|
|
|
Angel of Music... Anthony Warlow
เข้ามาเขียนเกี่ยวกับ Anthony Warlow ตามที่เคยบอกไว้ (ใครจะอยากอ่านเปล่าไม่รู้ แต่เราอยากเขียน 5555)
Anthony Warlow คือใคร เขาเป็นนักร้อง/นักแสดงชาวออสเตรเลียที่แสดงทั้งใน Musical และ Opera (โอเปร่าจริงๆ ไม่ใช่แค่ Phantom of the Opera) รวมทั้งออกอัลบั้มมาแล้วหลายชุด (ล่าสุดคือ Face The Music เมื่อปี 2003)
เขาคือคนที่รับบทแฟนธ่อมฉบับออสเตรเลียคนแรก และเหมือนที่เคยเขียนไว้ คือเราคิดว่าเขาเป็นแฟนธ่อมที่เสียงดีและแสดงด้วยเสียง (คือถ่ายทอดอารมณ์ของเรื่องราวและตัวละคร) ได้ดีที่สุดเท่าที่เราเคยฟังมาคนหนึ่ง เขายังได้รับเลือกเป็น Living National Treasure ของออสเตรเลียด้วย
ข้างบนนั่นสมัยรับบทแฟนธ่อม
สมัยนี้ จะ 44 แล้ว (ยังคงดูดีตามวัย แม้จะไม่มีผม ^^")
ประวัติความเป็นมาของเขากับเรื่องแฟนธ่อมนั้นน่าสนใจดีพิลึก เขาได้รับบทแฟนธ่อมตอนอายุ 29 ซึ่งตอนนั้นถือเป็นแฟนธ่อมที่อายุน้อยที่สุดเลยทีเดียว (ปกติคนที่รับบทแฟนธ่อมจะอายุประมาณสามสิบกว่าๆ ถึงสี่สิบกว่าๆ เพราะบทแฟนธ่อมนั้นอายุราว 40-50) ครั้งแรกเขาตั้งใจออดิชั่นเป็นราอูล แต่ไปๆ มาๆ โปรดิวเซอร์บอกให้ลองออดิชั่นบทแฟนธ่อมด้วย และสรุปแล้วเขาก็ได้รับบทแฟนธ่อม (ซะยังงั้น แต่ไม่น่าแปลกใจเท่าไรค่ะ เมื่อลองฟังเสียงเขาแล้ว เราฟัง Music of the Night ของเขาแล้วยังอยากตามลงไปสิงสถิตอยู่ในรังใต้ดินนั่นด้วยเลย ^^")
Anthony Warlow เล่นบทนี้อยู่สองปี ถือว่าอยู่ในช่วงรุ่งของอาชีพ ตอนที่พบว่าตัวเองเป็นมะเร็งลำคอ แต่โชคยังดีที่เขารักษาตัวจนหาย (โดยที่เสียงไม่พังด้วย ขอบคุณสวรรค์) และจนถึงตอนนี้ก็ยังมีผลงานออกมาเรื่อยๆ (เสียแต่เป็นโอเปร่า Musical และ Concert ในออสเตรเลีย ซึ่งแน่นอนว่าเราไม่อาจตะกายตามไปดูได้ แง T-T)
เพลงที่เอามาให้ฟังกันไม่ใช่จากเรื่องแฟนธ่อม แต่มาจากอัลบั้มCentre Stage (ซึ่งเป็นอัลบั้มรวมเพลงฮิตจากละครเวทีเรื่องต่างๆ) และ Jekyll & Hyde (ซึ่งเขาไม่ได้เล่นเรื่องนี้บนเวทีจริงๆ แต่อัดเสียงเป็น Concept Cast) ส่วนใหญ่จะให้เป็นลิงค์นะคะ เดี๋ยวเสียงจะตีกันหมด ^^" คลิกขวาแล้วเซฟได้เลยค่ะ
เพลงที่ได้ยินอยู่นี่คือ Anthem จากเรื่อง Chess
ก็เหมือนกับเพลงอื่นๆ คือเนื่องจากกระบวนการลดคุณภาพไฟล์ลงให้ขนาดเล็ก มันเลยอาจจะฟังบู้บี้ๆ ไปหน่อย และน้ำเสียงบางส่วนก็แบนๆ ไปด้วย ขอบอกว่าต้นฉบับน่าประทับใจมากค่ะ ฟังแล้วแอบขนลุกนิดๆ เป็นเพลงที่จับใจคนไกลบ้านจริงๆ ทำให้นึกถึงหัวใจของผู้ลี้ภัย ผู้อพยพเลยล่ะค่ะ
No man, no madness,
Though their sad power may prevail,
Can possess, conquer, my country's heart
They rise to fail
She is eternal
Long before nations' lines were drawn
When no flags flew, and no armies stood
My land was born
And you ask me why I love her
Through wars, death and despair
She is the constant
We who don't care
And you wonder will I leave her -- but how?
I cross over borders but I'm still there now
How can I leave her? Where would I start?
Let man's petty nations tear themselves apart
My land's only borders lie around my heart
her ที่พูดถึงในเพลงไม่ใช่ผู้หญิงค่ะ แต่คือประเทศนั่นเอง สำหรับคนที่ไม่เคยรู้เนื้อเรื่องของ Chess มันเป็นเรื่องของนักหมากรุก (ชื่อก็บอกอยู่แล้วนิ ^^") เพลงนี้เป็นบทของนักหมากรุกชาวรัสเซีย (เรื่องนี้เป็นเรื่องสมัยยังเป็นสหภาพโซเวียตอยู่) ร้องเกี่ยวกับว่าถึงเขาจะออกจากประเทศไป เขาก็ไม่มีทางจากไปจริงๆ ได้ เพราะพรมแดนที่แท้จริงหนึ่งเดียวของแผ่นดินของเขารายล้อมอยู่รอบหัวใจนั่นเอง
Bring Him Home จากเรื่อง Les Miserables ความจริง Warlow เคยเล่นเรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน แต่เป็น Enjolras ไม่ใช่ Jean Valjean (ดาราที่เล่นเรื่องแฟนธ่อมหลายคนจะเคยเล่น Les Miserables มาก่อน คงเพราะเป็นของเจ้าเดียวกัน อย่างเช่น John Owen-Jones แฟนธ่อมลอนดอนก็เคยเล่นเป็นทั้ง Valjean และ Enjolras ส่วน Hugh Panaro ซึ่งรับบทแฟนธ่อมบนบรอดเวย์ตอนนี้ก็เคยเล่นเป็น Marius)
เพลงถัดจากนี้จาก Jekyll & Hyde ค่ะ
Take me as I am ร้องคู่กับ Carolee Carmello เป็นเพลงรักของ Jekyll ความจริงมีเพลงรักของ Hyde ด้วยค่ะ ร้องกับ Linda Eder แต่พื้นที่เต็มแล้วเลยไม่ได้เอาขึ้นให้ อันนั้นจะสไตล์ดาร์คๆ ค่ะ ถ้าใครสนใจว่าฆาตกรสุดชั่วอย่าง Hyde จะร้องเพลงรักได้ท่าไหน ลองบอกมานะคะ อาจจะหาพื้นที่โหลดเฉพาะกิจให้ได้
This is the moment เพลงเอกของ Jekyll และดูเหมือนจะเป็นเพลงเอกของ Warlow เพลงนึงไปแล้ว (ลองฟังเขาลากโน้ตรวดเดียวสิบหกวินาทีท้ายเพลงดูค่ะ)
Alive เพลงเอกของ Hyde ลองดูค่ะว่าฟังแล้วคุณสัมผัสอารมณ์ของ Hyde ได้แค่ไหน ท่อนที่เป็นเสียงหัวเราะกับบทพูดนี่ evil สุดๆ ไปเลย แม้ฟังแล้วแอบคิดอยู่เล็กๆ ว่านี่ถ้าร้องไม่ดี เพลงนี้คงเว่อร์ตายจนขำกลิ้ง ^^"
Confrontation เพลงนี้ไม่ใช่เพลงที่ฟังสบายๆ เป็นบัลลาดส์อย่างเพลงต้นๆ แต่เอามาปะไว้ด้วยเพราะอดไม่ได้ เป็นเพลงที่โชว์ความสามารถคนร้องสุดๆ เพราะเป็นเพลงที่ Jekyll เผชิญหน้า ดวลอารมณ์กับ Hyde ลองฟังคนคนเดียวร้องเป็นสองบท duet กับตัวเองดูค่ะ แล้วจะพบว่าการแสดงด้วยเสียงนั้นคืออะไร (เราไม่ต้องดูเนื้อก็รู้เลยว่าท่อนไหนที่เขาร้องเป็น Jekyll ท่อนไหนเป็น Hyde)
| Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2548 | | |
| Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2548 4:26:47 น. |
| Counter : 756 Pageviews. |
| |
|
 |
|
|
|
ว่าด้วย The Scarlet Pimpernel
อืม เรากำลังพูดถึงเรื่องนี้ในฉบับ Musical ซึ่งความจริงเราก็ไม่เคยได้ดู (อ้าว?) เพียงแต่เคยอ่านหนังสือนิยายต้นฉบับ (โดยฝีมือการแปลของ อ.สายสุวรรณ) และฟังเพลงจากอัลบั้มละครเพลงฉบับ OBC (Original Broadway Cast) โดยฝีมือการแต่งเพลงของ Frank Wildhorn
ซึ่งความจริงแล้ว เรื่องมันเริ่มมาแบบนี้ เราเป็นแฟนเรื่องแฟนธ่อม ออฟ ดิ โอเปร่า และการเป็นแฟนเรื่องนี้ ทำให้เราได้รู้จัก Anthony Warlow (อดีตแฟนธ่อมที่เสียงดีที่สุดคนหนึ่งที่เราเคยได้ยินมา) และเราก็ซื้ออัลบั้ม Concept Cast ของละครเพลง Jekyll&Hyde เพราะ Warlow ร้อง เราก็เลยได้รู้จัก Frank Wildhorn (ซึ่งแต่งเพลงเรื่องนั้น) และละครเพลง The Scarlet Pimpernel (เราจะเขียน blog เกี่ยวกับ Anthony Warlow ทีหลัง)
สำหรับคนที่ไม่เคยได้อ่านนิยายเรื่องนี้ The Scarlet Pimpernel เป็นนิยายฮีโร่ (ก็ประมาณๆ นั้น) พระเอกของเรื่องชื่อ Sir Percy Blakeney เป็นขุนนางอังกฤษ ซึ่งใช้เล่ห์อุบายต่างๆ เพื่อช่วยพวกชนชั้นสูงชองฝรั่งเศสให้รอดจากการถูกตัดหัวด้วยกิโยตินในสมัยปฏิวัติ โดยหมอจะประทับตราจดหมายด้วยสัญลักษณ์ดอกพิมเพอร์เนลสีแดง (เห็นตราบนแหวนในโปสเตอร์ไหมคะ) ซึ่งเป็นที่มาของฉายา The Scarlet Pimpernel แต่ในขณะเดียวกัน พระเอกก็ซ่อนตัวตนที่แท้จริงไว้ใต้คราบหนุ่มสำรวยไม่เอาไหน ทึ่มๆ เอ๋อๆ สนแต่แฟชั่นกับบันเทิงไปวันๆ จนไม่มีใครสงสัย
และตามแบบฉบับฮีโร่ พระเอกก็ต้องมีหวานใจคนนึง ซึ่งไม่ได้รู้เรื่องราวกับเขาเลยว่าแฟนตัวไปเป็นฮีโร่อะไรยังไง (ตามสูตรเปี๊ยบ) และมีคู่ปรับสักคนสองคน ในเรื่องนี้คู่ปรับของพระเอกเราก็คืออีตา Chauvelin ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของฝรั่งเศส และตั้งใจจะปราบ The Scarlet Pimpernel ที่มาคอยเหยียบจมูกเย้ยทางการอยู่ให้ได้ (คงไม่ต้องบอกว่าหมอไม่เคยทำสำเร็จสักที ^^")
อันที่จริงเราก็ไม่แน่ใจว่าตัวเองชอบการตีความเรื่องนี้ฉบับละครเท่าไร เพราะจากพวกนิ่งๆ จอมวางแผน พระเอกกลายเป็นพวกกระตือรือร้น Swordbuckling hero พิกล แต่ก็เข้าใจว่าขืนพระเอกเอาแต่นั่งวางแผนแล้วแกล้งทำท่าเอื่อยๆ เนือยๆ คนดูคงหาวแย่ ^^"
แต่ที่แน่ใจคือเราชอบเสียงของ Chauvelin ซึ่งร้องโดย Terrence Mann (เราเคยฟังเขามาแล้วจากอัลบั้มละคร Beauty and the Beast) Douglas Sills ซึ่งร้องเป็น Sir Percy ก็ร้องได้ดีเหมือนกัน (แม้ฟังดูซีดๆ ไปนิดเมื่อเทียบกับ Chauvelin ^^" แต่พูดไปอีกทีเราอาจชอบผู้ชายเสียงห้าว)
ข้างล่างเป็นลิงค์เพลงจากอัลบั้มนี้ของทั้งสองคน กับเนื้อเพลง
Prayer (Percy)
No, stay
I don't care what you've said or done
Don't go away
Not now, when life had just begun
Come back, and be the woman who I knew
Help me to believe in you
What on earth am I to do?
She's gone, this vision who was not quite real
I must move on despite the pain
The pain will heal
Oh, Lord, how could you let me love like this?
No one dies upon a kiss
And only fools believe in bliss
Oh yes, God knows I am a fool
A man deluded by his wife
A figure ripe for ridicule
Who's lived a vain and useless life
So be it then, I'll play that game
I do not give a tinker's damn
I'll be a fool, it's all the same
It truly doesn't matter what I am
God, no!
I'm broken, but I'm still alive
And slowly I will feel my soul revive
With time, I'll find a way to right this wrong
If it takes my whole life long
Lord, I'll fight my battles all alone
But make me strong
Falcon in the Dive (Chauvelin)
Hunt for the man
Comb the city, every street, every grate
You put a guard at every gate
Drag him out, shout the moment that you find him!
Damn!
Knock in the doors, lock up the city
Track him down through this town
And be quick about it...now!
How the devil do I ever prevail when I'm only a man?
But I'll never be duped by this scurrilous phantom again
I wasn't born to walk on water
I wasn't born to sack and slaughter
But on my soul, I wasn't born
To stoop, to scorn, and knuckle under
A man can learn to steal some thunder
A man can learn to work some wonder
And when the guantlet's down,
It's time to rise and climb the sky
And soon the moon will smoulder
And the winds will drive
Yes, a man grows older but his soul remains alive
All those tremulous stars still glitter
And I will survive!
Let my heart grow colder and as bitter as a falcon in the dive
There was a dream, a dying ember
There was a dream, I don't remember
But I will resurrect that dream
Though rivers stream and hills grow steeper
For here in hell where life gets cheaper
Oh, here in hell the blood runs deeper
And when the final duel is near
I'll lift my spear and fly
Piercing into the sky and higher
And the strong will thrive
Yes, the weak will cower while the fittest will survive
If we wait for the darkest hour
Till we spring alive
Then with claws of fire, we devour like a falcon in the dive
These are the days! Yes!
Days of glory, days of rage, and the dream
And the dream of Paris preys on my bones
Gnawing night and day and clawing through my brain and
No, never bend! Never kneel!
Rend him to bits! Bite!
Now, the beauty of the fight
I'm not a man to hunger for blood, but the spirit can cry
To be younger and fiercer and fly
Piercing into the sky and higher
And the strong will thrive
Yes, the weak will cower while the fittest will survive
If we wait for the darkest hour
Till we spring alive
Then with claws of fire, we devour like a falcon in the dive
Where's the Girl? (Chauvelin)
I remember days full of restlessness and fury
I remember nights that were drunk on dreams
I remember someone who hungered for the glory
I remember her, but it seems she's gone
Where's the girl? Where's the girl with the blaze in her eyes?
Where's the girl with that gaze of surprise?
Now and then I still dream she's beside me
Where's the girl who could turn on the edge of a knife?
Where's the girl who was burning for life?
I can still feel her breathing beside me
And I know she remembers how fearless it feels
To take off with the wind at her heels
She and I took this world like a storm
Come again!
Let the girl in your heart tumble free
Bring your renegade heart home to me
In the dark of the morning, I'll warm you
I'll rouse you...
Marguerite, don't forget I know who you are
We were cut from the same surly star
Like two jewels in the sky sharing fire
Where's the girl so alive and still aching for more?
We had dreams that were worth dying for
We were caught in the eye of a storm
Come again!
Let the girl in your heart tumble free
Bring your renegade heart home to me
In the dark of the morning, I'll warm you
I'll rouse you
Where's the girl?
Is she gazing at me with surprise?
Do I still see that blaze in her eyes?
Am I dreaming, or is she beside me now?
เพลงสุดท้ายที่เอามาให้ฟังคือเพลงที่ได้ยินอยู่ค่ะ
When I Look at You: Reprise (Percy)
|
|
|
The phantom of the opera is here...inside my mind...
พื้นที่นี้อุทิศให้ความบ้าแฟนธ่อมของเรา ซึ่งกำเริบเป็นครั้งคราว และกำเริบครั้งหลังสุดหลังไปดูละครเวที....
กำเริบจนเกิดอาการอยากวาดรูปขึ้นมา ^^"
ใครที่เคยดูละครคงรู้ว่าปีกหมวกของแฟนธ่อมในรูปนี้มันสั้นไปหน่อย ^^" ของจริงในละครปีกหมวกจะกว้าง แต่อภัยให้คนวาดด้วยเถอะนะ
ส่วนนี่นางเอกของเรื่อง Christine ในจินตนาการของเรา
**********
รูปพวกนี้เพิ่งไปเจอบนเนต น่าร้ากจัง ^^
ดาราแฟนธ่อมฉบับบรอดเวย์ จากซ้ายไปขวา Michael Shawn Lewis, Julie Hanson (alternate Christine), Hugh Panaro (The Phantom)
เห็นแล้วอยากเป็นคริสติน....(ความจริงอยากเป็น Julie มากกว่า)
เนื่องจากมีคนร้องเรียนมาว่าวิดีโอที่เอามาแปะทำให้คอมเค้าทำท่าจะเดี้ยงเมื่อเปิดมาหน้านี้ เลยเอาออก - -"
สำหรับคนที่ยังไม่ได้ดู เป็นวิดีโอ 7000th performance on Broadway ของแฟนธ่อม หลักๆ เป็นสัมภาษณ์นักแสดง กับมีภาพการแสดงนิดๆ หน่อยๆ แอดเดรสของวิดีโอที่ว่าอยู่ข้างล่างค่ะ ถ้าอยากดูก็ตามลิงค์ไปเปิดกันเอาเองนะคะ
คลิกขวาที่นี่แล้วเซฟค่ะ หรือคลิกเปิดเลยก็ได้ถ้าไหว เป็นไฟล์แฟลช ใหญ่พอดู
| Create Date : 29 มกราคม 2548 | | |
| Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2548 4:08:29 น. |
| Counter : 944 Pageviews. |
| |
|
| |
|
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [
