Group Blog
 
All blogs
 

[FanArt] Death Note Arc 2 ......สายฝนพรำ



รูปน่ะ.... ขอ comment บ้างนะคะ ความลับของรูป ความจริงวาง concept ไว้ว่า "แม้จะฝนตก แต่ก็ยังสดใส" แต่สีออกมาตุ่นซะไม่มี พยายามแกะ Tutorial ของ web Ai-love-love แล้ว ตัวกระจิ๋วหลิวแถมเป็นภาษาญี่ปุ่นอีก สรุปแล้ว เค้ามีการใช้ Overlay ด้วยอ่ะ โอย.... ใช้ยังไงนี่ ทำไมไม่ออกมาเหมือนเค้า ?

เมื่อคืนนอนไม่หลับ เพราะมัวแต่หลับๆ ตื่นๆ ดูบอลเยอรมัน Vs อิตาลี พอมันต่อเวลา ตัดใจหลับดีกว่า เพราะดูโหวงเฮ้งแล้ว น่าจะเสร็จเยอรมัน ยิงลูกโทษวัดดวงแหงๆ ที่ไหนได้ ตื่นเช้ามาพลิกล็อกมักกะโรนีซะอย่างงั้น!!

แล้ว.............ลาพักร้อนอีกแล้ว!!!!

พรุ่งนี้ลาพักร้อน 2 วัน หยุดยาวไปจนถึงอังคารหน้าเลยอ่ะ อะไรๆ ก็ดี แต่ไม่มีคอมพ์ใช้เลย รู้งี้ซื้อโน้ตบุคก็ดี จะได้หิ้วไปไหนด้วย (แต่ก็ไม่ดีอีกง่ะ เพราะมันหนัก)

เสาร์-อาทิตย์ที่แล้วมี event เยอะแยะ แต่ก็ไม่ได้ออกไปไหน ติดฝน ติดงาน งาน event ที่ MBK ก็เพิ่งรู้ว่าเขาจัดกันทุกวันเสาร์ต้นเดือน เออ.... ดีจัง มีที่ให้ Cos โดยสะดวก หรือมีดนตรีให้ดู อีกงานหนึ่ง งาน Thailand Dog Show ตอนแรกอยากไปมาก อยากไปเล่นน้องหมาของชาวบ้านเขา แต่ดันมีเหตุอย่างหนึ่ง ทำให้เปลี่ยนใจไม่ขอไปวิ่งสู้ฟัดที่เมืองทองซะอย่างงั้น

ช่วงนี้ไปจดๆ จ้องๆ ที่ห้อง Gallery บอร์ด All-final บ่อยๆ ว่าจะเอารูปไปแปะ แต่ใจไม่ถึงสักที งานอย่างเราเอาไปแปะที่ห้องสาธารณะได้บ้างไหมนี่ ? คิดดูอีกที เอาไปแปะที่ห้องกระดานศิลป์ก็น่าจะดี เพราะแปะสะดวก แต่ๆๆๆๆๆๆๆๆ ....... ภาพสไตล์ Y แตกอย่างเราคงไม่เหมาะกับบอร์ดสว่างแบบนั้นสักเท่าไหร่ นี่คือเหตุผลลึกๆ ที่ว่าทั้งๆที่เราร่วมสนับสนุนการเปิดกระดานศิลป์แต่ไม่ค่อยเอารูปไปแปะ

ตอนนี้วางแผนก่อน หยุดยาวแบบนี้จะทำอะไรดี ? กลับไปอ่าน Bersek ให้ทันเล่มปัจจุบันก่อนดีกว่า หรือไปหานิยายดีๆ เล่มหนาๆ อ่านสักเล่มดี ?

ยังไงๆ ก็คงไม่ได้ไปงาน Jump Event ที่โรงพยาบาลเซนหลุยส์ วันที่ 9 นี้แน่ๆ หวังว่าคงไม่ค่อยมีโดจินออกใหม่มากนัก เอ้ย.... หวังว่าโดจินใหม่ๆ เหล่านั้นคงจะได้ไปขายงานอื่นที่ฉันไปได้บ้าง


ป.ล. ความจริงวันนี้ตั้งใจ up เรื่อง Death Note แต่ดูเวลาแล้วคงไม่ทัน ยกยอดไปอาทิตย์หน้าละกัน




 

Create Date : 05 กรกฎาคม 2549    
Last Update : 5 กรกฎาคม 2549 13:13:47 น.
Counter : 847 Pageviews.  

เอาเข้าไป Death Note : How to Read 13 + Death Note ฉบับ mini

Death Note How to Read 13 คืออะไร

บางทีก็เบื่อๆ เหมือนกันนะที่จะมานั่ง update เรื่อง Death Note ทั้งๆที่ไม่รู้จะมีใครอ่านหรือเปล่า ? และมันก็จบไปแล้ว แถมยังมีคนอื่นทำแล้ว ดีกว่าด้วย แต่.... บางทีมันก็อดไม่ได้อ่ะ โดยเฉพาะเจ้า Death Note : How to Read 13 เพราะมันมีคำตอบยั่วใจสุดๆ อยู่อย่างหนึ่ง ..... ตามอ่านก็แล้วกันว่ามันคืออะไร

สมมติว่าคุณยังไม่ได้ทราบมาจาก blog อื่นหรือ webboard ไหนๆ

อะไรคือ Death Note : How to Read 13
ตอบ : คือเบื้องหลังเบื้องลึกการสร้างการ์ตูนเรื่อง Death Note จากผู้แต่งเนื้อเรื่องอ. Tsugumi Ohba และ อ. Takeshi Obata
Comment : แต่เดิมมี How to Read Vol. 1, 2 และ 3 ออกอีกที กระโดดไป 13 เลยวุ้ย คราวนี้มา ไม่ได้ให้อ่านฟรี แต่ต้องเสียเงิน เพราะเป็นโปรเจคน้องช้าง

Click เข้าไปดูโฆษณาให้หายมึน
ลุยเข้าไปให้ชัดๆ

คำโปรย
Death Note เล่มที่ 13 คือคู่มือการวิเคราะห์เนื้อเรื่องอย่างเป็นทางการ ชิ้นส่วนสุดท้ายที่จะค้นพบความลึกลับทั้งปวง
Comment : ดีที่เรื่องมันจบไปแล้ว เพราะคราว 1 – 3 อาจารย์แกกั๊กไว้มาก ยึดถือเอานิยมนิยายอะไรไม่ได้เลย

สำหรับการพิมพ์ครั้งแรก จะมีทั้งแบบเล่มธรรดา และเล่มพิเศษซึ่งจะมี item เจ๋งๆ ให้มาด้วย วางจำหน่ายวันศุกร์ที่ 13 ต.ค. เล่มธรรมดา ราคา 680 เยน เล่มพิเศษ 3500 เยน เล่มพิเศษจะต้องสั่งจองเท่านั้น ! ก่อนวันที่ 3 ส.ค. แต่จองผ่านร้าน ได้ถึงแค่ 25 ก.ค. นี้เท่านั้น
เล่มธรรดา ISBN : 4 – 08 – 874095 – 5
เล่มพิเศษ ISBN : 4-08-908053-3

Comment : วันวางจำหน่ายฤกษ์งามยามดีเสียด้วย แต่ไม่นานไปหน่อยเรอะ ?! เห็นแบบนี้เหมือนพวกอาหารจานด่วนบ้านเราเลย ธรรมดา 25 บาท พิเศษ 30 บาท เพิ่มลูกชิ้น 3 ลูก!!

ท่านจะได้พบกับ
1. การ์ดชื่อที่แท้จริงของ L : การ์ดพิเศษที่จะบอกชื่อจริงของ L พร้อมภาพประกอบ original โดยอ.โอบาตะ ทาเคชิ
Comment : ถ้าไม่บอกในเรื่อง แล้วจะบอกไปทำไม๊ ?! ปล่อยให้เป็นปริศนาลึกลับแบบนั้นก็ดีแล้ว มันทำให้เรื่องมีเสน่ห์นะ ?

2. Death Note ตอนสั้น 1 ตอน : เดธโน้ตตอนเริ่มต้นที่เคยลงใน Jump ก่อนที่จะเป็น Series เรื่องยาว รวมทั้งการ์ตูนแก๊ก 4 ช่องทั้งหมดที่ไม่ได้ลงรวมไว้ใน Jump
Comment : อ้าว.... ตอน Pilot นี่หว่า ?!! นึกว่าจะรวมใน DN เล่ม 12 นี่ยกมาไว้ในเล่มนี้หรอกเหรอ ? น่าจะเขียนพิเศษหลังตอนที่ 108 มากกว่า

3. ปกเดธโน้ตย้อนหลัง : ปกหน้าเป็นงานของอ.โอบาตะ ส่วนด้านหลังคือ Death Note !
Comment : นึกภาพและเดาไม่ออกว่ามันคืออะไร ? ใครรู้ช่วยบอกให้หายโง่ที

4. สัมภาษณ์(โคตร)ยาวของอ.โอบาตะและอ.โฮบะ : ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเดธโน้ตที่ทั้ง 2 คนร่วมกันปกปิดเอาไว้ ! รวมทั้งข้อคิดเห็นเกี่ยวกับเนื้อเรื่องทั้งหมดและเรื่องความลับอื่นๆเบื้องหลังการสร้างตัวละคร
Comment : อืมม์.... น่าสน เอาให้หายคาใจเลยนะ

5. ผู้คน, เหตุการณ์, .... การสืบสวนเรื่องลึกลับทั้งหมดของเรื่องเดธโน้ต : เพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวละครหลัก และอธิบายเหตุการณ์ในคดีคิระอย่างกระจ่างแจ้งตามลำดับเวลา !
Comment : พวกลูกอีช่างสงสัยคงจะได้รับคำตอบกระจ่างแจ้ง และหวังว่าอ.โฮบะคงจะให้คำตอบในทุกเรื่องที่สงสัย เช่น ภาค 2 บังเอิญเยอะไปจริงป่าว ?! มิสะจะหายไปไหน ? หรือทำไมเมลโลถึงประมาทอิบอ๋ายตอนจับทาคาดะไป (ฮึ่ม!)

6. ข้อมูลอื่นๆ : รายการขนมหวานและของว่างของ L แม้ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่อง แต่สำคัญสำรับ Death Note!
Comment : อ่า..... น่าสนใจมากๆ

ถ้าคุณจองเล่มพิเศษ คุณจะได้รับสิ่งของดังต่อไปนี้ : (ทำเสียงเหมือน TV Direct)
Item 1 : หุ่นมือสยองโลกของน้องเนียร์ มีทั้งหมด 5 ตัว
Comment : ในที่สุดก็ทำออกมาขายจริงๆ แถมให้ครบทั้ง 5 นิ้วด้วย ยินดีด้วยนะเนียร์ นอกจากรวยมรดก L แล้ว ยังขายตุ๊กตุ่นได้อีกด้วย
Near :


Item 2 : กล่องภาพของอ.โอบาตะ ทาเคชิ ที่สามารถใส่ Death Note ได้ 12 เล่ม (แต่ไม่ให้หรอกนะ การ์ตูนต้องไปซื้อเอาเอง)
Comment : มันคือกล่องใส่การ์ตูนนี่เอง งงอยู่ตั้งนานตู ใส่ได้แค่ 12 เล่ม แล้วตูจะยัด DN เล่ม 13 นี้ไว้ที่ไหนล่ะ ?!

ดูจากราคาและเนื้อหาแล้ว คิดว่า น่าจะไม่ทำให้แฟนๆ กระเป๋าฉีกมากเท่าใดนัก เว้นเสียแต่คุณอยากได้หุ่นนิ้ว Chucky ของน้องเนียร์ หรือกล่องใส่การ์ตูนเดธโน้ต ส่วนคนที่อ่านภาษาญี่ปุ่นไม่แตก (เช่น ฉัน) ก็คงได้แต่เล่นบทหมาเห็นปลากระป๋องอีกเช่นเดิม คงต้องวัดใจ NED เสียแล้วว่าจะใจป้ำยอมซื้อลิขสิทธิ์มาทำต่อให้มันจบเรื่องโดยบริบูรณ์หรือเปล่า ? หรืออีกทางหนึ่งต้องภาวนาหาคนใจดีมาแปลให้อ่านซะ มองๆ อยู่เห็นคนขันอาสาแปลภาคภาษาอังกฤษให้แล้วนะ text ล้วนๆ แบบนี้ ไม่รักจริงคงทำยาก แต่เห็นบางกลุ่มเค้าทำ D. Gray Man และ Fullmetal Alchemist ภาคนิยายแล้วน่าจะมีหวังมากขึ้น


* * *


ที่แท้มันคือปก Death Note นี่เอง จาก Entry ก่อนหน้านู้น เห็นมีสินค้ามาวางล่อใจ เป็นภาพแขวนฝาผนังสำหรับผู้ไม่นิยมโปสเตอร์เพราะต้องแปะกาวทำผนังมีริ้วรอย ที่แท้..... มันคือปก Death Note เล่ม 12 ต่างหาก...


เป็นภาพที่เซ็กซี่อย่างมาก แต่ไม่รู้เป็นไร นึกถึงชู้รักเรือล่ม Titanic ถ้า L ไปยืนข้างหลังล่ะ ใช่เลย ! หรือเพลงประกอบ I believe I can fly (I believe I can touch the sky) แน่นอนว่าท่าประกอบเพลงนี้ต้องยกแขนเหมือนจะกระพือปีกบิน

* * *


Death Note size Mini

น้องหนูเหล่านี้ป้า (เชียวเรอะ ?!) อยาก stalk มานานแล้ว น่ารักน่าชัง น่าอุ้มกลับบ้านไปเลี้ยงดูเสียนี่กระไร อยากเห็นหน้าพ่อแม่จังว่าทำยังไงถึงจับลูกแต่ Cosplay แบบนี้ได้ อีกรายก็ Mini Kyo (Dir en grey) เคยเห็นเด็กกว่านี้อีก แต่ Full Cos เลย น่ารักน่าอุ้มเช่นกัน ไว้ค้นรูปเจอแล้วอาจมาแปะ (ถ้าไม่เลิกทำ blog เสียก่อน )

รูปที่คุ้นตาผู้คน น่ารักจนไม่ต้องบรรยาย


L : ฮัลโหล....ฮัลโหล....ฮัลโหล.....
ไลท์ (หน้าเครียด) : ทำบ้าอะไรของนาย Ryuzaki
จากตอนหนึ่งใน DN เหมือนมาก เจ้าหนู


The Battle between the two chosen ones!


We are justice. And you ?!


กรี๊ด!!!!! น่ารักจริงๆ ขอหอมสักฟอดดิ!

* * *

สุดท้าย ลดแลก แจก แถม!!
High Quality File ปก DN 12 และ CD Tribute เผื่อใครสนใจจะไปทำปลอกหมอนหรือผ้าห่ม
File นี้มีอายุแค่ 7 วันนะจ้ะ




 

Create Date : 01 กรกฎาคม 2549    
Last Update : 1 กรกฎาคม 2549 11:55:40 น.
Counter : 7247 Pageviews.  

ยั่วกิเลส Death Note Merchandise.....

โหมด : หมาเห็นปลากระป๋อง

แต่เดิมๆ นั้น เรามักจะเห็นภาพสินค้า Death Note ฉบับ Made in China ก็เยอะ หรือจะแบบ Original From Japan ก็มาก แต่มักจะเป็นภาพเก่าๆ ช้ำตาที่เคยเห็นมาแล้วเพราะเป็นภาพจาก comic หรือ illustration จาก Jump Weekly Magazine มาจัดองค์ประกอบใหม่กันทั้งนั้น

แต่คราวนี้ อ.โอบาตะพร้อมใจออกงานเป็นสินค้าที่ระลึกจาก Death Note โดยเฉพาะ Design กิ๊บเก๋ จัดองค์ประกอบสมบูรณ์และบอกเล่าเรื่องราวเบ็ดเสร็จใน 1 ภาพให้แฟน Death Note อย่างเราชักดิ้นชักงอด้วยความอยากได้ เพราะสวยบาดตาและน่ารักบาดใจ (ฉัน)

เริ่มด้วยความน่ารัก ..... โฮก....พวงกุญแจ !!! *[]* เนื่องจากเป็นคนต้องใช้พวงกุญแจในชีวิตประจำวันบ่อยมาก ไม่งั้นหากุญแจรถ กุญแจเข้าบ้าน กุญแจเข้าห้อง กุญแจ ฯลฯ ไม่เจอ พวงกุญแจจึงเป็นอะไรที่อยากได้สุดๆ ชอบที่สุดก็ พวงกุญแจรูปมิสะอ่ะค่ะ เพราะเหมือนใน manga สุดๆ รองลงมาก็แอปเปิ้ลแหว่งๆ และอันดับ 3 ก็พวงกุญแจรูปถ้วยกาแฟใส่น้ำตาลพูนๆ และ lap top ตัว L


อันดับต่อไป ปก CD Tribute to Death Note ค่ะ (มันออกมาแล้ว! ใคร Seed บ้าง ?!) เป็นงาน Original ของอ.โอบาตะอีกแล้ว ชอบใจที่วาดไลท์สมัยยังละอ่อนตึ่งโป๊ะอยู่ แอบขัดใจนิดๆ ที่เบียด L เอาไปไว้ตอนล่าง มองดีๆ เห็นว่า L แอบทำเซะซี่โชว์ก้นด้วย (หัวเราะ) และแอบท้วมเล็กน้อย ศิลปินที่มาร่วมทำ Tribute ถ้าจำไม่ผิด มี Kirito (ex-Pierrot) และ Buck-Tick


อันสุดท้าย อ๊า...... อยากได้มาแขวนฝาห้อง!! รวมตัวละครหลักทั้งหมดของ Death Note ไลท์เซะซี่อย่างเปิดเผย พุงเป็นพุง! (concept ไลท์นี่ Sexy guy หรือไงนะ ?! เห็นอ.โอบาตะกระหน่ำแบบนี้มาหลายรูปแล้ว ?) มิสะที่อิงแอบแนบชิดอยู่ข้างๆ ไม่ยอมห่าง (แต่ถูกลืมตอนจบซะอย่างงั้น) แถมด้วยเนียร์และเมลโลที่ถูกแยกห่างด้วยคิระ (เศร้าตลอดศกเลยคู่นี้) อืมม์....ทำไมอ.โอบาตะชอบจัดองค์ประกอบให้ L อยู่ตรงตำแหน่งแทบเท้าของไลท์ก็ไม่รู้นะ มองผ่านๆ ผาดๆ จะเหมือนภาพเจ้าแม่กาลีปางเหยียบยักษ์ทุกที เอ้ย! ไม่ใช่สิ !! ต้องคิดในแง่ดีว่า มีความหมายว่า L มาขัดแข้งขัดขาขวางทางสู่พระเจ้าของไลท์นั่นเอง อิๆๆๆ.... ความจริงแล้วอาจจะง่ายๆ แค่.... เป็นตำแหน่งเดียวที่จะวาง L ลงไปได้ให้องค์ประกอบลงตัว


ก็ไม่ทราบว่าภาพพวกนี้จะมีใน Blanc et Noir หรือเปล่า ของพวกนี้ ถ้าไม่หายากเป็น limited version นัก คาดว่า....อีกไม่นานคงเป็นของนำเข้ามาขายในไทย แต่ขึ้นชื่อว่านำเข้าจากญี่ปุ่น แพงเลือดสาดกันทั้งนั้น เฮ้อ.... มีเพื่อนอยู่ญี่ปุ่นก็ดีสิ จะได้ฝากซื้อได้ หรือว่า ต้องไปตั้งต้นจีบหนุ่มญี่ปุ่นอีกรอบดี แต่ละคนกว่าจะจีบได้ ต้องใช้เวลาเป็นเดือนขึ้นไปทั้งนั้น ....<3 <3 <3

Thanks to : website นี้ สำหรับภาพประกอบ




 

Create Date : 27 มิถุนายน 2549    
Last Update : 27 มิถุนายน 2549 13:25:05 น.
Counter : 4613 Pageviews.  

Little Live Report : Kingdom Hearts Only Event

หมู่นี้ไม่ค่อยได้ไปงาน event ไหน นอกจากงานจะท่วมหัวแล้ว ช่วงนี้เหมือนจะซวยๆ ดวงตก พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกยังไงก็ไม่รู้ ตั้งแต่กลับมาจากเชียงใหม่ก็ชีพจรลงเท้า ไม่ค่อยได้เข้า Office เลย ก็ไม่ได้เข้า net ผลก็คือไม่ค่อยจะ up to date กับสถานการณ์โลกสักเท่าไหร่

เอาน่า แต่อย่างน้อยเราก็ไม่ตกข่าว Kingdom Hearts Only Event หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า Ultimate Kingdom Event (ย่อน่ารักๆ ว่า UKE ) เนื่องจากงานนี้ประชาสัมพันธ์ต่อเนื่องกันมาอย่างยาวนาน งานนี้ถ้าต้องไปเฝ้าบูธที่เมืองทองวันนั้นมีเคือง ด้วยเหตุนี้ เค้าจัดเราไปเฝ้าบูธวันเสาร์เราไม่บ่น แม้ต้องตื่นแต่ตี 5 ครึ่ง แม้เพิ่งกลับมาจากระยอง แม้งานจะท่วมหัว แม้จะเหนื่อยสาด แต่สีทนได้

ไปถึงงานเอาตอน 11.30 น. โดยประมาณ ฝนตกเป็นอุปสรรคการเดินทางเล็กน้อย แต่เหมือน Sora (ท้องฟ้า) จะเป็นใจ ไปถึงงานฝนก็หยุด (แดดเปรี้ยง) ซะแล้ว หน้างานยังเงียบๆ ชอบกล เห็นชาว Cos ประปราย หมายตาน้องไคริน่ารักคนหนึ่งที่เพิ่งไปถึงงานพร้อมๆ เรา แต่หลังจากเข้างานไปแล้ว ไม่รู้เธอหายสาบสูญกลืนกับฝูงชนไปไหน ไม่ได้จับภาพจนแล้วจนรอด ยังไงก็เข้าไปตักโดก่อนดีกว่า เป้าหมายหลักของเรา !

ที่โต๊ะขายการ์ด (ตั๋ว) เข้างานมีคนอยู่ก่อนหน้าเราพอสมควร เออ... แถวเค้าแปลกๆ เนอะ แทนที่จะเข้าแถวตามยาว กับเข้าแถวตามขวางซะงั้น พื้นที่คงน้อย เลยต้องแบ่งๆ ให้ประชาชนเดินไปเดินมาได้อ่ะมั้ง ?! คิวก็ไม่ยาวมาก แต่รอนานพอสมควร จะยืนหลับคาแถวก็เกรงใจคนขายการ์ด ที่ต้องรอนาน ที่แท้เค้ามีการ์ดหลายลายให้เลือกนี่เอง แต่เลือกได้แค่ 1 ใบ ใจดวงเดียว แต่มันมีตั้ง 4 ห้องเป็นอย่างน้อย กว่าแต่ละคนจะตัดอกตัดใจเลือกใครสักคน ก็ต้องใช้เวลาพอสมควร สำหรับฉันแล้วโชคดีที่รักเดียวใจเดียว “ริคุ” เท่านั้น อ๊ะ....ดีที่ไม่มีริคุหลายลายให้เลือก ไม่งั้นก็ลำบากใจเหมือนกัน

เข้าไปในงาน ดูมืดๆ เงียบๆ ขรึมๆ ชอบกล อาจจะเพราะยังเช้าอยู่ หรือฝนตกอากาศน่านอน ?! แต่ก็ยกเว้นโชนที่มีสต๊าฟอยู่ จะคึกคักดี สำหรับงาน Only Event แบบนี้ ห้องก็ไม่เล็ก แม้จะชินกับงาน Event ที่นิยมพื้นที่ใหญ่ๆ ก็ตาม doujinshi Circle ยอดนิยมก็คนรุมเยอะเป็นธรรมดา การจารจรติดขัด แต่บางคนยืนปรึกษาหารือกันอยู่นั่นแหละว่าจะซื้อไม่ซื้อดี เอ่อ....ถ้าจะถกกันอีกนาน ถอยฉากให้คนซื้อเข้าไปดูก่อนก็ดีนะคะ ส่วนใหญ่แล้ว การตัดสินใจซื้อโดของฉันจะไวปานแสง ซื้อก็ซื้อ ไม่ซื้อก็ไม่ซื้อ เรียกว่าเด็ดขาดมาก (อาการหน้ามืดเพราะหิวโดมากกว่ามั้ง ?!) ซื้อโดแล้วได้แถมการ์ด 1 ใบ เสียดายแทบน้ำตาไหล การ์ดหนุ่มๆ หมดซะแล้ว ได้แค่แอริธมาปลอบใจเท่านั้นเอง

พอซื้อโดได้ออกมาเดินโต๋เต๋อยู่ข้างนอก ก็เห็นว่าชาว Cos ก็เริ่มทยอยมาหนาตา อืมม์.....อาจจะคิดไปเอง แต่ไม่รู้เป็นไง รู้สึกว่า ทำไม layer ของงานนี้ถึงดูเงียบๆ ขรึมๆ มึนๆ ตาม image ยังไงบอกไม่ถูก หรืออาจจะเป็นเพราะชุดดำเป็นหลัก มันเลยดูขรึมมาก หรืออีกกรณีหนึ่ง คือ วิ่งตามไม่ทัน layer ซะอย่างงั้น แต่ละคนปรูดปร๊าดไวจริงๆ ที่จริงไม่ค่อยกล้าเข้าไปขอถ่ายรูปสักเท่าไหร่ เพราะเหมือนจะแผ่รังสีประหลาดชอบกล () งานนี้เป็นงานแรกที่รูป Cos น้อยมาก หลายๆ คนที่เล็งไว้ก็ไม่ได้ถ่ายเสียอย่างงั้น

พอถ่ายรูปเสร็จ ก็กลับมาในห้องจัดงานเหมือนเดิม นั่งดู Clips บนเวที มีช๊อตเด็ดๆ ให้ดู เสียดายที่อยู่ดูไม่ถึงฉากริคุคืนร่าง แล้วอ้อนๆๆๆๆ โซระให้ชื่นใจ เพราะกิจกรรมบนเวทีเริ่มแล้ว เป็นแข่งเต้น Under the Sea ค่ะ สนุกสนานดุเดือดถึงใจดีแท้ จบลงชัยชนะของน้องสโนว์ไวท์ ส่วนของรางวัลของน้องเค้าที่ต้องเต้นเหงื่อกระจายมา 2 รอบ แล้วต้องมาเสียการ์ด Roxas ที่รักให้เพื่อนไป ไม่รู้จะจบลงยังไง แต่คิดว่าน่าจะสนุกๆ กันมากกว่านะคะ จบกิจกรรมนี้ฉันก็หิวได้ที่พอดี ง่วงและเหนื่อยด้วย งานเค้าเลี้ยงดีนะ มีกาแฟขนมให้กินด้วย แต่เนื่องจาก 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา ฉันสาดกาแฟเกินโควตาทุกวัน เรียกว่ากินกาแฟแทนน้ำก็ว่าได้ ก็เลยทำใจกินไม่ลง ไปหาอะไรกินอร่อยๆ ที่เซนทรัลลาดพร้าวดีกว่า

นี่ว่ารีบกลับแล้วนะ ออกจากงานมาตอนบ่ายโมง แต่กลับถึงบ้าน 4 โมงเย็น โธ่เอ๋ยชีวิต..... เสาร์-อาทิตย์หน้าขอนอนอืดอยู่บ้านสักอาทิตย์ก็แล้วกัน ทำไมมันเหนื่อยอย่างงี้ก็ไม่รู้ ….

มาดูรูปดีกว่า
คราวนี้รูปไหนที่ background ไม่เข้ากับ Cos เลยพยายามปรับ แต่สุดท้ายแล้ว ก็ต้องมาเหมือนเดิมแหละค่ะ ปรับไม่ค่อยทัน วันนั้นอากาศครึ้มฟ้าฝนด้วย ว่าสาดแสงแฟลชแล้ว layer แต่ละท่านยังหน้าดำกัน เลยต้องมีการปรับด้วย photoshop เล็กน้อยค่ะ

Sephiroth ขวัญใจฉันเอง งานนี้เจอ Sephy เยอะแยะ ดีใจจัง


Part of destiny : Sephiroth Vs. Cloud ชอบคู่นี้ใน KH มากว่าใน V. ปกติซะอีก


จาก FFV จำไม่ได้แล้วว่าชื่ออะไร แต่เป็นอาจารย์ของ Yuna นางเอกล่ะ


Squall กับ Sephy ล่ะ เห็น Squall หลายคนอยู่เหมือนกัน


Riku อีกคน น่ารักจัง


Axel, Cloud และ Sephy


Squall กับ จูซังคิคัง (มีชื่อภาษาอังกฤษไหมนี่ ?)


Cos ได้ใจฉันวันนี้ ได้ image โดยไม่หลุด concept แม้แต่น้อย รูปนี้ไม่ต้องปรับอะไรเลย น้องเค้ามีผ้าดำคลุมหน้ามิดชิดถึงออกมามืดมนได้ใจแบบนี้


Cloud กับ Blade Buster ได้รายละเอียดดาบจริงๆ


ไคริกับ Cloud (ความจริงแล้ว Cloud ก็ hot จริงๆ นา Cloud ก็มีเยอะแยะเหมือนกัน)


โซระได้ใจของวันนี้ ไม่เหมือนมาก แต่เปล่งออร่าความสดใสปนคมเข้มแบบโซระออกมาได้ดี


Cloud ในแบบ KH อีกเช่นกัน คนนี้เท่มากค่ะ (ตากล้องหวาดๆ เพราะเข้มจัด )


น้องโซระคนนี้ก็น่าร้าก ได้ใจโชตะจริงๆ


สุดท้าย อยากได้รูปคู่ริคุกับโซระ แต่..... ไม่มีใครจับคู่ให้เราเลย () เอาวะ ถึงจะออกแนวเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด ก็ยังพอชื่นใจ


จากนั้นงานจะสนุกสนานแค่ไหนก็ไม่ทราบแล้วล่ะค่ะ เพราะกลับบ้านไปนอนซะแล้ว แต่ดันไปเจอฝนตกรถติดซะนี่ แต่ระหว่างทางขึ้นรถ เจอนี่ค่ะ สร้อยข้อมือกับโปสการ์ดหนัง Pirate of the Caribbean ภาค 2 make up artist เค้าคงดีจริง เพราะหนังทิ้งระยะห่างจากภาคแรกตั้ง 2 ปี ยังแต่หน้าออกมาเหมือนเดิมเชียะจนคนดูแทบสับสนว่า มันเอารูปเก่ามา recycle หรือเปล่าฟ่ะเนี่ย ? ทำไม background กับ Theme ของรูปมันไม่เปลี่ยนเลยล่ะฟุ้ย ?!

ส่วนสร้อยข้อมือไม่เกี่ยวกับ POC หรอกค่ะ เผอิญว่าฉันชอบของสไตล์โบฮีเมียมเลยซื้อติดมือมาสักเล็กน้อย ทั้งๆที่ตัวเองไม่ใช่คนชอบใส่สร้อยข้อมือด้วยซ้ำไป แต่มันเข้ากับหนัง POC เนอะ


ป.ล. เชื่อแล้วว่า Roxas hot จริงๆ เพราะโด Axel x Roxas ก็เยอะ แถมแต่ละเรื่อง ก็ซาบซึ้งกินใจชวนน้ำตาร่วงเผาะกันทั้งนั้น ศึกชิงการ์ด Roxas ก็ดุเดือดจริงๆ เป็นไง ตกกระป๋องล่ะสิ โซระ! ริคุ!




 

Create Date : 26 มิถุนายน 2549    
Last Update : 26 มิถุนายน 2549 8:01:17 น.
Counter : 1077 Pageviews.  

[Fan Art] Lord of the Ring ; Return of the King

นึกว่าจะไม่ได้มา update blog ซะแล้ว ตอนแรกกะว่ารอกลับมาจากระยอง - จันทบุรีก่อนแล้วค่อย update อาทิตย์ที่แล้วถึงได้กระหน่ำ update blogซะ ซึ่งก็ได้ผลดี เพราะดูเหมือนคนไม่อ่านกันเลย (ฮา...)

ยังไงอาทิตย์หน้าจะมีงาน KingdomHearts event อยากจะไปใจจะขาด แต่ก็อยากระลึกถึง Lord of the Ring ก็ขอ up ก่อนละกัน เดี๋ยว ship ไปเรื่องอื่นจะเซ็งจิตซะเองเปล่าๆ อุตส่าห์ built อารมณ์ Lotr ได้ที่

เพิ่งได้ดู Lord of the Ring : Extended version เอาเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมานี่เอง เพราะได้โอกาสหยุดยาวตั้งแต่วันที่ 9 – 13 มิ.ย. จากงานฉลองศิริราชสมบัติในหลวงครบรอบ 60 ปีนี่เอง

เวลากลับบ้านทุกที ต้องไปเช่าหนังสือมาอ่าน แต่คราวนี้ฉันตั้งใจมาก ตั้งใจกลับไปดู Lotr ที่อุตส่าห์ซื้อมาตั้งนานแล้ว หนังโปรดักชั่นอลังการณ์แบบนี้มันต้องดูกับจอ 29 นิ้ว! ไม่ใช่จอคอมพ์ 17 นิ้วกระจิ๋วหลิว กลายเป็นว่า กลับบ้าน 3 วัน เราดูได้แค่ภาค Return of the King อยู่ภาคเดียว

ก็แบบว่า....ดูไป หลับไป ทำกิจธุระไป ..... ไม่ใช่ว่าหนังมันไม่สนุก แต่มันไม่มีสมาธิดูเลย แล้วหนังก็เคยดูมาแล้วรอบหนึ่ง ดูอีกรอบมันไม่สดเหมือนเมื่อก่อน ไม่รู้ว่าทิ้ง Lotr ไปนานแล้วหรือเปล่า ? เลยรู้สึกว่า new scene หรือ extended scene นี่มันไม่ค่อยชวนตื่นเต้นสักเท่าไหร่ แถมบางฉากเห็นด้วยว่าควรตัดออกไป อย่างฉากเอโอวีนกระดื้บๆไปหยิบดาบแล้วอรากอร์นมาช่วยแบบไม่ตั้งใจนี่ สมควรตัดจริงๆ ไม่ค่อยมีประโยชน์กับเนื้อเรื่องเลย

เสียดายไม่ได้ดูครบทุก feature และแผ่น เลยไม่ได้ฟังทาง staff เค้า comment เกี่ยวกับฉากแต่ละฉากว่ายังไงบ้าง ? แต่ขอ comment เองบ้างละกัน

- ฉากซารูมานที่โดนหั่นเกลี้ยงไปจากภาคปกติ จนปู่คริสโตเฟอร์ ลีงอนเล็กน้อยนั้น เห็นแล้วก็น่าเสียดายจริงๆ โถ...ปู่ลีอุตส่าห์ตั้งใจเล่น แถมเป็นฉากที่ดีด้วย ไม่น่าโดนตัดเลย

- ฉากความฝันของเอโอวีน ชุดและองค์ประกอบสวยมาก แต่ก็สงสัยอีกแหละว่า ทำไมแม่หญิงสูงศักดิ์อย่างเอโอวีนถึงมานอนโด่เด่โดดเดียวอยู่กลางท้องพระโรง จะว่าเฝ้ากองฟืนอยู่ยาม ก็ไม่น่าใช่ ? จะสละห้องให้อรากอร์นนอนกับเลโกลัส ก็ไม่น่าใช่อีก ? หรือว่าจะอ่อยอรากอร์น.... แน่นอนว่าปีเตอร์ แจ๊คสันคงจะประมาณไว้ว่าคงจะมีคนคิดอกุศล เสียภาพพจน์แม่หญิงเอโอวีน เลยตัดฉัวะทิ้งไปจาก version ปกติ

- ฉากหน้าประตูมอร์ดอร์ถึงเพิ่มความยาวขึ้น แต่..... ยังอธิบายไม่ได้ว่า ม้าหายไปไหนเหมือนเดิม ก็....มันเป็นฉากต่อเนื่องไม่ใช่เหรอ ?

- ได้เห็น story board ฉากจบดั้งเดิม เสียดายไม่น่าเปลี่ยนเป็น Troll เลย คงจะดีกว่าถ้าได้เห็นเซารอนอีกสักครั้ง ฉันนั่งคิดเอาเองว่า P.J. กลัวจะคนจะจดจ่ออยู่กับอรากอร์นจนลืมว่าโฟรโดกับแซมกำลังไต่ระห่ำนรกอย่างดุเดือดอยู่แถวปากปล่องภูเขาไฟเมาท์ดูม (ดูม ดูม มาเล...ดูม) เฮ้....นี่เป็นเรื่องราวของ Hobbit นะ (แม้ว่าชื่อตอนจะเป็นThe Return of Aragorn เอ๊ย King ก็ตาม)

- ชุดของเลโกลัสในฉากจบ ได้รับการออกแบบตัดเย็บอย่างวิจิตรสวยงามซับซ้อนไม่แพ้ชุดของสาวๆ แต่ขอโทษ.... ในหนังเห็นแค่ครึ่งตัว และโผล่มาแค่ 10 วินาทีกว่าๆ แถม detail ของชุดดันซ่อนไว้ในเสื้อทูนิคตัวนอกแบบพื้นๆอีกแน่ะ .... ฉากนั้นเลโกลัสใส่แค่ผ้าขาวม้าครึ่งล่างก็คงไม่แตกต่างอะไรนัก

- ฉากของโฟรโดและแซมหลังทิ้งแหวนไว้แล้ว ไม่ว่าจะดูครั้งไหนก็ฮา ในขณะที่โฟรโดพร่ำซาบซึ้งถึงความงามของไชร์และมิตรภาพอันแสนหวานกับแซม แต่เจ้าแซมไม่รับมุกคุณโฟรโดเลย คร่ำครวญแต่อยากมีเมีย อย่างไรก็ตาม คุณโฟรโดก็ยังสามารถดั้นเรื่องต่อไปจนจบ concept ได้

ดูจบแล้วก็เกิดไฟโชติช่วง...... ไปค้นๆ ดูภาพเก่าๆ ที่เราเคยวาด fanart Lotr .... บางรูปก็ดีนิดๆ บางรูปก็เห่ย เลยลงมือวาดใหม่ดีกว่า

โชคดีที่ยังพอระลึกชาติถึงลายเส้นเก่าๆของตัวเองได้บ้าง

อรากอร์นกับเลโกลัส แม้รู้ตัวเองจะไม่มีความคิดสร้างสรรค์ สไตล์ก็ออกโบร่ำโบราณให้คนค่อนแคะ แต่....ยังไงก็ยังอยากวาดอรากอร์นกับเลโกลัสใน concept แค่มองตาก็สัมผัสถึงความรัก โหย...เค้าเป็นเจ้าสูงศักดิ์จะให้โดดกอดกันนัวเนียก็คงหลุด concept เกินไป


อยากวาดเอโอวีน แต่คิดไปคิดมา อยากวาดเลโกลัสใน version For the Good of Gondor (my LOTR favorite fanfiction) ตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองวาดหญิงสาวไม่ค่อยเก่งเลย


อยากวาด Maeglin จาก Simarillion แต่คิดว่าหลุด image ไปไกล Maeglin ต้องมืดๆ เย็นๆ ต่างหาก คงไม่ยืนเซะซี่ใส่เสื้อเขียวอื๋อเหมือนจะสังเคราะห์คลอโรฟิลได้แบบนี้หรอก เลยเป็น Elf Wood ไปซะเลย


Celeborn สมัยยังโสดก่อนโดนเจ้าแม่กาลาเดรียลเข้าครอบงำ ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจวาดหรอก แต่พลาดเป็น Celeborn ได้ยังไงก็ไม่รู้ เรามั่วนิ่มเก่งอยู่แล้ว (โฮะๆๆๆ)


เรื่อง LOTR นี่ไม่ใช่การ์ตูนสักหน่อย แต่ทำไมถึงเลือก catalog เป็นการ์ตูนล่ะ ? ก็ฉันให้น้ำหนักกับ Fanart ที่ออกสไตล์มังงะมากกว่าการ review หนัง เลยขอลงห้องการ์ตูนละกัน ไม่รู้ทำไม bloggang ถึงได้มีหัวข้อแยกย่อยยิบล้านแปดมากมายนักก็ไม่รู้

ไปๆ มาๆ เหมือน blog นี้จะเป็นที่หลบมุมแปะงาน illust ของฉันซะแล้ว เอาเถอะก็มัน blog ของฉันนี่นะ ก็อยากมี deviantart เป็นของตัวเองเหมือนกัน แต่คติประจำใจของฉันตอนนี้คือ “ชุ่ยไม่ว่า แต่ของ่ายและเร็ว” เรื่องข้อบกพร่องน่ะ ไม่ตาบอดก็ต้องเห็นอยู่แล้ว เยอะเลย แต่...การจะไปแปะเป็น Gallery กิจจะลักษณะนั้น ก็คงไม่ค่อยมีใครมาดู ก็ไม่กลัวเรื่องลอกรูป เพราะไม่มีอะไรให้ลอก ก็ปกติ blog นี้ก็คงไม่มีใครเข้าอยู่แล้ว ถึง rating จะวิ่งสม่ำเสมอ (ก็ไม่รู้ตัวเลขวิ่งได้ยังไงทั้งๆที่ไม่มี comment ) ถ้าโดนลอกไปคงไม่มีพยานช่วยสักเท่าไหร่ ครั้นจะไปแปะที่ deviantart ก็คงจะอยู่ในปรากฏการณ์รูปแบบเดียวกัน คือ ไม่ค่อยมีคนเข้ามา.... คนวาดรูปน่ะ เห็นรูปตัวเองสวยทั้งนั้นแหละ แต่คนอื่นจะเห็นสวยด้วยหรือเปล่า มันคนละเรื่องกัน จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ก็ไม่ค่อยวาดรูปให้ใครดูอยู่แล้ว การมาแปะที่นี่ก็คงดีกว่าแปะฝาห้องนอนตัวเองนิดหน่อย

พูดมาซะยืดยาวก็.... แค่จะบอกว่าไม่ได้แปะผิดห้องหรอก และถ้ากรุณา ให้ comment รูปด้วยค่ะ จะได้รู้ว่ามีคนดูด้วย เอ... แต่ถึงไม่ได้ comment เราก็จะวาดต่อไปอยู่ดี ความสุขของฉันคือการได้วาดรูป มันไม่สำคัญว่าใครจะเห็นคุณค่าของมันหรือไม่ ? (ยังไม่เข็ด)

ตอนที่สมัครบอร์ด all-final ก็ให้เหตุผลเค้าไปว่า อยากไปแปะรูปที่ห้อง Gallery บ้าง ป่านซะนี้ยังไม่เคยได้ไปแปะเลย .... ยังไม่ว่างจริงๆ

เริ่มอีกเรื่อง ดันจบอีกเรื่องซะอย่างงั้น.




 

Create Date : 17 มิถุนายน 2549    
Last Update : 17 มิถุนายน 2549 16:25:01 น.
Counter : 4301 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  

Pride
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ฮู้.... กว่าจะใช้ blog เป็น (คิดว่านะ) ต่อไปนี้ จะพยายาม update เรื่อยๆก็แล้วกัน ส่วนเนื้อหา .... คาดว่าจะจับฉ่าย ส่วนของ Let's talk ก็เรื่องสัพเพเหระ , secret window ก็จะเป็นเอ่อ.... อะไรที่มัน Y หรือ Homo นะ เพราะชอบอ่านการ์ตูน Y นิ เพราะฉะนั้น ไม่ชอบอย่า click เข้าไป ส่วน comic talk ก็เป็นการ์ตูนที่กำลังอิน หรือกำลังอ่านอยู่ค่ะ
Friends' blogs
[Add Pride's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.