Love to Eat , Drink , Travel
บล็อกนี้เน้นเขียนรีวิวร้านอาหารเท่านั้น
|| อยากชวนเราไปรีวิว เมล์มาที่ skylab.bkk@gmail.com
|
|||
Love Eat Bistro ร้านอาหารใต้สไตล์โฮมเมด Central Embassy อร่อยหลักร้อย วิวหลักล้าน ชื่อร้าน : Love Eat Bistro - Central Embassy รายการอาหาร : อาหารใต้ , อาหารไทยสไตล์โฮมเมด , สปาเก็ตตี้ , ขนมหวานไทยๆ เวลาเปิดบริการ : เปิดทุกวัน 11.00 - 22.00 น. ที่ตั้งร้าน : เซ็นทรัลเอ็มบาสซี่ ชั้น5 ถ.เพลินจิต เขตปทุมวัน กรุงเทพ, กรุงเทพมหานคร ปทุมวัน Thailand พิกัด GPS : 13° 44' 38.41" N 100° 32' 49.09" E แวะไปห้างหรูใจกลางเมืองอย่าง Central Embassy ครั้งล่าสุดมา ได้ไปชิมอาหารปักษ์ใต้ สไตล์พังงา ภูเก็ต มาที่ร้าน Love Eat Bistro ชั้น5 เลยอยากรีวิวไว้ให้คนที่ชอบอาหารใต้ หรืออยากลองอาหารใต้ ในบรรยากาศดีๆวิวสวยๆ ให้ไปลองกัน [พิกัด] อยู่ชั้น5 ห้างเซ็นทรัล เอ็มบาสซี่ ชั้นนี้เป็นร้านอาหารทั้งชั้นอยู่แล้ว ร้าน Love Eat Bistro จะอยู่ด้านขวามือ ใกล้ๆลิฟท์ สังเกตุง่ายๆว่าหน้าร้านจะมีร้าน Kyo Roll En อยู่ ถ้ามาโดย BTS ก็ลงสถานีเพลินจิต แล้วเดิมเชื่อมทางเชื่อมมาเข้าห้างได้เลย สะดวกสบายมาก [Decor] สไตล์การตกแต่งของร้านนี้ ออกแนวๆคลาสสิคแบบผสมผสานความเป็นไทย+ฝรั่งสักหน่อย โทนของร้านออกสีเทาๆ ด้านหน้ามีรถกระเช้าดอกไม้ตกแต่งไว้อย่างสะดุดตา ด้านในมีผนังเป็นรูปแพทเทิร์นของดอกไฮเดรนเยีย เป็นธีมหลักของร้าน โต๊ะ-เก้าอี้นั่ง มีหลายแบบให้เลือก มีทั้งเป็นแบบโซฟา เก้าอี้ไม้สไตล์หลุยส์ก็มี แต่ส่วนตัวมองว่า วิวที่เด็ดของร้านนี้ ให้ลองเดินเข้าไปด้านในสุด จะพบผนังกำแพงเพ้นท์รูปเป็นบ้านหลังคาแดง อยู่ในสวนสวย จัดวางโต๊ะทานอาหารและเก้าอี้ได้อย่างลงตัว สวยมากๆ อารมณ์เหมือนนั่งทานอาหารอยู่หน้าบ้านในสวนสวยเลย ..... เห็นมีหลายกรุ๊ป เดินมาแล้วก็เลือกนั่งโต๊ะบริเวณนี้กันเยอะ อีกมุมนึงที่เป็นไฮไลท์ของร้านนี้คือ โต๊ะอาหารบริเวณริมกระจกใส ด้านในสุดของร้าน เพราะว่าสามารถมองเห็นสถานทูตอังกฤษภายใต้ร่มไม้เขียวสะพรั่ง ได้อย่างเต็มตา แบบพาโนรามาเลย (ถ้าใครเคยอ่านข่าวจะรู้ว่า ทางเซ็นทรัลไปประมูลพื้นที่ตรงนี้มาได้ในราคาสูงมากๆ จนกลายเป็นทำเลห้างสรรพสินค้าที่แพงที่สุดในประเทศไปเลย) ทำให้ร้านอาหารที่อยู่โซนติดด้างหลังห้าง จะมองเห็นอาคารของสถานทูตอังกฤษ ได้อย่างเต็มตา เป็นวิวราคาหลักล้านบาทจริงๆ และนี้คือวิวโต๊ะที่เราเลือกนั่ง มันคือวิวหลักล้านจริงๆ เพราะมองเห็นสถานทูตอังกฤษ ภายใต้ร่มไม้เขียวๆได้อย่างเต็มตา มองไกลออกไปจะเป็นโรงแรมปาร์คนายเลิศ(เดิม) [Food] เข้ามาดูอาหารกันดีกว่า ร้านนี้ต้องบอกว่าอาหารหลักๆจะเน้นอาหารไทยปักษ์ใต้ สไตล์โฮมเมด รสชาติเผ็ดแบบใต้ๆไปเลย [อ่านจากประวัติในเล่มเมนู] บอกว่า เจ้าของร้าน มีคุณแม่(เพลิน บุญสูง) ที่เป็นคนตะกั่วป่า จ.พังงา และเป็นผู้ที่มีคนให้ความเคารพนับถือกันมากในเรื่องฝีมือการทำอาหารแบบใต้แท้ๆมีสูตรลับเฉพาะตัว เป็นที่รู้จักและมีคนให้ความนับถือของคนจังหวัดพังงา โดยเมนูอาหารส่วนใหญ่ของร้านเน้นอาหารใต้เป็นหลัก แต่ก็มีออฟชั่นของอาหารไทยภาคกลาง หรืออาหารฝรั่งผสมมาในเมนูด้วยเช่นกัน มาคร่าวนี้กรุ๊ปเราได้ลองสั่งอาหารมาหลากหลายเมนูมาลองกัน ขอไล่ไปที่ละเมนูๆดังนี้ {ทอดมันปลากราย 235บาท} เป็นทอดมันสไตล์ใต้ๆแท้ๆเลย ลูกกลมๆแต่ด้านในใช้เครื่องแกงแบบชาวใต้เข้มข้น ทานคู่กับน้ำจิ้มอาจาด {ต้มยำกุ้ง 245บาท} เป็นแบบน้ำข้น ใช้กุ้งแชบ๊วย ขนาดกุ้งใหญ่กำลังดี ใส่เครื่องต้มยำจัดเต็มกันมากๆ เสิร์ฟมาในหม้อไฟทองเหลือง {คั่วกลิ้งคอหมู 255บาท} มากินอาหารใต้ เมนูนี้คงเป็นเมนูแรกๆที่นึกอยากสั่งมาลอง ของที่ร้านเลิฟอีท ผัดคั่วกลิ้งได้รสชาติเข้าถึงเนื้อในมากๆ ทานกับข้าวสวยร้อนๆ เป็นอะไรที่สุดยอด {แหนมคลุกข้าวทอด 235บาท} จานนี้ชอบสีสันตอนเสิร์ฟมาก มันดูมีสีเขียวจากผัก สีแดงจากพริก สีส้มจากข้าวทอด ผสมคลุกเคล้าดูน่ากินสุดๆ {เขียวหวานเนื้อตุ๋น 285บาท} ยอมใจให้กับเครื่องพริกแกง ของร้านนี้เลย คือจากที่ลองมาทั้งพริกแกงแดง และพริกแกงเขียว มันเป็นรสชาติที่คนภาคกลางอย่างผมหากินยากจริงๆ รสมือแบบนี้ ได้สอบถามไปทางเชฟ ถึงทราบว่า ทางร้านนั้นตำพริกแกงเองทุกเมนู และเป็นพริกที่ต้องส่งมาจากทางพังงา ต้นกำเนิดของร้านนี้ด้วย ไม่งั้นรสชาติและความอร่อยของพริกแกง มันจะไม่อร่อยตามสูตรของร้าน ส่วนตัวเนื้อตุ๋นนั้นตุ๋นได้นุ่มมาก (คาดว่าน่าจะตุ๋นเตรียมไว้หลายชั่วโมงอยู่เหมือนกัน) {แกงปู สูตรบ้านพังงา 495บาท} **Recommended ให้กับเมนูนี้เลยครับ ใครมาร้านนี้ต้องสั่ง ไม่งั้นถือว่าพลาดจริงๆ คือแกงปูนี้เข้มข้นและอร่อยมาก และเนื้อปูนี้คือเป็นเนื้อก้อนๆ ช้อนตักขึ้นมาเป็นชิ้นๆเลย ทานคู่กับเส้นหมี่และสัปปะรด เป็นอะไรที่เข้ากันมาก แต่รสชาติก็ซี้ดปากมากพอสมควร จะถ่ายมาให้ดูว่าเนื้อปูเป็นก้อนจริงๆ แต่ดั๊น กล้องดันไปโฟกัสที่พริกข้างล่าง แทนจะโฟกัสที่ช้อน เพิ่งมาเห็นที่หลัง เซ็งเลยอะ Reccommend เลยเมนูนี้โดนๆมากๆ {ปอเปี๊ยะทอดภูเก็ต 195บาท} เป็นเมนูอร่อย ที่มาดับความเผ็ดของเมนูอื่นๆได้ดีทีเดียว ทานคู่กับน้ำจิ้มแดงๆและสัปปะรด กลายเป็นรสสัมผัสที่เข้ากันอย่างลงตัวที่สุด {ปูนิ่มผัดผงกะหรี่ 295บาท} ร้านใช้ปูนิ่มทั้งตัว หั่นแยกออกมาเป็นส่วนๆ ผัดคลุกเคล้ากับผงกะหรี่ดูนุ่มๆนัวๆ ได้ความมัน ที่ลงตัว {ผัด3เหม็น 295บาท} 3ส่วนผสมที่มีกลิ่นแรงสุดๆ เมื่อมารวมตัวกันย่อมอร่อยและกลิ่นแรงที่เดียวละ [สะตอ+ชะอม+กระเทียมโทน] ผัดกับวุ้นเส้น โดยมีกุ้งแชบ๊วยตัวใหญ่ วางท็อปปิ้งมาด้านบน เพิ่มความฟิน {สปาเก็ตตี้ไส้อั่ว 295บาท} เมนูออกแนวฟิวชั่นๆจานนี้ สีสันดูน่ากินมากๆ (แต่รสชาติก็เผ็ดสุดๆเช่นกัน) เป็นเส้นสปาเก็ตตี้ใส่ไส้อั่วหั่น พร้อมมะกอกดำและมะเขือเทศราชินี {คาเปลลินี่เนื้อปู 285บาท } เส้นคาเปลลินี่ผัดมาพร้อมกับเนื้อปูแกะแล้ว ผัดคลุกเคล้ามากับพริกแห้งและกระเทียม {สปาเก็ตตี้ต้มยำกุ้ง 395} เมนูฟิวชั่นไทยฝรั่งจานนี้เป็นเส้นสปาเก็ตตี้ผัดมาพร้อมกับเครื่องต้มยำกุ้งแบบน้ำขลุกขลิกหน่อย โดยมีกุ้งแม่น้ำตัวใหญ่ เป็นพระเอกมาอีก 1ตัว [Desserts] หลังจบคาว กันไปแล้ว กินเผ็ดๆมาเยอะ ก็ต้องดับคาวด้วยของหวานกันสิเนอะ จัดไป 3 เมนูดังนี้ {เต้าทึงหิมะนมสดใส่แปะก๊วยถั่วแดง 175บาท} เต้าทึงที่ใส่นมสดเอาไปทำให้แข็งแล้วสไลด์มาเป็นเกล็ดหิมะ มาพร้อมเฉาก๊วย ถั่วแดง และแปะก๊วย ก่อนทานราดซอสหวานอีกนิดนึง อร่อยเข้ากัน {ใบเตยลาวา 215 บาท } ไปกินชาเขียวลาวามาหลายร้านแล้ว พอมาได้ลองใบเตยลาวา ร้านนี้กลับชอบซะมากกว่า ความนุ่มของเนื้อแป้งเค้กที่อบมาร้อนกำลังดี ส่วนใส้ใบเตยที่หอมหวานมัน ยิ่งทานคู่กับไอติม วนิลลาที่เสิร์ฟมาพร้อมกัน เป็นการจับคู่ที่ลงตัวมากๆ {กล้วยเชื่อมไอศกรีมมะพร้าวเผา คาราเมลน้ำตาลโตนด 185} เมนูชื่อยาวขนาดนี้ แต่ขอบอกเลย ห้ามพลาด ให้เป็น * Reccommend* อีกเมนูที่ต้องมาลอง กินไอติมกะทิมาก็มากแล้ว แต่พอมากินไอติมมะพร้าวเผาของร้านนี้ จะแทบลืมไอติมกะทิที่เลยกินมาก่อนไปหมดเลย ยิ่งราดท็อปปิ้งด้วยซอสน้ำตาลโตนด หอมมัน ทานคู่กับกล้วยเชื่อมราดหัวกะทิอย่างดี กลับพบว่าทำไมไอ้2อย่างนี้ เวลามันทานคู่กันแล้วอร่อยอย่างงี้(ฟะ) ยกให้เป็นขนมหวานอร่อยสุดในมื้อนี้เลย [Drinks] {ชาลิ้นจี่ 135บาท} ชาหอมๆ กลิ่นลิ้นจี่ ใส่ลูกลิ้นจี่สดมาด้วย ชื่นใจ {Italian Soda Peach 135บาท} อิตาเลี่ยนโซดารสพีช ซ่าๆ เพิ่มความสดชื่น {Sweet Melon 185บาท} สีสันสดใส และดูโดดเด่นมาก น่าจะเป็นการคั่นน้ำแตงโมออกมา แล้วปรุงรสเพิ่มอีกนิดหน่อย มีความหวานซ่อนเปรี้ยวอยู่นิดๆ ปากขวดเป็นเกลือเคลือบอยู่ ดื่มน้ำหมดแล้วก็หยิบชิ้นแตงโมมาทานเล่นต่อได้อีก เมนูนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากๆทั้งวิธีการเสิร์ฟและรสชาติรวมถึงเนื้อสัมผัส โดนใจครับ บอกเลย ใครสนใจอยากหาร้านอาหารใต้ บรรยากาศดี วิวสวยๆ ลองหาโอกาสมื้อพิเศษ แวะไปทานที่ร้าน Love Eat Bistro ที่สาขาเซ็นทรัล เอ็มบาสซี่กันดูครับ นอกจากที่สาขานี้แล้ว ทราบมาว่ามีอีกสาขานึง อยู่แถวๆBTSสนามเป้า ด้วย อยู่ในซอยพหลโยธิน3 ชั้น1ของโรงแรม Vic3Bangkok Hotel (มาทราบตอนหลังว่า สาขาที่พหลโยธินเปิดมาก่อนเป็นสาขาแรก ก่อนจะมาเปิดสาขา 2 ที่ห้างเอ็มบาสซี่) ถ้าอยากได้แบบบรรยากาศสวยคลาสสิค โรแมนติกหน่อย แนะนำที่นี้เลย พาแฟนไปเดทกัน ก็จะได้ความสวีทแน่นอน , หรือจะทานข้าวกับคนในครอบครัว ก็แฮปปี้แน่นอน สนใจอยากดูโปรโมชั่นและติดตามร้านได้ที่ เฟสบุ๊คเพจดังนี้ Love Eat Bistro เปิดทุกวัน 11.00 - 22.00 น. ชั้น 5 Central Embassy โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 2 พฤศจิกายน 2560 เวลา:14:13:00 น.
|
New skylab
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?] ชอบกิน ชอบลองอาหารใหม่ๆ ร้านอาหารอร่อยๆ Group Blog All Blog
Friends Blog Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |