S e 7 e N ... i N T e R L u D E ...
Group Blog
 
All blogs
 

- " มันเป็นเรื่องจริงที่เศร้า และเขย่าประสาทนะครับ ... "

WARNING เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง บางที ... ผมก็อยากให้ เด็ก และสตรีมีครรภ์พึงระวังในการอ่านเรื่องนี้ครับ


7.7.7.7.7.7.7.7.7.7.7.7.7.7.7.7.7.7.7.7.7.7.7.7


ภาคเรื่องเศร้า


เมื่อช่วงปลายเดือนพฤษภาคมคุณตาของผมท่านเสียชีวิตด้วยโรคชรา ... ในคืนที่คุณตาท่านเสีย ผมกำลังนั่งทำงานอยู่ที่บริษัทฯ พ่อผมโทรมาแจ้งข่าวว่าคุณตาท่านเกิดอาการชัก พ่อรีบพาไปส่งโรงพยาบาลใกล้บ้าน คุณพ่อผมพยายามโทรเรียกลูกๆ หลานๆ มาโดยหวังจะให้ดูใจกันเป็นครั้งสุดท้าย ผมเองก็พยายามโทรฯ เข้ามือถือพ่อตั้งใจจะถามว่า รพ. ไหน? ห้องไหน? ก็โทรไม่ติด มือถือญาติคนอื่นๆ ที่คาดว่าอยู่ที่โรงพยาบาลก็ไม่ติด ...


นาทีนั้นผมพูดกับตัวเองว่า "นี่เหรอวะ !!! ชีวิตเหนือระดับกับ XXX กรูโทรหาทุกๆ คนในโลก ก็ยังเชื่อได้เลยว่า โทรไม่ติดแน่ๆ !!!"


... ณ.เวลานั้น ที่การติดต่อคือทุกๆ สิ่ง ... คุณคิดว่า ผมจะร้อนใจ และอึดอัดใจขนาดไหน ...


และในคืนวันเดียวกันนั้น ... คุณตาผมท่านก็ถึงแก่กรรมโดยที่มีลูกหลานข้างกายในวาระสุดท้ายของท่านเพียง 2 คนเท่านั้นครับ ...


ภาคเขย่าประสาท


ว่ากันว่าคนตาย ... แรกๆ เค้าอาจจะยังไม่รู้ตัวเองว่าตายแล้ว ...


หรือคิดว่าตัวเองยังมีชีวิตอยู่


ในงานศพ ... บรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าโศก ญาติพี่น้อง และคนรู้จักมาร่วมแสดงความเสียใจกับครอบครัวผม ผมมีหน้าที่คอยจุดธูปให้บรรดาแขกที่มาเคารพศพ ได้ไหว้ท่านเป็นครั้งสุดท้าย สายตาของแขกทุกท่านจับจ้องไปที่รูปถ่ายของคุณตาในชุดเครื่องแบบข้าราชการเต็มยศ


งานผ่านไปด้วยดี จนมาถึงคืนที่สาม ... หลังจากงานศพในคืนนี้เสร็จสิ้นลง ผม และครอบครัว รวมถึงพี่ต๋องซึ่งเป็นคนดูแลคุณตาในช่วงวาระสุดท้าย ก็ได้มานั่งรับประทานอาหารร่วมกัน ทุกคนดูเหนื่อยล้าจากงานเกินกว่าจะพูดคุย ความสงบเงียบเข้าปกคลุมบ้านหลังนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมก็ไม่ทราบ ... บางที ... มันอาจจะมาพร้อมกับความมืดของคืนที่ไร้แสงจันทร์ก็เป็นไปได้ ...


การสนทนาเริ่มขึ้นที่ผมเอ่ยถามถึงลมหายใจสุดท้ายที่โรงพยาบาลว่าท่านได้พูดอะไรคำสุดท้าย ... นอกจากจะไม่มีเสียงตอบจากคำถามดังกล่าวแล้ว ผมสังเกตุเห็นสีหน้าที่ซีดเผือกของทุกๆ คนในวงสนทนา ... อาจจะเพราะความเหน็ดเหนื่อย ...


หรืออาจจะเพราะอะไรสักอย่าง ...


ลมพัดแรงขึ้น ตีหน้าต่างไม้ดัง ปัง !!!


ทุกๆ คน ทุกๆ สายตา จับจ้องไปที่หน้าต่าง ... ลมแรงมากอาจจะเพราะว่าช่วงนี้ฝนลงเกือบทุกวัน ... บางสิ่งบางอย่างบอกผมว่าให้ลุกไปที่หน้าต่างบานนั้น ...


ผมลุกขึ้นเดินไปที่หน้าต่างเพื่อปิดมันอย่างเลี่ยงไม่ได้ ... ผมกวาดตาออกไปรอบบ้าน ... มองฝ่าความมืดมืดของราตรีกาล มองให้กว้างมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ... เมื่อไม่เห็นอะไรผิดปรกติ ผมจึงเอื้อมมือไปปิดหน้าต่างไม้บานนั้น ...


ผมหลับตาแล้วตั้งจิตถึงคุณตา พยายามบอกท่านว่า ผมเป็นคนที่กลัวในสิ่งลี้ลับ สิ่งที่มองไม่เห็น รือสิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้เหล่านี้มากเพียงไหน คุณตาอย่าทำให้ผมกลัวนะ ...


ทันทีที่ผมลืมตาขึ้น ... และกำลังจะเดินกลับไปที่วงสนทนา เดินกลับไปที่ๆ มีกลุ่มคน


อยู่ๆ ก็มีเสียงหัวเราะดังกังวาลขึ้นทั่วห้อง !!!


ผมหันกลับไปมองที่วงสนทนาทันที สายตาทุกคู่พยายามมองไปยังต้นเสียงนั้น !!!


พี่ต๋องคนที่ดูแลคุณตาหน้าซีดเผือก !!! รีบเอื้อมมือลงไปที่ใต้โต๊ะอาหาร !!! หยิบอะไรบางอย่างขึ้นมาในมือ !!!


พ่อผมตะโกนเสียงดังว่า ...


...


..


.


"ไอ้ต๋อง !!! ใครใช้ให้เมิงโหลดริงโทนเสียงนี้ !!!"


ครับ ... มันเป็นเสียง Ring Tone ของพี่ต๋องที่หาโหลดได้ตาม 1900-1900-XXX ถ้าโหลดไม่ได้ ก็ติดเทพธิดาพยากรณ์แน่ๆ แม้ว่าเรื่องนี้จะฟังดูขำ แต่นาทีนั้นหัวใจแทบวายจริงๆ ครับพี่น้องงงงง !!!


ปล. ยังไงๆ ก็ รัก คนอ่านไม่เคยเปลี่ยนแปลงครับ







 

Create Date : 01 มิถุนายน 2549    
Last Update : 15 มิถุนายน 2549 14:07:10 น.
Counter : 296 Pageviews.  

- " สิ่งที่เรียนรู้จากการช๊อปปิ้ง " -

ผมเป็นพ่อบ้านประเภทรักสันโดษ (หรือแปลว่าโสดจนต้องมาเดินซื้อของเข้าบ้านคนเดียวนั่นแหละครับ) เวลาที่ผมชอบเดินจับจ่ายสินค้าสำหรับยังชีพจึงเป็นเวลาช่วงประมาณ 4 ทุ่ม ซึ่งห้างแถวๆ ชานเมืองเวลานี้จะเงียบเป็นเป่าสาก ...


ห้างทั้งห้างเหลือแค่ผม และพนักงานห้างฯ มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนเป็นดาราดังของฮอลลีวู๊ด ที่ชอบปิดห้างช๊อปปิ้ง (คิดอย่างไม่อายฟ้าดินกันเลยทีเดียว)


คืนนี้ก็อีกเช่นกันครับ ... หลังจากที่ได้อาหารหลักสำหรับยังชีพในยุคนี้อย่างบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เป็นที่เรียบร้อย ก็ถึงคราวของยาสีฟัน ผงซักฟอก และสบู่นกแก้วสีเขียว (ใครจะว่าผมเชย หรือบ้านนอกก็ตาม แต่ผมไม่เคยนอกใจจากสบู่นกแก้วสีเขียวเลย ... ผมชอบมันมากครับ)


แต่แล้ว ... ผมก็เหลือบไปเห็นสบู่ยี่ห้อดังข้างๆ กำลังลดราคา แน่นอน ด้วยความอยากใช้สบู่ไฮโซกับเค้าสักครั้งในชีวิต ผมจึงทิ้งเจ้านกแก้วสีเขียวอย่างไม่ใยดี


ก่อนจ่ายตังค์ก็ไปหยิบไอติมมา ๑ แท่งสนองความอยาก ...


ข้อเสียเพียงข้อเดียวของการช๊อปปิ้งยามวิกาลคือ แคชเชียร์จะเหลือน้อยมาก (คาดว่าคงแอบไปเที่ยวเธคเที่ยวผับกันหมด) ทิ้งให้สาวน้อยร่างกำยำยืนทำหน้าที่แคชเชียร์เพียงคนเดียว ... หลายคนอาจจะคิดว่าดึกแล้ว เธอจะไม่ปลอดภัย ... ไม่ต้องห่วงครับ พิจารณาแล้วว่า เธอฮุกผมทีเดียว ผมอาจจะสลบไปถึงสามวัน


ก่อนหน้าผม มีป้าท่านนึง แกซื้อพัดลม กำลังเถียงกับเธอเรื่องให้ทางห้างฯ ขนไปส่งให้แกที่บ้าน ... ผมเป็นคนใจเย็น ... ไม่เป็นไร รอได้ เชิญเถียงกันตามสบาย


แต่ ... ป้าครับ ไอติมผมใจร้อน มันรอไม่ได้ครับ มันเริ่มละลายเยิ้มแล้วครับ


ถึงคิวผมจ่ายตังค์ น้องเค้าก็ยิงบาร์โค๊ดอย่างช่ำชอง ประหนึ่งราวกับว่าเธอเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ พอถึงสบู่ราชนิกุลของผม ราคากลับไม่ตรงกับป้ายที่ผมเห็น ... ผมงกเกินกว่าจะปล่อยผ่านไปได้จึงบอกราคาให้เธอ ... เธอตอบสวนผมด้วยความรวดเร็วว่า ...


"อ๋อ ... ที่พี่เห็นมันเป็นราคาโปรโมชั่นเก่าน่ะค่ะ"


"อ้าว ... แล้วลูกค้าเค้าไม่เข้าใจผิดกันเหรอครับ ป้ายก็เห็นอยู่โจ๋งครึ่ม" ผมถามไป เพราะเชื่อว่าลูกค้าไม่น้อยที่ซื้อสบู่ไฮโซยี่ห้อนี้


"ก็บ่อยไปค่ะ แต่ไม่มีใครโวยวายเลยยังไม่ได้เปลี่ยน" อ้าว !!! ที่นี่แปลกดีแฮะ ... ต้องรอให้ลูกค้าโวยวายก่อนแล้วถึงจะเปลี่ยนราคาให้ถูกต้องได้รึไงเนี่ย !!!


"พี่ว่าน้องน่าจะเปลี่ยนได้แล้วนะครับ ลูกค้าคนอื่นจะได้ไม่เข้าใจผิดอย่างพี่น่ะ" ผมแนะนำ


"ไม่ใช่หน้าที่นู๋ต้องปีนขึ้นไปเปลี่ยนนี่คะ ..." น่านนนน ... โง่เลยกรู อยู่ดีไม่ว่าดี รึจะต้องให้ผมปีนไปเปลี่ยนป้ายราคาให้รึไงฟ่ะ !!!


ผมเริ่มฉุน แต่ก็ได้แค่ทำหน้าเซื่องๆ แล้วจ่ายเงินแต่โดยดี เพราะขืนเถียงเธออีกเพียงสักแอะเดียว เธออาจจะวิ่งพุ่งชนผมตายตรงนั้นก็เป็นไปได้ ผมยังไม่อยากเป็นผีเฝ้าห้างฯ


พอจ่ายเงินเรียบร้อย ระหว่างเดินกลับไปที่ลานจอดรถ ผมรีบหยิบไอติมออกมากิน อารมณ์ประมาณเด็กน้อยน่ารัก ...


