Group Blog
 
All blogs
 

Death Note page 93... Decision....

ขาด Death Note ไปนานๆ นี่ รู้สึกเงียบเหงาเหมือนกัน สำหรับ background ใหม่ หลายคนเห็นแล้วอาจจะตกใจว่า หลงเข้ามาในป่าดงดิบหรือเปล่า ? หรือ blog นี้อารมณ์ไหนกันแน่นี่ ?! แฮ่... ก็ไม่มีอะไร แค่อยากจะอวดดอก “ลัดดาวัลย์” ที่ปีนี้บานสะพรั่งซะ 2 รอบ งามเป็นพิเศษ ดอกไม้นี้ ต้องปีที่อากาศหนาวจัดๆ หน่อยเท่านั้นแหละค่ะ ถึงจะออกดอกงาม ก็เลยเห่อซะไม่มี.... แต่เสียดายได้อยู่ชื่นชมเฉพาะตอนกลับเชียงใหม่เท่านั้น


Decision

ตั้งแต่ตอนหน้าเป็นต้นไป เปลี่ยนพระเอกจากยางามิ ไลท์ เป็น มิคามิ เทรุแล้วนะครับ by อ.โอบาตะ (ล้อเล่น ยืมมุขอ.Arakawa คนเขียน FMA มาเล่นหน่อย)

จากตอนที่แล้ว มิคามิไม่รู้ว่าไม่ทันระวังตัว หรือ ตามแผน ของ God ได้ฆ่าคนต่อหน้าเจอวานีเสียแล้ว ยิ่งทำให้เนียร์มั่นใจว่า มิคามิ เทรุ คือ X-คิระอย่างแน่นอน แต่เนียร์ไม่ผลีผลามเข้าจับตัวมิคามิแน่นอน เพราะถึงทำอย่างนั้น การพิพากษาแค่จะหยุดลงชั่วคราวเท่านั้น ไม่นาน การพิพากษาครั้งใหม่ก็ย่อมเกิดขึ้น เพราะรากเหง้าของปัญหาที่แท้จริงคือ L-คิระ หรือยางามิ ไลท์ต่างหาก

จากข้อมูลเก่าๆที่เนียร์ได้รับมา รวมทั้งข้อมูลจากเมลโล เนียร์ประเมินสถานการณ์ว่า มิคามิ อาจจะมียมทูตติดตาม และยมทูตนั้นหรือไม่ที่เป็นผู้คอยนำคำสั่งจาก L-คิระมาให้มิคามิ เนียร์สั่งให้เจอวานีเฝ้าดูว่ามิคามิจะมีหลุดพูดกับสิ่งที่มองไม่เห็นหรือไม่ และเพื่อความปลอดภัยของเจอวานี สั่งให้ระวังการเฝ้าติดตามที่อาจจะทำให้ยมฑูตรู้ตัวด้วย กลายเป็นว่า ฝ่ายเจอวานีต้องคอยระวังในสิ่งที่มองไม่เห็นด้วย ยากนา ...

ใช้โมเดลจำลองสถานการณ์ แต่ยังไม่เห็นโมเดล Mello นะ

ฝ่ายไลท์นัดพบกับทาคาดะ คิโยมิ โดยมีติดแค่เครื่องดักฟังอีกเช่นเคย และในการนัดพบกันทั้งนี้ ทาคาดะได้บอกไลท์เรื่องการพบปะกันของมิสะและเธอ ไลท์ตกใจเล็กน้อย แต่ไม่ยากที่จะแก้ไขสถานการณ์ด้วยคำหวานไปได้ ระหว่างนั้น การสนทนาทั้งหมดมีทีม NPA ก็รับฟังด้วย แต่ไลท์และทาคาดะยังสามารถนัดแนะแผนการกันด้วยการเขียนส่งให้กันอ่านตั้งหาก (รู้สึกเหมือนพวก NPA เป็นหมูตุ๋นดีๆ นี่เอง ) ไลท์แสร้งทำเป็นชักชวนให้ทาคาดะมาร่วมมือกับ NPA เพื่อจับกุมคิระ เพื่อเป้าหมายที่ทั้ง 2 คนจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเมื่อไร้ภาระหน้าที่ แผนนี้ทำให้พวก NPA เชื่อว่า ไลท์สามารถเกลี้ยงกล่อมให้ทาคาดะที่ตกเป็นทาสรักของไลท์มาร่วมมือกับ NPA

อู้ย... หล่อจริงๆ พ่อคุณ มีหลิ่วตาด้วย

ฝ่ายเนียร์ที่ไลท์ยังคิดว่าไลท์ติดตามทาคาดะอยู่นั้น กำลังเฝ้าจับตาดูมิคามิอย่างเข้มข้น เนียร์ได้ข้อมูลจากฮาลว่ามิสะและทาคาดะได้นัดพบกัน และปะทะกันไปเรียบร้อยแล้ว ในเรื่องนี้ เนียร์สงสัยว่า เหตุใด L-คิระ ถึงไม่ใช้งานยมทูตแทนที่จะใช้ทาคาดะเป็นตัวกลางติดต่อระหว่าง L-คิระ และ X-คิระให้ยุ่งยาก เนียร์สรุปจากข้อมูลเก่าๆ ว่า มียมทูตทั้งที่ใช้งานได้และใช้งานไม่ได้แหละน่า (ทำไมฉลาดอย่างงี้ฟ่ะ ?!) ทันใดนั้นเจอวานีส่งภาพมิคามินั่งพูดคนเดียวมาให้เนียร์ ซึ่งอาจจะเป็นว่า มิคามิกำลังติดต่อกับยมทูตอยู่ก็ได้ แต่จากการอ่านริมฝีปาก มิคามิ พบว่า มิคามิเพียงแต่บ่นพึมพำว่า ยมฑูต ไม่ได้อยู่กับเขา เนียร์พบว่ายมทูตไม่ได้อยู่กับ X-คิระ

อยู่ในแผน ??

ทำไมมิคามิรู้ตัวหรือไม่ว่าถูกติดตามโดย SPK ? ไลท์รู้หรือไม่ว่าเนียร์พบ X-คิระ แล้ว ? เมลโลหายไปไหน ? ทำไมถึงไม่ค่อยเห็นลุค ??!!

น้องเนียร์เริ่มจะหน้ามืด....

ตอนต่อไป Outside (ใครจะ outside ล่ะนี่ ?)


My cup of tea

รู้สึกเหมือนไลท์กำลังซ่อนแผนการอันยิ่งใหญ่อยู่ยังไงก็ไม่รู้สินะ ทั้งเนียร์และไลท์ก็คืบหน้าในแผนของตัวเองไปเยอะ ไลท์ทำให้ทาคาดะตกเป็นทาสรักอย่างเต็มตัว แล้วมิคามินี่ เหมือนเตรียมเอาไว้เป็นเหยื่อล่อแต่แรกแล้ว ส่วนเนียร์ก็ได้ตัว X-คิระแล้ว เห็นแล้วคงอีกนานกว่าจะได้ปะทะกันกับเนียร์ตัวต่อตัว ซึ่งๆ หน้าๆ ถึงตอนนั้น ถ้าไลท์ไม่โดนเนียร์จับเข้าซังเต น้องเนียร์คงจะต้องตาม L ไปอีกคนแน่เลย

น่าสงสัยเป็นที่สุด ลุคทำไมผลุบโผล่ๆ ล่ะนี่ ?! ปกติอ.โอบาตะจะวาดลุคติดฉากด้วยเสมอมิได้ขาด จะว่าอ.โฮบะกับอ.โอบาตะลืมก็ไม่น่าใช่ ? ไลท์คงไม่สามารถใช้ลุคตะลอนๆ ไปทำโน่นทำนี่ได้ดั่งใจเหมือนเรมหรอกนะ ? ว่าถึงเรมแล้วไม่น่าด่วนคิดสั้นไปเลย ถ้ายังอยู่ คงช่วยมิสะหักคอไลท์ไปแล้ว ฮือ.... (แม้จะยังแค้นเรมอยู่ก็เหอะ)

แผนดักฟังไลท์กับทาคาดะแสนจะไม่ได้ผลอะไรเล้ย .... แค่คิดดูอีกที ความโง่นี่เองเป็นเกราะป้องคุ้มภัยจากไลท์ ถ้าฉลาดกว่านี้อีกนิ้ด ไลท์คงฆ่าตายเรียบไปหมดแล้ว <3 <3 <3

น้องเนียร์ช่วงนี้ทำผลงานแรงจริงๆ นึกว่าจะไร้เดียงสา แต่ทำเป็นเข้าอกเข้าใจเรื่องรัก 3 เส้า ทาสรักอะไรพวกนั้น แสดงว่ากร้านโลกไม่น้อยล่ะ ( หุ..หุ...หุ... ฉันกำลังคิดอะไรอกุศลกับน้องเนียร์) แต่...แม้จะอุตส่าห์พูดถึงเมลโลถึง หน 2 หน แต่ไม่พอสำหรับแฟนๆ เมลโลหรอก ฮือ...เมลโลหายไปไหน ? ไปทำอะไรอยู่ หรือติดด่านเข้าเมืองไม่ได้ ? หรือหนีไปเสวยสุขกับแมตต์ทิ้งน้องเนียร์ทำงานคนเดียวซะแล้ว


ข่าว....


ลืมใส่รูป อ.โอบาตะวาดไลท์ได้หน้าโฉดเป็นพิเศษเลยนะนี่

คงได้ยินกันแล้วว่า Death Note จะทำเป็นหนังถึง 2 ภาค ฉายในเดือนมิถุนายนและตุลาคมปีนี้ หนัง Live-Action เสียด้วยนา ... จะ Live – Action กันอีท่าไหนล่ะเนี่ย ? ไลท์กระโดดตีลังกาสามตลบแล้วเขียนชื่อพิพากษาคนเลวลงในเดธโน้ต ? หรือว่า L บู๊แหลก โชว์รำเท้าปราบพวกยากูซ่า ??!! จิ้นไม่ออกเลยจริงๆ แต่ฝีมือการสร้างหนังของพี่ยุ่น เชื่อใจได้หรือเปล่า ? ไปรื้อเอาหนังญี่ปุ่นมาดูกันเอาเอง หวั่นๆ ใจยังไงก็ไม่รู้ ขอแค่ Casting รอดก็พอแล้วมั้ง ?

