|
ช้าลงอีกนิด .. ได้อะไรอีกเยอะ
นับตั้งแต่เอาใจฝักใฝ่เรื่องการอยู่ ( และกิน ) แบบ slow slow เลียนแบบหอยทากมาได้พักหนึ่ง แต่เพิ่งจะลงมือทำได้ไม่กี่วัน
ต้องย้ำว่า ฉันไม่มีทฤษฎีอะไร หรือแนวคิดของนักปฏิบัติคนไทนที่ให้ เอบแบบอย่างแบบตายตัวนะคะ ทั้งนี่ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรสำหรับสังคมนี้ มีคนใช้ชีวิต slow life ให้เห็นอยู่เยอะแยะ แต่ที่แน่ๆ คนเหล่านั้นก็ไม่ได้ออกมาประกาศตัวว่าสิ่งที่เขาคิดนั้นเลิศเลอเพอร์เฟ็ค
มันเป็นเพียงแนวปฏิบัติเฉพาะบุคคลจริงๆ แบบที่ใครพอใจจะทำ - ก็ทำ
ไม่ใช่ว่าจู่ๆ ฉันจะลุกขึ้นมาบอกว่า โอ๊ย แบบนี้ดี ให้ลุกขึ้นมาทำเถอะ แต่เรื่องของเรื่องมันก็มีเหตุให้ต้องลุกขึ้นมา พยายามหาวิธีบอกศาลา ชีวิตลกๆ ลนๆ และหันมาทบทวนวิธีคิดตลอดจนลงมือทำให้ได้จริงๆ เพื่อเปลี่ยนแปลง
ฉันคิดว่าชีวิต slow สามารถทำให้เป็นรูปธรรมได้หลายรูปแบบ
ที่แน่ๆ การ slow แบบที่ฉันกำลังทำ ก็คือพยายามจะหาแนวคิด ในการปรับใจ โดยพยายามดึงตัวเองให้กลับมาจดจ่อกับตัวเอง
ฉันคิดว่าการทำอะไรให้เนิบช้าในระหว่างวัน เผื่อจะช่วยให้กายและใจดีขึ้น
เมื่อเริ่มต้น slow ด้วยเหตุผลบางประการว่าด้วยการใช้ชีวิต ซึ่งต้องยอมรับว่าตัวเองเหนื่อยเหลือแสนกับการทำงาน และฉันไม่เป็นมิตรกับไมเกรนที่ชอบมาหาบ่อยๆ ยิ่งในระหว่างนี้ด้วยแล้ว
คุณที่เป็นไมเกรน คงทราบว่ามันไม่น่าสนุก แม้อาการที่ฉันเป็นจะไม่ถึงขั้นร้ายแรง แต่ความน่ารำคาญอันเกิดจากอาการนี้ ก็บั่นทอนการใช้ชีวิตอยู่พอสมควร
ถึงเวลาที่ฉันต้องออกแรงเพื่อดูแลตัวเองบ้างแล้ว และหนึ่งในนั้นก็คือวิธีการที่จะ 'ผ่อนปรน' กับตัวเอง
ทำอะไรให้ช้าลง
..
เมื่อฉันบอกตัวเองให้ slow อย่างเป็นรูปธรรม
ฉันก็พยายามจะดึงตัวเองให้ทำอะไรช้าๆ ที่จริงบางอย่างในชีวิตเราทำช้าๆได้อยู่แล้ว แต่บางครั้งเมื่อเรารีบ หรือเราไม่มีเวลามากพอจะให้ช้าได้ เราก็ต้องทำอะไรแบบลนๆ แล้วมันก็ไม่สนุกเลย
แม้แต่เรื่องของการอาบน้ำ .... อาบน้ำเนี่ยนะ เกี่ยวอะไรกับการ slow
นิสัยการอาบน้ำของฉัน ฉันจัดตัวเองอยู่ในระดับกลางๆ คือให้เวลาแค่พอประมาณ ตามความเหมาะสม คือเร็ว ในบางเวลาที่มีเวลาน้อยหรือจำกัด เช่น ตื่นสายในวันที่มีเวลาเตรียมตัวน้อย แหะ แหะ หรือช้ามาก ในเวลาที่อยากผ่อนคลายสุดๆ เรียกว่า หาสมดุลไม่เจอเลย
แต่ฉันเชื่อว่านิสัยการอาบน้ำของเราแต่ละคนไม่เหมือนกันหรอกค่ะ บางคนอาบน้ำเร็วมาก แบบที่เรียกว่าวิ่งผ่านน้ำ แต่บางคนก็อาบน้ำนานมาก
แต่ฉันเชื่ออยู่อย่าง ว่าในช่วงเวลาที่เราได้อาบน้ำนั้นเราจะผ่อนคลาย
การ slow ในขณะอาบน้ำ จะว่าไปมันก็ไม่เห็นจะยาก ก็แค่อาบน้ำช้าๆ ไม่ได้แปลว่าอาบนานมากกกก นะคะ ช้า กับนานคนละแบบกันค่ะ คนที่อาบน้ำนานมากๆ เช่น อาบทีครึ่งชั่วโมง หรือนานกว่านั้นอีก แบบนั้นฉันก็ว่าไม่ไหว
อาบน้ำช้าๆ คือดึงจังหวะให้มันช้าลงนั่นเองค่ะ
ใครๆก็รู้ว่าการอาบน้ำทำให้เราผ่อนคลายได้ แต่การอาบน้ำช้าๆ เราก็แค่ให้เวลากับบางสเต็ปในการอาบเช่น ฟอกตัวให้นานขึ้นหน่อย ค่อยๆ ถูตัว ค่อยๆ ปล่อยให้น้ำไหลลงมาชำระล้างร่างกาย หรือว่า ช้าลงอีกนิดในสเต็ปการแปรงฟันและล้างหน้า การทำอะไรช้าหน่อย ดึงจังหวะลงหน่อย ทำให้ทุกการกระทำของเราเป็นไปแบบมีสติกำกับ พอเราทำอะไรเร็วๆมาตลอดด้วยความเคยชิน แล้วลองหันกลับมาช้า ผลที่ได้ต่างกันเหลือเชื่อค่ะ
การอาบน้ำแบบ slow ไม่ใช่การเปิดน้ำตลอดเวลา เพราะนั่นไม่ใช่วิธีการที่ถูก หนำซ้ำยังแปลว่าเราใช้ชีวิตแบบไม่รู้คุณค่าทรัพยากร แต่เราแค่ slow ในจังหวะหรือการกระทำของเรา
น้ำเย็นๆที่ผ่านตัวเรา มันเรียกความสดชื่นได้ทันตานะคะ แถมการอาบน้ำด้วยสบู่หรือเจลอาบน้ำกลิ่นที่เราชอบด้วยแล้ว ยิ่งสดชื่นเข้าไปใหญ่
เมื่อเราช้าลงในการทำอะไรบางอย่าง มันก็เบาสบายค่ะ เรื่องอาบน้ำอาจดูเหมือนเป็นเรื่องเฉพาะ ของใครของมัน
แต่การประณีตกับเรื่องเล็กๆที่มีผลต่อทั้งกายทั้งใจของเรา อาจทำให้เรามีความสุขเพิ่มขึ้นได้วันละห้านาที สิบนาที
ไม่ถึงกับต้องไปถอยอ่างอาบน้ำมาไว้ในห้องน้ำก็ได้ อันนั้นอยู่ที่ปัจจัยของแต่ละคน ทำไม่ได้ทุกคนหรอกค่ะ
แต่ที่ทำได้ง่ายๆก็แค่ ใส่ใจ และ ให้เวลา
อาบน้ำอย่างเนิบช้า มีความสุขวันละสองเวลา โอ๊ย.. สบายใจจริงๆค่ะ
..
