S e 7 e N ... i N T e R L u D E ...
Group Blog
 
All blogs
 

" เรื่องมันเศร้า ... (จริงๆ) "


หลังจากเล่าเรื่องฮาๆ มาจนติดเป็นสันดานแล้ว วันนี้ขอเรื่องเครียดๆ สักเรื่องเพื่อนๆ คงไม่ว่ากัน

สืบเนื่องมาจากข่าวการสังหาร 2 นาวิกโยธินไทย ที่ภาคใต้ ... อย่างทารุณ ...

ถึงผมจะเกิดที่กรุงเทพฯ แต่ผมคลุกคลีอยู่ในฐานทัพเรือสัตหีบตั้งแต่ยังเล็ก เพราะพ่อผมเป็นครูฝึกหน่วยนาวิกโยธิน ผมยังจำช่วงเวลานั้นได้ดี ...

บ้านผมอยู่ลึกสุด ด้านในของฐานทัพเรือ อ.สัตหีบ เป็นบ้านหลังที่สองนับจากชายฝั่งทะเล ฝั่งตรงข้ามมีสนามเด็กเล่นเล็กๆ

ในทุกๆ เช้า ... นาฬิกาปลุกของผมคือ เสียงย่ำเท้าของเหล่าบรรดานักรบครึ่งบกครึ่งน้ำ ที่ฝึกซ้อมในฃ่วงเช้า ซึ่งบางวันถ้าผมตื่นสายหน่อยก็อาจจะตามมาด้วยเสียงรถตีนตะขาบ

รถยนต์ที่ผมนั่งไปไหนมาไหนคือรถจี๊ปเปิดประทุน (เรียกว่าไม่มีหลังคา จะเข้าใจได้ง่ายกว่า) ที่มุมซ้ายด้านบนมีรอยกระสุนเล็กๆ จารึกเอาไว้ว่ารถคันนี้อดีตเคยผ่านอะไรมาบ้าง

เกือบทุกวันอาทิตย์พ่อจะพาผมและเพื่อนๆ นาวิกฯ เอาเรือออกไปตกปลากันตามเกาะต่างๆ ความผูกพันระหว่างผมกับเพื่อนๆ ทหารของพ่อแทบไม่ได้ต่างไปจาก "ญาติ" และความผูกพันระหว่างพ่อกับลูกน้อง ดูยังไงๆ มันก็เหมือนกับ "เป็นพี่ เป็นน้อง เลือดเดียวกัน" มากกว่าหัวหน้า กับลูกน้อง ...

ถึงขนาดที่ว่า หนึ่งในความฝันของผมสมัยยังเป็นวัยรุ่นคือ เป็นผู้พิพากษาศาลทหาร ... และแน่นอน กองทัพที่ผมใฝ่ฝันที่จะเข้ามารับใช้คือ ... กองทัพเรือ

ข่าวการสังหารโหด 2 นาวิกโยธิน โดยวิธีมัดมือ มัดเท้า เอาผ้าปิดตา โดนรุมเอาไม้ตี โดนรุมเอามีดแทง ... ทำเอาผมอึ้ง และพูดอะไรไม่ออก อาจจะเพราะความผูกพันกับกองทัพเรือตั้งแต่ยังเด็ก หรือความโหดเหี้ยม ของมนุษย์ ที่พึงกระทำต่อมนุษย์ ก็เป็นได้ ...

ผมเชื่อว่า ด้วยความสามารถระดับทหารที่ผ่านหลักสูตรหน่วย "นาวิกโยธิน" ที่ขึ้นชื่อว่าเขี้ยวสุดๆ ทั้งสองท่าน พร้อมด้วยอาวุธปืน M-16 และปืนพกพา แต่ยอมเลือกที่จะให้ชาวบ้านควบคุมตัว เพราะคิดว่า "คนไทย" ยังไงๆ ก็จะต้องไม่ทำร้าย "คนไทย" ด้วยกันแน่ๆ ...

เพราะในเพลงชาติไทยมีเนื้อร้องที่ว่า ... "ไทยนี้รักสงบ" ...

แต่สิ่งที่ตามมาคือ ... ข่าวที่นำมาซึ่งความสลดใจให้แก่ลูก และภรรยา ที่รอการกลับมาของผู้กล้าที่เข้าไปทำหน้าที่ "รักษาความสงบ ช่วยเหลือ และเยียวยาคนไทยที่กำลังเดือดร้อน"

ผมมองพ่อผมเวลาที่ดูข่าวนี้ทางทีวี ...

ผมมองเห็นสายตาของ "พี่" ที่เห็นข่าว "น้อง" ถูกฆ่าตายอย่างทรมาน ...

ผมดูข่าวแล้วเศร้าใจแค่ไหน ... พ่อคงเจ็บในใจมากกว่าผมไม่รู้กี่เท่า ...

มั่นใจได้เลยครับว่า ในส่วนลึกในใจของคนไทยทั้งประเทศ โดยเฉพาะบรรดานาวิกโยธิน ...

ไม่พอใจ และไม่ให้อภัยกับเหตุการณ์ ความสูญเสีย ที่สั่นคลอนความไว้ใจซึ่งกันและกันของคนในชาติ ที่เกิดขึ้นครั้งนี้แน่ๆ

สุดท้ายนี้ ... ผมขอใช้พื้นที่ตรงนี้แสดงความเสียใจแก่ครอบครัวของท่านทั้งสอง และขอให้ดวงวิญญาณของทั้งสองวีรบุรุษ หลับอยู่ในดินแดนที่สงบสุข ... นิรันดร์







 

Create Date : 27 กันยายน 2548    
Last Update : 31 ธันวาคม 2548 1:25:23 น.
Counter : 385 Pageviews.  

