FAQ-22 update 28/1/2012
ได้ออฟเฟอร์งาน แต่เป็นงาน back office ของบริษัท Sedco Forex ในเครือ Transocean ค่ะ ลองเข้าไปดูข้อมูลของบริษัทเขาแล้ว ทราบมาว่าเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงระดับโลก แต่ที่บ้านและคนรอบตัวไม่ได้อยู่ในธุรกิจด้านนี้เลย เลยไม่เป็นที่รู้จักของคนรอบข้าง เลยอยากจะถามคุณพ่อน้องเฟิร์นว่า บริษัทนี้มันมีความมั่นคงสูงมั้ยคะ เนื่องจากตอนนี้ได้งานจาก 2 บริษัท แห่งหนึ่งก็คือที่นี่ อีกแห่งก็เป็นรัฐวิสาหกิจ สตาร์ทเงินเดือนต่างกันมาก แต่เรื่องความมั่นคงเค้ามองว่ารัฐวิสาหกิจมีมากกว่า เลยทำให้เราตัดสินใจลำบาก ยังไงรบกวนขอคำแนะนำด้วยนะคะ คำถามนี้ ตอบให้สั้นก็ได้ ตอบให้ยาวก็ได้ครับ แต่ผมเลือกที่จะใช้เวลาตอบให้คุณยาวๆ เพราะว่าคุณจะได้เอาหลักการไปใช้กับเรื่องอื่นๆได้อีกในวันข้างหน้า บ.เอกชน ยังไงๆก็ไม่มั่นคงเท่ารัฐฯหรอกครับ แต่ถ้าจะเทียบกับเอกชนด้วยกันในระนาบเดียวกัน บ. Sedco Forex ในเครือ Transocean ใหญ่มากครับ แต่เนื่องจากเป็น back office โดยธรรมชาติของบ.แท่นฯพวกนี้ ถ้ามีงานอยู่ในประเทศไหน เขาก็มีออฟฟิตสาขาอยู่ประเทศนั้น จ้างคนท้องถิ่น(ในที่นี้คือคนไทยทำงาน back office, logistic ฯลฯ) ถ้าประมูลงานไม่ได้ ปีสองปีก็ไม่เป็นไร ก็ใช้ฐานสาขาประเทศนั้นๆทำงานให้ประเทศข้างเคียงที่ประมูลได้ไปพลางๆ แต่ถ้าไม่ได้ทั้งในประเทศนั้นและประเทศข้างเคียงเลยหลายปีติดๆกัน ก็ต้องม้วนเสื่อกลับไป ทีนี้อีตอนกลับไป เขาก็จะเอาแต่บุคลากรหลักๆของเขากลับไป เช่นวิศวกรตัวหลักๆ ผจก. back office ที่เก่งๆ ที่อาจจะเป็นคนท้องถิ่นเช่น พวก ผจก.การเงิน supply chain, logistic, marine ฯลฯ แต่ถ้าเป็น back office ตัวจิ๋มๆ ก็คงจ่ายค่าชดเชยตามกม.ประเทศนั้นๆกันไปตามระเบียบ ทางรอดของพนักงานตัวจิ๋มๆจ้อยๆคืออะไรในกรณีนี้ ทางแรกคือตะเกียดตะกายให้เป็นพนักงานท้องถิ่นตัวใหญ่ๆที่มีความสำคัญพอที่บ.จะให้ข้อเสนอให้ติดตามไปอยู่สาขาอื่นหรือไปสนง.ใหญ่บ.แม่ หรือ ทางที่สอง เป็นพนักงานตัวจิ๋มๆเหมือนเดิมแต่รอบด้านในสาขาที่ทำเช่นเป็น marine logistic, ITหรือ custom ฯลฯ ที่เฉพาะทางในอุตสาหกรรม ปิโตรฯต้นน้ำ แล้วย้ายวิกไปอยู่บ.แท่น บ. service บ.น้ำมัน อื่นๆต่อไป (ส่วนมากตัวจิ๋มๆจะเป็นกรณีย้ายวิกนี้ครับ) คำถามคือมันจะเกิดเหตุการณ์ที่บ.ใหญ่ขนาดนี้จะ "ประมูลไม่ได้ทั้งในประเทศนั้นและประเทศข้างเคียงเลย" นานๆถึง 3-4 ปีไหม ผมว่าไม่น่านะครับ โอกาสน้อยๆมากๆครับ สรุปคือความเสี่ยงสูงผลตอบแทนก็สูงตาม ที่คุณต้องคิดคือจุดคุ้มทุนทางเศรษฐศาสตร์ต่างหากครับว่าอยู่ที่กี่ปี เอาทุกอย่างที่ Sedco และที่รัฐฯนั้น ตีให้เป็นตัวเงิน แล้วหารดูว่าจุดคุ้มทุนกี่ปี ถ้ารับได้ก็โอเค แต่ถ้ารับไม่ได้ก็ไปทำที่รัฐฯแห่งนั้นดีกว่า โบนัสก็ประมาณๆเอา Sedco นี่ผมให้ตัวเลขกลมๆเลยว่า 1 เดือน ส่วนสวัสดิการก็ ไปสัมภาษณ์ถามๆแล้วกะๆเอา เช่นค่าเล่าเรียนบุตร ถ้าเป็นเรื่องค่ารักษาพยาบาล หรือ อุบัติเหตุ หรือ เสียชีวิต ก็ใช้วิธีโทรฯไปถามตัวแทนประกันฯแล้วตีออกมาเป็นเบี้ยประกันต่อปี คือพยายามตีทุกอย่างให้เป็นตัวเลข เสร็จแล้วให้หักค่าใช้จ่ายส่วนที่ไม่เหมือนกันออก เช่นค่าแต่งตัว ทำที่รัฐฯนั่นอาจจะมีเครื่องแบบให้ ที่ sedco ต้องแต่งตัวประชันกันเอง ค่าเดินทาง ค่าเช่าหอ ถ้าทำอีกที่หนึ่งต้องไปเช่าหออยู่ หรือ เดินทางไกล ก็หักออก ส่วนค่าใช้จ่ายที่เหมือนกันไม่ต้องเอามาคิด เพราะยังไงๆมันก็เท่ากัน จริงป่ะ เช่นค่ากิน ค่าน้ำ ค่าไฟ ทำที่ไหนมันก็เท่ากัน พอเอามาลบกันเสร็จคิดเป็นต่อปี ผมจะตั้งชื่อตัวเลขนี้ว่า "รายได้สุทธิเปรียบเทียบต่อปี" พูดเปล่าๆแบบนี้อาจจะงง เอางี้ ยกตัวอย่าง ทำที่ Sedco 1 ปี ได้ "รายได้สุทธิเปรียบเทียบต่อปี" เท่ากับทำที่รัฐฯนั่น 2 ปี ดังนั้นจุดคุ้มทุนอยู่ที่ครึ่งๆ สมมุติคุณเหลือจำนวนปีทำงาน อีก 20 ปี จึงเกษียณแสดงว่าคุณต้องทำที่ sedco 10 ปี จึงจะพอได้รายได้เท่ากับทำที่รัฐฯไปจนเกษียณคือ 20 ปี คำถามคือ จากนี้ไป sedco จะอยู่ถึง 10 ปีให้คุณพึ่งพิงไหมต่างหาก ถ้าคุณทำที่ Sedco ไป 10 ปีแล้วบ.มันยังไม่ม้วนเสื่อ แปลว่าที่เหลือก็กำไรแล้ว (เมื่อเทียบถ้าทางเลือกอีกทางที่ไปทำกับรัฐฯ) ถ้า "รายได้สุทธิเปรียบเทียบต่อปี" ของ Sedco ดีกว่าที่รัฐฯมากๆเช่น 3:1 หรือคุณเหลือจำนวนปีที่ทำงานน้อย (คือคุณอายุมากแล้วนั่นเอง) จุดคุ้มทุนมันก็ยิ่งใกล้เข้ามา นี่ผมให้คิดง่ายๆ ไม่ต้องคิดลึกไปถึง ค่าเงินตามเวลา เงินเฟ้อ ดอกเบี้ย รายได้เพิ่มจากการเลื่อนขั้นระหว่างทำงาน ฯลฯ เอาแบบเบสิกๆไปก่อน ลองๆใช้ตัวเลขจริง (ไม่ทราบก็ประมาณเอา) กดเครื่องคิดเลขดูว่าได้จำนวนปีที่ว่านี้กี่ปีแล้วอีเมล์กลับมาคุยกันใหม่ เผื่อจะได้แนวๆคิดบ้าง คุณอาจจะร้องว่า ทำไมมันยุ่งยากแบบนี้ ไม่เก่งเลขจะคิดเองได้ไง คุณครับ ชีวิตคุณเองคุณต้องดูแลและถี่ถ้วนหน่อย อย่าตัดสินใจด้วยอารมณ์ ความรู้สึก หรือไปเชื่อคนโน้นคนนี้ ที่ผมแนะนำให้คิดเชิงปริมาณแบบนี้ เพราะถ้าคุณตัดสินใจอะไรไปแล้ว ไม่ได้อย่างที่คาด อย่างน้อย คุณย้อนมองกลับมา คุณจะไม่เสียใจ เพราะคุณได้ตัดสินใจอย่างเป็นระบบ ด้วยข้อมูลที่ดีที่สุดที่มีอยู่ในตอนนั้น เรียนว่าทำดีที่สุดแล้วนั่นแหละครับ การประเมินผลการตัดสินใจว่าถูกหรือผิดไม่ได้ดูที่ผลของการตัดสินใจว่าสำเร็จดังหวังหรือไม่ เพราะ "สำเร็จดังหวัง" มันมีปัจจัยภายนอกมากมายที่เราไม่สามารถเอาเข้าไปใส่ในสมการตอนตัดสินใจได้ การประเมินผลการตัดสินใจว่าถูกหรือผิด ขึ้นกับคำถามที่ว่า "ถ้าฉันย้อนกลับไปตัดสินใจอีกหนด้วยข้อมูลตอนนั้น(ไม่ใช่ด้วยข้อมูลตอนนี้) ฉันยังจะตัดสินใจอย่างนั้นหรือไม่" ถ้าคำตอบคือเหมือนเดิมแสดงว่าฉันตัดสินใจถูก(แม้ว่าผลจะออกมาไม่ดีก็ตาม) ถ้าคำตอบคือฉันคงตัดสินใจไม่เหมือนเดิมแสดงว่าฉันตัดสินใจผิด(แม้ว่าผลจะออกมาดีก็ตาม นั่นแปลว่าฟลุ๊คหรือดวงดีต่างหากครับ) แล้วทางเลือกที่ผมเลือกตอบคำถามของคุณอย่างยาวก็จบลงตรงนี้ ... ผมใช้เวลาตอบไปเยอะ แต่ผมก็คิดว่าผมตัดสินใจถูก เพราะให้ผมย้อนกลับไปตอบใหม่ ผมก็ยังเลือกตอบคำถามนี้แบบยาวๆ ... พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร ... ==================================อยากจะปรึกษาเรื่องแผนการเรียนน่ะครับ คือตอนนี้ผมอยู่ ปวช.3 อิเล็กทรอนิกส์ ผมสนใจที่จะเรียนด้านวิศวะปิโตรเลียมมาก แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไงดีทั้งเรื่องแนวข้อสอบ ต้องติวอะไรบ้างหรือมหาลัยฯที่เรียนเป็นที่ไหนบ้าง(ผมอยู่ จ.สงขลาไม่ทราบว่ามีมหาลัยฯไหนในภาคใต้ที่เปิดสอนบ้าง) เลยอยากจะขอคำแนะนำจากพี่ครับ ถ้าจะไปทางสายอาชีพ(ต่อปวส.)ผมแนะนำให้ไปที่เว็บนี้เลยครับ //www.ex-petroleum.com/ เป็นชุมชนสายอาชีพที่ทำงานในอุตสาหกรรมฯสำรวจและผลิตปิโตรฯต้นน้ำในอ่าวไทยของเรา รู้สึกว่าที่เรียนก็อยู่ในหาดใหญ่นั่นแหละครับ มีหลักสูตรนี้โดยตรงเลย เรื่องการติวหรือหลักสูตรนี่ผมไม่ทราบเหมือนกันครับ ไปที่เว็บนั้นน่าจะมีคนใจดีชี้ๆทางให้นะครับ แต่ถ้าจะต่อป.ตรี ผมก็แนะนำว่าต่อป.ตรีวิศวกรรมศาสตร์ในสาขาที่คุณถนัดนั่นแหละครับ จะดีที่สุด เพราะคุณจะได้ทำเกรดให้ดีๆสูงๆม.ไหนก็ได้ เสร็จแล้วก็สมัครงานกับบ.service ไปพลางๆ หรือจบตรีแล้ว จะไปสมัครเข้า TPTI drilling school ก็ได้ แต่ถ้าอยากเรียนวิศวปิโตรเลียมจริงๆ ก็คงต้องเข้าระบบเอ็นทรานล่ะครับ มีที่วิศวะจุฬา ต้องเข้าไปก่อน แล้วเลือกภาคตอนปี 2 แต่งานนี้หินมากๆขอบอก ส่วนอีกทางก็ไปเอ็นฯเข้า Geotech ของม.สุรนารี หรือ offshore tech ของบางมด ทำการบ้านเข้าไปดูในเว็บของ 3 ม.นี้ดูนะครับ สงสัยอะไรก็ถามมาใหม่ได้ สรุปคือไม่ว่าจะไปสายอาชีพ หรือ สายป.ตรี เกรดและภาษาอังกฤษสำคัญมากๆ คุณอยู่แค่ปวช. 3 ก็เท่ากับ ม.6 ซึ่งถือว่าดีเลย เพราะคุณรู้ตัวล่วงหน้าก่อนว่าอยากเป็นอะไรอยากทำอะไร คุณมีเวลาเตรียมพร้อมเตรียมเกรดดีๆเตรียมภาษาดีๆ พอจบมาได้วุฒิ (ตรีหรือปวส.ก็ตาม) คุณได้เปรียบคนอื่นเห็นๆแน่ๆแล้วครับ ปล. ฝากเด็กๆน้องๆในนี้ด้วย อยากให้เหมือนน้องคนนี้ที่รู้ว่าตัวเองชอบอะไรจะไปทางไหนแต่เนิ่นๆ ไม่ใช่ว่าจะจบม.6แล้วถามว่าอยากประกอบอาชีพอะไร อยากเป็นอะไร ตอบว่า ผมไม่รู้ หนูไม่รู้ ผมเศร้าใจแทนประเทศไทยจัง อีกแค่ 2 ปี (กรณีปวส.)หรือ 4 ปี (กรณีป.ตรี) ก็จะเข้าสู่ตลาดแรงงานแล้ว (ไม่ว่าจะเป็นลูกจ้างหรือผู้ประกอบการ) ถ้ายังตอบว่า ผมไม่รู้ หนูไม่รู้ ฮึ เป็นน้องเป็นนุ่งจะเอาก้านมะยมตีให้ก้นลายเลย ... พี่นก ... ============================หนูเรียนจบวิศวเคมี ด้วยเกรดเฉลี่ย 2.64 เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งตอนนี้ทำงานอยู่บริษัท xxx อยากจะเปลี่ยนสายงานไปทำด้านบริษัท service company oil and gas/ petroleum ตอนนี้พยายามสมัครหลายบริษัทแล้วแต่ยังไม่ได้รับการตอบกลับ พอจะมีคำแนะนำมั้ยคะ ปล.เคยสมัครบริษัท xxx แล้ว เค้านัดสัมภาษณ์ แต่ตอนสัมภาษณ์สัญญาณไม่ค่อยดี เค้าบอกว่าจะติดต่อกลับมาอีกครั้งแต่ผ่านไปเป็นเดือนก็ยังไม่ติดต่อมา จึงติดต่อกลับไป เค้าบอกว่า จะส่ง schedule สำหรับการสัมภาษณ์ใหม่อีกครั้งปรากฎว่า เค้าส่งเป็นจดหมาย reject กลับมา เลยท้อแท้เลยค่ะ ผมเข้าใจความรู้สึกแบบนี้ดีครับ เฮ้อ ... ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร อย่างที่พูดบ่อยๆว่า วงการฯนี้มันสวยเลือกได้ ตามหลักอุปสงค์อุปทาน ไม่ใช่ว่าเราไม่ดีไม่เก่ง แต่มีอุปทาน(supplies)ที่ วุฒิตรงกว่า หรือวุฒิเหมือนเราแต่เกรดสูงกว่า ไม่ใช่ว่าเอาเราไปหัดไปสอนไม่ได้ แต่ค่าใช้จ่ายทั้งเงินและเวลามาสอนเรามันก็มากกว่า คนจ้างเขาก็ต้องเลือกเอาทางเลือกที่ลดค่าใช้จ่ายเขา ผมแนะนำให้สองวิธีครับ 1. ลดสเป็กบ. service company ลงจาก top 4 มาเป็นบ.กลางๆไปทางเล็กๆ ผมไม่ทราบว่าหลายๆบ.ที่สมัครไปนั้น top 4 หรือเปล่า เช่น SLB, HES, Baker, Weatherford พวกนี้สวยเลือกได้ครับ เกรด 3 กว่า ไปจนถึงเกียรตินิยม และ ป.โท แทบเหยียบกันตาย แย่งกันเข้า ลองดูบ.เล็กๆหรือในเครื่อพวกนี้ดู เช่น บ.ซีเมนต์ BJ น้ำโคลน MI Swaco Scomi หัวเจาะ Reedhycalog, DBS, Smith, Varel, Baker huge Cristensen อะไรพวกนี้น่ะครับ พวกบ.น้ำมันนี่ก็ลำบากครับ ส่วนมากก็ตั้งสเป็คเกรดขั้นต่ำ 2.75 ถึงตั้งแค่ 2.75 ขั้นต่ำ แต่เอาเข้าจริงๆ 3 กว่าขึ้นไปทั้งนั้นที่สมัครบ.น้ำมันกัน เราอยู่ในระบบทุนนิยมตลาดแรงงานเสรี ทำไงได้ครับ 2. ลงทุนอัพเกรดเพิ่มโดยการเรียนต่อ ป.โท เอาตามความพร้อมทั้งเงินทุน เวลา ความสามาถ ความชอบ ดูในบล๊อกห้องสมุดผมได้ครับ มีทางเลือกอยู่พอสมควร ในขญะเดียวกัน ฝึกภาษาอังกฤษให้ดีๆ Toeic สัก 800 เป็นไง ไหวไหมครับ ได้ภาษาจีนกลางอีกก็จะดี เราเอาเกรดเอาวุฒิชนซึ่งๆหน้าไม่ได้ ก็ต้องแถๆเอา ด้านอื่นช่วย ลองสมัครขุดเจาะของบ.จีน เช่น Great Wall Drilling เงินไม่ดี แต่ถือว่าเอาประสบการณ์ หรือ บ.ไทยๆใครเครือ MMSVS ก็ได้ ดูในบล๊อกห้องสมุดผม มีรายชื่อบ.ให้ดาว์โหลด ... ==========================หนูมีข่าวดีที่สุดมาบอกค่ะ คือหนูเพิ่งได้คุยกับพี่ที่เป็น FE คนที่ไปดู field อ่ะค่ะ พี่เค้าบอกว่าหนูจะได้ไปทำที่ America ที่รัฐ Oklahoma ค่ะ พี่นกเคยไปทำงานที่รัฐนี้ไหมค่ะ หนูควรจะเตรียมตัวยังไงบ้างค่ะพี่นก ขอคำชี้แนะด้วยนะค่ะ คือรอบนี้แผนก well service มีทั้งหมดหกคนค่ะ ที่เพิ่งรับค่ะ คนแรกชื่อ xx วิศวะ xxx ได้ไปทำงานที่อินโดนีเชียค่ะ คนที่สองชื่อ xxx วิศวะ xxx ได้ทำงานที่ yard ที่พิษณุโลกอ่ะค่ะ คนที่สามชื่อ xxx วิศวะ xxx คนนี้สัมภาษณ์รอบเดียวกับหนูอ่ะค่ะ ที่เคยเล่าให่พี่ฟังอ่ะค่ะ ได้ทำที่ yard พิษณุโลก คนที่สี่ชื่อ xxx วิศวะ xxx แต่ก่อนที่จะมาสัมภาษณ์ well service เคยไปสัมภาษณ์ wireline มาก่อนค่ะ แต่ไม่ผ่าน คนนี้ได้ไปทำที่บรูไนค่ะ คนที่ห้าชื่อ xxx วิศวะ xxx ค่ะ เป็นผู้หญิงค่ะ ทำที่วิเชียรบุรีค่ะ เป็น trainee ค่ะ คนที่หกชื่อ xxx วิศวะ xxx ค่ะ คนนี้เป็น trainee ค่ะ ทำที่ yard ที่พิษณุโลกค่ะ คนที่เจ็ด หนูเองค่ะ วิทยา xxx ค่ะ หนูได้ไปที่ America รัฐ Oklahoma ค่ะ ก็รบกวนพี่นกช่วยชี้นำและชี้แนะหนูด้วยนะค่ะ ขอบคุณมากๆๆค่ะ ^^ ก่อนอื่นก็ต้องขอแสดงความยินดีด้วยที่ประสบความสำเร็จในเบื้องต้นที่ได้ทำงานกับบ.นี้ที่ถือเป็นตักศิลาแห่งหนึ่งในวงการฯ คำแนะนำอะไรๆก็ให้ไปหมดแล้วตอนก่อนที่จะไป field exposure ไปที่โน้นก็ไม่ต่างอะไรกัน เรื่องการเดินทางโดยเครื่องบิน การพักตามโรงแรม ต่างๆนั้น คงไม่ต้องอธิบายหรือแนะนำอะไรนะ เพราะหาอ่านเอาได้เยอะแยะตามเว็บและกระทู้ต่างๆ แต่เน้นนะว่าให้ทำการบ้านเรื่อง การเดินทางกับเรื่องพักรร.ต่างประเทศไปก่อน ยิ่งหนูไม่เคยไปต่างประเทศคนเดียวด้วย เป็นผู้หญิงอีกต่างหาก แต่ที่อยากจะแนะนำก็คือเรื่องที่เฉพาะๆของวงการฯเราเท่านั้น ซึ่งก็หนีไม่พ้นเรื่อง "คน" ที่โน้นหรือที่ไหนก็ตามในวงการฯมีคนอยู่สองประเภท ประเภทแรกคือที่พวกเราเรียกกันว่าพวก old school หรือ แปลง่ายๆว่าพวกหัวเก่า ก็ต้องขอเกริ่นนำเท้าความนิดนึงว่าวงการฯนี้เริ่มแยกวงมาจากวงการเหมืองฯที่เกิดก่อนวงการฯเราหลายร้อยปี สมัยก่อนโน้นวงการฯเราไม่ดังไม่เนื้อหอม คนที่มาทำคือพวกเหลือมาจากวงการฯอื่นๆ สังเกตุว่าใช้คำว่า "คน" ไม่ใช้คำว่า "วิศวกร" เพราะสมัยนั้นไม่มีวิศวกรไหนจะอยากมาทำ ช่างและกรรมกรที่มาทำก็ไปชี้ๆเก็บๆเอามาจากพวกตกงานข้างถนน พวกเร่ร่อน (homeless) ในเท็กซัส โอกลาโฮมา แคลิฟอเนีย ฯลฯ นี่ผมได้ยินมาจากพวก old school รุ่นปู่รุ่นทวดเลยนะ ว่าไปชี้ๆเก็บๆเอามาจากข้างถนนจริงๆ เป็นแบบนี้อยู่หลายสิบปี ทำงานกันแบบลองผิดลองถูก บาดเจ็บ พิการ ล้มตายกัน ก็เยอะ เพราะเรื่องความปลอดภัยสมัยนั้นไม่มีเลย ดังนั้น พวกนี้จะพูดคำด่าคำ มึงมาพาโวย ไม่มีทฤษฎี ไม่มีวุฒิ บางคนเก่งงานมาก แต่เขียนหนังสือเหมือนเด็กป.4 (ป.4 อเมริกานะ) เอาประสบการณ์เข้าว่า มีภูมิต้านทานชีวิตทั้งทางร่างกายและจิตใจสูงมาก ความมั่นใจเกินร้อย หัวดื้น หัวรั้นมากๆ ลองเชื่อว่าอะไรถูกก็จะฝังใจ เชื่อว่าอะไรผิดก็ไม่เปลี่ยนใจ ด่าก่อนสอนที่หลัง หรือ สอนไปด่าไป จนกระทั่ง ด่าอย่างเดียว ไม่สอน หวงวิชา ต้องคอยลักจำคอยแอบๆจดเอา คนประเภทที่สองก็คือพวกหนูๆนี่แหละ จบวิศวกร มีปริญญา มีวุฒิ ใช้อินเตอร์เน็ท มีมือถือ ทำงานไป 4-5 ปี ก็ได้ทำตำแหน่งหรือทำงานที่พวก old school ต้องใช้เวลาถึง 20 กว่าปีกว่าจะได้ทำอย่างเดียวกัน ยิ่งกว่าช่องว่างระหว่างวัยอีก เป็นช่องว่างระหว่างยุคเลยทีเดียว พวก old school นี้โดยมากจะอายุมากๆ เอาว่าราวๆ 50 ปีขึ้นไปก็แล้วกัน แต่ก็ไม่ทุกคนนะ อายุไม่ใช้ตัวชี้วัด ลักษณะของคนและที่มาของต่างหาก เช่นบางคนเกิดและโตใน oil field ที่เท็กซัสมาตลอดชีวิต จบม.ปลาย (เกรด 12) รู้เห็นและทำตามรุ่นพ่อมา อย่างนี้อายุแค่ 30 ก็เรียกว่า old school คล้ายๆเด็กอู่ซ่อมรถบ้านเราแหละ มุดท้องรถซ่อมรถช่วยพ่อ ช่วยลุงมาตั้งแต่ป.4 จบแค่ ม.6 ก็ไม่ได้เรียนต่อ กฏเทอร์โมฯคืออะไร กฏนิวตันคืออะไร ไม่รู้จัก แต่รถขับเข้าอู่มา ได้ยินเสียงก็รู้แล้วว่าอะไรชิ้นไหนมันเสีย คนทั้งสองรุ่นนี้มีข้อดีข้อด้อยต่างกันชัดเจน ถ้าสุดขั้วไปทางใดทางหนึ่ง หนูก็จะเห็นว่าไม่ดีทั้งนั้น มาถึงตรงนี้หนูอาจจะมีคำถามว่า แล้วพี่นกเป็นคนรุ่นไหน พี่นกตอบอย่าไม่อายว่าเป็นทั้งสองรุ่น พี่นกเป็นรุ่นคาบเกี่ยว เป็นคนรุ่นใหม่ แต่ถูกสอนถูกด่าและโดนต้มยำมาโดยพวก old school มันก็ซึมซับความเป็น old school มาโดยไม่รู้ตัว เวลาทำงานในสนามบางทีก็โมโหง่าย ด่าไฟแลบหยาบๆคายๆ พูดคำค่าสามคำ บางที่ก็หัวดื้อ บทจะใจดีก็เรียกมาสอน เรียกมาหัดให้ ก็ยังงงๆตัวเองเหมือนกัน แต่ต้องเข้าใจพวก old school อย่านึงว่า สมัยเขาไม่มีอินเตอร์เน็ท ไม่มีมือถือ ไม่มีคอมฯ ต้องคิดเองทำเองตัดสินใจเอง ถามใครก็ไม่ได้ แต่ต้องรับผิดชอบสูง ไม่ว่าใครถ้าโตขึ้นมาในสถานการณ์แบบนั้น ก็ต้องเป็นคนที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองเกินร้อยจนเป็นคนหัวรั้นไป แถมทำงานกับคนที่เก็บมาจากข้างถนน จะครับๆค่ะๆ พูดกันเพราะๆดีๆ ก็คงไม่ได้งาน ไม่เหมือนสมัยนี้ เด็กๆรุ่นหนู คิดอะไรไม่ออก มีปัญหาอะไร แท่นฯอยู่ที่ไหน ก็มีโทรฯมีอีเมล์ โทรฯถามหัวหน้า โทรฯถามผู้เชี่ยวชาญได้ตลอด 24 ชม. กระดูกมันถึงคนล่ะเบอร์ แต่รุ่นหนูก็มีดีที่สามารถแก้ปัญหาที่สลับซับซ้อนได้ด้วยตัวเอง มีความรู้และวิเคราะห์เป็น เจออะไรแปลกๆใหม่ๆก็แก้ไขได้ คือดีกันคนล่ะด้านคนล่ะแบบ ที่ว่ามายาวนี่ก็อยากจะให้เข้าใจ "คน" ในวงการฯ คราวนี้ จะรับมืออย่างไรดี ถ้าต้องทำงานกับคนแบบ old school ก่อนอื่นต้องดูก่อนว่าเขาเป็น old school มากไหม ไม่มีอะไรเด็ดขาดขาวดำหรอกนะ บางคนก็เป็น old school ที่รับฟังเด็ก บางคนก็ไม่ ดูๆไปก่อน อย่าไปเถียง อย่าไปแสดงความเห็นมาก พอประเมินได้ว่าเขารับฟังเราแค่ไหนแล้วค่อย แสดงความเห็น แต่ถ้า หัวดื้อ หัวรั้นจริงๆก็ไม่ต้องไปพยายาม ปล่อยให้เกษียณไปซะ เดี๋ยวเด็กรุ่นใหม่ก็โตขึ้นมาแทนที่เอง พูดง่ายๆคือให้ธรรมชาติกำจัดให้หมดไปเอง อีกเรื่องนึงนอกจากเรื่องคน คือเรื่องวัฒนธรรมประเพณีของอเมริกันชน ทำใจยอมรับไปก่อน มันอาจจะขัดๆกับบ้านเรา ดูๆสังเกตุๆไปแล้วค่อยๆปรับตัว เช่น ถ้าเจอกันแล้วเขาดึงเราเข้าไปกอดแนบแก้มซ้ายทีขวาทีก็ไม่ต้องตกใจ ดูเขาไปก่อนแล้วก็ทำตามเพราะเป็นวัฒนธรรมของคนอเมริกัน(บางกลุ่ม) ไม่ใช่เรื่องเสียหาย แล้วก็อยากให้ภูมิใจในความเป็นคนไทย เจอคนไทยก็ไม่ต้องจับมือทำเป็นฝรั่ง ไหว้ไปเลย ถือโอกาสอวดไหว้สวยๆให้ฝรั่งดูเป็นขวัญตา ฝรั่งมันชอบไหว้กางศอกแบบแขกอินเดีย เจอพวกหมาหยอกไก่ก็พูดสั้นๆ ขึงขังๆว่า "โน" ไม่ต้องไปต่อปากต่อคำ แล้วเอาขาพาตัวออกจากตรงนั้นไปให้เร็วที่สุด ทุกวงการฯมีทั้งคนดีและไม่ดี ไม่เว้นแม้แต่วงการฯเรา อีกเรื่องที่พูดไปแล้วตอน field exposure แต่จะย้ำอีกคือเรื่อง safety บ.นี้ safety ขึ้นสมอง อย่าลองของ อย่าแสดงอะไรที่ดูถูก สงสัย หัวเราะ ทำเป็นเล่น สบประมาท กฏ safety ต่างๆ ไม่ว่าจะตั้งใจหรือ คิดว่าเป็นเรื่องตลกขบขัน ที่บ.นี้ไม่มีคนจะขบขันด้วย (อย่างนอกหน้า) และเราไม่รู้ว่าใครจริงจังแค่ไหน ดังนั้น เคร่งครัดเอาจริงเอาจังไว้ก่อน ปลอดภัยกว่า สุดท้ายคือ ให้กลับไปทบทวนที่แนะนำตอนไป field exposure อีกรอบ ในนั้นค่อนข้างครบถ้วนแล้ว ... โชคดีนะ ... พี่นก ... =================ผมก็สนใจอยากเข้า บ.สายนี้มากๆ อยากเป็น field engineer มากคับ แต่เนื่องจากสายวิศวะที่ผมเรียนนั้นแทบไม่เกี่ยวกับน้ำมันเลย ผมเรียนวิศวะสำรวจ (survey engineer) xxx คับ ปี3 ครับ เกรตตอนนี้ก็ 2.5 แต่คิดว่าจบไปน่าจะไม่ต่ำกว่า 2.7 สูงสุดอาจ 3 นิดๆ ภาษาอังกฤษพูดได้คล่องเลย แต่เรื่องแกรมมาไม่ค่อยแน่นมากนัก ก็น่าจะไปเรียนเพิ่มเติมก่อนจบได้ ขอเข้าคำถามเลยนะคับ1.) ผมควรวางแผนยังไงดี ควรเกรตขึ้นต่ำซักเท่าไหร ถึงจะพอมีโอกาสเข้าทำงานด้านนี้ได้ครับ โอกาสน้อยมากยังไงบอกผมได้ตรงๆเลยครับ ผมต้องการรู้จิงๆ เนื่องจากสาขาไม่ตรง เกรดต้องสูงหน่อย ยิ่งสูงยิ่งดีครับ ส่วนโอกาส สมมติว่าคุณจบได้ 3.0 พอดี + เครดิตชื่อเสียงม.คุณด้วย พูดภาษาอังกฤษคล่องๆ (อย่างที่บอกไว้ในเมล์) จบใหม่สอบโทอิกให้ได้สัก 600+ ถ้าสเกลโอกาสจาก 1-5 ผมให้โอกาสจะอยู่ที่ราวๆ 4 นะครับ2.) ภาคที่ผมเรียน เสียเปรียบไหมคับ ซึ่งผมก็พอรู้ว่า credit ภาคผมค่อนข้างเล็กกระจีดรี๊ด ไม่ใช่ ปิโตร เคมี หรือ เครื่องกล เวลาคนถามอยู่ภาคไร ยังไม่กล้าตอบเลย เสียเปรียบแน่นอนครับ ยกเว้นแต่คุณจะไปทำพวกเดินเรือสำรวจ ซึ่งมันก็ไม่ใช่พวกปิโตรฯต้นน้ำเท่าไร "คนถามอยู่ภาคไร ยังไม่กล้าตอบเลย" พูดตรงๆ อย่าโกรธนะ ผมไม่ชอบประโยคนี้เลย เราต้องภูมิใจในคณะ ศักดิ์และสิทธิ์ของเรา ม.คุณก็ไม่ใช่เล็กๆออกดัง ผมย้ำๆๆๆๆเสมอว่า ความมั่นใจมาจากภายใน ยืดอกขึ้นนะครับ แล้วพูดว่าผมเรียน ... คณะ ... มหาวิทยาลัย ... หนักแน่นมั่นคง คนฟังเขาจับได้ทางน้ำเสียงนะครับ ว่าคุณภูมิใจในสิ่งที่คุณพูดออกมาไหม จำไว้ว่าเสียงจะไม่มั่นคง ถ้าใจไม่มั่นคงก่อน ม.ที่ผมจบเทียบหมัดต่อหมัดแล้วก็ไม่ดีไม่ด้อยกว่าม.คุณ แต่ผมไม่เคยอายเลยครับ อยากโกรธกันนะครับ ผมอยากให้คุณปรับทัศนคติ แล้วมันจะดีกับคุณในอนาคต3.) ถ้าตามคุณสมบัติที่ผมมี ควรเล็งบริษัทไหนดีคับ ที่คิดว่าน่าจะมีโอกาสที่จะรับผมทำงานมากสุด( ขอ บริษัทที่ให้ผลตอบแทนคุ้มด้วยก็จะดีมากเลยคับ) เนื่องจากไม่จบตรง บ.