รูปธรรมอีกอย่างคือ ปกติฉันจะเป็นคนที่ทำอะไรตามใจตัวเองสุดๆ โดยไม่มีการ balance ระหว่างอารมณ์กับเหตุผล
ยกตัวอย่างว่า ทันทีที่กลับถึงบ้าน ฉันจะทำตามอารมณ์ทันทีด้วยความเคยชิน คือเข้าห้องนอนปุ๊บ เปิดแอร์ปั๊บ เรียกว่า ร้อน ร้อน ร้อน จนอยู่ไม่ได้
เรารู้ว่าเราเปิดแอร์แล้วเราจะเย็น แต่เราไม่อินังขังขอบกับค่าไฟ เพราะเราถือว่าเราทำงานมาเหนื่อย ดังนั้นการเปิดแอร์เย็นๆมันก็ชดเชยกับความเหนื่อย ใครจะทำไม ??
นี่ค่ะ นี่คือตัวอย่างของการทำอะไรแบบไม่คิด หรือหากเราคิดสักนิด ทำให้ตัวเองไม่ร้อนรน เราค่อยๆคิด แบบช้าๆ แล้วเราจะพบว่าเปิดแอร์ช้าไปสักชั่วโมงหนึ่ง เราจะลดค่าไฟลงได้หลายบาท ฉันไม่รู้หรอกค่ะว่าจำนวนที่ลดลงได้แน่ๆมันกี่บาท
แต่เมื่อทำแล้ว เราได้ใคร่ครวญแล้ว เราพบว่า วิธีการ slow แม้แต่การค่อยๆคิดนี่ มันดีจัง...
เปิดแอร์ช้ากว่าที่เคยไปสักหนึ่ง ชม ฉันลดค่าไฟได้ และช่วยให้โลกร้อนน้อยลงได้ด้วย่ใช่ไหมคะ
เมื่อก่อนเราไม่มีสติกำกับ เราเร็วไปหมด เราถือว่าเราจะทำอย่างนี้ เราจ่ายค่าไฟเอง ไม่ได้ขอให้ใครมาจ่ายให้สักหน่อย ก็เราจะทำอย่างนี้แล้วมันหนักกระเป๋าใคร
ก็เพราะเราไม่ได้หยุดคิดเลยนั่นเอง
วันนี้ได้หยุดคิดแล้ว ได้เริ่ม 'ช้า' แล้ว รู้สึกว่ามีความสุขเพิ่มขึ้น แม้คำนวณเป็นเงินตราไม่ได้ แต่ความสุขทางใจกลับผกผันและสวนทาง
ขอบคุณแรงบันดาลใจที่ฉันได้อ่านจากหนังสือ slow life ของคุณ ปวิตรา เกษมเนตร และขอบคุณร่างกายที่ส่งสัญญาณให้ฉันรู้ว่า มันคงถึงเวลาของการเปลี่ยนแปลง ฉันรู้สึกดีกับตัวเองขึ้นมาตั้งมาก เมื่อพบว่าเราได้ทำอะไรดีๆ แม้เพียงเล็กน้อย ต่อตัวเองและต่อโลกนี้
แท้จริงแล้วการทำอะไรก็ตาม มันไม่ยากถ้าเราได้ 'เริ่มต้น'
ก้าวที่หนึ่งจึงสำคัญเสมอค่ะ !!
Create Date : 24 พฤษภาคม 2553 |
Last Update : 24 พฤษภาคม 2553 22:36:35 น. |
|
1 comments
|
Counter : 444 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|
เหอๆ...ไม่ถนัดเรื่องการทำอะไรที่ช้าลง
เพราะว่าเป็นคนใจร้อนมากๆ...
เป็นไมเกรนนี่..เหนื่อยเนอะ...ปวดแต่หัว...งุงิ
ราตรีสวัสดิ์ค่ะ