เที่ยวไปในเมืองหลวง มาเล่ ของ เกาะมัลดีฟส์ ( 24-26 Jan.2016) หลังจากเราเที่ยวติดเกาะที่ Centara Ras Fushi แล้ว เรือของที่พักมาส่งที่มาเล่ ฝั่งสนามบิน เรามีแผลนข้ามฟากโดยสารโดยเรือ ไปเมืองหลวง มาเล่ ที่มีผู้คนอาศัยอยู่เกาะนี้มากที่สุด ในบรรดา 2,000 กว่าเกาะของมัสดีฟส์ โดยสารเรือยนต์ใช้เวลาเดินทางประมาณ 12 นาที ใช้ Wifi Samurai ในการเดินทางด้วยเท้าล้วนๆเวลาอยู่บนเกาะ ถึงเมืองมาเล่ ก็มีรถแท็กซี่มารับ เพราะทางโรงแรมเขามีบริการ แต่ก็ไม่ฟรีนะ เพราะรวมทั้งเรือและรถ รถยนต์มีไม่มาก ส่วนใหญ่ใช้รถมอเตอร์ไซด์ รถยนต์ส่วนใหญ่จะเป็นแบบมินิ รถราคาแพงไม่ค่อยมี ถ้าที่เห็นแพงส่วนใหญ่เป็นพวกมีฐานะและนักการเมือง เช็คอิน ที่โรงแรม Unima Hotel เพราะก่อนจอง ดูแล้วมันเดินทางสะดวก มีร้านอาหารติดริมทะเล และ ซุปเปอร์มาเก็ต ร้านค้าต่างๆ ที่สามารถเดินได้หมด ป้าซิ่งกับเพื่อนสาว ออกจากที่พักกลางทะเลจากเซ็นทารา ราส ฟูชิ ประมาณ 11:00 am.( เวลาของไทยเราเร็วกว่ามัลดีฟส์ 2 ชั่วโมง ) กว่าจะเดินทางมาถึงที่พัก Unima Hotel ก็ประมาณบ่ายสองกว่าๆ พวกเราพักผ่อนสักแป๊บ ก็หลับไปตื่นหนึ่ง ออกมาผจญภัยอีกทีตอนห้าโมงเย็น เพราะอยากดูร้านค้า ร้านอาหาร มันมีอะไรให้ช๊อป ให้กินบ้าง สิ่งแรกช๊อปก่อน ผิดหวังไม่มีอะไรแปลกๆให้ซื้อ ของไทยก็เป็นสินค้านำเข้าประเทศเขาก็มี หาอาหารมื้อเย็นกินกันก่อน ที่ฟ้าจะมืด กินร้านซีตองแล้วกันเย็นนี้ เงินพกติดตัวมีแต่เงินดอลล่าร์สหรัฐ ก็ใช้เงินนี้ซื้อ แต่เวลาทอนเขาจะทอนเป็นเงินรูฟียาห์ ( ภาพรวบรวมธนบัตรรูฟียาห์ มาจากอาคารหนึ่งของเมืองมาเล่ ) ส่วนภาพนีัคือเงินที่เราได้จากการทอนมา แล้วรวบรวมถ่ายไว้เป็นที่ระลึก ธนบัตรเขาทำสวยดี อย่างกับพลาสติก หน้าและหลังของธนบัตร ภาพวาดเน้นวิถีชีวิตของเขาที่มีตำนาน มีเศษสตางค์บ้างนิดหน่อย ร้านอาหาร ซีตอง ( Citron )อยู่ติดริมทะเล แบบสองชั้น อยู่ใกล้สนามเด็กเล่น และ สถานที่จัดกิจกรรม มีเวทีคอนเสิร์ต มองเห็นน้ำทะเลใสๆ ที่ยังสามารถเห็นปลาที่ติดฝั่งเมืองได้ระยะใกล้ๆ อาหารมื้อเย็นวันนี้ของเรา กาแฟ กับ น้ำปั่น พวกเรากินแบบตั้งเป้าการจ่ายไปคนละประมาณไม่เกิน 300 บาทต่อคนพอค่ะ กินเสร็จไปเดินเล่นดูบ้านเมืองเขายามเย็นกันดีกว่า คนบ้านเขาไม่ดื่มเหล้าหรือแอลกอฮอล์ แต่จะกินหมากและสูบบุหรี่ ถ้านักท่องเที่ยวอยากดื่มก็ต้องไปตามโรงแรม ส่วนร้านกาแฟ ก็จะมีพวกสูบมาระกู่หรือ Shisha มีทั่วๆไป เดินตามถนนเล็กๆบนเกาะแบบนี้ ต้องเดินชิดๆขึ้นฟุตบาธ ถนนเขาเป็นเลนส์ไปและกลับ พอๆกับถนนที่อยู่ในหมู่บ้านจัดสรรของเมืองไทยเลย เข้ามาสำรวจซุปเปอร์มาเก็ตของเมืองมาเล่ย์ พวกน้ำหอม ไม่ค่อยรู้จักเลย พวกหมากพลู ของว่างหลังมื้ออาหาร และ เครื่องเทศ สินค้าตามชั้นอื่นๆ ของที่ซื้อมาจากซุปเปอร์มาเก็ต สเปรย์ยากันยุง น้ำดื่ม เอาไปดื่มในที่พัก ของฝากเพื่อนคือ สบู่แอปเปิ้ล ไปให้เพื่อนคนละก้อน ชาซองสำเร็จ ราคา 1 ดอลลาร์ กาแฟสำเร็จ เอากลับบ้าน มืดแล้ว เดินกลับโรงแรมก็โอเครค่ะ เช้าอีกวัน กินอาหารเช้าของโรงแรมที่ชั้น 10 ขึ้นบันไดไปอีกชั้นเป็นดาดฟ้า นั่งเล่นยามเย็นคงดีค่ะ เห็นวิว เช้าๆแบบนี้ มีแดด นั่งนานไม่ไหว หลังมื้ออาหารเช้าเสร็จ ก็ออกไปผจญภัย เมืองมาเล่ เที่ยวง่าย เดินดูโน้น นี่ นั่น แค่ 3 ชั่วโมง ก็หมดเกาะแล้วค่ะ ==== ==== แวะซื้อของที่ระลึกมัลดีฟส์ ร้านนี้ดูน่าสนใจค่ะ สีสรรค์หน้าร้าน น่าถ่ายรูปตั้งแต่นอกร้านแล้ว ==== ซื้อกระเป๋ามาได้หนึ่งใบ เดินไปพิพิทธภัณฑ์มัลดีฟส์ ตั๋วผ่านประตู และ ตั๋วขอถ่ายรูปภายใน ค่ะ จัดทำบล๊อคภายในพิพิทธภัณฑ์มัลดีฟส์ไว้แล้ว ต้องเลื่อนกดหาบล๊อคนี้ในบล๊อคถัดไปนะคะ ภาพเยอะ ต้องแยกค่ะ เสร็จจากดูพิพิทธภัณฑ์มัลดีฟ เดินต่อไปดู ตลาดปลา และ ตลาดพืชผักและผลไม้ต่างๆ ระหว่างเดินไปตลาด เห็นอะไรก็ถ่ายไปเรื่อยเปื่อย ==== ถึงแล้วย่านตลาดปลาและผลไม้ ติดท่าเรือขนส่งสินค้า ทั้งตลาดปลาและตลาดพืชและผลไม้ แยกบล๊อคออกไปต่างหากอีกค่ะ ต้องไปกดหาดูบล๊อคถัดไป นะคะ เดินดูบ้านเมืองกันต่อไปค่ะ ผ่านสุสาน บ้านพักนักการเมือง เดินผ่านโรงเรียน ได้เวลาหากินข้าวมื้อกลางวันแล้วค่ะ เดินผ่านร้านอาหารไทย แวะเข้าไปเยี่ยม เมียงมองกันแป๊บ โอ้ววว ถ้าจะแพง อีกอย่างพรุ่งนี้ก็กลับไทยแล้ว ไปหากินบ้านเราอร่อยและถูกกว่ามากหลาย เข้าร้านอาหารพื้นเมืองมัลดีฟส์ ดีกว่า กินเสร็จกลับโรงแรม พักผ่อน พอตกเย็นออกมากินอาหารเบาๆริมทะเล เป็นร้านอาหารอีกที่ ไม่ซ้ำเมื่อวาน ตอนเช้า กินอาหารเช้าที่โรงแรม แล้วเช็คเอ๊าท์ ออกจากโรงแรม แล้วข้ามฟากไปฝั่งสนามบินมาเล่ย์ ของมัลดีฟส์ โซนเด็กเล่นภายในดิวตี้ฟรีของสนามบินมัลดีฟส์ ผนังภาพวาดงามแท้ๆค่ะ ของในดิวตี้ฟรี ที่สอยมาได้ ได้น้อยมากค่ะ ผ้าพันคอ หรือจะมาแต่งเป็นเสื้อใส่สบายๆก็ได้ มีตัวหนังสือพิมพ์ Maldives ด้วย ซื้อแบบลดราคาเหลือผืนละ 5 ดอลลาร์สหรัฐ แม็กเน็ตแบบสามมิติ จบแล้วค่ะ ขอบคุณเพื่อนๆที่แวะมาเยี่ยมอ่านกัน นะคะ   Create Date : 19 มีนาคม 2561     Last Update : 19 มีนาคม 2561 7:27:57 น. Counter : 2364 Pageviews.   Share Tweet

โรงแรม UNIMA ที่พักมัลดีฟส์ ของเมืองหลวง มาเล่ (24-26 Jan.2018) หลังจากป้าซิ่งและเพื่อนไปพักที่ Centara Ras fushi (22-24 Jan.2018) บ้านพักกลางทะเลมาแล้ว เราจองที่พักแบบจองเอง ไม่ได้มาเป็นแพ็คเก็จ เราเลยเลือกที่จะมาพักในเมืองมาเล่ด้วย เที่ยวในเมืองต่ออีก 2 คืนค่ะ เราออกจาก Centara ใช้เวลานั่งเรือออกจากที่พักประมาณ 25 นาที กลับมาถึงที่สนามบินมาเล่ ก่อน ต่อจากนั้น นั่งเรือไปที่พัก UNIMA Hotel ข้ามฟากไปฝั่งเมืองหลวงมาเล่ ซึ่งมีประชากรบนเกาะไม่กี่แสนคน อีกประมาณ 12 นาทีก็ถึง มีแท็กซี่มาจอดรอรับเรียบร้อย โดยการบริการของโรงแรม ทั้งเรือและแท็กซี่ จ่ายเพิ่มบริการรวมลูกค้าอย่างเรา 2 คน ที่พักเราจองมาคืนละ 130 ดอลล่าร์ยูเอส 2 คืน = 260 บาทต่อ 2 คืน รวมอาหารเช้าด้วย ค่าบริการรับส่งทั้งเรือและรถแท๊กซี่อีกคนละ 20 ดอลล่าร์ แพงง่ะ โรงแรมเราก็ว่าแพงนะ ห้องไม่ใหญ่มาก ถ้าสมมติใครเคยไปพักเชียงใหม่ ลักษณะห้องพักของไทยเราแค่ 700-1000 บาทได้ล่ะค่ะ การดื่มแอลกอฮอลล์ในเมืองหลวงนี้ ประชาชนเขาไม่ดื่มสุราหรือของเมากันค่ะ ถ้านักท่องเที่ยวอยากดื่มต้องไปดื่มตามโรงแรมที่มีบริการเท่านั้น ที่สาธารณะชนห้ามดื่มเด็ดขาด เขานับถือศาสนามุสลิมกันค่ะ ส่วนใหญ่คนจะกินหมาก-อบเป็นอาหารว่าง หลังมื้ออาหาร และ ตามร้านกาแฟชั้น 2 ก็จะมี Shisha หรือ มะระกู่ ที่สูบกลิ่นผลไม้ และผสมอะไรที่มันเหมือนเมาดิบได้เท่านั้น จากการเที่ยวหลังจากสองวันที่เดินดูตามถนนหนทางและห้างซุปเปอร์มาเก็ตเล็กๆ อ่ะ เข้าเช็คอินที่พักกันดีกว่าค่ะ ภายในห้องพัก ห้องพักเรา ทางพนักงานให้อยู่ตรงด้านที่มองเห็นทะเล ห้องน้ำ ก็แบบนี้ มีอ่างอาบน้ำและฝักบัว เหมือนๆกันทุกที่ คือมีน้ำฟรี ชา กาแฟสำเร็จ ภายในห้อง ภาพโดยรวมก็นับได้ว่า สะอาดดีค่ะ มาพักฝั่งเมืองหลวง เราก็จะได้ยินเสียงโฟนไปทั่วด้วยบทสวดของศาสนา ได้ยินเป็นพักๆเท่านั้น อาหารเช้าของทางโรงแรม Unima ห้องอาหารก็อยู่ชั้นบนของห้องที่เราพัก เห็นวิวทะเล อาหารเป็นบุฟเฟ่ย์แบบไม่เยอะมากเกิน ชอบปลาทูน่าผสมแล้ว กินกับโรตีนิ่มๆ มีแกงกะหรี่แขกซะหน่อย อร่อยดี อาหารอย่างอื่นแบบฝรั่งก็เฉยๆ แต่เราควรกินผลไม้ด้วย โดยเฉพาะมะละกอหวานอร่อย กินซะเยอะเลย อิๆๆ ส่วนกาแฟก็สั่งได้ตามรสที่ต้องการ อเมริกันโน่ เอสเปรสโซ่ ลาเต้ คาปูชิโน่ อยู่ในบริการทั้งหมด ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม ชั้นบนของโรงแรมก็จะเป็นดาดฟ้า นั่งเล่น จะสั่งอาหารมื้อเย็นก็ได้ค่ะ ส่วนเราสองคน ออกไปกินข้างนอกเดินไปไม่ไกล ไปนั่งริมชายทะเลดีกว่า ได้ดูปลาในน้ำทะเลมัลดีฟส์ ใกล้ฝั่งก็มองเห็นปลาได้เยอะ น้ำก็ใสๆเป็นสีฟ้า จบแล้วค่ะ   Create Date : 09 มีนาคม 2561     Last Update : 9 มีนาคม 2561 13:53:56 น. Counter : 2193 Pageviews.   Share Tweet

ตลาดผักและผลไม้ เมืองหลวง มาเล่ ของ มัลดีฟส์ ( 25 Jan.2018) ตลาดผักและผลไม้ อยู่ใกล้ๆกับตลาดปลาของมาเล่ มัลดีฟส์ เป็นตลาดเล็กๆใกล้ท่าเรือ มีที่ว่างตามตึกหรือฟุตบาธ ก็มาวางขายกันเป็นกองๆ อันนี้ก็มะม่วง อันนี้ก็โม่งลูกจาก ใหญ่เป้ง นี่ก็กล้วยขายยกไปทั้งเครือเลย เข้าตลาดผักและผลไม้ หนาแน่นไปด้วยกล้วยที่ห้อยเป็นเครือๆ มะพร้าวก็มีค่ะ ลองซื้อมากินหนึ่งลูก จ่ายไป 1 ดอลล่าร์ แง๊ๆ++ ไม่อร่อยเลย น้ำก็เปรี้ยวๆ เนื้อก็แข็งๆ อันนี้ก็เป็นแท่งๆคือช๊อคโกแล๊ตรสวานิลลา มันก็อร่อยไปอีกแบบ คนขายหั่นมาเป็นแว่นๆ เพราะมันห่อด้วยใบพืชอะไรไม่รู้แต่มันแห้งๆ สรุปไม่ซื้อง่ะ มีเนื้อปลาอัดแค๊ปซูลใส่ถุงด้วย มีหมากพลู ขนม ผักงามๆค่ะ จบแล้วค่ะ เพราะตลาดมันเล็กๆเน้อ บล๊อคต่อไปจะเป็นที่พักและการเที่ยวรอบๆเกาะและช๊อปปิ้ง ขอบคุณที่แวะมาอ่านกันนะคะ (เอ๊ย ดูรูป เพราะไม่มีสาระอะไร)   Create Date : 07 มีนาคม 2561     Last Update : 9 มีนาคม 2561 14:03:26 น. Counter : 1648 Pageviews.   Share Tweet

ตลาดปลาที่เมืองมาเล่ มัลดีฟส์ ( 25/Jan./2018) หลังจากไปนอนเกาะกลางทะเล ไปแล้ว กลับเข้ามานอนที่เมืองหลวงอีกคืน มาเที่ยว ตลาดค้าปลา สุดยอดยิ่งกว่าตลาด Tsukiji ที่ญี่ปุ่นอีกนะ ชำแหละปลา หั่นกันสดๆ ไม่มีปลาแช่แข็งเลย กับปลาหมึกยักษ์ ===== ===== จบแล้วค่ะ บล๊อคถัดไปพาไปตลาดผักสด และ ผลไม้ ของเมืองมาเล่ นะคะ   Create Date : 28 กุมภาพันธ์ 2561     Last Update : 28 กุมภาพันธ์ 2561 9:39:08 น. Counter : 1355 Pageviews.   Share Tweet

Maldives National Museum ( 25/Jan./2018) พิพิธภัณฑ์ของมัลดีฟ วันที่ 25 มกราคม 2018 ได้มาค้างที่เมืองหลวงมาเล่ย์ (Male')ของเกาะมัลดีฟ 2 คืน ในเมืองหลวง เดินเที่ยว 3 ชั่วโมงไปหลายที่ ก็เที่ยวได้หมดเกาะแล้วค่ะ เดินให้ระวังมอเตอร์ไซด์ แต่พวกคนพื้นเมืองเขาก็ระวังอยู่ เช่นกัน ถนนหนทางบนเกาะ เขาก็แคบๆค่ะ สถานที่สำคัญของMale'เกาะมัลดีฟ ที่ไม่ควรพลาดคือ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติมัลดีฟส์ ด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์ มีต้นไม้ใหญ่อายุนานถึง 400 ปี ธนบัตรของมัลดีฟส์ ทำสวยเชียวค่ะ 100 Rufiyaa หน้าและหลังของธนบัตร ราคาค่าผ่านประตู 100 รูฟียาห์(100 Rufiyaa=201 บาทไทย) ถ้าต้องการถ่ายรูปภายในด้วย เสีย 1 USดอลล่าร์= 38 บาทไทย ภายในมีเจ้าหน้าที่ดูแล อย่างเข้มงวด สามารถเข้าดูได้ 2 ชั้น สถานที่กว้าง ใช้เวลาดูประมาณไม่ถึงชั่วโมงก็จบ แต่ถ้าอ่านทุกชิ้น ก็เสียเวลาอีกเยอะค่ะ เจ้าหน้าที่ แนะนำว่า ถ้าไม่เข้าใจ ให้ถามได้เลย ตรงนี้มีแสตมป์ขาย มีโปสการ์ด และ ของที่ระลึก ====== มาตรงโซนการบริหารบ้านเมืองของเขา มีแบบจำลอง ====== ====== เซ็นต์สมุดเยี่ยม ซะหน่อย ค่ะ ======= ====== ขึ้นชั้นบน ====== ======= พวกโครงกระดูกวาฬ ใหญ่มากๆค่ะ ===== ======== ======= ======== สังเกตุในรูป ตรงพื้นมีเส้นสีแดง เขาให้ยืนหลังเส้นสีแดง เพื่อป้องกันตู้กระจก ไม่อยากให้ไปโดน อาจแตกได้ ===== จบภาพพอสังเขปนะคะ ต้องไปดูด้วยตาตนเอง ถึงจะได้เห็นของจริงได้ทั่วบริเวณค่ะ บล๊อคถัดไป พาไปดูตลาดปลาของเมืองมาเล่ย์ มัลดีฟส์ ถ้าหากได้ไปเห็น ที่ใครชอบตลาด Tsukiji ที่ญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อในกรุงโตเกียว หากมาเห็นที่มัลดีฟส์นี่ ญี่ปุ่นแพ้ จืดสนิท ไปเลยค่ะ   Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2561     Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2561 4:29:42 น. Counter : 1370 Pageviews.   Share Tweet