FAQ #13 ----- update 12/3/10
ผมเป็นคนหนึ่งที่ติดตามบล็อกของพี่มานาน ขอแนะนำตัวก่อนครับ ผมชื่อ xxx ตอนนี้ทำงานที่ xxx ตำแหน่ง xxx งานส่วนใหญ่ก็เกี่ยวกับ xxxx คับ หลังจากติดตามบล็อกของพี่ก็ได้ความรู้และแนวทางมากมาย ผมจบวิศวไฟฟ้ามาครับ เรียนจบก็คิดอยากทำงาน Oilfields เลย แต่ก็ไม่คิดหรอกคับว่าจะมีโอกาสมาทำงานทาง ด้านเจาะน้ำมัน น่าจะเป็น Electrician ก็น่าจะพอสำหรับผม เพราะหลังจากเรียนจบมาก็พอรู้ว่าจะมาสายนี้นอกจาก Connection ต้องได้ สีก็ต้องดีด้วย ผมก็เลยตั้งเอาใหม่ว่า ถ้ามีประสบการณ์ ทางด้านโรงกลั่นก็น่าจะมีดีกับเค้าบ้าง จึงไปเริ่มงานกับบริษัท xxx แถวระยองครับ เริ่มงานไม่เท่าไหร่ xxx ก็เรียกพอดีก็เลยมีโอกาสเข้ามาคับ เป้าหมายของผมก็แค่อยากทำงานตำแหน่งอะไรก็ได้ แต่ต้องเข้าระบบทุกอย่าง เค้าถามอะไรก็มีคำตอบแบบชัดเจนให้เค้า แค่นี้ก็ยากมากๆๆแล้วครับผมว่า เพราะงานที่ริคถึงแม้ว่าผมจะไม่เคยไปเลย(งานของผมต้อง Maintenance Tools อยู่ที่ เบสคับ เลยไม่มีโอกาสได้ไปริคกับเค้า) แต่ก็พอรู้ว่ามีหลายส่วน แค่งานตอนที่ผมทำอยู่นี้จะเอาให้เก่งขั้นเทพก็ต้องใช้เวลาพอสมควร ตอนนี้ผมก็เลยคิดว่าไหนๆๆก็ได้มีโอกาสมาทำงานทางด้าน Drilling แล้ว เป้าหมายของผมต่อไปก็คือ Drilling Engineer คับ แต่เนื่องจากคุณสมบัติของผมยังไม่พอจึงสมัครไปแล้วก็ไม่เคยได้รับการตอบรับ แต่ก็ไม่เป็นไร ผมก็เลยคิดใหม่ว่ามีสองทางคับ ตอนนี้ ทางแรกผมก็พยายามหางานที่ได้ออกไปริคอย่างเช่น xxxx ของ Halliburton and Weatherford แต่พวกนี้เค้าก็เอาประสบการณ์ส่วนใหญ่น่าจะมีแต่ Halliburton แหละ คับที่ยังพอมีหวัง ไปทางนี้น่าจะได้ประสบการณ์บนริคมากมายและน่าจะช่วยให้ผมได้เข้าใจอะไรมากขึ้น ทางที่สองก็ไปเรียนต่อเลย ซึ่งตอนนี้ก็สมัครเรียนที่ AIT ไปคับ สอบ writing Eassy ผ่านแบบเฉียดฉิว แต่ก็พอใจแหละคับเพราะไม่ได้เตรียมตัวมาเลย โทรไปถามเค้าและเค้าก็บอกว่าถ้าว่างก็มาสอบเลย ผมก็ลาไม่ค่อยได้แต่ก็ผ่านไปแล้วก็ดีใจและก็ไปสัมภาษณ์กับ Project Coordinator มาแล้วคับตอนนี้ก็รอแต่ว่าเค้าจะตอบกลับมาอย่างไร จึงอยากรบกวนพี่นกชี้แนวทางด้วยครับว่าผมจะไปทางแรกหรือทางที่สองดีครับ ผมนั่งคิดมานานแล้วก็ตัดสินใจไม่ถูกซักที ปัญหาก็คือถ้าไปเรียนต่อ หนึ่งผมก็ต้องใช้จ่ายพอสมควร สองตอน เรียนจะไม่มีรายได้แน่นอน สามจบมาจะมีงานทำไหม แต่ถ้าไม่เรียนก็ต้องทำงานตำแหน่งนี้ไปตลอด ซึ่งอนาคตก็โดนจำกัดลงเพราะตอนนี้ชลัมเค้าไม่ให้ย้ายเหมือนที่เค้าเคยบอกไว้ตอนสัมภาษณ์ ผมขืนทำที่นี่ผมก็ไม่ได้ไปออกริคและจุดหมายผมก็ไปยากขึ้น ผมก็ไม่รู้จะเอาไงต่อ ก็เลยมาขอแนวทางจากพี่หน่อยคับ รบกวนพี่ด้วยคับ จริงๆคุณก็ก็ทราบข้อดีและข้อเสียของแต่ล่ะทางเลือกเป็นอย่างดีแล้วนี่ครับ แต่ก็ยังตัดสินใจไม่ได้ใช่ไหมครับ เพราะอะไร เพราะว่าคนเรา(ไม่เฉพาะคุณ)มักจะอยากได้ไปหมด ไม่อยากเสียอะไรเลย และ ก็มักจะให้ความสำคัญกับทุกปัจจัยเท่าๆกัน ในโลกความเป็นจริงมันทำไม่ได้หรอกครับ ผมเสนอวิธีเชิงปริมาณให้ดีกว่า ก่อนอื่นคุณต้องซื่อสัตย์ต่อตัวเอง เอาปัจจัยแต่ล่ะข้อมาให้ 1.น้ำหนัก 2.ความน่าจะเป็น 3. คะแนน เช่น ถ้าเลือกเรียน ในหัวข้อ "รายได้ไม่พอใช้" "ค่าใช้จ่ายเกินรับไหว" "ตกงานหลังจบ" (อาจจะมากกว่านี้นะ ยกตัวอย่างเฉยๆ) คุณให้น้ำหนักปัจจัยนี้ที่สำคัญเมื่อเทียบกับปัจจัยอื่นๆ)เท่าไรจาก 1.00 เช่น รายได้ 0.3 ค่าใช้จ่าย 0.3 งานหลังจบ 0.4 (รวมแล้วต้องเท่ากับ 1.00) ต่อมาก็ความน่าจะเป็นที่จะเกิดขึ้น ก็ใส่เป็นทศนิยมก็ได้ เช่นโอกาสที่รายได้ไม่พอใช่เท่าไร เช่น 0.8 (ไม่จำเป็นต้องรวมเป็น 1.00) โอกาส "ค่าใช้จ่ายเกินรับไหว" 0.4 "ตกงานหลังจบ" 0.5 (50/50 นั่นแหละ) ต่อมาก็ให้คะแนนในแต่ล่ะข้อว่า "คุณ" ให้ความสำคัญมันแค่ไหน จาก 1-5 ก็ได้ เช่น ค่ารายได้ให้ 3 (คือเฉยๆไม่แคร์) ค่าใช้จ่ายให้ 4 (คือต้องไปยืมพ่อมา ถ้าต้องยืมเพิ่มภายหลังพ่อด่าตายเลย) เรื่องงานสำคัญมาก ให้ 5 เลย เสร็จแล้วจับคูณกันแล้วบวกรวม ในที่นี้จะได้ 0.3 * 0.8*3 + 0.3*0.4*4 + 0.4*0.5*5 ได้เท่าไรกดเครื่องคิดเลยเอา เนื่องจากในที่นี้ปัจจัยเป็นปัจจัยลบทั้งหมด (ต้องตั้งปัจจัยไปทางเดียวกันนะครับ) ถ้าคะแนนรวมได้มาก แปลว่าไม่ดี แต่ถ้าตั้งเป็นปัจจัยบวก คะแนนรวมได้มาก แปลว่าดี และยิ่งมีหลายปัจจัย คุณก็จะแน่ใจได้มากขึ้นว่าคุณรอบคอบ ไม่มีใครให้ นน. โอกาส และ คะแนน ได้ดีกว่าตัวคุณเองครับ ข้อถัดมาที่ผมอยากจะบอกคือ การวัดว่าการตัดสินใจครั้งหนึ่งๆนั้นถูกหรือไม่ถูกนั้น ไม่ได้วัดที่ผลของการตัดสินใจนะครับ อย่าเขว เช่น ถ้าคุณตัดสินใจว่า เรียนต่อ แล้วเกิด รายได้ไม่พอ เงินขาดมือ จบมาตกงาน ไม่ได้แปลว่าคุณตัดสินใจผิดนะครับ แค่แปลว่าคุณโชคไม่ดีเท่านั้น แต่การตัดสินใจนั้นยังถูกอยู่ เนื่องจากอยู่บนพื้นฐานปัจจัยณ.วันที่คุณตัดสินใจ แต่การตัดสินใจนั้นจะผิดก็ต่อเมื่อ คุณลืมใส่ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจ หรือ ใส่ปัจจัยที่ไม่มีผลต่อการตัดสินใจลงไปโดยสำคัญผิดว่ามันมีผล แล้วไปพบภายหลัง อย่างนั้นเรียกว่ากระบวนการตัดสินใจคุณผิดพลาด ดังนั้น ก่อนตัดสินใจ อย่าเมา อย่าอกหัก กินอิ่ม นอนหลับ ตั้งสติให้ดีๆ รวบรวมข้อมูลให้ได้มากเท่าที่เป็นไปได้ แน่นอนว่าไม่มีวันได้ข้อมูลครบหมดหรอกครับ ก่อนจบ ... ผมอยากแย็บคำถามเอาไว้ให้คุณคิดเล่นๆเป็นการบ้านว่า "เป้าหมายชีวิต" ของคุณคืออะไรครับ คุณวิ่งไล่อะไรอยู่ ... "งาน" นั้นสำคัญแค่ไหน เป็นทั้งหมดของคุณหรือเปล่า หรือเป็นแค่ที่มาของปัจจัย4 ฯลฯ ไม่ต้องตอบผมหรอกครับ ตอบตัวเองล่ะกัน ขอให้โชคดีนะครับ ... พี่นกสวัสดีครับ ตอนนี้มีแผนศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษหรือสกอตแลนด์ครับ ผมสนใจ Offshore engineering ครับ แต่มหาลัยส่วนใหญ่ในอังกฤษหรือสกอต เค้าแยกออกมาเป็น Subsea engieering ครับเลยอยากทราบว่าสโคปงานของ Subsea นี่เป็นอย่างไรบ้างครับ ทำงานในงานแบบไหนบ้าง และตำแหน่งคืออะไรครับ ทำงานบนแท่นได้รึปล่าวครับ ผมเองจบป.ตรีวิศวกรรมโยธามาครับ แต่สนใจงานเกี่ยวกับพวกแท่นขุดเจาะน้ำมันครับ ไม่ทราบว่า คุณพ่อน้องเฟิร์นพอจะแนะนำได้รึปล่าวครับ ตอนนี้ผมกำลังจะต้องยื่นมหาลัยแล้วครับ แต่ยังงงๆกับสาขาพวกนี้อยู่เลยครับ ทั้ง Marine, Drilling และ Subsea ตอบไงดีล่ะ .... เอางี้ drilling คือ ขุดหลุมลงไปในดิน ไม่ว่าจะใต้น้ำหรือบนบก ส่วนงานก่อสร้าง Subsea คือ ก่อสร้างอะไรก็ได้ที่อยู่ใต้น้ำ แต่เหนือพื้นท้องทะเล หรือลงไปใต้พื้นทะเลนิดหน่อย แต่ไม่ลึก ส่วนมากจะไม่เกี่ยวกับสำรวจและผลิตปิโตรฯตรงๆ คือออกแนวก่อสร้างที่อยู่ที่อาศัยที่ผลิต ฯลฯมากกว่าที่จะเจาะเปลือกโลกลงไป ส่วน drilling นั้น ตรงๆเลยครับ เพราะเจาะเปลือกโลกหาปิโตรเลียม ส่วน marine แฮ่ๆ ไม่รู้จริงๆ คงเกี่ยวกับทะเลโดยทั่วๆไปมังครับ ออกตัวว่าไม่ทราบจริงๆว่า marine เรียนอะไรกัน รู้แต่ว่ามันย่อยออกไปอีกเยอะมาก เช่น marine science, engineer, bio, construction ฯลฯ Subsea ทำงานบนแท่นได้หรือเปล่า ... ได้นะได้ แต่ไม่ตรงเท่าไรหรอกครับ สู้ไปทำที่มันตรงๆไม่ดีกว่าหรือถ้าจะเรียน subsea ถ้าอยากเจาะเปลือกโลก ก็เลือกเรียนilling ไปเลยซิครับ ที่นั่นได้ข่าวว่ามีหลักสูตรตรงๆเลยเรื่อง drilling เนี้ย เอางี้ดีไหม ผมมีไส้ศึกคนนึงเรียนเกี่ยวกับปิโตรฯ อยู่ที่อังกฤษ ขออีเมล์คุณมาที่ nnookk@hotmail.com เดี๋ยวจะเป็นพ่อสื่อให้คุยกันเอาเอง จะได้ข้อมูลตรงๆกว่า เพราะผมเองก็ไม่รู้อะไรมากเรื่องหลักสูตรที่นั่น รู้แต่ว่า มันมี driliing eng ให้เรียนตรงๆเลย ในขณะที่ ที่อเมริกา ยังไม่ได้ยินว่ามี อาจจะเป็นเพราะว่าที่ยุโรปเขาต้องการเฉพาะทางมากๆก็เป็นได้ ....ผมมีลิงค์คณะที่ผมจะเลือกมาให้คุณพ่อน้องเฟิร์นช่วยดูครับ //www.strath.ac.uk/na-me/postgraduatestudies/subseaengineeringpostgraduate/ ตามนี้ครับผม เลยอยากรู้ว่า ถ้าผมเรียนสายนี้จริงๆ แล้วสโคปงานจะประมาณไหนครับ เน้นไปที่ Pipeline Engineer รึเปล่า หรือทำอย่างอื่นได้อีกเยอะแยะครับ ผมได้ลองอ่าน Blog ของคุณดูจึงทราบว่าบ่อน้ำมันบางบ่อนั้นไม่สามารถขุดขึ้นมาได้หมดหรือขุดขึ้นมาแล้วไม่คุ้ม แล้วสาขา Subsea ที่ผมสนใจนี้ จะมีส่วนช่วยได้หรือไม่ครับ เพราะผมจะได้เอาไปทำวิจัย (ถ้าได้เรียน) และเขียน sop ด้วยครับ เพราะตอนนี้กำลังจะสมัครครับ ถ้าคำถามผมเหมือนคนไม่มีความรู้ก็ขอโทษทีนะครับ เพราะผมจบโยธามาไม่ค่อยมีความรู้ด้านนี้ แต่ว่าสนใจอยากเรียนและทำงานทางด้านนี้ครับ อ่านจากลิงค์ที่ให้มาแล้ว กระจ่างขึ้นเยอะ ... คืองี้ครับ drilling engineer จะรับผิดชอบเรื่องการขุดลงไปใต้ดิน คราวนี้ น้ำมันมันหายากขึ้นทุกวัน ไอ้ที่ง่ายๆพวกก็ดูดเอาไปจนจะไม่เหลือ เหลือก็แต่ไอ้ที่ยังไม่มีใครไปขุดเพราะมันแพง เช่นไกลๆในป่าในเขา ตรงน้ำตื้นๆพวกก็เจาะกันโครมๆ เหลือส่วนใหญ่ที่ใต้น้ำมันก็อยู่ช่วงที่น้ำลึกเสียเหลือเกิน คราวนี้ การจะไปขุดในที่น้ำลึกๆเนี้ย วิศวกรขุดเจาะบ้านๆทั่วๆไปอย่างพวกกระผมเนี้ย ก็รู้แต่เรื่องการขุด การจัดการกับหลุม แต่เรื่องราวของไอ้เรือหรือเรือทุ่น รวมไปถึง สิ่งก่อสร้างที่จะยึดอุปกรณ์ปากบ่อ หัวบ่อ ต่างๆ รวมไปถึงการเชื่อมโยงหัวบ่อเข้าด้วยกัน ดูรูปประกอบก็ได้ครับ เห็นป่ะ มันยุ่งเหมือนยุงตีกัน กองๆระโยงระยาง ต่อกันไปมา อยู่บนผิวพื้นท้องทะเล ซึ่งไอ้ตรงนี้เนี้ย วิศวกรขุดเจาะบ้านๆอย่างกระผม ใบ้รับทานครับ คือเก่งแต่ไอ้ที่อยู่ใต้ดิน ไอ้ที่อยู่เหนือผิวดินขึ้นมาถึงผิวน้ำ ก็ต้องพึ่ง subsea eng อย่างที่คุณคิดจะไปเรียนนั่นแหละครับ สโคปงานจะประมาณไหนครับ - ก็ออกแบบ ติดตั้ง คำนวน ฯลฯ เกี่ยวกับไอ้ที่ระโยงระยาง วางแปะๆอยู่ที่ท้องทะเลในรูปนั่นแหละครับ เน้นไปที่ Pipeline Engineer รึเปล่า - อ่านจากลิงค์แล้ว ผมว่าไม่เลยครับ pipeline eng เป็นแค่ส่วนหนึ่งของงาน Subsea เองครับ คุณได้เรียนมากกว่า pipeline ชัวร์ๆ แต่ก็สามารถไปทำ pipeline ได้ เหมือนคุณจบโยธามา จะไปสร้างเขื่อน หรือ สร้างตึกก็ได้ แต่แน่นอนว่า มันก็มี วิศวกรสร้างเขื่นของมันโดยเฉพาะ แต่จบโยธาก็ทำได้นี่นา คือจะบอกว่า Subsea มันกว้างกว่าไง ทำอย่างอื่นได้อีกเยอะแยะครับ - เยอะแยะตะแป๊ะครับ อะไรที่มันกองๆอยู่ที่พื้นทะเล ทำได้ผม ทั้งยังรวมไปถึงบางส่วนของแท่นขุดที่ลอยตุ๊บป่องๆอยู่ด้วยซ้ำ (แต่ไม่ได้ไปเป็นคนขุดนะ) สาขา Subsea ที่ผมสนใจนี้ จะมีส่วนช่วยได้หรือไม่ครับ - ได้แน่นอนซิครับ อย่างที่ผมเกริ่นข้างต้นแหละครับ พวกผมก็เก่งแต่ใต้ดิน แค่รับมือกับปัญหาขุดลงไปใต้ดินก็เหนื่อยแล้ว จึงต้องมี subsea eng มาช่วยจัดการไอ้พวกที่เหลือกองๆบนพื้นทะเลนั่นแหละ ยิ่งอย่างที่บอกไว้แล้วว่า แนวโน้มพวกเราต้องเข้าป่าลึกขึ้น ปีนเขาสูงขึ้น ลงทะเลลึกขึ้น เพราะน้ำมันมันหายากขึ้น ก็ต้องอาศัยพวก subsea นี่แหละ มาช่วยๆกัน ... ขอโทษทีนะครับ เพราะผมจบโยธา ... - ไม่เป็นไร งั้นผมขอโทษที่ผมจบไฟฟ้า (ฮ่า) อ้อ เห็นว่ามีทั้งแบบ Diploma และ MSc เลือก MSc ดีกว่านะ (ไหนๆลงทุนเรียนทั้งที)ผมเพิ่ง search เจอ blog ของพี่ครับ ตอนนี้ผมเรียน ป.โท xxx ที่ xxx ปีสองครับ ป.ตรี จบxx ที่ xxx เกรดต่ำต้อย xxx ครับ เพิ่งจะได้รับการติดต่อสัมภาษณ์งานทางโทรศัพท์จาก บ. Baker Hughes ครับ เป็น Phone Interview โทรจากอเมริกานัดสัมภาษณ์ตอน 23.30น. วันที่ 11 กพ 53 ครับ ไม่รู้ว่าช้าไปไหมที่ผมจะส่งหลังไมค์มาถามพี่ จริงๆแล้วผมก็เตรียมตัวไว้บ้างแล้วครับ แต่ว่าก็รู้แต่เรา ไม่ค่อยรู้เขาเท่าไร แล้วนี่ก็เป็นการสัมภาษณ์ครั้งแรกด้วยครับ ก็เลยอยากจะขอความช่วยเหลือจากพี่ครับว่า 1. การสัมภาษณ์ phone interview นี้มีแนวทางการสัมภาษณ์อย่างไรครับ เหมือนหรือต่างกับเรียกไปสัมภาษณ์ที่บริษัทครับ 2. ตามปรกติแล้วคนที่ได้รับการสัมภาษณ์แบบนี้แล้วจะต้องสัมภาษณ์กับ Baker Hughes ประเทศไทยอีกไหมครับ (BH ไทย เรียกสัมภาษณ์แล้วครับ แต่ไม่ได้เรียกผม) 3. คือผมความรู้ทางเทคนิคไม่ค่อยแน่น engineering common sense ของพี่ ผมยอมรับว่าตอบไม่ได้หลายข้ออยู่ครับ อายเด็กม.ปลายเหมือนกัน (ตอนนี้หาคำตอบอยู่ครับ) แต่ผมมีความตั้งใจอยากทำงาน offshore ของ service company มากครับ ผมไม่เคยส่ง ใบสมัครไป oil company ไหนเลยครับ ถ้าผมเสนอตัวไปตอนสัมภาษณ์ว่ายินดี relocate ไปที่ไหนก็ได้ ไนจีเรีย คองโก ไหนก็ได้ และผมเป็นคน work well under pressure นี่ ความตั้งใจจะพอทดแทนความรู้ทางเทคนิคของผมที่ไม่ค่อยสมประกอบได้ไหมครับ คือผมตั้งใจว่าถ้าเขารับ ตอน training นี่จะทำให้สุดๆไปเลยครับ เขาจะมีให้คะแนนความตั้งใจมั้ยครับ... รีบแซงคิวตอบให้เลยครับช้าไหม ... ไม่รู้ซิครับ ถ้าคุณเปิดอ่านก่อน ก็ไม่ช้า แต่ก็คงเตรียมอะไรได้ไม่มากอยู่ดี มีน้องคนหนึ่งเคยสัมภาษณ์ทางไกลกับ Baker แล้ว ตำแหน่งเดียวกัน ไปตามอ่านได้ที่ //www.bloggang.com/mainblog.php?id=nong-fern-daddy&month=03-01-2010&group=6&gblog=47 และผมก็เคยตอบเกี่ยวกับตำแหน่งนี้แล้ว แต่จำไม่ได้ว่า FAQ ไหน แต่ไม่น่าก่อน FAQ10 กลับไปค้นอ่านดูนะครับเหมือนหรือต่างกับเรียกไปสัมภาษณ์ที่บริษัท - ต่างกันพอควร สัมภาษณ์ทางไกลแบบนี้ คงเป็นการกรองคร่าวๆ เรื่องภาษาคงไม่สามารถวัดได้เท่าไร เพราะ มีคลื่นรบกวนเยอะ ฟังกันไม่ถนัด เรื่องเทคนิค คงไม่ถามมาก เพราะอธิบายแบบไม่เห็นหน้า และข้อจำกัดหลายอย่าง คงไม่ถามเทคนิค คงถามถึงความพร้อมคร่าวๆมากกว่า ไปอ่านที่น้องคนนั้นเอามาแบ่งปันคงพอได้แนวว่าเขาถามอะไรต้องสัมภาษณ์กับ Baker Hughes ประเทศไทยอีกไหมครับ - แน่นอนครับ เรียกอีกแน่ๆพอทดแทนความรู้ทางเทคนิคของผมที่ไม่ค่อยสมประกอบได้ - ได้แน่นอนครับ เตรียมประโยคเด็ดที่บอกว่าจะไปไหนก็ได้ เอาไว้ด้วย ถ้าเขาไม่ถามเราจะได้หาช่องไฟแทรกเสนอออกหน้าบอก แล้วอีกอย่าง งานตำแหน่งนี้ ไม่ต้องใช้ความรู้ทางเทคนิคมาก แค่ฟิสิกส์ม.ปลาย กับ วิศวะปี 1 ก็เกินพอแล้วครับ อย่างคุณ 2.3 โยธา จุฬานี่ก็เกินไปเยอะแล้ว แต่บ.ต่างๆมักโลภมาก เอาเยอะไว้ก่อน แต่แหม ใครๆก็อยากได้รถดีๆขับทั้งนั้นแหละ แต่เอามาขับจริงๆแค่(เอาเบนซ์)วิ่งไปจ่ายตลาดปากซอยมีให้คะแนนความตั้งใจมั้ยครับ ... มีซิครับ เขาเรียกว่า คะแนนทัศนคติ เรียนรู้ง่าย เรียนรู้เร็ว ช่างถาม หมั่นสนใจทบทวน ไม่หยิ่งว่ากูเป็นวิศว(นะโว้ย) ทำตัวเป็นน้ำพร่องแก้ว ไม่กลัวเหนื่อย ทำงานล่วงเวลาไม่คิดเล็กคิดน้อย มือเปื้อนได้ไม่รังเกียจรังงอน กินง่ายอยู่ง่ายนอนง่าย(แต่ต้องเมายาก) อะไรพวกนี้น่ะ หวังว่าคงช่วยอะไรบ้างในนาทีสุดท้ายแบบนี้นะครับ ... พี่นกวันนี้ผมเพิ่งได้รับโทรศัพท์ ให้ไปสอบสัมภาษณ์ตำเเหน่ง DSM trainee ของ Chevron (CV) ครับ ตื่นเต้นมาก รบกวนพี่ช่วยบอกได้ป่าวครับ ว่าการสัมภาษณ์ จะเน้นอะไรบ้าง ภาษาอังกฤษผมก็ไม่ค่อยดีเท่าไร เราควรเอาบุคลิกหรือลักษณะอะไรมาทดเเทนในส่วนนี้ได้บ้าง เเละที่ผมถาม HR ที่นัดผม เค้าบอกให้ดูว่า ตำเเหน่งนี้ทำงานอย่างไร หน้าที่เกี่ยวกับอะไร หรือพี่มีคำเเนะนำอะไรเพิ่มเติมบ้างหรือป่าวครับ ก่อนอื่น ขอแสดงความยินดีด้วยที่ CV คุณเข้าตากรรมการ เขาคงเห็นอะไรใน CV คุณแน่ๆที่น่าจะเหมาะกับงานนี้ตำเเหน่งนี้ทำงานอย่างไร / หน้าที่เกี่ยวกับอะไร - เอาง่ายๆเลยว่า ตำแหน่งนี้ คือ ตัวแทนของบ.น้ำมัน ที่ลงไปประจำแท่นขุดเจาะ ตำแหน่งใหญ่ที่สุดบนแท่น เทียบเท่ากัปตันเรือ แต่ความรับผิดชอบมหาศาล บางบริษัทเรียก DSV - drilling supervisor บางบ.เรียก company man CV เรียก DSM - drill site manager หน้าที่ก็คือเป็นฝ่ายบู๊ นำเอาแผนการเจาะที่ วิศวกรขุดเจาะ - drilling engineer (ฝ่ายบุ๋น) เขียนลงบนกระดาษ เอาไปทำให้เกิดผลจริงหน้างาน พูดให้ง่ายเข้าไปอีกก็วิศวกรคุมงานหน้างานนั่นเอง DSM ต้องรู้เยอะ รู้กว้าง ทันผู้รับเหมา ทันลูกน้องตัวเอง ไม่งั้นโดนแหกเนตร เหมือนที่ผมบอกไว้ในตอนหนึ่งของบล๊อกว่า คุณต้องเห็นในสิ่งที่ไม่ได้เขียนอยู่ในรายงาน คุณต้องได้ยินในสิ่งที่ผู้รับเหมาหรือลูกน้องไม่ได้พูดให้ฟัง งานเครียดมาก เพราะแท่นเจาะและพวกผู้รับเหมา CV เช่ามาราคาแพงมากๆ จับเวลาทำงานกันเป็นนาทีๆ ถ้ายังนึกไม่ออก ให้นึกถึงงาน สร้างตึก สะพาน เขื่อน อะไรทำนองนั้น แล้วคุณคือคนที่รับคุมงานและคุมคนให้ตึก สะพาน เสร็จตามเวลา แก้ปัญหาเฉพาะหน้าทางวิศวกรรม บริหารงานบุคคลภาคสนาม(โดยมาก ด่าก่อน ขอโทษทีหลัง ฮ่า) บริหารจัดการโลจิสติกภาคสนาม (โดยมากด่าก่อน ของส่งมาทีหลัง ฮ่า) ให้ของมาของไป ตามตารางการใช้งานหรือไม่ใช้งาน โอ๊ย แม็ม เทวดาดีๆนี่เองครับ (ฮ่า) คุณอาจจะร้องว่า แล้วผมจะไปรู้อะไรล่ะตอนนี้ ก็นั่นแหละครับ คุณก็เป็น trainee ไปก่อนไง เสร็จแล้วก็เป็น Night DSM คือ DSM ที่ทำงานกะกลางคืน หรือ ที่เรียกสั่นๆว่า Night นั่นแหละครับ พอเขี้ยวยาวลากพอถึงจะได้ขึ้นเป็น day โอ้ย ... อีกนานครับกว่า trainee จะเป็น night อย่าว่าแต่จะเป็น day เลยครับ เอาว่า DSM ของ CV เป็นตำแหน่งในฝันของหลายๆคนมากๆ ใหญ่ที่สุดบนแท่นขุด ใครๆก็ต้องเกรง เดินมาตามทางเดินนี่ คนหลบทางให้หมด ชี้เป็นชี้ตาย ใครทำอะไรไม่เข้าท่าเข้าทาง ส่งขึ้นฮ.กลับฝั่งได้โดยไม่ต้องขออนุญาติฝั่ง พูดง่ายๆคือ ไล่กลับก่อน เขียนรายงานทีหลัง พวกห้องพัก TV อาหาร ฯลฯ ไม่ต้องพูดถึง โรงแรมดีๆนี่เอง แต่อีกด้านหนึ่งของเหรียญ DSM รับเละทุกเรื่อง ตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือรบ แท่นหยุดทำงานแม้แต่ 1 นาที ไม่ว่ากี่โมงกี่ยาม หน.บนฝั่ง (rig superintendent) โทรฯมาด่าก่อนเลย ถามเหตุผลทีหลัง รับผิดชอบชีวิตของคนทั้งแท่น กรณีสละแท่น DSM จะเป็นคนสุดท้ายที่ลงเรือชูชีพ บั้นปลายชีวิตของ DSM มี 2-3 อย่าง 1. ขึ้นไปเป็น rig superintendent ต่อด้วย Operation manager ตามด้วย drilling manager บนฝั่ง หรือ ไม่ก็ 2. อยู่เป็น DSM จนแก่ ไม่ว่าจะเป็นแบบ 2.1 ลูกจ้างกินเงินเดือนตามปกติ หรือ 2.2 มือปืนรับจ้างชั่วคราวเป็นแบบรายวัน (contractor) ตอนนี้แบบ 2.2 นี่ค่าตัวในอ่าวไทยอยู่ที่ 1500 - 2000 USD ต่อวัน + ค่าเดินทาง buiness class แบบ door to door (กรณีฝรั่ง) ทำงาน 4/4 ครับ ไม่ได้พิมพ์ผิดครับ 1500-2000 USD ต่อวันจริงๆ ส่วนแบบ 2.1 แฮ่ๆ ผมไม่ทราบจริงๆครับ พอหอมปากหอมคอนะครับ สรุปคือ ตำแหน่งนี้ บู๊สะเด็ด ปะฉะดะควรเอาบุคลิกหรือลักษณะอะไรมาทดเเทนในส่วนนี้ได้บ้าง - ไหวพริบ และ ความมั่นใจมาก่อนเบอร์หนึ่ง ประสบการณ์อะไรที่คุณเคยผ่านมา ไม่ว่าเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัวที่แสดงออกว่าตูมีไหวพริบแก้ปัญหาได้เลิศ อะไรที่แสดงว่า ตูมั่นใจและใช้ความมั่นใจ(อย่างมีเหตุผล) ฝ่าฟันอุปสรรคมาได้ เช่น เคยเป็น พี่ปี4คุมงานค่ายอาสาสร้างโรงเรียนในชนบท โห ตัวอย่างนี้ตรงงาน DSM แป๊ะเลย เคยเจอปัญหาว่า เหล็กเส้นขาดไปหน่อย แต่มั่นใจว่าด้วยจำนวนที่มี สามารถรับน้ำหนักได้ โดยเพิ่มสัดส่วนของปูนขึ้นมาอีก 10-15 % เพราะเคยเรียนมาตอนปี 2 จึงสั่งให้น้องๆในค่ายผูกเหล็กเทปูนไปเลย นี่ตัวอย่างเว่อร์ๆนะครับ งาน DSM ก็อาศัยประมาณนี้แหละคำเเนะนำอะไร เพิ่มเติมบ้าง - ไม่อยากบอกให้เกร็งว่า เป็นงานในฝันของคนหลายๆคน โอกาสมาจ่อถึงคุณแล้ว (ถ้าคุณชอบงานบู๊นะ) คว้ามันเอาไว้ครับ มั่นใจ และ ไหวพริบ เหนืออื่นใด คือความซื่อสัตย์ ไม่รู้ ตอบไม่รู้อย่าแถ อย่าเอาสีข้างถูก DSM บู๊ล้างผลาญ โหดเลวดี อย่างไรก็ตาม ชีวิตคนและแท่นมูลค่ามหาศาลอยู่ในมือคนๆนี้ ถ้าไม่รู้แล้วแถ แล้วมั่ว หยิ่งไม่ถาม ไม่ขอความช่วยเหลือ CV เขาไม่เอาไปทำปุ๋ยหรอกครับ ถ้าคุณไม่ชัวร์ ไม่แน่ใจ ในคำตอบ บอกไปเลยว่า ผมไม่แน่ในครับ ผมคิดว่า .... (อะไรก็ว่าไป) หรือ ไม่ก็ ผมไม่ทราบคำตอบครับ แต่ถ้าต้องเดา ผมเดาว่า ... (อะไรก็ว่าไป) ท้ายที่สุด ถ้าไม่ได้ ก็อย่าเสียใจ คนบนฟ้ามีทางอื่นให้คุณเตรียมไว้แล้ว ศึกษาเพิ่มเติมไปตามแผนเดิมของคุณก็เป็นทางออกที่สวยไม่แพ้กันนะครับ สุดท้าย ผมอยากขอดู CV คุณหน่อย เป็นความรู้ว่า อ้อ CV หน้าตาแบบนี้ เข้าทางตำแหน่ง DSV รับรองว่า ไม่เอาไปทำเสียหายหรือขึ้นโพสต์ที่ไหน จุดประสงค์หลักคือ เป็นข้อมูลส่วนตัว ผมจะได้แนะนำน้องๆเพื่อนๆ คนอื่นๆที่เขียนมาถาม ให้เดินไปได้แม่นยำขึ้นเท่านั้นเอง ... โชคดีนะครับ ... พี่นกไขข้อข้องใจเกี่ยวกับ facility engineer ของ เชฟรอนครับ เอามาฝากครับ อภินันทนาการจากน้องนิรนามคนหนึ่งของเชฟรอน (เดาว่าตัวจริงเสียงจริงในด้านนี้) Facility engineer จะเป็น engineer ที่ดูแล Facilities (อุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิต)ในขบวนการผลิตนั่นเอง ดังนั้นก็จะประกอบไปด้วย engineer หลายส่าขา - Structure engineer ก็ดูแลโครงสร้างของแท่นผลิต การต่อเติม modification ที่มีผลต่อ structure ของแท่น การเพิ่มหรือการเปลี่ยนแปลง conductor สำหรับหลุมการผลิต (อันนี้พี่นกจะรู้ดี) ส่วนใหญ่แลัวจะเป็นงานด้าน structure steel - Process/chemical engineer อันนี้ก็จะดูขบวนการผลิต และปรับปรุงขบวนการผลิต - Mechanical/Mechatronic engineer ดู machine (pump, turbine, rotating equipment) ทั้ง troubleshoot, maintenance ซึ่งจะย่อยเป็น piping, material, corrosion ด้วย - Electrical/Control/Instrument engineer ดูพวกระบบไฟฟ้า (Generator, switchgear, MCC, transformer etc), instrument ระบบควบคุมการผลิต automatic control (PLC, DCS, SCADA etc) - Safety/ Industrial engineer ดูพวกระบบความปลอดภัยในการผลิต ให้เป็นไปตามมาตราฐาน (API/ ASME/ NEC/ NFPA/ ABS etc) รวมทั้งวิเคราะห์ความเสี่ยง ที้งแบบ quantitative/ qualitative (Hazop, FMEA, What-If etc) - Marine engineer ดูพวกการ maintenance เรือผลิต/กักเก็บ condensate/oil พวก IT/ computer engineer/ communication engineer จะไม่เรียก Facility engineer เพราะกลุ่มนี้จะทำงานภายใต้ IT department Environment engineer จะทำงานภายใต้ HES departmentวันผมได้ไปสัมภาษณ์ในตำแหน่ง offshore production supervisor ที่ xxx พี่รู้จักมั้ยครับ ขอคำแนะนำว่าบริษัทดีรึป่าว จะทิ้งเราไปรึป่าว หรือไล่ออก ก่อนกำหนดรึปาว ชื่อเสียงดี น่าไว้วางใจรึป่าวครับ แล้วบริษัทประมาณเดียวกันมีอีกรึป่าวครับ การเจริญเติบโตอาจจะไม่ดี แต่ผมว่าคงได้ประสบการณ์ การทำงานหนักๆๆ แน่ๆเลย เรื่องงานเท่าที่ผมทราบประมาณต้องรู้เรื่อง process การ operating ประมาณว่า เมื่อเจาะหลุมเสร็จก้อ ต้องใช้ บริษัทนี้ช่วยทดสอบหลุดการว่ามีประสิทธิภาพเท่าไร.. งานนี้ดูเหมือนจะอันตรายรึป่าว.. อาจจะต้องอยู่บน rig ดูๆแล้วอุปกรณ์ค่อยข้างเก่าๆๆ เห็นจากรูปนะครับ กังวลเรื่องอุบัติเหตุ เรื่องสัญญาจ้างก้อไม่ชัดอีกเช่นเคย นั้นทำให้กังวลว่าจะโดนเด็งเมื่อไรก้อไม่รู้.... การทำงาน offshore 4 week และ off 2 week และ ต้องอยู่ office 2 week เงินเดือนทุกเดือนควรได้เท่าไรดีครับ และลง offshore ควรได้วันละเท่าไรดีครับ ในตำแหน่งดังกล่าว ถ้าพี่มีอะไรจะเสริม เสริมได้เลยครับไม่ต้องเกรงใจครับ พี่รู้จักมั้ยครับ - ไม่รู้จักเลยครับ ขอคำแนะนำว่าบริษัทดีรึป่าว จะทิ้งเราไปรึป่าว หรือไล่ออก ก่อนกำหนดรึปาว ชื่อเสียงดี น่าไว้วางใจรึป่าวครับ - เนื่องจากไม่รู้จัก เลยตอบคำถามนี้ไม่ได้ครับ บริษัทประมาณเดียวกันมีอีกรึป่าวครับ - มีเยอะแยะครับ แต่ที่ทำกันในอ่าวไทยก็มีไม่กี่บ. ใหญ่ๆ ก็ Schlumberger testing การเจริญเติบโตอาจจะไม่ดี แต่ผมว่าคงได้ประสบการณ์ การทำงานหนักๆๆ แน่ๆเลย - ชัวร์ครับ ประสบการณ์ กับการทำงานหนัก มันมาด้วยกัน no pain no gain ครับ งานนี้ดูเหมือนจะอันตรายรึป่าว - ทุกงานบนแท่นฯอันตรายทั้งนั้นครับ แต่ถ้าคุณทำตามกฏความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด มันก็ไม่มีอนตรายหรอกครับ เงินเดือนทุกเดือนควรได้เท่าไรดีครับ - ไม่น่าเยอะ น่าจะไปเน้นเบี้ย offshore มากกว่าครับ เงินเดือนฐาน น่าจะตกราวๆ 15000-25000 นะครับ ลง offshore ควรได้วันละเท่าไรดีครับ - ตอบยาก แต่ถ้าให้ผมเดา ถ้าเอาเบี้ย offshore มารวมเงินเดือนฐานรวมทั้งปี แล้ว หาร 12 น่าจะตกราวๆเดือนล่ะ 35000-45000 ต่อเดือน ถ้าพี่มีอะไรจะเสริม เสริมได้เลยครับไม่ต้องเกรงใจครับ - อยากให้ลุยทำไปก่อน รายได้ไม่ถึงที่พอใจเท่าไร นิดๆหน่อยๆส่วนที่ขาดหายไปก็คิดว่าซื้อประสบการณ์ ซื้อเครือข่าย networkผมอยากทราบว่า MWD/LWD Engineer มันคืออะไร ทำหน้าที่อะไร มีความรับผิดชอบอะไรบ้าง แล้วตำแหน่งนี้มีโอกาสก้าวหน้าได้มากน้อยขนาดไหนครับ และตำแหน่งนี้ในแต่ละบริษัทมีผลตอบแทนดีมั้ยครับ ก่อนอื่นเลย ทำความรู้จักกับ MWD ก่อน ตามลิงค์นี้ //www.glossary.oilfield.slb.com/Display.cfm?Term=logging%20while%20drilling แล้วก็ LWD ตามลิงค์นี้ด้วย //www.glossary.oilfield.slb.com/Display.cfm?Term=measurements%2Dwhile%2Ddrilling ทั้งสอง ลิงค์จะตอบคำถามที่ว่า มันคืออะไร ทำหน้าที่อะไร มีความรับผิดชอบอะไรบ้าง - วิศวกรกลุ่มนี้ก็มีหน้าที่ตรวจสอบความพร้อมของเครื่องไม้เครื่องมือ เอาไปใช้งาน แก้ไขเบื้องต้นที่หน้างาน เท่าที่เห็น วิศวกรกลุ่มนี้ไม่มีลูกมือหรือช่างเทคนิคนะครับ ทำเองหมดทุกอย่าง ทำงานเป็นกะ กะล่ะ 12 ชม. ผลัดกัน 2 กะ ทำเฉพาะช่วงขุดเจาะ พอแท่นไม่ได้ขุด เช่นตอนล้างหลุม ดึงก้านขึ้น ทำซีเมนต์ ทำงานอื่นๆ วิศวกรพวกนี้ก็ซ่อมแซมบำรุงรักษาเครื่องไม้เครื่องมือของตัวไป รอทำต่อช่วงขุดในตอนถัดไป ตำแหน่งนี้มีโอกาสก้าวหน้าได้มากน้อยขนาดไหน - ไปได้ดีทีเดียวครับ ไปได้ถึงผจก.ภาคพื้น หรือ ผู้บริหารของบ.นั้นๆเลยครับ เรียกว่าเป็นตำแหน่งเริ่มต้นที่ผู้บริหารในบ.ที่ทำเรื่องนี้ต้องผ่านงานสนามแบบนี้ ถ้าคุณไม่ชอบงานบริหาร ก็สามารถไปเป็นผู้เชี่ยวชาญทางเทคนิคบนฝั่งก็ยังได้ ตำแหน่งนี้ในแต่ละบริษัทมีผลตอบแทนดีมั้ยครับ - เมื่อเทียบกับวิศวกรสนามด้วยกันบนแท่น ถือว่าปานกลางๆครับ ไม่สูงมากไม่ต่ำมากผมจบป.ตรี วิศวะเคมีมา และคิดจะเรียนต่อทางด้าน offshore (ที่เล็งไว้ตอนนี้คือ OTM ของ AIT) โดยจากความเข้าใจคิดว่าน่าจะเรียนเน้นหนักไปทาง oil & gas management เนื่องจากอีก 2 สาขาไม่มีพื้นฐานจาก ป.ตรีมาเลย คำถามก็คือ พี่พอจะให้คำแนะนำได้มั้ยครับว่าถ้าผมเรียนในด้านนี้ จบออกมาแล้วจะต้องทำงานในลักษณะไหน (นั่งโต๊ะหรือไปอยู่แท่น) แล้วตลาดแรงงานของคนที่เรียนด้านนี้ ยังเป็นที่ต้องการอยู่หรือไม่ (ทั้งในประเทศและต่างประเทศ) จบออกมาแล้วจะต้องทำงานในลักษณะไหน (นั่งโต๊ะหรือไปอยู่แท่น) - ได้ที่สองอย่างแหละครับ แต่ถ้าดูจากชื่อคอร์สแล้วน่าจะออกไปทางการบริหารบนฝั่งมากกว่า ของอีเมล์มาที่ nnookk@hotmail.com นะครับ จะส่งต่อไห้ไส้ศึกที่กำลังเรียนที่นั่นช่วยไขความกระจ่างให้ คงจะให้หวยได้แม่นกว่าผมยังเป็นที่ต้องการอยู่หรือไม่ (ทั้งในประเทศและต่างประเทศ) - ในความคิดผมนะครับ ผมว่ายังเป็นที่ต้องการอยู่ อย่างน้อยก็ในแง่ที่ว่า ทรัพยากรธรรมชาติบนบกพวกมนุษย์เราๆก็สำรวจและถลุงกันจนหมดแล้ว ก็มีแต่ในและใต้ทะเลที่แหละที่ยังเป็นแหล่งต่อไป ดังนั้น OTM หรือ อะไรต่อมิอะไรที่เกี่ยวกับ offshore - marine - sea ฯลฯ ทั้งเรื่องคนและเทคโนฯ ก็ยังคงเป็นที่ต้องการอยู่นะครับ มีคนถามมาเรื่อง คณะ OTM (Offshore Tech Management) ของ AIT ผมก็ไม่ทราบเรื่องนี้มาก ก็เลยโบ้ยไปให้ไส้ศึกที่กำลังเรีนยที่นั้นตอบให้ ใจดีมาก ตอบมายาว เลยขออนุญาติเจ้าตัวเอามาแบ่งปันกันในวงกว้าง ปัจจุบันสาขาใน OTM จะถูกแบ่งออกเป็น 3 สาขาด้วยกัน คือ 1) Subsurface Engineering (SSE)(หรือที่บางคนยังเรียกว่า GEPG อยู่ - Geosystem Exploration and Petroleum Geoengineering) สาขานี้จะเน้นไปทางด้านการสำรวจหาแหล่งปิโตรเลียม และ การทำการวัดข้อมูลของแหล่งปิโตรเลียมที่ทำการสำรวหรือผลิตอยู่ (Geophysics Petrophysics & Well logging) โอกาสงานของสาขานี้ก็จะมี 2 กลุ่ม คือ กลุ่ม oil company เช่น PTTEP และ กลุ่ม service company อย่างเช่น Schlumberger Haliburton และ Baker Hugh 2) Offshore Structural Design and Construction (OSDC) สาขานี้ก็ตรงกับชื่อโปรแกรม เลบครับ ออกแบบและบริหารจัดการ การสร้าง offshore platform กันอย่างเดียวเลย โอกาสการได้งานของ OSDC นั้น ก็จะมี 2 ฝั่ง คือ ฝั่งของ EPC(Engineering, Procurement and Construction) ที่สร้าง offshore platform เช่น Technip, TNS(Thai Nippon Steel) และ Worley Parson ส่วนอีกฝั่งก็คือพวก oil company เนี่ยแหละครับ ก็พวก PTTEP, Chevron Pearl oil 3) Offshore Operation and Management (OGM) ฟังชื่อสาขานี้อาจจะยังนึกภาพไม่ออก สาขานี้จะมีความรู้เรื่องการวิเคราะห์ทางด้าน financial ของแต่ละแหล่งน้ำมันครับ ว่าแหล่งไหนผลิตแล้วแลำจะกำไรไหมที่ราคาน้ำมันปัจจุบัน จัดการกับระบบการจัดเก็บภาษีของการผลิตน้ำมัน และ มีความรู้เกี่ยวกับข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ E&P ทีนี้มาฟังต่อว่าทำไมเดี๋ยวเป็น Subsurface Engineering เดี๋ยวเป็น GEPG ยังไงกันแน่ ? แรกเริ่มเลยเนี่ย GEPG เป็นหลักสูตรที่เริ่มเปิดสอนตั้งแต่ OTM ยังไม่ก่อตั้ง โดยเริ่มเปิดสอนรุ่นแรกเมื่อประมาณ 8 ปีที่แล้ว โดยสังกัดอยู่ใน กลุ่ม GTE (Geotechnical Engineering) จนกระทั่งเมื่อปี 2006 หลักสูตร OTM ได้ถือกำเนิดขึ้นด้วย 3 สาขาวิชา คือ GEPG OGM และ OSDC โดยย้ายสังกัดของหลักสูตร GEPG จาก GTE มาอยู่กับ OTM แต่แล้วด้วยเหตุผลบางประการ ทำให้ในปี 2008 GEPG นั้นได้แยกกลับไปสังกัด GTE แบบเดิม ในขณะที่ OTM ยังคงมีสาขา GEPG เหมือนเดิมแต่เปลี่ยนมาอยู่ในนามของ Subsurface Engineering (SSE) อย่างไรก็ตามในอนาคต OTM จะไม่เปิดสาขา SSE(GEPG) โดยถ้ายังมีผู้สนใจอยู่ทาง OTM ก็จะแนะนำให้ไป เรียนหลักสูตร GEPG ที่สังกัดอยู่กับกลุ่ม Geotechnical Engineering แทนครับ เชื่อว่าถึงจุดนี้ ก็คงเกิดคำถามต่อไปว่าแล้วการเข้าหลักสูตร SSE ที่สังกัดOTM กับ GEPG ที่สังกัด GTE เหมือนและต่างกันอย่างไร ? สิ่งที่เหมือนกัน 1) หลักสูตร สามารถลงรายวิชาได้เหมือนกันเปี๊ยบ 2) รายวิชาในข้อ1) ก็มีผู้สอนคนเดียวกัน เพราะฉะนั้นสุดท้ายก็มานั่งเรียนด้วยกันนั่นแหละครับ สิ่งที่ต่างกัน 1) SSE จะมีบังคับให้ฝึกงานตอนจบปี 1 แต่ GEPG ไม่มี จะเป็นวิชา Well logging แทน 2) Advisor คนละคนกัน SSE จะเป็นอาจารย์ที่จบมาทาง offshore construction แต่ของ GEPG เป็นอาจารย์ที่จบมาทางด้าน Geology โดยตรงครับ (ซึ่งจะมีผลต่อไปในการทำ Thesis เนื่องจาก อาจารย์ที่จบมา ทางด้าน Geology โดยตรงมีคนเดียว ไม่สามารถเป็นที่ปรึกษา Thesis ให้ทุกคนได้ ) 3) รุ่นพี่ที่จะมาคอยแนะนำเรื่องการเรียนและอื่นๆทั่วไปก็จะคนละกลุ่มกันครับ (ไม่ได้แบ่งแยกกันนะครับ แต่มันก็มีแบบว่าสนิทมากกว่ากับสนิทน้อยกว่าอ่ะครับ ) ตอบมาขนาดนี้แล้วคิดว่าน่าจะเข้าใจมากขึ้นพอสมควรแล้วเกี่ยวกับตัวหลักสูตร ส่วนคำถามที่ว่า จบมาแล้วหางานยากมั้ย ? มันคงเป็นไปไม่ได้หรอกครับที่จะการันตีว่าจบมาแล้วหางานได้ 100% ราคาน้ำมันเปลี่ยน workforce ก็เปลี่ยนตาม มันเอาแน่นอนอะไรไม่ได้หรอกครับ ที่ผ่านมาก็มีทั้งคนที่ได้งานใน Oil & Gas และก็มีทั้งคนที่ไม่ได้ดังที่หวัง บางคนกว่าจะได้ก็รอกันเกือบปี เอาเป็นว่าผมจะพยายามช่วยให้ข้อมูลในส่วนที่เป็น Fact มากที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้แล้วกันนะครับ ผมขอยกฝั่ง GEPG รุ่นล่าสุดที่เพิ่งจบปีที่แล้วมาให้ดูนะครับ รุ่นนี้มีจบมาทั้งหมด 7 คน 3/7 - ได้ทุนต่อ ป เอก เมืองนอก (1/3 ได้งานที่ SLB แต่เลือกไปต่อ ปเอก ที่ Kyoto) (3คนนี้จบมาผมว่าเริ่มต้นเงินเดือนต้อง 120K ขึ้นแน่ๆ - พี่นก) 2/7 - อยู่ SCG เครือปูน (ประเดิมแผนกใหม่ Geophysics) 1/7 - ได้ที่ Pearl Oil ตำแหน่ง Geophysicist ตำแหน่งออฟฟิศ เริ่มที่ 80k (รับรอง ปีสองปี ได้ถึง 100K แน่ๆคนนี้ บ.นี้เป็นพ่อบุญทุ่ม - พี่นก) 1/7 - ได้ที่ Siam MOECO (เป็นบริษัทน้ำมันของญี่ปุ่น) งานเอกสารดูและเรื่อง legislation กับพวก contract ต่างๆ (บ.นี้ก็ใจถึงพึ่งได้ เล็กแต่จ่ายดี - พี่นก) ส่วนรุ่นอื่นๆก่อนหน้านี้ผมไม่ค่อยรู้จักแล้วอ่ะครับ ที่ผมรู้ก็มีอยู่ SLB คนนึงทำ Petrophysics, อีกคนเป็น Drilling Eng อยู่ Chevron, แล้วก็อีกคนอยู่ Veritas ทำเกี่ยวกับพวกสำรวจ location ที่จะลง rig อ่ะครับ เท่าที่ผมรู้ก็มีแค่นี้แหละครับ (ขอบคุณมากเลยครับ - พี่นก) ข้างล่างนี่เป็นคำถามต่อเนื่องจากเรื่อง OTM ของ AIT นะครับ โดยความช่วยเหลือให้ความกระจ่างจากเพื่อนท่านเดิมที่กำลังศึกษาอยู่ที่นั่น ตัวย่อต่างๆก็อ้างอิงถึงที่คุยกันข้างบนนะครับ ถ้ามีความเห็นส่วนสตัวผม ก็จะวงเล็บเอาแทรกไว้ก็แล้วกันครับ)1) ถ้าเรียน OTM มันก็ต้องเรียนทั้ง 3 สาขาเลยใช่มั้ยครับ ? ไม่ใช่ครับ ตอนเข้าเรียนต้องเลือกสาขาใดสาขาหนึ่งจาก 3 สาขา (SSE, OSDC, OGM) แต่ในทางปฏิบัติหลังจากเข้าไปเริ่มเรียนแล้วเราสามารถเลือกลงทะเบียนเรียนวิชาข้ามสาขาได้โดยต้องได้รับการอนุญาตจากอาจารย์ที่เป็น advisor ของเรา (ซึ่งโดยปกติอาจารย์ก็จะไม่ขัดครับ)2) แล้วถ้าอย่างผมซึ่งจบวิศวะเคมีมา จะสามารถไปเรียนในสาขา SSE กับ OSDC ได้หรือไม่ครับ (เนื่องจากเท่าที่ทราบ ผมไม่มีพื้นฐานใน 2 สาขานี้มาก่อน Professor อาจจะแนะนำให้ไปเรียนในสาขา OGM มากกว่า ผมเข้าใจถูกต้องหรือเปล่าครับ) เรียนได้ทุกสาขาครับ นักเรียนที่มาเรียนที่นี่เป็นนักเรียนที่ไม่ได้จบมาตรงสายค่อนข้างเยอะครับ ซึ่งอาจารย์ก็เข้าใจและยอมรับในจุดนี้ เวลาสอนเค้าก็จะปูพื้นฐานใหม่ให้หมดครับไม่ต้องกังวล ส่วนเรื่องที่กลัวอาจารย์จะไม่ยอมให้เลือกสาขาที่ต้องการนั้นไม่ต้องเป็นห่วงเลยครับ ยกตัวอย่าง OSDC ที่เคยรับมาแล้วทั้ง จบตรีวิศวฯ และ จบตรีสถาปัตย์ ส่วน GEPG นี่มีวิศวฯเกือบทุกสาขา ปีผมก็มีเด็ก Industrial chemistry จาก xxx มาคนนึง เพราะฉะนั้นสบายใจได้ ขอวิจารณ์ประเด็นนี้นิดนึงนะครับ - จริงๆแล้วผมไม่เห็นด้วยนะครับที่อาจารย์แกแนะนำให้คนที่มีพื้นฐานไม่ตรง เข้าเรียนสาขา OGM เพราะจริงๆแล้วจุดเริ่มต้นของสาขา OGM นั้นถูกออกแบบมาสำหรับผู้ที่อยู่ในวงการ O&G อยู่แล้ว แต่ต้องการหาความรู้เพิ่มเติมในการบริหารและการจัดการในธุรกิจ E&P ซึ่งความรู้เหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในตำแหน่งงาน Asset Manager แต่ไอ้เจ้าตำแหน่ง Asset Manager เนี่ย มันไม่ใช่ตำแหน่งงานในระดับ Entry Level เลยครับ ห่างไกลกันมาก โดยปกติก็จะดันจากคนในธุรกิจที่มีประสบการณ์มากพอตัวแล้วขึ้นมาสู่ตำแหน่งนี้ เพราะฉะนั้นสำหรับคนที่กำลังฝ่าฟันเข้าไปในตำแหน่งที่เป็น Entry Level นั้นผมคิดว่าจุดแข็งของหลักสูตร OGM นั้นไม่ค่อยช่วยให้ได้เปรียบในการหางานเลยครับ (ปีผมเองก็มีจำนวนไม่น้อยที่ศึกษาข้อมูลมาน้อยแล้วเลือก OGM ตอนเข้าเรียน แล้วเทอม 2 ถึงเริ่มรู้สึกตัวแล้วเพิ่งมาเปลี่ยนเป็น SSE ) (ตรงนี้ผมขอแจมครับ คือที่เพื่อนเราว่ามาผมก็เห็นด้วย 100% ครับ มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ อย่างไรก็ตาม มีอีกระดับเริ่มเข้า (entry level) ของสายงานหนึ่งในส่วนของหน่วยงานบริหารที่ไม่เกี่ยวกับกับงานลุยๆ งานสนาม หรือ วิศวกรรมเท่าไรนัก ส่วนมากจะอยู่ในหน่วยงานประเภทวางแผนองค์กร หรือ business planning หรือ corporate strategy planning ซึ่งต้องใช้ความรู้เรื่อง เศรษรฐศาสตร์ปิโตรฯ เรื่องออกแนวๆบริหาร + เศรษรฐศาสตร์ อะไรออกไปแนวๆเทือกๆนั้น ก็เป็น entry level ได้ แต่มันไม่ใช้งานวิศวกรสนาม หรือ วิศวกรอะไรเลยที่เราพูดๆกันมา - พี่นก)3) ถ้าเกิดสนใจอยากทำงานแท่น จะต้องเรียนในสาขาไหนครับ ? ตามที่ผมวิจารณ์ไว้ในข้อ 2) ผมตัด OGM ไปแล้ว ส่วน OSDC ถ้าไม่ได้เรียนตรีทางวิศฯโยธาก็อย่าไปเรียนดีกว่าครับ เพราะฉะนั้นก็ต้องเลือก SSE หรือ GEPG นี่แหละครับที่มันตรงที่สุดแล้ว ผมคิดว่าการลงทุนในการเรียนต่อเกี่ยวกับ O&G มันก็คล้ายๆกับการสำรวจหาน้ำมันแหละครับ นั่นก็คือ ลงทุนสูง มีความเสี่ยงพอสมควร แต่ผลตอบแทนถ้าทำสำเร็จมันคุ้มค่ามากกับการลงทุนครับ และอีกอย่างข้อมูลที่จำกัดครับ ซึ่งระหว่างบริษัทน้ำมันคนละบริษัทกันที่มีแปลงสัมปทานติดกัน เค้ายัง share ข้อมูลกันเลยเวลาจะทำ exploration หรือ development ผมเองก็อยากให้กลุ่มคนที่มีเป้าหมายเดียวกันกับผมแบ่งปันสิ่งที่รู้กันอย่างเต็มที่ แล้วมันจะเป็นอย่างงั้นได้ก็ต้องเริ่มที่ตัวผมเองก็ต้องแบ่งปันให้คนอื่นก่อน (แอบดีใจและภูมิใจเล็กๆที่อย่างน้อย ก็มีเมล็ดพันธุ์การแบ่งปันได้งอกขึ้นมาอีก 1 เมล็ด - พี่นก)ช่วงนี้ทาง SLB ยังรับ Specialist และ Mechanical Tech. รึเปล่าครับ ไม่ทราบจริงๆครับ ต้องโทรฯไปถาม หรือ ดูในเว็บบ.น่ะครับ2 ตำแหน่งนี้เลือกสมัครอันไหนดีครับพี่ที่คิดว่าดีครับ ใน SLB ทั้งสองตำแหน่งนี้อยู่ในระดับเดียวกันแต่ข้อดีต่างกัน คือ Specialist จะเชี่ยวชาญเฉพาะเครื่องไม้เครื่องมือของบ. ถ้าออกไปก็ต้องทำงานกับบ.ใกล้ๆเคียงกันที่ใช้เครื่องไม้เครื่องมือคล้ายๆกัน พูดง่ายๆคือ ออกนอกวงการฯยาก ส่วน Mechanical Tech จะออกๆแนวทั่วไปมากกว่า เช่นเครื่องยนต์ เครื่องปั๊ม เครื่องไฮดรอลิกส์ ทั่วๆไปมากกว่า ถ้าออกไปก็สามารถทำได้กับอุตฯอื่นๆ และแน่นอนที่สุด อะไรที่เฉพาะทางมากกว่า มีคนทำเป็นน้อยกว่า รายได้(โดยมาก)มักจะดีกว่าพี่มีช่องทางในการส่ง CV.ไปมั๊ยครับพี่ผมอยากได้ครับ มีที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ที่กรุงเทพมั๊ยครับพี่ ถ้าเป็นเบอร์ของการบุคคลจะดีมากครับ ลองเข้าไปดูในเว็บของบ.ได้เลยครับ //www.slb.com คลิ๊กไปเรื่อยๆก็มี หรือ ไปดาวโหลดรายชื่อบ.ต่างๆในห้องสมุดในบล๊อกของผมได้ มีบ.นี้ในไฟล์แน่ๆ ส่วนเบอร์บุคคล ผมไม่มีเลยครับ //www.bloggang.com/mainblog.php?id=nong-fern-daddy&month=26-05-2009&group=6&gblog=29บริษัทนี้ค่อนข้างดีมั๊ยครับ และการจ่ายค่าตอบแทนดีมั๊ยครับ ผมสนใจครับความรู้เยอะดี บ.นี้เป็น 1 ใน 4 บ. service ของวงการที่ใหญ่ที่สุดในโลก เทียบกับวงการน้ำดำก็ราวๆไม่โค้กก็เป๊บซี่ล่ะครับ จ่ายดีไหม แหม ... ก็ต้องจ่ายดีซิครับ และ ขบวนการเลือกคนก็มีระบบดีด้วยครับ ระบบฝึกอบรมก็ยอด ถือเป็นตักศิลาหลักหนึ่งของวงการเลยทีเดียวครับพอจะทราบมั๊ยครับพี่ว่าที่นี่เขาสัมภาษณ์งานกันยากมั๊ยครับ พี่มีแนวทางมั๊ยครับ ยากแน่นอนครับ แนวทางก็ต้องเข้าไปดูในบล๊อกของผมเลยครับ //www.bloggang.com/mainblog.php?id=nong-fern-daddy&month=22-12-2009&group=6&gblog=46 //www.bloggang.com/mainblog.php?id=nong-fern-daddy&month=03-01-2010&group=6&gblog=47 //www.bloggang.com/mainblog.php?id=nong-fern-daddy&month=08-01-2010&group=6&gblog=48จะมีฝรั่งหรือคนไทยครับเวลาสัมภาษณ์ ทั้งสองชาติแหละครับส่วนใหญ่จะเป็นภาษาอังกฤษรึเปล่าครับ มีคำตอบใน 3 ลิงค์ที่ให้ไว้แล้วครับถ้าผมอยากจะเข้าทำงานที่นี่พี่พอจะมีอะไรแนะนำผมบ้างมั๊ยครับ เช่นต้องเตรียมอะไร ทำ Resume แบบไหน ภาษาต้องขั้นไหน มีคำตอบใน 3 ลิงค์ที่ให้ไว้แล้วครับ และ แถมเรื่อง CV อีก 1 เรื่องตามลิงค์ข้างล่างไปเลยครับ //www.bloggang.com/mainblog.php?id=nong-fern-daddy&month=15-05-2009&group=6&gblog=21 ขอให้โชคดีนะครับ ....ตอนนี้หนูเรียนสาขา Control & Instrumentation Engineering เหลืออีกแค่เดือนกว่าก็จะจบแล้ว อยากทำงานด้านนี้มากๆ แต่ติดตรงที่ว่าทฤษฎีไม่ค่อยแน่น (เหมือนยิ่งเรียนก็ยิ่งลืมยังงัยก็ไม่รู้) ส่วนเรื่องปฎิบัติจำพวกงานลุยๆ ของชอบเลยค่ะ เพียงแต่ไม่ค่อยมั่นใจในการสมัครงาน+การสัมภาษณ์สักเท่าไหร่อ่ะค่ะ เพราะไม่เคยมีประสบการณ์ด้านนี้เลยจึงทำให้ไม่มั่นใจที่จะสมัครตำแหน่ง engineer แล้วตอนนี้หนูก็เขียนใบสมัครงานของ xxx ไปแล้วฝากพี่ที่ทำงานส่งเอกสารให้ค่ะแต่เป็นตำแหน่ง Technician ค่ะ หนูจะทำยังงัยดีค่ะกังวลมากเลยค่ะว่าบริษัทเค้าสัมภาษณ์กันยังงัย แล้วเค้าจะถามอะไรกันบ้าง จะทำยังงัยให้เค้าสนใจเราอยากได้เรามาร่วมงานด้วยอ่ะค่ะ รบกวนพี่ช่วยแนะนำด้วยน่ะค่ะ แล้วเรื่องสุดท้ายที่อยากรู้คือผู้หญิงจะมีโอกาสได้ทำงาน offshore รึป่าวค่ะ (มันคือความใฝ่ฝันเลยค่ะและจะต้องไป offshore ให้ได้เลยแต่ขอหัดว่ายน้ำก่อนน่ะค่ะ..อิอิ) หนูจะทำยังงัยดีค่ะกังวลมากเลยค่ะว่าบริษัทเค้าสัมภาษณ์กันยังงัย แล้วเค้าจะถามอะไรกันบ้าง นี่เลยครับ ผมเตรียมคำตอบไว้ให้แล้ว ไปดูว่า จริงๆเลย เขาถามอะไรกันบ้าง แล้วก็แถมด้วยคำถามทดสอบทักษะที่ผมชอบเอามาถาม ตามลิงค์ไปเลยครับ //www.bloggang.com/mainblog.php?id=nong-fern-daddy&month=03-01-2010&group=6&gblog=47 //www.bloggang.com/mainblog.php?id=nong-fern-daddy&month=08-01-2010&group=6&gblog=48จะทำยังงัยให้เค้าสนใจเราอยากได้เรามาร่วมงานด้วยอ่ะค่ะ นี่ไงครับ ผมก็เตรียมไว้ให้แล้วว่า ทำไงให้เขาสนใจเราตอนสัมภาษณ์ //www.bloggang.com/mainblog.php?id=nong-fern-daddy&month=22-12-2009&group=6&gblog=46 หรือถ้าจะเอาตั้งแต่วิธีเขียน CV ก็ตามลิงค์นี้เลยครับ //www.bloggang.com/mainblog.php?id=nong-fern-daddy&month=15-05-2009&group=6&gblog=21ผู้หญิงจะมีโอกาสได้ทำงาน offshore รึป่าวค่ะ ได้ซิครับ แต่ต้องคุณสมบัติถึง (อย่างน้อยก็ต้องว่ายน้ำเป็นล่ะครับ เพราะต้องผ่านการอบรมการเอาตัวรอดตอน ฮ.ตกอย่างที่ได้อ่านไปแล้วใน FAQ นะครับ) สองสมัครไปให้หมดเลยครับทั้ง บ.น้ำมัน บ.service ดาวโหลดได้จากในห้องสมุดผมน่ะครับ //www.bloggang.com/mainblog.php?id=nong-fern-daddy&month=26-05-2009&group=6&gblog=29 ขอให้โชคดีนะครับอ่านต่อเลือกคลิ๊กกันเลยครับFAQ #1 FAQ #2 FAQ #3 FAQ #4 FAQ #5 FAQ #6 FAQ #7 FAQ #8 FAQ #9 FAQ #10 FAQ #11 FAQ #12 FAQ #13 FAQ #14 FAQ #15 FAQ #16 FAQ #17 FAQ #18 FAQ #19 ห้องสมุดเล็กๆของผม <=== คลิ๊กรวบรวมตำราการขุดเจาะ คลิ๊ปการทำงานในบางตำแหน่ง แบบประเมินความเหมาะสมกับงานในสนามเบื้องต้น วิธีเขียน resume ที่ไม่โดนโยนทิ้งตะกร้า รายชื่อบริษัทฯในวงการ และ อื่นๆอีกมากมาย มีคลิปการทำงานของบางตำแหน่งให้ดูเป็นน้ำจิ้ม มีตำราวิศวกรการขุดเจาะให้ดาว์โหลดเป็นบทๆ มีความหวังดีและเอื้ออาทรเสมอ ถ้ารู้สึกขอบคุณ ไม่ต้องตอบแทนอะไรผม แค่คุณจะแบ่งปันสิ่งที่คุณมีให้คนอื่นต่อไป ผมก็รู้สึกว่าคุณได้ตอบแทนผมแล้ว
Create Date : 30 มกราคม 2553
Last Update : 12 เมษายน 2556 15:43:37 น.
57 comments
Counter : 2798 Pageviews.
โดย: นัท IP: 203.159.98.47, 203.159.36.12 วันที่: 31 มกราคม 2553 เวลา:23:10:29 น.
โดย: ดำดิน IP: 92.232.150.87 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:10:10:16 น.
โดย: เจ้าของกระทูเองครับ IP: 118.172.25.54 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:22:35:36 น.
โดย: ดำดิน IP: 92.232.150.87 วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:11:13:19 น.
โดย: ohho IP: 124.121.246.127 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:9:41:13 น.
โดย: Y IP: 110.164.173.56 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:20:15:00 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:18:02:58 น.
โดย: Y IP: 110.164.173.56 วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:18:24:24 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:23:12:10 น.
โดย: mitzuno IP: 112.142.84.222 วันที่: 11 มีนาคม 2553 เวลา:17:06:31 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 11 มีนาคม 2553 เวลา:20:59:54 น.
โดย: เจอตัวจริงบน Helideck PJ-IV วันนั้น IP: 117.47.238.123 วันที่: 12 มีนาคม 2553 เวลา:11:30:24 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 12 มีนาคม 2553 เวลา:14:31:37 น.
โดย: ;) IP: 222.123.56.124 วันที่: 13 มีนาคม 2553 เวลา:18:01:08 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 13 มีนาคม 2553 เวลา:21:09:10 น.
โดย: lord IP: 183.89.105.6 วันที่: 17 มีนาคม 2553 เวลา:13:54:58 น.
โดย: Peterpan IP: 117.47.186.236 วันที่: 17 มีนาคม 2553 เวลา:22:47:54 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 18 มีนาคม 2553 เวลา:9:25:46 น.
โดย: N. TUM IP: 110.164.221.180 วันที่: 22 สิงหาคม 2553 เวลา:20:49:16 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 24 สิงหาคม 2553 เวลา:19:15:19 น.
โดย: N. TUM IP: 110.164.237.7 วันที่: 2 กันยายน 2553 เวลา:19:09:30 น.
โดย: N. TUM IP: 110.164.237.7 วันที่: 2 กันยายน 2553 เวลา:19:54:09 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 2 กันยายน 2553 เวลา:21:37:27 น.
โดย: N. TUM IP: 110.164.221.153 วันที่: 5 กันยายน 2553 เวลา:14:24:46 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 5 กันยายน 2553 เวลา:18:30:26 น.
โดย: N. TUM IP: 110.164.221.153 วันที่: 5 กันยายน 2553 เวลา:20:04:11 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 5 กันยายน 2553 เวลา:21:18:55 น.
โดย: Amicus Apple IP: 124.121.17.151 วันที่: 11 เมษายน 2555 เวลา:2:13:24 น.
โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 11 เมษายน 2555 เวลา:5:51:12 น.
โดย: Dragon IP: 27.55.11.50 วันที่: 11 มิถุนายน 2555 เวลา:9:21:50 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 11 มิถุนายน 2555 เวลา:18:19:47 น.
โดย: Gamer IP: 14.207.119.108 วันที่: 31 มีนาคม 2556 เวลา:9:39:15 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 31 มีนาคม 2556 เวลา:11:21:33 น.
โดย: Gamer IP: 14.207.119.108 วันที่: 31 มีนาคม 2556 เวลา:11:25:05 น.
โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 31 มีนาคม 2556 เวลา:12:37:35 น.
โดย: Gamer IP: 14.207.110.31 วันที่: 1 เมษายน 2556 เวลา:11:03:45 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 1 เมษายน 2556 เวลา:12:04:28 น.
โดย: Gamer IP: 14.207.110.31 วันที่: 1 เมษายน 2556 เวลา:12:11:25 น.
โดย: Gamer IP: 171.6.184.110 วันที่: 5 เมษายน 2556 เวลา:18:11:00 น.
โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 5 เมษายน 2556 เวลา:22:25:55 น.
โดย: Gamer IP: 171.6.177.59 วันที่: 6 เมษายน 2556 เวลา:9:55:48 น.
โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 6 เมษายน 2556 เวลา:10:14:04 น.
โดย: Gamer IP: 171.6.181.205 วันที่: 7 เมษายน 2556 เวลา:8:15:49 น.
โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 7 เมษายน 2556 เวลา:10:02:49 น.
โดย: Gamer IP: 171.6.181.205 วันที่: 7 เมษายน 2556 เวลา:10:20:56 น.
โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 7 เมษายน 2556 เวลา:10:34:58 น.
โดย: Gamer IP: 171.6.181.205 วันที่: 7 เมษายน 2556 เวลา:10:42:14 น.
โดย: พ่อน้องเฟิร์นและน้องภัทร (Nong Fern Daddy ) วันที่: 7 เมษายน 2556 เวลา:12:47:37 น.
โดย: Gamer IP: 14.207.197.198 วันที่: 7 เมษายน 2556 เวลา:19:03:08 น.
โดย: Gamer IP: 14.207.128.156 วันที่: 8 เมษายน 2556 เวลา:16:06:50 น.
โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 8 เมษายน 2556 เวลา:17:10:00 น.
โดย: Gamer IP: 14.207.128.156 วันที่: 8 เมษายน 2556 เวลา:17:18:31 น.
โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 8 เมษายน 2556 เวลา:17:56:28 น.
โดย: Gamer IP: 27.130.229.16 วันที่: 9 เมษายน 2556 เวลา:18:57:29 น.
โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 10 เมษายน 2556 เวลา:5:18:26 น.
โดย: Gamer IP: 14.207.136.77 วันที่: 11 เมษายน 2556 เวลา:21:17:40 น.
โดย: Nong fern daddy (Nong Fern Daddy ) วันที่: 12 เมษายน 2556 เวลา:5:45:30 น.
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 782 คน [? ]
... Blog นี้ ... แด่ ... แม่น้องเฟิร์นและน้องภัทร เธอ ..ผู้เปลี่ยนห้องที่มืดมิดให้สว่างไสวได้ด้วยรอยยิ้มเธอ ..ผู้อยู่เบื้องหลังความเข้มแข็งและความสำเร็จทั้งมวล ... และ ...เธอ ... ผู้เป็น "บ้าน" เพียงแห่งเดียวของผม ---------------------------------------------
หรือเพียง "ฝัน" ที่หาญท้าชะตาฟ้า ?
หรือจะเพียง "ศรัทธา" (ที่)ไร้ความหมาย ?
แม้จะเป็นแค่เพียง "ฝัน" จนวันตาย
แต่ผู้ชายคนนี้จะอยู่ข้างเธอ ... ตลอดไป ...
แด่ ... ลูกที่กล้าฝันของพ่อ
ข้างบนนี่เหมือนผมเลยครับ อิอิ
ยังไงก้อสู้ๆนะครับ