Group Blog
 
All blogs
 
คุยเล่นเรื่อยเปื่อย จาก Narnia จนถึง Final Fantasy VII

อาทิตย์ก่อนไม่มี Death Note ตอนที่ 93 ทำให้ blog ว่างอยู่พักหนึ่ง ก็ตั้งใจไว้ว่า จะ up blog ที่อยาก up เอาไว้นานแล้ว แต่ติด DN ซะมาหลายอาทิตย์ เอาเข้าจริงๆ ก็หาเวลาทำไม่ได้

ตั้งใจไว้ว่าจะเปลี่ยน theme ใหม่ ให้ดูทันซะหมัย เอ้ย ทันสมัยและโชว์ advance กับชาวบ้านเขาบ้าง ก็ยังทำไม่ได้ เมื่อวานนั่งงมๆ คลำๆ อยู่พักใหญ่ ไม่ work แฮะ ไม่รู้ใครทันเข้าจังหวะทดลอง theme ใหม่บ้าง ?

ตั้งใจไว้ตั้งแต่ก่อนปีใหม่แล้วว่า จะเคลียร์ภาพ drawing และหนังสือที่ซื้อมาจากงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติตั้งแต่ปีที่แล้วให้หมด ดองข้ามปีมาแล้ว ปรากฏว่า ตอนนี้แค่ Harry Potter เล่ม 6 ฉบับภาษาไทย ยังอ่านคืบหน้าไปไม่ถึงไหน ...

โอ... ทำไมถึงมีแต่ภารกิจที่ทำไม่สำเร็จทั้งนั้นเลยฟ่ะนี่ ??!!

มาลองเคลียร์เป็นอย่างๆ บ้างดีกว่า

Blog ที่อยาก up ก็ยัง 2 จิต 2 ใจ เป็นเนื้อหาประเภทแกว่งปากหาเสี้ยนทั้งน้าน หรือไม่ก็ ส่วนตัวซะไม่มี คงไม่ค่อยมีใครอยากอ่านนักหรอก หรือ up แล้วอาจจะมีคำถามตามมาถึงบ้านว่า [up ทำไม ?] เออ... ไม่ว่างจริงๆ ก็เอาไว้ก่อนก็แล้วกัน

เรื่องเปลี่ยน theme เอาน่า ... ไม่กินหญ้ามากเกินไปนัก คงจะทำได้สักวันแหละ บางที ใช้ theme สำเร็จรูปอาจจะดีกว่านะ ยิ่งเปลี่ยนยิ่ง basic ว่างั้น

หนังสือที่ต้องเคลียร์ มาสะดุดกึกกักกับ Harry Potter เล่ม 6 นี่แหละ ไม่รู้เป็นเพราะว่าอ่านฉบับภาษาอังกฤษมาก่อนหรือเปล่าก็ไม่รู้ ทำไมฉบับภาษาไทยช่างแปลได้จืดชืดซะไม่มี ช่างราวกับเขาใช้โปรแกรม translator แปลออกมาดุ้นๆ ยังไงก็ไม่รู้ เคยได้ยินคนบ่นๆ เหมือนกันเรื่อง Harry Potter เปลี่ยนคนแปลใหม่ เมื่อก่อนฉันก็อ่านแต่ฉบับภาษาไทย ก็เลยไม่รู้ว่าต้นฉบับจริงๆ มันเป็นยังไง เปลี่ยนคนแปลกันตอนไหน แต่พอมาอ่านเล่ม 6 โอ้ว...รู้แต่ว่า เขาช่างเรียงรูปประโยคไทยคงรูปประโยคจากภาษาอังกฤษยังไงอย่างงั้น (โว้ย!!) ฮาฝืดอีกต่างหาก นี่ก็กำลังคิดๆ อยู่ว่า จะคืนหลานชายไปเลยทั้งอย่างนี้ หรือทนฝืนอ่านจนจบดี เพราะคิดไว้ว่า อยากอ่านเพื่อตรวจดูว่า ที่เราดำน้ำอ่านภาษาอังกฤษมาแต่แรกน่ะ เข้าใจถูกหรือเปล่าเท่านั้น ?

เรื่องรูปทั้งหลายที่วาดเอาไว้ หลังจากเล่นแนวทดลองมาพักใหญ่ ก็ค้นพบว่า สุดท้ายแล้ว คงต้องมาลงสีสไตล์เดิมแบบโบราณๆ ของเรานั่นเอง แหม... ทั้งๆที่มีแนวอื่นๆ อีกเยอะแยะที่อยากทดลองเล่น แต่ทำแล้ว รู้สึกว่า ยิ่งทำ มันกินเวลามหาศาลบานเบอะ ก็ไม่ค่อยมีเวลาอยู่ด้วย ผลก็คือ งาน drawing ที่ลงๆ ไว้ กองทับเป็นภูเขาเลากา จนต้องคัดทิ้งไปปึกใหญ่ๆ

ขืนยังต้องเล่นงานทดลองแบบนี้ไปเรื่อยๆ งาน drawing คงเน่าไปก่อน ก็ตัดสินใจจะพักงาน drawing แล้วมาเคลียร์งาน painting ให้หมดเสียก่อน ปะเหมาะเคราะห์ดี อาจจะเคลียร์ย้อนหลังไปได้ถึงงาน fanart Lord of the Ring ไม่ดิ... อาจจะย้อนไปไกลได้ถึงสมัย J-rock (วุ้ย... ว่าเป็นยุคสมัย ทำให้รู้สึกว่าชีวิตเรานี่ก็ผ่านอะไรมาเยอะเหมือนกันนะนี่ !)

ใจหายเหมือนกันที่ต้องหยุดงาน drawing เพราะหนทางที่จะสามารถพัฒนาตนเองได้ คือการ drawing นั่นเอง ใครที่ชอบวาดรูปก็คงรู้ว่าถ้าไม่ได้วาดนานๆ มือมันแข็ง แล้วจะวาดไม่ค่อยได้ เสี่ยงเหมือนกันที่จะหยุดไว้ก่อน แต่เป็นเพราะเสียดายงาน drawing ที่ทิ้งไว้เยอะมาก ถ้าไม่เอามาทำ painting เสียทีมันก็เหมือนไม่มีคุณค่าอะไร ใครจะชอบงานดินสอขาว-ดำกันล่ะ ? ถ้าเส้นสวยก็ว่าไปอย่าง บางคนแค่ลายดินสอก็งามแล้ว แต่ไม่ใช่ตู (เอิ๊ก) เอาเหอะ

ประเด็นร้อน (ที่เย็นแล้ว มั้ง ?)
หมู่นี้ห้องการ์ตูนพันติ๊บมีหัวข้อซีเรียสอย่าง เอกลักษณ์ของชาติหรือจิตวิญญาณของความเป็นไทยเติมใส่การ์ตูน อ่านแล้วก็อ่อนใจแทนนักวาดการ์ตูนบ้านเราเหมือนกัน ยังล้มลุกคลุกคลาน นี่ก็จะมาเรียกร้องให้รำไทยกันซะแล้ว แหม๊.... ยืนยังไม่ได้เลย (โว้ย!)

ช่วงหนึ่งในชีวิต ฉันฝันจะเป็นนักวาดการ์ตูน พยายามส่งงานไปหลายๆ สำนักพิมพ์ ได้รางวัลมาก็พอหอมปากหอมคอ แล้ววันหนึ่ง ก็ค้นพบว่า ถ้ายิ่งจริงจังกับการวาดรูป ฉันยิ่งไม่มีความสุข เครียดเฟร้ย ! ประกอบกับที่บ้านไม่สนับสนุน กลัวลูกอดตาย ก็เลยเลิกไป หยุดไปหลายปีเพราะเรียนหนักเชียวล่ะ เพิ่งมาเริ่มนั่งวาดอีกทีก็ตอนเรียนจบแล้วว่างงานนี่แหละ (หัวเราะ) ตอนนั้นจริงจังมากเลย ถึงไปเรียนนอกเวลาที่โรงเรียนสารพัดช่างภาคพิเศษ จริงจังมากไปหน่อย ติสต์เกินไป เมาหัวราน้ำกันแทบทุกคอร์ส (ตกลงฉันไปทำอะไรกันนี่ ?!)

เพราะฉะนั้นงานของฉันจะนุ่งผ้าถุงหรือโจงกระเบนบ้างหรือเปล่านั้น ? ก็ไม่รู้เหมือนกัน ฉันวาดรูป เพราะอยากวาด ไม่ได้วาดเพราะอยากเชิดชูการ์ตูนแห่งชาติ ฐานะจริงๆ ตอนนี้คือ “นักอ่าน” และเป็นนักอ่านที่เข้มงวด งานไม่ดี ไม่ซื้อ ไม่ใช่ซื้อเพราะเป็นงานญี่ปุ่นหรือไทย แต่ซื้อเพราะ “ชอบ” ก็เท่านั้น ก็เสียใจด้วยที่ทุกครั้งที่ได้ยินว่า นิตยสารการ์ตูนไทยปิดตัวลง หัวแล้วหัวเล่า ทำไงได้ ก็เรื่องมันไม่สนุกนี่นะ จะให้ซื้อมาพับถุงกล้วยแขกหรือยังไง ? (อันตรายต่อผู้บริโภคนา)

เปลี่ยนเรื่องเป็น Narnia ดีกว่า

ว่าแล้วก็แปะรูป fanart Narnia ดีกว่า เรื่องนี้ไปดูที่เชียงใหม่ หลังจากถวิลหามาตั้งแต่ครั้งไป Malaysia ดูแล้วก็ไม่ผิดหวัง หนังดูสนุก ให้ความรู้สึกสบายๆ ไม่เครียดมาก ฉากสงครามทำได้ตื่นตาตื่นใจดี ไม่ใช่ที่จำนวนคน แต่ที่บรรดาสรรพสัตว์ที่ร่วมรบในกองทัพต่างหาก หากวันหนึ่ง วันที่ทุกเผ่าพันธุ์เป็นมิตรกัน ยืนเคียงข้างกัน คงเป็นภาพที่งดงามมาก


ตัวละครที่ประทับใจมาก คือ ปีเตอร์ พี่ชายคนโต ช่างเป็นเด็กหนุ่มรูปงามจริงๆ ปากแดง ผมทอง ใส่ชุดเกราะก็เท่ ทำให้นึกถึงยุคกษัตริย์แห่งยุคกลางจริงๆ ความจริงแล้วตัวละครอีกตัวที่ประทับใจมาก คือแม่มดขาว ที่แสดงโดยTilda Swinton แหละ เธอเหมือน Cate Blanchett นะ ว่ามั้ย ? ทั้งในแง่ความสง่างามและหน้าตา ยิ่งฉากแอคชั่นของเธอ สง่ามากๆ ถ้า Silmarillion ได้สร้างเป็นหนัง น่าจะ Cast เอา Tilda เล่นด้วยนะ เธอต้อง High Elf ที่สง่างามและทรงอำนาจมากแน่ๆ

เอ็ดมุนด์ ลงสีให้หน้าซีดๆ เอาไว้ก่อน


พี่สาวคนรอง ซูซาน ไม่ค่อยได้ image สักเท่าไหร่ เธอน่าจะออกแนวแม่ๆ หน่อย


น้องเล็กลูซี่ผู้น่ารัก


ว่าถึง Narnia แล้วไม่ว่าถึง King Kong ก็ไม่ครบรส บอกกงๆ ว่า ค่อนข้างผิดหวังกับงานนี้ของ Peter Jackson ไม่น้อย เอาน่า ... มันไม่ใช่ความผิดของ PJ เรื่องนี้บทมันอ่อนมาแต่แรกแล้ว PJ เข็นมาได้เท่านี้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว แต่ก็พอจะจับสไตล์ของแกได้ ก็เล่นจัดแสงเงาเหมือน LOTR เลยอ่ะ บางครั้ง เราก็นึกว่า แอน เป็น เอโอวีน แล้วอีตากัปตันเรือ เผลอๆ นึกว่า ฟาราเมียร์ ซะอย่างงั้น แล้วชอบฟรีซภาพ ทำไมอ่ะ ?! นึกว่านาซกูลจะโผล่ออกมาทุกทีเรยยย .....

หนังคงจะซาบซึ้งกว่านี้ถ้าไม่ดันไปนึกถึงกอริลล่าในเรื่อง คุโรมาตี้ แล้วนั่งขำอยู่ในโรงหนัง ยังคิดเลยนะนี่ว่าเจ้าคิงคองในหนังอ่ะ ส่งมันไปเรียนคุโรมาตี้ได้เลย เพราะท่าทางแสนรู้ซะ ฝึกอีกหน่อยก็ไปโรงเรียนได้แล้ว

โดยรวมแล้ว หนังไม่ค่อยประทับใจอะไรมาก ก็เลยไม่ค่อยอยากพูดถึง หนังลิง ก็ได้ดูลิงมันทั้งเรื่องแหละ

Final Fantasy VII
เลยเถิดไปถึงเรื่อง Final Fantasy VII
ในบรรดาเกมส์ PS นี่ คงมี FFVII นี่แหละ ที่เอามาขายใหม่ได้ เอ๊ย เอามาวิเคราะห์เจาะลึกกันได้ดีทุกสมัย นอกจากศึกระหว่างใครเป็นนางเอกภาคนี้กันแน่แล้ว กำเนิดเซฟิรอธนี่ ก็น่าสนใจไม่น้อย นอกจากกำเนิดจะคลุมเครือฟันธงไม่ถูกว่าเกิดมาได้ยังไงกันแน่ ระหว่าง

1 เป็นเซลล์จากเจโนว่าแต้ๆ ที่ฉีดเข้ามดลูกของลูเครเซีย (อุ้มบุญเจโนว่า)
2.เป็นลูกของลูเครเซียกับดร.โฮโจ แล้วโดนฉีดเซลล์เจโนว่าเข้าใส่ตอนยังเป็นตัวอ่อนในครรภ์
3.เป็นลูกของลูเครเซียกับวินเซนท์ วาเลนไทน์ Turk ที่ถูกส่งมาจับตาดูดร.โฮโจ แต่ดันไปหลงรักลูเครเซียผู้ร่วมวิจัยซะฉิบ

เนื่องจากคำพูดจาของตัวละครมันกำกวม คลุมเครือ ตีความได้หลายอย่าง ก็ไม่แปลกใจที่แม้แต่เซฟิรอธเองยังตีความเองไม่แตก สรุปเองเอาข้อหนึ่งไปแล้ว ส่วนแฟนๆ ส่วนใหญ่จะสรุปตามข้อ 2 และเขี่ยทิ้งข้อ 3 ไป ด้วยเหตุผลที่ว่า ลูเครเซียเธอไม่เคยชายตามองวินเซนต์ หนุ่มรูปงาม แสนดี อ่อนโยน รักเธออย่างหมดหัวใจ ถ้าลูเครเซียจะมีอะไรกับวินเซนต์จนป่องขึ้นมา ต้องโดนเจ้าวินเซนต์ข่มขืนแหงๆ (ไม่เห็นแปลก โกโบริแสนดียังฟิวส์ขาดปล้ำแม่อังมาแล้ว ? ) แต่เฮ้ย เกมส์เรท PG13 นะ

นู่ ... สุดที่ร้ากของลูเครเซีย หน้าตาโฉดซะ ส่วนตัวแล้วนึกว่าพ่อตา เอ้ย ป๊ะป๋าของเซฟี่จะต้องหน้าตาดีกว่านี้เสียอีก ไม่รู้ว่าถ้าอีตาดร.โฮโจไม่ดีดน้ำมันพรายใส่ลูเครเซีย อีตานี่จะมีกลเม็ดอะไรมัดใจสาวสวยแบบลูเครเซีย ?


มะม๊าลูเครเซีย สวยสมกับมีลูกชายรูปหล่อ จาก Trailer ของ Dirge of Cerberus ทำให้รู้ว่า แม่ลูเครเซียเธอก็ไม่ได้เมินวินเซนต์ซะหน่อย


วินเซนต์ พอดีหารูปตอนยังเป็นมนุษย์เงินเดือนจีบลูเครเซียไม่ได้ ยังมึนอยู่ว่า คุณลูเครเซียเธอนิยมของแปลกหรือยังไง ถึงได้ทิ้งพ่อหนุ่มคนนี้ได้ลงคอ


ลูกชายสุดหล่อลูเครเซีย ยังแอบๆ คิดว่า มีเค้าหน้ากระเดียดไปทางวินเซนต์มากกว่านะ วุ้ย! ถ้าเป็นพ่อลูกกันจริง สุดยอด plot เลยนะนี่




Create Date : 17 มกราคม 2549
Last Update : 18 มกราคม 2549 8:27:07 น. 5 comments
Counter : 1437 Pageviews.

 
ว่าจะเมนท์เอ็นทรี่นี้ตั้งนานแล้ว สุดท้ายก็ปล่อยเรื่อยมาจนท่านอัพอันใหม่จนได้ แฮะๆ ^^'' (ขออนุญาตมาเมนท์แบบแอบๆ ละกัน)

ที่อยากจะพูดก็คือ....จากคำพูดของท่านย่อหน้าหนึ่ง ทำให้เราที่เป็นคนวาดรูปเหมือนกันสะอึกขึ้นมา ก็คือเรื่อง ความรับผิดชอบต่องานที่วาดไปแล้ว นี่ล่ะค่ะ

เราสารภาพเลยนะว่า เราแทบไม่มีความคิดรับผิดชอบต่องานตัวเองเลยล่ะค่ะ ^^'' ง่า...เพื่อนเราอีกหลายคนก็เป็นนะ...แบบว่า "เออ ภาพที่ลงสีไม่เสร็จ ก็ต้องปล่อยมันทิ้งไปล่ะ เพราะมาสานต่อทีหลังมันก็ไม่มีอารมณ์จะทำแล้ว"
ทำให้เรามีงาน"ดอง"(หรือที่เพื่อนคนหนึ่งเรียกว่า "งาน hopeless") เหลือมากมายก่ายกองเลยล่ะค่ะ

คงเพราะคนรอบตัวเราจะเป็นแบบนี้ส่วนใหญ่ ทำให้เรามองว่า การ"ดอง"หรือ"มีภาพที่ร่างไว้แต่ไม่ได้ลงสี" มันเป็นเรื่องปกติธรรมดามากๆ

ทีนี้พอได้มาอ่านคำพูดของท่านก็ทำให้เราหวนคิดขึ้นมาว่า...เจ้าพวกภาพแหว่งๆขาดๆวิ่นๆที่เราวาดไม่เสร็จบ้างละ ลงสีแต่หัวไว้บ้างล่ะ มันดูน่าสงสารเหมือนกันนะ....

จากจุดนี้ ก็ทำให้เราอยากขุดงานมาสานต่อเสียแล้วล่ะค่ะ...แต่ขณะเดียวกัน เราก็อยากบอกท่านว่าอย่าเพิ่งหยุดการวาดไปเสียทีเดียวเลยนะคะ อย่างน้อยๆระหว่างที่ฝึกลงสีก็วาดๆไปบ้าง ก็ดีนะคะ เรากลัวเรื่องมือแข็งที่สุดนี่ล่ะค่ะ ^^; เอ้อ ว่าแต่ท่านจะลงสีทุกภาพที่ท่านเคยวาดเลยรึเปล่าคะนี่? ถ้าเป็นอย่างนั้นนี่ก็น่ากลัวนะ....ลดๆปริมาณ เลือกๆ ภาพหน่อยท่าจะดีนะคะ

แล้ว....ภาพวาดแม้จะเป็นดินสอร่างๆ ดำๆ แบบที่ท่านว่าไม่สวยน่ะ แต่สำหรับเราที่เป็นคนดูนะคะ ก็ถือว่าเป็นผลงานของท่านล่ะค่ะ มันก็ถือว่าเป็นสไตล์ของภาพท่านอีกแบบหนึ่ง (ไม่งั้นเราจะเห็นหรือว่า นักวาดของญี่ปุ่นตามเว็บที่เราไปสูบๆกันมา จะแบ่งโซนผลงานเขาไว้ว่า CG,handmade,rough or Junkie หรือ?) ซึ่งเส้นๆแบบที่ท่านวาด เราก็เห็นว่ามันสวยในสไตล์งาน rough ๆ นะคะ (เส้นสวยกว่าเราอีก!)

แต่สุดท้ายแล้วเราก็พูดอะไรมากไม่ได้อยู่ดี เพราะการนำเสนอ"ผลงาน"ก็ต้องเป็นเรื่องที่เจ้าของผลงานตัดสินใจนี่นะ ^^''

ก็ขอแสดงความเห็นแค่นี้ล่ะค่ะ ส่วนอีกจุดหนึ่งที่ต้องขอบคุณคือท่านก็ทำให้เราหันกลับไปมองไหดองที่กองอยู่มุมห้องขึ้นมาล่ะค่ะ ก็หวังว่าทั้งท่านและเราจะมีเวลามานั่ง"สานต่อ" งานบางอย่างเสียทีนะคะ ^^/

(สรุปว่า นี่กลายมาเป็นจับมือกันไปขุดกรุรึนี่?)

แล้วก็ขอพูดอีกหน่อยว่า....

รักเอ็ดมุนด์ของท่านจังเลยค่ะ หล่อ+เสะ ได้ใจหลายๆ กี๊ซๆๆ

อ้อ ถ้าไม่รังเกียจจะขอส่งไปให้เพื่อนดูจะได้รึเปล่าคะ? เขาอยากได้ fan art นาร์เนียงามๆมานานแล้วล่ะค่ะ อิอิ (แต่เราก็ไม่มีปัญญาวาดให้เสียที แฮะๆ) XD

ปล.ปีเตอร์นี่เป็นตัวละครที่เราชอบที่สุดตอนที่อ่านหนังสือเลยนะคะนี่ ท่านก็วาดออกมาได้อิมเมจแบบที่ดูในหนังหลายๆ กรี๊ดดด ชอบค่า แต่ขอนะ ขอ....เอ็ดมุนด์/ปีเตอร์ น้า XD~~!! (อุ่ย incestism แล้วตู)


โดย: เอส IP: 203.151.141.194 วันที่: 24 มกราคม 2549 เวลา:21:26:16 น.  

 
รูปนาร์เนีย ได้เลยค่ะ ....

รูปที่ว่าจะลงสี คัดแล้วค่ะ ที่คัดออก มากพอชั่งกิโลขายได้หลายตังส์ (กะดูคร่าวๆ 1 - 2 กิโล <--- ไม่ได้นับเป็นแผ่นเหรอ ?) ถ้าออกมามันไม่สวย ก็คือ... มันหาสวยกว่านี้ไม่ได้แล้วค่ะ

เบื้องหลังภาพวาด 1 ภาพ คือ ศพของภาพร่างที่ถูกทิ้งนับ 10 เพราะฉะนั้น ถ้าไม่ได้ลงสีมันเสียดายยยยยย อ่ะค่ะ เพื่อต้นไม้ทีพลีชีพให้กับภาพร่าง ต้องทำอะไรกับมันซะหน่อยค่ะ เอิ๊ก

อาทิตย์นี้งานหนักมากด้วย ... ไม่รู้รูปเมลโลกับแมตต์จะเสร็จหรือเปล่า ... ลงสีมาได้ 1 อาทิตย์แล้ว


โดย: Pride (Pride ) วันที่: 27 มกราคม 2549 เวลา:15:01:09 น.  

 
ไม่ได้โผล่มาคอมเมนท์ตั้งนานแน่ะค่ะ

ตอนอ่านนาร์เนียนี่แสนจะหมั่นไส้เอ็ดมุนด์ค่ะ แต่พอมาดูหนังก็...โอเค ดูสำนึกผิดดี พอมาเจอเอ็ดมุนด์ที่คุณ Pride วาด โอ๊ววว ทำไมหล่อเยี่ยงนี้ ผมสีเข้ม หน้าหล่อคม อนาคตไกลเชียว ทำเอาใจเต้นกระเจิง ปีเตอร์ได้อิมเมจเด็กหนุ่มผู้ดี๊ผู้ดีเชียว เราชอบอิมเมจแบบเด็กสาวที่แสดงเป็นซูซานในเรื่องนะคะ (เป็นคนชอบผมสีเข้มอย่างน้ำตาลหรือดำมากกว่าผมทองล่ะ ) ซึ่งเราว่าคุณ Pride ก็วาดออกมาได้อารมณ์ซูซานอยู่นะ ^^ น้องหนูลูซี่น่าร้ากกก

เรื่องเซฟิรอธ...นั่นสิคะ เหมือนไม่ได้เลือดโฮโจมาเลยนะนั่น ได้เลือดแม่มาเต็มๆ เห็นด้วยค่ะว่าหน้าเซฟิรอธกระเดียดไปทางวินเซนต์มากกว่าอีก หรือว่าลูเครเซียเธอเคยแอบไปกุ๊กกิ๊กกับวินเซนต์มาก่อน เลยออกมาเป็นเลือดผสมวินเซนต์+โฮโจ (ต๊าย ไม่ใช่หมาหรือแมวนะ)


โดย: Kurai IP: 58.136.69.137 วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:18:25:16 น.  

 
อุอุ ม่ายมรคำบรรยาย


โดย: เด็กดอย IP: 58.11.70.74 วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:14:40:49 น.  

 
ชอบนาร์เนียที่สุดดดดดดดดดดดดดดดเลย


โดย: ลูซี่ IP: 203.188.20.169 วันที่: 1 เมษายน 2549 เวลา:16:52:15 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Pride
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ฮู้.... กว่าจะใช้ blog เป็น (คิดว่านะ) ต่อไปนี้ จะพยายาม update เรื่อยๆก็แล้วกัน ส่วนเนื้อหา .... คาดว่าจะจับฉ่าย ส่วนของ Let's talk ก็เรื่องสัพเพเหระ , secret window ก็จะเป็นเอ่อ.... อะไรที่มัน Y หรือ Homo นะ เพราะชอบอ่านการ์ตูน Y นิ เพราะฉะนั้น ไม่ชอบอย่า click เข้าไป ส่วน comic talk ก็เป็นการ์ตูนที่กำลังอิน หรือกำลังอ่านอยู่ค่ะ
Friends' blogs
[Add Pride's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.