น้ำมันคงยาก ต้องไปบ.service อย่างเดียวเลยครับ ใหญ่ๆก็ตระกูล บิ๊ก 4 มี SLB HES Baker และ weatherford ครับ ดูเว็บ หรือ โหลดชื่อที่อยู่อีเมล์ได้ที่ห้องสมุดผมก็ขอรบกวนด้วยนะคับ ถ้าพี่คิดยังไง ขอให้พี่ให้คำแนะนำแบบตรงๆเลยนะคับ จะว่าโอกาสน้อยมากก็ว่ามาเลยคับ ผมจะได้วางแผนมองงานด้านอื่นนะคับ อย่างที่แนะนำน่ะครับ โอกาสปานกลางไปทางดี บ. service น่าจะเหมาะ ทำเกรดดีๆ มีกิจกรรมที่เป็นผู้นำหน่อย ดูในการตอบคำถามสัมภาษณ์จริงที่เพื่อนๆนำมาแบ่งปัน มักจะถามเรื่องการเป็นผ้นำ และการแก้ปัญญาคนและงานอยู่บ่อยๆ เราก็ไม่ต้องการหนอนหนังสือเสียทีเดียว แล้วก็ปรับความมั่นใจนิดนึง ให้คิดว่า "กูก็วิศวกรคนหนึ่งนี่หว่า" พี่นก ... -----------------------------จบวิศวะเครื่องกล ตอนนี้หนูเพิ่งได้เข้าบริษัท xxx ได้ xxx เดือนค่ะ เข้ามาในตำแหน่ง xxx ค่ะ ทางบริษัทจะส่งให้ไปเทรน xxx ประมาณ xxx อาทิตย์ แล้วพอกลับไทยเห็นว่าเค้าจะให้หนูมาทำตำแหน่ง application engineer ของฝ่าย completion & production คะ หนูอยากทราบว่าอนาคตของตำแหน่ง application eng นี่จะไปในทางไหนได้บ้างค่ะพี่นก แล้วยิ่งเฉพาะกับด้าน completion & production นี่หนูจะนำไปต่อยอดอะไรได้บ้างค่ะ ถ้าผ่านไปสักห้าปี เจ็ดปี หนูจะไปสมัครกับบบริษัทพวก ปตท เชฟร่อน ได้มั้ยค่ะ ที่จริงหนูก็บอกเค้าไว้แล้วว่าอยากทำเป็น field eng เพราะเห็นว่าประสบการณ์น่าจะแน่นแล้วโตได้มากกว่า แต่เหมือนเค้าบอกว่าเค้าต้องการ app eng อยู่แล้วก้อผู้หญิงจะออกแท่นยากด้วยน่ะค่ะ หนูไม่กล้าเรียกร้องอะไรมากด้วยเพราะเพิ่งเข้ามา จบใหม่ ไม่มีประสบการณ์ด้านนี้เลยด้วย โดยมากงานวิศวกรรมจะมีขอบเขตใหญ่ๆอยู่ไม่กี่อย่าง คือ วิจัยพัฒนา ผลิตสินค้า การตลาด(ขาย) ซ่อมบำรุง หลักๆก็มีแค่นั้น คราวนี้เจ้า application eng คือใคร คือวิศวกรที่เอาปัญหาหรือความต้องการของลูกค้ามาจับให้ตรงกับสินค้าหรือบริการของบ.ให้ตรงที่สุด ให้แก้ปัญหาหรือตอบโจทย์ลูกค้าให้ดีที่สุด รวมไปถึง วิเคาระห์ผลการใช้งานสินค้าและบริการนั้นเพื่อนนำกลับไปป้อนให้ฝ่ายผลิต/ วิจัยพัฒนา ทำมาให้ตรงให้ตอบโจทย์ได้มากๆยิ่งขึ้น ผมเองก็เคยทำอยู่ตำแหน่งนี้ แต่คนล่ะ บ.และคนล่ะ ผลิตภัณฑ์ แต่แนวคิดวิธีการทำงานไม่ต่างกันครับ จะเห็นว่างาน app eng นี้ อยู่กึ่งกลางระหว่างฝ่ายผลิตกับลูกค้า ในความเห็นผม ผมว่าเป็นจุดที่สมดุล ไม่เทคนิคมากไปจนลืมความต้องการของมนุษย์ ไม่การตลาดมากไป จนขาดความเป็นวิศวกรรม คุณสามารถที่จะกระเถิบไปในโรงงานฝ่ายผลิตหรือวิจัยก็ได้ หรือกระเถิบไปข้างหน้า ไปที่การตลาด พัฒนาธุรกิจ การขายก็ได้ หรือ กระโดดข้ามไปเป็นลูกค้าเลยก็ยังได้ (อย่างผมไงครับ อิอิ) หรือ จะข้ามไปเป็นวิศวกรสนามเลยก็ยังได้ ถ้าบ.เดิมใจแคบ ไม่มีโอกาส บ.อื่นมีครับ เอาประสบการณ์เอาความรู้ไว้ก่อน เข้าวงการแล้ว รู้จักคน มี network เท่านี้ 3 - 4 ปี ก็บินหราแล้วครับ มาตอบคำถามคุณดีกว่า ... application eng นี่จะไปในทางไหนได้บ้างค่ะ - ตอบไปแล้วกว้างๆข้างบนครับ completion & production นี่หนูจะนำไปต่อยอดอะไรได้บ้างค่ะ - ไม่ต้องห่วงเลยครับ เรื่อง completion & production เป็นเรื่องใหญ่มากๆในวงการฯ คุณใช้วิชานี้หากินได้ไปตลอดชีวิตการทำงานคุณแน่ๆครับ แต่ถ้าไม่ชอบที่จะทำ completion & production คุณสามารถแถไปเป็นทำงานขุดเจาะ (drilling) หรือ งานวิศวกรรมการผลิตปิโตรฯ (production eng) แต่ผมว่าคุณไม่ต้องไปไหนแล้วครับ (ยกเว้นขึ้นเป็นผู้บริหารตามสายงาน) เพราะหมวดนี้ถือว่าใหญ่มากๆแล้วในการสำรวจน้ำมัน ถ้าผ่านไปสักห้าปี เจ็ดปี หนูจะไปสมัครกับบบริษัทพวก ปตท เชฟร่อน ได้มั้ยค่ะ - แค่ 3 - 4 ปี ถ้าคุณเจ๋งๆ ผมก็ว่าร่อนใบสมัครต่อได้แล้วครับ ---------------------------------ผมอยากทราบข้อมูลในการรับผิดชอบงานของตำแหน่ง Wellsite Representatives (Offshore) ในเชิงลึกครับ เอาล่ะซิ มันยากตรงที่บอกว่าเชิงลึกนี่แหละครับ แต่ให้ข้อมูลผมมาน้อยมากๆเลยครับ คืองี้ ชื่อบอกอยู่แล้วว่า "ตัวแทนหน้างานนอกชายฝั่ง" คราวนี้ผมถามกลับบ้างว่า ตัวแทนของ "ใคร" และ "งานอะไร" ใครที่ว่านั่นก็เป็นได้ทั้ง บ.น้ำมัน(เจ้าของหลุม) และ ผู้รับเหมาช่วง (contractor) "งานอะไร" ก็เป็นได้หลายอย่าง เพราะบนนั้นมีงานมากมาย หลากหลายมากๆ แต่โดยหลักแล้ว มันก็คือ คนคุมงาน(ตัวแทน เจ้าของหลุม เจ้าของเงิน หรือ บ.น้ำมันนั่นเอง) กับคนทำงาน (ตัวแทน บ.ผู้รับเหมา) ส่วนเชิงลึกผมก็ตอบไม่ได้แล้วครับ เพราะว่า "ใคร" กับ "งานอะไร" ผมก็ไม่ทราบครับ แล้วอีกอย่าง แต่ล่ะบ.นั้น หน้าที่ของ Wellsite Representatives (Offshore) ก็ต่างกันออกไป แต่หลักใหญ่ๆคือคุมงานหรือทำงานให้ได้ตามแผนงานที่ในเมืองเขาเขียนสั่งมานั่นแหละครับ ============================อายุ 23 เพิ่งจบ xxx จาก xxx เกรด 3.77 TOEIC 815 พูดอังกฤษระดับสื่อสารได้ ไม่คล่องมาก ไม่มีประสบการณ์ทำงาน ตอนนี้เรียน ปี xxx ป.โท xx ที่ xxx 1.รบกวนดู resume ว่าต้องแก้ไขอะไรยังไงบ้าง - แก้ไขและส่งกลับไปแล้ว2.อยากทำงานด้าน E&P (oil comp หรือ service comp ก็ได้) แต่ตกสัมภาษณ์หมดเลยครับ [ PTTEP, CV (ตำแหน่ง FE), SLB (ไม่ผ่าน G dynamic) ] เลยมาเรียน xxx ที่ xxx ก่อน คิดว่าระหว่างเรียนจะสมัครงานไปเรื่อยๆ ตอนนี้มีความคิดอยู่ว่า - เรียนโทที่ xxx ต่อ - สมัครเรียน drilling schoolของ tpti - สมัครเรียนต่อปิโตรที่ US (แต่อันนี้ต้องฟิตภาษาอีกมาก) - สมัครงาน บ.service เหตุผลที่คิดจะเรียน drilling school ของ tpti เพราะคิดว่าประสบการณ์ทำงานกับกิจกรรมค่อนข้างเป็นจุดอ่อนครับ อยากมีประสบการณ์ทางด้านปฏิบัติมาชดเชย กิจกรรมที่ทำตอนเรียน ส่วนใหญ่ป็นประเภทเฮไหนเฮนั่น ไม่ได้โดดเด่นอะไร ส่วนตัวผมไม่ห่วงเรื่องความลำบากคิดว่าสามารถทนได้ทุกสถานการณ์ ถ้ารู้ว่าทนไปเพื่ออะไร คิดว่าผมจะสมัครเรียน drilling school รอบหน้า หรือ สมัครงานบ.service แล้วทิ้งปโท พี่ว่าจะดีไหมครับ เอ ... เกรดก็สูง โทอิคก็ สูง ทำไมไม่ผ่านสอบสัมภาษณ์ น่าคิด ลองทบทวนดูดีๆครับ ว่าเราพลาดอะไรหรือเปล่าครับ คำแนะนำของผมคือ อย่าทิ้งป.โท ที่เรียนอยู่ตอนนี้เด็ดขาด เพราะนั่นเป็นแต้มต่อที่สำคัญของคุณที่เกือบจะการันตีงานให้คุณได้เมื่อจบ เมื่อนั้น drilling school ของ tpti หรือ งาน service comp ต่างๆคุณค่อยไปทำได้ทีหลังสบายๆ3.ตอนนี้กำลังจะสมัครโปรแกรม ADP ของ PTTEP เคยได้ยินว่าตำแหน่ง subsurface จะแบ่งเป็น drilling eng กับ well service eng - อยากทราบว่าตำแหน่งไหนมี career path ที่ดีกว่าครับ - ดีทั้งคู่ครับ- จำเป็นไหมครับ ที่ตำแหน่งที่ทำงานอยู่หน้างาน เป็นฝ่ายบู๊ จะมีโอกาสเติบโตดีกว่า ตำแหน่งที่ทำงานในออฟฟิต ไม่จำเป็นครับ มันเกื้อหนุนกันมากกว่า เราจำเป็นต้องเป็นทั้งสองด้าน เพื่อความเข้าใจภาพรวมแต่เชี่ยวชาญด้านเดียวก็พอ ขึ้นกับจริตความชอบครับ น้อยคนครับที่ทำได้ดีทั้งสองอย่าง- ผมอ่านหนังสือที่พี่แจกใน blog ไปเกือบทุกบทแล้วครับ เพราะพอดีต้องใช้เรียน ทำให้พอมีความรู้(ทฤษฏีคร่าวๆ ) เกี่ยวกับ drilling process กับ หน้าที่ของแต่ละตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร พี่นกว่าผมจะมีภาษีดีกว่าคนอื่นไหมครับ โอ้โห คุณเก่งกว่าผมอีกนะนั้น เพราะผมเองยังเหลือตั้ง 4 บทสุดท้ายที่ป่านนี้ยังไม่ได้อ่านเลย ความรู้นั้นเป็นสิ่งที่ดีครับ ถามว่ามีภาษีดีกว่าไหม มันก็ดีกว่า แต่ขึ้นกับว่าเราจะนำเสนออย่างไรไม่ให้น่าเกลียดว่าเรารู้นะ เพราะสังคมไทยไม่ชอบคนโอ้อวด โชคดียนะครับ ... พี่นก ... ปล. เอาชื่อ ม. กับ ภาควิชาออกไปแล้วตามคำขอครับ ... ===================ผมจบมาจาก xxx สายเครื่องกล (เกรดเฉลี่ยไม่ค่อยสวย xxx ครับ) ปัจจุบันทำงานในสายงานออกแบบของบริษัทรถ xxx มา 5 ปีแล้ว ตอนนี้อายุ 27 ปี อยากจะขยับตัวไปหาสายงาน oil & gas ดังที่เคยฝันไว้ในช่วงมหาลัย จากการที่อ่านเวปของนคุณพ่อของน้องเฟิร์นแล้ว บริษัทในสายน้ำมันจะแบ่งเป็น 3 แบบหลักๆ คือ 1.oil company (PTTEP, Chevron) 2.rig company (Transocean, Seadrill) 3 service company (SLB, Weatherford, Halliburton, Baker) เท่าที่อ่านรายละเอียดของแต่ละตำแหน่งโดยสังเขปแล้ว พบว่าตัวผมนั้นอยากจะทำงานในตำแหน่ง drilling engineer เนื่องด้วยเหตุผลหลักๆ 3 ข้อ 1. โอกาสที่จะได้ไป offshore rig (ได้เรียนรู้จากหน้างานจริง,รายได้ที่ดี, ทำงานเป็นกะ ทำยาว หยุดยาว) 2. มีโอกาสกลับฝั่งเมื่อเวลาผ่านไป 2 ปี(เข้าออฟฟิต) หรือจะอยู่แท่นต่อก็ได้ถ้าต้องการ (อันนี้ถ้าเข้าใจผิดยังไงก็ขอคำชี้แนะด้วยนะครับ) 3. ความรู้ค่อนข้างกว้าง การต่อยอด หรือโอกาสเติบโตในสายงานดีมีภาษีมากว่าตำแหน่งอื่น (มั้งครับ) แต่เท่าที่หาข้อมูลกลับพบว่ามีตำแหน่งที่ว่าแค่ที่ pttep และ chevron เท่านั้น ซึ่งได้ลองยื่นใบสมัครไปแล้วแต่ยังไม่มีการติดต่อกลับมา จึงอยากถามว่า (ที่ผ่านมาทั้งหมดแค่เกริ่นนะครับ) 1. ยังมีบริษัทไหนที่ยังมีตำแหน่งนี้อีกมั้ยครับ 2. ตำแหน่งไหนที่มีความใกล้เคียงกับตำแหน่งนี้บ้างครับ ในกรณีที่ไม่สามารถสมัครงานในตำแหน่งนี้ได้จริงๆ หรือถ้าพอจะมีใครที่พอจะให้คำปรึกษาได้ก็อยากจะขอความกรุณาด้วยครับ ตัวผมเข้าใจดีว่าตัวเองนั้นไม่ได้เกรดสวยหรู ไม่ได้มีประสบการณ์การทำงานที่ตรงสายน้ำมัน จึงอาจจะมีภาษีไม่เท่ากับคนที่จบมาสายตรง ประสบการณ์ตรง การไปเรียนต่อป.โทก่อนเพื่อชุบตัวนั้นเป็นทางเลือกนึง แต่หากเป็นไปได้อยากจะลองสมัครงานดูก่อนครับ เนื่องจากถ้าหากเรียนป.โทแล้วละก็คงใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 ปีกว่าจะจบ ซึ่งบางทีอาจจะถึงเวลาต้องตัดสินใจเรื่องมีครอบครัวลงหลักปักฐาน(30ขวบ) โอกาสออกทะเลอาจจะไม่สะดวกเท่าปัจจุบันก็เป็นไปได้ครับ คุณเข้าใจถูกเรื่องตำแหน่งงานที่คุณต้องการทำครับ (drilling engineer) มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ที่มีเฉพาะบ.น้ำมัน บ.แท่นกับบ.service จะไม่มีตำแหน่งนี้ แล้ว บ.น้ำมันในประเทศเราที่มีการขุดอยู่ก็มีไม่กี่บ. ไปโหลดดูรายชื่อได้ในบล๊อกห้องสมุดของผม งาน drilling engineer เป็นงานค่อนข้างเฉพาะเจาะจงมากๆ ตามลักษณะ profile ของคุณ ผมก็ไม่เห็นทางไหนที่คุณจะไปได้เท่ากับการเรียนต่อเลยครับ เพราะประสบการณ์ไม่ตรง เกรดก็ไม่สวย(อย่างที่คุณออกตัวไว้) บ.น้ำมันบ้านเราเข้าทำนองสวยเลือกได้ ตัวเลือกเขาเยอะมากๆ แต่ทางอ้อมมันก็มี ทางที่อ้อมไปได้ คือคุณก็ต้องไปอยู่กับบ.service ที่ดีๆใหญ่ๆ (ก็ big 4 ที่คุณว่ามานั่นแหละ สวยเลือกได้เหมือนกัน แต่สวยคนล่ะแบบ เลยเล่นตัวได้ไม่มากเท่า) ในสายงานที่ใกล้เคียงกับงาน drilling eng ซึ่งก็มี งานน้ำโคลน ซีเมต์ และ directional drilling ลงไปหน้างานสัก 4-5 ปี เข้าออฟฟิตมาอีกสัก 2 ปี พอได้มีประสบการณ์งานนั้นๆมากหน่อย ค่อยส่งใบสมัครไปบ.น้ำมันเป็น drilling eng ทางนี้ก็ไม่ได้ประกันว่าจะสำเร็จนะครับ ขึ้นกับหลากหลายปัจจัย แต่ก็เป็นทางหนึ่งที่มาได้ ผมเองก็มาทางนี้ มาเป็น drilling engineer เอาตอน 40 ขวบ มาเรียนรู้ใหม่กับน้องๆที่เพิ่งจบที่เขาเก่งกว่าและมาสายตรง มีหัวหน้าอายุน้อยกว่าผมร่วม 5-7 ปี อายไหม หนักใจไหม ไม่เลยครับ ทำตัวเป็นน้ำพร่องแก้วเข้าไว้ เขามาก่อน เขามาตรง เราก็ต้องนับถือเชื่อฟังเขาในเรื่องของเนื้องาน แต่ความเก๋า ความอึด และ ประสบการณ์ชีวิต ยังไงๆก็สู้รอยตีนกาไม่ได้อยู่ดี คิดคร่าวๆถ้าคุณตอนนี้ 27 ถ้าจะเดินสายนี้ก็บวกไปอีก ราวๆ 7 ปี คุณก็ 34 ปี ก็ไม่น่าจะมากไป สรุปคือการไปเรียนต่อ น่าจะเป็นทางที่สั้นที่สุด แต่อาจจะใช้เงินมากหน่อย ส่วนเรื่องครอบครัว คุณไม่ต้องคิดไปไกลครับ แฟนคุณคนที่จะมาใช้ชีวิตและใช้อนาคตร่วมกับ "คนน้ำมัน - oil man" ก็ต้องเข้าใจธรรมชาติของงานและการใช้ชีวิตของพวกเรา สมมติว่าคุณไปเรียนต่อ (ถ้าไปตปท.ได้จะดี) รวมเรียนภาษา และเผื่อลงซ้ำสอบซ่อม เอาสัก 3 ปี คุณกลับมาก็ 30-31 ก็น่าจะพอมีภาษีส่งใบสมัครไปบ.น้ำมันได้บ้าง หรืออาจจะสมัครจากตปท.ระหว่างเรียนเทอมสุดท้ายเลยก็ได้ ตอนนั้นคุณก็มีลู่ทางแล้ว อย่างน้อยก็อ.ที่สอนนั่นแหละ และ ชายไทย อายุ 30 มีป.โทฯเมืองนอก โห ... ถ้าผมเป็นสาวๆ profile แบบนี้ ไม่เก็บเอาไว้เป็นตัวเลือกก็เต็มทีแล้ว จะออกทะเลบ้าง 3-4 ปีแรก จะเป็นไรไป จะได้ไม่เบื่อกันเร็วด้วย 28/28 28วันเจอกันที โห ... สุดโรแมนติกเลย เหมือนข้าวใหม่ปลามันทุก 28 วัน (เอ้า ... สาวๆที่มาแอบอ่านเห็นด้วยไหมครับ สาวไหนอยากคบ ขออีเมล์ได้หลังไมค์นะครับ ... ฮ่า อย่าน้อยงคนนี้ก็มีแววรักครอบครัว เพราะคิดถึงใจคนที่จะมาอยู่ด้วยเวลาจะสร้างครอบครัว จริงป่ะ ดีกว่าผู้ชายหลายคนที่ข้ามาคนเดียว อยากอยู่กับข้าก็ปรับตัวเองก็แล้วกัน ... อ้าว ... ผมออกทะเลแล้ว คนล่ะเรื่องกับที่คุณถามมา ... โทษทีๆ ...) จึงอยากตอบว่า (ที่ผ่านมาทั้งหมดแค่เกริ่นนะครับ) -- (แฮ่ๆ เลียนแบบ)1. ยังมีบริษัทไหนที่ยังมีตำแหน่งนี้อีกมั้ยครับ มีแต่บ.น้ำมันครับ ไปดาว์โหลดรายชื่อได้ในบล๊อกห้องสมุดผมครับ2. ตำแหน่งไหนที่มีความใกล้เคียงกับตำแหน่งนี้บ้างครับ ในกรณีที่ไม่สามารถสมัครงานในตำแหน่งนี้ได้จริงๆ ไปทางอ้อมผ่านทาง บ.service ขาใหญ่ทั้ง 4 SLB HES Baker Weatherford หวังว่าจะจะพอเห็นลู่ทางนะครับ ไม่ว่าไปทางไหน มันก็ไม่มีรับประกันทั้งนั้นว่าจะได้เป็น drilling eng สมใจ ขึ้นกับหลายๆปัจจัย ทั้งปัจจัยภายนอก เช่นราคาน้ำมัน การขยายหรือลดขนาดของบ.ต่างๆ และปัจจัยภายใน เช่น จังหวะและโอกาส ม.ที่คุณเลือกไปเรียน ผลการเรียน ผู้คนที่คุณขนขวายทำความรู้จัก (เดี๋ยวนี้เขาเรียกว่า network) ฯลฯ แต่ไม่ว่าจะอย่างไร การที่คุณมีความฝัน มีเป้าไว้ มันก็ดีกว่าหลายๆคนที่อายุเท่าคุณก็แค่ทำงานไปวันๆ จริงไหมครับ ... ===========================ผมชื่อ xxx ครับ ทำงานบริษัทเกี่ยวกับการบิน xxx เป็นเจ้าหน้าที่ xxx ผมได้ติดตามข้อมูลข่าวสารการรับสมัครงานของพี่ครับ ผมเป็นคนหนึ่งที่พลาดงานในตำแหน่ง wireline ครับ ผมเกือบผ่านทุกอย่าง ข้อเขียน พละ ครับตกสัมภาษณ์ครับ ผมอายุ 31 ปีครับ เงินเดือน xxx ไม่รวมโอที (ถ้ารวม xxx ตอนนี้ไม่ค่อยมี) ผมมีคำถามดังนี้ครับ 1.ผมอยากทราบว่าอายุ 31ปี นี่ถือว่าเยอะไปไหมครับ กับตำแหน่ง wireline โครงการเชฟรอนครับ ไม่เยอะนะครับ2.พี่พอจะมีเทคนิคอะไรแนะนำผมหน่อยได้ไหมครับในการสอบสัมภาษณ์ให้เข้าสเป็ค คนสัมภาษณ์ แสดงให้เขาเห็นโดยประวัติว่าเรา ชอบงานกลางแจ้ง งานที่ลงมือทำเอง ไม่มีปัญหาเรื่องการทำงานเป็นผลัด เรียนรู้ได้เร็ว มีความเป็นผู้นำ และ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี มีหลักฐานอะไรก็งัดมาโชว์ ทั้งในงานปัจจุบัน หรือ ที่ๆผ่านมา เช่น เป็นประธานออกค่ายอาสาพัฒนา สร้างสะพาน ให้รร.ชนบท มปัญหาแบบนี้แก้แบบนี้ หรือ ตัวอย่างโครงการงานปัจจุบันที่รับผิดชอบอยู่ก็ได้3.ผมอยากเปลี่ยนงานที่ท้าทายกลางทะเลสักครั้งครับก่อนที่จะหมดไฟครับ ลุยเลยครับ สนับสนุน4.ผมมีประสบการณ์ด้าน Aviation มาประมาณ 8 ปีครับ สื่อสารภาษาอังกฤได้พอสมควรครับ สอบโออิคไว้เป็นหลักฐานก็ดีนะครับ5.ตอนนี้ผมเตรียมตัวใหม่เพื่อสอบใหม่อีกครั้งครับ ดีครับ6.รายได้ในอนาคตเป้นไงบ้างครับในตำแหน่ง Wireline อีก2-4 ปีข้างหน้าครับถ้าเทียบกับเงินเดือนของผมตอนนี้ครับ ดีกว่าที่คุณได้ตอนนี้แน่นอนครับ7.ตอนนี้ ปตทสผ เซอร์วิส เปิด ตำแหน่ง Deck crew ครับ ผมได้สมัครแล้วครับ รอสัมภาษณ์ อยากทราบว่า ตำแหน่งนี้โตไหมครับ รายได้ดีไหมครับ รายได้ไม่ดี แต่ก็โตได้ในสายงานบนแท่นนั่นแหละครับ งานตำแหน่วนี้ก็กรรมกร เบ้ ทงานสารพัดแหละ แต่ใช้เป็นสะพานได้นี่ครับ ตอนนี้ผมแนะนำให้คุณเก็บเรื่องเงินเดือนไว้ทีหลัง เพราะวุฒิคุณไม่ตรง ประสบการณ์ก็ไม่ตรง ต้องอาศัยลุยงานล่างๆแล้วไต่ขึ้นไปครับ อะไรก็ได้ทำไปก่อน พออยู่บนนั้นแล้ว พูดคุยหาความรู้หาช่องทางต่อทีหลัง ประตูบานแรกเปิดยากที่สุด แต่ถ้าเปิดได้แล้ว บานทีเหลือก็ง่ายขึ้นครับ =============================ชื่อ xxx ค่ะ อยู่ xxx อายุ 26 ปี สนใจที่จะเรียนปริญญาตรีใบที่สอง คือวิศวะเครื่องกล เพราะว่าอยากทำงานและเรียนด้านนี้ตั้งแต่สมัยเรียนปริญญาตรีแต่ว่าโอกาสไม่เอื้ออำนวย ประมาณว่ารู้ตัวช้าไปค่ะ เพราะว่าเรียนทางด้านสายศิลป์มาจึงจำเป็นต้องเรียนปริญญาตรีใบแรกให้จบ (ภาษาเยอรมัน คณะxxx xxx) ตอนนี้เรียนทำ IS ปอโทภาษาอังกฤษคณะเดียวกันอยู่ค่ะ เพราะทางบ้านอยากให้เป็นอาจารย์ วางแผนไว้ว่าจะเรียน ต่อ ปวส ช่างยนต์ (เรียนเสาร์อาทิตย์) แล้วเรียนต่อวิศวะเครื่องกล(เรียนเสาร์อาทิตย์) อีก 3 ปีที่ xxx หรือที่เมืองนอกแล้วแต่โอกาส โดยระหว่างนั้นก็จะสอนหนังสือไปด้วยเนื่องจากถูกทาบถามจากมหาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัด xxx ไว้แล้วค่ะ แต่โดยส่วนตัวชอบงานสายช่างมากกว่า ทุกวันนี้ก็ไปเรียนสารพัดช่าง และชอบซ่อมประกอบสิ่งของเอง อยากทราบว่า 1. ถ้าจบอายุก็น่าจะประมาณ 32 ปี มีผลต่อการสมัครงานด้าน พวกแท่นขุดเจาะน้ำมันไหมค่ะ มีผลเหมือนกันครับ เพราะ 32 และเป็นผู้หญิงด้วย การออกไปแท่นอาจจะลำบาก ไม่ใช่เพราะเราทำไม่ได้ แต่โอกาสยากครับ2. จบวิศวะเครื่องกล เป็นผู้หญิง มาสามารถทำงานหน้าที่อะไรได้บ้างค่ะ ทำได้ทุกอย่างที่ผู้ชายทำได้แหละครับ ทั้งบ.น้ำมัน บ.service ทำอะไรได้บ้างนี่ไม่ใช่ประเด็นเท่าไร3. ถ้าจบ วิศวะสายช่าง และมหาลัยไม่ค่อยมีชื่อเสียงมีผลต่อการสมัครงานไหมค่ะ พูดตรงๆนะครับ วงการฯพวกเราน่ะสวยเลือกได้ ไม่ใช่ว่า วิศวะสายช่าง ม.ไม่มีชื่อเสียงจะไม่เก่ง เก่งครับ ผมเจอมาเยอะ เก่งๆกว่าสายสามัญม.ดังๆก็มี แต่ที่ไม่ได้เรื่อง เรียนรู้ช้า สอนงานกว่าจะเป็น ก็มีเช่นกัน คือ มีทั้งดีและไม่ดี แต่ความที่ว่าสวยเลือกได้ ก็มักจะไปเลือกพวกม.มีชื่อ มันก็เท่านั้น มีผลไหม ก็ต้องตอบว่ามีผล โดยมากวศบ.สายช่าง ม.ไม่มีชื่อเสียง มักต้องออกแรงมากหน่อย ในการไต่เต้าจากงานเล็กๆงานใช้แรงงาน ใช้ทักษะฝีมือระดับล่างๆ ซึ่งก็มักจะลุยจะทำกันมาแต่อ้อนแต่ออก คือทำมาตั้งแต่จบอายุ 22-23 อะไรแบบนี้ และด้วยความเป็นเด็ก ก็จะใช้ง่าย หัวอ่อน แรงดี ค่าจ้างถูก บ.ต่างๆจึงนิยมรับกัน ตัวเด็กเองก็ไๆด้วิชาได้ทักษะ บ.ก็ได้ข้อดีที่ว่าไป แต่ด้วยเงื่อนไขอย่างเดียวกัน ถ้าเป็นผู้หญิงอายุ 32 จบป.ตรี 2 ใบ โท 1 ใบ คงไม่มีวิศวกร หรือ นายช่าง คนไหนกล้าเรียกใช้ สับโขก ด่าไปสอนงานไป แบบทำกับเด็กๆ ใช่ไหมล่ะครับ ถ้า HR รับไป ก็โดนพวกช่างในสนามใน workshop ด่าตายเลย ไม่ได้ลดทอนกำลังใจ แต่อยากให้เห็นภาพจริงของลักษณะงานน่ะครับ4. ช่วยแนะนำโอกาสหรือช่องทางเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวด้วยค่ะ เพราะว่าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับด้านนี้เลย คือส่วนใหญ่หาจากอินเตอร์เน็ต ตอนแรกว่าจะสมัครช่างเทคนิคปิโตรเลียมแต่ อายุเกินค่ะ เพราะว่าจะเริ่มเรียนปวส. ช่างยนต์ ปีหน้า จบก็อายุ 29 ซึ่งเขารับ 20- 28 ปี ที่เลือกเรียนช่างยนต์เพราะว่า ต่อปริญญาตรีวิศวะเครื่องกล xxx ได้ และสาขานี้งานค่อนข้างจะกว้าง อีกทั้งเป็นสาขาเดียวที่เปิดสอน เสาร์ อาทิตย์ค่ะ มีทางเดียวเลยครับ สำหรับเงื่อนไขอย่างคุณ xxx คือต้องเรียนให้จบ ป.ตรี เครื่องกล ที่เมืองไทยเสียก่อน แล้วไปเรียนต่อที่ตปท.ในสาขาวิศวกรรมปิโตรฯ (เครื่องกลก็ต่อปิโตรได้ครับในตปท.) แล้ว ใช้วุฒิวศบ.ปิโตรมาสมัคร ตอนนั้นถึงจะอายุ 30+ นิดหน่อย ก็ไม่เป็นไร เพราะวุฒิเราตรง ที่ผมไม่แนะนำให้ต่อวศบ.ปิโตรโทในไทยที่จุฬา เพราะที่นั่นค่อนข้างรับน้อย และคนแข่งกันเยอะ แต่ล่ะคนก็มาสายตรงจากม.ดังๆทั้งนั้น แต่ถ้าจะลองก็ไม่เสียหายอะไร ถือว่าซ้อมเวทีก็ได้ ถ้าอยากมาสายนี้จริงก็คงต้องลงทุนทั้งทรัพย์เวลาสักนิด จบตรีวศบ.แล้วต่อโทฯทันที ไม่ต้องเสียเวลาทำงานหรือรออะไรทั้งนั้น อายุและวัยมันไม่รอเรา ระหว่างเรียนตรีวิศวะก็ ค้นหาทางเว็บ หาม.ตปท.ที่ไม่เคี่ยวนักที่มีป.โทปิโตรฯ หรือ อะไรที่มีคำว่า subsurface หรือ geo หรือ offshore แล้วลงท้ายว่า engineering หรือ tech อะไรเทือกๆนี้ ไม่แน่ใจที่ไหน สงสัยอะไร ก็ก๊อปลิงค์ส่งมาให้ผมช่วยดูให้ก็ได้นะครับคิดว่ายังไงก็จะเรียน ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ดังที่คาดไว้ก็ตามเพราะว่าอย่างน้อยได้ทำที่หวังไว้ ถ้าไม่ได้ทำงานด้านวิศวกร ก็คิดว่าจะเอาความรู้ที่เรียนมาไปสอนเด็ก ปวส. ควบคู่กันไปค่ะ ผมน้อมศรีษะนับถือความตั้งใจและอุดมการณ์ของอังจริงๆครับ ให้มันได้อย่างนี้ซิครับ เรียนเพื่อรู้ เรียนเพื่อเรียน และ เรียนเพื่อคนอื่น จริงๆ ยินดีที่ได้รู้จักคุณ xxx คนดีๆในวงการช่างของเราอีกคนครับ ... ขอให้สมดังตั้งใจก็แล้วกันครับ ... พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร ... ==========================ชื่อ xxx นะคะ ^^ เกดแนบไฟล์ CV มาแล้ว รบกวนพี่นกชี้แนะด้วยค่ะ ขอย้อนความเดิมนิดนึงค่ะว่า เกดจบวิศวะโยธามาและเรียนต่อโท บริหารงานก่อสร้าง จบมาได้ประมาณ 2 ปีครึ่งแล้ว ตอนนี้ทำงานอยู่บริษัทที่ปรึกษางานก่อสร้าง แต่ไม่ได้ออกหน้างาน ทำแต่เอกสารอย่างเดียว ซึ่งงานสายนี้เงินเดือนขึ้นช้ามาก และโตยาก และยิ่งถ้าไม่ได้ออกหน้างาน ก็ยิ่งไปกันใหญ่ค่ะ เลยคิดว่าจะย้ายงาน และเปลี่ยนเป็น field อื่นไปเลยค่ะ ทีนี้ก็มาสนใจธุรกิจ oil & gas เพราะคิดว่าเป็นงานที่ท้าทาย อยากเรียนรู้การทำงานในวงการนี้ อีกอย่างบริษัทส่วนใหญ่เป็นต่างชาติ อาจจะได้ไปเทรนที่เมืองนอกเมืองนากับเค้าบ้าง อีกอย่างได้ค่าตอบแทนสูงค่ะ เรื่องบริษัท ไม่เกี่ยงว่าจะเป็นบริษัทในด้านไหน ( SLB/ Chevlon/ FW/ Worley Parson/ PTT..สนใจหมดค่ะ และตอนนี้สนใจ SLB มากสุด) แต่เท่าที่ดูตำแหน่งที่ SLB รับแล้ว ทำให้มืดแปดด้านค่ะ เพราะที่จบมาไม่ตรงกับงานในตำแหน่งที่เค้ามี (ส่วนใหญ่ที่เห็นจะรับเป็นงานระบบ) ก็เลยไม่รู้ว่าจะสมัครในตำแหน่งอะไร หรือสมมุติว่าถ้าสมัครเป็น Field Eng ไปก็กลัวว่า สมัครเข้าไปแล้วจะตอบอะไรเค้าไม่ได้ แล้วจะทำให้เสียโอกาสเพราะถ้าพลาด การจะได้เรียกเข้าสัมภาษณ์อีกคงยาก ...อันที่จริงได้ยินมาว่า ถ้าคนที่ไม่ได้จบสายตรงจริงๆ ยังไง๊ ยังไงก็ไม่มีตำแหน่งที่ตรง ให้สมัครเข้าไปก่อน ยังไงบริษัทก็เอาเราไปเทรนใหม่อยู่ดี .... แต่ถึงยังไง ด้วยเหตุผลที่ว่ามาด้านบนว่า จบมาไม่ตรง ก็ทำให้กลัวการสอบสัมภาษณ์ว่าจะตอบไม่ได้ (ประกอบกับ อาจเป็นเพราะว่า เคยไปสมัครงานที่ xxx แล้ว โดนคำถามแบบบีบคั้นหัวใจ ตอบยากๆ แบบว่า ทำไมต้องเลือกบริษัทเค้า บ.เดิม/บ.อื่นไม่ดีรึไง ...บลา บลา บลา คือบ.ที่อยู่ตอนนี้ เจ้าของบริษัทเป็นเคยเป็น xxx ค่ะ .....อีกอย่าง เท่าที่รู้ มาคือ วงการ oil & gas มักจะรับคนที่มีประสบการณ์ใน field ถ้าไม่มีจะสมัครยาก ...ทีนี้ ก็เลยคิดว่า ยังไงก็จะเอาตัวเข้าไปทำงานในวงการนี้ให้ได้ก่อนอาจเป็นตำแหน่งอะไรก็ได้ แล้วค่อยเปลี่ยนบริษัทย้ายตำแหน่ง ก็น่าจะง่ายขึ้นค่ .... กลับมาที่ว่า เมื่อกลางปีที่แล้ว xxx เลยหาบริษัทที่พอจะมีตำแหน่งที่ใกล้เคียงกับที่น่าจะทำได้ คือ Cost Control เลยสมัครที่ xxx ไป ตอนที่สัมภาษณ์ก็บอกเค้าไปว่า จริงๆ แล้ว xxx prefer ทำ planning (งานที่ xxx ทำอยู่ ได้ทำ planning ด้วยค่ะ แต่เป็นของงานก่อสร้าง).... ซึ่งตอนนั้นคนสัมภาษณ์เค้าบอกว่า ถ้าเป็น Planing เค้าอยากได้คนที่เคยทำ planning ของงาน oil & gas มากกว่าเลยตกสัมภาษณ์ไปอีกอัน แต่เพิ่งมารู้จากวงใน(พอดีมีพี่ที่รู้จักกันอยู่ในบริษัท) เมื่อไม่กี่วันนี้ว่า ถ้ายังสนใจทำ cost อยู่เค้าอาจจะรับค่ะ ซึ่งตอนนี้ก็รอ Respond จากทางบริษัทอยู่ ... ส่วนตอนนี้กำลังหาข้อมูลของ Worley Parson กับ Chevlon เพิ่ม ทั้งเรื่องตำแหน่งงานและการสอบสัมภาษณ์อยู่ เตรียมส่งใบสมัครอีกค่ะ จากที่เล่ามา เรื่องอาจจะยาวไปหน่อยนะคะ เพราะอยากให้ข้อมูลพี่เยอะๆ ( หรืออ่านแล้วอาจจะงงคะ เพราะยาวไป 55) และให้พี่แนะนำได้อย่างตรงจุด อย่างที่พี่ว่า..ใบ้หวยให้ ^^ ซึ่งก็อยากให้พี่นกช่วยแนะนำถึงว่า ที่ xxx คิดแบบนี้มันใช่รึปล่าว , จริงๆแล้วควรเริ่มเดินยังไงถึงจะถูกทาง , Career path ของวงการนี้ , การเตรียมตัวเข้าสัมภาษณ์ , และ profile แบบ xxx พอจะสมัครตำแหน่งไหนใน SLB ได้บ้างค่ะ...ขอโทษพี่นกที่อาจจะถามเยอะนะคะ ช่วงนี้สับสนมากค่ะ เลยอยากได้คำปรึกษาจากคนที่มีประสบการณ์ด้านนี้จริงๆเพื่อที่จะได้เดินให้ถูกทางค่ะ และก็ดีใจมากๆเลยที่มาเจอพี่นก และพี่ให้ความช่วยเหลือค่ะ :)) ปล. เรื่องสุขภาพ แข็งแรงดีค่ะ ไม่มีโรคประจำตัว สูง xxx หนัก xx ค่ะ อย่างที่บอกไว้ก่อนหน้านี้ครับว่าไม่มีทางตรง เพราะคุณสมบัตเราไม่ตรงประสบการณ์ก็ไม่ตรง มันก็ต้องต้องเดินอ้อมเอา เดินอ้อมยังไงให้อ้อมน้อยที่สุดจะคือคำถามมากกว่าไปยังไงให้ตรง จริงไหมครับ ... ก่อนอื่นมาเข้าใจธรรมชาติของงานสำรวจและผลิตต้นน้ำก่อนว่ามันแบ่งเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ คือ surface และ subsurface ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า surface คืองานที่เกี่ยวกับการก่อสร้างและบริหารงานก่อสร้างของสิ่งก่อสร้างทุกอย่างที่อยู่เหนือผิวดิน จมอยู่ในน้ำ และเหนือผิวน้ำ มันก็คืองานโยธา งานเครื่องกล ไฟฟ้า เครื่องมือวัด งานระบบ ฯลฯ ดีๆนี่เอง เพียงแต่ว่ามันเกิดขึ้นมาเพื่อรองรับสนับสนุนงาน subsurface งาน subsurface คืองานที่เกี่ยวกับการก่อสร้างหลุมที่เรียกว่า well construction คิดง่ายๆเหมือนเราจะขุดน้ำบาดาลแบบดั่งเดิมนั่นแหละที่เป็นบ่อกลมๆเอาท่อซีเมนต์ต่อๆลงไป แล้วเเอาถังผูกเชือกหย่อนลงไปจ้วงๆเอา พวก surface ก็คือสร้างหลังคา ทำถนน ติดตั้งปั๊มบนดิน ส่วนพวก sursurface ก็นักธรณีชี้ว่าตรงไหนมีน้ำ มีเยอะแค่ไหน มีให้ใช้นานเท่าไร คุณณภาพดีไหม ฯลฯ แล้ววิศวกรอย่างพวกผมก็ขุดๆลงไป เจอมั่งไม่เจอมั่งก็ว่ากันไป นี่ว่ากับแบบเบสิกๆให้เห็นภาพ วกกลับมาเรื่องของเรา ... จากข้อมูลใน CV + ที่เล่ามาในเมล์ ทางที่ใกล้ที่สุดคือมาทำด้าน surface เหมาะทั้งวุฒิตรี โท ที่จบมา คราวนี้งาน surface ที่เขาเรียกว่า surface facilty เนี้ย มันมีเฉพาะบ.น้ำมัน บ.service อย่างพวก SLB HES BAKER WFD MI_Swaco BJ ฯลฯ ไม่มีงานส่วนนี้ครับ บ.แท่นก็ไม่มีเพราะมันให้เช่าแท่น บ.น้ำมันในประเทศเรามีใครบ้างที่มีงานส่วนนี้ ก็ต้องเป็นบ.ใหญ่ๆ เช่น ปตท.สผ. เชฟรอน เพิลร์ออยล์ เป็นต้น เข้าไปหาอ่านในเว็บกรมเชื้อฯได้ว่ามีบ.น้ำมันอะไรบ้าง เนื่องจากบ.น้ำมันในบ้านเราใหญ่ๆที่มีงาน surface facility มันก็น้อยราย อีกทางก็คืออ้อมอีกนิด คือบ.น้ำมันพวกนี้ไม่ได้สร้าง platform เอง จริงไหม ก็ต้องจ้างบ.เอกชน เช่น Foster Wheeler, BV, Mc Dermot, Nippon steel, ฯลฯ มีมากกว่านี้แต่ผมจำชื่อไม่ได้ เพราะผมไม่ได้อยู่ส่วนงานนี้ แค่ได้ยินชื่อผ่านๆมาก็มีบ.ที่ว่านี่แหละ ไปทำอยู่กับพวกนี้ แล้วก็ค่อยมาสมัครกับบ.น้ำมันก็ได้ครับ ส่วน บ. seervice อย่าง SLB ที่เกดเล็งไว้ บอกตรงๆว่าถ้าจะยาก ถึงแม้ว่าเขาจะรับวิศวกรทุกสาขา แต่ส่วนมากจะรับเด็กๆจบใหม่ไม่เกิน 3-4 ปี และเกรดต้องดีด้วย แต่ถ้าบ.service กลางๆเล็กๆก็น่าจะพอเล็งไหว อย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้ว่าเราไม่ตรงเขาจะรับไหม เนื่องจากงานพวกนี้เป็นงานเฉพาะ ไม่มีม.ที่ไหนผลิตคนได้ตรงหรอกครับ เอาไปหัดใหม่ทั้งนั้น ดังนั้นเกดสมัครไปเถอะครับ ไม่ต้องกลัวว่าตอบคำถามเขาไม่ได้แล้วจะหมดสิทธิ์โดนเรียกในโอกาสถัดไป มีมากมายครับที่ตกจากงานหนึ่ง ไปได้อีกงานหนึ่งของบ.เดียวกัน บ.พวกนี้ โดยเฉพาะ big 4 (SLB HES Baker WFD) มีหลายๆสินค้าและบริการที่ต้องการวิศวกร(ทั้งสนามและไม่สนาม)ที่มีคุณสมบัติแตกต่างกัน เราสมัครไปตำแหน่งหนึ่งตกเพราะคุณสมบัติไม่ตรงหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ว่าเขาเก็บไฟล์ไว้ให้กับอีกแผนกถ้าเขาเห็นว่าแบบนี้น่าจะทำกับแผนกนี้มากกว่า สรุปว่า อย่าคิดไปเองครับ ยึกยักไม่ปาลูกดอกออกไปแล้วมันจะโดนเป้าได้ไงครับ ถึงมันไม่โดนเป้าที่เล็งแต่มันก็ปักเข้าไปสักที่ในวงกลมนั่นล่ะ(ว่ะ) แล้วค่อยขยับเอาทีหลังอีกที สรุปอีกทีว่า อย่าคิดไปเอง สมัครไปก่อน เล็งไปที่งาน surface facility ของ บ.น้ำมันและบ.รับจ้างสร้างแท่น อย่าง profile xxx ผมว่าพอมีสิทธิ์ลุ้นนะครับ ส่วนพวกบ. service อย่าหวังมากแต่สมัครไปเถอะครับ field eng อาจจะหวังยากหน่อย (ด้วยปัจจัยอายุ แต่อย่าท้อ ดูจากรูปผมว่า xxx ไม่น่าจะอายุถึง xxx ด้วยซ้ำ) แต่ application eng น่าจะมีลุ้นครับ ดูเหมือน xxx รอบคอบ คิดโน้นคิดนี่ไปหมด แต่บางทีออกแนวๆลูกทุ่งๆหน่อย(แต่อย่ามาก) ก็ไม่เลวนะครับ หมายถึง คิดอย่ามาก แต่ทำไปเลย สมัครไปเลย เดินไปหาเลยอะไรแบบนี้น่ะครับ ตอนคุยตอนสัมภาษณ์ก็อย่าไปคิดมากว่าไม่ตรงโน้นนี่นั่น แสดงให้เห็นถึงความมั่นใน ความมุ่งมั่นให้มากๆ เอาไว้ได้นัดสัมภาษณ์ที่ไหน ตำแหน่งอะไรแล้วค่อยมาคุยกันอีกที จะแนะนำให้ (ไปดูรายชื่อบ.ประเภทต่างๆได้ในห้องสมุดผมตอนที่หนึ่งมีให้ดาวโหลด ถ้าไม่ทราบว่าประเภทไหนเป็นไง ก็ไปอ่านในบล๊อกได้ ผมแบ่งเป็นประเภทไว้แล้ว) โชคดีนะครับ ... พี่นก ...อ่านต่อเลือกคลิ๊กกันเลยครับFAQ #1 FAQ #2 FAQ #3 FAQ #4 FAQ #5 FAQ #6 FAQ #7 FAQ #8 FAQ #9 FAQ #10 FAQ #11 FAQ #12 FAQ #13 FAQ #14 FAQ #15 FAQ #16 FAQ #17 FAQ #18 FAQ #19 FAQ #20 FAQ #21 FAQ #22 FAQ #23
Create Date : 20 มิถุนายน 2554
Last Update : 12 เมษายน 2556 15:29:28 น.
82 comments
Counter : 1980 Pageviews.
โดย: nonguide วันที่: 20 มิถุนายน 2554 เวลา:10:23:44 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 20 มิถุนายน 2554 เวลา:11:16:14 น.
โดย: Engineer on RT-12 (by for logging NWPL-12S2, HTC/HDIR + HSFT-II.) IP: 34.254.247.221 วันที่: 20 มิถุนายน 2554 เวลา:18:45:42 น.
โดย: คิดเล็กคิดน้อย IP: 49.49.85.47 วันที่: 22 มิถุนายน 2554 เวลา:16:02:38 น.
โดย: mimi.mandarin IP: 58.8.139.50 วันที่: 22 มิถุนายน 2554 เวลา:23:38:02 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 23 มิถุนายน 2554 เวลา:10:48:26 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 23 มิถุนายน 2554 เวลา:11:03:53 น.
โดย: คิดเล็กคิดน้อย IP: 223.207.81.180 วันที่: 23 มิถุนายน 2554 เวลา:11:54:11 น.
โดย: คิดเล็กคิดน้อย IP: 49.48.59.209 วันที่: 26 มิถุนายน 2554 เวลา:6:23:15 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 26 มิถุนายน 2554 เวลา:10:32:19 น.
โดย: CTV IP: 210.118.108.254 วันที่: 28 มิถุนายน 2554 เวลา:3:37:51 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 28 มิถุนายน 2554 เวลา:7:41:54 น.
โดย: Palm IP: 61.90.8.235 วันที่: 28 มิถุนายน 2554 เวลา:11:45:05 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 28 มิถุนายน 2554 เวลา:17:07:31 น.
โดย: CTV IP: 210.118.108.254 วันที่: 29 มิถุนายน 2554 เวลา:5:02:11 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 29 มิถุนายน 2554 เวลา:17:35:21 น.
โดย: ตื่นเต้นกับครั้งเเรก IP: 49.49.89.70 วันที่: 30 มิถุนายน 2554 เวลา:7:21:15 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 30 มิถุนายน 2554 เวลา:8:15:51 น.
โดย: Engineer in SKL (Go to RT-7 on friday) IP: 61.90.201.123 วันที่: 30 มิถุนายน 2554 เวลา:8:50:52 น.
โดย: ตูน Aggiegal IP: 186.219.1.2 วันที่: 2 กรกฎาคม 2554 เวลา:2:41:01 น.
โดย: ตููน Aggiegal IP: 186.219.1.2 วันที่: 2 กรกฎาคม 2554 เวลา:2:45:59 น.
โดย: Palm IP: 61.90.42.139 วันที่: 2 กรกฎาคม 2554 เวลา:3:01:33 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 2 กรกฎาคม 2554 เวลา:21:51:12 น.
โดย: ยังต่ำต้อยอยู่ IP: 49.48.58.95 วันที่: 2 กรกฎาคม 2554 เวลา:22:14:57 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 2 กรกฎาคม 2554 เวลา:22:32:08 น.
โดย: CTV IP: 118.173.234.55 วันที่: 4 กรกฎาคม 2554 เวลา:10:44:05 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 4 กรกฎาคม 2554 เวลา:14:00:55 น.
โดย: Engineer on RT-7 (back to land this friday) IP: 61.90.201.123 วันที่: 4 กรกฎาคม 2554 เวลา:16:30:45 น.
โดย: ตููน Aggiegal IP: 189.91.114.225 วันที่: 5 กรกฎาคม 2554 เวลา:7:40:47 น.
โดย: CTV IP: 118.173.235.82 วันที่: 5 กรกฎาคม 2554 เวลา:7:49:21 น.
โดย: มดน้อยในไร่ส้ม IP: 210.246.84.207 วันที่: 6 กรกฎาคม 2554 เวลา:10:08:42 น.
โดย: Engineer on RT-7 (stand by to log SAWI-24) IP: 61.90.201.123 วันที่: 6 กรกฎาคม 2554 เวลา:22:16:13 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 7 กรกฎาคม 2554 เวลา:13:20:54 น.
โดย: เด็กน้อย หาฝัน IP: 110.77.184.24 วันที่: 13 สิงหาคม 2554 เวลา:16:51:05 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 14 สิงหาคม 2554 เวลา:10:31:38 น.
โดย: Traveller IP: 203.159.78.5 วันที่: 17 สิงหาคม 2554 เวลา:0:45:40 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 17 สิงหาคม 2554 เวลา:8:02:42 น.
โดย: Jr.En IP: 206.53.148.48 วันที่: 21 สิงหาคม 2554 เวลา:19:01:55 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 22 สิงหาคม 2554 เวลา:22:36:41 น.
โดย: CTV IP: 210.118.108.254 วันที่: 24 สิงหาคม 2554 เวลา:2:52:54 น.
โดย: CTV IP: 210.118.108.254 วันที่: 24 สิงหาคม 2554 เวลา:7:29:54 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 24 สิงหาคม 2554 เวลา:10:23:40 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 24 สิงหาคม 2554 เวลา:10:25:11 น.
โดย: น้องkk IP: 119.42.67.82 วันที่: 29 สิงหาคม 2554 เวลา:15:15:08 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 29 สิงหาคม 2554 เวลา:19:43:04 น.
โดย: MJ IP: 10.0.100.61, 110.169.128.44 วันที่: 13 กันยายน 2554 เวลา:14:11:27 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 13 กันยายน 2554 เวลา:17:21:42 น.
โดย: MJ IP: 49.237.50.146 วันที่: 15 กันยายน 2554 เวลา:9:57:04 น.
โดย: Jr.En IP: 11.0.100.44, 180.183.210.118 วันที่: 17 กันยายน 2554 เวลา:2:44:35 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 17 กันยายน 2554 เวลา:17:52:45 น.
โดย: Jr.En IP: 11.0.100.44, 125.27.26.51 วันที่: 19 กันยายน 2554 เวลา:22:48:37 น.
โดย: nui IP: 111.84.172.98 วันที่: 21 กันยายน 2554 เวลา:16:24:57 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 21 กันยายน 2554 เวลา:20:32:40 น.
โดย: Jr.En IP: 11.0.100.44, 125.27.15.180 วันที่: 22 กันยายน 2554 เวลา:21:20:01 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 23 กันยายน 2554 เวลา:2:35:51 น.
โดย: MJ IP: 203.121.42.132 วันที่: 26 กันยายน 2554 เวลา:15:13:01 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 27 กันยายน 2554 เวลา:9:17:07 น.
โดย: MJ IP: 203.127.151.124 วันที่: 27 กันยายน 2554 เวลา:12:45:01 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 29 กันยายน 2554 เวลา:9:28:18 น.
โดย: CTV IP: 182.53.177.27 วันที่: 30 กันยายน 2554 เวลา:16:05:50 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 30 กันยายน 2554 เวลา:20:46:07 น.
โดย: Engineer on RT-7 (finish check tool, stand by for RIH) IP: 34.252.139.210 วันที่: 1 ตุลาคม 2554 เวลา:18:22:02 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 1 ตุลาคม 2554 เวลา:22:13:18 น.
โดย: Jr.En IP: 11.0.100.44, 182.53.193.175 วันที่: 2 ตุลาคม 2554 เวลา:0:13:13 น.
โดย: MJ IP: 203.121.42.132 วันที่: 7 ตุลาคม 2554 เวลา:2:26:12 น.
โดย: wondering man IP: 192.168.1.254, 110.77.216.41 วันที่: 24 ตุลาคม 2554 เวลา:15:56:14 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 25 ตุลาคม 2554 เวลา:7:15:58 น.
โดย: wondering man IP: 192.168.1.254, 110.77.216.14 วันที่: 25 ตุลาคม 2554 เวลา:14:29:11 น.
โดย: ^^ MooUan IP: 161.200.77.76 วันที่: 5 มีนาคม 2555 เวลา:18:30:03 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 5 มีนาคม 2555 เวลา:20:02:02 น.
โดย: napat IP: 110.169.196.31 วันที่: 3 เมษายน 2555 เวลา:20:27:38 น.
โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 3 เมษายน 2555 เวลา:21:03:41 น.
โดย: napat IP: 124.122.111.213 วันที่: 3 เมษายน 2555 เวลา:22:10:47 น.
โดย: Jill IP: 58.9.17.85 วันที่: 18 เมษายน 2555 เวลา:17:26:56 น.
โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 18 เมษายน 2555 เวลา:18:02:42 น.
โดย: Jilll IP: 58.9.17.85 วันที่: 18 เมษายน 2555 เวลา:18:05:23 น.
โดย: Jill IP: 58.9.17.85 วันที่: 18 เมษายน 2555 เวลา:18:07:50 น.
โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 18 เมษายน 2555 เวลา:18:10:07 น.
โดย: panida IP: 49.49.110.11 วันที่: 5 พฤษภาคม 2555 เวลา:20:23:58 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 5 พฤษภาคม 2555 เวลา:20:49:04 น.
โดย: MnChaNo IP: 49.48.200.93 วันที่: 31 สิงหาคม 2555 เวลา:19:43:49 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 31 สิงหาคม 2555 เวลา:20:24:53 น.
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 782 คน [? ]
... Blog นี้ ... แด่ ... แม่น้องเฟิร์นและน้องภัทร เธอ ..ผู้เปลี่ยนห้องที่มืดมิดให้สว่างไสวได้ด้วยรอยยิ้มเธอ ..ผู้อยู่เบื้องหลังความเข้มแข็งและความสำเร็จทั้งมวล ... และ ...เธอ ... ผู้เป็น "บ้าน" เพียงแห่งเดียวของผม ---------------------------------------------
หรือเพียง "ฝัน" ที่หาญท้าชะตาฟ้า ?
หรือจะเพียง "ศรัทธา" (ที่)ไร้ความหมาย ?
แม้จะเป็นแค่เพียง "ฝัน" จนวันตาย
แต่ผู้ชายคนนี้จะอยู่ข้างเธอ ... ตลอดไป ...
แด่ ... ลูกที่กล้าฝันของพ่อ
สวัสดีค่ะ แวะมาเยี่ยมค่ะ
//thailandtravel.bloggang.com/
สถานที่ท่องเที่ยว จองโรงแรม