Group Blog
 
All blogs
 

====Chill out Variety====

อาทิตย์นี้ แปลกแฮะ.... ไม่มีอะไรจะ update เพราะไม่ได้เตรียมข้อมูลอะไรดี พอดีว่าเจอ website ภาษาอังกฤษที่แปล Death Note ฉบับนิยาย [Another Note] อ่านด้วยใจเต้นตึกตั้กเลย เพราะโดนสปอยส์มาว่า ตอนจบหักมุมหักเหลี่ยมสุดๆ

ได้ข่าวแล้วใช่ไหมคะว่า อาจจะมีการสร้าง Death Note Movie ภาค 3
Death Note Gaiden
และจากแหล่งนี้
Death Note News

หลังจากเอา Another Note มาอ่านแล้ว ทำให้เป็นกังวลว่า มันจะใช้เป็นเนื้อเรื่องโชว์พาว์ของ L ไม่ได้เลยน่ะสิ ? เอ... คิดๆ ดูแล้ว L นี่ เก่งจริงๆ หรือเปล่านี่ ?
ได้รู้อะไรเกี่ยวกับบ้าน Wammy เยอะเลยค่ะ บ้านชื่อตลก แต่ภายในหลอนจิตกว่าที่คุณคิด ! อ่านจบแล้วก็ให้ความรู้สึกมืดมนหดหู่สมกับเป็น Death Note จริงๆ

ใครทนไม่ไหวไม่อยากรอความเมตตาจาก NED อยากฝึกอ่านอ่านภาษาอังกฤษ ลองไป d/l ที่เขาแปลไว้ที่
deathgod.org
สำนวนภาษาอังกฤษอ่านง่ายดี แต่เล่นเนื้อๆ ไม่ค่อยมีน้ำ เรียกว่าเป็น spoil นิยายอย่างละเอียดมากๆๆๆๆ จะถูกกว่า





Blue Dragon

ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเริ่มพูดถึงเมื่อไหร่ดี เพราะลองได้เปิดปากพูด คงจะเล่นงานเต็มๆ แหม.... แค่ตามตอบกระทู้ก็กัดเลือดสาดไปเยอะแล้ว

ขอเวลาทำใจและกวาดอคติ(ที่คิดว่ามี)ทิ้งไปให้หมดก่อนเถอะ รออาทิตย์หน้าอีกสักอาทิตย์ก่อนก็แล้วกัน ยังไงเราก็ชอบงานของอ.โอบาตะ ทาเคชิมากๆ อยู่ดี




งาน Mainichi at MBK 2 nd Dec 2006

ผ่านไปว้อบแวบ เก็บภาพ Cosplay มาได้เล็กน้อย ตอนไปก็เกือบๆ บ่าย 3 โมงแล้ว บนเวที Cover Dance กำลังสนุกเชียว ความจริงวันนั้นตั้งใจไปหาซื้อของพันธุ์ทิพย์ เพราะห้างกำลังอยู่ในเทศกาลลดกระหน่ำ แต่ติดหล่มอยู่ที่ MBK ด้วยหลายเรื่อง สรุปแล้ว ไปไม่ถึงพันธุ์ทิพย์



ไปถึงก็นี่ก่อนเลย แก๊งค์ Death Note หลายคนเริ่มคุ้นหน้าแล้ว


แฝด Noah จาก D. Gray Man แต่ไม่ยักกะหิ้วคู่แฝดมาด้วย ถ้าได้คู่กันก็ดีสิเนอะ ?


Tiki หน้าหวาน ยังไงก็หล่อละนะ


Toshiya no Dir en grey ชุดนี้ของ Totchi สวยตลอดกาลไม่ว่าผ่านไปกี่ร้อยปีจ้า (สาวก Diru เชียร์กันไม่มีเม้ม )


ก่อนจาก กลุ่ม Death Note Gang ยังถ่ายรูปกันไม่เสร็จเลย เข้าไปแจมด้วยอีกแระ


มีแค่นี้เอง บอกแล้วว่าแค่วิ่งผ่านงานเฉยๆ เก็บแรงไว้รองานใหญ่ที่ 16 ธ.ค. นี้ค่ะ อยากดู Cover วงดนตรี

อ้อ.... วันที่ 10 ธ.ค. มีงาน Comic Party ที่โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ค่ะ สนใจไปกันได้ แต่ฉันช่วงนี้เหนื่อยมาก อยากจะพักสักอาทิตย์หนึ่ง คงไม่ไปนะ




เก็บเรื่องน้อยอกน้อยใจเป็นเรื่องสุดท้าย

เรื่องมันมีอยู่ว่า วันก่อนไป submit รูปที่ Deviantart 2 รูป คือรูป Vincent กะ Tsubomi ดังนี้



และ


รูปที่ตั้งใจและลงแรงลงไปมากที่สุดคือ รูป Tsubomi จาก Bud Boy ฮือ.... รู้แหละว่า การ์ตูนไม่ดัง แต่ไม่นึกถึงขนาดว่า มีคนแห่ให้ comment รูป Vincent แต่ไม่มีคนให้ comment รูป Tsubomi เลย

รูป Vincent ใช้โปรแกรม OC ปาดๆๆๆ เล่นๆ ไม่ค่อยใส่ใจ งานไม่เรียบร้อยเลย แต่กลับได้รับความสนใจ

เออ.... เหรอ ? (มึนๆ)

แสดงว่า การที่เราจะได้รับ comment แน่ะ มันขึ้นอยู่กับ fanart ที่เราวาดด้วยว่า มีคนรู้จักมากขนาดไหนเหรอ ?

หรือว่า...... หรือว่า..... หรือว่า......

เรามันห่วยเอง ?!


อ๊ากกกกกกกกกก...... *ระเบิดตัวเอง*!!!




กลุ้มใจตัวเองมาก .... ช่วงนี้ติดการ์ตูน เจปัง ทุกเช้าเสาร์-อาทิตย์ ช่อง ITV ฉายช่องไหนไม่ฉาย ดันมาฉายช่องที่เราอัดวิดีโอไม่ได้ (ยังเหลือวีดิโอในโลกนี้อีกเรอะ ?!) เมื่อเช้า วางแผนจะไปดู Death Note พากษ์ไทย แต่ปรากฎว่า ออกจากบ้านไม่ทัน ไม่อยากอยู่รอรอบต่อไปนานด้วย เลยต้องไปดูที่ลิโด้แทน เป็นครั้งแรกที่ดูหนังที่ลิโด้นะนี่ โรงดูโทรมๆ แต่ค่าดูหนังถูกดี จอก็พาโนราม่าซะด้วย คราวหน้าไปดู Eragon ที่โรงนี้ดีกว่า

สรุปแล้ว Death Note เราก็ไม่ได้ดูพากษ์ไทยจนได้




 

Create Date : 10 ธันวาคม 2549    
Last Update : 10 ธันวาคม 2549 19:20:46 น.
Counter : 1211 Pageviews.  

[PIC] Death Note Movie 2 : The Last Name (Event)

มาแปะทีหลัง review ตัวหนัง เพราะไม่อยากให้คนแค่อยากดูภาพ โดน Spoil

แต่ Spoil สำหรับ comic ตั้งแต่ตอนที่ 58

และเตือนว่า ภาพเยอะพอสมควร โหลดโหดนะ!

ต้องเรียกว่า เป็นภาพงาน Event ค่ะ เพราะไม่ได้ถ่ายรูปเจาะ Layers คนใดคนหนึ่งมาเลย (ยกเว้นที่ลำเอียงสุดๆ แอบยิงภาพ ToT)

นึกว่าเปิดรอบสื่อไปแล้วตั้งแต่วันที่ 18 พ.ย. เสียแล้ว แต่ความจริงแล้วรอบสื่อจริงๆ คือวันที่ 25 พ.ย. ที่ผ่านมา ด้วยบุญพา วาสนาส่ง มีคนเมตตา ก็ได้เกาะเป็นเห็บเข้าไปดูกะเค้าด้วยอีกครั้งหนึ่ง

ความจริงแล้ว ไปนี่ ก็ลุ้นบัตรเข้าดูน่าดูเหมือนกัน เพราะหลังจากได้โทรศัพท์แจ้งข่าวจากคุณ Es ก็ไปเชคข่าวจาก Internet ใช้ Google search เอาค่ะ เพราะหนนี้ดูเงียบๆ ชอบกล ปรากฏว่าปิดรับสมัครทั้ง cosplay และ คนดูรอบสื่อไปเรียบร้อยแล้ว

ความจริงก็ไม่ใช่ว่างกหรอกนะคะ แต่การได้ดู Death Note กับแฟน Death Note ทั้งโรงนี่ เป็นโอกาสที่อาจจะมีเพียงครั้งเดียวในชีวิต ก็น่าลุ้นอยู่ไม่ใช่เหรอคะ ? แต่ถ้าวันนั้นไม่ได้ตั๋วก็ไม่เป็นไร ยังไงก็ภาคสุดท้ายแล้ว อุดหนุนหนังของ M Picture เค้าหน่อย จะได้มีกำลังใจเอาหนังญี่ปุ่นดีๆ เข้ามาให้เราดู ไม่ใช่ติดอยู่กับหนังรักคุด หรือใสโป๊ะ หรือผีหลอกวิญญาณหลอนทั้งดูอีกทั้งปีทั้งชาติ เห็นว่าปีหน้าจะมี “คินดะอิจิ” และ “ฮานะซัง คนจะสวยช่วยไม่ได้” มาให้ดูอีกค่ะ (^_^)

ไปถึงงานเกือบบ่ายโมงแล้วค่ะ เพราะจากประสบการณ์คิดว่า กลุ่ม Cosplay มักจะเริ่มหนาตาเอาก็ตอนหลังเที่ยง ไปก่อนเที่ยงก็จะเจอแต่ความวังเวง แต่งานนี้เข้าใจผิดถนัดค่ะ เพราะปรากฏเค้าคึกคักกันตั้งแต่ก่อนเที่ยง อาจจะเป็นเพราะบัตรดูรอบสื่อ สำหรับคนธรรมดาที่ไม่ใช่ชื่อ ถ้าไม่ลงทะเบียนไว้กับนิตยสาร Otaku ก็ให้แค่ Layers ค่ะ งานนี้จึงมีกลุ่ม Cos สมัครเข้าร่วมชิงชัยถึง 47 กลุ่ม !

ไปถึงเค้ากำลังเริ่มการแสดงพอดี (คิดว่านะ) พอดีว่า การแสดงบนเวที น่าสนใจดี ก็เลยแหมะเกาะเวที มุมที่ได้ก็ไม่ค่อยดี ถ่ายรูปทิ้งขว้างไปเยอะ เม้าท์กับคุณ Es ไปด้วยอย่างเมามันส์โดยไม่ปิดกล้อง ผลปรากฏว่า งานนี้เลยไม่มีรูป Stalk layer มาเลย เพราะแบตกล้องหมดแบบตายสนิท ตั้งแต่การประกวด Cos ยังไม่จบ (T___T) เจ็บใจมาก เพราะงานนี้มี Cos โดนใจเยอะมากค่ะ โผล่มาตอนหลังก็เยอะ ไม่เคยไปงานไหนแล้วเสียดายไม่ได้ Stalk มากเท่านี้ มี Mello/Matt ที่อังการณ์งาน Cos มีน้องเนียร์ตาแป๋ว แก้มป่องที่น่ารักมากกกกกก (น้องเค้าน่ารักจริงๆให้ดิ้นตาย) เหมือนแกะมาจากต้นฉบับ มีมิคามิ เทรุที่เท่เกินห้ามใจ แต่บนเวทีเล่นเป็นฮิงุจิเฉยเลย ส่วนคนเหมือนฮิงุจิเล่นเป็นมิคามิไปโน่น (^^)”

เป็นสวรรค์สำหรับแฟน Death Note จริงๆ ค่ะ Cos ดีๆ สวยๆ เยอะเลย fan service เพียบ แต่สำหรับฉันไม่มีรูป Stalk ค่ะ มีแต่รูป event (ฮือ.....T[]T) การแสดงบนเวทีมีหลายรูปแบบค่ะ ตั้งแต่โชว์ตัวเฉยๆ จนถึงละครสั้น แถมมี Cover K-pop อีกต่างหาก (หลากหลายมาก) สนุกๆ เยอะค่ะ ดูรูปเท่าที่มีก็แล้วกัน (^_^)


กลุ่มนี้มุขอย่างฮา ยมฑูต ลุค กับ 'นั่ง' และ นาย "ไร้"(สาระ)


กลุ่มถัดมา มิสะเหมือนใน v. Movie มากเลย


ที่แท้ มิสะคือคนชนะในที่สุด โถ... ไลท์และ L


อย่าแปลกใจที่คุณจะเห็นรูปกลุ่มนี้เยอะเป็นพิเศษ เพราะฉันลำเอียงเห็นๆ กลุ่มนี้มีน้องเนียร์น่ารัก


และไลท์&L fanservice มากเป็นพิเศษ โอ... ชอบรูปมุมนี้จัง


L เจอกาแฟใส่ยาพิษเข้าไป ไลท์ตกใจมาก เพราะคิระคงไม่สิ้นคิดถึงขั้นวางยาเบื่อ L หรอก ?!


ไลท์ says : พระเจ้า คืน L มาให้ผมเถอะ คราวนี้ผมจะให้ L เล่นหมากรุกมากเท่าที่เขาอยากเล่นเลย (ผิดเรื่องไปป่าว ?!)


ที่แท้ลุคอยู่เบื้องหลังแผนฆาตกรรมเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดนี้ ?!



ไลท์ยังคร่ำครวญถึง L ไม่เลิก (อะไรจะรักกันขนาดนัน ?)


เสียดายที่ถ่ายตอนไลท์พยายาม mouth to mouth ผายปอด L ไม่ทัน fan service เยอะจริงกลุ่มนี้ ?!


มิสะออกมาเต้นประกอบเพลง "Oh! No! No!" ในขณะที่ไลท์และ L ยังนัวเนียกันไม่เลิก


น้องเนียร์ได้คราวออกโรงสักที โฮก.....น่ารัก รักเด็กขึ้นมาทันทีเลยฉัน


หุ่นนิ้วนั้น น้องเนียร์ที่เห็นนี่ เค้าบอกทำเองค่ะ ไม่ใช่ของที่แถมมาจาก HTR13


O.K. ค่ะ เปลี่ยนไปดูกลุ่มอื่นบ้าง นอกนั้นฉันเก็บไว้ดูเอง หุหุ อ่า...มุมนี้มี L เป็น background ทุกรูปเลย


กลุ่มนี้น้อง L ตีลังกาเก่งมากเลยค่ะ


นี่เป็นคดีพิศวาสฆาตกรรมค่ะ


เป็ดน้อยน่ารักจากกลุ่มนี้ กินขาด


มิสะ ไลท์ และ L กำลังปรึกษากันว่า ขาดอีก 1 ขา ก็จะครบคน (ขาอะไร ?! )


มิสะคนนี้มาโชว์ตัวเฉยๆ


เช่นเดียวกับ L คนนี้ น่าจะรวมทีมกันมา กับคนข้างบน?!


ปะ...ป๊า โซอิจิโร่ ? (ใช่ไหมนี่ ?) ... นึกว่าครอบครัวนี้ดีจัง ป๊ะป๋ายอมมาคอสด้วย ?!


ไลท์ says : รู้ได้ยังไงว่าฉันคือ Kira
มิสะ says : แบกเคียวอันเบ้อเริ่มเดินไปเดินมา คนปกติที่ไหนเค้าทำกัน ? ฉันไม่ได้ตาบอดนะยะ !



ผู้ชนะเลิศจากงานนี้ เต้นประกอบเพลงลูกทุ่งด้วยค่ะ


90% ของ L ในงานนี้ นอนกันเป็นส่วนใหญ่


มิคามิ เทรุ! เอ๊! บอกว่ามิคามิ เทรุ! ไม่ใช่ฮิงูจิ ตอนจบมีการมาเต้นดงบังชิกิคู่กับ L ซะด้วย!


หลังจากกลุ่มนี้แล้ว กล้องของฉันก็แบตหมด ตายสนิท...


ส่วนใหญ่การแสดงก็ใช้ effect ได้ตามใจชอบค่ะ บางกลุ่มลงทุนและมีความมานะพยายามมาก มีการเปิด Sound track จาก anime ประกอบ แล้วมี sub ไทยให้ด้วย บางกลุ่มก็มี Rem อลังการณ์มากค่ะ (แต่ไม่ได้ถ่ายเลย ^^") บางคนคอสมางามมาก แต่ไม่ประกวด เนื้อหาหลักๆ ก็เป็นใน comic แหละค่ะ แหม... ถ้าขืนเป็น Movie อาจจะมีการรุมประชาฑัณฑ์ ตอนที่ฮอตฮิตที่สุด ก็ตอนที่ติดกุญแจมือ และตอนที่ L ตาย มีการโชว์กายกรรมการต่อสู้ของ L และไลท์ด้วย (แต่คนเกาะเวทีหวาดเสียวมากจ้า กลัวโดนลูกหลง)

คราวนี้ค่อนข้างเข้มงวดกับของแจกค่ะ เลยไม่ค่อยได้อะไรติดไม้ติดมือกลับมา นอกจากที่คั่นหนังสือ และปฏิทินตั้งโต๊ะ น่าเสียดายนะคะ เพราะฉันว่า ภาค 2 นี้จัด Art Work สวยด้วย (-__-) ไม่ค่อยสบอารมณ์กับพิธีกรเท่าไหร่ เอาเหอะค่ะ ของฟรีไม่มีในโลก ไม่เปลืองเงินก็เปลืองตัว




โซนแปะรูป Cosplay ในดวงใจ (เท่าที่ถ่ายมาได้)

น้องเนียร์ตาแป๋วแก้มป่องคนนั้น ขอโทษด้วยที่พี่ถ่ายรูปน้องตอนไป Stalk ไม่ติดเลย ขอโทษมากๆ ที่พี่ต้องใช้รูปตอนน้องแสดงแทน แต่น้องน่ารักมากๆๆๆๆๆ พี่อยากให้คนทั้งโลกรู้

จดจ้องกับตุ๊กตาในมือ น้องเนียร์นิ่งมาก


เนียร์กับท่านั่งอันเป็นเอกลักษณ์


มีสมาธิอยู่กับของเล่น โดยไม่สนใจ ไลท์และ L ที่นัวเนียกันไม่เลิกอยู่ด้านหลัง


ลำเอียง อีกรูป


อ่า.... เป็นมิคามิ เทรุ ที่หล่อเฉียบ ได้ image สุดๆ ไปเลยค่ะ ขอโทษที่ต้องยิงภาพระยะไกล เพราะลุกเสียม้าค่ะ ความจริง ... แค่คิดว่า ถ่ายเล่นๆ เดี๋ยวจะไปขอถ่ายจริงทีหลัง แต่แบตกล้องหมดก่อนค่ะ


หา! ว่าไงนะ เค้าเป็นฮิงูจิต่างหากเหรอ ? เฮ้ย! แถมขึ้นเวทีไปแสดงเป็นผู้ร้ายลักพาตัวมิสะด้วย เค้าเป็นใครกันแน่ ?! แต่หลังจากนั้นแล้ว เค้านอนตลอดบนเวทีค่ะ

ฮุ...ฮุ... รูปหมดแล้วค่ะ นอกนั้นรูปใช้ไม่ค่อยได้ทั้งนั้น เสียดายมากที่ยังมี cos อีกหลายท่านที่ตามถ่ายไม่ได้ เพราะแบตหมด

ขอบคุณ Layers ทุกท่านที่มาให้ความบันเทิงบนเวทีนะคะ ถ้าพากษ์อะไรไปขัดหูก็ขอโทษด้วยค่ะ




 

Create Date : 28 พฤศจิกายน 2549    
Last Update : 28 พฤศจิกายน 2549 13:30:30 น.
Counter : 1752 Pageviews.  

Review Death Note Movie 2 : The Last Name

Warning : Spoil Alert

ระดับความรุนแรงในการ Spoil 4/10 (เกือบครึ่ง!)



หน้าเมเจอร์ไม่ใช่ป้ายโฆษณา DN ที่ใหญ่ที่สุดซะแล้ว ปีนี้หน้ามาบุญครองก็ใหญ่เป้งใช่เล่น !


หนังเปิดฉากเหตุการณ์ตอนที่มิสะเก็บโน้ตได้และภาพไตเติ้ลจากภาค 1 นิดหน่อย แล้วตัดเข้าเหตุการณ์ปัจจุบัน คือ งานศพของชิโอริแฟนสาวของไลท์ที่ตายไปตอนจบภาคที่ 1 ด้วยรูปใหญ่เป้งอย่างกะเป็นดารา ไม่รู้จะทำใหญ่ไปทำไม แปลกมาก เพิ่งเห็นคนธรรมดามีรูปงานศพใหญ่อย่างกะป้ายหาเสียงสส.ก็คราวนี้ คราวนี้เราไม่เห็นไลท์ฟูมฟายแล้วล่ะค่ะ แล้วหนังก็จะพูดถึงชิโอริอีกนิดหน่อย แอบเคืองนิดๆที่ในหนังกลายเป็นว่ามิโซระ นาโอมิพี่สาวสุดเท่ของเรา กลายเป็นฆาตกรฟั่นเฟือนเพราะสูญเสียคู่หมั้น เลยฆ่าเด็กสาวผู้บริสุทธิ์อย่างชิโอริไป ในขณะที่คนทั่วไปกำลังเห็นอกเห็นใจกับการสูญเสียแฟนสาวของไลท์ มีแต่ L คนเดียวที่ยังยืนกรานสงสัยในตัวไลท์ เรียกว่า L ผู้น่าสงสารโดนคนรอบข้างด่าอื้อเลยค่ะ

ไม่เล่าเนื้อเรื่องแล้วนะคะ เพราะคิดว่า ไปดูเองน่าจะดีกว่า เนื้อเรื่องดำเนินตาม Comic ไปจนถึงไลท์สละเดธโน้ตทิ้งค่ะ หลังจากนั้นเป็นการรวบเล่ม 8 – 12 เข้าด้วยกัน โดยให้ทาคาดะ คิโยมิเล่นบทของฮิงูจิ และ มิคามิ เทรุไปด้วยเลย อ้อ.... บทมิคามิ เทรุแบ่งกันกับมิสะค่ะ เรียกว่าคิโยมิเป็นตัวละคร 3 in 1 ก็ได้ (ฮา) แต่เธอสวยสง่าแบบนางพญาจริงๆ เลยค่ะ เธอดูเป็นคนดีกว่าคิโยมิใน comic ที่ออกจะติดงี่เง่าเล็กน้อย (ถึงมาก)

ถ้าให้เทียบกับเนื้อหาใน comic แล้ว ไลท์จะนำหน้า L ไปหนึ่งก้าวเสมอ คือ สร้างสถานการณ์ดัก L ไว้ตลอดให้ L ตามแก้ แต่ใน Movie รู้สึก L จะทันไลท์พอดูเหมือนกันค่ะ คือ ไม่ใช่ไลท์เป็นคนสร้าง Trick ตลอด L ก็ด้วยเหมือนกัน วิชากะล่อน ตอแหลเนี่ย L ก็พอตัวค่ะ (อ่า.... ฉันว่า L ใน Movie ออกจะเขี้ยวกว่าไลท์อีกนะคะ)

หลังจากตอนไลท์สละโน้ตทิ้งแล้ว เนื้อเรื่องจะแตกต่างจะใน comic ค่ะ แต่ถึงจะแตกต่างอย่างไร เรื่องก็จะดำเนินไปจนถึงจุดจบเดียวกัน ก็เรียกได้ว่า จบดีตามที่แฟนๆ ทั่วโลกที่ได้ดูมาแล้วให้ comment จริงๆ ค่ะ บางคนว่า นี่เป็นตอนจบที่ควรจะเป็นในภาค comic แต่เนื่องจากเรื่องมันฮิตขึ้นมา คนแต่งเลยลากยาวไปจนถึงภาค M/N

แต่สำหรับฉันแล้ว รู้สึกหดหู่ชอบกล หดหู่ยิ่งกว่าตอนจบใน comic เสียอีก ใน comic น่ะ มันสาสมกับคนอย่างไลท์แล้วค่ะ แต่ใน Movie รู้สึกว่าไลท์ไม่ได้ชั่วพอ คือ อย่างไรก็ตาม เขายังเป็นเด็กหนุ่มผู้มีจิตใจบริสุทธิ์ค่ะ แค่ไม่รู้จักโลกและมนุษย์ดีพอเท่านั้น ส่วน L คือความบริสุทธิ์ที่ต้องเสียสละ แล้วยัยมิสะที่ฆ่าคนบริสุทธิ์อย่างหน้าตาเฉยล่ะ ? เธอได้รับผลจากการกระทำอย่างไร ?! อ่า.... ข้อนี้แหละค่ะที่รู้สึกค้างคาใจมาก คือ มิสะในหนังดูน่ารัก ไร้เดียงสา แต่คิดว่า เธอร้ายกว่าไลท์อีก

มาให้ Comment รายตัวดีกว่า

L : ยังเป็น L ที่น่ารัก น่าเอ็นดู และเท่มากๆด้วยค่ะ (ลำเอียงเห็นๆ ^__^) ถ้าจะให้พูดตามตรง เค้าเป็น L ที่หล่อมากเกินไปค่ะ หล่อมากกว่าไลท์เสียอีก ดูฉากที่กล้อง close up จับหน้าเขานะคะ ยิ่งเทียบหน้ากับไลท์ด้วย หน้ารูปไข่ยาว จมูกโด่งสวย แถมริมฝีปากอิ่มด้วย (กรี๊ดดดดดดดด.........) ยิ่งฉากลายางามิ โซอิจิโร่ ตาแป๋วมากเลยค่ะ อดคิดไม่ได้ว่า แววตาเหมือนลูกหมาอ้อนเจ้าของ ฉากนั้นเรียกน้ำตาฉันได้เลย ถึงจะรู้อยู่แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับ L แต่แววตาของ L และรอยยิ้มซื่อๆนั้น สะเทือนใจจริงๆค่ะ เศร้าค่ะ อยากดู L อีก แต่มาคิดว่า เราจะทนดู L จากไปอีกกี่รอบกันนะ แค่ใน comic ก็ปวดใจจะแย่แล้ว มาเจอรอยิ้มและแววตาซื่อๆ ของ L ยิ่งเศร้าไปใหญ่ เอาเหอะ! ยังมีตอนสนุกๆ เกี่ยวกับ L ในหนังอีกเยอะค่ะ โดยเฉพาะฉากเด็ด ฉากตกเก้าอี้, ฉากพบมิสะที่มหาวิทยาลัย และสุดท้าย ฉากตลบหลังไลท์

ขอบคุณ Mutsuyama-san ที่ทุ่มเทกับบทของ L ค่ะ เรียกว่า กว่าจะถ่ายทำจบ น้ำหนักขึ้นไปอีกหลายโล เพราะกินดุมากค่ะ แหมหวานเจี๊ยบ นึกไม่ถึงว่าจะกินน้ำตาลก้อนเพียวๆเข้าไปเต็มปาก เจ็บตัวไปก็หลายรอบ ดีไม่เพิ่มฉากต่อยกับไลท์เข้าไปอีก (^^)

ตินิดหนึ่งกับบทขนมของ L ง่า..... ทำไมเค้าหาขนมให้ L กินไม่ค่อยมีคลาสเลยอ่ะ เหมือนงบไม่พอ เท่าที่ฉันจำได้ L เค้ากินขนมหรูมากนะคะ แต่นี่โดนัท ชอคโกแลค แบะแซ โยคัง ฯลฯ ขนมพื้นๆ ทั้งนั้นเลย (>_<)

ไลท์ : ไม่ค่อยโฉดมาก .... อาจจะเป็นเพราะผู้กำกับไม่อยากเน้นความชั่วของไลท์มาก เดี๋ยวจะเป็นเยี่ยงอย่างที่ไม่ดีแก่เยาวชน แอบเสียดายว่าฉากเสียความทรงจำ ผู้กำกับไม่ได้เน้นมาก เลยไม่ค่อยเห็นความแตกต่างระหว่างมีโน้ตกับสละโน้ต เลยดูไลท์ไม่ค่อยมีเหลี่ยมมีคูอะไรมากเท่าไหร่ อดคิดไม่ได้ว่า บทของไลท์ไม่ค่อยทัน L เลยค่ะ L ดูมีพลังดึงดูดมากกว่า ในขณะที่ไลท์ในภาค 2 ออกจะเรียบๆ ไม่ค่อยมีอารมณ์สุดๆ บทด้อยกว่ามิสะด้วยซ้ำ แต่มาแก้ตัวเอาตอนจบเรื่องได้พอดี (แต่สั้นไป) ความเจ็บปวดของไลท์ ทั้งร่างกายและจิตใจ น่าสงสาร(และสมเพช)จริงๆ ค่ะ แต่คิดว่า ฟูจิวาระ-ซังก็เป็นไลท์ในอีกแบบหนึ่งที่แสดงภาพของเด็กหนุ่มน่ารักได้ดี

อดคิดไม่ได้ว่า ฉันอยากเห็นการเฉือนบทกันระหว่างไลท์และ L ในระดับหนังฮ่องกง Internal Affair บทของทั้งคู่ เป็นบทที่ยากมาก ถ้าเป็นที่ฮอลลีวู้ดคงมีดาราเก๋าๆ แย่งกันหัวแตก ใครเล่นถึง รางวัลออสก้าคงไม่ไกลเลยค่ะ ก็ไม่รู้ว่า Death Note จะมีฝรั่งสนใจซื้อไป remake หรือเปล่า ? แต่ลิขสิทธิ์ Death Note Anime ฉายไปไม่ถึง 5 ตอน ทางอเมริกาซื้อลิขสิทธิ์ไปเรียบร้อยแล้วฮะ (^_^)

มิสะ : ออกจะเป็นมิสะที่ให้อารมณ์โฉดไปหน่อย เธอดูน่ากลัวยังไงก็ไม่รู้สิ อาจจะเพราะผอมมากด้วย ผอมจนน่ากลัวเลย (^_^);;; บทของเธอเข้มข้นมากค่ะ ฉันเอ็นดูและหมั่นไส้เธอไปเป็นพักๆ เลย ห้องเธอหรูและสวยมากเลยค่ะ เธอเป็นสาว Gothic Lolita แท้ๆ เลย

ยางามิ โซอิจิโร่ : คือพระเอกตัวจริงของ Death Note Movie (^_^) เท่มากค่ะ ไม่ว่าจะเป็นตอนบุกสถานี Sakura TV และตอนเปิดโปงไลท์ แสดงความเก๋าออกมาได้ดี แต่เสียดายว่า ไม่ได้แสดงถึงความยึดมั่นในความเที่ยงธรรมอย่างถึงที่สุดแบบใน Comic แต่บทสนทนาที่โต้ตอบกับไลท์ ทำได้ดีค่ะ แสดงความเป็นผู้ใหญ่สั่งสอนเด็กออกมาได้ดี แม้ว่าจะสายไปเสียแล้ว และไม่ได้แสดงความเจ็บปวดเมื่อรับรู้ว่าลูกชายตัวเองเป็นคิระออกมาเลยนะคะ (ติดเท่มั้ง ?)
Comment ส่วนตัวสุดๆ : ป๋าคะ ..... การที่ป๋าแสดงความเคารพ L หนูก็ปลื้มใจนะคะ แต่หนูอยากให้ป๋ากอด L สักครั้ง แบบพ่อกับลูกในวาระสุดท้ายของ L จังเลยค่ะ ป๋าทนรอยยิ้มอ้อนๆ ของ L ไปได้ยังไงคะ ? (T_T)

ทาคาดะ คิโยมิ : จากหญิงสาวใสยึดมั่นในคุณธรรม มากลายเป็นคิระคนที่ 3 อย่างที่บอก เธอรวบบทของฮิงูจิ และมิคามิ เทรุเข้าด้วยกัน เธอสวยเฉียบจริงๆ ค่ะ มาดนางพญาจริงๆ ชอบสาวเท่อย่างเธอจริงๆค่ะ

ในภาค 2 นี้ สาวๆ นุ่งสั้นกันเยอะเลย และขาสวยมากด้วย (สาวญี่ปุ่นยุคใหม่ ขาเพรียวสวย) ไม่มีมุมกล้องหลุดเธอ อดตื่นเต้นแทนหนุ่มๆไม่ได้ (^_^);

Ryuk : น่าจะเป็นคนร้ายตัวจริงของเรื่อง ชอบตอนจบค่ะ ดูแสบกว่าใน comic อีก ชอบตอนที่ตลบหลังไลท์จังเลยค่ะ หลังจากที่โดนไลท์โขกสับมานาน ในที่สุด Ryuk ก็เอาคืนบ้าง ดูๆไป คนที่ดูสนุกที่สุดในเรื่องก็ Ryuk นี่แหละค่ะ

Rem : ได้ต้นแบบจากดาราสาวสวย คนที่อ่าน comic มาก็คงรู้ว่า Rem เป็นผู้หญิง แต่ใน movie เป็นเสียงผู้ชาย แยกเพศไม่ออก ออกจะข้องใจในความสัมพันธ์ของ Rem และ Jealous เหมือนกันค่ะ เพราะใน comic Rem รักมิสะเหมือนน้องสาว แต่ใน Movie เหตุผลที่ปกป้องมิสะคือ เพื่อ Jealous ค่ะ (เอ.... Rem พูดจริงหรือเปล่า ?) CG เนียนดีค่ะ เนียนกว่า Ryuk ด้วยซ้ำไป

ซายุ : น้องสาวของไลท์ บทเธอเยอะกว่าใน comic อื้อเลย เรียกว่า ทาง Movie ใช้งานเธอคุ้มค่ะ (^_^) เธอเป็นตัวแทนของกลุ่มคนที่มองโลกซื่อๆ ตรงไปตรงมา และยังเชื่อมั่นในระบบความยุติธรรมของมนุษย์ ซายุน่ารักจริงๆค่ะ ยิ่งตอนสุดท้ายที่เธอพูดถึงพี่ชาย เราได้รับรู้ถึงมุมด้านความชั่วร้ายของคิระได้ในทันที

ตัวประกอบอดทนอื่นๆ ก็แสดงได้ดีค่ะ บทวาตาริน้อยไปหน่อย (T_T) วาตาริอดบู๊เลย อ่า.... หนังเค้าคงไม่อยากทรมาณคนแก่ พวกลูกกระจ๊อกของป๋าโซอิจิโร่ รวบบทลูกน้องของเนียร์เอาไว้หมดเลยค่ะ แต่บทสนทนาเรื่องมัตสุดะ ออกจะจงใจไปหน่อยนะคะ แหม.... กลัวชาวบ้านเขาไม่เชื่อเหรอคะว่ามัตสุดะยิงปืนแม่น ?!

ในฐานะแฟน Death Note แล้ว รู้สึกประทับใจกับฉบับ Movie มากค่ะ พยายามจะมองข้ามหน้าบานๆของไลท์ไป อ่า....ต้องยอมรับนะคะว่าไลท์ไม่ได้มีเสน่ห์ดึงดูดใจแบบ comic หรือดูเป็นคนชั่วแบบใน comic นัก

คงจะดูอีกรอบ แต่ขอทิ้งท้ายคำพูดของป๋าโซอิจิโร่ (ป๋าขโมยซีน L)

“กฎหมาย แม้จะมีข้อบกพร่อง เพราะกฎหมายนั้นมนุษย์เป็นผู้สร้างขึ้น และมนุษย์นั้นไม่มีความสมบูรณ์พร้อม แต่กฎหมายนั้นสร้างขึ้นเพื่อผดุงไว้ซึ่งความดี การกระทำของแก(คิระ) เป็นเพียงแค่ความเห็นแก่ตัว!”