" ไอ้ขี้คุก !!! "

เคยผ่านช่วงชีวิตหลังลูกกรงมากันบ้างรึยังครับ ? มันเป็นสถานที่ ที่ซึ่งผมจำมันได้ดีเชียวล่ะ

นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่อง ที่ครั้งหนึ่งในชีวิตผมเคยผ่านมันมา ... ย้อนอดีตวัยเปรี้ยวตรีนภาค 2 ของผม

ถ้าคำว่า “ไอ้ขี้คุก” คำๆ นี้คือคำที่คนส่วนใหญ่ใช้เรียกคนที่เคยผ่านการเข้าไปอยู่ในคุกมา ...

ครั้งต่อไปที่เจอผม จะเรียกผมว่า “ไอ้ขี้คุก” บ้างก็ไม่เป็นไรนะครับ

เรื่องของเรื่องมันมีอยู่ว่า ...

เวลาห้าทุ่มเศษๆ ของเมื่อคืนวันสงกรานต์ปีที่ผ่านมา ...

ด้วยความเส็งเคร็งของเรื่องบางเรื่องที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ทำให้ผมตัดสินใจยืม Honda City อ้วนกลมของเพื่อนไปเมาที่ร้าน The Resort ที่แถวรัชดา ... อืม ... แพงสาดดดดด !!! ยังดีที่มีเพื่อนทำอยู่ที่ร้านราคาจึงค่อยน่านั่งได้ ...

ซวยโครตครั้งที่ 1 ก็มาเยือน โดนน้องๆ พนักงานรุมสาดน้ำกลางร้าน ... แสดดดดด !!! มือถือเปียกน้ำเลยป่วยหนัก ติดๆ ดับๆ จับมือใครดมก็ไม่ได้ (จะจับมือน้องๆ เค้ามาดมก็กลัวบรรดาสามีเค้าจะมาต่อยเอา)

หลังจากสูดดมกลิ่นสาวๆ ในร้านจนเต็มปอดทั้ง 2 ข้างแล้ว ตี 2 เศษๆ จึงเป็นเวลาที่งานเลี้ยงสมควรจะเลิกรา (ตามนโยบายรัฐฯ)

ผมขับรถกลับบ้าน กะจะเอารถไปคืนเพื่อนก่อนค่อยนั่งมอเตอร์ไซค์วินกลับบ้าน ...

เหตุการณ์มันก็น่าจะเป็นเช่นนั้น แต่คนแก่ๆ มักจะบอกว่า อนาคตมันเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน ... ขณะเลี้ยวรถผ่านผ่านหน้า โลตัส จากถนนพระราม 5 อุ๊ย !!! กรวยแดงๆ (กรุณาสะกดให้ถูกด้วยครับ) เรียงรายกันเกลื่อนถนน จนทำให้ผมอดนึกถึง ไฟแดงๆ บนรันเวย์เครื่องบินจากที่ดูในหนังไม่ได้ ...

ปรี๊ดดดดดดด !!! (เสียงนกหวีดดังยาวราวกลับว่ารถผมขนยาเสพติด) ผมชะลอรถลง

“มีอะไรเหรอครับคุณตำรวจ” ผมถามทั้งๆ ที่ในใจคิดว่า (ขยันหาตังค์จังนะครับ !!! แต่กลัวโดนวิสามัญเลยเงียบปากไว้ดีกว่า)

“ขอดูใบขับขี่หน่อยน้อง” เนื่องด้วยใบขับขี่ผมไปสิงสถิตย์อยู่ที่ สภ.อ. รัตนาธิเบศร์ มาชาติเศษๆ แล้วผมจึงเอาใบสั่งไปให้ดูแทน พร้อมข้อแก้ตัวว่า

"พอดีผมไปทำงานอยู่ต่างจังหวัดมา เพิ่งกลับมาเที่ยวสงกรานต์ที่กรุงเทพฯ กะว่าจะไปชำระค่าปรับก่อนกลับไปทำงานต่อน่ะครับ ..."

พี่เค้าไม่เห็นสิ่งผิดปรกติอื่นๆ หลังจากเดินวนรอบคัน ขอค้นรถ ขอค้นตัว (อยากจะถามว่า พี่เอาสิทธิอะไรมาค้นตัวในที่มืด แต่ไม่อยากให้เรื่องเลวร้ายไปกว่านี้เลยปล่อยให้ค้นไป อยากค้นอะไรพี่ค้นเลย !!!)

“น้องกินเหล้ามารึเปล่า ?” พี่เค้าถาม

“เปล่าครับ ... (เงียบไปสัก 5 วินาที) ... แต่ก็ ... มีบ้างแค่แก้ว สองแก้วเองครับ” ผมสารภาพ

“งั้นเดี๋ยวไปตรวจแอลกอฮอล์หน่อยนะ” พี่เค้าชวนไปตรวจลมหายใจเล่นๆ

“โหย ... พี่ครับ ... อีกกิโลเศษๆ ก็จะถึงบ้านผมแล้วล่ะครับพี่ ... เสียเวลาคุณพี่เปล่าๆ” ผมขอความเห็นใจ

“ไม่ได้ครับ ... เป็นหน้าที่ ...” พี่เค้าปฏิเสธ

ซวยโคตรครั้งที่ 2 ก็ค่อยๆ โผล่หน้ามาให้ผมมองเห็นรำไรๆ ...

ผลการตรวจแอลกอฮอล์เป็น 60 mg เกินกว่ามาตรฐานที่เค้าตั้งไว้ 10 mg เองง่ะ ...

