Love to Eat , Drink , Travel
บล็อกนี้เน้นเขียนรีวิวร้านอาหารเท่านั้น
|| อยากชวนเราไปรีวิว เมล์มาที่ skylab.bkk@gmail.com
|
|||
รีวิวร้านบ้านสุขสวัสดิ์ พระประแดง อร่อยกับปลาหลากหลายชนิดในราคาเซฟๆ
⁞ ชื่อร้าน : บ้านสุขสวัสดิ์ ปลาแม่น้ำ พระประแดง
รายการอาหาร : ปลาแม่น้ำหลากหลายชนิด ปลาคัง ปลาช่อน ปลากะพง ปลาม้า ปลาเค้า เวลาเปิดบริการ : 11.00 - 22.30 น. ทุกวัน ที่ตั้งร้าน : ริมถนนสุขสวัสดิ์ ก่อนทางขึ้นสะพานภูมิพล ต.บางพึ่ง อ.พระประแดง สุมุทรปราการ, สมุทรปราการ Thailand พิกัด GPS : 13° 39' 53.58" N 100° 31' 5.38" E --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- วันนี้มารีวิวร้านอาหารย่านพระประแดง สักร้านนึง เป็นบรรยากาศสไตล์บ้านสวน ดูร่มรื่นๆสบายๆ "ร้านบ้านสุขสวัสดิ์ ปลาแม่น้ำ" ริมถนนสุขสวัสดิ์ ร้านนี้เน้นอาหารเมนูปลาหลากหลายครับ ส่วนใหญ่เป็นปลาแม่น้ำ หรือปลาน้ำจืด มีปลาหลากหลายมากๆครับ และปลาที่นี้ค่อนข้างสดมากด้วย ตัวร้านเป็นเหมือนบ้านครับ แล้วมาปรับเป็นร้านอาหารสไตล์บ้านสวน จริงๆพื้นที่ตำแหน่งร้านนี้เป็นร้านเดิมของ ร้านต้มตำ หากใครคุ้นชื่อเก่า ก็ให้รู้ไว้ว่าตอนนี้เปลี่ยนเจ้าของใหม่แล้ว มาเป็นร้านบ้านสุขสวัสดิ์แทน พิกัดที่ตั้ง จะอยู่ริมถนนสุขสวัสดิ์ จากกิโล9 มุ่งหน้าไปสามแยกพระประแดง แต่ให้เลี้ยวซ้ายทางที่จะไปสะพานภูมิพล แต่ร้านบ้านสุขสวัสดิ์ เนี้ยพอเลี้ยวซ้ายมาแล้วก็ขับรถชะลอๆได้เลย เพราะร้านจะตรงมาแค่ 100 เมตรก็ถึงร้านนี้แล้ว (และที่จอดรถของร้านจะถึงก่อนตัวร้านนิดนึงนะครับ ใครมาครั้งแรกให้ขับชะลอๆไว้หน่อย ไม่งั้นได้ขับเลยกันแน่ๆ) ถ้านั่งรถเมล์ก็มีผ่านหลายสายครับเช่น สาย82, สาย20,สายปอ.138,สาย195 (ก็อปรูปแผนที่บ้านสุขสวัสดิ์ มาจากเฟสบุ๊คร้านครับ) ร้านแบ่งโซนเป็น Indoor กับ Outdoor ครับ อย่างตรงนี้เป็น Outdoor โต๊ะอาหารเป็นไม้ ภายใต้ร่มเงาของต้นไม้หลากหลาย บรรยากาศช่วงเย็นๆค่ำๆ ตรงนี้ชิลล์ดีครับ ส่วนพื้นที่ของตัวบ้าน ก็จะเป็นโซน Indoor ห้องแอร์ เหมาะสำหรับมาทานช่วงกลางวันครับเพราะอากาศภายนอกร้อนๆ มานั่งทานในห้องแอร์น่าจะดีกว่า โซน Indoor ก็มีโต๊ะอยู่ไม่มากนัก ประมาณ 5-6 ตัว และก็มีห้องคาราโอเกะ ภายในบ้านอีก 1 ห้องด้วย ส่วนตรงนี้เป็นห้องจัดเลี้ยง ที่อยู่โซน Outdoor เป็นห้องแอร์มีกระจกปิด เหมือนจะเป็นห้องร้องคาราโอเกะด้วยนะ อย่างที่บอก ร้านบ้านสุขสวัสดิ์ เน้นปลาแม่น้ำ มีปลาหลากหลายชนิดมากๆ ทั้งปลาบึก ปลาคัง ปลาเค้า ปลากด ปลาแค้ ปลาม้า ปลากราย ปลาช่อน ปลาแรด โอ้ยเยอะแยะไปหมด มาดูเมนูกันครับ เมนูแบ่งหมวดหมู่ทั้งชนิดของการปรุงอาหาร และแยกเป็นประเภทของปลาต่างๆ >อาหารแนะนำครับ มีแยะอยู่เชียว >เมนูจากกุ้ง และปลาหมึก >เมนูจากปลาดุกและปลากระพง และยังมีอีกหลายหน้านะครับ พอดีถ่ายมาแค่นี้พอ จริงๆเมนูแบ่งตามประเภทปลาชนิดต่างๆ มีหลากหลายมากทีเดียว มาดูอาหารกันดีกว่า จัดมาหลายอย่างเลยวันนี้ "ต้มยำปลาม้าน้ำใส" 200 บาท เป็นต้มยำรสแซ่บๆ ใส่ขิง ข่า ตะไคร้มาเยอะเหมือนกัน "ปลาเค้าทอดขมิ้น" จานนี้อร่อยครับ เป็นปลาเค้าหั่นตามขวางเป็นชิ้นๆ เอามาทอดกรอบทั้งชิ้น คลุกขมิ้น รสชาติอร่อยกำลังดี ไม่เผ็ดมากนัก [230 บาท] "แกงส้มชะอมกุ้ง" น้ำแกงส้มเข้มข้มกำลังดี ไม่เปรี้ยว ไม่เค็มไปนัก ใส่กุ้งและชะอมไข่มา ทานกับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยทีเดียว [150บาท] มากันต่อที่ "ปลากะพงทอดน้ำปลา" ปลาไซต์กลางๆครับ ไม่ใหญ่ ไม่เล็กเกินไป เสิร์ฟพร้อมน้ำยำ กินได้เรื่อยๆยาวๆ ในราคา 260 บาท "ห่อหมกหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์" [180บาท] จัดจานมาสวยทีเดียว