คำพูดนี้ จะเข้าใจเท่าใด ก็แล้วแต่เนื้อนาบุญของแต่ละท่านนะคะ (^^)

โหมดสาว Y กรี๊ด......

- ชอบจัง ชอบตอนที่กล้อง Close up หน้า L จ้องหน้าไลท์ มันดูเหมือนจงใจจับคู่มากเลยนะคะ (^o^)
- อีกฉากที่ชอบมากๆ ตอนเจอ Rem L แตะไหล่ไลท์ แล้วถามว่า เป็นอะไรหรือเปล่า ? อูย..... น่ารักจัง
- แต่..... ก็สะใจกับบทพูดของ L ตอนพูดกับไลท์ว่า “เสียใจด้วยนะไลท์ เราคงเป็นเพื่อนกันไม่ได้” กรี๊ดดดดดดดดด..... ดีค่า ตบมันเลย (เฮ้ย!) ..... เก็บกดมานานแล้วกับมิตรภาพหลอกลวงของไลท์และมิสะที่มีต่อ L ในภาค comic ไลท์น่ะ มันไม่คู่ควรกับคุณหนู L หรอก แม่ไม่ปลื้ม จบ!










Comment ส่วนตัว Spoil ตอนจบอย่างรุนแรง

ตอน L ชูสมุด Death Note ที่เขียนชื่อตัวเองไว้นั้น มองเห็นแต่ตัว L ใหญ่เป้งตัวเดียวเองค่ะ เลยมองไม่ทันว่า เขียน L. Lawliet จริงๆ หรือเปล่า ? อดตกใจไม่ได้ว่า L คิดได้ไงฟ่ะ ? ยอมตายเพื่อจับคิระเชียวเหรอ ?! ลงทุนมากไปหรือเปล่า ? (T{}T) ถ้าแผนนี้ไม่ work ก็ไม่ตายฟรีหรอกเหรอ ? (เออ.... ยังดีกว่าตายเปล่าแบบใน comic ก็แล้วกัน)

ฮือ.... แต่มาคิดดูอีกที L คงไม่มีทางเลือก เหมือน Rem ที่ไม่มีทางเลือกเพื่อชีวิตของมิสะ แต่ตอนนั้น L จะรู้ได้ยังไงว่าไลท์จะวางแผนให้มิสะเขียนชื่อตัวเองลงไปแน่ๆ มั่นใจได้ยังไงว่ามีโน้ตอีกเล่มซ่อนอยู่ และมั่นใจได้ยังไงว่าไลท์เป็นคิระ ?! แต่ก็ฉลาดนะคะ ยังอุตส่าห์เขียนว่า “ตายอย่างสงบ” (ดีที่คาดการถูก เลยไม่ต้องสร้างภาค 3 ตาม ^^”)

แต่ชอบตอนนี้มากที่สุดนะ L ดูเท่มากๆ เด็ดขาด และเฉียบขาดมาก (รวมทั้งป๋าโซอิจิโร่) และอดเป็นห่วงศพ L ไม่ได้ ฮือ.... อย่าบอกนะว่าปล่อยทิ้งไว้แหงแก๋อย่างงั้น (ToT)

รู้สึกเจ็บปวดกับ 1 ปีผ่านไป ไลท์ยังมีครอบครัวที่ทุกคนยังจดจำแต่เรื่องดีๆ ของไลท์ได้ แต่ L ล่ะ โชคชะตาช่างไม่แตกต่างจากใน comic เลย ป่านนี้คงจะนอนเป็นผีไม่มีญาติอยู่หลุมไหนก็ไม่รู้แล้ว แง๊……………….



หน้ามาบุญครองค่ะ รูปใหญ่เป้งเห็นหน้า L สว่างสดใส (^_^)




 

Create Date : 27 พฤศจิกายน 2549    
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2549 8:59:31 น.
Counter : 972 Pageviews.  

Review Doujinshi จากงาน Comic Season #3



เนื่องจากหมู่นี้ไม่ค่อยมีเวลามากพอที่จะรวบรวมสมาธิเขียนเรื่องอะไรจริงจัง หรือข้อมูลข่าวสาร เพราะงานยุ่งมาก คิวงานยาวเหยียดจนถึงสิ้นปีเลย (T_T) แต่กระนั้น ฉันก็ยังอยากจะกระเสือกกระสนเขียน blog เอาว้า..... เรื่องอะไรดี แต่เดิมนั้น ไม่ค่อยอยากจะ review Doujin ลง blog เท่าไหร่ เพราะไม่อยากส่อเสี่ยงกับการถูก fanclub Circle ใด Circle หนึ่งรุมตื้บ (^^)” จริงๆน้า.... ทุกคนอยากได้ comment แต่ระดับความทนทานในการรับ comment นั้นมีมากขนาดไหน ? ถึงอย่างไรก็ตาม ฉันถือว่า ทุกคนก็ตั้งใจดี มีความภาคภูมิใจในงานของตัวเอง ไม่ว่าผลตอบรับจะเป็นอย่างไร เนอะ ?!

ปีนี้ฉันรู้สึกว่า โดจินที่ออกในงาน Comic Season คุณภาพดีขึ้นผิดหูผิดตาจากปีที่แล้ว ทำให้ลำบากใจในการซื้อมาก เพราะเนื่องด้วยงบประมาณจำกัด ต้องตัดบางเรื่องที่ไม่ตรงสเปคจริงๆ ออกไปทั้งๆ ที่อยากได้เหมือนกัน (T_T) แต่ทุกเล่มที่ซื้อมา ก็รู้สึกปลื้มมากเลย

และขอโทษด้วยที่ไม่ได้ไปให้ comment ที่ blog ของท่านเจ้าของงานแต่ละท่านนะคะ และไม่อยากให้ comment ทาง e-mail เพราะไม่ทราบว่าท่านอ่านหรือไม่ ? เพราะ 100% ที่ให้ comment ทาง e-mail ไป ไม่เคยมีใครตอบกลับมา ก็ต่างจากการให้ comment กับชาวต่างชาติมาก เพราะทางโน้น 90% แม้จะไม่มีอะไร ก็จะตอบ Thank you for your comment กลับมากันทั้งนั้นตามมารยาท เพราะงั้นในเมื่อ Circle เค้าไม่นิยมตอบ e-mail ก็ค่าเท่ากันในการเขียนบน blog นี่แหละ

เริ่มเลย ไม่ได้เรียงลำดับตามความชอบด้วย

Saint Seiya PLACITUM
Title : Holy WAR
Circle : ZAIONIC



ถือเป็นโดจินโคตรคุ้ม เพราะราคา 180 บาท แต่หนา 100 กว่าหน้า งานสะอาด ลายเส้นคมชัด ติดสกรีนแจ่ม เนื้อเรื่องลื่นไหล แต่เนื่องจากฉันเหินห่างจาก Saint Seiya มานาน ภาคสุดท้ายที่อ่านคือ ภาค Hades (a.k.a ศึกอะเธน่าดองไห) ออกจะอ่านด้วยความมึนงงว่าไผเป็นไผ รู้สึกผิดกับการเป็น Saint Seiya fanclub สมัยเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วเป็นอันมากว่า เหตุไฉนเราจึงความจำเสื่อมขนาดนี้ ?! (-__-)a มาเกทเอาก็ตอนที่อ่าน Talk ท้ายเล่ม เพราะเขาเฉลยว่าเติมตัวละคร Original ลงไปด้วย เฮ้อ.... ค่อยรู้สึกผิดกับพี่ชิริวน้อยลงไปหน่อย นอกจากเนื้อเรื่องจะดีแล้ว ลายเส้นยังสวยงาม ตัวละครหล่อๆ สวยๆ กันทั้งนั้น เสียอย่างเดียว อ่า.... ตัวละครหน้าเหมือนกันเยอะไปหน่อยนะคะ แยกแยะตัวละครยากมาก ทรงผมก็ต่างกันเล็กน้อยๆ เท่านั้นเอง แต่ก็ไม่ใช่ข้อเสียของงาน ถ้าได้อ่านงานของ Circle นี้บ่อยๆ อาจจะคุ้นกับตัวละครไปเองค่ะ

D. Gray Man
Title : ALLEGRO Sonata
Circle : PRIMO INSOMNIO



รูปเล่มสวยงาม ปกสวยดึงดูดใจทั้งปกหน้าหลังค่ะ งานเหมือน sketch แต่เส้นแน่น คม มีพลังมั่นใจม๊าก ออกแนวฮาเฮสบายๆ ที่ซื้อนี่ เพราะชอบคันดะ ยูในสไตล์ของคุณ MEISAN มานานแล้วค่ะ เพราะฉะนั้นขอให้คุณ MEISAN ออกโดมีคันดะ ยูเป็หลักเหอะ ฉันยอมเป็นเหยื่อ (^^)” แต่เล่มนี้มีคนขโมยซีนยูจัง ไม่ใช่พ่อราวี่ แต่เป็น Komui ที่โผล่มาแจมในภาพจินตนาการของราวี่ทุกซีนต่างหาก Komui นี่อย่างฮาเลย ชอบมาก (^__^) หวังว่าถ้ามีโอกาสคงจะได้อ่านโดจินในแนวซีเรียสที่มีคันดะ ยูเป็นหลักอีกนะคะ ถึงงานแนว comedy จะดี แต่ชอบงานแนว drama มากกว่า เหมาะกับลายเส้นสวยๆ ออกแนวจริงจังดีค่ะ


Fullmetal Alchemist
Title : Dreamcage
Circle : Night Carousel



ปกสวยงามหรูหรา ลายเส้นงดงาม งานละเอียด คมชัด แปะสกรีนเนี้ยบ ก็ดีใจที่ยังมีโด Roy/Ed เหลืออยู่ในโลก (T[]T) และยิ่งดีใจที่มีคนเขียนโดจินโดยอิงเรื่องจากใน Comic ด้วย ฉันชอบ FMA Comic มากกว่า Anime นี่หว่า .... เป็นงานที่ผสมผสาน character ของ comic และ anime ได้อย่างลงตัวค่ะ เพราะคนที่ติดตาม FMA ทั้ง comic และ anime ก็คงทราบว่าพวก character มีอุปนิสัยต่างกันเยอะมาก อย่าง Ed ใน comic จะห้าวแตก โผงผาง ตรงไปตรงมา ส่วน Roy ออกแนวหน้าเป็นแต่เจ้าเล่ห์และเลือดเย็นสุดๆ ในโดจินนี้เก็บเอาลักษณะเด่นของทั้งใน Anime มาลงในเนื้อเรื่อง Comic ดีค่ะ แต่จะให้ดีกว่านี้ เสียดายบทหลิงน้อยไปหน่อยค่ะ ไหนๆ เป็นรักสามเส้าทั้งที น่าจะให้หลิงมีบทเยอะกว่านี้อีกหน่อย โผล่มาในมโนสำนึกของใครสักคนก็ได้ค่ะ จะได้ชิงรักหักสวาทกันให้เข้มข้นหน่อย และเสียดายค่ะ เสียดายไม่มีฉาก love scene นิดๆหน่อยๆ ให้ชื่นใจเลย แม้ว่าบรรยากาศจะเป็นใจมาก (^^)” หวังว่าคงจะเห็นโด FMA ที่อิงเรื่องจาก comic อีกนะคะ


D. Gray Man
Title : Hallucination
Circle : Synderella



ตอนเห็นปกนึกว่า FMA นะนั่น แต่เนื่องด้วยว่า เป็นแฟน Circle นี้อยู่ด้วยมานาน ด้วยเหตุผลส่วนตัวที่อู้บ่ได้เนื่องจากดื่มน้ำสาบานไปแร้ว (^^)” รู้มาว่างานนี้จะออก Heide/Ed หรือ Al/Ed นี่แหละค่ะ รู้สึก fail เล็กน้อยว่าตอนทราบข่าว ในที่สุดเราก็จะสูญเสีย Circle ที่ทำ Roy/Ed ไปอีกหนึ่งซะแล้ว แต่กลายเป็น Tiki/Allen ไปจนได้ ตาฟาดนึกว่า Allen เป็น Heide ในตอนแรก (^^)” พออ่านแล้ว ก็ไม่นึกเหมือนกันว่า Tiki จะเหมาะกับ Allen ขนาดนี้ ฉันไม่รู้ว่าทาง Synderella อ่าน DGM จนถึงตอนที่ 93 หรือยัง เพราะจะเห็นว่า Tiki จะเก็บของของ Allen ติดตัวไว้ชิ้นหนึ่งจริงๆ อะอ๊า..... น่าจิ้น Y เป็นอันมาก (^^) แต่ยังไงก็รอโด DGM ที่มีคันดะ ยูเสมอนะคะ อยากเป็นยูจังในแบบของ Synderella

Kingdom Heart
Title : Mirror of Heart
Circle : Krimson



งานสกรีนอลังการณ์ ลายเส้นและสไตล์เป็นเอกลักษณ์มากค่ะ ฉันเป็นแฟนโดจิน Circle นี้มาหลายเล่มแล้วค่ะ ส่วนใหญ่ก็จะเป็น Sephiroth/Vincent ดีใจมากที่คราวนี้เป็น Riku/Sora (ซะที ^^”) ความจริงแล้วฉันติดใจงานแนว comedy จาก Circle นี้มากกว่าแนว drama เสียอีก มุขตลกถูกใจทุกเล่ม ขนาดเล่มนี้ drama แต่ก็ยังแอบหยอดมุขแถมท้าย (^^)::: ความจริงฉันไม่ค่อยชอบโดจินประเภท to be continue เลยนะ เพราะโอกาสที่ไอ้ continue น่ะ มันมักจะเป็นรายสะดวกของท่านนักทำโดจินมากกว่า หรือบางทีคนซื้อก็ไม่สามารถซื้อซะงั้น ถ้าเป็นไปได้ อยากให้ออกเล่มเดียวจบเป็นตอนๆ ไปเลย และฉันหวังว่า ทาง Circle จะคลอดเล่ม 2 ตามมาเร็วๆ ตามที่สัญญิงสัญญาเอาไว้ และ..... จะเรทถึงใจสาว Y มากขึ้น (^^) Fighto ค่ะ (ช่วยไม่ได้นะค้า..... อยากบอกฉันเองว่าเล่ม 2 จะถึงพริกถึงขิงมาก ฉันตั้งตารอตั้งแต่เห็นหน้าเล่ม 1 เรยยยยย)


Death Note
Title : Behind the Blind & If Eternality Means Thou (หวังว่า Title คงจะถูก ^^”)
Circle : MORE Project & Kurai



โปรเจคพิเศษเป็น doujinshi manga ควบนิยาย งานเนี้ยบ เส้นคม สกรีนอลังการณ์ วาด L ได้น่ารักมากค่ะ (^__^) มาพร้อมเรื่องราวน่ารักๆ สบายๆ ของ L/Light แม้ไม่ใช่สาวก L/Light อ่านแล้วอดอมยิ้มไม่ได้ ถูกใจสาวก Y ด้วยแหละ (^_^) เรื่องราวของ manga และนิยาย ไม่ใช่เรื่องเดียวกัน แต่ธีมเดียวกัน ออกจะงงเล็กน้อยตอนอ่านรอบแรก (^^)” และงงเล็กๆ กับบทสรุปของภาค manga แต่นั่นไม่ใช่หัวใจสำคัญของเรื่องสำหรับฉันหรอกค่ะ แค่เห็น L น่ารักมีความสุขก็พอแล้ว (T_T เพราะในความเป็นจริงมันโหดร้ายยยยย....) ทั้งสองเรื่อง บอกเล่าถึงเรื่องราวในวันฮาโลวีนของทั้งไลท์และ L ในสไตล์แฟนตาซี (เออ.... แล้ว Death Note นี่มันไม่ใช่แฟนตาซีเรอะ ?!) ภาคนิยายน่าเสียดายไม่มีภาพประกอบมุมกว้างตอนบนต้นแอปเปิ้ลนะคะ เพราะฉันจิ้นไม่ถูกเลยว่า เกิดอะไรขึ้นได้อย่างไรบนต้นแอปเปิ้ล ไม่ลำบากแย่หรือตกลงมาหรอกเหรอ ? (อุ๊ย.... คิดอะไรอยู่ ?!)

Death Note
Title : DARIXR DIRDE (ชื่อประมาณนี้ แกะ fonts ไม่ออกเจ้าค่ะ T__T)
Circle : MAKYO & MANGA Club



Warning Spoil for ch. 98 – 99

งานสุด surprised ลายเส้นมีเอกลักษณ์ องค์ประกอบแน่น งานขยันมาก ตัวประกอบเยอะ วาดมอเตอร์ไซด์ รถยนต์ ตึกรามบ้านช่อง แอฟเฟคระเบิด แอฟเฟครถบรรทุก เน้นฉากสำคัญ ที่หินสุดๆ เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในตอนกลางคืน!!!! นับถือการแปะสกรีนและถมเส้น ถมดำมากเลยค่ะ ฉันแค่อ่านอย่างเดียวก็เหนื่อยแทนแล้ว แต่มันทำให้งานดูดีมากเลยค่ะ รวมทั้งรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ที่ใส่ลงไป ชอบภาพวาดติดข้างฝาห้องเนียร์และเมลโลมากเลยค่ะ

ไม่นึกว่าจะมีคนออกโดจิน Mello/Near ในไทย และไม่นึกว่าจะจับช่วงเหตุการณ์ในตอนที่ 98 – 99 พอดี เป็นตอนที่สะเทือนใจแฟนคลับ Mello เป็นที่สุด (T__T) รู้สึกว่าโดจินตัวนี้ เติมเต็มจินตนาการที่ขาดหายไปของฉันได้พอดี ถ้าอ้างอิงจากปากคำของอ.โอบาตะ อาจารย์ผู้วาด เค้าคิดว่า เนียร์ชอบเมลโลจริงๆค่ะ อาจารย์คิดว่าตุ๊กตาเมลโล เป็นตุ๊กตาที่เนียร์ตั้งใจทำมากที่สุด มากกว่าตุ๊กตาของ L ด้วยซ้ำไป ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ความรักของเด็กทั้งคู่เหมือนดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิที่ร่วงหล่นเสียตั้งแต่ยังเป็นแค่ดอกตูม ถ้ารักใคร ทำไมถึงไม่ไปอยู่ข้างๆเขา ? คอยดูแล คอยปกป้อง ทำอะไรเพื่อเขา ได้ใช้เวลาร่วมกัน .... (คำพูดนี้ จำมาจากเรื่องราชันย์ทรราชค่ะ ^^” เป็นคำพูดของใครก็ไม่รู้ พูดกับพระเอกที่รักหลงรักนางเอกข้างเดียว แต่นางเอกเธอรักไม่ยุ่งมุ่งการเมือง พวกรักคุดเหมือนกันเลย) คิดถึงคู่นี้ทีไร เศร้าสุดๆ เลยค่ะ ฉันว่าพวกคู่ที่ไล่ฆ่ากัน ยังดีกว่าว่ายังได้พบ ได้พูดคุย ได้เห็นหน้า ได้สัมผัส แต่พวกหมางเมินใส่กันแล้วเอาแต่แอบมองกันอยู่ห่างๆ ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่ ไม่ว่ารัก หรือ เกลียด จนสุดท้ายแล้ว เหลือเพียงความทรงจำและคำถามในใจไปจนชั่วชีวิตที่เหลือ เป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่สุดเลย ..... งือ..... โดเล่นนี้อ่านทีไรแล้วน้ำตาซึม

ต้องขอบคุณทีมงาน Comic Season ที่จัดงานตลาดนัดแลกเปลี่ยนจินตนาการและพัฒนางานวงการณ์การ์ตูนบ้านเรา แม้จะเป็นแค่งานอดิเรก แต่ก็เห็นได้ว่างานของไทยเราก้าวหน้าขึ้นมาก และต้องขอบคุณเทคโนโลยีด้วย ที่ทำให้งานสกรีนโทนเป็นเรื่องที่ยากน้อยลง เพิ่มความสมบูรณ์แบบให้กับงานมากขึ้นโข ใครเคยใช้สกรีนโทนกระดาษไข หรือแบบฟิลม์น่าจะรู้สึกดี (^^);

อยากวาดโดมั่งจัง




 

Create Date : 23 พฤศจิกายน 2549    
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2549 17:20:22 น.
Counter : 1980 Pageviews.  

Comic Season #3 : Report

หลังจากลุ้นตัวโก่งเคลียร์งานได้สำเร็จ ฉันก็มีโอกาสได้ไปงาน Comic Season ที่เป็นงานปล่อยโดจินดีๆ มากที่สุดงานหนึ่งของปีได้กับเค้า จากตอนแรกทำใจว่า อย่างดีก็วิ่งผ่านงานคว้าโดจินติดมือมาด้วยสักเล่ม 2 เล่ม แต่ก็ได้เวลาอยู่นานขึ้น ได้โดจินตามเป้ามาพอสมควร ติว่าพลาดเป้าไปนิ๊ดเล็กน้อย เพราะโดจินที่ตั้งใจไว้ พลาดไป 2 เล่ม

ไปถึงเกือบเที่ยง แม้ว่าจะดูคึกคักน้อย เพราะระหว่างทางที่เดินมา ไม่สวนกับใครที่ถือโดจินหรือ cosplay ผ่านมา แอบตกใจว่า เราจำผิดวันหรือเปล่า แต่พอไปถึงลานหน้าตึกฐานเศรษฐกิจ ก็เจอกลุ่ม Cos กำลังโพสต์ท่าถ่ายรูปกันเกือบเต็มหน้าลาน ไม่ถึงกับหนาแน่นมาก คงจะยังเช้าอยู่ แต่พอเข้าไปในตัวตึก พบกลุ่ม Cos กำลังแต่งตัวกันอย่างขะมักเขม้นอย่างหนาแน่น เดาได้ว่า อีกไม่นาน คงจะหนาแน่นไปด้วยเหล่า Cosplay และช่างภาพเต็มไปหมด ส่วนตัวฉันรีบจ้ำเข้างานไปก่อนที่จะหันมาสนใจ Cosplay เพราะงานนี้ตั้งใจมาซื้อโดหลังจากอดอยากมานาน (ว่าเหมือนปอบเลยแฮะ)

Shopping

ในงานไม่ถือว่าแน่นมาก ยกเว้นบูธบาง Circle ที่การจารจรหนาแน่น แต่ไม่พบบูธไหนต่อคิวกันยาวเป็นหางว่าว แต่ก็ออกจะชุลมุนเล็กน้อย เห็นหลายคนควัก pamphlet ออกมาดูแผนผัง ฉันก็เหมือนกัน แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องเลิกควักอย่างเด็ดขาด เพราะว่า ถึงจะบอกตำแหน่งโซน แต่ป้ายบอกชื่อ Circle นั้นไม่มี และหมายเลขบูธเล็กจิ๋วหลิว หรือมองไม่เห็นเลยว่าไปติดอยู่ส่วนใดของบูธ สรุปแล้ว pamphlet บอกได้แค่ว่า Circle ที่คุณตามหาอยู่โซนไหน ส่วนตำแหน่งใด ต้องใช้เรดาห์ส่วนตัวประมาณการเอาเอง (^^)” ฉันต้องกลับมาใช้วิธีเดิม คือ scan and skim แต่ละบูธไปเรื่อย

เดินหยิบๆจับแต่ละบูธก็เพลินดีค่ะ บาง Circle งานงามมาก แต่ไม่ใช่เรื่องที่ฉันเป็นแฟนนี่สิ เข้าไม่ถึง เสียดายเน้อ โดยเฉพาะ Harry Potter เห็นงามๆ เยอะมาก แต่ไม่ได้ซื้อสักเล่ม ความจริงก็อยากซื้อนะ ถ้า Y ถึงพริกถึงขิง เฮ้ย บร้า.....!! ฉันไม่ใช่คนอย่างงั้น (^^)” ถ้าเนื้อเรื่องดีต่างหาก การ์ตูนแนวสาวน้อยก็มี และ Original ก็มี อย่างหลังนี่แม้จะขายยาก แต่ก็มีคนกล้าทำ นับถือจริงๆ ค่ะ

ระหว่างเดินอยู่ เจอคุณ Es ได้ปะเหมาะเคราะห์ดีคุยกัน พอดีคุณ Es ควักของฝากจากคุณ Kurai ให้ เลยกลายเป็นคุยเรื่องคุณ Kurai กับ Death Note Movie แทน อยากถ่ายรูปคุณ Es มาก ลืมไปแว่บหนึ่งว่า เค้าห้ามถ่ายรูปในงาน พอดีคุณ Es ห้ามไว้ทัน (^^)::: ชอบชุด Cos Mello ของคุณ Es จัง เป็นชุด Mello ติดซิปเยอะๆ นั่นแหละ น่ารูดมาก เฮ้ย! เท่มาก ยังไม่เคยเห็นใครทำชุดนี้เลยนะนี่ รู้สึกรบกวนคุณ Es และคุณ Kurai มากเลย ขอบคุณมากในความเอื้อเฟื้อหลายๆ อย่างตลอดเวลาที่ผ่านมา ส่วนตัวเราไม่มีอะไรจะตอบแทนเลย (T_T) เอาเป็นว่า ทั้ง 2 ท่านถ้ามีเรื่องอะไรจะวานใช้ก็เอ่ยปากมาได้นะคะ ถ้าช่วยได้ก็จะช่วยเลย ! (เอาแรงงานเข้าแลก ?!) อ้อๆๆๆๆ..... จะลืมอีกแล้ว ความจริงแล้ว อยากชวนคุณ Es คุยเรื่อง Mello/Near ต่างหากว่า ตอนนี้เรามองเนียร์ต่างไปแล้วนะ (^o^) มีโอกาสไว้ทีหลังก็แล้วกัน

หลังจากเดินดูจนทั่วแล้ว บางบูธก็วางโดเดี่ยว คือ ทำเล่มเดียว ก็ขายเล่มเดียวกันไปเลย บางบูธก็เป็นบูธรวมมิตร บางบูธก็คาดไม่ถึงว่าจะออกโดจินเรื่องนี้ ก็ออก เช่นโดจิน Mello/Near ที่ได้มา ปลื้มมากค่ะ เพราะเป็นโดที่ได้มาโดยไม่คาดฝัน ไม่คิดว่าจะมีคนทำ แล้วทำได้โดนใจมากๆๆๆๆๆๆๆ เรียกว่า ถ้าไม่ติดว่าอยู่ในงาน ต่อมน้ำตาแตกแหงๆ (T_T)

ที่ประทับใจอีกบูธคือ บูธ Krimson เพราะคนขายเชียร์แขกดีมากค่ะ (^^)” แหม.... เอาโดเรทมาล่อ เดี้ยนก็ตะครุบสิคะ แต่ว่า......... เจ้าโดนั้นยังไม่คลอด ต้องซื้อเล่ม 1 ก่อน (โฮ!!!) และที่บาดใจสุดๆคือ เค้า reprint งานเก่าเยอะ แถมภาพยังคมชัดมากด้วย (T_T) เอ่อ.... ความจริงฉันก็เป็นแฟน Circle Krismson มานานแล้วนะคะ ซื้อ Doujin เค้าเกือบทุกเล่มเลย แต่ว่า Krismson เป็น Circle ที่ออกโด Sephy/Vincent เป็นหลัก ฉันก็ไม่ใช่แฟนคู่นี้ด้วย แต่เนื่องจากเสน่ห์ของ Sephy เกินห้ามใน หลวมตัวซื้อมาทุกครั้งเลย (^^)” งือ.... โดเล่มก่อนๆ ที่ฉันซื้อ เผลอทำน้ำหยดเข้าใส่ หน้า Vincent เจอโรคสะเก็ดดาวเลย แต่ถือว่า ซื้อแล้วไม่ผิดหวังหรอกค่ะ โดยเฉพาะโด Kingdom Heart วู้..... เลือดสาดถูกใจมากค่ะ ชอบมากแนวนี้ ด้วยรักและซาดิสม์นี่

โดทั้งหมดที่ซื้อมา FMA และ เจปังไม่เกี่ยวค่ะ เพียงแต่เอามาวาง Compose ให้เต็ม ส่วน sketch เล่นข้างหลังเอามาวาง เพราะโด *อ่านชื่อไม่ออก แต่ปลื้มที่สุด* มืดมากค่ะ กลืนไปกับสีพื้นห้อง (^^)





Sekebu

ตอนแรกเกือบจะสิ้นคิดเอาสมุด sketch ของตัวเองไปเนียนทำ Sekebu ซะแล้ว แต่เนื่องจากสภาพมันเน่ามาก เลยตัดใจเรื่อง Sekebu ไปซะดีกว่า (T__T) แต่หลังจากไปเดินหมุนอยู่ในงานแล้ว พบว่า มีคนขอ Sekebu กันเยอะมาก และเค้ามีขายหน้างาน ไหนก็หมดอาการหน้ามืดซื้อโดแล้ว ก็เริ่มมีสติมากขึ้น คิดไปคิดมา เราจะได้มางานแบบนี้อีกหรือเปล่าก็ไม่รู้ ? น่าจะขอ Sekebu เอาไว้เป็นที่ระลึก เลยตัดสินใจไปซื้อสมุด Sekebu หน้างานมาเลย

พอวิ่งขอ Sekebu เองแล้ว ถึงได้รู้ว่า การขอ Sekebu นี่ ไม่ใช่งานหมูเลย คือ ไม่รู้ฉันเข้าใจความหมายของ Sekebu ถูกหรือเปล่า ? คือ ภาพ Sketch เท่านั้น แต่ๆๆๆๆๆ .... รู้สึกการไปขอ Sekebu นี่ เหมือนไปขืนใจนักวาดโดยังไงก็ไม่รู้ อาจจะเป็นเพราะ นักวาดโดแต่ละท่านเจอขอ Sekebu เยอะมาก ยิ่งนักวาดดังๆ หรือเป็น staff ด้วย แล้วฉันดันไปขอช่วงที่จะถึง limit เวลาของตัวเอง อาจจะไปเร่งเค้ามากเกินไป แต่เอ.... ฉันก็เห็นว่าท่านว่างแล้วนา ความจริงแล้ว ฉันต้องการแค่ภาพวาดหยาบๆ วาดง่ายๆ ไม่ได้รบกวนเวลามาก (เพราะฉันก็รีบกลับ ^^”) ถ้าคุณเป็นนักเขียน ฉันก็ขอแค่ลายเซ็น และเลือกขอแต่ Circle ที่ไปซื้องานเท่านั้น ขนาดบางท่านฉันเป็นแฟนงานเค้ามานาน แต่งานนี้เขาไม่ออกโดใหม่ฉันก็ไม่ได้ซื้อ ก็ไม่ไปขอนะ (ไม่ขอย้อนหลัง ^^) ไม่เอาเปรียบนักวาดโดค่ะ วัตถุประสงค์ของฉันแค่อยากได้อะไรเป็นที่ระลึกจากนักวาดที่เราชอบกับมือ เพื่อเราโดยเฉพาะเท่านั้น (T_T)

อ๊ะ! หรือว่า ฉันไม่ได้ขอ Sekebu ทันทีที่ซื้อ แต่ดันไปขอทีหลังจากทิ้งช่วงไปแล้ว บางทีเค้าอาจจะคิดว่าฉันไม่ซื้องานเค้าแต่ไปมั่วนิ่มขอ Sekebu หรือเปล่า ? บ้าน่า....... เค้าคงไม่เค็มขนาดนั้นหรอก ?!

ก็ไม่ได้เสียความรู้สึกอะไรหรอกนะคะ เพียงแต่เป็นประสบการณ์แปลกใหม่ที่ต่างจากที่คิดไว้เยอะมากเท่านั้น (^^)” ไม่รู้ว่าทำอะไรผิดมารยาทไปหรือเปล่า ? แต่ได้มารูปหนึ่งคือ .... เค้าวาดเอ็ดให้เสร็จสรรพ แต่...... ไม่วาดจมูกกับปากให้ .... ฉันถามเขาว่า เสร็จแล้วหรือคะ ? เค้าก็ว่า เสร็จแล้วค่ะ !...... ฉัน ?!?! (คิดในใจ เฮ้ย! .... เขาวาดรูปปริศนาธรรมหรือเปล่าฟ่ะ ?!) ไม่ได้ท้วงอะไรกลับไป เพราะเกรงใจมากค่ะ (^^)::



Cosplay

Cos กันเยอะแยะมากค่ะ รู้สึกสถานที่คับแคบไปถนัดใจ แต่เนื่องจากฉันหน้ามืด Shopping Doujin พอออกมา พบว่า Layers และช่างภาพหนาแน่นแทบจะจับภาพไม่ได้ ฉันยิ่งเป็นโรคแพ้ความวุ่นวายด้วย เลยไล่ตะครุบแต่ Layers ที่ว่างๆ เลยได้มาเท่าที่เห็นค่ะ แนวสาวน้อยเยอะเหมือนกัน บางเรื่องที่ไม่รู้จักก็ไม่โพสต์ล่ะนะ เพราะแปะรูปแล้วบรรยายว่า “เรื่องอะไรก็ไม่รู้” ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ (^^)”

Riku จาก Kingdom Heart ค่ะ งานนี้ Riku ไม่ค่อยชุกเท่าไหร่ ไม่มี Sora หวานใจเลย (หรือหาไม่เจอหว่า ?)


Rabi กับ Allen ค่ะ หา Kanda ไม่เจอ


ง่า 3 หนุ่มหล่อ แต่ไม่รู้มาจากเรื่องไหน ?!


Mello/Near น่ารักพร้อม L ที่มาในแบบหมอนข้างน่ากอด


ด้วยความลำเอียง อีกรูป


โร้คจาก D Gray Man ค่ะ น่ารักมากเลย แต่สาวน้อยที่คู่กัน มาจากเรื่องไร จำไม่ได้


Host Club โอรัง ถ้าจำไม่ผิด


จอมโจรคิด เสียดายจับคู่กับโคนันไม่ทัน เห็นโคนันเดินอยู่แวบๆ ไม่รู้ใช่โคนันจริงๆ หรือเปล่า ?


Howl กับ Sophie จาก Howl's Moving Castle น่ารักมากเลย


เหมือนสวรรค์เป็นใจ เป็นภาพที่ออกมาแสงสวยมาก


แนวสาวน้อยก็เยอะแยะ แต่ไม่ได้ถ่ายค่ะ เพราะไม่รู้ว่ามาจากเรื่องอะไรบ้าง ?

กลุ่มนี้กำลังโพสต์ท่าน่ารัก ก็ไปมั่วนิ่มถ่ายกับเค้ามา

รูปไม่เยอะเท่าไหร่ แปะสะดวกดีค่ะ

อยู่ถึงบ่าย 2 โมงก็กลับแล้ว เพราะถึง limit เวลาที่ตัวเองตั้งไว้ ส่วนในงาน นอกจากโดจินแล้ว ก็มีงาน Anime ฝีมือคนไทยให้ดูกัน พร้อมด้วย Opening/Ending Anime ฮือ.... ผิดหวังจังไม่ได้ดู Death Note กับ D Gray Man (>_<)

Shop Doujin สนุกมากค่ะ กระเป๋าฉีกเลย อู้ย....




 

Create Date : 13 พฤศจิกายน 2549    
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2549 17:32:56 น.
Counter : 1592 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  

Pride
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ฮู้.... กว่าจะใช้ blog เป็น (คิดว่านะ) ต่อไปนี้ จะพยายาม update เรื่อยๆก็แล้วกัน ส่วนเนื้อหา .... คาดว่าจะจับฉ่าย ส่วนของ Let's talk ก็เรื่องสัพเพเหระ , secret window ก็จะเป็นเอ่อ.... อะไรที่มัน Y หรือ Homo นะ เพราะชอบอ่านการ์ตูน Y นิ เพราะฉะนั้น ไม่ชอบอย่า click เข้าไป ส่วน comic talk ก็เป็นการ์ตูนที่กำลังอิน หรือกำลังอ่านอยู่ค่ะ
Friends' blogs
[Add Pride's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.