Group Blog
 
All Blogs
 

เสียเงินอีกแล้ว.....- -'




      เสียเงินอีกแล้ว....ไม่น่าเลย เพิ่งถูกปล้นจากงานหนังสือไปแท้ๆ ทั้งๆ ที่ตั้งใจจะไปซื้อเดือนหน้า.....แต่พอไปร้านหนังสือ...อาการเก่ามันก็กำเริบอีกแล้ว



      พาหลานไปซื้อหนังสือหัดเขียนตัวเลข สะกดคำ ก็ไปเจอหนังสือ ทางช้างเผือก เป็นเรื่องเกี่ยวกับหนังสือเรียนภาษาไทยในสมัยก่อน มานะ มานี ^^ เล่มละ90 กว่าบาท ก็ตั้งใจว่าพรุ่งนี้จะไปซื้อ ที่ร้านนายอินทร์ ไม่ซื้อเดี๋ยวนั้นเพราะกลัวหลานเห็น เดี๋ยวเธอจะวุ่นวาย เปิดหนังสือแต่ละที ดูไม่ออกว่าจะเปิด หรือจะฉีกหนังสือ



      พอมีโอกาสไปร้านนายอินทร์ ปรากฎว่าเค้าไม่มีวางขาย แต่2 เล่มนี้ 2เล่มที่ตั้งใจจะซื้อเดือนหน้า ลอร์ดน้อยฟอนเติ้ลรอย กับ จินตนาการไม่รู้จบ มันเตะตาอย่างแรง โดยเฉพาะ จินตนาการไม่รู้จบ วางเป็นตั้งๆ น่าหยิบมากกกกกกก........และแล้วก็เหมือนโดนยาสั่ง อยู่ๆ มือมันก็เอื้อมไปหยิบขึ้นมา.....นิ้วมือก็เริ่มสัมผัสไปบนปกหนังสือ อืม...สัมผัสแปลกใหม่ทุกครั้งที่จับ เกิดขึ้นจากตัวหนังสือพิมพ์นูนบนปกนี่เอง(ถึงจะจับมาแล้วหลายครั้งก็เหอะ^^) หนังสือเล่มนี้ตามหามานาน ถ้ายังจำกันได้ เคยเล่าไว้ใน about a book ของเรื่อง "ในสวนศรี" มารอบนึงแล้ว ตั้งจะไปสู่ขอเธอนี่แหละ แต่เธอไม่อยู่ เลยเลือกคน(เรื่อง)อื่นไปแทน ^^ คราวนี้เธอกลับมาใหม่ ในสังกัดใหม่ แถมค่าสินสอดเธอก็หนักเอาเรื่อง แพงกว่า da vinci code เล่มปกอ่อนซะอีก ยืนถือยืนเปิดดูอยู่อย่างงั้น สุดท้ายก็.....เดินไปจ่ายตังค์ แต่ก่อนจะไปจ่ายนึกไปถึง ลอร์ดน้อยฟอนเติ้ลรอย....ไหนๆ ก็มาแล้ว นานๆ จะได้แวะร้านนายอินทร์(ซื้อหนังสือในเครืออมรินทร์ได้ลด10%) ก็โฉบเอาลอร์ดน้อยฯ กลับไปด้วยซะเลย.....



      ท้ายที่สุดแล้ว....หลานรัก น้าขอเบียดเบียนค่าไอติมหน่อยนะ จากไอติมวอลล์ หนูกินไอติมกะทิไปก่อนละกันนะลูก...^^'







 

Create Date : 13 เมษายน 2548    
Last Update : 13 เมษายน 2548 12:14:02 น.
Counter : 532 Pageviews.  

K2......เขาเป็น dr.k รุ่นที่เท่าไหร่กันเนี่ย..???