ส่วนว่าทำไมถึงไม่ทำเป็นอนิเมล่ะ ? รู้สึกเหตุผลเคยแจ้งไปแล้ว ว่าเนื้อหาของ Death Note แรงเกินไป สังคมญี่ปุ่นอ่อนไหวกับเรื่องแนวคิดอะไรแบบนี้มาก อนิเมฉายเป็นเวลายาวนาน อาจจะทำให้เกิดผลลบ

อีกเรื่อง อ.โอบาตะ ทาเคชิก็ได้ฤกษ์งามยามดี ออก Art Book แล้ว เย้ๆๆๆๆๆ เห็นภาพตัวอย่างแล้ว น้ำลายหกเลย มีแม้กระทั่ง ซาคอน&อุคอน โห.... เรื่องเก่ามากเลย แต่ยังได้มาลง Art Book เล่มล่าสุด ดูแล้วเหมือนอ.โอบาตะจะวาดใหม่ด้วย เพราะเมื่อก่อนอาจารย์ไม่ได้ลงสีสไตล์นี้นี่ ?! แล้วยังมี Hikaru no go กรี๊ด!! ในที่สุดเราก็จะมีภาพสี Akira กับ Hikaru ตอนโตเป็นหนุ่มเอาไว้ชื่นชมให้ดูแล้วสักที ที่เหลือนอกนั้นคงเป็นภาพที่อ.โอบาตะเป็นคาแรคเตอร์ดีไซน์ สวยๆ ทั้งนั้น งานนี้อดข้าวซื้อได้เลยค่ะ หรือใครทรัพย์พอมี ซื้อ Death Box ไปด้วยเลย จะเป็นของที่ระลึกจาก Death Note ที่อ.โอบาตะดีไซน์ ก็เป็นพวกหัวกะโหลก สร้อย โมเดลไลท์ L และมิสะ ส่วนฉันทรัพย์จาง .... ขอแค่ Art book อย่างเดียวก็สุขใจแล้ว นี่ว่าจะขุนหมู(ออมสิน) เอาไว้ซื้อ หวังว่า NED คงไม่ทำฉบับลิขสิทธิ์ในไทยนะ จะได้ราคาถูกว่าญี่ปุ่นกว่าครึ่ง ส่วนคุณภาพนี่ไปลุ้นกันเอาเอง




 

Create Date : 23 มกราคม 2549    
Last Update : 24 มกราคม 2549 8:06:17 น.
Counter : 1020 Pageviews.  

คุยเล่นเรื่อยเปื่อย จาก Narnia จนถึง Final Fantasy VII

อาทิตย์ก่อนไม่มี Death Note ตอนที่ 93 ทำให้ blog ว่างอยู่พักหนึ่ง ก็ตั้งใจไว้ว่า จะ up blog ที่อยาก up เอาไว้นานแล้ว แต่ติด DN ซะมาหลายอาทิตย์ เอาเข้าจริงๆ ก็หาเวลาทำไม่ได้

ตั้งใจไว้ว่าจะเปลี่ยน theme ใหม่ ให้ดูทันซะหมัย เอ้ย ทันสมัยและโชว์ advance กับชาวบ้านเขาบ้าง ก็ยังทำไม่ได้ เมื่อวานนั่งงมๆ คลำๆ อยู่พักใหญ่ ไม่ work แฮะ ไม่รู้ใครทันเข้าจังหวะทดลอง theme ใหม่บ้าง ?

ตั้งใจไว้ตั้งแต่ก่อนปีใหม่แล้วว่า จะเคลียร์ภาพ drawing และหนังสือที่ซื้อมาจากงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติตั้งแต่ปีที่แล้วให้หมด ดองข้ามปีมาแล้ว ปรากฏว่า ตอนนี้แค่ Harry Potter เล่ม 6 ฉบับภาษาไทย ยังอ่านคืบหน้าไปไม่ถึงไหน ...

โอ... ทำไมถึงมีแต่ภารกิจที่ทำไม่สำเร็จทั้งนั้นเลยฟ่ะนี่ ??!!

มาลองเคลียร์เป็นอย่างๆ บ้างดีกว่า

Blog ที่อยาก up ก็ยัง 2 จิต 2 ใจ เป็นเนื้อหาประเภทแกว่งปากหาเสี้ยนทั้งน้าน หรือไม่ก็ ส่วนตัวซะไม่มี คงไม่ค่อยมีใครอยากอ่านนักหรอก หรือ up แล้วอาจจะมีคำถามตามมาถึงบ้านว่า [up ทำไม ?] เออ... ไม่ว่างจริงๆ ก็เอาไว้ก่อนก็แล้วกัน

เรื่องเปลี่ยน theme เอาน่า ... ไม่กินหญ้ามากเกินไปนัก คงจะทำได้สักวันแหละ บางที ใช้ theme สำเร็จรูปอาจจะดีกว่านะ ยิ่งเปลี่ยนยิ่ง basic ว่างั้น

หนังสือที่ต้องเคลียร์ มาสะดุดกึกกักกับ Harry Potter เล่ม 6 นี่แหละ ไม่รู้เป็นเพราะว่าอ่านฉบับภาษาอังกฤษมาก่อนหรือเปล่าก็ไม่รู้ ทำไมฉบับภาษาไทยช่างแปลได้จืดชืดซะไม่มี ช่างราวกับเขาใช้โปรแกรม translator แปลออกมาดุ้นๆ ยังไงก็ไม่รู้ เคยได้ยินคนบ่นๆ เหมือนกันเรื่อง Harry Potter เปลี่ยนคนแปลใหม่ เมื่อก่อนฉันก็อ่านแต่ฉบับภาษาไทย ก็เลยไม่รู้ว่าต้นฉบับจริงๆ มันเป็นยังไง เปลี่ยนคนแปลกันตอนไหน แต่พอมาอ่านเล่ม 6 โอ้ว...รู้แต่ว่า เขาช่างเรียงรูปประโยคไทยคงรูปประโยคจากภาษาอังกฤษยังไงอย่างงั้น (โว้ย!!) ฮาฝืดอีกต่างหาก นี่ก็กำลังคิดๆ อยู่ว่า จะคืนหลานชายไปเลยทั้งอย่างนี้ หรือทนฝืนอ่านจนจบดี เพราะคิดไว้ว่า อยากอ่านเพื่อตรวจดูว่า ที่เราดำน้ำอ่านภาษาอังกฤษมาแต่แรกน่ะ เข้าใจถูกหรือเปล่าเท่านั้น ?

เรื่องรูปทั้งหลายที่วาดเอาไว้ หลังจากเล่นแนวทดลองมาพักใหญ่ ก็ค้นพบว่า สุดท้ายแล้ว คงต้องมาลงสีสไตล์เดิมแบบโบราณๆ ของเรานั่นเอง แหม... ทั้งๆที่มีแนวอื่นๆ อีกเยอะแยะที่อยากทดลองเล่น แต่ทำแล้ว รู้สึกว่า ยิ่งทำ มันกินเวลามหาศาลบานเบอะ ก็ไม่ค่อยมีเวลาอยู่ด้วย ผลก็คือ งาน drawing ที่ลงๆ ไว้ กองทับเป็นภูเขาเลากา จนต้องคัดทิ้งไปปึกใหญ่ๆ

ขืนยังต้องเล่นงานทดลองแบบนี้ไปเรื่อยๆ งาน drawing คงเน่าไปก่อน ก็ตัดสินใจจะพักงาน drawing แล้วมาเคลียร์งาน painting ให้หมดเสียก่อน ปะเหมาะเคราะห์ดี อาจจะเคลียร์ย้อนหลังไปได้ถึงงาน fanart Lord of the Ring ไม่ดิ... อาจจะย้อนไปไกลได้ถึงสมัย J-rock (วุ้ย... ว่าเป็นยุคสมัย ทำให้รู้สึกว่าชีวิตเรานี่ก็ผ่านอะไรมาเยอะเหมือนกันนะนี่ !)

ใจหายเหมือนกันที่ต้องหยุดงาน drawing เพราะหนทางที่จะสามารถพัฒนาตนเองได้ คือการ drawing นั่นเอง ใครที่ชอบวาดรูปก็คงรู้ว่าถ้าไม่ได้วาดนานๆ มือมันแข็ง แล้วจะวาดไม่ค่อยได้ เสี่ยงเหมือนกันที่จะหยุดไว้ก่อน แต่เป็นเพราะเสียดายงาน drawing ที่ทิ้งไว้เยอะมาก ถ้าไม่เอามาทำ painting เสียทีมันก็เหมือนไม่มีคุณค่าอะไร ใครจะชอบงานดินสอขาว-ดำกันล่ะ ? ถ้าเส้นสวยก็ว่าไปอย่าง บางคนแค่ลายดินสอก็งามแล้ว แต่ไม่ใช่ตู (เอิ๊ก) เอาเหอะ

ประเด็นร้อน (ที่เย็นแล้ว มั้ง ?)
หมู่นี้ห้องการ์ตูนพันติ๊บมีหัวข้อซีเรียสอย่าง เอกลักษณ์ของชาติหรือจิตวิญญาณของความเป็นไทยเติมใส่การ์ตูน อ่านแล้วก็อ่อนใจแทนนักวาดการ์ตูนบ้านเราเหมือนกัน ยังล้มลุกคลุกคลาน นี่ก็จะมาเรียกร้องให้รำไทยกันซะแล้ว แหม๊.... ยืนยังไม่ได้เลย (โว้ย!)

ช่วงหนึ่งในชีวิต ฉันฝันจะเป็นนักวาดการ์ตูน พยายามส่งงานไปหลายๆ สำนักพิมพ์ ได้รางวัลมาก็พอหอมปากหอมคอ แล้ววันหนึ่ง ก็ค้นพบว่า ถ้ายิ่งจริงจังกับการวาดรูป ฉันยิ่งไม่มีความสุข เครียดเฟร้ย ! ประกอบกับที่บ้านไม่สนับสนุน กลัวลูกอดตาย ก็เลยเลิกไป หยุดไปหลายปีเพราะเรียนหนักเชียวล่ะ เพิ่งมาเริ่มนั่งวาดอีกทีก็ตอนเรียนจบแล้วว่างงานนี่แหละ (หัวเราะ) ตอนนั้นจริงจังมากเลย ถึงไปเรียนนอกเวลาที่โรงเรียนสารพัดช่างภาคพิเศษ จริงจังมากไปหน่อย ติสต์เกินไป เมาหัวราน้ำกันแทบทุกคอร์ส (ตกลงฉันไปทำอะไรกันนี่ ?!)

เพราะฉะนั้นงานของฉันจะนุ่งผ้าถุงหรือโจงกระเบนบ้างหรือเปล่านั้น ? ก็ไม่รู้เหมือนกัน ฉันวาดรูป เพราะอยากวาด ไม่ได้วาดเพราะอยากเชิดชูการ์ตูนแห่งชาติ ฐานะจริงๆ ตอนนี้คือ “นักอ่าน” และเป็นนักอ่านที่เข้มงวด งานไม่ดี ไม่ซื้อ ไม่ใช่ซื้อเพราะเป็นงานญี่ปุ่นหรือไทย แต่ซื้อเพราะ “ชอบ” ก็เท่านั้น ก็เสียใจด้วยที่ทุกครั้งที่ได้ยินว่า นิตยสารการ์ตูนไทยปิดตัวลง หัวแล้วหัวเล่า ทำไงได้ ก็เรื่องมันไม่สนุกนี่นะ จะให้ซื้อมาพับถุงกล้วยแขกหรือยังไง ? (อันตรายต่อผู้บริโภคนา)

เปลี่ยนเรื่องเป็น Narnia ดีกว่า

ว่าแล้วก็แปะรูป fanart Narnia ดีกว่า เรื่องนี้ไปดูที่เชียงใหม่ หลังจากถวิลหามาตั้งแต่ครั้งไป Malaysia ดูแล้วก็ไม่ผิดหวัง หนังดูสนุก ให้ความรู้สึกสบายๆ ไม่เครียดมาก ฉากสงครามทำได้ตื่นตาตื่นใจดี ไม่ใช่ที่จำนวนคน แต่ที่บรรดาสรรพสัตว์ที่ร่วมรบในกองทัพต่างหาก หากวันหนึ่ง วันที่ทุกเผ่าพันธุ์เป็นมิตรกัน ยืนเคียงข้างกัน คงเป็นภาพที่งดงามมาก


ตัวละครที่ประทับใจมาก คือ ปีเตอร์ พี่ชายคนโต ช่างเป็นเด็กหนุ่มรูปงามจริงๆ ปากแดง ผมทอง ใส่ชุดเกราะก็เท่ ทำให้นึกถึงยุคกษัตริย์แห่งยุคกลางจริงๆ ความจริงแล้วตัวละครอีกตัวที่ประทับใจมาก คือแม่มดขาว ที่แสดงโดยTilda Swinton แหละ เธอเหมือน Cate Blanchett นะ ว่ามั้ย ? ทั้งในแง่ความสง่างามและหน้าตา ยิ่งฉากแอคชั่นของเธอ สง่ามากๆ ถ้า Silmarillion ได้สร้างเป็นหนัง น่าจะ Cast เอา Tilda เล่นด้วยนะ เธอต้อง High Elf ที่สง่างามและทรงอำนาจมากแน่ๆ

เอ็ดมุนด์ ลงสีให้หน้าซีดๆ เอาไว้ก่อน


พี่สาวคนรอง ซูซาน ไม่ค่อยได้ image สักเท่าไหร่ เธอน่าจะออกแนวแม่ๆ หน่อย


น้องเล็กลูซี่ผู้น่ารัก


ว่าถึง Narnia แล้วไม่ว่าถึง King Kong ก็ไม่ครบรส บอกกงๆ ว่า ค่อนข้างผิดหวังกับงานนี้ของ Peter Jackson ไม่น้อย เอาน่า ... มันไม่ใช่ความผิดของ PJ เรื่องนี้บทมันอ่อนมาแต่แรกแล้ว PJ เข็นมาได้เท่านี้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว แต่ก็พอจะจับสไตล์ของแกได้ ก็เล่นจัดแสงเงาเหมือน LOTR เลยอ่ะ บางครั้ง เราก็นึกว่า แอน เป็น เอโอวีน แล้วอีตากัปตันเรือ เผลอๆ นึกว่า ฟาราเมียร์ ซะอย่างงั้น แล้วชอบฟรีซภาพ ทำไมอ่ะ ?! นึกว่านาซกูลจะโผล่ออกมาทุกทีเรยยย .....

หนังคงจะซาบซึ้งกว่านี้ถ้าไม่ดันไปนึกถึงกอริลล่าในเรื่อง คุโรมาตี้ แล้วนั่งขำอยู่ในโรงหนัง ยังคิดเลยนะนี่ว่าเจ้าคิงคองในหนังอ่ะ ส่งมันไปเรียนคุโรมาตี้ได้เลย เพราะท่าทางแสนรู้ซะ ฝึกอีกหน่อยก็ไปโรงเรียนได้แล้ว

โดยรวมแล้ว หนังไม่ค่อยประทับใจอะไรมาก ก็เลยไม่ค่อยอยากพูดถึง หนังลิง ก็ได้ดูลิงมันทั้งเรื่องแหละ

Final Fantasy VII
เลยเถิดไปถึงเรื่อง Final Fantasy VII
ในบรรดาเกมส์ PS นี่ คงมี FFVII นี่แหละ ที่เอามาขายใหม่ได้ เอ๊ย เอามาวิเคราะห์เจาะลึกกันได้ดีทุกสมัย นอกจากศึกระหว่างใครเป็นนางเอกภาคนี้กันแน่แล้ว กำเนิดเซฟิรอธนี่ ก็น่าสนใจไม่น้อย นอกจากกำเนิดจะคลุมเครือฟันธงไม่ถูกว่าเกิดมาได้ยังไงกันแน่ ระหว่าง

1 เป็นเซลล์จากเจโนว่าแต้ๆ ที่ฉีดเข้ามดลูกของลูเครเซีย (อุ้มบุญเจโนว่า)
2.เป็นลูกของลูเครเซียกับดร.โฮโจ แล้วโดนฉีดเซลล์เจโนว่าเข้าใส่ตอนยังเป็นตัวอ่อนในครรภ์
3.เป็นลูกของลูเครเซียกับวินเซนท์ วาเลนไทน์ Turk ที่ถูกส่งมาจับตาดูดร.โฮโจ แต่ดันไปหลงรักลูเครเซียผู้ร่วมวิจัยซะฉิบ

เนื่องจากคำพูดจาของตัวละครมันกำกวม คลุมเครือ ตีความได้หลายอย่าง ก็ไม่แปลกใจที่แม้แต่เซฟิรอธเองยังตีความเองไม่แตก สรุปเองเอาข้อหนึ่งไปแล้ว ส่วนแฟนๆ ส่วนใหญ่จะสรุปตามข้อ 2 และเขี่ยทิ้งข้อ 3 ไป ด้วยเหตุผลที่ว่า ลูเครเซียเธอไม่เคยชายตามองวินเซนต์ หนุ่มรูปงาม แสนดี อ่อนโยน รักเธออย่างหมดหัวใจ ถ้าลูเครเซียจะมีอะไรกับวินเซนต์จนป่องขึ้นมา ต้องโดนเจ้าวินเซนต์ข่มขืนแหงๆ (ไม่เห็นแปลก โกโบริแสนดียังฟิวส์ขาดปล้ำแม่อังมาแล้ว ? ) แต่เฮ้ย เกมส์เรท PG13 นะ

นู่ ... สุดที่ร้ากของลูเครเซีย หน้าตาโฉดซะ ส่วนตัวแล้วนึกว่าพ่อตา เอ้ย ป๊ะป๋าของเซฟี่จะต้องหน้าตาดีกว่านี้เสียอีก ไม่รู้ว่าถ้าอีตาดร.โฮโจไม่ดีดน้ำมันพรายใส่ลูเครเซีย อีตานี่จะมีกลเม็ดอะไรมัดใจสาวสวยแบบลูเครเซีย ?


มะม๊าลูเครเซีย สวยสมกับมีลูกชายรูปหล่อ จาก Trailer ของ Dirge of Cerberus ทำให้รู้ว่า แม่ลูเครเซียเธอก็ไม่ได้เมินวินเซนต์ซะหน่อย


วินเซนต์ พอดีหารูปตอนยังเป็นมนุษย์เงินเดือนจีบลูเครเซียไม่ได้ ยังมึนอยู่ว่า คุณลูเครเซียเธอนิยมของแปลกหรือยังไง ถึงได้ทิ้งพ่อหนุ่มคนนี้ได้ลงคอ


ลูกชายสุดหล่อลูเครเซีย ยังแอบๆ คิดว่า มีเค้าหน้ากระเดียดไปทางวินเซนต์มากกว่านะ วุ้ย! ถ้าเป็นพ่อลูกกันจริง สุดยอด plot เลยนะนี่




 

Create Date : 17 มกราคม 2549    
Last Update : 18 มกราคม 2549 8:27:07 น.
Counter : 1435 Pageviews.  

Death Note page. 92 [Night] ... + Review หนังสือวันหยุด

สวัสดีปีใหม่ 2549 ค่ะ


คำเตือน ระวัง load นรกค่ะ

หายหน้าไปเสียนาน กลับไปบ้านเกิดมา ไม่ได้กลับบ้านมาเกือบ 6 เดือนแล้วนา การที่ไม่กลับบ้านบ่อยๆ เพราะนอกจากจะทำให้เหนื่อยกับการเดินทางมากไป และยังยากที่จะตัดใจกลับมา อยู่ที่ไหนมันจะสุขใจเท่าบ้านเราล่ะ ?!

วันนี้นอกจากจะ update Death Note ตอนที่ 92 แล้ว ยังขอแถม review เล็กๆน้อยๆ เกี่ยวกับพวกหนังสือที่ไปเช่าอ่านมานั่นแหละ เชียงใหม่นี่เป็นสวรรค์สำหรับนักอ่านจริงๆ เช่าสะดวก ค่าเช่าในราคาไม่แพงนัก หนังสือก็มีให้อ่านเยอะแยะ จุใจ มีความสุขจริงๆ แต่กลับไปคราวนี้ไม่ค่อยได้อ่านอะไรมากสักเท่าไหร่ มัวแต่เฮฮาปาร์ตี้กับเพื่อนๆ เป็นหลัก ถึงอย่างนั้นก็ยังรู้สึกผิดอยู่หน่อยๆที่เพื่อนและผู้ใหญ่บางท่านไม่ได้ไปเยี่ยมเยือน อยู่กรุงเทพฯนี่ บางครั้งนะ รู้สึกเหมือนอยู่ตัวคนเดียวในโลกอย่างไงอย่างนั้น แต่พอกลับเชียงใหม่ทีไร รู้สึกเหมือนอยากหนีไปปลีวิเวกคนเดียว อะไรมันจะยุ่งขนาดน้าน หาความพอดีไม่ได้เลย

เริ่มเลยละกัน

Death Note page. 92 ….[Yoru]… (ค่ำคืน) .....


หน้าเปิดรับปีใหม่ ไลท์หน้ามืด

หลังจากที่เนียร์ส่ง Hal เข้าไปเป็นบอดี้การ์ดให้กับทาคาดะ เธอกลับ popular เสียอย่างงั้น แม้พวก NPA ฝ่ายไลท์จะมานั่งนึกๆวิเคราะห์เถียงกันเองว่า Hal เป็นสมาชิก SPK หรือไม่ แต่ความดังของ Hal ย่อมไปเข้าตาของ Kira เข้าอยู่ดี วันใดวันหนึ่ง การที่คิระกำจัดเธอเสียก็ไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าเกิดคิระเกิดสงสัยเข้าเหมือนกัน ไอซาว่าก็คิดแบบนี้ แต่คิดไปคิดมา ไอซาว่าก็หาบทสรุปให้กับตัวเองไม่ได้เหมือนเดิม (ไม่รู้จะต้องคิดอีกนานแค่ไหน ?)


บางครั้งไอซาว่าก็เหมือนจะเป็นฉลาดพึ่งพาได้ แต่สุดท้ายแล้ว...

จากข้อมูลที่ Hal ส่งให้เนียร์ ก็รู้ว่าโมงิทำหน้าที่เป็นผู้จัดการส่วนตัวให้กับมิสะ ถึงโมงิจะไม่ได้อยู่กับทีม NPA แต่เนียร์ก็รู้ว่าจะไปง้างเอาข้อมูลจากโมงิคงยาก แต่ถึงอย่างนั้นเนียร์ก็รู้ว่าไลท์และทาคาดะก็พบปะกันอยู่ และถามเอาดื้อๆกับไอซาว่าข้ามหัวไลท์ว่าเมื่อทั้ง 2 คนนี้พบกัน มีการจับภาพหรือบันทึกเสียงหรือไม่ คำตอบก็ไม่คลาดไปจากที่เนียร์คิด คือมีแต่การบันทึกเสียงดักฟังเท่านั้นเอง (โธ่... ใช้เป็นหลักฐานในศาลก็ยากพอดูแล้ว)


เนียร์ก็รู้จักฉลองคริสต์มาสเหมือนกันนะนี่ กับใคร ? ป๋าเลสเตอร์เหรอ ?

ทาคาดะไม่รู้คิดยังไง ก็นัดขอกินข้าวกับมิสะโดยมี Hal อยู่ด้วย แน่นอนว่ามิสะก็ตอบรับ และในการนัดพบกันนั้น มิสะก็ป่วนทาคาดะจนเสียหน้าไปโข ด้วยการประกาศว่า ในงาน Kouhaku นั้น มิสะจะประกาศเรื่องการหมั้นของเธอกับไลท์ แม้ทาคาดะจะรักษาฟอร์ม แต่ก็เห็นว่าเป็นรองมิสะอยู่โข ก็งี้แหละนะ ตอนนี้เธอก็รู้ตัวดีนี่ว่าเธอเป็นแค่ชู้ เอ้ย กิ๊กของไลท์เท่านั้นเอง


ถือไพ่เหนือกว่าเห็นๆนะมิสะ

เนียร์ส่งเจอวานีไปเฝ้าสะกดรอยมิคามิ แม้แต่เจอวานีก็พบว่า มิคามิไม่ได้มีอะไรเป็นที่ต้องสงสัยนอกจากการเป็นแฟนตัวยงของคิระ จนกระทั่ง เมื่อเจอวานีสะกดรอยตาม (แบบซึ่งๆหน้า) ขึ้นไปบนรถไฟกับมิคามิ พบว่ามิคามิมีพฤติกรรมน่าสงสัย เมื่อเห็นเด็กสาวคนหนึ่งถูกลวนลามในรถไฟ มิคามิควักโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูป แล้วควักสมุดโน้ตออกมา เมื่อมิคามิลงจากรถไฟไป ชายที่ลวนลามเด็กสาวคนนั้นก็ล้มลงหัวใจวายตาย เจอวานีรายงานเนียร์อย่างที่เห็นด้วยความตระหนก !!??

การประชันความหล่อระหว่างมิคามิ ศิษย์คิระ กับเจอวานี ลูกน้องเนียร์ รักใครชอบใครเชิญโหวตตามอัธยาศัย

ศึกระหว่างแม่เสือสาวทั้ง 2 จะเป็นอย่างไร ? มิสะจะก่อปัญหาให้กับไลท์หรือไม่ ? มิคามิจะประมาทขนาดนั้นเชียวหรือ ? เจอวานีจะมีชีวิตรอดไปอีกกี่ตอน ??!!


เมาจนเห็นกุงเกงในเลย ใช่ไหมนี่ ?!

ตอนต่อไป Decision


My cup of tea.

ไม่รู้ว่าตอนนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะกลับบ้านไปนี่ ไม่ online เลยค่ะ ถอดปลั๊กอย่างสมบูรณ์แบบ นึกว่าเนียร์จะบุกจับมิคามิมาขึงพรึด อดข้าว อดน้ำ ดีดไข่ ช๊อตไฟ้ฟ้า ให้สารภาพ (2 อันหลังนี่ คงไม่เคยทำนะ ) อย่างที่ L เคยทำเสียอีก นับว่าเนียร์ยังเมตตากับมิคามิมากกว่า L หรือไม่ก็ L ในสายตาน้องเนียร์ ไม่มีวันทำเรื่องแบบนั้นหรอก

ตอนนี้ได้เห็นลุคเสียที อ่า... แม้ว่าตอนนี้จะมีคนผิดหวังว่ามิคามิจะทำอะไรประมาทเลินเล่อพานจะพาไลท์เข้าซังเตไปด้วยนี่ ฉันว่า ระดับไลท์ต้องวางแผนอะไรเอาไว้แล้วล่ะ ที่ควักออกมาโชว์เจอวานีนี่ เตี๊ยมกันไว้แล้วกับไลท์มากกว่า อย่างไรก็ตาม ฉันคิดว่าตัวละครอย่างมิคามินี่คงไม่ไปเร็วนัก และที่เราจะเห็นไลท์เหงื่อแตกซกเหมือนที่แล้วๆมา ก็คงยากเหมือนกัน เป็นห่วงเจอวานีค่ะ ตอนนี้มาแย่งซีนความหล่อกับมิคามิจริงๆเลย แต่ดูๆไป ...เอ๊ะ... หน้าตาคล้ายๆ เรย์ เพนเบอร์นะ หน้าตาแบบนี้มีแววอายุสั้น แง๊... ฉันว่าเจอวานีนั่นแหละจะไปก่อนมิคามิ ที่ลุคหายไปนี่ ฉันสงสัยว่า มันไปเล่นบท spy ให้มิคามิหรือเปล่า ? ตอนนี้ฉันว่าลุคมันไม่ค่อยเป็นกลางสักเท่าไหร่แล้วล่ะ อย่างตอนที่ไลท์โดนสะกดรอย ถ้าไม่ได้ผีพรายอย่างลุคกระซิบบอก ไลท์ก็เสร็จไปแล้วเหมือนกัน นี่ก็คิดว่าไลท์จะใช้ประโยชน์จากลุคเรื่องมองหาคนสะกดรอยให้มิคามิอีกหรือเปล่า ? ถ้าจริง ตายแน่เจอวานีเอ๊ย

ส่วน 2 แม่เสือสาว ไม่รู้อยู่ๆทำไมทาคาดะถึงได้นัดมิสะกินข้าว เธอน่าจะรู้อยู่แล้วว่ามิสะน่าจะป่วน แล้วเอา Hal เข้าไปด้วยทำไม ? กำลังกลัวอยู่ว่า นี่ก็เป็นแผนหนึ่งของไลท์ ก็ไลท์มันจอมวางแผนนี่นะ อยู่กับมิสะมานาน ก็น่าจะเดาทางมิสะออก และก็รู้ด้วยว่ามิสะกับทาคาดะทำงานวงการเดียวกัน มันก็ต้องมีที่ 2 สาวต้องพบกันจังๆได้ ไลท์คงวางแผนกันการปะทะเอาไว้แล้ว แต่นี่ปล่อยให้ทาคาดะนัดกินข้าวกับมิสะโดยมี Hal พ่วงมาด้วย สุดท้ายก็อลเวงซะ ท่าทางจะเป็นแผนล่อเนียร์หรือเปล่า ?

แล้วที่น่าผิดหวังสุด...... เอาเมลโลคืนม๊า!!! เมลโลหายไปไหน ??!! หนีไปเที่ยวโตเกียวดีส์นีย์แลนด์กับแมตต์ซะเพลินแล้วใช่ไหม๊ ??!!

=================================

ต่อไปนี้ขอ review เล็กน้อยกับหนังสือที่ไปอ่านค่ะ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเวลาน้อย แต่ต้องอ่านมาก จึงทำให้สมองเหมือนเครื่องจักรที่วิ่งเร็วจี๋ พอกดสวิทช์ปิดแล้ว เครื่องยังมีแรงเหวี่ยงหมุนปั่นไปเรื่อยๆ อยู่หรือเปล่า ? อาจจะ spoil บ้าง แต่ไม่ spoil มากค่ะ ที่สำคัญ ไม่เฉลยคำตอบของเรื่องแน่นอน

New Year Celebration with Detective Series

เทวากับซาตาน (Angel and Demon)

เป็นเรื่องแรกที่คว้ามาอ่าน หลังจากที่อ่าน Da vinci Code มาแล้ว ก็ต้องขวนขวายอ่านให้ครบสูตรเสียหน่อย แม้พี่ร้านเช่าหนังสือจะบอกว่า สนุกสู้ Da vinci Code ไม่ได้ แต่เราก็ทำใจไว้แล้ว ตะลุยอ่านตั้งแต่ 10 โมงเช้า ไปจบเอาตี 5 ของอีกวันหนึ่ง เรียกว่าสมองนี่อ่านเรื่องนี้แล้วร้อนจี๋แทบจะเดือดปุดๆ แต่ก็สรุปได้ว่า แม้ เทวากับซาตาน จะมีฉากหลังยิ่งใหญ่อลังการณ์ ไม่ว่าจะเป็นนครวาติกัน โรม สุสานของโป๊ปและสุสานอันแท้จริงของนักบุญปีเตอร์ แต่ Da vinci Code ลุ่มลึกกว่าอยู่ดี ข้อเสียเล็กๆ คงจะเป็นที่เนื้อเรื่องออกแนวพระเอกเฮงเหลือเชื่อไปหน่อย อันนี้ฉันไม่ได้พูดถึงไหวพริบในการเป็นนักแก้ไขปัญหาของพระเอกนะ แต่เรื่องตกเครื่องบินตอนสุดท้ายต่างหาก โว้ย.... รอดมาได้ยังไงเฟร้ย....ไม่น่ารอดเลย กับอีแค่ผ้าคลุมคอปเตอร์ แถมยังขัดใจเล็กๆที่พระเอกของเรา นอกจากช่วยหญิงแล้ว พี่แกช่วยอะไรใครไม่ได้เล้ย แม้จะมีปืนอยู่ในมือจ่อๆกับคนร้ายแล้วก็เหอะ แล้วเจ้าหัวหน้ากองทหารสวิสน่ะ โว้ย... ปูพื้นมาซะดิบดี บทจะไปก็ไปซะอย่างงั้น ไม่ได้โชว์อะไรสักแอะ แล้วไม่น่าเชื่อว่านักฆ่าคนเดียว จะทำการทุกอย่างได้สำเร็จ นี่ถ้าไม่นับว่าพระเอกไปขัดขวางตอนจบ ก็ถือว่า อีตานักฆ่าบรรลุวัตถุประสงค์ของงานทุกอย่างอ่ะดิ แถมเรื่องนี้ยังโหดกว่า Da vinci Code แยะ เฮ้อ ...จะผิดไหมว่าตลอดทั้งเรื่องฉันเชียร์หลวงพี่ผู้แทนโป๊ปมากกว่า บรรยายซะหล่อจนหลงเลย ยิ่งตอนที่คุณหลวงพี่ถอดเสื้อวิ่งปุเลงๆ ไปทั่ว ถ้าฉันนั่งดูถ่ายทอดสดไปด้วย คงหัวใจละลายไปแล้ว

อ่า... อ่านหนังสือของแดน บราวน์มา 2 เล่ม กลับจับไต๋พี่แกถูกซะแล้ว อะไรที่คุณอ่าน มักจะไม่ใช่อย่างที่คุณเห็น คนที่สมบูรณ์แบบที่สุด ดูผ่องแผ้วที่สุด และเป็นคนดีเอื้อเฟื้อที่สุด มักจะคือ Boss ใหญ่ในที่สุด การกำเนิดของหลวงพี่ของเรื่อง ฉันคิดว่า จงใจจะให้รันทดมากเกินไป เหลือเชื่อเกินไป นี่เกือบพลิกดูประวัติของแดน บราวน์ซะแล้วว่า แกมีเชื้อสายเกาหลีหรือชอบดูหนังเกาหลีหรือเปล่า ? ในแง่ความสมจริงของเทวากับซาตาน ฉันว่าพล็อตมันยังเหลือเชื่อเกินไป เหมือนเจมส์ บอนด์ 007 เวอร์ชั่นพระเอกไม่บู๊มากกว่า

ส่วนฉากที่ประทับใจที่สุด คงเป็นฉากบุกสุสานนักบุญปีเตอร์นะ ก็เหมือนๆ เด็กที่โตมากับศาสนาคริตส์ ก็ย่อมอยากรู้ว่าที่จริงแล้ว สุสานของนักบุญปีเตอร์หรืออัฐิของนักบุญปีเตอร์เป็นยังไง ถ้าที่ใต้นครวาติกันเป็นอย่างนั้นจริง ก็ถือว่าฉันก็ถึงซึ่งวัตถุประสงค์แล้ว หาเอกสารเกี่ยวกับสุสานนักบุญปีเตอร์ในสภาพปัจจุบันอ่านยาก นี่ว่าจะ search หาอ่านอยู่เหมือนกัน ว่าใต้นครวาติกันเป็นอย่างนั้นจริงหรือเปล่า ?

ส่วนสิ่งที่ประทับใจที่สุด ก็คงเป็นตัวหนังสือสมมาตรของอลูมินาตินั่นเองค่ะ ไม่รู้แดน บราวน์คิดเอง หรือมันมีอยู่จริงๆ นะคะ แบบนี้ต้อง search แล้วค่ะ

ส่วนการกำเนิดของปฏิสสาร จะว่าทุกสิ่งเกิดจากความว่างเปล่าได้ยังไง ? ก็เห็นๆ อยู่ว่ากำเนิดขึ้นจากอนุภาค 2 อนุภาควิ่งเข้าชนกัน ก่อให้เกิดสสารและปฏิสสาร ไม่ใช่ว่า สูบท่อทดลองให้ว่างเปล่า ปราศจากทุกสิ่ง แล้วตูม! เกิดสสารและปฏิสสารขึ้นมาเสียหน่อย ใช่ไหมล่ะ ?

ส่วนเรื่องนี้หมิ่นศาสนาหรือเปล่า ? ฉันว่า ไม่นะ เพราะอ่านประวัติศาสตร์จริงๆ วู้ย...โป๊ปแต่ละองค์ มันส์กว่านี้อีก ยิ่งสมัยที่โป๊ปมีอำนาจทางการเมืองด้วย หักเหลี่ยมเฉือนคมกันน่าดู มีแม้กระทั่งหญิงปลอมตัวเป็นชายขึ้นเป็นโป๊ป แถมยังคลอดลูกกลางงานอีก โฮ่...

ตอนที่โป๊ปจอห์น ปอลที่ 2 ท่านสวรรคคต มีสารคดีเกี่ยวกับวาติกันให้ดูเพียบเลย แล้วที่เด็ดที่สุดในสมัยของโป๊ปท่านนี้คือ เอกสารลายมือสารภาพ(ที่โดนบังคับ)ของกาลิเลโอ กาลิเลอี เรื่องที่โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์ว่าไม่เป็นความจริง เป็นกระดาษสีเหลืองๆ สีตัวหนังสือลายมือเรียงเป็นแถวยาวเต็มหน้ากระดาษ รู้สึกที่เขาเอาออกมาให้สาธารณะชนดู เพราะว่าทางวาติกัน ประกาศขออภัยต่อกาลิเลโอ ในสมัยโป๊ปจอห์น ปอลที่ 2 นี้เองค่ะ โอ... หลายร้อยปีต่อมา....

Dan Detective School (Vol. 14 – 20)

ตอนแรกตั้งใจจะซื้อเก็บไว้นะ แต่หลังๆมา ชักเริ่มเปลี่ยนใจว่า เช่าอ่านอย่างเดียวดีกว่า ฉันว่า ปมปริศนาในเรื่องมันไม่ค่อยซับซ้อน แถมแรงจูงใจยังไม่ค่อยได้ใจสักเท่าไหร่ และที่สำคัญ เรื่องมันออกแนวเดะๆ มากเกินไป โอย... ดาวมฤตยูอะไรนั่น ทำไม๊ 5 แต้มง่ายๆ ปานนั้น นอกจากอีตาเคเลบอสขวัญใจคนเขียนแล้ว นอกนั้นดูไม่ค่อยได้เรื่องสักเท่าไหร่ มันเลยกลายไปเหมือนการ์ตูนยอดมนุษย์ที่ส่งตัวร้ายออกมาตอนละคน ในขณะที่พวกพระเอกมีฝูงหนึ่ง สรุปแล้ว ตัวร้ายก็โดนพวกพระเอกยำไปตามระเบียบ

ส่วนหนูริว ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงอยากจะเป็นทายาทยอดนักสืบ Dan กันนัก แค่ลำพังฐานะและสติปัญญา ไปเปิดสำนักงานนักสืบเองรุ่งกว่ามั้งนี่ ถ้ายังอยู่เพื่อคิวและเพื่อนๆนี่ก็พอเข้าใจ แต่เพื่ออาจารย์แดนนี่ นึกไม่ออกจริงๆ ว่าซาบซึ้งอะไรกันนักหนา ??!!

ส่วนปมของตัวละคร ดูมันง่ายๆ ไม่ซับซ้อน ความลับของริว กับปริศนาของคิว มันก็เผยออกมาง่ายๆซะอย่างนั้น ไม่คิดจะให้จะกดดันคนอ่าน หรือหลอกให้เซอร์ไพรส์กันบ้างเล้ย คนอ่านอย่างฉันก็ได้แต่นึกว่า “กรูว่าแล้ว” คิดอีกที ฉันว่าเค้าจะรีบจบมากกว่า ปาเข้าไปเล่มที่ 20 แล้ว เดี๋ยว 22 เล่มก็จะจบล่ะ แต่ที่น่าประหลาดใจมากคือ ต่อม Y ของฉันไม่ทำงานกับคิว/ริว เลยวุ้ย แม้ว่าน้องริวเธอจะงามหยดย้อย เป็น Bishounen อย่างภาคภูมิ แถมคนเขียนยังทอดสะพานเสริมเหล็กหล่อคอนกรีตให้สาว Y ว่า คิวกับริวอยู่บ้านหลังเดียวกันนา แถมฉาก fan service อีกเยอะแยะ แต่มันจิ้นไม่ออกเลยจริงๆ สู้เคเลบอส/ริว แหม้....เหมาะกันมากกว่า คริ...

อีกไม่กี่เล่มก็จะจบแล้ว อ่านๆ ไปเถอะค่ะ ถ้าชอบเรื่องแนวสืบสวนสอบสวน เรื่องนี้ก็ไม่เสียเวลาที่จะอ่านหรอก

โคนัน (เล่ม 35 – 42)

จำไม่ได้แล้วว่าอ่านถึงเล่มไหน คงราวๆเล่ม 26 – 27 มั้ง แต่ว่าขี้เกียจไปรื้อฟื้นความทรงจำ หยิบเล่ม 35 ได้ เลยคว้ารวดไปถึงเล่ม 42 เลย อ่า... ไม่มีอะไรจะพูดถึงมาก เพราะโคนันก็ยังเป็นโคนัน แต่ที่อยากบ่นคือ มันตายกันถี่มากไปหรือเปล่า ? ไม่ว่าโคนันและผองเพื่อนเด็กประถมจะย่างเท้าไปไหน ต้องมีคนตายตามเสมอ ไม่ว่าจะไปยิงนก ตกปลา เข้าป่า แคมป์ปิ้งหรือออกเดท เดินอยู่เฉยๆ ก็ยังมีคนตายใส่เลย ฉันว่าพวกรันกับเด็กๆ คงชินกับคนตายไปเรียบร้อยแล้วง่ะ เคยนับกันจริงๆหรือเปล่านี่ว่า คนตายในเรื่องโคนันปาเข้าไปกี่ร้อยคนแล้ว ?!

พวกบุรุษชุดดำ ฉันว่า คงอีกนานกว่าโคนันจะจับตัวได้ พักไหนคนอ่านชักลืมๆ ก็จะมีบทโผล่ออกมาบ้างแล้วก็ไม่มีอะไรคืบหน้ามากนัก เอาเป็นว่าวันไหนเจอพวกบุรุษชุดดำ วันนั้นก็อวสานโคนันก็แล้วกัน ที่จริงโคนันไม่ต้องไปขวนขวายจับตัวชายชุดดำเล้ย ปล่อยไว้ เดี๋ยวก็คงโตน็อครอบชินอิจิเองแหละ ไม่น่าเดือดร้อน เคยนับกันจริงๆ หรือเปล่าว่าโคนัน นับตั้งแต่เป็นเด็กผ่านมากี่ปีแล้ว ??

คินดะอิจิกับคดีฆาตกรรมในตระกูล อินุงามิ

หนังสือเล่มปิด trip เชียงใหม่ ระหว่างหนังสือผีของผู้เขียนคนเดียวกับ The Ring (ที่ตอนหลังพลิกผันเป็นแนววิทยาศาสตร์ซะอย่างงั้น) กับ คินดะอิจิ ที่คินดะอิจิเฉือนชนะไปได้ เพราะเล่มบางดี คิดว่าน่าจะอ่านจบไว เพราะต้องรีบกลับกรุงเทพฯแล้ว ก็คว้ามา แต่ทว่า ดันไปหลงรักชายหนุ่มร่างเล็ก รูปร่างไม่สะดุดตา อายุราวๆ 35 – 36 ปี สวมฮากามะ ผมยุ่งเหยิง มักพูดติดอ่างเวลาตื่นเต้น อ่านไปแล้ว ฉันคิดว่า อ.โฮบะหรือไม่ก็อ.โอบาตะต้องเป็นแฟนคินดะอิจิแน่เลย เพราะเท่าที่อ่านมา บุคลิกของคินดะอิจินี่ คล้ายๆ L (Death Note) เสียแต่ L ดันแอบ (Abnormal) กว่าเท่านั้นเอง (หัวเราะ) ก็รู้สึกลักษณะการพูดจาคล้ายๆกันน่ะค่ะ พูดถึง L แล้วนึกขึ้นได้ว่า Death Note ได้แปลเป็นภาษาอังกฤษในอเมริกาแบบ licensed ด้วย แต่ที่น่าเสียดายที่ผู้แปล ดันไปจับเอาแต่บุคลิกแบบเด็กๆ ของ L เป็นธีมหลัก เพราะฉะนั้นการพูดจาของ L ในแปลภาษาอังกฤษฉบับเป็นทางการ L จะพูดจาเหมือนเด็กเล็กๆ ไม่ได้แสดงความฉลาด สุภาพดังผู้มีการศึกษาดีและเป็นอัจฉริยะเลย น่าเสียดายจริงๆ

มาถึงเนื้อเรื่อง ก็ไม่ได้มีประเด็นให้พูดถึงสักเท่าไหร่ เพราะพูดมากไปก็จะเป็น spoil มากจนเกินงาม นึกว่าจะ Y แต่ก็ไม่ Y ซะอย่างงั้น (ชิ ! ) แต่ความรักความแค้นที่เกิดขึ้นในตระกูลอินุงามิ มาจากความรักอันซับซ้อนซ่อนเงื่อนที่คุณตาฮาเซต้นตระกูลอินุงามิ(ก่อเรื่อง)ทิ้งไว้นั้นเองค่ะ พี่แกเล่นงานลูกหลานเสียยับเลย ประเด็นที่ทำเอาอึ้งๆ ไม่ใช่การเฉลยว่าใครเป็นฆาตกร หรือแรงจูงใจของฆาตกรนั่นหรอกค่ะ แต่เป็นเรื่องของคุณตาฮาเซต่างหาก ที่มันยุ่งพัลวันพัลเกกันไปหมดนั้น ฉันว่า มันเกิดจากความบกพร่องในความเป็นพ่อของแกมากกว่า แกอาจจะไม่สามารถเป็นสามีที่ดี แต่แกเป็นพ่อที่ดีได้ไม่ใช่เหรอ ? งานนี้เลยกลายเป็นว่า คนที่ไขคดีปริศนาได้ น่าจะเป็นอีตาเจ้าอาวาสจอมจุ้นอยากรู้อยากเห็นนั่นซะแล้ว ถ้าแกไม่หย่อนระเบิดลูกนั้น ก็ไม่รู้คินดะอิจิจะไขคดีออกหรือเปล่า ? ฮะๆๆ

แต่เห็นทีจะต้องไปหาคินดะอิจิ series อื่นๆ มาอ่านซะแล้ว


อ่านจบแล้วต้องวาดรูป คินดะอิจินี่ ในหัวเป็นภาพ Katori Shingo ของ วง SMAP ลอยมาแต่ไกลเลย แต่ไป search ดูตาม web ไหงคินดะอิจิเป็นตาแก่ไปได้ แต่เราก็วาดเด็กไปนะ

แปะรูป Shingo หน่อย กลัวคนจำหน้าไม่ได้


นี่ก็หนุ่มหล่อสาวสวยประจำเรื่อง สุเกะคิโยผู้แสนดีกับทามาโยะผู้แสนสวย บรรยายหล่อและสวยจนซะอยากเห็นหน้าจริงๆ


แต่ที่จิ้นไม่ออก คงเป็นตอนที่คินดะอิจิเล่นสกีแหละค่ะ อยากเห็นชุดเล่นสกีของพี่แกจังเลย




 

Create Date : 09 มกราคม 2549    
Last Update : 9 มกราคม 2549 17:27:42 น.
Counter : 1036 Pageviews.  

.....ลาทีปีเก่า 2548.......

รำพึงรำพันเรื่อยเปื่อย ส่งท้าย

วันเวลาผ่านไปไวเหมือนลมพัดผ่าน รู้สึกเหมือนฉลองปีใหม่ 2548 มาไม่นานมานี้ อ้าว.... กลายเป็นปีเก่าไปซะแล้ว .... บล็อคนี้จำได้ว่าสร้างขึ้นเมื่อต้นปี 2548 เดือนไหนไม่แน่ใจ ขี้เกียจค้น ตอนที่สร้างขึ้น ก็เพื่อ Spoil Death Note โดยเฉพาะแหละค่ะ เพราะตอนนั้น ปัญหาเรื่องคนไม่อยากถูก Spoil ชักจะวิกฤติขึ้นทุกทีบนหน้ากระทู้รวมห้อง pantip เรารึพออ่านแล้วก็อยากจะเม้าท์บ้าง ก็เลยแค่ขอตะโกนในโอ่งบ้างก็คงจะดี ก็ตอนสร้าง blog ก็คิดอยู่แล้วว่าคงไม่ค่อยมีใครเข้า แต่ก็ไม่นึกเหมือนกันว่าจะสามารถทำลากยาวมาจนถึงทุกวันนี้ ทุกทีทำอะไรไม่เคยได้อยู่นาน

เมื่อก่อนก็เคยฝันนะ ว่าอยากมี website เป็นของตัวเอง ซื้อหนังสือสร้าง website มา ก็หมดเงินไปหลาย แต่ก็ไม่ได้สร้างสักที เหตุเพราะชีวิตพลิกผันด้วยล่ะ จากที่เคยเพรียบพร้อมทุกอย่าง กลายมาเป็นคุณหนูตกยากอยู่ในกรุงเทพฯ พอชีวิตเริ่มนิ่งอยู่ตัว กลับกลายเป็นว่าไม่มี net ใช้ ไม่มีบ้านอยู่ ไม่มีรถขับ ไม่มีข้าวกิน ต้องนอนแต่หัวค่ำ ตื่นแต่พระอาทิตย์ไม่ขึ้น เพื่อนฝูงที่เคยมีคับคั่ง online หายเกลี้ยง โถ...ไม่ online คุยกับเค้าแล้วใครที่ไหนจะมาคบ ?

โชคดีที่วิวัฒนาการทางเทคโนโลยีมากอบกู้ชีวิต website สำเร็จรูปอย่าง blog นี่ มาช่วยเราเอาไว้ได้เยอะเลย แม้ว่าจะทำได้แค่ blog จืดๆ blog หนึ่ง แต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไรเลย ม่ายหรอก... ความจริงเมื่อก่อนเราใช้ net แค่ 54K web ไหนลูกเล่นหรือกราฟิคเยอะ เรานั่งรอจนรากงอกเลย เบื่อสุดๆ ก็คิดว่า ถ้าได้ทำ blog จะไม่เน้นกราฟิค ว๊าก! (ไม่มีปัญญาทำด้วยแหละ

=================================

Otaku และ Yaoi ความหมายที่แปรเปลี่ยน

ตอนนี้ฉันกลายเป็นสาว Y ไปซะแล้ว ทั้งที่เมื่อก่อน เราเป็นพวกนิยม Homo

คำว่า Y ย่อมาจากคำว่า YAOI ความจริงแล้ว คำนี้ มันรวมๆ มาจากคำย่อภาษาญี่ปุ่น 5 คำ เอาแค่อักษรตัวหน้ามารวมกัน แล้วกลายเป็น YAOI ความหมายของ YAOI คือ "มุ่งตรงไปสู่ภูเขา" ก็คือ มุ่งแต่เรื่องนั้นล้วนๆ ไม่มีต้องมีเนื้อหาสาระใดๆ พูดตรงๆก็ YAOI คือการ์ตูนชาย-ชายที่ประกอบกิจกรรมต่ำกว่าสะดือโดยไม่สนใจเนื้อหา หรือ อะไรคู่กับใคร ความหมายคงไม่ค่อยดีนัก ถ้าคุณเป็นพวก YAOI ก็หมายถึง คุณเป็นพวกลามกสุดๆ นั่นแหละ เมื่อก่อนใครชอบการ์ตูนไม่ว่าแนวหญิง-หญิง ชาย-ชาย เราเรียกรวมกันหมดว่าพวก Homo แต่ปัจจุบัน เราแตกหน่อมาเป็น YURI และ YAOI ซะแล้ว ไม่รู้มันเริ่มแต่เมื่อไหร่ แต่คงจะเริ่มจากยุคการ์ตูน Online เฟื่องฟู ถ้ามันมีฉากรุนแรงหรือโจ๋งครึ่มมาก เขาก็จะมีตัวเตือนว่า YURI หรือ YAOI นะ แน่ละ สัญชาตญาณมนุษย์ คนมันก็ชอบคลิก การ์ตูนใสสะอาดมีเรอะจะรีบคลิก คลิกกันหนักๆ เข้า ก็รู้ว่าเราหาใช่ประชากรส่วนน้อยของโลกอย่างแท้จริงไม่ ก็เกิดมีสิทธิมีเสียงดังขึ้นมา ละลายกลายเป็นกระแสหลักได้เหมือนกัน

Hentai ก็เช่นเดียวกัน ความหมายก็พวกลามกเหมือนกันนั่นแหละ

ตอนนี้เราพูดได้เต็มปาก "เราชอบ Y นะ" หรือ "ผมนิยม H ครับ" ได้อย่างไม่ขัดเขิน เพราะกาลเวลา ช่วยขัดเหลี่ยมความลามกจนกลายเป็นนิยามใหม่เสียแล้ว

เช่นเดียวกับคำว่า Otaku เริ่มนำมาใช้กันมากขึ้น จากความหมายในทางลบ กลับมีแนวโน้มเปลี่ยนเป็นขั้วบวกมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นนิตยสาร Otaku หรืองาน Otakon ที่จัดกันโครมๆ บ่อยๆ ในอเมริกาและยุโรปของกลุ่มคนรักการ์ตูนชาวตะวันตก (งานเค้าใหญ่นะ มีเชิญนักร้องดังๆ จากญี่ปุ่นไปด้วย) แม้ว่ายังมีบางคนที่ยังยึดติดกับนิยามแต่เดิมของมัน และออกตัวเสมอว่า อย่ามาเรียกเขาว่า Otaku แต่เชื่อเถอะ สักวัน คำว่า Otaku จะเหมือนคำนิยาม กลุ่มคนรักการ์ตูนธรรมดาๆ คำหนึ่ง ไม่ใช่พวกที่หมกหมุ่นอยู่ใต้กระโปรงเด็กผู้หญิงแน่นอนจ้ะ

รอหน่อยก็แล้วกัน

=================================
วาดรูปปิดท้ายปีเก่า

เอารูปเก่ามา recycle เสียอย่างนั้นล่ะ ฮะๆๆๆ ไม่ว่าจะเป็น circle Houseki หรือ Ai-love love ต่างก็มี style ที่แสนจะเร้าใจ เหมือนว่าจับดินสอมาขูดๆ กับกระดาษ ปาดๆ สี ว้าย! ไหงออกมาสวยอย่างนี้ ??!! ก็เลยหัดทำมั่ง แต่ดูเหมือน "เป็นตัวของตัวเองนั่นแหละ ดีแล้ว" จะ work กว่า หรือจะพูดอีกอย่างว่า "ไม่มีปัญญาทำอย่างเขาเฟร้ย!!!" คนที่จะลงสีแบบนั้นได้ คงต้องแม่นเรื่องเส้น+สีแล้ว คงต้องมั่นใจในตัวเองสุดๆ อีกด้วย

เอารูปมา recycle

ใช้น้ำนี่ ไม่ work เลยค่ะ ถ้าจะมาเล่นปาดเร็วๆ ต้องระวังการกระจายตัวของสีน้ำด้วย


ปรับไปใช้อีกโหมดหนึ่งของ Painter จำไม่ได้แล้วว่าอะไร แต่ผลออกมาก็พอดูได้นะ


ลองเล่น fusion กับ tablet ดู ผลคือ เล่นกระดาษดินสอเหมือนเดิมง่ายกว่า


ข้างหลังนั่นมั่วเอา กะจะให้เมลโลกับเนียร์เดินควงกันในวันปีใหม่ที่มีแสงไฟระยิบระยับ เห็นเมลโลแล้วเป็นห่วง ใส่เสื้อเปิดพุงกลัวเป็นหวัดจังเลย

update จนนาทีสุดท้ายเลยฉัน เจอกันปีหน้านะ

สวัสดีปีใหม่ค่ะ




 

Create Date : 30 ธันวาคม 2548    
Last Update : 30 ธันวาคม 2548 13:56:09 น.
Counter : 961 Pageviews.  

Death Note page. 91 .... Cessation......

ควรจะได้ update แต่เช้า แต่กลับกลายเป็นว่า ต้องมานั่งพิมพ์ใหม่ โทษใครไม่ได้นอกจากความเฟอะฟะของตัวเอง นั่งเขียนตั้งแต่เมื่อคืน ดันลืม save มา online เสียนี่ อ่า... หมดแรงค่ะ ความจริงกะว่าจะ update วันพรุ่งนี้เอา งอน... ไม่อยากเขียนใหม่ แต่ว่าอาทิตย์นี้ฉันมีโปรแกรม update เพียบเลยอ่ะ ทิ้งทวนก่อนถอดปลั๊ก (สำนวน The Matrix) ไปนอนตากหมอกที่เชียงใหม่ 1 อาทิตย์

อาจจะห้วนๆ เหมือนคนไร้อารมณ์ไปบ้าง ก็ขออภัยท่านผู้อ่านค่ะ ....

Death Note ตอนที่ 91 “Cessation”

ไม่มีหน้าเปิด แหม...น่าเสียดาย

หลังจากที่ไลท์และเนียร์ประกาศสงครามกันไปแล้ว และไลท์เตรียมพร้อมแผนรับมือเนียร์ไว้แล้วเช่นกัน ภาพบนทีวีปรากฏรายการของทาคาดะ คิโยมิ ประกาศชื่อบอดี้การ์ดสาวกลุ่มใหม่ ที่จะมาทำหน้าที่อารักขาทาคาดะ ในจำนวนนั้น ปรากฏอดีต CAI Hal Rinder อย่างเปิดเผย ไอซาว่าแม้จะเคยพบ Hal มาก่อน และเนียร์ก็เคยกล่าวอนุญาตให้ไอซาว่าบอกแต่ไลท์ได้ว่า ถ้าพบสมาชิกของ SPK สามารถบอกได้เลย แต่ไอซาว่ากลับตัดสินใจนิ่งเฉยไม่บอกไลท์เสียอย่างนั้น

Hal โชว์ทั้งหน้าและชื่ออย่างไม่ปิดบัง สงสัยทีม SPK ถ้าใครจะตายก่อน คงเป็นเจ๊ Hal นี่แหละ

ส่วนไลท์นั้น เดาได้ไม่อยากว่า Hal Rinder อดีต CIA ต้องเป็นสมาชิกของ SPK แน่นอน แต่อย่างไลท์หรือจะหวั่นไหว ? เพราะเตรียมแผนรับมือไว้พร้อมแล้ว ไลท์คิดถึงเรื่องที่ควรจะทำต่อไปต่างหาก (คือแผนโฉดอะไร ?)

มิสะนั้น เมื่อกลับเข้าวงการณ์อีกครั้งแม้จะได้ร่วมรายการขาว-แดง แต่ก็ไม่ได้รับตำแหน่งสำคัญ แถมยังไปปะทะกับทาคาดะเข้าเสียอีก แต่โดน Hal เข้ามาขวางไว้เสียก่อน มิสะก็เพียงแต่อาฆาตไว้ในใจ (ทาคาดะนะ ไม่ใช่ Hal)

ไม่สามารถพลาดรูปนี้ได้ แสดงว่า Hal เก่งมาก คราวเมลโลน่ะ คิดว่าถ้า Hal เอาจริง คงเหวี่ยงเมลโลกระเด็นได้เหมือนกัน

ฝ่ายเนียร์นั้น พยายามคิดหาเหตุผลว่า เพราะเหตุใดทาคาดะ คิโยมิถึงได้รับเลือกมาเป็นโฆษกของคิระ ในเมื่อมีผู้ประกาศมากมายก่ายกองในโลกนี้ และบางคนได้รับความนิยม หรือมีความน่าเชื่อถือมากกว่าทาคาดะเสียอีก เนียร์ถามเห็นของทั้งเลสเตอร์และเจอวานี เพื่อดูความเห็นของบุคคลทั่วไป แต่ก็ไม่มีใครสามารถให้คำตอบที่แน่นอนว่า ทำไมถึงได้เลือกทาคาดะ สาวโง่เง่าขนาดนั้นมาเป็นโฆษก (ยังไม่วายกัดทาคาดะอีกนะเนียร์)

เนียร์ถามความเห็นจากเลสเตอร์ (แหม...ชอบหุ่นบึ้กๆ ของเลสเตอร์จังเลย)

เนียร์วิเคราะห์จากการเลือกโฆษกของคิระจากครั้งเดเมงาวะ เห็นได้ชัดว่าคิระเลือกผู้ที่เห็นชอบกับตนแม้ว่าจะเป็นคนโง่เง่าขนาดไหนก็ตาม แต่คิระรู้ได้อย่างไรว่า ทาคาดะเป็นสาวกของคิระ เพราะเธอไม่เคยแสดงว่าชื่นชมคิระหรือกล้าแสดงความเห็นเกี่ยวกับคิระมาก่อน โดยเฉพาะก่อนหน้าการพบปะกับบุคคลหนึ่งอย่างลับๆ และเนียร์ก็ไม่คิดว่า ไลท์ หรือ L-คิระ จะเป็นผู้เลือกทาคาดะเอง เพราะถ้าอย่างนั้น เธอจะต้องแสดงความเห็นชื่นชมบูชาคิระนับตั้งแต่วันแรกที่ได้พูดในฐานะตัวแทนของคิระแล้ว เนียร์คิดว่า บุคคลที่เลือกทาคาดะ ต้องเป็น X-คิระ อย่างแน่นอน เนื่องจากการที่ไลท์ถูกเนียร์แฉกฎ 13 วันปลอมนั้น สมาชิกใน NPA ย่อมกลับไปสงสัยในตัวไลท์อีกครั้ง ทำให้ไลท์ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้โดยปราศจากการจับตา ไลท์ย่อมทำให้ตัวเองน่าสงสัยน้อยที่สุดโดยการทำลายหลักฐาน ส่งเดธโน้ตให้กับ X-คิระ แต่หลังจากนั้น ไลท์ก็ไม่สามารถติดต่อใดๆ กับ X-คิระได้

เมื่อเนียร์คิดว่า X-คิระ เป็นผู้เลือกทาคาดะ และต้องเป็นทราบว่าทาคาดะเห็นด้วยกับคิระ แสดงว่า X-คิระ และทาคาดะต้องเคยรู้จักกันมาก่อน เนียร์จึงให้เลสเตอร์และเจอวานีสืบสวนเรื่องทาคาดะต่อไป โดยเนียร์จะเป็นฝ่ายสืบหาจาก cd รายการที่ทาคาดะจัดขึ้นให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ในที่สุด เนียร์ก็สะดุดตาเข้ากับอัยการหนุ่มผู้หนึ่ง และเนียร์ก็จำได้ทันทีว่า ชายผู้นี้คือคนที่ปรากฏตัวในรายการอณาจักรของคิระ และถามความเห็นคิระเรื่องโฆษกคนใหม่

ความสามารถพิเศษของเนียร์ สามารถตรวจดูรายการทีวีต่างๆ มากมายในเวลาเดียวกัน แต่มุมนี้เหมือน L มากจัง

เมื่อเนียร์ไล่เรียงเหตุการณ์ทุกอย่าง ก็พบว่า มิคามิ เทรุ เคยปรากฏตัวในรายการของทาคาดะถึง 2 ครั้ง นั่นก็มากเพียงพอที่จะทำให้ทั้ง 2 คนสนิทสนมกันระดับหนึ่ง ไม่เพียงเท่านั้น แนวความคิดของมิคามิที่แสดงในรายการของทาคาดะ เป็นแนวความคิดเดียวกับ X-คิระ ที่เห็นว่าควรจำกัดคนที่ทำตัวไร้ประโยชน์ ในที่สุด


ในที่สุด เนียร์ก็หาตัวละครที่หายไปพบ ?!

เนียร์จับเหตุการณ์ทั้งหมดมาเรียงร้อยเข้าด้วยกัน พบว่ามิคามิ เทรุ คือผู้ต้องสงสัยว่าคือ X-คิระ และจากความสัมพันธ์กับทาคาดะเป็นการมัดตัวยางามิ ไลท์ ด้วยว่า คือ L-คิระ

เนียร์สั่งเลสเตอร์เลิกติดตามทาคาดะ และเปลี่ยนเป้าหมายไปเป็นมิคามิ เทรุ

เนียร์จะทำอย่างไรกับมิคามิ เทรุผู้ซึ่งมีดวงตายมฑูต ? ไลท์เตรียมแผนอะไรไว้รับมือกับเนียร์ ? แล้วเมื่อไหร่เมลโลจะมีบท ? อาทิตย์หน้า Jump หยุดปีใหม่ค่ะ งดอีกแล้ว

แค่เนียร์น่ารัก อยากแปะอีกรูป

ตอนต่อไป “Night” (ใครจะไปทำอะไรค่ำๆ มืด)

My cup of tea.

เผอิญเช้านี้ได้ไปอ่าน comment ภาษาอังกฤษมา น่าตกใจมากที่มีคนไป comment ว่า การที่เนียร์พบว่า มิคามิ เทรุ คือ X-คิระ นี้ไม่น่าจะเป็นไปได้ (impossible) เออ...ก็เลยคิดว่า จะมีใครคิดแบบนี้บ้างไหม ? เพราะวิธีที่เนียร์คิดน่ะ มันแจ่มและเคลียร์มาก น้องเนียร์คิดเป็นขั้นๆ จนถึงบทสรุปในที่สุด เข้าใจง่ายจะตาย ถ้าจะให้ฉันติว่า impossible เนี่ย ฉันคงเลือกติที่ว่า ทำไมไม่สงสัยมิคามิตั้งแต่แรกเลยฟ่ะ ? วันที่มือถือไมค์ ไฟส่องหน้าแล้วพูดอะไรแปลกๆ ถามความเห็นของคิระในขณะที่คนอื่นเขาไม่เคยคิดกัน มันน่าสงสัยมากกว่า มันน่าหมายหัวตั้งแต่วันนั้นแล้ว พฤติกรรมแบบนั้นมันเตะตา แล้วยิ่งมิคามิเป็นชายหนุ่มที่สะดุดตาเสียด้วย (โดยเฉพาะกับสาวๆ ฮิ้ววววว.... ) แต่เผื่อว่า ใครอ่านแล้วงง จะสรุปวิธีคิดของเนียร์อย่างง่ายๆ เอาไว้ตรงนี้นะคะ

1. ทำไมถึงต้องเป็นทาคาดะที่ได้รับเลือก ? ในขณะที่คนธรรมดาทั่วๆไป คงไม่เลือกเด็กหน้าใหม่อย่างเธอ (เนียร์ถามความเห็นเลสเตอร์กับเจอวานีก็เพราะเหตุนี้)

2. หลังจากที่ไลท์ถูกแฉเรื่องกฎปลอม 13 วัน ทำให้กลับมาต้องสงสัยอีกครั้ง ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้โดยสะดวก เดเมงาวะเคลื่อนไหวอย่างไร้จุดหมาย ในที่สุดจึงถูกพิพากษา

3. หลังจากเดเมงาวะตาย 4 วัน มิคามิ ออกทีวีถามเรื่องโฆษกคนใหม่กับคิระ และหลังจากนั้น 4 วัน ทาคาดะได้รับเลือก ทาคาดะไม่เคยแสดงตนเป็นสาวกคิระ หรือเห็นด้วยกับคิระก่อนการได้รับเลือก

4. การพิพากษายังทำอย่างผิดสไตล์ คิระคนเก่าเช่นเดิม แต่หลังจากทาคาดะได้พบไลท์ ทาคาดะกล้าแสดงตนเป็นสาวกคิระมากขึ้น และแสดงความเห็นมากยิ่งขึ้น ถ้าไลท์เลือกเธอ ทาคาดะต้องแสดงความเขื่องแต่วันแรก (จากพื้นฐานนิสัยของทาคาดะที่เนียร์วิเคราะห์) การพิพากษากลับมาเป็นเช่นเดิม แสดงว่า ไลท์ย่อมไม่ใช่คนเลือกทาคาดะ แต่ด้วยความสัมพันธ์สมัยเป็นนักศึกษา ทำให้สามารถเข้าพบเธอเป็นการส่วนตัวได้

5. X-คิระต้องเป็นคนเลือกทาคาดะ โดยความเห็นส่วนตัว แสดงว่า X-คิระต้องรู้จักกับทาคาดะ เนียร์จึงสืบจากบุคคลที่รู้จักกับทาคาดะ โดยไล่ดูรายการที่เธอเคยจัด และพบมิคามิ ที่เคยไปออกรายการของทาคาดะ 2 ครั้ง และคือคนที่ปรากฏตัวในรายการอณาจักรของคิระ และมีแนวความคิดเช่นเดียวกับ X-คิระ

6. เนียร์จึงสรุปว่า มิคามิ เทรุ คือ X-คิระ และยิ่งมั่นใจว่า ไลท์ คือ L-คิระ

ฉันอธิบายงงไหมนี่ ? นี่ขนาดว่าเอาสั้นๆ แล้วเชียว ตัวหนังสือเยอะเป็นพิเศษเลยนะนี่ แต่ก็น่าเป็นห่วงเนียร์อ่ะ โดยเฉพาะคำสั่งเสียเลสเตอร์ว่า “ถ้าผมพลาดไป ช่วยดำเนินการสืบสวนต่อด้วยนะครับ” พูดงี้ทำม๊าย ?!! เหมือนสั่งเสียเลย ทำให้คิดไปว่า เนียร์จะลุยเอง เออ... ทำไมมีคนเป็นห่วงมิคามิมากกว่าเนียร์อีก ??!! มิคามิอุตส่าห์มีตอนเปิดตัวอุทิศให้ตั้ง 1 ตอน คงไม่รีบลาจอง่ายๆหรอกค่ะ

ส่วนตอนของ มิสะปะทะทาคาดะแล้วปิ๊ง Hal นี่ ตอนแรกกะไม่เล่าแล้วค่ะ แต่มาคิดว่า มันจะมีผลอะไรตอนหลังของเรื่องหรือเปล่า ? ถ้ามิสะมีเดธโน้ตนะ ทาคาดะตายไปแร้วว์ แต่จากคำพูดของมิสะนี่ ทำให้ฉันฉุกคิดว่า มิสะรู้เรื่องมากน้อยแค่ไหนกับความสัมพันธ์ของไลท์กับทาคาดะ เพราะอ่านดูแล้ว เธอรู้ว่าไลท์คบกับทาคาดะอยู่ แต่ไลท์คงจะบอกมิสะว่า แค่เรื่องงานน่ะ แหม๊... ไลท์นี่ขุนแผนจริงๆ งั้นไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องรถไฟชนกันแล้ว เพียงแต่ต้องเคลียร์พื้นที่ให้ดีๆ ก็แล้วกัน

เมลโล เมลโล เมลโล กำลังทำอะไรอยู่ ?? หรือว่าว่าโล้เรือสำเภาขึ้นฝั่งผิด ไปขึ้นฝั่งแผ่นดินจีนเสียแล้ว ??!! แหม๊... แอบหวังเล็กๆ ว่าเห็นมิสะ น่าจะเห็นเมลโลทำลับๆล่อๆ อยู่แถวๆนั้นด้วย คิดถึงน้า! ทราบแล้วเปลี่ยน !

ส่วนรูปนี้ กะจะวาดแซวเมลโลกับแมตต์ว่าคงกำลังโล้เรือสำเภาอยู่ ถึงมาไม่ถึงสักที แต่ในที่สุดก็เผา เอ้ย...ทำไม่ทัน เลยได้แค่นี้ ถ้ามีโอกาสจะลงสีแล้วเอามาให้ดูอีกทีก็แล้วกัน




 

Create Date : 26 ธันวาคม 2548    
Last Update : 26 ธันวาคม 2548 13:05:01 น.
Counter : 1387 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  

Pride
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ฮู้.... กว่าจะใช้ blog เป็น (คิดว่านะ) ต่อไปนี้ จะพยายาม update เรื่อยๆก็แล้วกัน ส่วนเนื้อหา .... คาดว่าจะจับฉ่าย ส่วนของ Let's talk ก็เรื่องสัพเพเหระ , secret window ก็จะเป็นเอ่อ.... อะไรที่มัน Y หรือ Homo นะ เพราะชอบอ่านการ์ตูน Y นิ เพราะฉะนั้น ไม่ชอบอย่า click เข้าไป ส่วน comic talk ก็เป็นการ์ตูนที่กำลังอิน หรือกำลังอ่านอยู่ค่ะ
Friends' blogs
[Add Pride's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.