“โถ่ ... พี่ครับ ... อีกนิดก็ถึงบ้านผมแล้ว และอีกอย่าง พี่ก็เห็นนี่ครับ ... ผมไม่ได้เมาจนขับรถไม่ไหว หรือขาดสติอะไรเลยนี่ครับ ...” ผมอ้อนวอนจนแทบจะลงไปกราบตรีนพี่เค้าแล้ว ...

คำตอบคือ ...

“ไม่ได้ครับ ... เป็นหน้าที่ !!!”

ไอ้กระผมก็จ๋อยแดกสิครับ ...

“เดี๋ยวน้องต้องไปโรงพักกับพี่นะ” พี่เค้าพูดง่ายอย่างกะจะพาผมไปซื้อสเลอปี้สักแก้ว

“แล้วผมต้องทำยังไงบ้างครับ ?” ถามทั้งๆ ที่พอจะรู้คำตอบอยู่แล้วว่าเรื่องนี้ต้องยาวแน่ๆ

“ไม่มีอะไรหรอกน้อง ... แค่อยู่ในห้องขัง รอจนกว่าศาลจะเปิดตอนเช้า ...” พี่เค้าตอบด้วยเสียงนิ่งและสงบ ... สยบการเคลื่อนไหวของผมซะอยู่หมัด !!!

…

พ่องดิ !!! เมาก็ไม่ได้เมา !!! บ้านก็อยู่แค่เอื้อม !!! “แค่อยู่ในคุกเองน้อง ...” เอาปากพูดรึเปล่าวะ !!! ชีวิตทั้งชีวิตเคยแต่ไปเยี่ยมลูกความที่คุก ต้องมาเข้าเองเลยเหรอวะนี่ !!!

การเจรจาต่อรองไม่เป็นผลสำเร็จ ... ผมต้องนั่งรถตำรวจไป สภ.อ.ปลายบาง

“พี่ครับ ... จริงๆ แล้วพี่ผมเองก็ไม่มีพฤติการณ์ว่าจะหนีนี่ครับ ... ไม่เห็นต้องให้ผมเข้าคุกเลยนี่ ผมรออยู่ในห้องร้อยเวรก็ได้นี่ครับ ...” อ้อนวอนสารพัด คำตอบที่ได้มีแค่

“ไม่ได้ครับ ... เป็นหน้าที่ ...” โอ๊วววว !!! ประเทศไทยมีตำรวจที่ตรงต่อหน้าที่ขนาดพี่ด้วยรึนี่ !!!

ขั้นตอนแรกก่อนถูกส่งเข้าห้องขัง ... พี่เค้าจะถามก่อนเลยว่า ... จะประกันตัวมั๊ย ? ถ้าประกันต้องวางเงิน 3 หมื่น หรือข้าราชการระดับ ซี 7 ขึ้นไป ... แต่ !!! ถึงประกันตัว น้องก็ต้องอยู่ที่นี่จนกว่าศาลจะเปิดตอน 9 โมงเช้า !!!

(ประกันก็ต้องอยู่ ... ไม่ประกันก็ต้องอยู่ !!! นี่รึระเบียบปฏิบัติของตำรวจไทย !!! ขัดกับรัฐธรรมนูญสิ้นดี)

ขั้นตอนต่อมา ... จะต้องถอดเข็มขัด หรือโลหะต่างๆ รวมทั้งมือถือให้พี่เค้าฝากไว้ก่อนเข้าไปในคุก แล้วพยายามอ้อนวอนขอโทรศัพท์ครั้งสุดท้ายก่อนเข้าคุก ... (ผมในตอนนั้นเสือกโทรฯ ไปหาคนที่ผมคิดว่าสำคัญที่สุด ... กี่ครั้งๆ ก็ไม่รับสาย เพราะอยู่กับคนอื่น เจ็บใจมากๆ ว่ะ)

ขั้นตอนสุดท้าย อันนี้สำคัญมากๆ ถึงมากที่สุด ... นั่งให้นิ่งที่สุด ... เงียบที่สุด ... ห้ามทำตัวเปรี้ยวตรีนโดยเด็ดขาด ... ห้ามรบกวนพี่ๆ ที่นั่งอยู่ก่อนอย่างเด็ดขาด ... ผมพยายามนั่งให้ชิดลูกกรงใกล้โต๊ะร้อยเวรให้มากที่สุด ... เก็บเสียงเผื่อตะโกนเรียกในกรณีฉุกเฉิน ... และไม่ลืมที่จะเก็บแรงเผื่อใช้ในกรณีฉุกเฉินกว่า !!! (เพื่อนร่วมคุกมี 8 คน ... 3 คนโดนเรื่องแอลกอฮอล์ 1 คนโดนเรื่องขับรถชนคน ส่วนที่เหลือโดนเรื่องทำร้ายร่างกาย !!!)

ไอ้ปอถูกส่งเข้าไปอยู่ในคุก ... รอเวลา 9 โมงเช้ากว่าศาลจะเปิด

1 ชั่วโมง ... นานอย่างกับ 1 วัน ... ร้อนก็ร้อน ... กลัวก็กลัว ... เจ็บใจก็เจ็บใจ ... แค้นก็แค้น ... หลากอารมณ์มาก นั่งทำหน้าบูดๆ เหมือนผ้าอนามัยใช้แล้วทิ้ง

กว่าจะผ่านคืนที่แย่ๆ อันยาวนานมาได้ ... สอนให้ผมเลิกทุ่มเทรึว่ายึดติดอะไรกับคนเพียงคนเดียว ... สอนให้รู้ว่าอิสรภาพมันดีจริงๆ นะ ถึงผมจะไม่ได้ใช้ 1-2-call ก็เหอะ ... ที่สำคัญ ... มันสอนให้ผมเข้าใจว่าไม่มีใครรักผมจริงนอกจากตัวเอง ...