      อาทิตย์ที่แล้วแวะไปซื้อโคนัน ก็ได้เห็นหน้าปกหนังสือ kc.trio โฆษณาเรื่อง k2 อยู่ เห็นหน้าปกแล้วก็ เออ..มันออกมาจริงๆ เหรอเนี่ย เคยเห็นที่ห้องการ์ตูน โต๊ะเฉลิมไทยเค้าพูดกัน ไอ้เราก็นึกว่าเป็นภาคของ kei รึเปล่า คิดว่าไม่น่าจะมีภาคต่อออกมาแล้ว เพราะตอนจบในภาคนั้น ตัวโคลนของ k ก็โผล่มาตอนปี 2018(ประมาณนั้น)



      ลองซื้อไปอ่านดู อืม...ไอ้คนแต่งนี่เอาจริงแฮะ เพราะขึ้นต้นเรื่อง เป็นเหตุการณ์ในเดือนมี.ค. ปี2004 เลยสงสัยว่า k2 คนนี้เป็น k รุ่นไหนหว่า..เลยลองมานั่งนึกดู...



      ลองไล่ดูเป็นรุ่นๆ ละกัน ตามที่ปรากฎในการ์ตูน ก็เริ่มตั้งกะรุ่นปู่ เลยไปกว่านั้นนึกไม่ออก เริ่มจาก คาสึมุเนะ มีลูกชาย2 คน คือ คาสึโอกิ และ คาสึอากิ ---> คาสึโอกิ มีลูก2 คน คือ คาสึยะ(dr.k) กับ เคอิ ส่วน คาสึอากิ ที่โผล่มาในตอนท้ายเรื่องลงไว้ว่าลูกเค้าเสียชีวิตไปแหล่ว....และคาสึอากินี่เอง ที่เป็นคนทำตัวโคลนของ k ขึ้นมา จากรุ่นปู่ ก็มาถึงรุ่นหลาน หลานในตระกูล k เท่าที่เห็นมีอยู่คนเดียว คือ ลูกของเคอิ(ยังไม่ทราบชื่อ) ส่วนอีกคนไม่ใช่หลาน เป็นตัวโคลนของ k รู้สึกจะชื่อ คาสึนาริ ทั้งหมดที่โผล่มาในการ์ตูนก็มีเท่านี้....ตกลงแล้ว ตาk2 คนนี้ มีโอกาสจะเป็น k ในรุ่นไหนมากที่สุดอ่ะ คิดดูตามเวลาที่เกิดเหตุการณ์ ก็น่าจะเป็นในรุ่นน้องของ คาสึยะ นั่นก็หมายความว่า...


      1. คาสึโอกิมีลูกอีกคน - หลังจากสร้างความสับสนกับผู้อ่านด้วยการโผล่เคอิมาในภาค doctor k มันก็มีความเป็นไปได้ ที่คาสึยะ จะมีน้องร่วมโลกอีกคนโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ - -'


      2. ลูกของคาสึอากิยังไม่ตาย - ก็เป็นไปได้อีก เพราะอยู่ๆ คุณอาคนนี้ก็มาโผล่เอาตอนท้ายเรื่อง แล้วก็ชิงตายไปซะก่อน



      เท่าที่นึกๆ ดู ก็มีโอกาสน่าจะเป็นคือ1ใน2 นี้แหละ เว้นแต่ ผู้เขียน จะโผล่ k คนใหม่ๆ ออกมาให้รับรู้กันอีก เราว่า ตอนจบมันก็สมบูรณ์ดีแล้วนา...ทำไมถึงได้ออก k2 ออกมาอีกก็ไม่รู้ ในตอนจบภาคที่แล้ว ก็เอ่ยถึงตัวโคลนของ คาสึยะ ไว้เรียบร้อยแล้วนี่...



      กลุ้มใจจริงๆ ตั้งใจว่าพอโคนันจบก็จะบอกลาการซื้อการ์ตูนซะที เต็มตู้ไปหมดแล้ว ตอนนี้เหลือโคนัน กับ super dr.k(พิมพ์ใหม่) นี่แหละที่กำลังเก็บอยู่ แล้วนี่ดันโผล่ k2 มาอีก มันยั่วจริงๆ ถ้าพิมพ์แบบรวมเล่มเมื่อไหร่ ไม่แคล้วต้องเสียเงินอีกแน่ๆ เฮ้อ.....- -'



