images by free.in.th images by free.in.th
Group Blog
 
All blogs
 
โรคใจ ก็ต้องแก้ที่ใจ ..

ตั้งแต่เริ่มลงมือปฏิบัติการ slow down ฉันรู้สึกว่าตัวเองนิ่งขึ้นอย่างมาก
ตัวอย่างที่เห็นเป็นรูปธรรมที่สุด คือ การไม่ใจร้อน ไม่ร้อนรน
กับสิ่งต่างๆรอบตัว ทีเคยแรง-ก็ลดลง ที่เคยร้อน-ก็เย็นลง

อารมณ์ร้อนยังมีนะคะ ใช่ว่าจะลดได้โดยไม่เหลือหรือไม่มีให้เห็นเลย
เพียงแต่เมื่อบอกตัวเองให้ผ่อนทุกอย่างลง มันก็ทำให้เรา 'นิ่ง' ขึ้น
เมื่อนิ่งขึ้น ก็ไม่มีอะไรไปรบกวนให้ใจขุ่น

การที่เราย้ำกับตัวเองเสมอว่าให้ช้าลง บอกอย่างนี้ซ้ำๆ มันก็จะกลายเป็น automatic ไปโดยปริยาย

นี่คือสิ่งที่เห็น สัมผัสได้อย่างเป็นรูปธรรมใจที่ไม่ขุ่น ใจที่ใสสะอาด ทำให้เราเป็นสุข เมื่อใจเป็นสุข มันก็ไม่อยากจะเอาใจไปวางในที่ที่ไม่ดี หรือในที่ที่ทำให้เราขุ่นมัว

ใจ-- สำคัญจริงค่ะ จะเป็นอะไร อย่างไร ใจ--นี่แหละตัวดี

ต้องบอกว่า ฉันไม่ใช่คนใกล้วัด ที่พูดตามข้างบน เป็นความรู้สึกของฉันที่คิดเองเออเอง ไม่มีครูบาอาจารย์สอน เพราะฉันไม่ได้ไปเรียนที่ไหน ไม่เคยผ่านการนั่งสมาธิ วิปัสสนา ที่ใดๆ ทั้งอยากทำจะตาย-
แต่ไม่เคยได้กรายใกล้ เพราะใจไม่กล้าพอ

สิ่งที่ฉันทำและคิดตามอย่างข้างบน มาจากการอ่านหนังสือ และพูดคุยกับคนที่เขา 'คิดดี ทำดี' ซึ่งเป็นกัลยาณมิตรกันเท่านั้น และเพราะตัวเองนี่แหละค่ะ ที่คิดได้ว่า หากไม่ลงมือปฏิบัติหรือทำอะไรสักอย่างกับ 'ใจ' ตัวเอง ตัวเองก็จะผ่านมันไม่ได้

แม้จะทำอย่างงูๆปลาๆ ก็ควรต้องทำ เพราะตัวเราเท่านั้นที่จะรู้ว่าเราอยู่ในภาวะอย่างไร เรา 'ไหว' ไหม

ฉันบอกว่าตัวเองนั้นยังเป็นมือใหม่หัด slow ฉันก็หมายความตามนั้นจริงๆ คือยังเรียนรู้ที่จะหัดช้า กับทุกเรื่องและทุกรายละเอียดของการใช้ชีวิต ฉันคิดว่าชีวิตไม่ใช่เรื่องหยาบๆหรือเราสักจะไปทำอะไรอย่างไรก็ได้นะคะ แต่ชีวิตของเราเราก็ควรใช้ให้เป็น และใช้ให้ได้อย่างดี

และเพราะตัวเองก็ไม่เคยสนใจที่จะหันมาดูแล 'ข้างใน' จิตใจตัวเองอย่างจริงจังเสียที แต่ยามนี้มันคงถึงเวลาแล้ว เสียงข้างในมันบอกให้เราต้อง 'เปลี่ยน' แล้วนะคะ เปลี่ยนทั้งวิธีคิดและการลงมือทำ

เล่าเรื่องค่อยๆหัด slow ก็ทำให้ได้มองกลับหลังไปที่ชีวิตเดิมๆ

ฉันป่วยบ่อย และบางครั้งโรคที่ป่วยก็เป็นผลมาจาก effect ทางใจ ชนิดที่หมอหาสาเหตุไม่ได้ วันสองวันก่อน คนข้างๆเล่าให้ฟังว่าได้อ่านกระทู้ของผู้หญิงคนหนึ่งในเว็บ lesla ระบายว่าเครียด กดดัน ไม่อยากมีชีวิตอยู่ ในกระทู้เล่าเรื่องที่เจ้าตัวป่วยด้วยโรคชนิดหนึ่ง
ชื่อ Fibro mayalgil ( อาจารย์สาทิส อินทรกำแหง เขียนไว้ในเว็บไซท์ชีวจิต ว่ามันก็คือ muscle pain )

ฉันฟังแล้วถึงกับอุทานว่า ตายแล้ว-นี่มันโรคเดียวกับฉันเลยนะ ฉันเคยเป็นโรคนี้ และตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่ อาการของมันคือจะปวดตามข้อ เป็นๆหายๆ ปวดน่ารำคาญ ปวดๆๆๆ เดี๋ยวปวดข้อศอก เดี๋ยวปวดหัวเข่า เดี๋ยวปวดข้อเท้า สรุป มันจะปวดตามข้อ จนคิดว่าตัวเองเป็นโรคข้อ

มองย้อนกลับไปทุกครั้งที่เป็นโรคนี้ฉันจะหายด้วยการกินยาคลายเครียด เพราะหมอหาสาเหตุอะไรไมได้สักอย่าง ว่านี่คืออาการของโรคอะไรกันแน่ เคยมีอยู่ครั้งที่เป็นรุนแรงมาก นานถึงหกเดือน

ฉันเทียวหาหมอที่ รพ.กรุงเทพฯ และหาจิตแพทย์ที่รามาด้วย เพราะตอนนั้นฉันเครียดเรื่องความสัมพันธ์กับแฟนด้วยค่ะ มันหนักหนาเอาการเชียวล่ะ

หมอทางใจก็ให้ยาบำบัด ขณะหมอทางกายก็รักษาไป หมอให้เจาะเลือดแล้วก็เจอว่าเม็ดเลือดแดงผิดปกติ สรุป ฉันซีด โลหิตจาง ( และมารู้ทีหลังว่าเป็นพาหะของธาลัสซีเมียด้วย ) หมอให้กินธาตุเหล็กติดต่อกันสามเดือน ผลการรักษาคือฉันหายปวดข้อ แต่ไม่รู้ว่าหายด้วยยาอะไรกันแน่ ระหว่างยาคลายเครียด กับธาตุเหล็ก ซึ่งฉันสันนิษฐานว่า ไม่น่าจะเป็นอย่างหลัง จากการค้นคว้าข้อมูลในอินเตอร์เน็ตดู ประกอบกับเคยเป็นภาวะนี้มาแล้วขณะเรียนป.ตรี และหายด้วยยาคลายเครียด ( ตอนนั้นคุณหมอรักษาจนปวดหัวไปด้วยเลยค่ะ สุดท้ายคุณหมอบอกว่า รักษาไม่ถูกแล้ว ชักงงว่าเป็นอะไรกันแน่ จะจ่ายยาคลายเครียดให้ทานเพื่อจะได้พัก แล้วปรากฏว่าดันหาย )

นี่มันเป็นอาการลมพัดหวนของโรค ซึ่งฉันไม่รู้จะเรียกมันว่าอะไรนะคะ --ชัดๆเลย ในเมื่อไม่รู้ว่าเป็นภาวะของโรคอะไร ฉันก็สรุปเองว่า มันเป็น effect จากภาวะเครียด ซึ่งมาจาก ใจ ไปกระทบกาย

บิงโก ! ไหมคะ

ใจป่วย กระทบกาย -- แน่แล้วค่ะ

เพราะฉะนั้นอาการของ Fibro Mayalgil นี่ น่าจะเป็นภาวะที่ฉันเคยเป็นอย่างที่บอก ซึ่งต่อให้เป็นแล้วก็กลับมาเป็นอีกได้แน่ๆ หากว่าเราปล่อยให้ตัวเองเครียด และการไปรักษาด้วยหมอทางกาย ก็คงจะทำได้แค่ให้ยา แต่ยาก็เป็นการแก้ที่ปลายเหตุ ซึ่งการกินยาเพียงอย่างเดียวเท่ากับเรารับสารเคมีเข้ามาในร่างกายอีกนั่นแหละ แล้วเราจะรังแกร่างกายเราแบบนี้ไปเรื่อยๆหรือคะ

ระยะหลังนี่ไม่ว่าจะป่วยอะไรหากไม่จำเป็น ฉันจะไม่กินยาเลย หากแต่จะปล่อยให้ร่างกายเยียวยาตัวเอง ถ้าไม่สุดๆ ฉันจะไม่ขอกินยาดีกว่า อะไรปล่อยให้หายได้ก็จะปล่อย ถ้าไม่หายหรือดูไม่ชอบมาพากลแล้วค่อยไปหาหมอ

แม้กระทั่งทุกวันนี้ภาวะ Fibro Mayalgil นี่จะกลับมาอีก แต่ฉันก็ไม่ได้ร้อนไปกับมัน ปล่อยให้มันเป็นแล้วก็หายไปเอง เมื่อปวดก็ไม่ไปจดจ่อกับมัน ปล่อยมันไปน่ะค่ะ

ซึ่งการจะหายถาวรได้ ฉันว่าเราต้องไปจัดการกับมันด้วยวิธีอื่น แน่นอนว่าเมื่อเรา slow แล้ว ใจเราเบาลงแล้ว เราจะมีสติรับมือกับมันได้ ขณะที่ฉันพยายามจะบำบัด 'ใจ' ตัวเอง ด้วยการหาวิธีต่างๆนานา ซึ่งมันจะค่อยๆเป็นรูปธรรมขึ้นมา

บอกกับตัวเองอย่างมั่นคงแล้วว่า จะค่อยๆช้า ดังนั้น เราก็ค่อยๆทำไป
ไม่ต้องรีบ เรารู้แล้วว่ามันเป็นโรค 'ใจ' ที่ส่งผลกับร่างกาย เราก็ต้องแก้ที่ใจ

ค่อยๆรักษาใจ แล้วกายก็จะดีเอง -- ลองดูว่าต่อจากนี้จะดีขึ้นไหมค่ะ !


Create Date : 30 พฤษภาคม 2553
Last Update : 30 พฤษภาคม 2553 10:06:53 น. 5 comments
Counter : 1194 Pageviews.

 
คิดถูกที่สุดเลยค่ะ

ใจเป็นสิ่งกำหนดกาย

ถ้าใจเรานิ่ง

ก็จะไม่มีอาการอะไรจากกาย

ค่อย ๆ รักษาใจ แล้วกายจะดีเอง

ชอบค่ะ


โดย: ในความอ่อนไหว วันที่: 30 พฤษภาคม 2553 เวลา:14:14:56 น.  

 


โดย: nuyza_za วันที่: 30 พฤษภาคม 2553 เวลา:15:37:12 น.  

 
ทำใจให้สบายนะคะคุณบี...พักผ่อนหย่อนความไม่สบายใจออกไป...เชื่อว่าเพื่อนนักอ่านทั้งหลายจะส่งกำลังใจให้คุณบีใจชุ่ม ๆ สดชื่น สดชื่น ตลอดไปค่ะ


โดย: zandka-kaew IP: 58.9.71.135 วันที่: 3 กรกฎาคม 2553 เวลา:13:28:57 น.  

 
ฉันไม่เป็นไรค่ะ
ขอบคุณคนอ่านที่ตามมาให้กำลังใจด้วยนะคะ

ฉันยังเขียนหนังสือต่อไปค่ะ
และนิยายที่ยังรอตอนจบ อีกสักสองสามตอนนั้น
ก็จะเขียนให้จบ

ส่วนบล็อกนี้ก็ยัง go on ค่ะ

เรารู้ว่าเราทำอะไร
เรารู้ว่าเราเป็นอะไร
เรารู้ว่าเราสบายใจกับอะไรค่ะ

ขอบคุณบทเรียนนี้ค่ะ


โดย: บี (bewae1001 ) วันที่: 3 กรกฎาคม 2553 เวลา:16:47:06 น.  

 
:)


โดย: ka IP: 58.9.220.248 วันที่: 10 มิถุนายน 2554 เวลา:0:13:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

bewae1001
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




***************
// อย่ารอให้ป่วยก่อนแล้วจึงคิดนะคะ

นวภัทร ( บี )
นักเขียนอิสระ และ ที่ปรึกษาแผนประกันชีวิตและการเงิน
โทรศัพท์มือถือ 089-1459977

ความรู้อื่นๆ :
ผ่านการอบรม basic skilsl in counselling psychology กับอาจารย์พงศ์ปกรณ์ พิชิตฉัตรธนา @ ชมรมจิตวิทยาสมาธิ

ขอฝากเว็บไซต์ของอาจารย์พงศ์ปกรณ์ค่ะ http://www.medihealing.com

EMail ของผู้เขียน : Mybusy2004@yahoo.com
Facebook ของผู้เขียน : Parawee Nasaree

สำนักพิมพ์สะพานจัดพิมพ์นิยายหญิงรักหญิงของฉัน ( ดวงดาวดอกไม้ 2 เล่มจบ และนิยายขนาดสั้น ดอกไม้กับดอกไม้ ( ปกหนังสือด้านบน ) สั่งซื้อได้ที่นี่ค่ะ คลิกเลย!!

จำนวนบล็อก ณ ขณะนี้ 1147 บล็อกค่ะ
เริ่มเขียน 6 กันยายน 2548 บล็อกเก่าๆค้นได้จากกรุ๊ปบล็อกผู้หญิงสีรุ้งปี 53 นะคะ

ยินดีแบ่งปันความรู้และสิ่งที่มีประโยชน์ผ่านข้อเขียนในบล็อกนี้ และหากต้องการนำไปใช้ต่อหรือลงเผยแพร่้ในที่ใดก็ตาม กรุณาแจ้งก่อนนำไปใช้ที่ email ด้านบน ขอบคุณค่ะ





Parawee Nasaree

Create Your Badge

New Comments
Friends' blogs
[Add bewae1001's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.