Group Blog
 
All Blogs
 
Harry Potter



       คงไม่ต้องแนะนำให้มากความสำหรับหนังสือเรื่องนี้ แต่อยากจะเล่าให้อยู่หน่อยตรงที่ว่า ตัวเราเองนั้นแม้จะเคยได้ยินจากหลายๆ คนว่า มันสนุกมาก รวมทั้งตอนที่ดูจาก vcd ที่เช่ามา ก็รู้สึกว่าเรื่องนี้สนุกนะ แต่ก็ไม่คิดจะหามาอ่าน เพราะตอนนั้นยึดติดกับความคิดที่ว่า วรรณกรรมเยาวชน ก็คงไม่ต่างจากนิทานอ่ะแหละ และเราก็โตแล้ว จะกลับไปอ่านนิทานอีกทำไมกัน



       จนวันนึง ไปเดิน b2s เพื่อที่จะหาหนังสืออ่านนี่แหละ ก็เดินๆๆ ตูจะอ่านอะไรดีฟะ สายตาก็เหลือบไปเห็น แฮร์รี่ลด 20%..............อืม.........ลดเท่าจตุจักรเลย......เออ...เอาวะ ลองซื้อไปอ่านดู ก็ซื้อเล่ม1 ไป เสร็จแล้วก็กลับไปอ่านที่บ้าน....ยังอ่านไม่ทันจบเล่มเลย สนุกเฟ้ย....วันรุ่งขึ้นเลยไปซื้อมาอีก ให้ครบ กะอ่านรวดเดียว4 เล่มเลย


       จากที่ได้อ่านแล้วก็คิดว่าสมควรแล้ว ที่หนังสือเรื่องนี้ขายดีไปทั่วโลก นอกจากความสนุกสนาน แบบที่เด็กๆ ชอบแล้ว เรื่องนี้ยังกล่าวถึงหลายๆ อย่าง ในแง่ความรักของครอบครัว และเพื่อนๆ ซึ่งเราคิดว่า เด็กๆ จะได้ประโยชน์มาก ถ้าเค้ารับตรงนี้ได้ อย่างในเล่ม5 จะเห็นได้ชัดในแง่ความรักของครอบครัววีสลีย์ ไม่ว่าเพอร์ซี่จะหนีออกจากบ้านไปไหน จะขัดแย้งกับคนในบ้านยังไง คุณนายวีสลีย์ ก็ยังถักเสื้อกันหนาวประจำครอบครัว ส่งไปให้เหมือนทุกปี และก็ในเล่ม5 อีกเช่นกัน ก็จะเห็นว่าตัวแฮร์รี่นั้นเริ่มโตเป็นวัยรุ่น ความใจร้อน ความมีทิฐิของเค้านี่เอง ที่บางที ทำให้เรื่องมันร้ายแรงขึ้น.....เราคิดว่าเหล่านี้แหละ คือข้อดีของหนังสือเรื่องนี้ ที่มีมากกว่าความสนุก


       เราเคยอ่านเจอบางคนบอกว่า เค้าไม่อ่านลอร์ดฯ ไม่อ่านแฮร์รี่ เพราะไม่อยากตามแฟชั่น ไม่ทำอะไรโหลๆ......แต่เรากลับคิดว่าการอ่านเป็นแฟชั่นที่ดีนะ เชื่อเถอะว่าต่อให้อ่านหนังสือเรื่องเดียวกัน แต่คนแต่ละคน จะได้รับอะไรจากหนังสือเรื่องนั้น ไม่เหมือนกันแน่นอน บางคนเห็นแง่มุมนึง แต่บางคนกลับเห็นอีกมุมนึง หรือไม่เห็นเลยก็มี บางคนคิดว่าที่ตัวเอกในเรื่องตัดสินใจอย่างนั้น เพราะว่าเหตุผลนี้ แต่อีกคนอาจจะบอกว่าไม่ใช่ มันเป็นเพราะเหตุผลอีกอย่างนึงมากกว่า....นี้แหละ คนเราได้อะไรจากหนังสือเรื่องเดียวกัน ไม่เหมือนกันหรอก เว้นแต่ว่าคุณจะอ่านเป็นแฟชั่น อ่านให้จบๆ อ่านให้ผ่านตาไปงั้นๆ เพื่อให้ได้ชื่อว่าตัวเองก็อ่านเรื่องนี้แล้วเหมือนกัน อย่างนี้ต่างหาก ที่เรียกว่าอ่านเป็นแฟชั่นอ่ะ


       ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว...ขอพูดเรื่องความไม่ชอบใจในตัวสำนักพิมพ์ซักกะหน่อย......ตั้งแต่ตอนที่ซื้อเล่ม1 มาลองอ่านแล้ว เปิดดูก็งงนิดๆ ว่าหนังสือขายดีของโลก ทำไมพิมพ์ด้วยกระดาษขาวธรรมดาๆ หว่า...แถมกระดาษยังดูบางๆ อีกตะหาก ทั้งๆ ที่หนังสือเล่มอื่นๆ ของสำนักพิพม์นี้ กลับพิมพ์ด้วยกระดาษสีเหลืองนวลหมด!!!??....แต่ก็เคยได้ยินทางสนพ.เค้าออกมาให้สัมภาษณ์ว่า พยายามทำหลายๆ ทางเพื่อให้หนังสือออกมาราคาถูก พอที่เด็กๆ จะซื้อได้...ก็ไม่เป็นไร อ่านๆ ไป แต่....ไอ้ปัญหาพิมพ์ผิดนี่ดิ ในเล่ม3 เราไม่รู้ว่าตกลงเนวิลล์มี ย่า หรือ ยาย กันแน่ๆ ทั้งๆ ที่เล่ม3 ของเราน่ะ เป็นฉบับพิมพ์ครั้งที่2 แล้วนะ แสดงว่าก่อนจะพิมพ์ใหม่แต่ละครั้ง เค้าคงไม่ได้ตรวจเลยล่ะซิท่าเนี่ย.....แต่นั่นก็ไม่เท่ากับเล่ม5 พิมพ์ผิดหลายที่มาก แต่ที่เรายากจะรับก็คือ พิมพ์ชื่อตัวละครผิด มารีเอตต้า หรือ มาเรียตต้ากันแน่?? นี่มันไม่ได้ผิดแบบว่า คุณพิมพ์ไม้เอก ไม้โทตกหล่นนะ แต่ผิดแบบว่า การออกเสียงเปลี่ยนไปเลย ยังกะใช้คนแปลหลายๆ คนแล้วเอามาเย็บเล่มรวมกันซะงั้นแหละ


       ไม่นานนักทางสนพ.ก็ออกมาขอโทษ...แค่นั้น......เราเองก็ไม่ได้หวังจะให้เค้าคืนเงินหรืออะไรหรอก ก็เข้าใจ ว่าคงลงทุนไปเยอะ คิดว่าเราโชคร้ายเองละกัน แต่ที่ไม่ชอบใจคือ เค้าน่าจะเรียกเก็บของเดิม ออกจากตลาดให้หมด แต่นี่อะไร ยังวางขายต่อ ทั้งๆ ที่รู้ว่าเป็นของมีตำหนิ ถ้ามันผิดคำ2 คำจะไม่ว่าเลย นี่มันผิดหลายที่มาก แล้วยิ่งเล่ม5 เนี่ย ราคาก็ไม่ใช่น้อยๆ แถมสนพ.ยังเล่นแง่ให้ขายราคาเดียวทั่วประเทศอีก แต่คุณกลับเอาของมีตำหนิมาวางขายราคาเต็ม ให้กับเด็กๆ เจริญล่ะพ่อคุณ...เคยคิดถึงเด็กๆ ที่ต้องเก็บตังค์มาซื้อของคุณอ่านมั๊ยเนี่ย เก็บเงินแทบตาย ต้องมานั่งทู้ซี้อ่านผิดๆ ถูกๆ เอาเอง
ขนาดเล่ม3 พิมพ์ครั้งที่2 ก็ยังมีจุดผิด เราก็ไม่รู้จะว่าไงแล้ว กับมาตรฐาน และคุณภาพการพิมพ์ของสำนักพิมพ์นี้


       ไม่เข้าใจอ่ะ คุณเองก็ทำหนังสือมานาน น่าจะเข้าใจมั่งว่า ความถูก-แพงของหนังสือ บางทีมันวัดกันที่ตัวเลขราคาไม่ได้ เวลาเราซื้อหนังสือ เราเลือกจะตาย ก็เราอยากได้เล่มที่ดูดี แข็งแรง ไสกาวแน่นหนา ถ้ามีปกแข็งเราก็จะเลือกปกแข็ง ต่อให้ต้องเก็บตังค์อีกหน่อยก็เหอะ เพราะมันแข็งแรงกว่ากันเยอะ เก็บไว้ให้หลานๆ อ่านได้อีก อย่างลอร์ดฯ เราก็ยอมซื้อปกแข็งเหมือนกัน สำหรับหนังสือ เราจ่ายมากที่สุด เท่าที่เราจะจ่ายได้ และเราก็ไม่เคยรู้สึกว่าซื้อหนังสือเล่มไหนมาแพงซักครั้ง จนกระทั่งได้อ่านแฮร์รี่เล่ม5 นี่แหละ.....ถึงได้รู้ว่าเราซื้อหนังสือเล่มนี้มาแพงจริงๆ



บ่นบ้าไรวะเนี่ย...ยาวเหยียดเลย - -'









Create Date : 26 มกราคม 2548
Last Update : 26 มกราคม 2548 10:09:23 น. 4 comments
Counter : 356 Pageviews.

 


มาเยี่ยมชม Blog นะคะ










โดย: รักดี วันที่: 26 มกราคม 2548 เวลา:17:11:33 น.  

 
อืม... ผมเองก็มีโอกาสอ่านแฮร์รี่แบบรวบยอดเมื่อเกือบสองปีมาแล้ว พอผมอ่านมาถึงเล่ม5ผมข้ามตอนที่ยัยโดโลเรส อัมบริดจ์เข้ามีบทบาท(อิทธิพล)ไป เพราะถึงตรงนี้คงบีบคั้นอารมณ์ผู้อ่านที่เป็นแฟนคลับในตัวของแฮร์รี่นี่มากเหมือนกัน เพราะยัยนี่ท่าทางร้ายเขี้ยวลากดินที่สุดละครับ


โดย: วัฏสีร์ ธรรมจารี (spiralhead ) วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2548 เวลา:15:47:20 น.  

 
เห็นด้วยมากๆเรื่องสนพ เนี่ย
เสียความรู้สึก
เราหยุดอ่านฉบับภาษาไทยไปเลยตั้งแต่เล่ม 4
เพราะรับไม่ได้


โดย: pad IP: 172.212.146.46 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:18:54:13 น.  

 
ชอบคำวิจารณ์มากค่ะ พอดีเข้ามาอ่าน


โดย: minmin IP: 125.25.187.40 วันที่: 17 ตุลาคม 2551 เวลา:17:14:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

sleepless.cs
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add sleepless.cs's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.