคม 2556 22:45:52 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 669 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
|
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [?]
|
สาวน้อย(อิอิ)ธรรมดา ที่มีพี่ๅน้องแสนฉลาด พี่สาวคนโตจบดอกเตอร์ทางด้านวิทยาศาสตร์การอาหาร พี่ชายคนโตจบศิลปะแต่ได้ผันตัวเองมาทำงานภาพยนตร์จนเป็นผู้กำกับ พี่ชายคนเล็กก็เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการสื่อสารที่คนเขาแย่งตัวกัน ส่วนน้องสาวคนเล็กก็เป็นหมอฟันประจำตัวให้เราน่ะเอง
ส่วนตัวเองเรียนจบมาทางด้านภาพยนตร์ ที่ล้วนแล้วแต่มายา แต่ดันผ่าอยากศึกษาด้านธรรมะและโยคะ เพราะความล้มเหลวด้านชีวิตครอบครัวเป็นเหตุ
วันดีคืนดีจึงนั่งเครื่องบิน บินไปอินเดียที่เป็นแหล่งกำเนิดโยคะและศึกษาอย่างจริงจัง (เที่ยวอย่างจริงจังด้วย)
ที่ Yoga Vidya Gurukul
ณ เมืองนาสิก ประเทศอินเดีย
เมื่อเดือน มีนาคม พ.ศ.2549
ตอนนี้ก็รับสอนโยคะอย่างจริงจังมาก็เริ่มปีที่ห้าแล้ว
ในปี 2553 ได้จบหลักสูตรต่างๆทุกหลักสูตรที่มีอยู่ในสถาบันแล้ว รวมทั้งศึกษาศาสตร์อื่นๆมามากมายก่ายกอง ไม่ว่าจะเป็น โยคะบำบัด อายุรเวท เรกิ ธรรมชาติบำบัด :-D
ตอนนี้เริ่มสอนอีกครั้งแล้วค่ะ ถ้าสนใจเรียนเป็นกลุ่มหรือเรียนตัวต่อตัวหรือเป็นวิทยากร
ก็ติดต่อมาได้นะคะ
Tel.+66 (0)85 1420201
|
|
|
|
|
|
|
Yoga Elements Studio สตูดิโอที่ดีมากแห่งหนึ่งในกรุงเทพ
Yogaaum& Manduka มีเสื่อโยคะรักษาธรรมชาติด้วย