น้องหอยแอบซ่อนตัวอยู่ใต้พริกแกง แต่เห็นพริกบนฝาหอยแล้วดูมันเยอะไปหน่อย ก่อนกินก็เขี่ยๆพริกออก เอาน้องหอยตัวโตๆมากินกับข้าวสวย อร่อยๆ มาต่อกันที่เมนู "ยำถั่วพลูทรงเครื่อง" จานนี้ใส่เครื่องมาหลากหลายมาก ชอบๆ ทั้งกุ้ง หมึก ไข่ต้ม เป็นอีกเมนูที่ติดใจของร้านนี้ [90บาท] มาต่อกันที่ "ปูนิ่มอบวุ้นเส้น" ปูนิ่มทอดกรอบตัวโต 1 ตัวเต็มๆหั่นเป็น 2 ท่อนซ่อนตัวอยู่ใต้วุ้นเส้นอบ ชอบที่วุ้นเส้นอบนุ่มๆร้อนๆรสซอสผัดเข้าเนื้อกำลังดี [230บาท] "ไก่ทอดสลัดมะนาว" [120] เป็นไก่ทอดกรอบราดด้วยน้ำสลัด ตกแต่งด้านบนด้วยมะนาวฝ่าน มาที่เมนูซิกเนเจอร์ของร้านกันบ้าง "ปลาช่อนสุขสวัสดิ์" [260บาท] เป็นปลาช่อนหั่นเป็นชิ้นเหลี่ยมๆเอาไปทอดกรอบ แล้วราดน้ำยำสมุนไพรหลากหลาย เสิร์ฟพร้อมใบชะพลู จริงๆจานนี้คล้ายเมี่ยงปลาช่อนของร้านอื่นๆละครับ แต่ร้านนี้ชูเรื่องปลาแม่น้ำ เลยเอาเมนูนี้มาจัดเป็นเมนูซิกเนเจอร์ของร้าน มากันที่เมนูที่ไม่เผ็ดกันบ้าง วันนี้เจอเผ็ดๆเยอะไปหน่อย "ไข่ตุ๋นหม้อไฟ" เป็นไข่ตุ๋นที่ใส่เครื่องมาเยอะมากทั้งกุ้ง หมึก ปลา เห็ด เสิร์ฟมาแบบหม้อไฟกันเลย ไข่ตุ๋นร้อนๆกินดับเผ็ดจานอื่นๆได้ดี "ฉู่ฉี่ปลาเนื้ออ่อน" [230บาท] ปลาเนื้ออ่อนนึ่งสุก ราดด้วยน้ำพริกแกงแดงฉู่ฉี่ แน่นอนว่ามันค่อนข้างเผ็ดมากทีเดียว เมนูนี้ผมต้องกินกับข้าวสวยเท่านั้น ไม่งั้นไม่รอดแน่ แต่คอนเฟิร์มว่า ปลาร้านนี้สดจริงๆครับ มาเมนูสุดท้าย "เขียวหวานกุ้งห่อไข่" จานนี้เก๋ดี ร้านเขาทำเขียวหวานแบบแห้งๆแล้วห่อด้วยไข่เจียว ก็แปลกตาไปอีกแบบ [120บาท] ลองเจาะไข่ออก จะเห็นเครื่องแกงเขียวหวานทะลักออกมา ถือเป็นกิมมิคเล็กๆของร้านนี้ ปิดท้ายมื้อด้วย "สละลอยแก้ว" หอม เย็น ชื่นใจ (ราคาลืมจดมา ขออภัยด้วย) ช่วงหัวค่ำประมาณ 1 ทุ่มก็มีนักร้องมาร้องเพลงให้ฟังอีกด้วย ถามเจ้าของร้านดูบอกว่าดนตรีสดมีเฉพาะวันศุกร์-เสาร์ครับ ตอนนี้มีโปรโมชั่นร่วมกับบัตร TrueCard ด้วยครับ ใครมีบัตรหรือใช้บริการของทรูอยู่ ก็ลดไป 10% ถึงเมษายน ปี57 เลย สรุปโดยรวมร้านบ้านสุขสวัสดิ์ - อาหารเน้นปลาแม่น้ำ มีปลาหลากหลายมากๆ - ราคาอาหารร้านนี้ถือว่าค่อนข้างถูกกว่าร้านอื่นๆอยู่เยอะเลยครับ ถ้าเทียบต่อเมนู จะรู้เลยว่าราคาคุ้มค่ามาก - วัถตุดิบสด จากที่ลองกินไปหลายๆเมนู พวกปลา กุ้ง หอย ค่อนข้างสดมากครับ - บรรยากาศร้าน ช่วงเย็นๆโซน Outdoor นั่งกินอาหารฟังเพลงชิลล์ๆ เป็นตัวเลือกที่ดีมากในย่านนี้ครับ - มีห้องคาราโอเกะบริการด้วย 2 ห้อง (ราคาไม่ได้ถามมา ลองโทรไปถามที่ร้านเองนะครับถ้าสนใจ) ข้อมูลเพิ่มเติมลองดูที่เฟสร้านนะครับ รีวิวร้านมังสวิรัติ เชียงใหม่ เจคิทเช่น บายเวียงจุมออน (J Kitchen)
⁞ ชื่อร้าน : เจ คิทเช่น บายเวียงจุมออน (J Kitchen by ViengJoomOn)
รายการอาหาร : อาหารมังสวิรัติ , อาหารเจ เวลาเปิดบริการ : 11.00 - 21.00 (ปิดวันอาทิตย์) ที่ตั้งร้าน : ในโครงการกรีนพลัสมอลล์2 ซอยข้างIndex Livingmall ต.หนองป่าครั่ง อ.เมือง จ.เชียงใหม่, เชียงใหม่ Thailand พิกัด GPS : 18° 47' 48.04" N 99° 1' 26.54" E -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- วันนี้แวะมารีวิวร้านอาหารใหม่ ร้านนึงในตัวเมืองเชียงใหม่ เนื่องจากได้แวะไปลองชิมมาเมื่อต้นเดือนที่แล้ว เป็นร้านอาหารสไตล์มังสวิรัติ /อาหารเจ แบบโมเดิร์นสไตล์ ร้านนี้เป็นร้านในเครือเดียวกับร้านน้ำชาเวียงจุมออน ทีเฮ้าส์อันโด่งดัง (ระดับที่ติด Top10 สถานที่ต้องแวะไปเมื่อคุณคิดจะไปเที่ยวเชียงใหม่เลยนะฮัฟ) ร้านที่มารีวิววันนี้คือ J Kitchen by Vieng Joom On (เจคิทเช่น บายเวียงจุมออน) พิกัดสถานที่ตั้งร้านเจ คิทเช่น อยู่ในโครงการ Green Plus Mall2 ซอยข้างๆ Index Livingmall กับตึกเมืองไทยประกันชีวิตครับ จากถนนซูเปอร์ไฮเวย์ (ที่จะมุ่งหน้าไปลำปาง) เข้ามาในซอยประมาณ 2-300 เมตร ก็จะเจอร้านนี้อยู่ตรงหัวมุมเลยครับ หาไม่ยาก หรือถ้าใครรู้จักศูนย์ดีแทค เชียงใหม่ ร้านนี้ก็อยู่ฝั่งตรงข้าม เยื้องๆกันหน่อยครับ ส่วนที่จอดรถ ก็จอดได้รอบๆร้านเลย เหลือเฟือมาก อันนี้ขอก็อปแผนที่เก๋ๆ มาจากเฟสของร้านครับ //www.facebook.com/jkitchencm แวะดูเมนูแนะนำสักนิด เห็นร้านบอกว่า พวกเมนูแนะนำหน้าร้าน จะสลับไปเรือยๆแทบทุกเดือน เพื่อความไมจำเจ มาสำรวจภายในร้านกัน ร้านนี้ตกแต่งร้านแบบมีคอนเซ็ปต์ที่น่าถ่ายรูปมากๆ เขาบอกว่าแต่งเป็นสไตล์แนวๆอินเดีย ผสม ทิเบต โทนสีของร้านจะเน้นสีเขียวตัดกับสีแดงอิฐ อย่างที่เห็นตรงผนังนั้นแหละ หน้าต่าง 2 บานนี้เปิดไม่ได้นะ แต่เป็นพร็อพกำแพง ที่ดูมีเสน่ห์มากๆ โต๊ะทานเข้าและเก้าอีนั่ง ก็ดูแปลกตาไปจากร้านอาหารทั่วๆไป อีกฝั่งของร้าน ก็จะเห็นเป็นผนังเพ้นต์ลวดลายประมาณนี้ ออกโทนสีเขียวๆ (ลายแบบนี้เรียกว่าอะไรไม่แน่ใจ แต่ดูแปลกตา มีสไตล์ไม่เหมือนใครดีเนอะ) อันนี้เดินขึ้นมาแว็บดูบนชั้น2 ของร้านเหมือนๆ จะเป็น Private Room ได้เลย สำหรับคนชอบความเป็นส่วนตัวหรือจะมาปาร์ตี้กันกลุ่มเล็กๆ ก็ไหวอยู่ อีกมุมหนึ่ง ของชั้น 2 พื้นที่ไม่ใหญ่นัก มีโต๊ะอาหาร 4-5 ตัว มาดูเมนูกันบ้าง มีสองเล่ม เล่มเล็กเป็นเครื่องดื่ม เล่มใหญ่เป็นอาหาร (ผมชอบร้านในเครือเวียงจุมออนจริงๆ เขาใส่ใจในทุกๆรายละเอียด ขนาดเมนูยังพิถีพิถันให้ดูสวยงามเลย) เมนูของร้าน J Kitchen มีหลากหลายมากทีเดียว ส่วนใหญ่เป็นมังสวิรัติแบบไทยๆ แต่ว่าใช้พวกเต้าหู้และเห็ดต่างๆเป็นส่วนประกอบหลัก หน้านี้เป็นเมนูพวกสลัด+ยำยำ และพวกผัดผัด อย่างหนึ่งที่ต้องชมเชยมากๆ เกี่ยวกับเมนูคือ เนื่องจากร้านเขาขายทั้งมังสวิรัติและอาหารเจ ฉะนั้นเมนูไหนมีส่วนประกอบของ ไข่ หรือ นม ผสมอยู่จะมีเป็นรูปไอคอนเล็กๆ กำกับไว้อยู่ทุกเมนู ทำให้คนที่กินเจแบบเคร่งคัด สามารถเลือกได้ง่ายขึ้น หน้านี้เป็นพวกอาหารจานแนะนำ จะเห็นมีไอคอนรูปขวดน้ำมันด้วย ร้านเขาภูมิใจนำเสนอมาก บอกว่าที่นี้ส่วนใหญ่จะใช้น้ำมันเมล็ดชา ในการปรุงอาหาร เขาบอกว่าน้ำมันชนิดนี้มีประโยชน์ต่อร่างกายมาก เพราะมีวิตามินหลากหลาย และมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง ผมก็บอกว่าผมเคยได้ว่าน้ำมันมะกอกนั้นดีต่อสุขภาพ หลายๆร้านอิตาเลียนมักนำมาประกอบอาหาร ทางร้านเขาก็บอกว่าน้ำมันเมล็ดชานี้ ก็มีประโยชน์ไม่ด้อยกว่าน้ำมันมะกอกเลยนะ ผมกลับมาบ้านแล้วมาลองเสิร์ชข้อมูลดู ก็พบว่าจริงด้วย เพิ่งจะรู้จักน้ำมันเมล็ดชา ก็จากร้านนี้แหละ (อ้างอิงจากบทความ รู้ไม๊ว่า น้ำมันจากเมล็ดชาดียังไง) มาเริ่มกันที่เครื่องดื่มกันก่อน แก้วนี้คือ Bake Apple Ice Tea [90 บาท] ชาเย็นรสแอ็ปเปิลสีแดงเข้ม มีเลมอนฝ่านใส่มา รสหวานหอม เปรี้ยวนิดๆ อีกแก้วเป็น Earl Gray GreenTea [90 บาท]สีเหลืองอ่อนๆ เคยทานแต่เอิร์ลเกย์ที่เป็นชาร้อน พอมาลองทานแบบเย็นก็สดชื่นดีเหมือนกัน เอาอาหารทานเล่นมาก่อน จานนี้คือ Popeye Cheese เป็นแผ่นแป้งทอดกรอบด้านในสอดไส้ชีส หอมมากๆ ทานคู่กับซัลซ่าซอสสีแดงๆ [95บาท] ต่อกันที่ "ทอดมันข้าวโพดหวาน" เป็นทอดมันที่ทานเป็นของทานเล่นได้สบายๆ ทานคู่อาจาด อร่อยเบาๆ [105บาท] เมนูนี้ร้านแนะนำมาเป็นเมนูพิเศษช่วงนี้ เลยลองซะหน่อย "เต้าหู้เย็นวากาเมะ" [85บาท] เป็นเมนูที่ฟินเอามากๆ มันคือเต้าหู้นิ่มๆ ที่โป๊ะสาหร่ายวากาเมะเคี้ยวหนุบๆไว้ด้านบน ราดซอสรสเค็มๆหวานๆ ทานพร้อมๆกันมันได้รสสัมผัสในปากที่อร่อยแบบบอกไม่ถูก ความนิ่มของเต้าหู้ผสมความหนุบหนับของวากาเมะ จานนี้ "เกี๋ยมอี๋ลุยสวน" เป็นเมนูผักเยอะอีกเมนู ข้างในมีเส้นเกี๋ยมอี๋ผสมเห็ด ผักกาดหอม ราดน้ำจิ้มลุยสวน [95บาท] มาที่เมนูเส้นๆบ้าง "แองเจิลแฮร์ผัดน้ำมันเมล็ดชา" [140บาท] เป็นเส้น angelhair เล็กๆ ผัดใส่เห็ดและพริกแห้ง ใช้น้ำมันเมล็ดชาในการปรุง จานต่อมาเป็นเมนูแนะนำของร้าน "ข้าวผัดเจคิทเช่น" เป็นสูตรซิกเนเจอร์ชื่อเดียวกันกับร้าน เป็นข้าวผัดใส่เห็ดใส่โปรตีนเกษตรทอดกรุบๆ และถั่วฝักยาวหั่นสั้นๆ ทานคู่กับเม็ดมะม่วงหิมพานต์-มะนาว-พริก[120บาท] "ห่อหมกเห็ดรวม" เป็นเมนูพิเศษช่วงนี้ รสชาติก็เหมือนห่อหมกที่เราเคยกินกันแต่ข้างในใส่เห็ดหลายอย่างมาแทน รสเผ็ดนิดๆ ไม่มากเท่าไร [75บาท] ร้านนี้มีข้าวสวยหอมมะลิ และข้าวกล้อง บริการ เสิร์ฟมาเป็นถ้วยๆ ราคาจะต่างกัน ข้าวสวยหอมมะลิถ้วยละ20 ข้าวกล้องจะ25 แพงกว่านิดนึง มาถึงเมนูที่อร่อยที่สุดในมื้อนี้ของผมก็คือ "เห็ดผัดผงกะหรี่" [95บาท] ดูเผินๆถ้าซื้อไปฝากคนอื่นๆแล้วไม่บอกว่านี้เป็นมังสวิรัติ ทุกคนคงคิดว่าเป็นปูหรือกุ้งผัดผงกะหรี่เป็นแน่ เพราะรสชาติมันใช่เลย เพียงแต่ว่าวัถตุดิบหลักคือเห็ดออรินจิ อร่อยสุดๆ ทานคู่กับข้าวกล้อง นี้สุดยอดเลย ในราคาเพียง 95 บาท มาที่เมนูเส้นๆอีกจาน "สปาเก็ตตี้ผัดต้มยำ" [140บาท] รสเผ็ดแบบต้มยำเลยละครับจานนี้ เห็ดที่ใส่มาคือเห็ดออรินจิ มาที่เมนูอร่อยเป็นอันดับ2 ในมื้อนี้(รองจากผัดผงกะหรี่) ผมยกให้ "ยำตะไคร้เห็ดเข็มทอง" จานนี้เลย ร้านเขาเอาเห็ดเข็มทองไปทอดกรอบๆฟูๆ มาแล้วโรยด้วยพริก-ตะไคร้-แครอท-เม็ดมะม่วง ราดด้วยน้ำยำรสแซ่บกำลังดี แต่จานนี้ต้องรีบทานหน่อย ไม่งั้นเห็ดทอดกรอบจะนิ่มเพราะน้ำยำ ทานตอนยังกรอบๆอยู่อร่อยมาก [150บาท] หลังจากอิ่มอาหารหลักแล้ว เราก็นั่งย่อยกันไปสักพัก ก็ลองมาดูเมนูขนมหวานกันบ้าง ที่เจคิทเช่น ก็จัดเตรียมไว้ไม่น้อยเลยทีเดียวมีทั้งมูสต่างๆ,ไอติมมะพร้าวอ่อน,เค้กก็มี เครื่องดื่มก็มีทั้งชาและกาแฟ (เนื่องจากเป็นร้านในเครือชาเวียงจุมออน ก็เลยมีชาร้อน ชาเย็นมาขายที่นี้ด้วยหลายรส แต่ไม่ครบเหมือนที่ Vieng Joom On) จัดขนมมาอย่างแรก "มูสมะพร้าวอ่อน และมูสลอดช่อง" เสิร์ฟมาแบบเก๋ๆเหมือนขนมจากร้านเวียงจุมออนเลย เป็นของหวานเบาๆ ที่กินได้ไม่หนักท้องเลย หอมกลิ่นกะทิอ่อนๆ ทานคู่กับชาร้อนกำลังดี มูสราคาถ้วยละ 25 บาทเท่ากันทั้ง2 รส อีกอย่างที่สั่งมาคือ "ข้าวเหนียวโอนีมะพร้าวอ่อน" ใส่เผือกกวนชิ้นโตๆมาด้วย น้ำกะทิเข้มข้น กลิ่นหอมมากๆ [65บาท] ทานขนมก็ต้องคู่กับชาร้อนถึงจะเข้ากัน สั่งชา "1001 Arabian Night" ร้านบอกว่าส่วนผสมเป็นชาดำและชาเขียวมาผสมกัน นำเข้ามาจากแถบอาหรับ ราคาชาร้อนกาละ 90 บาท ใครอยู่ในเมืองเชียงใหม่ อยากหาร้านมังสวิรัติ/เจ อาหารอร่อยๆ แนะนำเลยครับร้านนี้ ไม่ผิดหวังจริงๆ แล้วจะรู้ว่าอาหารมังสะ มันมีอะไรมากกว่าที่คุณเคยทานจากร้านอื่นๆ เพราะได้คุยกับเจ้าของร้านช่วงท้ายๆ พี่เขาบอกว่าร้านนี้ประกอบอาหารโดยใช้เห็ดและเต้าหู้ และส่วนประกอบจากธรรมชาติเป็นหลัก ไม่ได้เอาพวก หมูเทียม(เจ) , ไก่เทียม(เจ) ไส้กรอกเทียม(เจ) หรือเนื้อสัตว์(เทียมๆ) มาทำเป็นอาหารเลย เพราะร้านบอกว่า วัตถุดิบพวกนั้นเป็นอาหารที่สังเคราะห์-ปรุงแต่งขึ้นมา ให้ได้สี/กลิ่น/รสคล้ายกับเนื้อสัตว์จริงๆ แม้จะทำจากแป้งก็ตาม ลองดูพวกเมนูอาหารใหม่ๆของร้านเจคิทเช่นได้ที่เฟสร้านนะครับ รีวิวร้านภาดา Pada Restaurant ย่านเลี่ยงเมืองปากเกร็ด นนทบุรี
ชื่อร้าน : ร้านภาดา Pada Restaurant
