Group Blog
 
All blogs
 

Final Fantasy : Advent Children == สงครามเทพจุติ (ฉบับ belated review + Fanart)

ในที่สุด ก็คลอดออกมาแล้วในรูปแบบฉบับลิขสิทธิ์ หลังจากแฟนๆ Final Fantasy ได้ยลโฉมแผ่นเถื่อนพร้อม subtitle นรก สวรรค์กันเกือบครบถ้วนทั้งประเทศไทยแล้ว

โดยแปซิฟิกเจ้าของลิขสิทธิ์ทำเก๋ไก๋ นอกจากตั้งชื่อไทยให้อึ้งเล็กๆ แล้ว แต่ดันไม่มีพากษ์ไทย ?! แล้วงี้หลานๆ พ่อแม่ พี่น้อง อาม่าอากง ผู้ไม่สันทัดภาษาปะกิตของฉันจะดูยังไงเล่า ?! เหมือนเขาจะบอกเป็นนัยๆ ว่า “คุณอยากดูพากษ์ไทย ไปซื้อแผ่นเถื่อนสิ(เฟร้ย)” ??!! ก็กว่าแผ่นลิขสิทธิ์จะออก แผ่นเถื่อนก็วางขายมาเกือบครึ่งปี ลงทุนพากษ์ไทยด้วยนา แบบนี้แปซิฟิกเค้าก็คงกะว่า เจาะกลุ่มลูกค้าระดับบนโดยเฉพาะ ตลาดล่างก็ปล่อยไป คนมีปัญญาเล่น FFVII ได้ ก็คงรู้ภาษาอังกฤษกันทั้งน้าน

จะว่าไปแล้ว ถ้าไม่เคยรู้เรื่อง Final Fantasy VII มาก่อน ดูก็คงงงเป็นไก่ตาแตกเหมือนกัน ?! แต่ใครจะสนล่ะ ?! ขอให้มีระเบิดภูเขา เผากระท่อม อภินิหารเหาะเหินเดินอากาศ ปล่อยแสงเฟี้ยวฟ้าว ตัวละครงามๆ เดี๋ยวก็ขวนขวายรู้เรื่องเอง

กว่าจะได้เจ้า FFVII : AC ฉบับ 2 disc มาไว้ในมือ ก็เรียกว่า เหนื่อยน่าดูเหมือนกัน เพราะเกิดปรากฏการณ์ ของขาดตลาด แหม๊.... ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะหนังที่ไม่ได้ลงโรง แถมไม่มีโฆษณาตามสื่อใหญ่ๆ กลับได้รับความสนใจล้นหลามขนาดนี้ แต่ก็ไม่รู้เพราะคำขู่ว่า ฉบับ 2 disc ทำมาแค่ 500 ชุดเท่านั้นจ้า หรือเปล่าก็ไม่รู้ คนส่วนใหญ่ก็ดูฉบับปกติกันเกือบหมดแล้ว ถ้าจะซื้อเพื่อเป็น Collection ก็ต้องซื้อฉบับ 2 disc สิฟ่ะ ?!

ก็รวมทั้งฉันด้วยแหละ ปฏิบัติการล่า FFVII : AC 2 disc ก็เกิดขึ้น... ความจริงฉันมีร้านประจำอยู่ที่คลองถม เพราะลดถึงใจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิก ไป 2 อาทิตย์ ของหมดทั้ง 2 อาทิตย์ การไปคลองถมเป็นอะไรที่เหน็ดเหนื่อยเป็นอย่างยิ่ง เพราะเหมือนคุณร่วมงานจารจลอย่างไงอย่างงั้น หลังจากแห้วไปในอาทิตย์ที่ 1 เมื่อไปในอาทิตย์ที่ 2 ได้รับคำตอบจากอาเจ๊ว่า “ของหมดตั้งแต่มาลงแล้ว ลงได้ 1 ชั่วโมงก็หมดแล้ว ?!”
ฉัน : “แล้วจะมาอีกเมื่อไหร่ ?”
อาเจ๊ : “ไม่รู้นา แต่สั่งไปแล้วล่ะ เห็นบริษัทมันบอกว่าของหมดสต๊อกไปแล้ว ไม่รู้จะทำอีกชุดเมื่อไหร่ แต่สั่งไปแล้ว” (อาเจ๊ยังให้ความหวัง ท่าทางจะไม่รู้เรื่อง limited edition ?)
ฉัน : (รำพึงในใจ ..... แล้วเมื่อไหร่ล่ะฟ่ะ ? จะให้มาอีกเพื่อซื้อแค่ FFVII : AC นี่ ไม่คุ้มค่าชีวิตเลยวุ้ย!) “ขอบคุณค่ะเจ๊”
เพื่อรักษามิตรภาพระหว่างฉันกับอาเจ๊ ก็เลยซื้อ Lord of the Rings : Extended Version Box Set ที่เคยอยากได้เมื่อปีที่แล้วมาแก้กลุ้มหนึ่งชุด เอ.... เมื่อปีที่แล้ว ตอนเจ๊บอกว่าหมด เจ๊ว่าเค้าไม่ทำขายอีกแล้วไม่ใช่เรอะ ?!

เมื่อกินแห้วที่คลองถมแล้ว ก็เลยต้องบากหน้าไปซื้อที่ MBK ได้มาในราคา 498 บาทซะอย่างงั้น ก่อนหน้านั้นได้รับข่าวลือกระหน่ำว่า มันไม่สามารถดูกับคอมพ์ด้วย Power DVD ได้ พอมาเปิดดูแล้ว มันก็ดูได้นะ แต่ๆๆๆๆๆ ..... ในกรณีที่ Code region ที่เราใช้ ยังพอเหลือสต๊อกให้ดูอยู่ใน Code ของ Power DVD

ตั้งแต่ที่ได้มา ก็เลยดูไปแค่รอบเดียว เพราะต้องถนอมโค้ดไว้ดู DVD เจ้าปัญหาเรื่องอื่น อะไรมันจะขี้เหนียวขนาดนี้ฟร้า!!

ที่ติดใจที่สุดในฉบับพากษ์อังกฤษคือ เสียงของ Sephiroth น่ะสิ โอ้ว...... เสียงช่างทุ้ม นุ่มลึก มีอำนาจ ลึกลับ มีเสน่ห์ หยอกเย้า (เมะซะไม่มี ) แต่..... ทำให้นึกถึงเสียง Darth Vader แห่ง Star Wars ด้วยล่ะ โทนเดียวกันเลย เป็นเสียงในแบบมีอำนาจ และลึกลับสุดๆ (James Earl คนพากษ์ดังไปเลย) ส่วนเสียงด้วยละครหญิง ไม่ค่อยได้ดูพวกการ์ตูนญี่ปุ่นพากษ์อังกฤษนะ แต่รู้สึกว่าทางฝรั่งเขาก็ใส่ใจเหมือนกัน เพราะช่างปรับระดับคีย์เสียงปกติของผู้หญิงฝรั่งที่ออกแนวมั่น โผงผาง มาออกแนวน่ารัก สดใส หรือแม่พระ พี่สาวแบบญี่ปุ่นได้หมด เพราะฉะนั้น ฉันก็เลยรู้สึกแปลกๆ กับเสียงฝรั่งแต่พูดสไตล์หวานๆ แบบญี่ปุ่นชอบกล


อยากวาดการ์ตูนแก๊กกะเขามั่ง ตอนร่างก็สนุกดี แต่วาดไปวาดมา ทำไมขี้เกียจขนาดนี้ฟ่ะ ? คิดจะมาตัดเส้นใน photoshop แต่สุดท้ายแล้ว tablet มันก็เข็ญไม่ไหวซะอย่างงั้น เลยเน่าสนิท ไม่ต้องคิดทำ doujinshi เลย

ส่วนเนื้อหาในเรื่อง เคย review ไปแล้วตั้งแต่ตอน AC ออกมาใหม่ๆ ก็ขอข้ามไปก็แล้วกัน แต่เพิ่งมามองเห็นใหม่ ก็.... ความสัมพันธ์ของ Vincent Valentine กับ Sephiroth และ Cloud น่ะสิ เมื่อก่อนก็คงไม่สนใจ แต่ เดี๋ยวนี้ Vincent เค้า up level ไปเป็นพระเอกแล้วนา ในเมื่อมีบทเยอะขึ้นมันก็ต้องมีมิติของตัวละครตามมามากขึ้น เมื่อก่อนเคยไปนั่งดูฝรั่งคุยกันเรื่องกำเนิดของ Sephiroth เพราะมีหลายคนเชื่อว่า Vincent น่าจะเป็นพ่อของเซฟี่ เพราะท่าทางวินเซนต์จะหลงใหลคลั่งไคล้ลูเครเซียผู้ให้กำเนิดเซฟี่เหลือเกิน ถกกันละเอียดมาก แต่มีความเห็นหนึ่งว่า ถ้า Vincent จะเป็นพ่อของเซฟี่ละก็ คงต้องไปข่มขืนลูเครเซียเท่านั้นแหละ เพราะดูท่าทางเธอไม่เล่นด้วยกะหนุ่มหล่อ Vincent เลย ?! แต่ในภาค Dirge of Cerberus เราจะเห็นได้ว่า ลูเครเซียเธอออกจะมี “ความเป็นพิเศษ” ให้กับ Turk หนุ่มคนนี้ไม่มากก็น้อย

พ่อไม่รู้ ไม่เป็นไร แต่แม่น่ะ ยังก็ต้องลูเครเซีย ในภาค Drege of Cebirus เราก็เห็นแล้วว่า เซฟี่โขกแม่ออกมาอย่างงั้น (ถ้าเหมือนพ่อ คงไม่มีแม่ยกเยอะมาเป็น 10 ปีอย่างงี้หรอก) ก็สงสัยว่า วินเซนต์เวลามองหน้าเซฟี่แล้วจะระลึกถึงหญิงอันเป็นที่รักบ้างหรือเปล่า ? แล้ว ..... ทำไม๊....ถึงได้กล้าลงไม้ลงมือกับเซฟี่ถึงขั้นปางตายขนาดนั้น ?!

หรือ.... เพราะสุดท้ายแล้ว วินเซนต์ก็ได้ครอบครองเจ้าสาวศพสวยลูเครเซียไปแล้ว เมื่อเธอไม่มีลมหายใจ เธอก็จะไม่ไปเป็นของคนอื่นอีกต่อไป ถึงใครจะโขกเธอมามันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะทำให้วินเซนต์หวั่นไหว ?

ส่วนคลาวด์ ..... อืมม์ ฉันว่า ถึงจะมีนิสัยน่ารำคาญ เค้าต้องมีเสน่ห์บางอย่างในตัวแหละ ถึงได้ดึงดูดผู้คนเข้ามาห้อมล้อมมากมายได้ขนาดนั้น ทั้งๆที่เจ้าตัวออกจะชอบทำตัว lonely ออกขนาดนั้น บางที อาจจะเป็นดวงตาสีฟ้าใสแป๋ววออกแววเหงาๆ ถึงได้ดึงดูดวินเซนต์ให้เข้ามาหาได้กระมัง ? แล้วบักค้าวก็เข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตของวินเซนต์...

ย่อรูปใหญ่ไปหรือนี่ ??! อยากทำข้างหลังวิ๊งวั๊งเหมือนตอนที่จีบกันใต้ต้นลำพู เอ๊ย Fogotten City แบบในหนัง แต่ขี้เกียจเกินไป

ก็คลาวด์เป็น Universal Recipient นี่นะ รูปนี้วาดไปแล้วคิดได้ว่า เหมือนรูปถ่ายบื้อๆ ชอบกล คิดดูอีกทีเหมือนคนที่ชอบกันแบบไม่รู้ตัว เวลาคนบอกว่า "ถ่ายรูปหน่อย" ก็จะรีบกระเถิบมาชิดกันแบบอัตโนมัติ แล้วทำหน้าซื่อๆ ใส่กล้อง

รูปเน่ากว่าที่คิดแฮะ เพราะเส้นสกปรกมาก ทำไม๊ ปรับเส้นเป็นสีน้ำตาลแล้ว ขึ้น Painter มันกลับเป็นสีดำเฉยเลย ?!!เซ็งกุ่ย

ตอนนี้กำลังสนุกกับการลงสีด้วย Painter : Conte ทำให้ลงสีได้ไวและใช้ layer น้อยดีด้วย เมื่อก่อนผมแบบ Sephiroth หรือ Vincent นี่จะชอบมาก เพราะได้เล่นพู่กันให้ผมออกมาพริ้วๆ แต่พอใช้ tablet นี่ มันไม่ไหวจริงๆ ไม่รู้ tablet ห่วยหรือเราห่วยเองกันแน่ การใช้ CG ลงสีนี่ ถ้าไม่เก่งโปรแกรม มันก็ไม่ต่างอะไรกับการทาถูๆๆๆ และก็ลบๆๆๆ อยู่เหมือนเดิมนั่นเอง ใครมีคำแนะนำดีๆ บอกมาได้นา

ยังไม่ได้ดู FFVII : AC แผ่น 2 เลย....




 

Create Date : 22 พฤษภาคม 2549    
Last Update : 22 พฤษภาคม 2549 17:32:37 น.
Counter : 1699 Pageviews.  

ฝนตก รถติด ชีวิตเซ็ง แล้วก็เป็นหวัดงอมแงม (Fanart Yaoi Warning)

อยาก upblog แต่ขี้เกียจ กินยาแก้หวัดแล้วง่วง เลยนอนยาวเกือบทุกวันที่ว่าง .... อาทิตย์นี้ช่างโล่งใจเสียนี่กระไร ?!

ไม่มี Death Note ให้ต้องมานั่งตุ้มๆ ต่อมๆ ลุ้นระทึกทุกอาทิตย์

ชีวิตเหมือนจะขาดอะไรไปอย่าง

เลยมานั่งบ่นเปื่อยแปะไร้สาระสัก blog

บอกตรงๆ ..... ตอนนี้ก็ประกาศรับสมัครการ์ตูนเรื่องใหม่มาอ่านให้ชีวิตกระชุ่มกระชวยสักเรื่อง ?

อะไรกันล่ะ Full Metal alchemist ไม่พอเหรอ ?

เออสิ... ไม่พอยาไส้ เดือนหนึ่งออกตอนหนึ่ง และตอนหนึ่งก็มีแค่ 30 – 40 หน้า อ้าปากยิ้มยังไม่ทันหายดีใจ จบตอนซะแระ

แต่อย่างไรก็ตาม ก็ขอกรี๊ดตอนที่ 59 หน่อยเหอะ

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด............

Spoil FMA chapter 59 (จะอ่านกรุณา high light)

และแล้วเราก็เห็นฮิวส์ อีกครั้ง จริงๆ น้า..... แม้ฉันจะไม่ใช่แฟนฮิวส์แต่ว่า ทุกครั้งที่ ฮิวส์โผล่มา รู้สึกทำให้เรื่องสนุกสนานร่าเริงขึ้นมาทันที แม้ว่า background จะมีแต่ทหารโทรมๆ ซากเมือง ควันไฟ และศพมนุษย์เกลื่นกลาดก็ตาม เห็นไหม พลังของฮิวส์เปลี่ยนบรรยากาศของเรื่องได้มากขนาดไหน ? (^_^) ยิ่งตอน 59 นี้นะ แม่ยก ฮิวส์/รอย คงได้กรี๊ดกันระงม ก็ความใส่ใจของฮิวส์ที่มีต่อรอยน่ะสิ แหม๊... ช่างสังเกตุซะด้วยว่า “แววตาของนายเปลี่ยนไปนะรอย” พร้อมสายตาตกใจระคนห่วงใย ไม่รักกันจริงคงไม่สังเกตเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างนี้หรอกเนอะ ? อ่า.... แล้วเค้าจะเล่าประวัติแต่หนหลังของความสัมพันธ์ ฮิวส์/รอย อีกไหมนะ ? อยากรู้จัง อะไรคือแรงบันดาลใจให้ ฮิวส์ พร้อมจะปกป้อง ผลักดัน อยู่ข้างหลังรอย (เฮ่ย!) ให้รอยไปถึงฝั่งฝันให้ได้

ส่วนเจ้า รอย อ่า.... มองแล้วไม่ผิด หมอนี่ แอบเลือดเย็นนะนี่ .... และคิดดูอีกที เค้าเป็นคนที่เข้มแข็งและมั่นคงสมกับที่ ฮิวส์ ยอมอุทิศชีวิตให้ แม้บางคราวจะแอบอ่อนไหวไป(เยอะ)บ้าง อย่าเอารอยในมังงะไปปนกับอนิเมก็แล้วกัน ความอ่อนไหวของรอยใน version anime ทำให้ฉันไม่ค่อยเชื่อเลยว่าหมอนี่จะว่ายไปถึงฝั่งฝันสูงสุดของชีวิตได้


พักหลังๆ มานี้ รู้สึกว่า Doujin FMA หลายเรื่องชักจะเอามังงะมาปนกับอนิเมแล้วสิ แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม characters ของเจ้าเอ็ดยังคงยึดมั่นเคะผู้ทุกข์ระทม อ่อนไหว โศกเศร้า แบกโลก เจ้าอารมณ์ไม่เปลี่ยนแปลง อ้อ!.... ไม่ขอกล่าวถึง Doujin style parody นา

แต่ยังไงก็ตาม แม้โลกจะเต็มไปด้วยถั่วกระป๋อง เราก็ยังเชียร์ร้อยเอ็ด เอ๊ย รอย/เอ็ด ไม่เปลี่ยนแปลง รูปเก่า เอามาลงสี เหอๆๆๆๆ เด็กหนุ่มผู้อ่อนไหว ย่อมเหมาะกับชายหนุ่มผู้มั่นคง


ความจริงแล้ว เหตุที่เป็นหวัดงอมแงมไม่รู้หายเนี่ย มันก็มีสาเหตุมาจากอาทิตย์ก่อน กลับบ้านนอก กลับไปเยี่ยมบ้าน เปลี่ยนบรรยากาศ ? แต่เนื่องจากหนังสือที่เชียงใหม่เช่าง่าย เช่าคล่อง เช่าสะดวก ราคาไม่โหดร้าย ก็ทนความยั่วยวนไม่ไหว ก็คว้าเอา “หุ่นเชิดสังหาร” มาอ่าน อ่านรวด 20 กว่าเล่ม ทันปัจจุบันเล่มที่ 37 พอดี

โอ....สนุกมาก มันคือการ์ตูนรักโรแมนติกสาดไปด้วยเลือด น้ำตา เหงื่อ และกล้าม ชอบพล็อตเรื่อง รักสามเส้าที่ก่อให้เกิดความหายนะต่อมนุษยชาติ

ไม่เว่อร์หรอก .... จุดเริ่มต้นของความหายนะทั้งปวง มาจากชายที่แห้วมาตลอด 200 ปี เอ้ย... หญิง 1 ชาย 2 มันยิ่งแค้นจุกอก เมื่อชาย 2 นั้นดันเป็นพี่น้องกัน และสาวคนกลางดันชิงตัดช่องน้อยแต่พอตัวหนีไปโลกหน้าโดยไม่เฉลย The Winner ก่อนนี่สิ !?

Spoil ถึงเล่ม 37 (จะอ่านต้อง Highlight เอานะ)

อ่านมาเรื่อยๆ พอถึงตอนไป่จิน/เฟสเลซเปิดใจ พอมันเปิดใจแล้ว ฉันเลยงงๆ ว่า ตกลงมันไม่ได้ยึดติดกับฟรองซีนอะไรมากมายนัก แต่ที่มันผิดใจ เพราะพี่ชายมันติดหญิงหรือเปล่าฟ่ะ ?! อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นชายแห้วมาตลอด 200 ปีนี่เองแหละ

ฮือ.... อ่านเรื่องนี้ด้วยความหวังเรืองรอง แต่ดั๊นมารู้ spoil ตอนล่าสุดซะแล้ว อ่ะ กรี..... ทำไม๊กรีต้องมาด่วนจากไปซะแร้ว ทำไม๊ ชั้นชอบใครคนนั้นต้องตายหมด เซ็งจริงๆ


แน่นอนว่า คาแรคเตอร์ที่ชอบมากที่สุด ต้องเป็นยอดชายนายกรี คริสตอฟเรสอยู่แล้ว ชายหนุ่มมาดคุณชายรูปงาม ปากร้าย เย็นชาแต่ใจดี

เจ้าปากคอเราะร้ายของกรีเวลาต่อปากต่อคำกับนารูมินี่แหละ เวลาอ่านแล้วสนุกชะมัด

นารูมิ คาโต้ พ่อพระเอกร่างถึกพลัง K ซกมก รักเด็ก นี่แหละ ช่างเป็นผู้ชายที่อบอุ่นและเจ้าเสน่ห์เหลือเกิน เสน่ห์ของนารูมิอยู่ที่ความใจดีเกินหน้าตา(และรูปร่าง) ชอบแส่เรื่องของชาวบ้านนี่แหละ

แหม๊.... แอบหวังเล็กๆ ว่าฉากการพบกันระหว่างนารูมิ กับ เอเลโอนอลหลังจากพลัดพรากจากกันมา 20 กว่าเล่ม จะซาบซึ้งประทับใจ บ่อน้ำตาแตกพลั่กๆ แต่ดันเงียบๆ จืดๆ ซะอย่างงั้น เฮ้อ

พระเอกย่อมคู่กับนางเอก ของตายอยู่แล้ว แต่อย่างนั้น เราก็แอบประทับใจกับความห่วงใยของนารูมิที่มีให้กับกรี คนปากร้ายแต่ใจดี ผู้ชายตัวโตๆ ถึกๆ หยาบๆ ป่าเถื่อน แต่กลับเป็นห่วงกรีคนเย็นชาอย่างนั้น วี๊ดดดดดดดดด...... มันน่ารักจัง!

วาดสักรูป

อิ๊ซ.... ใส่สไตล์ตัวเองเข้าไปมากเกิน นารูมิไม่ได้ดูผ่องแผ้วขนาดนี้สักหน่อย และกรีไม่ได้ดูหน่อมแน้มแบบคุณชายอ่อนโลกด้วย

ตอนที่กรีตัดสินใจจะสู้กับนารูมิเพื่อปกป้องเอเลโอนอล แอบคิดว่า นี่จะเป็นฉากดราม่าปนแอ๊คชั่นที่น่าจะกินใจมาก แต่....... เฮ้อ..... ไม่ซะอย่างงั้น

คาดว่าอีกไม่นาน "หุ่นเชิดสังหาร" คงจะจบแล้ว น็อครอบกับ "หอกสมิง" เลย (ชักจะจำไม่ได้ว่าเรื่องหลังนี่ชื่ออะไรกันแน่ ?!)

สรุปแล้ว...... ยังหาการ์ตูนอ่านต่อจากเดธโน้ตไม่ได้อีกล่ะสิเนี่ย

คราวหน้าเอา Berserk มาอ่านดีกว่า




 

Create Date : 19 พฤษภาคม 2549    
Last Update : 19 พฤษภาคม 2549 8:36:27 น.
Counter : 861 Pageviews.  

Death Note page. 108.....[The End].......

Spoil



มาช้ายังดีกว่าไม่มา ?




Death Note page. 108 ...[The End]






1 ปีผ่านไป หลังจากคดีคิระจบลง


รูปนี้ให้ความรู้สึกหว้าเหว่ชอบกล ที่แท้มนุษยชาติเป็นแค่ของเล่นของสิ่งมีชีวิตที่เหนือกว่าอย่าง "ยมฑูต" ?

โลกกลับสู่สภาวะเดิม ก่อนที่จะมีคิระปรากฏขึ้น รวมทั้งอัตราอาชญากรรม




ประชาชนบางส่วนยังคงมีความเชื่อว่า คิระเพียงแค่หยุดพักการพิพากษาไปชั่วครู่

เนียร์ปัจจุบันรับตำแหน่ง "L" อย่างเต็มตัว และมีโรเจอร์รับตำแหน่ง "วาตาริ" ติดต่อไปยังกรมตำรวจญี่ปุ่นที่ปัจจุบันไอซาว่ารับตำแหน่งหัวหน้าแทนโชอิจิโร่ ยางามิ ติดต่อกันเรื่องคดีค้ายา ที่เนียร์ เอ๊ย ต้องเรียกว่า L แล้วสินะ ติดตามมากว่า ครึ่งปี โดยจะมีการติดต่อซื้อขายกันที่โกดัง Yellow Box ที่ปิดคดีคิระเมื่อ 1 ปีก่อน L ต้องการยืมกำลังตำรวจญี่ปุ่นเข้าจับกุม


น่ารักและน่าเศร้าในคราวเดียวกัน

มัตสุดะและ อิดะเดินคุยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อ 1 ปีก่อน ท่ามกลางความวุ่นวายของตัวเมือง มัตสุดะเล่าให้อิดะฟังถึงความคิดของตัวเองเกี่ยวกับการไขคดีคิระของเนียร์ มัตสุดะมีความคิดว่า เนียร์จะต้องใช้เดธโน้ตเขียนบงการพฤติกรรมของมิคามิ เทรุ ว่าไม่ให้ทำการทดสอบเดธโน้ตเล่มที่ตนเองถืออยู่ก่อนนำไปใช้ในวันที่ 28 มกราคม เพราะในที่สุด มิคามิ ตาย 10 วันหลังจากนั้นในคุก เพราะหลังจากปิดคดีคิระลง เนียร์ก็จัดการเผาเดธโน้ตทั้ง 2 เล่มทันทีหลังจากถาม Ryuk ให้แน่ใจว่า เกี่ยวกับกฎปลอมกฎ 13 วัน และกฎที่ว่าใครแตะต้องเดธโน้ตจะต้องตายโดยที่ไม่มีใครได้เห็นว่าข้างในเดธโน้ตนั้นเขียนอะไรเอาไว้นอกจากเนียร์


มัตสุดะว่าเนียร์พฤติกรรมไม่โปร่งใสแฮะ ?

มัตสุดะไม่เพียงแต่สันนิษฐานกรณีของมิคามิ แต่ยังรวมไปถึงเมลโลด้วย ว่าเนียร์อาจจะวางแผนให้เมลโลเคลื่อนไหวเพื่อพิสูจน์เรื่องโน้ตปลอมที่เนียร์อาจจะสงสัยก่อนหน้านั้น เนียร์รู้ว่าฮาลกับเมลโลยังติดต่อกันอยู่ เนียร์ปล่อยให้ฮาลให้ข้อมูลกับเมลโล เพื่อให้เมลโลเคลื่อนไหวพิสูจน์เรื่องโน้ตปลอมให้ ไม่ว่าเมลโลจะเคลื่อนไหวอย่างไร เนียร์ต้องได้เบาะแสเรื่องเดธโน้ตบ้างในที่สุด แม้อิดะจะแย้งว่าคนที่กำหนดวันนัดพบคือเนียร์เป็นวันที่ 28 มกราคม เอง ซึ่งเมลโลอาจจะไม่เคลื่อนไหว หรือเคลื่อนไหวแล้วแต่เบาะแสอาจจะมาช้ากว่านั้นล่ะ ? แต่มัตสึดะยังไม่หยุดใส่ไฟเนียร์อย่างไม่ลดละอยู่ดีว่า เนียร์ก็แค่ขอเลื่อนวันนัดซะ ก็สิ้นเรื่อง


ลึกๆแล้วที่พยายามคิดโน่นคิดนี่ใส่ไฟเนียร์ ที่แท้ก็....

ในที่สุด อิดะก็ตัดบทว่าที่มัตสึดะพยายามใส่ไฟเนียร์เนี่ย เพราะความจริงแล้ว มัตสึดะอยากให้เป็นอย่างนั้น เพราะว่าไลท์คือคิระ มัตสุดะเคยชอบพอไลท์อยู่ .... มัตสึดะเองก็พอโดนอิดะทักไปอย่างนั้น ก็ดูเหมือนจะเข้าใจตัวเองขึ้น ? .... (เข้าใจความหมายของอิดะมั้ย ? ^^")

ทั้ง 2 คนก็สรุปว่า เขาไม่กล้าเรียกเนียร์ว่า "ฝ่ายธรรมะ" ไม่ว่าโลกของคิระกับโลกปัจจุบันนี้ โลกใดจะดีกว่ากันก็ตาม หรือเนียร์จะทำอะไรลงไปก็ตาม ไม่ว่าสิ่งที่เขาทำลงไปนั้นจะถูกหรือผิด ถ้าวันนั้นคนที่แพ้คือ เนียร์ พวกมัตสุดะคงไม่มีชีวิตมาจนถึงวันนี้

ทีมสืบสวนญี่ปุ่นในกลุ่มของไอซาว่า ปัจจุบันนั้นมีหน้าใหม่คือมายาโมโต้เสริมทีม L ติดต่อมา และการประชุมร่วมมือกันระหว่าง L และทีมตำรวจญี่ปุ่นก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง


มีหน้าใหม่มาเสริมทีมแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าพวกนี้จะหนังเหนียวอยู่มาจนวาระสุดท้ายของซีรียส์นี้ ?

ไกลออกไปในหุบเขาอันมืดมิด ขบวนกลุ่มคนที่มีสีหน้าทุกข์ทนเดินถือเทียนไขไปสู่ยอดเขา ณ ที่นั้น พวกเขาวางเทียนลง และสวดอ้อนวอนถึง "ท่านคิระ"



This story of "DEATH NOTE" is end. เรื่องของเดธโน้ตก็ได้จบลงเพียงเท่านี้



หวังว่าทุกท่านคงจะติดตามผลงานของ Tsugumi Ohba and / or Obata Takeshi ต่อไป

จบบริบูรณ์

Talks
ตอนแรกคิดจะทำสั้นๆ เพราะตอนนี้มันไม่ค่อยมีอะไรอยู่แล้วจากการอ่าน spoil text ที่พักหลังๆ มีแต่คนบ่นว่าแย่ อ่าน spoil แล้วนึกไม่ออกเลยว่าตัว manga จะเหลืออะไรให้วาด เอามาวาดอะไรให้ได้ 18 - 20 หน้า (หัวเราะ) แต่บทสนทนาของอิดะและมัตสุดะเหมือนบทสรุปทั้งเรื่องเลย ก็เลยทำละเอียดหน่อย () แม้จะผิดหวังนิดๆ กับตัวละครสำคัญหลายตัวที่ไม่ได้กล่าวถึงเลย แต่เมื่อมาคิดดูอีกที L ยังตายแล้วตายเลย และมันก็ไม่จำเป็นอะไรต่อเนื้อเรื่องสักเท่าไหร่ Death Note เป็นการ์ตูนที่เดินเรื่องโดยยางามิ ไลท์ และเน้นเนื้อหามากกว่าตัวละคร เพราะฉะนั้นบทสรุปของไลท์แล้ว ตัวละครอื่นดูเหมือนไม่เป็นที่สนใจของอ.โฮบะนัก แต่ก็คิดมานานแล้วว่า เมื่อไหร่ไลท์ตายหรือถูกจับ เรื่องมันก็จบ แล้วมันก็จบจริงๆ

มีหลายคนอยากรู้ชะตากรรมของมิสะ Ryuk ทีม SPK และครอบครัวยางามิ เราคิดว่า ทุกคนน่าจะให้คำตอบกับตัวเองได้โดยไม่ต้องรอให้อ.โฮบะมาเฉลย ส่วนตัว คิดว่า
- มิสะคงจะทำใจได้กับความตายของไลท์ คนไม่คิดมากอย่างมิสะ คงจะเริ่มต้นชีวิตใหม่กับหนุ่มสักคนได้ แล้วฉันก็ไม่คิดว่าผู้หญิงในหน้าสุดท้ายจะเป็นมิสะด้วย รูปหน้ามันก็แตกต่างกันมากแล้ว แต่อดคิดไม่ได้ว่า เธอมีดวงตายมฑูต ?!
- Ryuk โดนเนียร์เผาเดธโน้ตทั้ง 2 เล่ม ก็คงหมดเครื่องมือเอาไปเล่นสนุกอีก กลับโลกยมฑูตไปเลย คงไม่คิดเอาเดธโน้ตส่วนตัวไปให้มนุษย์เล่นอีกหรอก
- ครอบครัวยางามิ คงได้รับคำบอกกล่าวว่า ไลท์ตายในหน้าที่จากการสืบคดีคิระ เพราะเนียร์เก็บเรื่องคิระทั้งหมดเป็นความลับ พวกครอบครัวยางามิคงภูมิใจในตัวพ่อและลูกชาย ใช้ชีวิตต่อไปอย่างไม่ลำบากใจอะไร
- ทีม SPK คงกลับไปเป็น CIA ต่อ และคงเป็นหนึ่งในมือเท้าของเนียร์เหมือนเดิม เหมือนทีมสืบสวนญี่ปุ่น ()
เรียกว่าไม่มีอะไรแปลกใหม่จนจะต้องนำมากล่าวถึง

ตัวมัตสุดะที่ดูเหมือนไม่เคยใช้สมองเลย ก็ดูจะมีมาแสดงภูมิเอาตอนจบของเรื่องนี่เอง ถ้ามาคิดดู คนที่ทำให้ไลท์อยู่ในสภาพน่าอนาถก็มัตสุดะก็มีส่วนนะ () มัตสุดะแสดงความไม่ไว้วางใจเนียร์อย่างชัดเจน ในกรณีของมิคามินี่ ก็คิดว่า อาจจะจริง แต่ในกรณีของเมลโลนี่ คิดว่า "ไม่จริง" เพราะ เนียร์ไม่ใช่เหรอที่สั่งให้ฮาล "หยุดเมลโล" แทนที่จะพูดว่า "ไม่เป็นไรครับ" เหมือนทุกที ท่าทางของเนียร์ตอนที่เมลโลเคลื่อนไหว เหมือนกลัวว่าแผนจะพังมากกว่าจะเป็นไปตามแผน และเนียร์ก็เสียใจที่เมลโลตายอย่างชัดเจนเมื่อรู้ว่า การเคลื่อนไหวของเมลโล ทำให้ได้เบาะแสโน้ตปลอม (ถ้าเคลื่อนไหวแล้วไม่ได้อะไร สงสัยเนียร์คงไม่สน เมลโลเอ๋ย)

ส่วนมัตสุดะที่คิดร้ายๆ ไปกับเนียร์ทั้งนั้น กับคำพูดของอิดะ ทำให้เรารู้ว่า มัตสุดะ ยังไงก็ไม่ไว้ใจเนียร์ (เหมือนฉัน) แถมยังเข้าข้างไลท์อีก เหมือนจะว่าหน่อยๆ "เนียร์ชนะเพราะโกง" แต่เมื่อมาคิดดูอีกที ถ้าเนียร์แพ้ ตัวเองต้องถูกไลท์ฆ่า ก็กลับเงียบไป ยังไงคนเราก็เห็นแก่ตัวอยู่ดีแหละนะ

ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ในบทสรุปหน้าสุดท้าย ดูเหมือนคิระได้กลายเป็นพระเจ้าสมใจ แต่สำหรับยางามิ ไลท์ ตายไปในฐานะคนคนหนึ่ง แล้วแทบจะไม่ได้อะไรเลย แต่อย่างน้อยการกระทำของไลท์ ก็ได้ปกป้องผู้อ่อนแอในสังคมเอาไว้

ส่วนตัวแล้ว บทสรุปของเดธโน้ต ฉันก็ได้พร่ำพูดไปหลายหนแล้วใน Charlermthai และ Death_eyes พอมาเขียนใน blog ของตัวเองกลับขี้เกียจไปซะอย่างงั้น ก็อยากบอกว่าเดธโน้ตได้แสดงถึงกิเลสตัณหาของมนุษย์ เมื่อได้อำนาจอันนั้นมาไว้ในมือ จากจิตใจอันดีงามถูกย้อมเป็นความมัวเมาในอำนาจ และโลกเราจะดีขึ้น มิใช่หวังพึ่งให้ใครสักคนมาทำให้ดีขึ้น มันไม่หยั่งยืน ถ้าคนส่วนใหญ่มัวแต่งอมืองอเท้าในการทำความดี โลกก็ไม่ได้อยู่ในสันติสุขอย่างแท้จริง

ส่งท้าย
นี่คงเป็น blog สุดท้ายเกี่ยวกับเนื้อเรื่อง Death Note แม้ว่าตอนจบของเดธโน้ตจะมาไวกว่าที่คาดคิด แต่ความจริงแล้ว ฉันเตรียมพร้อมมาตั้งแต่ตอนที่ 99 แล้ว (หัวเราะ) พอตอนสุดท้ายออกมาจริงๆ ก็ไม่ค่อยเหงาเท่าไหร่ เรียกว่า โล่งใจปนเสียดายมากกว่า แต่จบในขณะที่มีคนจดจำ ดีกว่าลากเรื่องออกทะเลจนคนเลิกอ่านแล้วจบไปเมื่อไหร่ไม่มีใครรู้ เสียคุณค่าหมด

ที่ได้อ่าน Death Note นั้น เพราะตอนนั้นใน Charlermthai กำลังดัง มีคนพูดถึงมาก ก็เลยหน้าด้านไปขอ scanlation ท่านผู้หนึ่งหลังไมค์ ก็ได้ website ของ WTF มา นึกถึงครั้งแรกที่ได้อ่าน Death Note ตอนนั้น ออกมาได้ 54 ตอนแล้ว เรียกว่า ได้มาอ่าน สนุกมากๆ การหักเหลี่ยมเฉือนคมของไลท์และ L ภาค 1 เป็นภาคที่สนุกจริงๆ ฉันตะลุยอ่านใช้เวลา 4 คืน 5 วัน เรียกว่า อ่านจนตาโหลเลย ตอนไปทำงาน เพื่อนที่ทำงานยังทักว่า ทำไมดูเหนื่อยๆ จัง (เพราะนอนไม่พอ) ก็ต้องทำมั่วนิ่มว่า ทำงานหนัก

พอตอนที่ 58 ตกใจมาก แต่เรายังมีความหวัง วิเคราะห์กันวุ่นวายไปหมด ก็บอกตรงๆ ว่าอ่านภาค 2 ด้วยความหวังเรืองรองว่า L ยังไม่ตาย อ่านไปอ่านมา ความหวังว่า L ยังไม่ตาย มันน้อยยิ่งกว่า 0.001% เหลือความหวังอย่างเดียว อยากดูความพ่ายแพ้ของไลท์ และดันไปหลงรักเมลโล

นับแต่อ่านการ์ตูนมา Death Note นี่เป็นการ์ตูนที่เย็นชากับคนอ่านสุดๆ แทบไม่เหลือเยื่อใยอะไรของตัวละครให้กับคนอ่านเลย นอกจากมิคามิแล้ว ไม่พบว่าตัวละครตัวไหนจะมีที่มาที่ไปเยอะเท่าหมอนี่ แม้แต่ยางามิ ไลท์ อืมม์.....เพราะเค้าเป็นการ์ตูนเน้นเนื้อเรื่องมากกว่านี่นะ ? (ทำใจ) ความสัมพันธ์หรือที่มาที่ไปของตัวละคร จะกล่าวถึงน้อยที่สุด ทั้งๆที่ตัวละครแต่ละตัวก็ออกจะมีเสน่ห์ออกปานนั้นจะเรียกว่าเป็นข้อด้อยของการ์ตูนเรื่องนี้ได้หรือเปล่านะ ?

แต่คิดในแง่ของสาวก Y มันก็ดีในแง่ มันเหลือพื้นที่ว่างให้จินตนาการเยอะแยะไปหมด ()

และที่สำคัญ L ชื่อจริง คงเป็นความลับไปชั่วกัลปาวสาสน์

หวังว่า คงจะได้ชมผลงานเรื่องใหม่ของอ.โอบาตะ ทาเคชิในเร็วๆ นี้ จะติดตามต่อไปค่ะ


แถมท้ายมุม Y

เดธโน้ตจบไปแล้วด้วยหัวใจเย็นชาของไลท์ แต่ฉันคิดว่า L ในวาระสุดท้ายก็ไม่ได้เคียดแค้นอะไรไลท์มากหรอกค่ะ เพราะ L เองก็มีคำตอบสำหรับตัวเองอย่างชัดเจนแล้ว คู่ ไลท์/L ถ้ามันจะเศร้า ก็คงเศร้าเพราะไลท์มันเย็นชาเหลือเกิน ตอน L ตายฉันไม่เสียใจนะ แต่มาเสียใจตรงไลท์(และมิสะ)ช่างไม่ยี่หระกับความตายของ L เลย L นั้นช่างโดดเดี่ยวตั้งแต่แรกและจนตาย

L ตายไปพร้อมกับเพื่อนรัก 2 คน ในขณะที่เพื่อนรักทั้ง 2 คนกลับไม่มีน้ำตาหรือความเสียใจสักแว่บหนึ่งให้กับการจากไปของ L

แต่มาเศร้าสุดๆ ก็คู่เมลโล/เนียร์นี่สิ แต่ยังดีที่สุดท้ายแล้ว ทั้งคู่ต่างมีคำตอบให้กับตัวเอง แม้ว่าจะมีคำถามสำหรับอีกฝ่ายไปชั่วชีวิต แต่สุดท้ายแล้ว ทั้งคู่ตกลงจะยึดคำตอบสำหรับตัวเอง มันไม่สำคัญที่ว่าอีกฝ่ายจะคิดอย่างไร แต่คำตอบสำหรับตัวเองนั้นคือคำตอบที่แท้จริงแน่นอน

สำหรับเมลโล คือ ความเสียสละ
สำหรับเนียร์ คือ ความทรงจำมิรู้ลืม




 

Create Date : 15 พฤษภาคม 2549    
Last Update : 15 พฤษภาคม 2549 13:28:56 น.
Counter : 5085 Pageviews.  

[PIC] เพิ่มเติมงาน Japanese Street + spoil Death Note 108

ขอ up blog ทิ้งไว้ก่อน เพราะเย็นนี้จะหนีกลับบ้านนอกไปเวียนเทียนที่ดอยสุเทพวิสาขะนี้ ถ้า raw ออกมาแล้ว แต่แย่งเก้าอี้ร้านเนท cafe แถวบ้านไม่ได้ อาทิตย์นี้อาจจะ up blog ช้า


เข้าเรื่อง

พอดีมีรูปตกค้างอ่ะ จะเก็บไว้ดูคนเดียวก็เสียดาย น้องไอซ์จิ๊ออกจะน่ารัก แถมภาพยังถ่ายเป็นซีรียส์ดีอีกต่างหาก

หลังจากงอนป่อนน้องเนียร์ที่ไม่ยอมเกาะขาอ้อนวอนให้ร่วมมือกันทำงาน เมลโลก็เก็บข้าวเก็บของเก็บชอคโกแลตมาเดินโต๋เต๋อยู่แถวมาบุญครอง


ดูจิ๊.... ฟ้าฝนก็ไม่เป็นใคร เหมือนจะกลั่นแกล้งคนน่ารักอย่างเมลโล ตกกระจาย ช่างกล้องกระเจิง


ระหว่างเดินบิ้วท์อารมณ์ประกอบมิวสิค (เพลงอะไรก็ได้ที่เข้ากับฝนตก .... ฉันคิดไม่ออก )

เดินไปเรื่อยๆ จนกว่าจะนึกออกว่าจะเดินไปไหน ฝนก็ตก (น่าสงสารดีเนอะ ?)


หนาวก็หนาว หิวก็หิว ชอคโกแลตอันสุดท้าย กินหมดไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว


จ๊ะเอ๋.... น้องสาว เอ๊ย! น้องชายน่ารัก มาเดินเปลี่ยนแบบนี้ ระหว่างโจรปล้นใจนะจ้ะ ()


อ่า.... โจรมุมตึกหน้าตาคุ้นๆ นะนี่ ?


"ผมไม่มีอะไรเลย จ่ายด้วยร่างกายแทนได้ไหมฮะ ?(กิ้ววววววว.....) เอ.... แต่เราทรงผมคล้ายๆ นะ เป็นญาติกันป่าว ?"



แว่บ! เมลโลในวัย 19 ปี แว่บหายกลับอนาคตไปทิ้งให้เมลโลในวัย 15 ปีนั่งทอดอารมณ์ กะเมลโลภาคเมะมาปล้น(ใจ)ทั้งที ปล้นตัวเองซะด้าย ?

"เฮ้อ... โจรหายไปไหนแล้วล่ะ ? ดูสิ อย่างผมใครๆ ก็ไม่รัก หนีหายไปกันหมดเลย" (รักแท้แพ้ฝนตก ?)

เมลโลผู้โดดเดี่ยว.....

fin.

=================================

แฮะๆๆๆ ไม่มีอะไรหรอก เผอิญว่ารูปเมลโลน้องไอซ์น่ารัก ไม่อยากเก็บไว้ดูคนเดียว เลยมาแบ่งๆ กันดู น้องไอซ์ไม่ชอบพี่เอาออกได้จ้ะ ขอบคุณคุณ Es ดารารับเชิญ เสียดายไม่มีเนียร์ในวันนั้น ไม่งั้นจะได้รูป fanservice มาบ้าง

เอาล่ะ ต่อไปเป็น spoil Death Note page. 108


โปรดอย่าอ่านถ้าไม่อยากรู้เนื้อความ


เข้าเรื่อง


ไม่รู้เดี๋ยวนี้เป็นไง เรื่องย่อเดธโน้ตที่ออกมาแต่ละตอน มันช่าง unreliable เสียนี่กระไร หลายคนอ่านเรื่องย่อแล้วเซ็งไปตามๆ กัน

คือ เรียบๆ เรื่อยๆ ..... เหมือนโลกยังดำเนินไปเหมือนเดิม เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อ้อ....อาชญากรรมก็กลับมาในอัตราเดิม จากเดิมที่ไลท์มันโม้ว่าลดลง 70%

ซายุและแม่ของไลท์ --- ไม่กล่าวถึง

ไอซาว่า ---- กลายเป็นผอ.แทนพ่อของไลท์

มัตสุดะ + อิดะ ---- เป็นตำรวจเหมือนเดิม

มิคามิ ---- ตายในคุก (สงสัยระเบิดตัวเองตาย โถ...หมั่นทำความดี แต่ติดคุกซะได้)

มิสะ ---- ไม่กล่าวถึง

โรเจอร์เข้าทำหน้าที่แทนวาตาริ ส่วนเนียร์ก็รับตำแหน่ง L เต็มตัว ด้วยบุคลิก เล่นของเล่นไป กินชอคโกแลตไป ...

เอาเถอะ รอ raws ดีกว่า ภาพของอ.โอบาตะมักจะทำให้เนื้อเรื่องโบ๋ๆ ดูดีขึ้นมาเสมอ

แม้จะมีคนเชื่อว่า น่าจะมีตอนที่ 109 แต่คำอำลาอาลัยของอ.โฮบะ และอ.โอบาตะที่กล่าวท้ายตอน ก็ยากที่จะปฏิเสธแล้วค่ะ

อีกใจหนึ่งก็เหงานะ อีกใจหนึ่งก็โล่งใจ เพราะ server ของฉันไม่กินเส้นกับ server ของ TOWNL พอดี เข้าไม่ได้มา 2 อาทิตย์แล้ว ท่าทางเขาจะไม่ซ่อมด้วย นับว่าฉันไม่ต้องดิ้นรนไปร้านเนทเพื่อเข้า TOWNL อีก

แต่.....

ในฐานะแม่ยกเมลโล ในฐานะสาว Y

เนียร์ที่แต่เดิมไม่เคยกินชอคโกแลต หันมาบริโภคชอคโกแลตเป็นอาจิณ มันมาแนวเดียวกับ Brokeback mountain ยังไงก็ไม่รู้ กว่าจะรู้ว่ารักยิ่งสิ่งใด ก็สายไปเสียแล้ว ? (Love never grows old, but man could die นะเฟร้ย !)เหมือน อานิสที่กอดเสื้อแจ๊คร้องไห้ ..... ทำไมน้า.... ตอนที่มีชีวิตอยู่ ถึงไม่ยอมลดทิฐิให้กับคนที่เรารัก ? ทำไมถึงปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างไม่รู้คุณค่า ? ทำไมไม่คว้าโอกาสเมื่อยังมี ? ทำไม ? ๆๆๆๆๆๆ ......

Because...... I don't know what will happen in the future.

สุดท้ายแล้ว ก็เหลืออยู่แค่ความทรงจำ

แต่ยังดีใจว่า ทุกครั้งที่เนียร์กินชอคโกแลต ก็คงเหมือนกับว่ามีเมลโลมาอยู่ข้างๆ อยู่ด้วยกันเสมอ....

เศร้าจัง

รักนะ....เด็กโง่




 

Create Date : 10 พฤษภาคม 2549    
Last Update : 10 พฤษภาคม 2549 14:08:42 น.
Counter : 846 Pageviews.  

[PIC] MBK---- Japanese Food Street ----

ชื่อมันบอกว่า เป็นงาน "ถนนอาหารญี่ปุ่น" แต่โดยรวมของงานแล้ว มันคืองาน Cover J-pop และ Cosplay มากกว่า ส่วนอาหารที่มาเปิดบูธกลายเป็นน้ำจิ้มของงานซะอย่างงั้น ซึ่งผู้ชมอย่างเราๆ ก็มัวแต่กรี๊ดงานบนเวที วิ่งถ่ายรูป Cosplay จนวงแตกเพราะฝนตก ก็ยังจำไม่ได้ว่า ซื้ออะไรกินกับ Japanese Food Street นี้บ้าง ?

งานพวก Japanese อะไรนี่ที่มาบุญครองจัดบ่อยค่ะ อาจจะเป็นเพราะว่ามีห้างญี่ปุ่นเปิดอยู่แถวนั้น เลยส่งเสริมการขายบ่อยหน่อย แต่บางทีมันก็บ่อยเกินไปจนรู้สึกว่า concept ของงานมันคืองานอะไรกันแน่ ไม่ว่าจะเปลี่ยนชื่องานยังไง สุดท้ายมันก็ออกมาเป็น Cosplay กับ Cover อยู่ดีล่ะน่า

แต่ก็เป็นข้อดีคือ เรามีที่ได้นัดพบปะสังสรรค์สำหรับผู้นิยมดนตรีและการ์ตูนญี่ปุ่นกัน แต่ ดองบังชิกิ นี่ จำไม่ผิดมันวงเกาหลีไม่ใช่เหรอ ? (เอ่อน่า... ยังไงมันก็ออก album ภาษาญี่ปุ่นขายในญี่ปุ่นนะเฟร้ย!)

ไม่ขอพูดมากแปะแต่รูปอย่างเดียวฉลองกล้องใหม่ที่เพิ่งไปถอยมาจนหมดเนื้อหมดตัว วันนั้นครึ้มฟ้าครึมฝน รูปที่ถ่ายออกมาเลยออกบรรยากาศมาคุชอบกล ทั้งๆที่วันนั้น image ของงานสดใสม๊าก~~

เริ่มจาก Mello สุดเท่โดยคุณ Es ก่อนเลย แหม๊...เป็น Mello เพียงหน่อเดียวในงาน ในขณะที่เราพบ L และ Light ครึ่งโหล ภาค 2 ของ Death Note นี่ท่าจะไม่ work จริงๆ


ไม่ปรากฏนาม แต่เท่ดี (คือไม่รู้ว่าท่านนี้ Cos ใครอ่ะ )


2 สาวน่ารักจาก ปังย่า


สาวน่ารักอีกคน


ชายหนุ่มในชุดสไตล์โลลิน่ารัก แม่ไม่ว่า


Cover J-rock วงเดียวในงาน ขอโทษที่จำชื่อวงไม่ได้ แต่ cover L'arc-en-ciel จ้า


Red XIII แหม๊... cos ได้เหมือนจริงๆ เอ๊ย! ม่ายช่าย น้องหมาเจ้าถิ่นที่นั่น เธอนิ่งมาก ไม่ว่างานจะกรี๊ดขนาดไหน


นึกว่า Kill Bill เสียแล้ว ไม่ทราบเหมือนกันว่าจากเรื่องไหน


มิสะน่ารัก


มะรุมมะตุ้มรุมรักไลท์


เจอริคุ แต่ไม่ยักกะเจอโซระ จาก KingdomHearts II


เจอเรโนกับทีฟา แหม๊...โทรหากันบ่อยๆ ที่แท้ก็แอบกิ๊กกันนี่เอง ?


2 หนุ่มจากร้าน Aikiba เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปสาว Maid มาด้วย น่ารักเชียว


เดธโน้ตครบเซทภาค 1 ไลท์ L และมิสะ


เพิ่งเจอชายหนุ่ม cos เป็น L เป็นครั้งแรก


ว่าแล้วเชียว ไม่เห็น D. Grayman ใน Jump Weekly ตั้งหลายอาทิตย์ ที่แท้ราบิกับเอเลนหลบมาเมืองไทยนี่เอง ?


รวมกลุ่ม Death Note (ขาด Mello นะนี่) พอถ่ายรูปนี้เสร็จฝนเทกระหน่ำวงแตกค่ะ ทั้งคน Cos และช่างกล้องกระเจิงไปคนละทาง หลังจากนั้นก็ตัวใครตัวมันแยกย้ายไป แล้วแต่ศรัทธา


หลังจากงานที่ลาน MBK แล้วก็หลบฝนไป meeting เล็กๆ กับคุณ Es คุณ Preme และ น้องไอซ์จิ๊ ค่ะ นังอ่าน(ดู) Doujin และวาดสึเคบุกันอย่างเมามันส์ ออกมาได้ 3 รูปดังนี้

ของฉันเอง แฮ่.... ไม่ค่อยมีความคิดสร้างสรรค์เลย


ของคุณ Es ชอบการลงสีที่เฉียบขาดและมั่นใจจัง ดูติสต์ดีด้วย


ของฉันอีกแหละ วาดให้คุณ Es อ่า....อายจัง รู้สึกวาดไม่ค่อยดีเลย ใช้ท่าคู่กรรมหากินอีกแล้ว


ง่า.... ลืมถ่ายรูปของคุณ Preme เก็บไว้

หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันกลับ ขอบคุณคุณ Es และคุณ Preme มากๆ ที่มาร่วม Meeting เล็กๆ ด้วยกัน มีอะไรผิดพลาดไป ก็ขออภัยมานะที่นี้นะก๊าบ ....

ส่วนตัวกลับบ้านไปเหนื่อยมาก เลยนอนตั้งแต่ 4 ทุ่มครึ่ง ซี่รงซี่รี่ยส์ ITV เลยไม่ได้ดู กะว่างีบนิดหน่อย ดึกๆ จะตื่นมาทำอะไรต่อ ตื่นอีกที เช้าเลย แต่ปัญหามันอยู่ที่ดันไปเปิดพัดลมจ่อๆจนถึงเช้าโดยไม่ห่มผ้านี่สิ เจ็บคอหวัดรับประทาน วันอาทิตย์เลยกลายเป็นนอนยาวทั้งวัน เจ็บคอนี่มันทรมาณนะ

ยังซึมๆ เพราะไม่สบายอยู่ up blog ห้วนๆ ทื่อๆ ก็ขออภัย ถ้ามีโอกาสจะทยอยเอารูปอื่นๆ มาลงด้วยอีกน้า




 

Create Date : 08 พฤษภาคม 2549    
Last Update : 8 พฤษภาคม 2549 17:09:23 น.
Counter : 1019 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  

Pride
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ฮู้.... กว่าจะใช้ blog เป็น (คิดว่านะ) ต่อไปนี้ จะพยายาม update เรื่อยๆก็แล้วกัน ส่วนเนื้อหา .... คาดว่าจะจับฉ่าย ส่วนของ Let's talk ก็เรื่องสัพเพเหระ , secret window ก็จะเป็นเอ่อ.... อะไรที่มัน Y หรือ Homo นะ เพราะชอบอ่านการ์ตูน Y นิ เพราะฉะนั้น ไม่ชอบอย่า click เข้าไป ส่วน comic talk ก็เป็นการ์ตูนที่กำลังอิน หรือกำลังอ่านอยู่ค่ะ
Friends' blogs
[Add Pride's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.