W H I T E A M U L E T
Group Blog
 
All blogs
 
เห่อของใหม่ส่งตรงจาก US...demb flash products...big flip-it + clear diffuser


เพิ่งได้ของเล่นใหม่มาเมื่อวานขอลงบล็อคเห่อไว้นิดนึงค่ะ สืบเนื่องจากเริ่มจริงจังกับการใช้แฟลชมากขึ้นและพวก accessories ของแฟลชก็(มัก)ไม่แพงนักเลยหาโน่นนี่มาลองเล่นอยู่เรื่อยๆค่ะ omni bounce ก็ลองแล้วแต่ก็ยังไม่เห็นผลเจ๋งๆเท่าไหร่ ณ ตอนนี้ก็จะติดใจกับเทคนิค bounce เพดานแล้ว fill-in flash ด้วย wristband + นามบัตร มากที่สุดค่ะเพราะรู้สึกว่าแสงแฟลชที่สะท้อนเข้าหน้าไม่แรงไป

แต่ข้อด้อยของการใช้ wristband แบบบ้านๆก็คือควบคุมทิศทางแสงไม่ค่อยได้ บางครั้งบางคราวต้องดึงนามบัตรออกแล้วใช้มือถือไว้เพื่อให้เอียงได้องศาที่ต้องการ วันนึงระหว่างนั่งเล่นเน็ตไปเรื่อยก็ไปเจอกับเว็บของ Demb flash products เข้าให้ค่ะ จำได้ว่าเคยเห็นน้าท่านนึงในพันทิปทำ DIY อุปกรณ์คล้ายๆ flip-it ของ demb เลย แต่แบบว่าเป็น DIY ที่ทำตามได้ยากมากทีเดียว กลับไทยลองไปเดินหาดูก็ไม่มีขายแบบนั้นที่ไหน สุดท้ายเลย order จากเว็บเค้ามาเลยค่ะ

ทางเว็บเค้าก็ดูแลดีพอควรเลยค่ะ เมลไปถามอะไรก็ตอบกลับมาอย่างรวดเร็วไม่มีเงียบหาย หลังจากสั่งไปประมาณหนึ่งสัปดาห์ air mail ก็มาถึงบ้านที่โตเกียวเป็นที่เรียบร้อยอย่างที่เห็นค่ะ


ข้างในซองมีของสามอย่างค่ะ สองอย่างคือของที่สั่งไปและอีกหนึ่งคือใบแสดงวิธีการติดอุปกรณ์เข้ากับแฟลช (ซึ่งจริงๆมีเขียนไว้ในเว็บ //www.dembflashproducts.com/flipit/ ของเค้าแล้ว)


ดูของที่สั่งมากันชัดๆ ไหนๆสั่งทั้งทีก็เลยเอาแบบเซ็ตมาเลยประกอบด้วย Big Flip-it! (4 1/2" x 5" reflector) + removable Diffuser (อันที่เห็นเป็นพลาสติกใสๆ) ราคา $34.95 รวมค่า shipping แยกอีก $5.50 ค่ะ ถ้าคิดตามค่าครองชีพที่ญี่ปุ่นก็ถือว่าไม่ได้แพงจนเกินไปนะคะ


ตัว flip-it ที่เป็นไฮไลท์ของเค้ามีอยู่สามขนาดค่ะ ทีแรกก็ว่าจะเอาขนาด photo-journalist เพราะแผ่น reflector เล็กๆดี(ประมาณนามบัตร)ไม่เกะกะ แต่นึกไปนึกมาจะซื้อทั้งทีแล้วขอขนาด reflector ใหญ่กว่านามบัตรที่เคยใช้หน่อยดีกว่าก็เลยได้มาเป็นขนาด big นี่ล่ะค่ะ (ขนาด mega flip-it นี่ไม่ไหวค่ะใหญ่เกิน)

ตอนซื้อก็ยังนึกอยู่ว่าของมันจะสมราคาไหมนะ แต่พอได้เห็นของจริงก็คิดว่าโอเคเลยนะคะ การประกอบและตรงบานพับดูแข็งแรงไม่ก๊องแก๊ง ตรงตีนตุ๊กแกที่ใช้พันรอบหัวแฟลชก็เป็นแบบ soft-stretch ที่ยืดได้ทำให้พันได้แนบแน่นยิ่งขึ้นค่ะ


ส่วนตัว diffuser นั้นไอเดียดูไม่ยาก เป็นพลาสติกสองชิ้น(เราไม่รู้ว่าพลาสติกนี้ทำจากวัสดุอะไรนะคะ)ประกบกันในระยะห่างที่เค้าคำนวนมาแล้ว พลาสติกชิ้นนึงมีลายเส้นแนวนอน ส่วนอีกชิ้นก็เป็นลายเส้นแนวตั้ง เดาเอาว่าพอประกบกันแล้วก็ได้เป็นแนวตารางพอดี คงช่วยในแง่การกระจายแสงให้นุ่มได้โดยไม่เสียแสงไปมากมั้งคะ(เพราะเห็นเป็นพลาสติกสีใสๆ) แต่ผลการใช้จะดีหรือไม่ดีแค่ไหนเทียบกับตัว softbox นี่เราก็ยังไม่ชัวร์ค่ะ(ไม่มีแบบให้ทดลองจริงจัง)


วิธีการติดเข้ากับแฟลชนั้นไม่ยาก ทีแรกก็พัน flip-it ติดเข้าไปก่อน ในคู่มือบอกว่ายืดสายแล้วมันให้แน่นๆเลยไม่ต้องกลัวว่ามันจะขาด ส่วนตัว clear diffuser นั้นจะมีตีนตุ๊กแกเล็กๆอยู่ที่ริมทั้งสองด้าน ก็แค่เอามาแปะติดกับ soft stretch ของตัว flip-it ตะกี้เท่านั้นเองเสร็จแล้ว เนื่องจากดึงออกง่ายๆอยากเปลี่ยนองศาของตัว clear diffuser เมื่อไหร่ก็แค่ดึงออกแปะใหม่ (ภาพการติดตั้งละเอียดๆดูได้จากเว็บเค้า ที่นี่ ค่ะ)


ภาพแบบประกอบสองชิ้นพร้อมกันบนแฟลช Speedlite 430EXII ได้เป็นดังนี้นะคะ


อีกสักภาพ เวลาจะปรับองศาของแผ่น reflector ขาวๆนั้นใช้ปรับตรงตัวบานพับสีดำที่ติดกับแผ่น reflector อย่างเดียวเลย สามารถหมุนพับเก็บตัว reflector ลงไปได้(เหมือนภาพที่สองในบล็อคนี้)ในเวลาที่ไม่ใช้ ส่วนตรงที่เป็นก้านใสๆที่ต่อลงมานั้นปล่อยเอาไว้เฉยๆไม่ต้องทำอะไรเลยค่ะ (ตอนยังไม่ชิน เราจะเผลอไปพยายามปรับองศาของ reflector ตรงก้านใสๆแทนประจำเลยค่ะ)


ภาพที่ถ่ายมานี้ติด flip-it ให้ฐานอยู่ตรงด้านกว้างของแฟลช แต่ในเว็บเค้ามักจะพันฐานของ flip-it ให้อยู่ตรงด้านแคบ(ด้านข้าง)ของแฟลชมากกว่า เห็นว่าแบบนั้นสะดวกกว่าสำหรับแฟลชที่สามารถหมุนหัวได้ เพราะให้แสงได้ทั้งแนวนอนและแนวตั้ง(ไม่ว่าจะถ่ายรูปแนวนอนหรือแนวตั้งอยู่ก็ตาม ตัวอย่างภาพลองดูใน faq ของเค้า ที่นี่ ค่ะ) เวลาพับเก็บตัว reflector ลงตัวแผ่นขาวๆก็ไม่ลงมาเกะกะบังหน้าจอด้านหลังแฟลชด้วยค่ะ


มีลองเล่นดูบ้างแล้วนะคะ แต่เนื่องจากอยู่คนเดียวไม่มีนางแบบให้ลองจริงจังเลยสรุปอะไรไม่ได้เท่าไหร่ เท่าที่ลองๆก็ว่าสะดวกดีค่ะพันติดหัวแฟลชเอาไว้ตลอดได้ ไม่ใช้ก็พับเก็บ ตอนใช้ก็ปรับองศาของ reflector ได้ตามใจชอบ

สรุปๆบางประการจากที่อ่านศึกษาจากเว็บของเค้านะคะ

1. (สมมติว่าหัวแฟลชหัน bounce เพดานหมดนะคะ) ตัว flip-it นั้นมีองศาหลักๆอยู่สามแบบ [อ้างอิงจากส่วนล่างสุดของ ลิงค์นี้] ส่วนตัวอย่างภาพว่าองศาต่างๆให้แสง fill-in ต่างกันยังไงดูได้ ที่นี่ ค่ะ
- ตัว reflector panel เอียงค่อนไปทางด้านหลังนิดๆ จะทำให้ได้แสง soft ที่สุดและมีเงาน้อยที่สุด --> ถ่าย close-up หรือ candid
- ตัว reflector panel เอียงไปด้านหน้า 45 องศา อันนี้ประมาณว่าถ้าไม่มีเพดานขาวเหมาะๆให้ bounce ก็ให้แสงแฟลชมา bounce กับตัว reflector panel สีขาวตรงๆเลย อันนี้แสงส่วนใหญ่จะพุ่งไปด้านหน้าแต่เพราะขนาดของ reflector panel นั้นใหญ่กว่าหน้าของแฟลช (ถ้าใช้ big หรือ mega flip-it) การทำแบบนี้ก็จะทำให้แหล่งกำเนิดแสงใหญ่ขึ้นกว่าการยิง direct flash ตรงๆ
- ตัว reflector panel อยู่องศากึ่งกลางระหว่างสองแบบแรก อันนี้แล้วแต่เราจะปรับเองเลยว่าอยากได้แสงมากน้อยแค่ไหน (ตัวอย่างสถานการณ์ลองดู ตรงนี้ นะคะ หลักๆคือ เอียงไปด้านหลังแสง fill-in จะอ่อนและนุ่มสุด แล้วค่อยๆปรับเอียงลงมาด้านหน้าจนถึงประมาณ 45 องศาคือแสงแรงสุดทิศทางเกือบจะเหมือน direct flash เลย)

2. [อ้างอิงจาก ที่นี่] สมมติว่าหน้าแฟลชหันหาเพดานเพื่อทำการ bounce นะคะ ตัว clear diffuser นั้นหลักๆมีองศาการติดอยู่สามแบบเหมือนกับตัว flip-it ข้อแรก (ปล ถ้าเอา diffuser ติดหน้า direct flash ก็จะทำให้แสงแฟลชดูกระจายๆและอ่อนลงค่ะ แต่วิธีนี้รู้สึกจะไม่ใช่วิธีไฮไลท์ของตัวนี้)
- ติดแบบเอียงตัว diffuser ไปทางด้านหน้า อันนี้จะให้แสงสะท้อนไปยังตัวแบบน้อยที่สุดและ soft ที่สุด
- ติดแบบเอียงตัว diffuser ไปด้านหลัง (ในเว็บเค้าบอกว่าการติดแบบนี้คือ the most powerful setting ด้วยล่ะค่ะ) แบบนี้ตัว diffuser จะบังหน้าแฟลชไว้ส่วนใหญ่เลยค่ะ เค้าว่ามีประโยชน์ในกรณีที่ไม่มีเพดานสีเหมาะๆให้ bounce ก็อาศัยปรับ diffuser ในองศานี้ทำให้แสงผ่านตัว diffuser เกือบทั้งหมดแทน สีของแสงไม่เพี้ยนเพราะสีเพดาน และ แสงที่ส่งไปด้านหน้า(ส่งไปหาตัวแบบ)ก็จะ soft ขึ้นด้วย
- ติดแบบตัว diffuser ตั้งตรงๆ สำหรับกรณีตัวแบบอยู่ไม่ห่างและไม่ใกล้มาก หรือ ในห้องเพดานสูงๆ หรือ ถ่ายรูป outdoor (อันนี้เราก็ไม่เข้าใจเท่าไหร่นะคะ เดาว่าเน้นให้แสงส่วนที่ผ่าน diffuser พุ่งไปหาตัวแบบ soft ลงมั้งคะ)

3. กรณีที่มีเพดานขาวเหมาะๆให้ bounce โดยแสงจาก flip-it หรือ clear diffuser เป็นแค่แสงรองสำหรับ fill-in องศาที่เหมาะคือ flip-it ปรับให้เอียงๆค่อนไปด้านหลัง หรือ clear diffuser ติดให้เอียงไปทางด้านหน้า (แบบนี้จะให้แสงน้อยและ soft ที่สุด) [อ้างอิงจาก ที่นี่]

4. ส่วนตัวยังข้องใจว่าใช้ flip-it คู่กับ clear diffuser แล้วจะให้ผลยังไงค่ะ ดูจากคลิปวีดีโอ (อันนี้) เค้าปรับแฟลชตั้ง bounce เพดาน ปรับตัว flip-it reflector panel ตั้งตรงๆ และ ติดตัว clear diffuser ไว้ในแนวตั้ง เค้าบอกว่าแบบนี้เราจะได้แสงจากเพดานโดยการ bounce และแสงที่กระทบตัว reflector panel และพุ่งไปด้านหน้าก็ถูกกรองอีกชั้นด้วยตัว diffuser ทำให้แสงที่ไปยังตัวแบบยิ่งดูนุ่มเป็น studio-look ขึ้นอีกค่ะ

(อาศัยดูไอเดียการคอมบิเนชั่นจาก คลิปนี้) สรุปแล้วเลยเดาเอาเองว่าตัว clear diffuser นี้มีไว้กรองแสงที่พุ่งไปหาตัวแบบให้นุ่มขึ้นเป็นหลัก ซึ่งแสงที่ว่านี้อาจมาจาก direct flash ก็ได้ หรือ มาจากแสงส่วนนึงที่กระทบกับตัว flip-it (ในกรณีทำ fill-in flash) หรือ อาจมาจากแสงที่สะท้อนกับตัว flip-it ที่ปรับทำมุมต่างๆไว้ก็ได้ (เช่น flip-it เอียงด้านหน้าประมาณ 45 องศาเป็นการเพิ่มขนาดแหล่งกำเนิดแสงกรณีไม่มีเพดานเหมาะๆให้ bounce จะทำให้แสงจะพุ่งไปข้างหน้าเกือบหมดเหมือน direct flash แต่ถ้าใช้ clear diffuser ติดไว้คงช่วยให้นุ่มขึ้นได้ )



ข้อมูลเหล่านี้สรุปตามที่เราเข้าใจนะคะ ถ้ามีอะไรผิดพลาดช่วยบอกแก้ได้เลยนะคะ เพราะในทางปฏิบัติแล้ว ตัว clear diffuser นี่เป็นตัวที่เรายังไม่ค่อยเข้าใจดีค่ะว่าควรใช้ในสถานการณ์ไหนยังไงแน่ โดยเฉพาะว่ามันต่างกับพวก omni bounce หรือ softbox ยังไง สรุปแบบบ้านๆ ณ ตอนนี้ก็คงเดาว่ามันสามารถปรับเปลี่ยนองศาได้สะดวกและใช้งานในลักษณะ combination กับตัว flip-it ได้ดี(มั้งคะ)



--- เพิ่มเติม ---

ได้ทดลอง self-portrait เต็มตัวไปหนึ่งครั้งแล้วเห็นประโยชน์ของตัว clear diffuser จนได้ค่ะ

ทั้งสองภาพต่อไปนี้ถ่ายแนวตั้ง หมุนหัวแฟลชให้ bounce เพดานทำมุม 75 องศาค่ะ ติดตัว big flip-it ไว้ที่หัวแฟลชแล้วปรับมุมบานพับกะให้แสงสะท้อนเข้าที่หน้าพอดีๆ แฟลชตั้งแบบ E-TTL ปรับชดเชยไว้ +1 (สถานที่ถ่ายทำก็แคบๆอย่างที่เห็นเลยค่ะ)

ภาพแรกแบบไม่ติด clear diffuser ที่ด้านหน้าของแฟลช จะเห็นว่าสว่างมากเลยค่ะ ทั้งฉากสว่างและหน้าสว่างเลย ไม่สว่างจนโอเว่อร์และรายละเอียดภาพยังอยู่ครบก็จริง แต่มันดูแสงแข็งไปค่ะ เห็นเงาด้านหลังเข้มชัดเชียว แล้วก็รู้สึกว่าช่วงครึ่งตัวบนจะได้แสงแรงกว่าช่วงครึ่งตัวล่างอย่างเห็นได้ชัดด้วย


ถ้าเป็นทุกทีแฟลชแรงไปก็คงไปปรับลดกำลังแฟลชลง เปลี่ยนองศาการ bounce ไปมาจนกว่าจะได้พอดี แต่หนนี้นึกได้ว่าเออนะมีตัว clear diffuser หนิ จากที่อ่านมาเห็นว่ามีไว้กระจายแสงที่พุ่งไปด้านหน้า เข้าล็อคกับกรณีนี้พอดีที่แสงที่เข้าหน้าแรงไป

ว่าแล้วก็แปะตัว clear diffuser ไว้ที่หน้าแฟลชค่ะ ไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไรอย่างอื่นเลย ลองถ่ายใหม่ยืนที่เดิมผลออกมาอย่างที่เห็นเลยค่ะ แบบว่าเห็นแล้ว love เลยว่า โห ง่ายดายอะไรขนาดนี้ แปะง่ายๆทีเดียวได้ออกมาพอดีเลย แสงที่แข็งไปตะกี้ดู soft ลงทันควัน


การทดลองนี้อาจยังไม่ดีนักนะคะ แค่ถ่ายเล่นๆแล้วได้ผลถูกใจพอดี การใช้ตัว clear diffuser ที่ว่าจริงๆอาจไม่จำเป็นก็ได้ถ้าสามารถปรับกำลังและองศาของแฟลชและ reflector panel ได้พอดี แต่สำหรับเราแล้วคิดว่ามันช่วยให้อะไรๆสะดวกและรวดเร็วขึ้นมากเลยค่ะ ก่อนนี้กว่าจะหา combination ที่เหมาะสมของกำลังแฟลชและองศาการ bounce ได้นี่เดินปรับไปปรับมาอยู่หลายรอบเลย แต่หนนี้นี่จบแค่สั้นๆคือ แสงเข้าหน้าแรงไปใช่มั๊ย -> ติด clear diffuser -> จบ

---------------------------------------------------------

ภาพทั้งหมดถ่ายจาก Canon Kiss X3 + EF 35mm f/1.4L ค่ะ คร็อปและย่อ USMก็เป็นอันเสร็จค่ะ ยกเว้นภาพทดลองเพิ่มเติมสองภาพสุดท้ายจะใช้ Kiss X3 + EF-S 15-85mm f/3.5-5.6 IS USM (ปิด IS) + Speedlite 430EXII ถ่ายค่ะ

>> ดูรายการบล็อคอัพใหม่ทั้งหมด



Create Date : 30 สิงหาคม 2553
Last Update : 2 กันยายน 2553 12:35:28 น. 5 comments
Counter : 3622 Pageviews.

 
น่าใช้จัง แต่ไม่รู้จะซื้อได้ที่ไหน


โดย: Ping IP: 58.9.16.77 วันที่: 5 กันยายน 2553 เวลา:7:18:02 น.  

 
^
^
สั่งจากเว็บเค้าได้เลยค่ะ จ่ายด้วยบัตรเครดิต เค้าส่งต่างประเทศด้วย (ไม่เห็นเขียนไว้นะคะว่าไม่ส่งประเทศไหนบ้าง เราเลยเดาว่าส่งหมดทุกประเทศมั้งคะ)


โดย: White Amulet วันที่: 5 กันยายน 2553 เวลา:12:08:50 น.  

 
เจ้าของบล็อคน่ารักจังครับ ^^ ขอสอบถามหน่อยได้ลองถ่ายนอกสถานที่บ้างหรือยังครับ อยากเห็นรูปที่ถ่ายครับ


โดย: ed IP: 58.8.153.242 วันที่: 19 สิงหาคม 2554 เวลา:2:30:13 น.  

 
^
^
เคยใช้ flip-it นี่ไปหนึ่งทริปเต็มๆค่ะ (ตอนใกล้จบทริปก็เบลอจนทำหล่นหายไป ต้องสั่งอันใหม่มาอีก)

ส่วนตัวชอบนะคะ มันทำให้พื้นที่ผิวสะท้อนแฟลชใหญ่ขึ้นกว่าเดิม บังคับทิศทางแสงได้ง่ายด้วย หรืออยากให้แฟลชแรงขึ้นหรือเบาลงก็แค่ปรับองศาของแผ่นสะท้อน

แต่ข้อเสียมากๆคือมันเด่นมากเลยค่ะ ถ้าตั้งแผ่นสะท้อนไว้ถือกล้องไปไหนมาไหนคนมองกันหมดเลย ตอนไหนไม่ใช้เลยจะพับแผ่นสะท้อนลงเพื่อลดความเด่นค่ะ


โดย: White Amulet วันที่: 19 สิงหาคม 2554 เวลา:12:19:54 น.  

 
ลืมบอกว่ารูปที่ถ่ายทริปนั้นยังดองใน HDD อยู่เลยค่ะ แล้วตอนใช้ flip-it ก็เป็นถ่ายรูปตัวเองซะมาก เลยเอาลงเน็ตไม่ได้น่ะค่ะ (ถึงลงก็ sensor หน้าอยู่ดี ไม่ค่อยต่างกัน )


โดย: White Amulet วันที่: 19 สิงหาคม 2554 เวลา:14:31:48 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

White Amulet
Location :
Bangkok Thailand / Tokyo Japan

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 35 คน [?]




บล็อคนี้ถึงไม่ค่อยมีอะไรแต่ถ้าจะก๊อปปี้ข้อความหรือรูปอะไรไปโพสที่อื่น ก็รบกวนช่วยใส่เครดิตลิงค์บล็อคนี้ไว้ด้วยนะคะ

เราไม่สงวนลิขสิทธิ์การนำภาพและข้อความในบล็อคไปเผยแพร่(ในแบบที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์)แต่สงวนลิขสิทธิ์ความเป็นเจ้าของภาพถ่ายและเนื้อหาค่ะ

ค้นหาทุกสิ่งอย่างในบล็อคนี้

New Comments
Friends' blogs
[Add White Amulet's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.