อนิจจา ... อดีตไอติมแท่งที่แข็งเป็นโด่ไม่รู้ล้ม บัดนี้กลายเป็นนกเขาเหี่ยวๆ ไปซะแล้ว ละลายเยิ้มเหนียวเต็มมือผมเลย ... คืนนี้มีแต่เรื่องเซ็งสนิทครับพี่น้อง


เสียดายก็แต่น้องสบู่นกแก้วสีเขียวนี่แหละ ที่โดนผมปันใจไปให้สบู่ไฮโซ


การช๊อปปิ้งครั้งนี้ทำให้ผมคิดว่า ... จะมีลูกค้าอีกกี่คนนะ ที่ซื่อสินค้าด้วยความเข้าใจผิด ...


และต่อให้ผมใช้สบู่ราคาแพงแค่ไหน ถูจนตัวเปื่อยแค่ไหน ก็ไม่ทำให้คนหน้าตาแบบหม่ำ จ๊กมก กลายเป็นติ๊ก เจษฯ ได้


ปล. รัก คนอ่านเหมือนเดิมครับ





 

Create Date : 01 มิถุนายน 2549    
Last Update : 16 มิถุนายน 2549 10:49:52 น.
Counter : 309 Pageviews.  

- " เฮฮา ราตรีสโมสร " -

นานมากแล้วครับ ที่ผมไม่ได้ออกตระเวนตามสถานที่ท่องเที่ยวยามราตรี ...


สบโอกาสเหมาะ ! พอดีพี่สูงวัยที่รู้จักท่านนึงได้ลูกชาย พวกลิงอย่างเราเลยทำเป็นเนียน ชวนเพื่อนๆ มาฉลองลับหลังลุงต้อม (พ่อลูกอ่อนวัย 40 ที่รักกีฬาบาสฯ) ผู้ซึ่งมิได้รู้เรื่องการหาแอลกอฮอล์กรอกปากครั้งนี้เลยสักนิด !!!


ตอนบ่ายๆ ขณะที่ผมกำลังวุ่นๆ อยู่กับงาน สหายเตีย (ฮั่ว) ก็โทรเข้ามือถือ


"เย็นนี้นะเว๊ย ! ทุ่มนึงนะ อย่าไปสายล่ะ ! ห้ามเบี้ยวนะเว๊ย !" ... มันโทรฯ มาย้ำภารกิจลับครับ ...


ตั้งแต่ 4 โมงเย็น ใจผมไม่อยู่กับเนื้อกับตัว หลับตาปุ๊ป เหมือนมีเบียร์เย็นสัดๆ ฟองนุ่มๆ แผ่ซ่านอยู่เต็มกบาลผม !


แต่ ... งานก็คืองานครับ ผมแยกงานกับอบายมุขออก ...


5 โมงครึ่งปุ๊ป ! ด้วยใจที่รักงาน ... แน่นอนครับ ผมรีบบึ่งเจ้าเตาอบติดล้อของผม เป้าหมายอยู่ที่ ร้านราตรีสโมสร ณ.RCA ทันที !!!


วันนี้คิดว่าคนน่าจะเยอะ เพราะจากคำบอกเล่าของสหายปริ๊นซ์ (ซึ่งพวกเราทุกหน่วยกำลังสงสัยว่ามันเป็นเจ้าของร้าน รึว่าเด็กล้างจานหลังร้าน) ว่าวันนี้มี "แคลลอรี่ บลา บลา"


ด้วยใจที่ภัคดีต่อเบียร์เย็นๆ สั่งให้ผมรีบบึ่งไปถึงร้าน ... แต่ด้วยกำลังเครื่องยนต์พลังแรงมดของน้อง Mitzzy (ชื่อเล่นน้องมิตซูฯ ของผม) ทำให้ผมไปถึงเป็นคนที่ 4 แม้จะขึ้นทางด่วนแล้วก็ตาม


แน่นอน เป็นไปตามคาด ... ไอ้เตีย (ฮั่ว) ก็ยังมาไม่ถึง !!!


แต่ยังเข้าไม่ได้เพราะชั้น 2 ของร้านกำลังมีการถ่ายแบบ รึถ่ายโฆษณา ไม่ก็ถ่ายหนัง รึไม่ก็ถ่ายละคร (แต่ที่แน่ๆ คงไม่ใช่ถ่ายหนัก !) แล้วพวกเราก็ลงมติกันว่าจะนั่งชั้น 2 เพราะมีโซฟายาว (ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะติดนิสัยไปนั่งดริ๊งก์บ่อยๆ ของเพื่อนทั้งหลาย ที่จะตั้งมีโซฟาเพื่อเลื้อย) ...


ครั้งเวลาประมาณ 2 ทุ่ม นับเป็นนิมิตรหมายอันดี พวกเราจึงเคลื่อนทัพเข้าร้าน ...


โต๊ะพูล ! กีฬาของหนุ่มวัยกลัดมันอย่างพวกผม ไม่ได้มีไว้ตั้งโชว์เฉยๆ !


ผลสรุป ... ผมแพ้รวด !!! แพ้ทุกเกมส์ !!! จะตั้งใจ รึจะฟลุ๊ก ชนะก็คือชนะ !!! ม่างงงงงงงงง เอ๊ยยยยยย !!!


ไอ้เตีย (ฮั่ว) มันทับถมผมทั้งคืน !


"เฮ๊ย ! ยำถั่วพูมา ... กินสิๆ แต่กูไม่กินนะ ... กูกินหมูมาอิ่มแล้ว !!!"


สาดดดดดดดดดดดดดดด !!!


บรรยากาศสนุกสนานดีครับ ผมชอบบรรยากาศแบบนี้ ได้คุยกับเพื่อนๆ ได้เฮฮา ได้ลืมเรื่องเครียดๆ ของงานไปได้เป็นปลิดทิ้ง


นักร้องนำแคลลอรี่ บลา บลา เดินเข้ามาร้องเพลง (แต่พวกเราไม่ได้สนใจสักเท่าไหร่) ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะ โต๊ะเรามีไอ้เบ๊บ ด้วยขนาดตัวที่เพื่อนๆ พร้อมใจกัยบกให้มันเป็น คลอเลสเตอร์รอล บลา บลา !!!


ประมาณ 4 ทุ่มนิดๆ ได้เวลาแยกย้ายกันกลับ เพราะพรุ่งนี้ต่างคน ต่างต้องทำงานของตัวเอง ...


ผม เบ๊บ เก๊ก และเพื่อนอีกคน ก็ไปต่อกันที่ร้านโจ๊กบางกอก แถวข้างๆ เพราะเป็นพวกท้องมาร กินไม่รู้จักอิ่ม ...


แม้เบียร์ไม่กี่แก้วจะไม่ได้ทำให้ผมเมา ... แต่คืนนี้ผมมึนความสุขจากมิตรภาพที่ได้จากเพื่อนๆ ...


ผมมีความสุขว่ะ (ครับ)


ปล. ขอให้ลูกลุงต้อมแข็งแรง แล้วโตมาไม่ขี้เมาเหมือนพวกลุงๆ ป้าๆ ในรูปนะครับ


... รักคนอ่านทุกคนครับ ...






 

Create Date : 12 พฤษภาคม 2549    
Last Update : 16 มิถุนายน 2549 10:28:31 น.
Counter : 534 Pageviews.  

- " อย่ากินของข้างทางที่ไม่มีประโยชน์ หรือของสกปรกนะนู๋ มันอันตราย " -

เคยมั๊ยครับ ขับรถผ่านอะไรปุ๊ป เห็นแล้วอยากกินปั๊ป ชนิดที่เรียกว่าห้ามใจตัวเองไม่ไหว ยอมเบรคหัวทิ่ม ขอเพียงแค่ลิ้มรสชาติ


ผมเองก็หนึ่งในนั้นครับ ... ขณะที่ผมกำลังขับรถกลับจากไปธุระ แดดก็ร้อนอย่างกับเอธิโอเปีย ฟิลม์รถผมก็ใสอย่างกับน้ำแร่


สาวๆ คนไหนอยากลดน้ำหนัก ช่วงเที่ยงๆ เชิญอบไอแดดที่รถผมได้นะครับ


ขณะที่ผมขับเจ้าเตาอบติดล้ออยู่กลางแดดนั้น ก็เหลือบไปเห็นไส้กรอกอีสาน ชิ้นอวบ (ผมไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมต้องเรียกว่าไส้กรอกอีสาน รึต้นกำเนินเค้าอยู่อิสานเหรอครับ ?)


ผมเหยียบเบรคดัง "เจี้ยวววววววว !!!" (ผมเบื่อเสียง เอี๊ยดดดดด !!! แล้วน่ะครับ)


จอดรถชิดเข้าข้างทางแล้วตรงไปป้าวัยห้าสิบยังแจ๋ว เป้าหมายอยู่ที่ไส้กรอกอีสานชิ้นอวบอ้วน


ผมได้ไส้กรอกอีสาน 4 ไม้ + แหนมปิ้งอีก 2 ไม้มาอยู่ในกำมืออย่างถูกกฏหมาย โดยไม่ต้องรอคำตัดสินจากศาลไหนๆ


ขับไปกินไปอย่างเพลิดเพลิน ... มันอร่อยมากนะครับ ไส้กรอกอวบๆ ร้อนๆ ควันฉุยๆ กลิ่นหอมๆ ... ทันใดนั้น !!!


"กร๊อบ !!!" เสียงนี้ดังกึกก้องในหูผมอย่างอื้ออึง !!!


ผมเหยียบแป้นเบรคอีกครั้งดัง "เจี๊ยวววววววว !!!"


เม็ดกรวดเท่าปลายนิ้วก้อยอยู่ในปากผม ... คิดดูสิครับ หนุ่มน้อยวัยใส เคี้ยวไส้กรอกในปากอย่างกลัดมัน ด้วยใจเตลิด (ห้ามจินตนาการถึงหนังสือเรื่อง จู๋ที่หายไป กับหัวใจสีชมพู ของ ฺBrian J'Tharamark เชียวนะครับ)


ความรู้สึกเหมือนฟันจะแตกเป็นเสี่ยงๆ คำสอนของครู หรือผู้เฒ่า ผู้แก่ ผุดดังขึ้นมาในหัว ...


"อย่ากินของไม่มีประโยชน์ หรือของสกปรกนะนู๋ มันอันตราย ... บลา บลา บลา" แต่ตอนนั้นผมไม่เชื่อ วัยนั้นผมเชื่อแค่ว่า จะดีแค่ไหน ถ้าบ้านสร้างขึ้นมาจาก กาก้า เซี่ยงไฮ้ คัมคัม และโดราเอม่อน


ฟันผมกระเทาะ หัวผมกระเทือน เพราะฟันโดนกระแทก ปวดจนน้ำตากระเซ็น ... นี่เองที่เค้าเรียกว่าเด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว จารุจินดา


แต่ !!! ในโชคร้ายก็ยังแอบมีโชคดีซ่อนไว้เสมอ ...


ผมจะใช้โอกาสนี้ที่จะได้เจอกับทันตแพทย์ที่น่ารักที่สุดของ รพ.เกษมราษฎ์


(ครั้งล่าสุดที่ผมปะทะสายตากับเธอ เธอฉีดยาชาใส่ปากผมจนพูดอะไรไม่ได้ไปครึ่งวัน ผมเลยไม่ได้ถามชื่อ แต่เชื่อว่าเธอคงจำกลิ่นขี้ฟันของผมได้อย่างแม่นยำ)


สุดท้ายนี้ .. อย่าลืมนะครับ "อย่ากินของไม่มีประโยชน์ หรือของสกปรกนะนู๋ มันอันตราย"


ปล. บุญรักษาครับ




 

Create Date : 04 พฤษภาคม 2549    
Last Update : 27 กรกฎาคม 2549 14:07:58 น.
Counter : 469 Pageviews.  

- "ตอนเด็กๆ ถ้าพวกคุณไม่ได้อั่งเปาจะโกรธ หรืองอนมากมั๊ยครับ ?" -



ตอนเด็กๆ เชื่อว่าเพื่อนๆ ทุกคนคงผ่านการรับอั่งเปามาบ้างแน่ๆ เวลาลุ้นว่าในซองแดงๆ เล็กๆ เนี่ย มันจะมีแบงค์อะไร รวมแล้วได้เท่าไหร่เนี่ย มันมีความสุขดีจังนะครับ ...


แม้ว่าหน้าผมจะกระเดียดไปทางอีสานมากกว่าตี๋น้อย แต่ตอนเด็กๆ ผมก็มักจะได้รับอั่งเปาเสมอๆ ... ปีไหนไม่ได้ เป็นต้องมีโวยวาย และแอบดื้อ !


แต่เวลาก็ล่วงเลยผ่านไป จากผู้รับ มาเป็นผู้ให้ ... ผมให้หลานๆ ผมบ้าง มากบ้าง น้อยบ่อย ขึ้นอยู่กับโอกาส และความพิศวาส (อย่าคิดไม่ดีนะครับ ผมหมายความว่าหลานคนไหนทำตัวน่ารัก ชอบมาแง๊วๆ ผม มันอดไม่ได้ที่จะลำเอียงน่ะครับ)


ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ยิงยาวมาจนถึงปัจจุบัน สภานภาพทางการเงินผมไม่คล่องตัวเอาเสียเลยครับ ... ในธุรกิจเงินที่คาดว่าจะได้ก็ยังคาราคาซังอยู่ และไม่สามารถกำหนดได้ชัดเจนว่าจะได้เอาวันไหนเวลาไหน ... ลำพังประทังชีวิตไปวันๆ ยังลำบาก ...


พรุ่งนี้ผมต้องไปไหว้ฯ กับครอบครัว ... แน่นอนว่าผมคือ 1 ในเป้าหมายของบรรดาหลานๆ เหมือนเช่นทุกปี ... ครอบครัวผมเป็นครอบครัวใหญ่ หลานๆ เยอะ ...


และผมก็ไม่อยากทำให้หลานๆ ผิดหวังด้วย ...


หลายๆ ท่านอาจจะบอกว่า "โอ๊ยคิดอะไรมาก ! เด็กๆ มันก็แค่งอแงๆ เดี๋ยวมันก็ลืม !"


จริงครับ ... เดี๋ยวเด็กมันก็ลืม ... แต่ผมคงไม่ลืม ... ให้ตายดิ ! ถึงผมจะไม่ใช่คนใจดี (รู้ตัวครับ) แต่ผมก็ไม่อยากเห็นหลานๆ เสียใจนะ ... อีกทั้งไหนจะบรรดาญาติๆ ที่มักจะบอกว่า ...


"อะไรกัน !!! มีงานมีการทำแล้ว ทำไมไม่ให้หลานๆ มันบ้าง ดูคนนู๊นสิ ดูคนนี้สิ บลา บลา บลา ..."



อึดอัดใจจังครับ ... แต่จะไม่ไปก็ไม่ได้ด้วย ... ใครน๊อออ ... ที่เป็นคนต้นคิดเรื่องการให้อั่งเปาเนี่ย ...


บ่นๆ ระบายๆ เฉยๆ ครับ ... ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยือนกันครับ


ปล. สุขสันต์วันตรุษจีนครับ จะหมวยหรือไม่หมวย จะตี๋หรือไม่ตี๋ ก็ขอให้มีความสุขกันมากๆ ทุกๆ คนนะครับ ...






 

Create Date : 27 มกราคม 2549    
Last Update : 4 พฤษภาคม 2549 12:37:42 น.
Counter : 305 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  

หนุ่ม No.7
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add หนุ่ม No.7's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.