|
" เรื่องมันเศร้า ... (จริงๆ) "
หลังจากเล่าเรื่องฮาๆ มาจนติดเป็นสันดานแล้ว วันนี้ขอเรื่องเครียดๆ สักเรื่องเพื่อนๆ คงไม่ว่ากัน
สืบเนื่องมาจากข่าวการสังหาร 2 นาวิกโยธินไทย ที่ภาคใต้ ... อย่างทารุณ ...
ถึงผมจะเกิดที่กรุงเทพฯ แต่ผมคลุกคลีอยู่ในฐานทัพเรือสัตหีบตั้งแต่ยังเล็ก เพราะพ่อผมเป็นครูฝึกหน่วยนาวิกโยธิน ผมยังจำช่วงเวลานั้นได้ดี ...
บ้านผมอยู่ลึกสุด ด้านในของฐานทัพเรือ อ.สัตหีบ เป็นบ้านหลังที่สองนับจากชายฝั่งทะเล ฝั่งตรงข้ามมีสนามเด็กเล่นเล็กๆ
ในทุกๆ เช้า ... นาฬิกาปลุกของผมคือ เสียงย่ำเท้าของเหล่าบรรดานักรบครึ่งบกครึ่งน้ำ ที่ฝึกซ้อมในฃ่วงเช้า ซึ่งบางวันถ้าผมตื่นสายหน่อยก็อาจจะตามมาด้วยเสียงรถตีนตะขาบ
รถยนต์ที่ผมนั่งไปไหนมาไหนคือรถจี๊ปเปิดประทุน (เรียกว่าไม่มีหลังคา จะเข้าใจได้ง่ายกว่า) ที่มุมซ้ายด้านบนมีรอยกระสุนเล็กๆ จารึกเอาไว้ว่ารถคันนี้อดีตเคยผ่านอะไรมาบ้าง
เกือบทุกวันอาทิตย์พ่อจะพาผมและเพื่อนๆ นาวิกฯ เอาเรือออกไปตกปลากันตามเกาะต่างๆ ความผูกพันระหว่างผมกับเพื่อนๆ ทหารของพ่อแทบไม่ได้ต่างไปจาก "ญาติ" และความผูกพันระหว่างพ่อกับลูกน้อง ดูยังไงๆ มันก็เหมือนกับ "เป็นพี่ เป็นน้อง เลือดเดียวกัน" มากกว่าหัวหน้า กับลูกน้อง ...
ถึงขนาดที่ว่า หนึ่งในความฝันของผมสมัยยังเป็นวัยรุ่นคือ เป็นผู้พิพากษาศาลทหาร ... และแน่นอน กองทัพที่ผมใฝ่ฝันที่จะเข้ามารับใช้คือ ... กองทัพเรือ
ข่าวการสังหารโหด 2 นาวิกโยธิน โดยวิธีมัดมือ มัดเท้า เอาผ้าปิดตา โดนรุมเอาไม้ตี โดนรุมเอามีดแทง ... ทำเอาผมอึ้ง และพูดอะไรไม่ออก อาจจะเพราะความผูกพันกับกองทัพเรือตั้งแต่ยังเด็ก หรือความโหดเหี้ยม ของมนุษย์ ที่พึงกระทำต่อมนุษย์ ก็เป็นได้ ...
ผมเชื่อว่า ด้วยความสามารถระดับทหารที่ผ่านหลักสูตรหน่วย "นาวิกโยธิน" ที่ขึ้นชื่อว่าเขี้ยวสุดๆ ทั้งสองท่าน พร้อมด้วยอาวุธปืน M-16 และปืนพกพา แต่ยอมเลือกที่จะให้ชาวบ้านควบคุมตัว เพราะคิดว่า "คนไทย" ยังไงๆ ก็จะต้องไม่ทำร้าย "คนไทย" ด้วยกันแน่ๆ ...
เพราะในเพลงชาติไทยมีเนื้อร้องที่ว่า ... "ไทยนี้รักสงบ" ...
แต่สิ่งที่ตามมาคือ ... ข่าวที่นำมาซึ่งความสลดใจให้แก่ลูก และภรรยา ที่รอการกลับมาของผู้กล้าที่เข้าไปทำหน้าที่ "รักษาความสงบ ช่วยเหลือ และเยียวยาคนไทยที่กำลังเดือดร้อน"
ผมมองพ่อผมเวลาที่ดูข่าวนี้ทางทีวี ...
ผมมองเห็นสายตาของ "พี่" ที่เห็นข่าว "น้อง" ถูกฆ่าตายอย่างทรมาน ...
ผมดูข่าวแล้วเศร้าใจแค่ไหน ... พ่อคงเจ็บในใจมากกว่าผมไม่รู้กี่เท่า ...
มั่นใจได้เลยครับว่า ในส่วนลึกในใจของคนไทยทั้งประเทศ โดยเฉพาะบรรดานาวิกโยธิน ...
ไม่พอใจ และไม่ให้อภัยกับเหตุการณ์ ความสูญเสีย ที่สั่นคลอนความไว้ใจซึ่งกันและกันของคนในชาติ ที่เกิดขึ้นครั้งนี้แน่ๆ
สุดท้ายนี้ ... ผมขอใช้พื้นที่ตรงนี้แสดงความเสียใจแก่ครอบครัวของท่านทั้งสอง และขอให้ดวงวิญญาณของทั้งสองวีรบุรุษ หลับอยู่ในดินแดนที่สงบสุข ... นิรันดร์
Create Date : 27 กันยายน 2548 | | |
Last Update : 31 ธันวาคม 2548 1:25:23 น. |
Counter : 385 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
" เปิดตา เปิดใจ พร้อมเกิดใหม่ ... "
หายหน้าหายตาไปนานเลยนะครับ คุณผู้อ่านทุกท่าน ... เป็นยังไงกันบ้างล่ะ? อยู่สบายกันดีนะครับ ...
"อ้าว ... อะไรนะ ? อ๋อ ... ผมเองเหรอที่หาย ? อ๊ะ ! โทษที โทษที กลับมาอัพเดทให้อ่านกันแล้วน่อ ... แหะๆ ๆ ๆ"
<(T_T")>
(ทำหน้าสำนึดผิดต่อคุณผู้อ่านที่รัก)
คืออย่างนี้ครับ ... ผมมีทั้งข่าวดี และข่าวร้ายมาเล่าให้ฟังด้วยล่ะ ...
ข่าวดีคือ ... ผมถอดเฝือกออกแล้วล่ะครับ ...
ส่วนข่าวร้ายคือ ... ผมไม่สามารถวิ่ง หรือเดินนานๆ ได้เป็นเวลา 1 เดือนกว่าๆ ส่วนเรื่องกระโดดนี่คงไม่ต้องพูดถึง ... ลำพังเดินยังลำบากเลยครับพี่น้องค๊าบบบบ ...
ประเด็นที่จะคุยกันวันนี้คือ การเกิดใหม่ ...
หลังจากที่ผมทนเปลี่ยวจิต+ฟุ้งซ่านมานานแล้ว ... พร่ำเพ้อมาก็หลายครั้ง นั่งฟังเพลงช้า ทำตาลอยๆ เพื่อนๆ คงเอือมระอากันเต็มที ... ผมมองตัวเองแล้วคิดว่า ...
ไม่ได้แล้วนะไอ้เสี่ยว เอ็งต้องเกิดใหม่ได้แล้ว !!! เอ็งจะมานั่งเป็นหมูจำศีลอยู่แบบนี้ไม่ไหวนะว๊อยยย !!! (ดูโฆษณารองเท้า Nike ประกอบจะได้อารมณ์มาก 555)
จนปัจจุบันผมเริ่มรู้สึกว่า ผู้หญิงที่ผมรัก คนที่ผมรอเธอกลับมา เริ่มไม่ใยดีผมมานานแล้ว (เพิ่งจะคิดได้เหรอ ... เด็กโง่) ผมเริ่มคิดว่าการรอใครสักคนที่ไม่รู้จะกลับมาเมื่อไหร่ มันนานมากเหลือเกิน จนเกิดคำถามในใจขึ้นมามากมาย ... เช่น
ผมไม่รู้ว่าเธอจะกลับมามั๊ย? ถ้ากลับ ... เมื่อไหร่ล่ะ? (ไม่มีคำตอบ)
ถ้าเธอกลับมา ยังคงจะเป็นเหมือนเดิมอยู่มั๊ย? (ไม่มีคำตอบ)
ปัจจุบันสาวเจ้ายังกิ๊กเยอะอยู่มั๊ยน่อ? (ไม่มีคำตอบ)
น้องๆ ที่ Office เริ่มเวทนาผม จึงพร้อมใจส่งรูปและประวัติคร่าวๆ ของผมไปให้ลุงหนวดแล้ว (แถมคาดตาด้วยแถบสีดำให้ด้วย !)
หนุ่มวัยกลางคน นิสัยดี ขี้เล่น (บางครั้งก็ชอบเล่นขี้) เลิกเหล้า เลิกบุหรี่ได้แล้ว ตอนนี้กำลังพยายามเลิกผ้าอยู่ ต้องการสาวน้อย สาวใหญ่มาเป็นกำลังใจมาช่วยกันเลิกผ้า
<(T_T)>
เอาล่ะ !!! ผมเริ่มตกมันแล้ว !!! จะตั้งหน้าตั้งตาหาแฟน ด้วยความมุ่งมั่น และไม่ย่อท้อ !!! (วอนผู้อ่านเป็นกำลังใจให้ไอ้เสี่ยวด้วย)
แล้วจะเริ่มยังไง ?
ผมเริ่มคิดถึงการทำวิจัย โดยต้องอาศัยประสบการณ์ในการวางแผนธุรกิจ ผมเริ่มทำแผนงาน วางแผนการหาผู้หญิงดีๆ เป็นแฟน เขียนเป็นเรื่องเป็นราว โดยเอาตัวผมเองเป็นหมูทดลอง ... ผมตั้งใจแล้วว่าหัวข้อในครั้งต่อไปที่ผมจะเขียนคือ ...
ปฏิบัติการสละโสด ... ที่ผ่านการทดลองโดยตัวผมเอง (หน้าตามุ่งมั่นมาก ... ขอบอก)
ปล. ก่อนอื่นผมก็คงต้องหาผู้หญิงที่ดีมาเป็นเป้าหมายในการพิชิตใจก่อน ... มองซ้าย มองขวา ... หายากจังวะ !!!
ปล.(เพิ่มเติม) ... สาวน้อย สาวใหญ่แถวๆ นี้ระวังตัวให้ดี เจ้าของ BLoG มันตกมันแล้ว ... ใครเจอมันอย่าไปสบตา เดี๋ยวมันไล่ขวิดเอา ...
(ด้วยความปราถนาดีจาก หมู่บ้านคานทองพัฒนา)
Create Date : 05 กันยายน 2548 | | |
Last Update : 10 กันยายน 2548 13:11:13 น. |
Counter : 285 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
"เมื่อผมเริ่มใช้ชีวิตแบบคนพิการ (ชั่วคราว)"
ความเดิมต่อจากตอนที่แล้ว ... ผมจำเป็นต้องเข้าเฝือกปูน เพื่อเยียวยารักษากระดูก และเส้นเอ็นบริเวณข้อเท้า เนื่องจากอุบัติเหตุเล็กน้อย
ผมได้รับสิทธิ์พิเศษในการย้ายโต๊ะทำงานจากเดิมผมอยู่ชั้น 4 ลงมาอยู่ชั้น 1 เพราะคนอื่นๆ เห็นแล้วว่า การที่ผมจะขึ้นไปทำงานชั้น 4 อาจจะต้องใช้เวลาครึ่งวันกว่าที่ผมจะกระดึ๊บ กระดึ๊บ ไปถึงห้องทำงาน ... ดีจังคับ !!! ห้องทำงานผมมีแต่เดือยเต็มห้องไปหมด เพราะเป็นแผนก Engineer แต่ชั้น 1 จะเป็นพวกบัญชี พวกพนักงานต้อนรับของบริษัทฯ ซึ่งทั้งชั้นมีแต่ผู้หญิง !!! ซ้าย ขวา หน้า หลัง ล้อมรอบไปด้วยสาวๆ โอ๊วววว ... ชีวิตช่างมีความสุขยิ่งนัก (แม้ว่าน้องๆ แต่ละคนจะมีแฟนกันไปหมดแล้วก็เหอะ ... ประมาณว่า ดอกไม้สวยๆ ไม่ได้เด็ดมาชม แค่หอมกลิ่นดอมดมก็ยังดี 55555)
แต่ ... หลายต่อหลายอย่างดูเหมือนจะแย่ๆ ไปซะหมด ... กะไอ้แค่เรื่องเล็กๆมันยังเป็นปัญหาใหญ่ๆสำหรับผมได้เลย ... เช่น กาแฟ ซึ่งคนที่รู้จกผมจะรู้ดีว่าผมเป็นคนติดกาแฟขนาดหนัก แต่หลังจากที่เข้าเฝือกแล้ว ผมไม่สามารถชงกาแฟรสชาติที่ตัวเองชื่นชอบได้เลย ... ลองคิดดูสิครับ ... มือทั้ง 2 ข้างถือไม้เท้าเพื่อพยุงตัว พอชงกาแฟเสร็จจะเอาแก้กาแฟไปดื่มที่โต๊ะก็ไม่ได้ ไม่มีมือจะถือถ้วยกาแฟ จะกระโดดแบบผีจีนกลับโต๊ะ กาแฟก็กระฉอกเรี่ยราด ลวกมือ อยากดื่มจริงๆ ผมต้องไปยืนดื่มกาแฟข้างๆ กระติกน้ำร้อนขยับไปไหนไม่ได้ ชวนให้ดูน่าสังเวชยิ่งนัก
ยิ่งเมื่อวันก่อน ... หิวครับ หิวมากๆ เปิดตู้เย็นแล้วพบแต่ความว่างเปล่าไม่มีเงาของกินแม้แต่น้อย ผมจึงขับรถออกจากหมู่บ้านจะไปซื้อของกินจากร้านสะดวกซื้อแถวบ้าน แต่พอไปถึง ... ใครอยู่แถวนั้นจะเห็นหนุ่มน้อยหน้าตาดี ยืนน้ำตา (น้ำลาย) ซึมอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อ เพราะมันเข้าไปซื้อไม่ได้ ... มือทั้ง 2 ข้างถือไม้ค้ำพยุงตัวไม่ให้ล้ม เลยไม่มีมือเปิดประตู ยืนหิวมันอยู่หน้าร้านนั่นแหละครับ รอสักพักมีคนใจดีเดินมาเปิดประตูให้ ... เห็นมั๊ย คนไทย มีน้ำใจ ! เยี่ยมจริงๆ !
เขยกๆ เข้าไปในร้าน ... เจอด่านที่สองครับ ... หยิบตะกร้าเตรียมจะจับจ่าย แต่ปรากฏว่าหยิบไม่ได้ เพราะมือทั้งสองข้างต้องจับไม้ค้ำพยุงตัว เซ็งไปเลยครับ เขยกๆ ไปหยิบขนมปังโดยใช้วิธีนิ้วหนีบ จะหยิบแยมส้มมาด้วย แต่หยิบไม่ได้ นิ้มไม่ยาวพอที่จะคีบกระปุกแยมส้มได้ ... สรุปกลับบ้าน กินขนมปังเปล่าๆ ฝืดคอสุดๆ !!!
การขึ้นลงบันได ... ผมต้องใช้ทักษะกระต่ายขาเดียวอย่างสูงในการขึ้นไปห้องนอนที่อยู่ชั้น 2 ... วันแรกผมใช้เวลา 15 นาทีจากการกระโดดกระต่ายขาเดียวขึ้นไปนอน ... แต่ผมบอกได้เลยครับ มันไม่ตื่นเต้นเท่าตื่นนอน สะลึมสะลือกระต่ายขาเดียวจากชั้น 2 ลงมาชั้น 1 หรอกครับ ... หัวจะปักดินเอาน่ะสิครับ !!!
การอาบน้ำ ... นี่ก็เป็นอีกหนึ่งความลำบากที่ผมต้องคุ้นเคยให้ได้ เพราะหมอให้เงื่อนไขผมมาว่า ตลอกระยะเวลานี้ ห้ามเฝือกปูนเปียกน้ำนะครับ วิธีของผมนะครับ
อันดับแรก ... แก้ผ้าก่อนเลย (ไม่ต้องจินตนาการครับ ถึงขาจะกระดิกไม่ได้ แต่อย่างอื่นกระดกได้ครับ) ... เตรียมเก้าอี้มา 1 ตัว ... เอาขาเหยียดตรงๆ พาดเก้าอี้ไว้ แล้วเพื่อความชัวร์ ผมแนะนำให้เอาผ้าขนหนูห่อเฝือกไว้สักหน่อย กันน้ำที่กระเซ็นจากการอาบน้ำไหลไปตามขา ลงเข้าไปในเฝือก ... เฮ้อ ... กว่าจะอาบน้ำเสร็จขาข้างปรกติเกร็งจนแทบเป็นตะคริว !!!
สรุป ... อย่างน้อยๆ ผมก็ยังเอาตัวรอดเองได้ด้วยตัวคนเดียว ไม่ทำตัวให้เป็นภาระใคร และไม่ต้องให้ใครมาช่วยเหลือด้วย (แม้ว่ามันจะลำบากโคตรๆ ก็เถอะนะ 55555)
ปล. รับสมัครสาวๆ มาช่วยอาบน้ำ + ช่วยพยุงขึ้นบันได + ช่วยป้อนข้าวป้อนน้ำ + ช่วยเตือนให้กินยากันเท้าบวม + ช่วยดูแลอยู่ข้างๆ ...
เฮ้อ ... คนโสดเวลาป่วยนี่มันแย่จริงๆ นะครับเนี่ย ...
Create Date : 24 สิงหาคม 2548 | | |
Last Update : 5 กันยายน 2548 11:20:41 น. |
Counter : 480 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|