Little drops of water, Little grains of sand Make the mighty Ocean, and the pleasant land. Little deeds of kindness, Little words of love Help to make Earth Happy, Like the Heven above.
Group Blog
 
All Blogs
 
ว่าด้วยเรื่องของการทำโทษ

"การสั่งห้าม,ดุหรือหยุดในทันทีที่เด็กทำผิด เป็นการทำให้สมองของเด็กหยุดการพัฒนาความคิด วิธีที่เหมาะสมในการสอนเด็กเมื่อทำผิด คือ อนุญาติให้เด็กทดลองลองทำต่อไป แต่ต้องควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด จากนั้นจึงให้คำแนะนำสิ่งที่ถูกต้องหรือดีกว่าเป็นอย่างไร เป็นการทำให้เด็กได้พัฒนาความคิดของตนเองและเข้าใจเหตุผลต่างๆได้ชัดเจน"

หลักการนี้ใช้ได้แทบทุกกรณี เว้นแต่ สิ่งที่เด็กกำลังทำจะก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายของตนเองหรือผู้อื่น ต้องรีบหยุดในทันที

ส่วนตัวแล้ว จขบ คิดว่านี่คงเป็นสาเหตุหลัก ที่ทำให้เด็กฝรั่งชอบทำอะไรแผลงๆ เพราะผู้ใหญ่เค้าให้ลองทุกอย่าง เสียแต่บางครั้งคุมไม่ค่อยได้ เหอๆ(ที่อเมริกาลูกฟ้องพ่อแม่ได้ เพราะงั้นจะไม่มีการตีหรือการทำโทษที่ใช้ความรุนแรง ฉะนั้น...จขบ คิดว่าการทำโทษที่ดีที่สุดสำหรับเด็กที่นี่คือ ไม่พาไปกิน yoghurt land ห้าม chip ทุกประเภท หรือ งดชอกโกแลตซัก 1 สัปดาห์)


แต่...แต่...แต่ บางครั้งเราก็คงจะเบื่อหน่ายที่ต้องพูดซ้ำๆๆๆ อธิบายหรือสอนอะไรซ้ำๆ แต่น้องหนูก็ยังจำไม่ได้ซักที (ไอ้ที่ดีๆหน่ะไม่ค่อยจำ แต่อะไรที่ไม่ควรจำหล่ะก็ ขึ้นใจเชียว นิสัยนี้เป็น universal เด็กฝรั่ง เด็กนิโกร เด็กแม็ก เด็กเอเชีย เป็นเหมือนกันโม๊ด... ) ที่จริงแล้วมันมาจากหลายสาเหตุ อย่างแรกคือ ธรรมชาติของความจำเด็ก ซึ่งผู้ใหญ่อย่างเราๆมักจะมองว่า เด็กๆหน่ะความจำดี ซึ่งก็ไม่จริงซะทีเดียว เด็กๆความจำดีหน่ะใช่ แต่ก็ลืมง่ายเหมือนกัน ที่สำคัญเด็กๆจะจำได้ไม่ลืม ก็ต่อเมื่อเค้าจำฝังเข้าไปแล้วต่างหาก....

แล้ว...เราจะทำให้เด็กๆจำอะไรหรือทำอะไรๆเองได้ด้วยตนเอง ได้อย่างไร

1.พยายามสอนทุกอย่างให้เป็นขั้นเป็นตอน เหมือนกันทุกครั้ง อย่าพูดซ้ำๆแต่วนไปวนมา ลืมโน่นลืมนี่ จะทำให้เด็กสับสน หรือจำอะไรผิดๆไป---วิธีใช้ได้ดีกับเด็กเล็กๆ และเด็กกลุ่ม special need แต่ก็เอามาใช้กับเด็กโตๆได้เหมือนกัน
2.ทุกครั้งที่สอนหรืออธิบาย ต้องมั่นใจว่าเด็กได้รับมันเข้าไป หรือสนใจฟังที่เรากำลังสอน ทำได้โดยการจ้องตาเด็ก พูดช้าๆชัดๆ และหนักแน่น บางครั้งอาจจะให้เด็กทวนคำพูดของเรา
3.ให้เด็กลองมือปฏิบัติจริงๆ เพราะการได้ลองทำด้วยตนเอง ช่วยให้จำได้ดีที่สุด
4.เป็นตัวอย่างที่ดี อยากให้เด็กเป็นอย่างไร ผู้ใหญ่อย่างเราๆต้องทำให้ดูเป็นตัวอย่าง ---หลักการนี้ อาศัยผลพลอยได้จากนิสัยการชอบเลียนแบบของเด็ก ฉะนั้น ถ้าไม่อยากให้ลูกพูดจาเหมือนนางร้ายในละครทีวี ก็อย่าดูละคร(ให้ลูกเห็น)
5.อย่าลืมกล่าวชมหรือให้รางวัลทุกครั้งที่เด็กทำอะไรสำเร็จ การกล่าวชมทำให้เด็กมีความรู้สึกที่ดี และทำให้เด็กเข้าใจถึงความสำคัญของสิ่งที่ตัวเองทำ ว่าแต่มันเกี่ยวกับเรื่องความจำอย่างไร--- อันที่จริงแล้วมันไปเกี่ยวแบบอ้อมๆ เพราะจริงๆแล้วสิ่งที่เด็กจำได้คือความรู้สึกดีๆ ทำให้ประทับใจ และเพราะต้องการจะได้รับคำชมอีก เลยทำให้เด็กพยายามทำสิ่งต่างๆให้ได้อีก เลยเป็นการทำให้เด็กพยายามจดจำและทำอะไรๆด้วยตนเอง ด้วยประการฉะนี้แล

ข้อควรระวัง
ผู้ใหญ่อย่าใจดีเกินไปหรือขี้เกียจสอน เวลาเห็นเด็กทำอะไรไม่ได้ หรือทำไม่ถูก อย่าไปจัดแจงจัดการให้เสร็จทุกอย่าง หน้าที่ของผู้ใหญ่อย่างเราๆคือ เป็นผู้สังเกตุการณ์ ให้คำแนะนำ และเป็นผู้ช่วยเหลือ โดยช่วยเมื่อจำเป็นจริงๆเท่านั้น อย่าเห็นแต่ว่า เราทำๆให้ซะก็สิ้นเรื่อง ----> เป็นการ spoil อย่างแรง


ด้วยประการฉะนี้ จึงเป็นเรื่องปกติที่เด็กเมกันกับพ่อแม่มักจะต่างคนต่างเดิน ไม่จูงมือ ไม่อุ้มกันแบบเอเชียอย่างเราๆ ปล่อยให้เด็กๆทำอะไรเอง เพราะเค้าถือว่าตัวเองเป็นผู้สังเกตุการณ์ แต่กระนั้น....บางที จขบ ก็อดนึกสงสัยไม่ได้ว่า พ่อแม่ที่นี่เค้าขี้เกียจดูแลลูกนินา




Create Date : 25 กันยายน 2554
Last Update : 20 มกราคม 2555 2:33:56 น. 3 comments
Counter : 389 Pageviews.

 
ขอบคุณครับติดตามๆๆๆๆ
..........................................


โดย: aodblo22 วันที่: 25 กันยายน 2554 เวลา:4:50:04 น.  

 
ขอบคุณมากนะค่ะ น่าสนใจและน่าอ่านจริงๆค่ะ


โดย: eveava วันที่: 25 กันยายน 2554 เวลา:7:21:32 น.  

 
อ้าว อยู่ต่างแดนแล้วเหรอครับ
โอ้ วิชาการเยอะเลย


โดย: <เซ็นเซอร์> วันที่: 28 กันยายน 2554 เวลา:17:49:17 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Vitamin_C
Location :
Pasadena United States

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




สวัสดีค่ะ อากาศดี ก็อารมณ์ดีเนอะ .......^-^

คิดถึงบ้านที่เมืองไทยเป็นที่สุด
ถ้าไม่นับห้องสมุดๆเจ๋งๆกับพิพิธภัณฑ์ดีๆ กับอาหารหลากหลายเชื้อชาติให้กินได้ไม่ซ้ำทุกวันแล้วหล่ะก็ เมืองไทยชนะขาดในทุกกรณี ว่าแต่เมื่อไหร่ ห้องสมุดกับพิพิธภัณฑ์ของบ้านเราจะพัฒนาซักทีน้อ....


ถึงแม้ว่าบล๊อกนี้จะไม่ค่อยมีสาระ แต่เนื้อหาและข้อความทั้งหมด
รวมไปถึงรูปภาพที่ข้าพเจ้าเป็นผู้ถ่ายเอง ถือเป็นลิขสิทธิ์ ของสำนักพิมพ์บางกอกสาส์น จำกัด
ห้ามผู้ใดนำไปเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาติจากเจ้าของบล๊อก หรือ จากกองบรรณาธิการ

หากมีข้อสงสัยใดๆ กรุณาติดต่อหลังไมค์
หรือ
กองบรรณาธิการ สำนักพิมพ์บางกอกสาส์น 966/10 ซ.พระราม6 19 ถ.เพชรบุรี เขตราชเทวี กทม 10400
โทร 02-6137140
Email vitavitac@gmail.com
Friends' blogs
[Add Vitamin_C's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.