      ว่าแต่ตา k2 คนนี้เนี่ย หล่อสู้คนเก่าไม่ได้เลยอ่ะ ^^' และการแต่งตัวก็ต่างจาก k คือ ตาคนนี้ไม่ได้ใส่บูทยาว และเสื้อไม่มีแขน แต่เค้าแต่งตัวธรรมดา เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว รองเท้าธรรมดาๆ แต่มีผ้าคลุมเหมือนตระกูลเค เท่านั้นแหละ



      พูดถึงเรื่องตระกูลเค แล้วก็งง ชื่อสกุลของคาสึยะ คือไซโจ้ ซึ่งเป็นนามสกุลของแม่ สงสัยจังว่าทำไมใช้นามสกุลแม่??? แล้วนามสกุลของคนในตระกูลเค คืออะไรกันแน่...







 

Create Date : 01 เมษายน 2548    
Last Update : 2 เมษายน 2548 18:37:07 น.
Counter : 2713 Pageviews.  

จากหนอนตัวน้อย(????).....จนกลายเป็นผีเสื้อ...(กลางคืน)


      บ่ายวันนึง ขณะกำลังเอกเขนก ดูทีวี ก็ได้ยินเสียงหลาน และพ่อ เรียกให้ออกมาดูหนอน เสียงหลานตื่นเต้นมาก บอกว่าเป็นหนอนยูนิฟ ตัวอ้วนโต ส่วนเรา ถูกแม่เร่งให้ออกไปดูเร็วๆ เดี๋ยวหลานจะเสียใจที่น้าไม่ตื่นเต้น ก็เลยต้องออกจำใจออกไปดู พอไปถึงที่เกิดเหตุ(ต้นสัตบรรณ) พบหนอนขนาดใหญ่ 3 ตัว ตัวมันใหญ่อ่ะ ไม่เหมือนหนอนที่เห็นตามต้นตำลึงเลย ตัวเป็นแบบหนอนยูนิฟในโฆษณา อ้วนประมาณนิ้วโป้ง แต่ลำตัวยาวกว่านิ้วชี้อีก ถามพ่อว่า มันเป็นหนอนผีเสื้อรึเปล่า พ่อบอกว่าน่าจะใช่นะ ความคิดจะเลี้ยง แว่บขึ้นมาทันที เลยจับออกจากต้นไม้ ใส่กล่องกระดาษเจาะรูไว้ก่อน เพราะยังหาอุปกรณ์ไม่ได้ ตัวมันนิ่ม หยึยๆ อ่ะ ไม่ค่อยอยากจับมันบ่อย กลัวนิ้วเราจะบีบมันพุงแตกไปซะก่อน



      เมื่อคิดจะเลี้ยง ก็ต้องหาอุปกรณ์ ก็ไม่รู้จะใช้อะไร เนื่องจากตู้ปลาเล็กๆ ที่ใช้เลี้ยงปลาหางนกยูง(ไม่รู้มันหลุดจากบ่อปลาของบ้านใคร ตอนฝนตกเห็นมันว่ายกันอยู่ตามแอ่งน้ำขัง หน้าบ้านเราเต็มเลย ก็ช้อนเก็บมาเลี้ยงซะ ^^') หายไปแล้ว ก็เลยใช้.....โถลวกไข่ละกัน คือ ชอบกินไข่ลวก แม่เลยซื้อไอ้โถนี่มาให้อ่ะ ก็ใช้แก้ขัดไปก่อน พอไปเปิดดูในกล่อง ปรากฎว่าหนอนหายไป1 ตัว มันคงเดินออกจากรูที่เจาะไว้อ่ะ ก็ไม่เป็นไร 2 ตัวกำลังดี ไม่แน่น จับใส่โถ แล้วก็เอาใบไม้วางๆๆ ให้มันกิน เป็นใบอะไรก็ไม่รู้ เก็บๆ เอาแถวบ้านน่ะแหละ ขืนเด็ดใบต้นสัตบรรณมา แม่ฆ่าตายแน่ เพราะเพิ่งเอามาลงได้ไม่นานเอง ต้นนี้



      วิธีเลี้ยงก็ออกจะแปลก คือเลี้ยงนอกบ้านไม่ได้ กลัวแมวจับไปกิน เลยเลี้ยงไว้หน้าน้องน้ำ ตรงที่มีหน้าต่าง ตอนกลางคืนเอาฝาชีครอบไว้ - -' คือ กลัวอ่ะ เดี๋ยวตอนกลางคืนมีแมงสาบหรือตัวอะไรไปกัดมันเข้า ส่วนตอนกลางวัน จะเปิดฝาชีไว้ ให้มันรับแสง มีอยู่วันนึง ตอนนั้นมันเข้าดักแด้ตัวเริ่มแห้งแล้ว เช้าเปิดมาเจอ มดขึ้นอ่ะ แต่เป็นมดตัวเล็กๆ พวกมดรำคาญ ถ้าเป็นมดแดงคงตายไปแล้วแหงๆ เรารีบเอาไปเคาะๆๆๆๆ ไล่มด มันดิ้นด้วยอ่ะ เลยได้ความรู้ใหม่ เป็นดักแด้ก็ดิ้นได้ ตอนนั้นหวังอย่าให้มันตาย เราเองก็ไม่รู้ว่ามันจะตายรึเปล่า แต่คิดว่าถ้าตายกลิ่นต้องออกแหละ สุดท้ายก็รอดดดด...หลังจากวันนั้นเราก็เอาชอล์คกันมดแมงสาบ มาขีดไว้ รอบๆ ขาเก้าอี้ที่วางโถ








เอาละมาดูรูปกัน clickที่รูปเพื่อดูในขนาดที่ใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อย
วันแรกที่เจอ มันเกาะอยู่บนต้นสัตบรรณ
เหมือนรถด่วนมั๊ยคร้าบบบ...
ผ่านไปแค่คืนเดียว มันก็กลายเป็นสีส้ม และเริ่มกินน้อยลง
แล้วมันก็เริ่มชักใย...มันจะเริ่มใช้ใยเหนียวๆ ดึงใบไม้ที่อยู่รอบๆ มาห่อตัวไว้
ไม่กี่วันต่อมา สภาพก็เป็นเช่นนี้ เสียดายที่ถ่ายรูปก่อนหน้านี้ไว้ไม่ได้ ช่วงที่มันห่อตัวด้วยใบไม้ มันจะปล่อยอะไรไม่รู้เหนียวๆ ออกมา แล้วตัวจะเริ่มเป็นสีช้ำเลือดช้ำหนองอ่ะ ก่อนที่จะแห้งแบบนี้
นี่แหละ แห้งทั้งตัวแล้ว มันใกล้จะออกมาแแล้ว!!!




      และแล้วกลางดึกคืนหนึ่ง เวลาราวๆ ตีสอง ขณะที่เรากำลังจะไปอาบน้ำ(เลี้ยงไว้หน้าห้องน้ำ) เราก็ได้ยินเสียงใบไม้กรอบแกรบๆ เลยเปิดฝาชีออกดู....................โอ้แม่เจ้า....ตัวอะไรน่ะ!!!! แว่บแรกที่เห็น คิดว่าไอ้2 ตัวนี้มันแอบมากินหนอนของเราเหรอเนี่ย....หลังจากได้สติกลับคืนมา ก็ค่อยๆ ทำใจยอมรับได้ว่า มันคือหนอนน้อย ที่ออกจากดักแด้น่ะเอง หนอนน้อย...ที่เฝ้าดูอยู่ทุกวัน T_T






ทัศนาภาพตัวเต็มวัยกันได้เลย
ช็อคมั๊ยละ ตอนตี2 เปิดมาเจอภาพแบบนี้
สีสันบนปีกก็สวยดีนา....
เป็นผีเสื้อกลางคืน ก็ต้องออกจากดักแด้ตอนกลางคืนสิ
ผมคือผีเสื้อกลางคืน หรือในภาษาอังกฤษเรียกว่า moth น่ะแหละครับ ชื่อภาษาไทยของผมคือ ผีเสื้อจรวดเขียว ลายทหาร ชื่อภาษาอังกฤษคือ Daphnis hypothous ครับป๋ม




      อ่ะ..หลังจากหายตกใจ ได้สติ ก็รีบไปคว้ากล้องมาถ่าย ในใจก็คิดว่า มันจะกัดมั๊ยเนี่ย 555 พอตอนเช้าคนที่บ้านมาเปิดเห็นเข้า ไม่มีใครบอกเราเลย เค้าคิดว่าเรายังไม่รู้อยากให้เราตกใจเล่น :D



      พอเราตื่น ก็เอามันออกไปวางข้างนอก มันจะได้บินออกไปได้ แต่วันนั้นทั้งวันมันก็ไม่บิน เย็นแล้วก็ยังไม่บิน เลยปล่อยไว้ เพราะคิดว่าเดี๋ยวดึกๆ มันก็คงบินไปแหละ แล้วก็จริงด้วย เช้าของอีกวัน มันหายไปแล้ว.......ก็ดีใจอ่ะ ที่ได้เลี้ยง ทำให้เราได้เห็นว่า ผีเสื้อกลางคืน มันก็มีสีสันเหมือนกันแฮะ ปกติเคยเห็นแต่สีเทาๆ น้ำตาลๆ หรือสีดำ แต่เจ้าพวกนี้ เขียววววว มาเลย



      หลังจากนั้นมา เราก็ได้เลี้ยงอีก2 ตัว แต่เป็นตัวเล็กกว่า และดักแด้ก็ไม่เหมือนกัน แต่เสียดายอ่ะ เปิดมาดูอีกทีมันแห้งตายไปแล้ว T_T คราวนี้รูปร่างต่างกันราวฟ้ากับเหว เป็นหนอนตัวเล็ก คิดว่าคงจะเป็นผีเสื้อกลางวันบ้าง อาการก่อนเข้าดักแด้เหมือนกันเปี๊ยบ แต่รูปร่างของดักแด้ไม่เหมือนกัน และใช้ระยะเวลาในการอยู่ในดักแด้นานกว่า นี่เองเป็นสาเหตุให้เราละเลยมัน เพราะไปเปิดดูทีไรก็ยังไม่ออกซักกะที เปิดมาอีกทีตายซะแล้ว พิจารณาจากซาก เป็นสีน้ำตาลอ่อน ตัวเล็กๆ และเป็นผีเสื้อกลางคืนเหมือนเดิม.....ขอโทษด้วยนะเจ้าหนอน T_T






 

Create Date : 18 มีนาคม 2548    
Last Update : 19 มีนาคม 2548 0:24:00 น.
Counter : 1185 Pageviews.  

วิบากกรรมของคนเป็นน้า...T_T



รู้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่าปิดเทอมนี้หลานจะมาอยู่ด้วย ก็เตรียมการโดย ขั้นแรก บอกหลานไว้เลย ว่าเพิ่งอัพเครื่องใหม่ ลบเกมไปหมดแล้ว ยังไม่ได้โหลดมาใหม่ ไม่งั้นมันเล่นแหลกลาญ ข้าวปลาไม่กิน ดุก็ไม่ได้ มียายให้ท้ายตลอด(นี่ก็เป็นอีกข้อที่เราเซ็ง)



คิดดูแล้ว ก็จำได้ว่าเคยเห็นเกมกระดานเป็นพวกกึ่งๆ นิทาน ให้ไปช่วยเจ้าหญิงอะไรงี้อ่ะ ก็พาหลานไปซื้อ มันมีทั้งหมด4 ภาค และยังมีภาคพิเศษอีกตะหาก หลานเราก็เลือกภาค1 มา และมันก็เป็นหนังสือแบบเกมโมเดล ที่ต้องแกะแต่ละหน้ามาตัดปะ ติด ต่อ ให้เรียบร้อยซะก่อนถึงจะเล่นได้ ซึ่งเราก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรมาก เพราะชอบอยู่แล้ว ไอ้พวกตัดๆ ปะๆ เนี่ย



พอกลับถึงบ้าน ก็อ่านๆ วิธีต่อ จัดโต๊ะให้เรียบร้อย เตรียมลงมือ แต่ใครจะเชื่อละ...........เริ่มต่อตั้งแต่ประมาณบ่ายโมงกว่าๆ.......3 ทุ่มครึ่งยังไม่เสร็จเลยอ่ะ T_T ทั้งที่เราก็ไม่ได้แว่บไปทำไรเลยนะ มีไปกินข้าว กินน้ำ เข้าห้องน้ำ แค่นั้นอ่ะ ไม่ได้ดูทีวี ฟังเพลง แอบไปหลับเลย มันเป็นอะไรที่ทรมานสังขารมาก ไม่คิดไม่ฝันว่ามันจะยาวนานขนาดนี้ นี่ให้แม่ช่วยตัดพวกตัวละครด้วยนะ ซิมป์สันจบแล้ว เรายังต่อไม่เสร็จเลย คิดดู นั่งแปะอยู่บนเก้าอี้อ่ะ เมื่อยมือเมื่อยแขนไปหมด กว่าจะเสร็จก็เฉียดๆ 4 ทุ่ม แล้วไอ้หลานนี่มันก็รอ...ร้อ...รอ....ไม่ยอมนอนกลางวันด้วย บอกว่าจะรอ จนกว่าน้าจะต่อเสร็จ(เหมือนเป็นการบังคับกลายๆ) ต่อเสร็จแบบคร่าวๆ แล้ว เราก็ยังต้องมานั่งเล่นด้วยอีก พอ4 ทุ่ม หลานเข้านอน เราก็ต้องมานั่งเก็บรายละเอียด ติดกาวข้างใต้ให้มันเรียบๆ อีก............. T_T



และที่รันทดอีกข้อนึงก็คือ หลานไม่ยอมเล่นเกมนี้กับคนอื่นเลย จะรอเล่นแต่กับเรา วันๆ ก็ไม่ต้องทำไรอ่ะ นั่งเล่นเกม สับไพ่ จั่วไพ่ เดิน.....อ้อ..อ่านกติกาการเล่นแล้วก็งงๆ มันจะเดินได้ก็ต่อเมื่อผู้เล่นจั่วได้ไพ่แต้มเดิน ถ้าได้ไพ่ตัวละครก็เดินไม่ได้ แต่เป็นการบวก-ลบ พลังเวทย์แทน เพราะงั้นกว่าจะเดินได้แต่ละที นานมากอ่ะ ตั้งแต่นั่งเล่นมา ยังไม่เคยเล่นกันจนเดินไปถึงตัวเจ้าหญิงซะที ส่วนมากก็ต้องดุกันจนเลิกเล่นไปซะก่อน พอเค้าจั่วได้ไพ่เสียแต้มมากๆ เข้าเนี่ย จะเริ่มออกลูกงอน เกเร แล้วเราก็ไม่ยอมไง คือ ไม่อยากให้หลานเป็นแบบนี้อ่ะ ตั้งแต่เล็กๆ มาแล้ว เค้าเป็นคนแพ้ไม่เป็น ไม่ยอมใคร เล่นกอดฟัด กับป้าเนี่ย ถ้าแพ้นะ จะร้องไห้ใหญ่โต พวกเกมเนี่ย เมื่อก่อนอาการหนักมาก มีอยู่ครั้งนึง ทุบเราอั๊กๆๆ เกือบสวนไปซักป้าบนึงแล้ว ดีแต่ว่าตอนนั้น เค้าเพิ่งร้องไห้เสร็จมา ด้วยสาเหตุที่ว่า ตัวเองเล่นโกงเลยไม่มีใครยอมเล่นด้วย



พูดไปพูดมา ชักกลายเป็นคุณป้าขี้บ่นไปซะแล้วแฮะ - -'






อัศวินวิงก์ & มาร์ควิส ตอน1 ผจญปราสาทต้องห้าม










 

Create Date : 18 มีนาคม 2548    
Last Update : 18 มีนาคม 2548 11:54:30 น.
Counter : 287 Pageviews.  

ครั้งแรกในชีวิต...กับการเปลี่ยนแรม



      เมื่อเดือนก่อนตัดสินใจจะอัพเกรดแรม ก็คิดๆๆ ไหนๆ จะเปลี่ยนแล้วก็เอาแบบ 512/400 ไปเลยละกัน ก็ไม่ได้เปิดคู่มือเมนบอร์ดดูหรอก เพราะคิดว่า เป็น ddr เหมือนกัน ก็ไม่น่าต่างอะไรกันมาก ส่วนยี่ห้อ ตัดสินใจเอา ยี่ห้อ kinston เพราะเห็น "เค้าว่า" ดี



      หลังจากรอฤกษ์ยามอยู่หลายวัน ก็ไปเดินๆ ดู เช็คราคาไปด้วย ตอนนั้นราคาประมาณ 2,790 จะซื้ออยู่แล้ว แต่อีกใจนึง ก็คิดว่า หาข้อมูลก่อนดีกว่า เพราะเคยเห็นที่เว็บ overclock มีบอกวิธีการดูแรมปลอมของ kingston เลยกลับมาก่อน แล้วก็ดูๆ ไว้ว่าแรมแท้ สังเกตได้จากตรงไหนบ้าง.....พออีก3 วันต่อมาไปดู โอ้....คุณพระ ราคาลงอ่ะ ราคาประกันศูนย์นะ ร้านแรก2,690 ร้านที่สอง 2,550 ร้านที่สาม 2,490.....ตัดร้านแรกกับร้านที่3 ออกไป ร้านแรกแพงสุด ร้านที่สามก็ถูกเหลือเชื่อ แถมมีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจ เพราะเปิดหลายร้านในห้างเดียว มันทะแม่งๆ นา....


       เมื่อตัดสินใจจะซื้อร้านที่สองแน่แล้ว ก็ไป....บอกคนขาย " kingston 512 bus 400" พอได้จับปุ๊บก็รู้เลย ร้านนี้ไว้ใจไม่ได้ซะแล้ว..........ก็จะอะไรซะอีก ข้อสังเกตแรกในการดูแรมของ kingston ก็คือ ตัวหนังสือด้านหลังกล่อง จะต้องพิมพ์นูน แต่กล่องที่หนูหยิบมาให้พี่เนี่ย ราบเรียบ เอาไปส่องกะไฟยังมองไม่เห็นเงาสะท้อนของตัวนูนเลยยยยยยยยยย......ก็ไม่ต้องพูดอะไรกันมาก ไม่ต้องเช็คตัวเลขบนแรมกันแล้ว ยิ้มให้1 ที แล้วส่งแรมคืน....คือ ร้านนี้เค้ามี2 แบบอ่ะ ประกันศูนย์ กับประกันร้าน ตัวที่เค้าหยิบให้เราดูเนี่ย อาจจะเป็นประกันร้าน ถ้าเป็นตัวประกันศูนย์ อาจจะเป็นของแท้ก็ได้



       ว่าแล้วก็เดินไปร้านที่สาม ที่ขายราคาถูกที่สุดน่ะ ไปถึงก็ขอดูแรม เค้าก็หยิบมาให้ ร้านนี้มาแบบมีกล่องกระดาษมาเลย เค้าก็แกะออกมาแล้วส่งให้เรา......ไม่ต้องพลิกดูก็รู้เลย ว่านี่มีเปอร์เซ็นต์เป็นของแท้อ่ะ เพราะจับดูครั้งแรกก็รู้สึกถึงตัวนูนใต้กล่อง แล้วก็ลองเช็คตัวเลข อ่ะ...ไม่ตรงกันอ่ะ คือ ตอนนั้นเราจำไม่ได้ไง ว่ามันต้องเช็คเลขตัวไหน ก็เลยลังเล ว่าเราจำวิธีเช็คมาถูกมั๊ยเนี่ย แต่เห็นมีประกันของ synnex แปะอยู่ ก็เอาวะ....ไม่น่าปลอมนะ สรุป ก็ซื้อร้านนี้แหละ 2,490 [ ราคาเมื่อวันที่ 7 มี.ค. 48 ]



      กลับมาบ้านก็เปิดเน็ตเช็คดูอีก ก็ตรงกันทุกอย่าง สรุปว่า...รอดตัวไป ไม่โดนแรมปลอม เช้าวันรุ่งขึ้นก็เลย จัดการเปลี่ยนซะ ใช้ cpu-z เช็คดู รายละเอียดก็ตรงกันทุกอย่าง เลยสบายใจมากๆๆๆ แต่หารู้ไม่ว่า....หลังจากนั้น......เครื่องค้าง แล้วบู๊ตไม่ขึ้น และที่สำคัญ ฟอร์แมตไดรฟ์ซี เพื่อจะลงวินโดวส์ใหม่ไปแล้วด้วย T_T


       เลยเปิดเคสใหม่อีกรอบ ลองเสียบเข้าเสียบออกทุกช่องแล้ว มันก็ยังไม่ได้ ใช้ startup disk บู๊ต พอหมดหน้าจอเช็คฮาร์ดแวร์ไปแล้ว มันก็ค้างอยู่อย่างงั้นแหละ ตอนนั้นเริ่มสับสนว่าบอร์ดมันไม่รับ หรือว่าแรมเสีย แต่ในใจเอนเอียงไปทางบอร์ดไม่รับมากกว่า เพราะลองใส่ทีแรกมันก็ได้นี่หว่า????



       สุดท้ายก็ต้องไปงัดแรมตัวเดิมกลับมาใส่ แล้วลงวินโดวส์ให้เสร็จๆ ไปก่อน แล้วไปนอนก่ายหน้าผาก จะทำไงดีว้า.....ซื้อแล้วไม่รับคืนด้วย ยกเว้นแต่มันจะเสีย มึนๆๆ ตั้งสองพันกว่า หายไปในพริบตาเลยเหรอเนี่ย.....แต่เศร้าไม่นาน ก็ฮึดอ่ะ ต้องสองพันกว่า ถ้ามันไม่เสีย ตูต้องหาทางให้มันใช้งานให้ได้คอยดู!!!!!!!!!



       แล้วก็เปิดเน็ตหาข้อมูลแหลกลาญ สรุปได้คร่าวๆ ว่า ให้ลอง load default ใน bios ดูก่อน ถ้าไม่ได้ ค่อย flash bios ไอ้แฟลชไบออส นี่มันก็เคยทำแล้ว แต่ยังไงก็เหอะ มันเป็นเรื่องที่เสี่ยงเอาการ............แต่...ตั้งสองพัน ถึงเสี่ยงก็จะทำ(วะ)....



       โชคดีที่สวรรค์ยังมีตา พอเซ็ตไบออสเป็นค่า default แล้วเสียบแรมลงไป มันก็ใช้การได้ทันที........เฮ้อ...โล่งใจ สบายใจ ^^





มีรูปวิธีสังเกตแรมมาฝาก จริงๆ ก็เหมือนในเว็บ overclock อ่ะแหละ......แต่หนูก็อยากจะทำมั่งน่ะ ^^

เป็นกล่องมาแบบนี้





เอาออกจากกล่องแล้วก็ดูด้านหลังกันก่อนเลย ว่าพิมพ์นูนรึเปล่า





แกะออกมาแล้วก็ให้ดูตัวเลข4 ตัวท้าย ของเลขกลุ่มแรก บรรทัดแรก มันจะตรงกับ4 ตัวท้าย ของเลขกลุ่มแรก ตรงส่วนท้ายแรมอ่ะ ตอนแรกเราไปดู4 ตัวท้ายที่เป็นสติ๊กเกอร์บนกล่อง เลยผิด - -'





อ่ะ ดูเทียบกันเลยว่าตรงกันรึเปล่า เพ่งๆ หน่อยนะ ตรงที่ขีดเส้นใต้สีแดงไว้น่ะ(มือใหม่หัดใช้ photoshop อีกตะหาก ^^")





เช็คกับโปรแกรม cpu-z




ที่เว็บของ kingston ก็มีให้เช็คแบบออนไลน์กันเลย ใส่พวก serial no. ลงไป แล้ว click ก็รู้ได้ว่าปลอมไม่ปลอม เพราะบางคนใช้ cpu-z เช็คดูแล้วตรง manufacture เป็น nanya tech...ก็เลยสับสน แต่ kingston มีชิพหลายตัว รวมทั้งชิพของ nanya ด้วย ส่วนของเราเป็นชิพ hynix อ่ะ

kingston verify




 

Create Date : 11 มีนาคม 2548    
Last Update : 11 มีนาคม 2548 23:29:44 น.
Counter : 930 Pageviews.  

1  2  3  4  

sleepless.cs
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add sleepless.cs's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.