1 คืนในคุก ... กลัวโน่น กลัวนี่ ไม่ได้นอนหรอกครับ ... กว่าจะถึง 9 โมงเช้า ออกมาพิมพ์ลายนิ้วมือส่งฟ้องฯ 3 ฉบับ ถ่ายรูปประกอบคำฟ้องฯ ... รับทรัพย์สินของตัวเองคืนแล้วขึ้นรถไปศาล

ระหว่างนี้ผมมีสิทธิได้ใช้โทรศัพท์อีกครั้ง ... ผมลองตัดสินใจโทรฯ หาเธอคนเดิมดูอีก โทรฯ เข้ามือถือเค้าก็ยังไม่รับ ... โทรฯ เข้าบ้าน ที่บ้านเค้าก็บอกว่าไปต่างจังหวัด (ความรู้สึกตอนนี้เกินบรรยายเลยว่ะ) เลยโทรฯ หาเพื่อนสนิทอีกคน แต่ก็ไม่รู้จะให้มันช่วยอะไร ... เลยเล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่ต้องเป็นห่วงเดี๋ยวก็คงเสร็จ ถึงจะมาหาก็ช่วยอะไรไม่ได้อยู่ดี

นึกว่าจะรอดจากคุกแล้ว ... ยัง !!! มันยังไม่จบ !!!

ไอ้ปอต้องเข้าไปนอนรอในคุกที่ศาล รอพิจารณาคดีอยู่อีกประมาณเกือบๆ 3 ชม. !!! แต่ละนาทีมันผ่านไปช้ามาก อย่างที่คุณไม่เคยรู้สึกเลยล่ะ .... ต้องอยู่ในกรงขังพร้อมกับนักโทษจากที่อื่นๆ ร่วม 30 กว่าคนที่เข้ามารอพิจารณาคดีในวันเดียวกันกับผม

เกือบๆ เที่ยงวัน ตำรวจก็เข้ามาเรียกให้เข้าแถว แล้วเดินขึ้นไปที่ห้องพิจารณาคดี (เมื่อก่อนเคยแต่เข้าไปแต่นั่งฟังเค้าไต่สวนมูลฟ้อง หรือพิจารณาคดีคนอื่นๆ เค้า ... ไม่คิดเลยว่าวันนี้ต้องมาเป็นจำเลยซะเอง ...)

ศาลถามว่าจำเลยจะยอมรับตามฟ้องรึไม่ ...

“ยอมค๊าบบบ” จะให้ผมพูดอะไรได้มากกว่านี้มั๊ยล่ะ !!!

ผมมีโทษจำคุก 1 เดือน และโทษปรับอีก 6000 บาท ... เนื่องจากจำเลยให้การรับสารภาพ ศาลลดโทษให้กึ่งหนึ่ง โทษจำคุกศาลสั่งรอลงอาญาไว้ 2 ปี โทษปรับ ศาลลดให้เหลือ 3000 บาท ... จำเลยมีสิทธิถูกจำคุกแทนค่าปรับ โดยคิดเป็นอัตราเปรียบเทียบวันละ 200 บาท (ใครจะยอมเข้าไปอยู่ในคุกอีกฟ่ะ !!!)

จ่ายเงินเสร็จ ... เดินออกจากศาล ... สูดอากาศ ...

อืม ... อิสรภาพนี่มันหอมดีจริงๆ นะ ...

ปล. มีพี่คนนึงในคุกเดียวกับผมรูปร่างสูงท้วมมากๆ หน้าตาเหมาะกับนักโทษข้อหาฆ่าคนตายมั่กๆ โดนข้อหาเดียวกับผมโดนมีแอลกอฮอล์อยู่ในร่างการ 53 mg !!! เกินมา 3 mg แล้วต้องมานอนคุก เป็นผมโดดชกตำรวจไปแล้ว !!!

ปล. เจอหน้าผมครั้งต่อไปกรุณาเรียกผมว่า “ไอ้ขี้คุก !!!” (เรียกดังๆ จะได้อารมณ์มาก !!!)




 

Create Date : 17 กันยายน 2548    
Last Update : 27 กันยายน 2548 10:17:53 น.
Counter : 666 Pageviews.  

" เมื่อผมพาคุณย้อนอดีตไปดูผมช่วงวัยเปรี้ยวตรีน ... "

หลังจากที่ไม่ได้ Update BloG มาช้านาน (มันก็ช้าของมันตามปรกตินั่นแหละครับ)

ความเดิมจากตอนที่แล้ว ... Project ปฏิบัติการสละโสด ... ผมว่าของแบบนี้ เรื่องแบบนี้ ถึงผมมันจะตั้งหน้าตั้งตาไขว่คว้ายังไง มันก็ไม่ได้เรื่องหรอกครับ (สงสัยคงต้องพึ่งไสยศาสตร์ลูกเดียวแล้ว) ...

แต่ทั้งนี้ ... ผมก็ค้าพบสัจธรรมใหม่ๆ ว่า ...

“ยิ่งตั้งใจหาแฟนมากเท่าไหร่ ... ก็ยิ่งทำให้ดูเหมือนพวกหื่นๆ มากเท่านั้น”



เมื่อวันก่อนผมได้ไปประชุมแถวๆ ถนนแจ้งวัฒนะ ต้องขับรถผ่านที่ทำงานเก่า ผมเหลือบไปที่ตัวหนังสือบนยอดตึก “กระทรวงยุติธรรม” ผมย้อนไปนึกถึงวันแรกที่ผมเข้าไปทำงานที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ...

เอาล่ะ ... ผมจะพาทุกท่านย้อนเหตุการณ์ไปในวันนั้น ... วันแรกที่ผมได้เข้าไปทำงานที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ...

7.00 น. ณ. วันที่มีแสงแดดอ่อนๆ สาดผ่านช่างเล็กๆ ของผ้าม่านสีขาวตุ่นๆ

ตรู๊ดดดดดด ... ตรู๊ดดดดดด ...

ไอ้ปอ : ฮัลโหล ... โทรฯ มาทำไมแต่เช้าวะ (ทำเสียงให้เหมือนวัวงัวเงียจะได้อารมณ์มาก)

ไอ้เพื่อนสนิทปลายสาย : ฮัลโหล ... เฮ๊ย !!! วันนี้เมิงไม่ไปทำงานเหรอวะ !!!

ไอ้ปอ : เฮ่ย ... เค้านัดกรูจันทร์หน้าน่ะ ... แค่นี้นะ ... กรูจะนอนต่อ ... เมื่อคืนฝันดี ... ฝันว่าน้ำมันลดราคาว่ะ ...

Zzzzz ... Zzzzz ... Zzzzz ... Zzzzz ... Zzzzz ...

8.00 น.

ตรู๊ดดดด ... ตรู๊ดดดด ...

โทรศัพท์ดังขึ้นพร้อมโชว์เบอร์ที่ไม่คุ้นเคย

"สวัสดีค่ะ ... คุณประสุตใช่มั๊ยคะ ?" โอ๊ะ !!! คราวนี้เสียงปลายสายเป็นผู้หญิงแฮะ !!!

"ครับ ... ใช่ครับ" ผมเก๊กเสียงให้ดูหล่อที่สุดเท่าที่เคยทำมา

"คุณอยู่ไหนคะ ??? นี่ดิฉันใกล้จะถึงกระทรวงฯ แล้วนะคะ เรานัดกัน 8 โมงเช้าวันนี้นี่คะ ..." เสียงสาวปลายสายเริ่มแสดงอาการผิดหวังในความ งงๆ ของผมว่า"เธอ"คนนี้เป็นใคร และกำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่

"กระทรวงฯ ??? กระทรวงฯ ไหนครับ ??? เอ่อ ... ขอโทษครับไม่ทราบว่าผมเรียนสายอยู่กับคุณ ... เอ่อ ... คุณ ..." (ผมเว้นช่องว่างให้สาวปลายสายตอบชื่อของเธอ)

"ป้าติ๋มไงคะ ... ป้าติ๋มจาก บริษัท.XXXXX ไงค่ะ ... ป้านัดคุณที่กระทรวงยุติธรรมวันนี้นี่คะ"

เอ๊สสสสสสสสสส !!! ไอ้ปอลืมสนิด !!! ผมนึกว่าจันทร์ต้นเดือนในความหมายของเค้าคือวันจันทร์ที่ 4 สค. ไม่ใช่วันจันทร์ที่ 28 กย. !!!

"อ๋อๆ ผมจำได้ครับ ... ผมกำลังไปครับ ..." ผมตอบด้วยเสียงเรียบๆ เพื่อประวิงความสนใจของคู่สนทนาให้จับไม่ได้ว่าผมลืมนัด ... (มือขวาถือหูโทรศัพท์พูดเสียงนิ่งๆ สงบๆ มือซ้ายขยี้ตาปลุกสติ ปลายเท้าขวาเหยียดไปหนีบผ้าเช็ดตัวที่ราวแขวนข้างๆ เตียง ทันทีที่วางหู ... วิ่งไปอาบน้ำให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ !!!)

อย่าแปลกใจ ทำไมวันนี้ไอ้ปอใส่น้ำหอมเยอะ เจอกันคราวหน้าห้ามถามว่าวันนี้ไอ้ปออาบน้ำมั๊ย ? แค่มันแปรงฟันก็บุญโขแล้ว !!!



15 นาทีจากบางใหญ่ถึงกระทรวงยุติธรรม !!! (เมื่อเช้าของวันนั้นใครเจอรถกระป๋องสีแดงขับเหมือนพ่อแม่ไม่ว่างอบรม ... อย่าโกรธ !!! มันไม่ได้เมายาบ้า !!! มันรีบ !!!)

ไปถึงเจอป้าติ๋ม (แก่กว่าแม่ผมอีกอ่ะ !!!) พาไปอธิบายงานคร่าวๆ

12.00 น.

ไปรัฐสภาฯ กับคุณหมอ ... ระหว่างที่คุณหมอกำลังประชุมสรุปงบประจำปีอยู่

ผมบอกคุณหมอว่า เดี๋ยวขอตัวไปหาอะไรอุดกระเพาะโล่งๆ หลังจากที่ไม่มีอะไรตกถึงท้องมาตั้งแต่เมื่อคืน ยกเว้นเหล้า !!! (เมื่อวานไปร่วมงานทำบุญขึ้นบ้านใหม่เพื่อนซี้)

สำหรับผมแล้วนี่เป็นครั้งแรกที่เข้าไปในรัฐสภาฯ

"เอ่อ ... พี่ครับ ... ไม่ทราบว่าโรงอาหารรัฐสภาฯ อยู่ที่ไหนครับ ???" ไอ้ปอถามอย่างพวกบ้านนอกเข้าสภาฯ

"อ๋อ ... น้องเดินไปตรงนั้นเลยนะ ... ฝั่งตรงข้ามอาคาร 2 น่ะ" เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งบอกผมมาอย่างนั้น (ถ้าผมเดินไปทางนั้นแล้วโดนจับ คำพูดของพี่อาจจะเป็นหลักฐานในชั้นศาลฯ !!!)

ไอ้บ้านนอกอย่างผมก็เดินเข้าไปสิ เห็นคนนั่งทานอาหารกันตรึม !!!

อ๊า !!! ไม่หลงแล้ว มาถูกที่แล้ว !!! เอ ... แล้วเค้าจ่ายเงินกันตรงไหนยังไงวะ ??? ต้องแลกคูปองมั๊ย ???

ผมพยายามมองหา "คนต้นแบบ" ให้ตัวเองเลียนแบบอยู่ก็ไม่เห็นมีใครจ่ายตังค์เลยนี่หว่า ??? (ทำหน้าเหมือนหมาเป็นกังวลจะได้อารมณ์สุดๆ !!!)

ฮั่นแน่ !!! มุมริมสุดมีอาหารจัดโต๊ะ เหมือนบุฟเฟ่ วางเรียงรายกันอยู่ 4-5 โต๊ะ ... อาหารตรึ๊ม !!! มีแต่คนตัก ... ไม่มีคนเก็บเงิน ... ไม่มีใครจ่ายเงิน ... อ๊ะ !!! รึว่าเค้าให้กินฟรีๆ !!! (งานนี้ไอ้ปอลาภปาก)



รีบไปตักด้วยความหิวโซแล้วมองหาโต๊ะว่างๆ แต่แล้ว !!! สายตาเหลือบไปด้านขวา !!!

สิ่งที่ผมเจอไม่ใช่โต๊ะว่างๆ !!!

แต่เป็นป้าย !!! "ยินดีต้อนรับสมาชิกกระทรวงเกษตรฯ และคณะ ฯลฯ"

อิ๊บอ๋ายยยยย !!!

กรูตักไปแล้วด้วย !!! ทำไงดีฟ่ะ !!! ในสมองผมแบ่งเป็น 2 หัวข้อให้เลือก ...

1. วางจานแล้วเดินออกไป ... ยอมโดนด่านิดๆ ยอมอายหน่อยๆ แต่ทนหิวสัดๆ

2. ทำหน้ามึน ... หาโต๊ะนั่ง ... แล้วรีบกิน แต่ผลที่อาจจะตามมาคือ ...
ก). หายหิว ... มีแรงทำงานต่อ (กรณีไม่โดนจับได้)
ข). โดนประจานว่าหน้าด้าน สร้างความเสื่อมเสียให้แก่วงศ์ตระกูล (กรณีโดนจับได้)

แน่น้อนนนน !!! ด้วยความหิวที่ไม่เคยฟังใคร !!! ผมเลือกทำหน้ามึนร่วมโต๊ะอาหารไปกับเค้าซะเลย !!!


ระหว่างก้มหน้าก้มตารีบทาน พยายามไม่ให้มีพิรุธ ... ดันมีคนนึงในโต๊ะหันมาพูดคุยกับผม !!!

"เนี่ย ... ผมว่าที่มาเสนอคราวนี้ ไม่รู้ว่าจะติดอะไรรึเปล่า ? อยากให้มันผ่านๆ ไปซะที ..."

อิ๊บอ๋ายสุดๆ !!! นี่มันคุยเรื่องอะไรกะผมฟ่ะ !!!

แต่ขอโทษครับ ... ไอ้ปอนอกจากจะทำหน้ามึนกินฟรีแล้ว มันยังมั่วตอบเค้าไปด้วยว่า ...

"ผมก็ว่าถ้าไม่ติดอะไร ... คราวนี้น่าจะผ่านได้นะครับ" ผมตอบแล้วยิ้มเอียงอาย (กลบเกลื่อน) ...



ข้าวหมดจาน ... น้ำหมดแก้ว ... ของหวานหมดถ้วย ... ไอ้ปอค่อยๆ เดินออกมาจากตึก ทำฟอร์มคุยโทรศัพท์มือถือ ทำหน้ายุ่งๆ ป้องกันไม่ให้ใครเข้ามาทัก ใครเข้ามาถามอะไรอีก

แว่วๆ มาว่าเค้ากำลังจะเข้าห้องประชุมเรื่องออก พรก. ให้คุ้มครองเรื่องการชนไก่ ...

[ตีหน้าใสซื่อ]

ผมในวันนั้นหน้าตาช่างไร้ยางอายสิ้นดีเลยเน๊อะ !!! 55555




แต่ ... อิ่มดีจังนะ ...





 

Create Date : 10 กันยายน 2548    
Last Update : 17 กันยายน 2548 10:55:53 น.
Counter : 308 Pageviews.  

" เปิดตา เปิดใจ พร้อมเกิดใหม่ ... "


หายหน้าหายตาไปนานเลยนะครับ คุณผู้อ่านทุกท่าน ... เป็นยังไงกันบ้างล่ะ? อยู่สบายกันดีนะครับ ...

"อ้าว ... อะไรนะ ? อ๋อ ... ผมเองเหรอที่หาย ? อ๊ะ ! โทษที โทษที กลับมาอัพเดทให้อ่านกันแล้วน่อ ... แหะๆ ๆ ๆ"

<(T_T")>

(ทำหน้าสำนึดผิดต่อคุณผู้อ่านที่รัก)


คืออย่างนี้ครับ ... ผมมีทั้งข่าวดี และข่าวร้ายมาเล่าให้ฟังด้วยล่ะ ...

ข่าวดีคือ ... ผมถอดเฝือกออกแล้วล่ะครับ ...

ส่วนข่าวร้ายคือ ... ผมไม่สามารถวิ่ง หรือเดินนานๆ ได้เป็นเวลา 1 เดือนกว่าๆ ส่วนเรื่องกระโดดนี่คงไม่ต้องพูดถึง ... ลำพังเดินยังลำบากเลยครับพี่น้องค๊าบบบบ ...


ประเด็นที่จะคุยกันวันนี้คือ การเกิดใหม่ ...

หลังจากที่ผมทนเปลี่ยวจิต+ฟุ้งซ่านมานานแล้ว ... พร่ำเพ้อมาก็หลายครั้ง นั่งฟังเพลงช้า ทำตาลอยๆ เพื่อนๆ คงเอือมระอากันเต็มที ... ผมมองตัวเองแล้วคิดว่า ...


“ไม่ได้แล้วนะไอ้เสี่ยว เอ็งต้องเกิดใหม่ได้แล้ว !!! เอ็งจะมานั่งเป็นหมูจำศีลอยู่แบบนี้ไม่ไหวนะว๊อยยย !!!”
(ดูโฆษณารองเท้า Nike ประกอบจะได้อารมณ์มาก 555)


จนปัจจุบันผมเริ่มรู้สึกว่า ผู้หญิงที่ผมรัก คนที่ผมรอเธอกลับมา เริ่มไม่ใยดีผมมานานแล้ว (เพิ่งจะคิดได้เหรอ ... เด็กโง่) ผมเริ่มคิดว่าการรอใครสักคนที่ไม่รู้จะกลับมาเมื่อไหร่ มันนานมากเหลือเกิน จนเกิดคำถามในใจขึ้นมามากมาย ... เช่น

ผมไม่รู้ว่าเธอจะกลับมามั๊ย? ถ้ากลับ ... เมื่อไหร่ล่ะ?
(ไม่มีคำตอบ)

ถ้าเธอกลับมา ยังคงจะเป็นเหมือนเดิมอยู่มั๊ย?
(ไม่มีคำตอบ)

ปัจจุบันสาวเจ้ายังกิ๊กเยอะอยู่มั๊ยน่อ?
(ไม่มีคำตอบ)

น้องๆ ที่ Office เริ่มเวทนาผม จึงพร้อมใจส่งรูปและประวัติคร่าวๆ ของผมไปให้ลุงหนวดแล้ว (แถมคาดตาด้วยแถบสีดำให้ด้วย !)


“หนุ่มวัยกลางคน นิสัยดี ขี้เล่น (บางครั้งก็ชอบเล่นขี้) เลิกเหล้า เลิกบุหรี่ได้แล้ว ตอนนี้กำลังพยายามเลิกผ้าอยู่ ต้องการสาวน้อย สาวใหญ่มาเป็นกำลังใจมาช่วยกันเลิกผ้า”


<(T_T”)>

เอาล่ะ !!! ผมเริ่มตกมันแล้ว !!! จะตั้งหน้าตั้งตาหาแฟน ด้วยความมุ่งมั่น และไม่ย่อท้อ !!! (วอนผู้อ่านเป็นกำลังใจให้ไอ้เสี่ยวด้วย)

แล้วจะเริ่มยังไง ?

ผมเริ่มคิดถึงการทำวิจัย โดยต้องอาศัยประสบการณ์ในการวางแผนธุรกิจ ผมเริ่มทำแผนงาน วางแผนการหาผู้หญิงดีๆ เป็นแฟน เขียนเป็นเรื่องเป็นราว โดยเอาตัวผมเองเป็นหมูทดลอง ... ผมตั้งใจแล้วว่าหัวข้อในครั้งต่อไปที่ผมจะเขียนคือ ...

ปฏิบัติการสละโสด ... ที่ผ่านการทดลองโดยตัวผมเอง (หน้าตามุ่งมั่นมาก ... ขอบอก)

ปล. ก่อนอื่นผมก็คงต้องหาผู้หญิงที่ดีมาเป็นเป้าหมายในการพิชิตใจก่อน ... มองซ้าย มองขวา ... หายากจังวะ !!!

ปล.(เพิ่มเติม) ... สาวน้อย สาวใหญ่แถวๆ นี้ระวังตัวให้ดี เจ้าของ BLoG มันตกมันแล้ว ... ใครเจอมันอย่าไปสบตา เดี๋ยวมันไล่ขวิดเอา ...

(ด้วยความปราถนาดีจาก หมู่บ้านคานทองพัฒนา)




 

Create Date : 05 กันยายน 2548    
Last Update : 10 กันยายน 2548 13:11:13 น.
Counter : 285 Pageviews.  

"เมื่อผมเริ่มใช้ชีวิตแบบคนพิการ (ชั่วคราว)"


ความเดิมต่อจากตอนที่แล้ว ... ผมจำเป็นต้องเข้าเฝือกปูน เพื่อเยียวยารักษากระดูก และเส้นเอ็นบริเวณข้อเท้า เนื่องจากอุบัติเหตุเล็กน้อย

ผมได้รับสิทธิ์พิเศษในการย้ายโต๊ะทำงานจากเดิมผมอยู่ชั้น 4 ลงมาอยู่ชั้น 1 เพราะคนอื่นๆ เห็นแล้วว่า การที่ผมจะขึ้นไปทำงานชั้น 4 อาจจะต้องใช้เวลาครึ่งวันกว่าที่ผมจะกระดึ๊บ กระดึ๊บ ไปถึงห้องทำงาน ... ดีจังคับ !!! ห้องทำงานผมมีแต่เดือยเต็มห้องไปหมด เพราะเป็นแผนก Engineer แต่ชั้น 1 จะเป็นพวกบัญชี พวกพนักงานต้อนรับของบริษัทฯ ซึ่งทั้งชั้นมีแต่ผู้หญิง !!! ซ้าย ขวา หน้า หลัง ล้อมรอบไปด้วยสาวๆ โอ๊วววว ... ชีวิตช่างมีความสุขยิ่งนัก (แม้ว่าน้องๆ แต่ละคนจะมีแฟนกันไปหมดแล้วก็เหอะ ... ประมาณว่า ดอกไม้สวยๆ ไม่ได้เด็ดมาชม แค่หอมกลิ่นดอมดมก็ยังดี 55555)

แต่ ... หลายต่อหลายอย่างดูเหมือนจะแย่ๆ ไปซะหมด ... กะไอ้แค่เรื่องเล็กๆมันยังเป็นปัญหาใหญ่ๆสำหรับผมได้เลย ... เช่น กาแฟ ซึ่งคนที่รู้จกผมจะรู้ดีว่าผมเป็นคนติดกาแฟขนาดหนัก แต่หลังจากที่เข้าเฝือกแล้ว ผมไม่สามารถชงกาแฟรสชาติที่ตัวเองชื่นชอบได้เลย ... ลองคิดดูสิครับ ... มือทั้ง 2 ข้างถือไม้เท้าเพื่อพยุงตัว พอชงกาแฟเสร็จจะเอาแก้กาแฟไปดื่มที่โต๊ะก็ไม่ได้ ไม่มีมือจะถือถ้วยกาแฟ จะกระโดดแบบผีจีนกลับโต๊ะ กาแฟก็กระฉอกเรี่ยราด ลวกมือ อยากดื่มจริงๆ ผมต้องไปยืนดื่มกาแฟข้างๆ กระติกน้ำร้อนขยับไปไหนไม่ได้ ชวนให้ดูน่าสังเวชยิ่งนัก

ยิ่งเมื่อวันก่อน ... หิวครับ หิวมากๆ เปิดตู้เย็นแล้วพบแต่ความว่างเปล่าไม่มีเงาของกินแม้แต่น้อย ผมจึงขับรถออกจากหมู่บ้านจะไปซื้อของกินจากร้านสะดวกซื้อแถวบ้าน แต่พอไปถึง ... ใครอยู่แถวนั้นจะเห็นหนุ่มน้อยหน้าตาดี ยืนน้ำตา (น้ำลาย) ซึมอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อ เพราะมันเข้าไปซื้อไม่ได้ ... มือทั้ง 2 ข้างถือไม้ค้ำพยุงตัวไม่ให้ล้ม เลยไม่มีมือเปิดประตู ยืนหิวมันอยู่หน้าร้านนั่นแหละครับ รอสักพักมีคนใจดีเดินมาเปิดประตูให้ ... เห็นมั๊ย คนไทย มีน้ำใจ ! เยี่ยมจริงๆ !

เขยกๆ เข้าไปในร้าน ... เจอด่านที่สองครับ ... หยิบตะกร้าเตรียมจะจับจ่าย แต่ปรากฏว่าหยิบไม่ได้ เพราะมือทั้งสองข้างต้องจับไม้ค้ำพยุงตัว เซ็งไปเลยครับ เขยกๆ ไปหยิบขนมปังโดยใช้วิธีนิ้วหนีบ จะหยิบแยมส้มมาด้วย แต่หยิบไม่ได้ นิ้มไม่ยาวพอที่จะคีบกระปุกแยมส้มได้ ... สรุปกลับบ้าน กินขนมปังเปล่าๆ ฝืดคอสุดๆ !!!

การขึ้นลงบันได ... ผมต้องใช้ทักษะกระต่ายขาเดียวอย่างสูงในการขึ้นไปห้องนอนที่อยู่ชั้น 2 ... วันแรกผมใช้เวลา 15 นาทีจากการกระโดดกระต่ายขาเดียวขึ้นไปนอน ... แต่ผมบอกได้เลยครับ มันไม่ตื่นเต้นเท่าตื่นนอน สะลึมสะลือกระต่ายขาเดียวจากชั้น 2 ลงมาชั้น 1 หรอกครับ ... หัวจะปักดินเอาน่ะสิครับ !!!

การอาบน้ำ ... นี่ก็เป็นอีกหนึ่งความลำบากที่ผมต้องคุ้นเคยให้ได้ เพราะหมอให้เงื่อนไขผมมาว่า “ตลอกระยะเวลานี้ ห้ามเฝือกปูนเปียกน้ำนะครับ” วิธีของผมนะครับ

อันดับแรก ... แก้ผ้าก่อนเลย (ไม่ต้องจินตนาการครับ ถึงขาจะกระดิกไม่ได้ แต่อย่างอื่นกระดกได้ครับ) ... เตรียมเก้าอี้มา 1 ตัว ... เอาขาเหยียดตรงๆ พาดเก้าอี้ไว้ แล้วเพื่อความชัวร์ ผมแนะนำให้เอาผ้าขนหนูห่อเฝือกไว้สักหน่อย กันน้ำที่กระเซ็นจากการอาบน้ำไหลไปตามขา ลงเข้าไปในเฝือก ... เฮ้อ ... กว่าจะอาบน้ำเสร็จขาข้างปรกติเกร็งจนแทบเป็นตะคริว !!!

สรุป ... อย่างน้อยๆ ผมก็ยังเอาตัวรอดเองได้ด้วยตัวคนเดียว ไม่ทำตัวให้เป็นภาระใคร และไม่ต้องให้ใครมาช่วยเหลือด้วย (แม้ว่ามันจะลำบากโคตรๆ ก็เถอะนะ 55555)

ปล. รับสมัครสาวๆ มาช่วยอาบน้ำ + ช่วยพยุงขึ้นบันได + ช่วยป้อนข้าวป้อนน้ำ + ช่วยเตือนให้กินยากันเท้าบวม + ช่วยดูแลอยู่ข้างๆ ...

เฮ้อ ... คนโสดเวลาป่วยนี่มันแย่จริงๆ นะครับเนี่ย ...




 

Create Date : 24 สิงหาคม 2548    
Last Update : 5 กันยายน 2548 11:20:41 น.
Counter : 480 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  

หนุ่ม No.7
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add หนุ่ม No.7's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.