เทคนิคการ เตรียมลูกให้ "พร้อม" ก่อนเข้าอนุบาล

จาก นิตยสารรักลูก
ลูกจะเข้าอนุบาลแล้ว เรื่องสำคัญไม่ใช่แค่การ เลือกโรงเรียนเท่านั้น นะจ๊ะ แต่ต้องเตรียม เจ้าตัว เล็ก ของเราให้ "พร้อมที่สุด" เท่าที่จะทำได้ด้วย เพื่อให้ชีวิตใหม่ในโรงเรียน ของลูก เริ่มต้น ขึ้นอย่าง ราบรื่นและงดงามดังหวัง

เดาได้เลยล่ะค่ะว่าตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้วคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกอยู่ในวัย 3 ปีกำลังวิ่งหาโรงเรียน อนุบาลให้เจ้าตัวเล็กกันขาขวิดเลยใช่ไหมล่ะโรงเรียนไหนที่ว่าดี คุณพ่อคุณแม่ ก็ลองศึกษาหา ข้อมูล ไปดูตัว(โรงเรียน)กันให้วุ่น เพราะอยากให้เจ้าตัวน้อยเราได้เรียนในโรงเรียนดีๆ ที่ถูกใจ ใกล้บ้านโอย..สารพัดปัจจัยที่ต้องดูเลยค่ะ
แต่ที่สำคัญไม่แพ้กันกับการหาโรงเรียนให้เจ้าตัวเล็กก็คือการเตรียมความพร้อมให้กับลูกนั่นเองเพราะตั้งแต่เปิดเรียนลูกก็จะไมได้อยู่ในอ้อมอกของเราทั้งวัน ไม่มีคนช่วยทำโน่นทำนี่ให้ทุก อย่าง อีกต่อไป แต่จะต้องเข้าสู่สังคมโรงเรียนที่ลูกไม่คุ้นเคยดังนั้นลูกจึงต้องหัดทำอะไรต่อ มิอะไรเองให้ ได้บ้างต้องรู้จักปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ ลูกจะได้อยู่ ในโรงเรียนได้อย่างดีมีสุขไงคะ
จริงๆ แล้วการเตรียมความพร้อมเรื่องต่างๆให้ลูกไม่ใช่ว่าเราจะมาเตรียม กันตอนก่อน เข้า โรงเรียน เท่านั้นเพราะพัฒนาการของลูกไม่ใช่สิ่งที่จะมาเนรมิตได้ภายในข้ามคืน เราต้องเตรียมมาตั้งแต่ ขวบปีแรก เรียกว่าในช่วง 3 ขวบปีแรกก่อนที่จะเข้าเรียนเราต้องเตรียม ความพร้อม ให้ลูกอยู่ ตลอด นั่นเองโดยเฉพาะในเรื่องต่อไปนี้

เตรียมร่างกาย
ร่างกายเป็นเรื่องพื้นฐานมากๆค่ะต้องให้ลูกได้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ได้พัฒนาด้าน ร่างกาย กล้ามเนื้อมัดเล็กมัดใหญ่ ให้ลูกได้ออกกำลังกาย ทำให้มีการทรงตัวที่ดี ให้ได้นอนหลับ พักผ่อนที่เพียงพอ เพื่อสุขภาพที่ดีของลูก

ฝึกให้ลูกช่วยเหลือตัวเองได้
เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดค่ะ เพราะเมื่อลูกเข้าไปอยู่ในอีกสังคมหนึ่งซึ่งไม่มีคนมาดูแล ใกล้ชิด เหมือนอยู่ ที่บ้านดังนั้นลูกเราต้องช่วยเหลือตนเองได้ดีพอสมควรค่ะ เด็กที่ช่วยเหลือ ตัวเอง ได้ดีกว่าก็จะปรับตัว ให้เข้ากับโรงเรียนได้ดีกว่า เช่น การรับประทานข้าวได้ด้วยตนเอง การบอกว่าปวดปัสสาวะ หรืออุจ จาระกับคุณครูได้
การฝึกให้ลูกรู้จักช่วยเหลือตัวเองได้นั้นไม่ใช่เรื่องที่จะฝึกันวันสองวันแล้วก็ได้ผลนะคะแต่ต้อง ฝึก ตามวัย ตามพัฒนาการของลูก เช่น เมื่ออายุ 1-2 ขวบ ลูกจะเริ่มสนใจตักอาหารเข้า ปากเองได้ คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องปล่อยให้ลูกลองทำเอง จะหกบ้าง เลอะเทอะบ้างก็ปล่อยไป ไม่เป็นไร ลูกจะได้ฝึก หรือฝึกให้ลูกรู้จักพูดบอกเมื่อปวดปัสสาวะฝึกการขับถ่ายให้เป็นเวลา ฝึกให้ลูกรู้จักนั่งชักโครกให้ลูกได้ช่วยเหลือตัวเองในเรื่องง่ายๆ เช่น เรื่องการแต่งตัว ใส่เสื้อ ติดกระดุมใส่รองเท้า ถอดรอง เท้า เป็นต้น
ในเรื่องการช่วยเหลือตัวเองนี้บางทีก็เพราะด้วยความรักของพ่อแม่เราจึงมักทำแทน หรือให้ พี่เลี้ยง ทำแทนให้ลูกหรือด้วยความเร่งรีบพ่อแม่ก็จะทำให้ลูกเอง เพราะอยาก ให้เสร็จเร็วๆ สะอาดๆการทำให้ลูกอย่างนี้เท่ากับ เป็นการปิดโอกาสที่ลูกจะได้พัฒนา ฉะนั้นเพื่อให้ลูกได้พัฒนาตัวเองเราควรเปิดโอกาสให้ลูกได้ทำอะไรเองตามวัยในสิ่งที่เขาทำได้นะคะ

ฝึกเรื่องการอดทนรอคอย
เวลาที่ลูกอยู่โรงเรียน ลูกจะไม่ได้รับการตอบสนองความต้องการทันทีทันใด เหมือนกับตอน ที่อยู่บ้าน กับเราค่ะหนูน้อยจะต้องรอให้ถึงคิวตัวเองก่อน เช่น อยากจะเล่นอะไรก็อาจ จะเล่นไม่ได้ทันทีเพราะ มีเด็กหลายคนที่รอเล่นอยู่ หนูก็ต้องหัดอดทนรอคอย หรือเมื่อไปโรงเรียน ลูกก็ต้องรู้จักรอพ่อแม่ ไปรับกลับบ้าน เป็นต้น
ในการฝึกให้ลูกนี้เราต้องค่อยๆ ฝึกทีละน้อยค่ะให้ลูกรอในสิ่งที่เขารอแล้วได้ ไม่ใช่รอแล้ว ไม่ได้ลูก ก็จะรู้สึกผิดหวัง เช่นลูกจะเล่นอะไรบางอย่างที่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา คุณพ่อคุณแม่ก็อาจ จะให้เขารอสักครู่หนึ่ง และระหว่างนั้นพ่อแม่ก็อาจจะให้ความสนใจในตัวเขา ชวนเขาคุยก็จะช่วยทำให้เขา รอคอยได้มากขึ้นค่ะ
และเวลาที่ลูกอยากได้อะไรก็ไม่จำเป็นที่จะต้องตามใจลูกทุกครั้งไปหรอกค่ะ เราอาจจะ ใช้วิธีเบี่ยงเบนให้ลูกหันไปสนใจสิ่งอื่นทดแทน เป็นการสอนให้ลูกรู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างมีขอบเขตไม่จำเป็นว่า พ่อแม่ต้องตามใจหนูทุกครั้งเพราะกลัวว่าหนูจะเสียใจเพราะถ้ากลัวลูกเสียใจ แล้วจะยิ่งทำให้ลูก ปรับตัวกับสิ่งอื่นๆ หรือคนอื่นๆต่อไปได้ยากค่ะ

ส่งเสริมทักษะการเข้าสังคม
เด็กในวัยอนุบาลจะต้องรู้จักแบ่งปันแบ่งของเล่นและรู้จักเล่นกับคนอื่นเป็นบ้าง และเพื่อเป็นการส่งเสริมให้ลูกรู้จักเข้าสังคมได้ก็ต้องเริ่มจากตัวเราค่ะเพราะว่าสังคมเบื้องต้น ของลูกก็คือ พ่อแม่ นั่นเอง เราต้องเล่นกับลูกก่อนสอนให้ลูกเล่นกับเราและเล่นกับคนอื่นๆ เป็น เมื่อลูกรู้จัก สามารถ เล่นกับคนอื่นได้ก็เท่ากับเป็นการเรียนรู้การเข้าสังคมในระดับเบื้องต้นแล้วค่ะ
อีกจุดหนึ่งที่สำคัญคือเด็กในวัยนี้จะเป็นวัยที่ถือตัวเองเป็นใหญ่มีความเห็นแก่ตัวอยู่แล้ว เพราะ ฉะนั้นผู้ใหญ่อย่างเราก็ต้องไม่ไปบังคับลูกจนเกินไป แต่เน้นการเปิดโอกาส ให้ลูกทำมากกว่าและเมื่อลูก ทำได้ เช่น ลูกยอมแบ่งของเล่นให้เพื่อน เราก็ต้องไม่ลืมชื่นชมแต่ถ้าลูกยัง ไม่อยาก ทำละก็ อย่าใช้วิธีบังคับนะคะ เพราะการบังคับจะยิ่งทำให้ลูกหวงของมากขึ้นค่ะ
ยัง..ยังไม่หมดเท่านี้ ไปพบกับคำแนะนำและรายละเอียดเพิ่มเติมดังต่อไปนี้ได้ภาย ในเล่มรักลูก เดือนมกราคม 2546 ค่ะ...
ส่งเสริมให้ลูกรู้จักใช้ภาษาสื่อสาร
ให้ลูกมีโอกาสในการเล่น
สร้างทัศนคติที่ดีต่อโรงเรียน
ปกป้องลูกจากสิ่งกระตุ้นทางลบ
ให้ความมั่นใจว่าจะไม่ทิ้งลูก
ให้ความร่วมมือกับครู





Create Date : 27 มิถุนายน 2554
Last Update : 27 มิถุนายน 2554 13:18:47 น.
Counter : 479 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

มนแพรวา
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]