รายการอาหาร : สเต็ก สปาเก็ตตี้ ข้าวขาหมู ก๋วยเตี๋ยวต้มยำทรงเครื่อง เวลาเปิดบริการ : ทุกวัน 11.00-21.00 น. ที่ตั้งร้าน : ถนนเลี่ยงเมืองปากเกร็ด ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด นนทบุรี, นนทบุรี Thailand พิกัด GPS : 13° 53' 38.21" N 100° 30' 56.97" E ----------------------------------------------------------------------------------------------------------- แวะมาอัพอีกหนึ่งรีวิว ร้านอาหารย่านถนนเลี่ยงเมืองปากเกร็ด นนทบุรี (ช่วงนี้มีสต็อกรีวิวค้างอยู่หลายร้านเลย ไว้ค่อยทะยอยรีวิวกันไป) ร้านที่มาชิมวันนี้คือร้าน Pada Restaurant หรือ ร้านภาดา พิกัดที่ตั้งร้านภาดา นี้จะอยู่ถนนเลี่ยงสามัคคี ปากเกร็ด ร้านอยู่ในโครงการ Good Well Park (เป็นศูนย์รวมร้านอาหารอยู่หลายๆร้านรวมกัน) หรือถ้าใครรู้จักร้านนุติ สเต็ก สาขาเลี่ยงเมืองสามัคคี ร้านนี้จะอยู่ฝังตรงข้ามกันเลยครับ การเดินทาง จากถนนแจ้งวัฒนะ จากหน้าห้างเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ มุ่งหน้าไปปากเกร็ด พอมาถึงแยก Homepro ให้เลี้ยวซ้ายแล้ววิ่งมาตามทางเรื่อยๆสัก 1.5 KM. จะเจอโครงการ Good Well Park อยู่ฝั่งขวามือต้องขับต่อเพื่อไปกลับรถมาที่ร้าน มาถึงจะเห็นโครงการกู้ดเวลล์พาร์ค ก็ขับรถเข้าไปได้เลย โครงการนี้เพิ่งจะมีปี 2556 นี้เองครับ รวมร้านอาหารหลากหลายประเภทอยู่เหมือนกันทั้งร้านส้มตำ ร้านซีฟู้ด ร้านกาแฟ เสริมสวย บลาบลาๆ ร้านภาดา ที่จะมารีวิวอยู่จะอยู่หัวมุมด้านหน้าโครงการเลยครับ มาถึงร้านช่วงบ่ายๆครับ อากาศยังร้อนไปหน่อย แต่คิดว่าช่วงเย็นๆ บรรยากาศน่านั่งชิลล์ พอสมควรเลย ร้านตกแต่งน่ารักดี ธีมร้านสีเขียวๆ ตามผนังจะมีของตกแต่งเกี่ยวกับทะเลๆ ประมาณนี้ ภายในร้านภาดา ตกแต่งง่ายๆ แต่ดูมีคอนเซ็ป เหมือนสวนดอกไม้นิดๆ มาดูที่อาหารกันบ้างดีกว่า เมนูนี้ "ก๋วยเตี๋ยวต้มยำทรงเครื่อง" เห็นร้านแนะนำว่าเป็นเมนูเด็ด ใครมาก็สั่งมาลอง เลยขอจัดสักชามนึง เป็นก๋วยเตี๋ยวที่ใส่มาหลายอย่างมาก มีทั้งกุ้ง หอย หมึก และหมูนุ่ม ทำเป็นแผ่นๆใหญ่ๆอยู่ตรงกลางชาม ชามนี้ราคา 65 บาท อร่อยทีเดียว ส่วนไข่มะตูม นั้นขอเพิ่มตั้งหากอีก 10 บาท เยิ้มๆกำลังดีเลย ต่อกันที่ "สปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศ" สีแดงได้ใจจริงๆ สปาเก็ตตี้นุ่มๆ ราดมาด้วยซอสมะเขือเทศผสมหมูสับมา ในราคา 50 บาท จานนี้ผมค่อนข้างเฉยๆหน่อย ชิมไปนิดเดียวเอง ต่อด้วย "ข้าวหมูผัดพริกไทดำ" อันนี้ถูกใจมากๆ เพราะปกติเป็นคนชอบอะไรแนวนี้อยู่แล้วด้วย หอมกลิ่นพริกไทดำ ผัดแล้วรสชาติเข้าเนื้อได้กำลังดี รสชาติร้อนแรงถูกใจคนชอบกินอะไรเผ็ดๆ [50 บาท] มาที่สเต็กกันบ้าง จานนี้คือ "สเต็กไก่สไปซี่" [75 บาท] ไก่ชิ้นกำลังเหมาะ หมักเครื่องเทศเข้าเนื้อกำลังดี เสิร์ฟพร้อมเฟรนฟรายด์และผักสลัดอีกนิดหน่อย ความเผ็ดของตัวสเต็กไก่ ผมถือว่ากำลังดีเลย ไม่เผ็ดมากเกินไป และได้กลิ่นเครื่องเทศหอมๆอีกด้วย สเต็กอีกจานที่สั่งมาคือ "สเต็กเนื้อเซอร์ลอยด์" กับราคา 145 บาท กริลล์มาสุกกำลังดี เนื้อนุ่มใช้ได้ ราดน้ำเกรวี่ แต่ของร้านนี้น้ำไม่ข้นเท่าไรนัก ส่วนตัวผมชอบสเต็กแบบที่ราดน้ำซอสเกรวี่แบบข้นๆ หรือจะเป็นพวกซอสเห็ดอะไรประมาณนั้นจะอร่อยกว่า จานนี้น้องสั่งมาเพิ่ม "ข้าวขาหมู" เห็นเขียนแนะนำหน้าร้าน เลยลองดูว่าอร่อยไหม ร้านนี้จัดเต็มพอสมควร ทั้งเนื้อ-หนัง ผักข้างเคียง ในราคา 45 บาท รสออกเค็ม ไม่เข้มข้นมากเกินไปนัก เนื้อหมูนุ่มละลายบนลิ้น ฟินทีเดียว ใครอยู่ย่านปากเกร็ด นนทบุรี ลองแวะไปดูครับ ช่วงเย็นๆบรรยากาศน่าจะดี สั่งเบียร์มาจิบคงเพลินชะมัด ร้านภาดา มีเฟสบุ๊คด้วยครับ ลองดูที่ รีวิวมิยาบิ บุฟเฟ่ต์ สาขาเซ็นทรัล พระราม 3 ร้านเนื้อย่างจัดเต็ม
ชื่อร้าน : Miyabi Grill (Central Rama3)
รายการอาหาร : ร้านเนื้อย่างบุฟเฟ่ต์ หมู เนื้อ ซีฟู็ด ซูชิ เทมปุระ เนื้อโกเบ เวลาเปิดบริการ : เปิดทุกวัน 10.30 - 21.30 น. ที่ตั้งร้าน : Central พระราม3 ชั้น6 โซนร้านอาหาร, กรุงเทพมหานคร ยานนาวา Thailand พิกัด GPS : 13° 41' 52.97" N 100° 32' 17.00" E --------------------------------------------------------------------------------------------------------- ห่างหายไปนานกับการรีวิวร้านเนื้อย่างบุฟเฟ่ต์ วันนี้ได้โอกาศเหมาะแวะมาแถวๆพระราม3 เลยขอมารีวิวร้านบุฟฟ่ต์ Miyabi Grill สาขาเซ็นทรัล พระราม 3 ซะหน่อย เดินผ่านหลายรอบแล้วเห็นอาหารใหม่ๆมาเยอะเลย ยังไม่ได้ลองซะที Miyabi นั้นตอนนี้แบ่งได้เป็น 2 ประเภทนะครับ คือ 1. ร้าน Miyabi Grill เป็นบุฟเฟ่ต์ที่เราสั่งอาหารผ่านใบลิสต์เมนูอาหารและจะมีพนักงานถือมาเสิร์ฟที่โต๊ะ ส่วนใหญ่จะมีสาขาอยู่ในกรุงเทพ ตามห้างเซ็นทรัล เดอะมอลล์ ซีคอนสแควร์ เป็นส่วนใหญ่ เป็นรูปแบบเดิมตั้งแต่สาขาแรกๆแล้ว ระยะเวลาทานได้ 1.30 ชั่วโมง ดูรายละเอียดสาขา Miyabi Grill ได้ที่ลิงค์ https://www.facebook.com/MiyabiGrill/app_151703594899262 2. ร้าน Miyabi Kaiten เป็นบุฟเฟ่ต์สายพาน อยากทานอะไรก็หยิบจากสายพานมาได้เลย ร้านประเภทนี้ราคาจะถูกกว่าแบบแรก แต่เมนูอาหารก็จะน้อยกว่าด้วยเช่นกัน สาขาส่วนใหญ่จะอยู่ชานเมืองหน่อย และก็มีตามต่างจังหวัดอีกหลายสาขา ระยะเวลาทานได้ 1.15 ชั่วโมง ดูรายละเอียดสาขา Miyabi Kaiten ได้ที่ลิงค์นี้ https://www.facebook.com/MiyabiGrill/app_190322544333196 สำหรับมิยาบิ กริลล์สาขาเซ็นทรัล พระราม 3 ร้านอยู่ที่ชั้น 6 โซนร้านอาหาร เวลาเปิดปิด ตามเวลาห้างครับ 10.30 - 21.30 น. ตอนนี้ (ตุลา 56) มีโปรโมชั่นลุ้นไปเที่ยวฮอกไกโด กับน้องเต้ยด้วย บรรยากาศภายในร้านครับ ธีมร้านสีแดง สดใสมาก วอลล์เปเปอร์ เป็นรูปอนิเมะสไตล์ญี่ปุ่น ดูวัยรุ่นดี ร้านมีโต๊ะให้เลือกนั่งได้หลายแบบ ทั้งโต๊ะแบบกลม และแบบเหลี่ยม จะมาเป็นคู่ เป็นกรุ๊ป เป็นก๊วน มากน้อยยังไง ก็รองรับได้อยู่แล้ว เมนูอาหารของร้าน จะเป็นอันใหญ่ๆอย่างงี้แหละครับ มี 2 ด้านให้เลือก ราคาบุฟเฟ่ต์ ปกติคนละ 369 บาท(เนต) ถ้ามีบัตรสมาชิก เหลือ 333 บาท(เนต) **ถ้าสั่งเพิ่มชุดพรี่เมี่ยม จะเพิ่มอีก 99 บาท รวมแล้วเป็น 468 บาท(เนต) ถ้ามีบัตรสมาชิก จะเป็น 422 บาท ส่วนเวลาสั่งอาหาร ร้านมิยาบิ กริลล์จะใช้วิธีการติ๊กลงในใบลิสต์เมนูอาหาร แล้วส่งให้พนักงานเอาไปลงเครื่องสแกนเนอร์ พร้อมกินแล้ว ไม่นานนัก พนักงานก็เอาถ้วยน้ำจิ้มมาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะ ตามจำนวนคน ซ้ายคือ Tartar Sauce ตรงกลางคือน้ำจิ้มเนื้อย่าง ขวามือเป็นซอสเปรี้ยวๆไว้กินกะพวกซีฟู้ด(มั่ง) มากินคร่าวนี้สั่งชุด Premium ด้วยครับ เพราะชอบหลายๆเมนูในนี้ ดังเช่นหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ กุ้งแม่น้ำ แซลมอน ต้มยำซีฟู้ดหม้อไฟ เนื้อแกะนิวซีแลนด์ ปลาหมึกเจาะ ปลาไข่ และอีกหลายอย่าง จริงๆผมว่า เพิ่มอีก 99 บาท ได้ของเยอะขนาดนี้ก็คุ้มมากๆนะครับ ส่วนตัวผมชอบทานแซลมอนกับหอยแมลงภู่มากๆ สั่งมาเบิ้ล2 รอบนี้ก็คุ้มสุดยอดแล้ว หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ มาแบบตัวใหญ่มาก ราดซอสอะไรมาด้วยไม่แน่ใจ แต่ทานตอนปิ้งร้อนๆ อร่อยมากครับ อีก 3 ถาดคือปลาแซลมอน หั่นมาชิ้นใหญพอควร , กุ้งแม่น้ำ และซีฟู้ดต้มยำหม้อไฟ กุ้งแม่น้ำ ตัวใหญ่กำลังดีนะครับ แต่แอบกินยากไปหน่อยนะ ถ้าให้ดี ผมแนะนำว่าน่าจะผ่าหลังกุ้งมาให้หน่อย เวลาปิ้งสุกแล้วจะได้แงะเนื้อกุ้งมากินได้สบายๆหน่อย (ผมเข้าใจว่าน่าจะมีหลายคนที่อยากกินกุ้งแต่ไม่อยากมือเลอะ เพราะต้องแกะเปลือกกุ้งเองอะนะ) ซีฟู้ดต้มยำหม้อไฟ (ข้างในจะมีกุ้ง+ปลา รสเผ็ดแซ่บ) เอาทั้งถาดไปวางบนเตาถ่านได้เลย "หมูโทโร่" เป็นหมูหั่นเป็นลูกเต๋า ชิ้นใหญ่ๆ แต่ส่วนตัวผมว่ามันย่างแล้วค่อนข้างเหนียวไปหน่อย ลงเตากันเลย เซ็ทแรกที่ลงเตาแบบใหม่ๆ ไฟมันแรงมาก และเตายังสะอาดตา ถ่ายรูปมาจะดูดีมาก 555 มาดูอาหารกันต่อ ตอนนี้ถ้าสั่งพวกผักต่างๆ จะเสิร์ฟมาแบบกระเช้าเล็กๆ น่ารักมากทีเดียว ดูไม่ค่อยเกะกะโต๊ะอีกด้วย เห็ดออรินจิ ขาดไม่ได้เลยเวลาทานบุฟเฟ่ต์ กุ้งหมักซอสโคชูจัง เสิร์ฟมาเป็นแก้วไวน์เลย สลับมาสั่งซูชิกันบ้าง อันนี้สั่งไปรอบแรกหลายๆอย่าง เวลาเสิร์ฟมาทีเดียวเป็นคอมโบเซ็ทเลย [ข้าวปั้นหน้ายำสาหร่าย , ข้าวปั้นหน้าสลัดกุ้ง , ข้าวปั้นหน้าแซลมอน , ข้าวปั้นหน้ากุ้ง] [ข้าวปั้นหน้าปูอัดและแคลิฟอร์เนียโรล , ข้าวปั้นหน้าไข่หวานและทาโกะ] [ข้าวปั้นหน้าเนื้อย่างซีอิ้ว, ข้าวปั้นหน้าแซลมอนชีส (หน้านี้ Reccommend เลย) ] สลับกลับมาที่ Side dish อาหารทานเล่นกันบ้าง ตามรูปนี้คือคือ กุ้งเทมปุระ , ในแก้วทรงเตี้ยคือ ชิคุวะไส้ชีส , ในแก้วทรงสูงคือ กุ้งชุบเกร็ดขนมปังทอดกรอบ แก้วหน้าคือ ยำแซลมอน แก้วหลังคือ สลัดปูอัดไข่กุ้ง เนื้อและหมู มาแบบคอมโบเซ็ทอีกแล้ว กินกัน 3 คนนะเนี้ย เต็มโต๊ะเบย แนะนำทริคของการแยกว่าถาดไหนหมู ถาดไหนเนื้อ ของร้าน Miyabi นิดนึง สังเกตุง่ายๆคือ ถาดสีดำ จะเป็นตระกูลเนื้อวัว ถาดสีแดง จะเป็นตระกูลเนื้อหมู เนื้อราดซอสมิยาบิ และเนื้อราดซอสมิโซะ ถาดหน้านี้คือ เนื้อบริสเก็ต เป็นเนื้อแล่บางๆ ปิ้งสุกเร็วมาก อร่อยฟินสุดๆ ถาดถัดไปเป็นเนื้อรวม (บางถาดเราก็จำไม่ค่อยได้แล้วว่ามันคืออัลไล แบบมาเยอะจัด จำไม่ได้ว่าสั่งไรไปบ้าง) ต่อกันด้วยชุด "หมูรวม" ถาดนี้ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็น "หมูราดซอสมิยาบิ" (ถูกเปล่าหว่า จำไม่ค่อยได้) ต่อด้วย "เนื้อแกะนิวซีแลนด์" เมนูนี้อยู่ในเซ็ทอาหารพรีเมี่ยมของร้านนะ และสั่งเนื้อพิเศษมาอีกชุดนึง อันนี้คือ "เนื้อโกเบ Kobe Beef" เขาว่ากันว่าเนื้อโกเบ คือ Queen of Beef ด้วยความอร่อยของเนื้อวัวที่นำเข้าจากญี่ปุ่น เมืองโกเบ เลี้ยงดูอย่างดี ริมภูเขา ประคบประหงมอย่างดี ทำให้เนื้อวัวมีไขมันแทรกในเนื้อเยอะ เวลาย่างก็จะอร่อยฟินสุดๆ สำหรับเนื้อโกเบ นี้เป็นแบบ a la carte ใครอยากกินต้องสั่งแยกมาเท่านั้น ปกติราคา 1200 บาท แต่ช่วงนี้มีโปรลดเหลือ 399 บาท เลยของลองสักครั้ง จัดไป เสิร์ฟมาแบบ Exclusive มากๆ มาบนเขียงไม้ มาพร้อมภู่กันเอาไว้ทาน้ำซอส เพิ่มรสชาติก่อนนำไปลงเตา เอาลงเนื้อโกเบ ลงเตา พร้อมกับเนื้อแกะ เลย อร่อยฟินจริงๆครับ ใครอยากลองเนื้อคุณภาพดีๆ ลองสั่งชิมดูครับ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน ปิดท้ายมื้อนี้ ด้วยไอติมวนิลาถ้วยนี้ (จริงๆของหวาน มีไอติมชาเขียว ผลไม้พวกแตงโม-สัปปะรด และเยลลี่ด้วยนะ) สรุปโดยรวม Miyabi Central Rama3
รีวิวร้านอาหารนั่งชิลล์ Swanlake Cuisine รังสิต ปทุมธานี
ชื่อร้าน : Swanlake Cuisine ครัวสวอนเลค รังสิต
รายการอาหาร : อาหารไทย-ซีฟู้ด ,ทะเลซ่า, ยำสวอนเลค, เมี่ยงปลาช่อนสมุนไพร เวลาเปิดบริการ : เปิดทุกวัน 10.00 - 24.00 น. ที่ตั้งร้าน : ถนนเชียงราก รังสิต ปทุมธานี (ตรงข้ามสนามกีฬาธรรมศาสตร์ รังสิต), ปทุมธานี Thailand พิกัด GPS : 14° 3' 53.12" N 100° 35' 50.86" E ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ วันนี้ขอมารีวิวร้านอาหารสไตล์นั่งชิลล์ สบายๆ บรรยากาศดี ติดริมน้ำ ในย่านรังสิต คลองหลวง ปทุมธานี สักหนนึง ร้านที่มารีวิวนี้คือร้าน ครัวสวอนเลค (Swanlake Cuisine) ด้านหน้าร้านครัวสวอนเลค หรือ Swanlake Cuisine เปิด 10.00 - 24.00 น. พิกัดทำเลที่ตั้งร้านนี้ อยู่ถนนเชียงรากน้อย ฝั่งตรงข้ามกับศูนย์กีฬาธรรมศาสตร์ รังสิต(ที่ตอนนี้เป็นสนามเหย้าของทีมอินทรีเพื่อนตำรวจ ) ร้านนี้จะอยู่ถัดจาก TU Dome เลยครับ สังเกตุไม่ยาก ผมได้มาทานร้านนี้ 2-3 หนแล้วครับ ค่อนข้างติดใจในบรรยากาศมากๆ เพราะร้านนี้มีหลายโซน ทั้งแพริมน้ำ บรรยากาศชิลล์กำลังดี แต่ถ้าอยากนั่งห้องแอร์ก็มีโซนห้อง Knoz เอาไว้รองรับคนขี้ร้อนได้ และก็มีโซนห้องคาราโอเกะ น่าจะมีประมาณ 8-10 ห้องนี้แหละครับ และอีกฝั่งของร้านก็จะเป็นโซนห้องจัดเลี้ยง ที่เป็นฮอลล์อยู่ชั้น 2 ลองไปเดินเซอร์เวย์มาคร่าวๆ กันดีกว่า โซนนี้คือแพริมน้ำ บรรยากาศดูดีมากๆ ถ้าเป็นช่วงกลางวัน อาจจะดูค่อนข้างร้อนไปหน่อย แต่ถ้ามานั่งทานตอนเย็นๆ ตรงนี้ิชิลล์กำลังดีเลยละ ภายในแพริมน้ำครับ นั่งกินอาหารซีฟู้ดนะ บรรยากาศชิลล์ๆ เปิดเพลงเบาๆไปด้วย นี้เพลินเลย อีกโซนของร้านครับ เขาเรียกว่าห้อง Knoz มีโปรโมชั่นกับบัตร Truecard ด้วยครับ ลดค่าอาหาร 10% เงินสด 5% บัตรเครดิต จนถึง 30 พ.ย 56 นี้ เมนูแนะนำของร้านครับ ดูจากรายชื่อ น่าชิมหลายอย่างเลย มาดูอาหารกันบ้าง ดีกว่าครับ ราคาอาหารของที่นี้โอเคนะครับ ไม่แพงเกินไป มากันที่เซ็ทแรก มารวดเดียว 3 จานเลย จานแรกนี้ ร้านแนะนำมา เป็นซิกเนเจอร์ของร้านนี้ "ยำสวอนเลค" จะคล้ายๆยำซีฟู้ด ใส่ของทะเลมาหลายอย่าง ทั้งหมึก กุ้ง หอย ปลา น้ำยำรสเปรี้ยวแซ่บกำลังดี ด้านบนขาวๆ เขาบอกว่าคือฟองไข่ขาว เอามาตีๆปั่นๆ จนได้คล้ายๆโฟมเป็นแผ่นออกมาแบบนี้ แปลกดีเนอะ [150 บาท] ต่อมาคือ "กุ้งชุปแป้งทอด" กินกับน้ำจิ้มบ๊วยเจี่ย รสชาติก็พอได้ครับ ไม่อมน้ำมัน [130 บาท] อีกจานเป็น "ทอดมันปลากราย" 120 บาท อันนี้แหละสุดยอดเลย "ต้มยำทะเลน้ำข้น" มาแบบน้ำข้นจริงๆ ข้างในก็ใส่มาสารพัด ทั้งหอย กุ้ง หมึก ปลา น้ำข้นรสเข้มกลมกล่องกำลังดี หม้อนี้จำราคาไม่ได้จริงๆ ขออภัยด้วยครับ มาดูเมนูปลากันบ้าง "เมี่ยงปลาช่อนทอดสมุนไพร" เป็นปลาช่อนทอดทั้งตัว มาพร้อมใบพลู เครื่องเมี่ยงต่างๆ เวลากิน ก็เอาใบพลูมาห่อกับเนื้อปลา ใส่ถั่ว กุ้งแห้ง หอม กระเทียม ราดน้ำ เหมือนกินเมี่ยงคำ นั้นแหละครับ [250 บาท] ปิดท้ายด้วยเมนูเด็ดอีกอัน "ทะเลซ่า" อธิบายไงดี มันคือหม้อไฟซีฟู้ด ที่จัดเต็มมากๆ มาทั้งปูม้า กุ้งแม่น้ำ ปลา(อะไรไม่แน่ใจ) หมึกชิ้นโตๆ มาพร้อมกับน้ำซุปหม้อไฟ ซึ้งเป็นน้ำซุปพริกไทดำ รสออกเผ็ดร้อน มีเห็ดเข็มทองใส่มาในน้ำซุปด้วย เมนูนี้กินแล้วมันซ่าจริงๆ ใครชอบรสแบบเผ็ดๆ รสพริกไทดำ กินพร้อมอาหารซีฟู้ด น่าจะชอบนะ เมนูนี้ 250 บาท จริงอาหารที่ร้านสวอนเลค นี้มีหลากหลายประเภทนะครับ เน้นไปที่ซีฟู้ด กับอาหารไทย ราคาแต่ละจานนี้ ผมว่าโอเคเลย ราคากลางๆ ไม่แพงไปนัก เทียบกับปริมาณที่ได้และรสชาติ สรุปโดยรวมร้าน Swanlake Cuisine - บรรยากาศร้านดีมาก โดยเฉพาะโซนแพริมน้ำ รองรับคนได้มากเป็นร้อยๆคนเลยแหละ - ทำเลที่ตั้ง อยู่ตรงข้ามสนามกีฬาธรรมศาสตร์ รังสิต สังเกตุได้ง่ายๆ หาไม่ยากนัก - ราคาอาหารของร้าน อยู่ในระดับกลางๆ ไม่ถูก ไม่แพงไป ไม่มีค่าเซอร์วิสชาร์จ - ร้านมีห้องคาราโอเกะด้วยประมาณ 10 ห้องทั้งเล็กและใหญ่ เครื่องเสียงดูดี เฟอร์ดูทันสมัย - ที่จอดรถด้านหน้าร้าน มากพอสมควร เอารถทัวร์มาจอดได้สบายๆ หลายคันเลยแหละ - ยังพอเจอปัญหายุง มากัดบ้าง ร้านน่าจะหาวิธีกำจัดยุงให้หน่อยนะ - พนักงานบางคน ถามแล้วคุยไม่ค่อยรู้เรื่อง (เป็นต่างด้าว) สื่อสารกันลำบากไปหน่อย รายละเอียดเพิ่มเติมไปดูที่เฟสบุ๊คร้านได้ |
New skylab
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?] ชอบกิน ชอบลองอาหารใหม่ๆ ร้านอาหารอร่อยๆ Group Blog All Blog
Friends Blog Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |