ไปเที่ยว ไปกินกันนะคะ ขอบคุณสำหรับเพื่อนๆทุกท่านที่แวะชมค่ะ
 

ทริปวันที่ 4 เที่ยวชมซากุระที่สวนชินจุกุ และ กินราเมง อิชิรัน Japan

แผลนวันนี้พาเพื่อนมาเที่ยวชมซากุระอีกที่
ใกล้สถานีชินจุกุ มาทางทิศใต้ ชื่อว่า Shinjuku GYOEN national garden

สวนนี้เดินเล่นสบายเพราะเส้นทางเดินกว้างใหญ่
แต่เสียค่าผ่านประตูด้วย คนละ 200 yen
ราคานี้ไม่เคยขึ้นเลยมานานกว่า 20 ปีที่รู้จักสวนนี้

กดที่ตู้อัตโนมัติได้เลยค่ะ แต่ถ้าบางคนกดไม่เป็นก็ไปที่เคาน์เตอร์มีคนขาย
ป้าซิ่งกดตู้ดีกว่าค่ะ









มากัน 5 คนก็กดทีเดียวห้าใบได้เลย

รับแผนที่่ของสวนนี้ค่ะ มีภาษาให้เลือก เราเลือกภาษาอังกฤษ
รับไว้แหละ จริงๆเดินเป็น แต่อยากมีเก็บไว้เป็นที่ระลึกค่ะ
สวนนี้ไม่ได้มาตั้งนานแล้ว







ไม่ค่อยได้มาที่นี่ เพราะว่าเที่ยวแล้ว ไม่ค่อยมีร้านอาหารแบบงานวัดให้กิน
เหมือนที่ สวนสาธารณะที่ Ueno
แต่ถ้าใครอยากกินมีซุ้มอาหารแบบร้านตามรางรถไฟ
มีอยู่ที่เดียว ต้องผ่านประตูเข้าไปก่อนค่ะ
มีร้านและมีตู้กดน้ำ ใครไม่ได้พกมาแวะซื้อกันก่อนได้

สวนนี้นำอาหารเข้ามากินในสวนได้ แต่ห้ามนำแอลกอฮอล์เข้ามา
จะเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่เหมือนที่สวน Ueno เหมือนมีปาร์ตี้น้อยๆ























ที่สวนชินจุกุเกียวเองการ์เด้นท์ มีต้นซากุระหลายพันธ์ให้ได้ชม
ต้นซากุระมีอายุยืนนานมาหลายปี บางต้นก็มีกิ่งก้านลากย้อยลงมา
ให้พาตัวเราเข้าไปใกล้ชิด ความใกล้ชิดได้ตรงนี้แหละ
ที่อุเอะโนะมันไกลเกินเอื้อม
แต่สวนนี้ ตรงไหนมีช่องว่างพวกคนจะเข้าคิว
ถ่ายรูปกันแบบประนีประนอม
อดทนกับการรอนิดนึง ไปเช้าๆแบบนี้คนคิวไม่เยอะค่ะ
เราเข้าไปถ่ายรูปแต่อย่าไปจับกิ่ง อย่าแตะดอกซากุระที่ติดกับกิ่ง
แค่เอาตัวเราเข้าไปช่องโหว่ตามกิ่งมีดอกซากุระ ก็พอค่ะ

ปรกติที่ญี่ปุ่นถ้าสวนเข้าไม่ให้เข้าจะเขียนไว้ว่าห้ามเข้าเด็ดขาด
และมีเส้นกั้นไม่ให้คนเข้าใกล้ชิด
แต่ตรงโซนนี้ไม่มีบอกอะไร คนมีมารยาทก็เข้าคิว





















ซากุระหลายพันธุ์ดูสวยงามตัดกับท้องฟ้า
แถมยังมีดอกไม้ต้นเตี้ยๆอื่นๆให้ชมด้วยนะคะที่สวนแห่งนี้

















มาตรงโซนสวนสไตร์ญี่ปุ่นกันบ้างค่ะ









มาโซนนี้บริเวณกว้าง ถ่ายรูปได้สะดวก บรรยากาศและอากาศก็ดี















มาเดินตรงสะพานข้ามบ้างค่ะ







นี่เรายังเดินไปไม่ครบทุกโซน ดูแต่ซากุระอย่างเดียวเลย
ดอกไม้อื่นก็มีให้ชมนะ แต่ไม่ไหวกันแล้ว เที่ยงกว่าแล้วค่ะ
หิวววววววววววววววววว............................





เดินออกจากสวน แล้วไปสถานีชินจุกุเดิม
ออกมาตรงร้านดองกี้ เข้าซอยนิดก็ถึงร้าน Ichiran ramen
ไปทำข้อสอบกันค่ะ




















บล๊อคร้าน อิชิรัน ราเมง แบ่งแยกไปที่บล๊อคหลัก อาหารการกิน นะคะ
ขอบคุณที่ติดตามชมค่ะ




 

Create Date : 16 มิถุนายน 2560    
Last Update : 16 มิถุนายน 2560 6:14:05 น.
Counter : 3145 Pageviews.  

วันที่ 3 เที่ยวเทศกาลซากุระที่ UENO ช๊อปปิ้ง Koshigaya-lake town ดินเนอร์ปิ้งย่าง

เที่ยววันที่ 3 วันนี้ออกจากบ้านช้าสายได้ค่ะ
ทุกวันที่มาตื่นตั้งแต่ตีห้า ออกจากบ้านแดดและฟ้ายังมืด
เพื่อนๆยังไม่รู้เลยว่ารอบๆบ้านเรามีอะไร










ตรงข้ามบ้านมีศาลเจ้างามๆอยู่ ชื่อ ศาลเจ้าคาวะกุจิ
เป็นศาลเจ้าประจำอำเภอของคาวะกุจิ จังหวัด ไซตะมะ





เดินอีก 10 นาที ถึงสถานีรถไฟ Kawaguchi
วันนี้เราจะไปชมดอกซากุระ ที่ สวน Ueno
ใช้เวลาเดินทางจากบ้านไปอุเอะโนะ 20 นาทีถึงค่ะ











ปล่อยให้เพื่อนๆเราสนุกกับการถ่ายรูป
เราเห็นก็สบายอุรา ล่ะค่ะ











========





















พาเพื่อนๆมาหาอาหารกลางวันกินที่ใกล้ศาลเจ้าสีทองค่ะ













=======











มาศาลเจ้าสีทองๆตรงนี้ทุกปี อยากได้เครื่องรางของขลังหรือ Omamori









เดินต่อไปที่เส้นทางเทศกาลซากุระอีกที่ มีอาหารเหมือนกัน
และอยู่ติดกับทะเลสาป มีเรือใช้กำลังเท้าถีบ เสียตังค์
ทิวทัศน์ห่างออกไปเป็นยอดตึกเมืองโตเกียว











มันเทศญี่ปุ่น ใหญ่ เขาทอดได้อร่อยมากเลยค่ะ





เพื่อนๆชอบ ลูกท้อเชื่อมน้ำตาลแช่แข็ง สตอเบอรี่ และ แอปเปิ้ล









อิ่มแล้วค่ะ เดินให้ท้องย่อยซะหน่อย พร้อมกับชมทิวทัศน์ข้างทาง
บางช่วงก็มีเก้าอี้ไม้ยาวให้นั่งซักนิดค่ะ











=======











=======











เดินเล่นต่อไปที่ตลาด Ameyoko ดูปลา ดูของสดๆ
ดูเสื้อผ้าสปรอตต่างๆ แล้วข้ามฟากมาร้านซุปเปอร์มาเก็ต
ซื้อของกิน ของฝาก ประจำตรงนี้
แล้วนั่งรถไปช๊อปปิ้งต่อที่ห้างอิออน Koshigaya-laketown
ห้างนี้ใหญ่ขนาด 700,000 ตารางเมตร และมีสินค้า Outlet

เพื่อนช๊อปปิ้งจนเมื่อย ขอนั่งนวดแข้งขาสักหน่อย



ป้าซิ่งขออนุญาติไปซื้อผ้าตัดชุดหน่อยค่ะ
ให้เพื่อนรอแป๊บ





น้ำโยเกิร์ตเย็นๆกลิ่นกุหลาบ



คราวนี้ป้าซิ่งพาเพื่อนมาตรงซุปเปอร์มาเก็ตใหญ่ยักษ์
เพื่อนๆตาลุกวาว ซื้อของกลับไทยกันเพียบ
มันเป็นสินค้าและอาหารราคาไม่แพง
และถ้าไปสนามบินนาริตะไม่มีจำหน่าย
ห้างฯนี้ป้าซิ่งเคยทำบล๊อคไปแล้วค่ะ ภาพเยอะเชียว











พวกเรานั่งรถไฟกลับมาที่สถานีแถวบ้านที่ Kawaguchi
ดึกแล้วค่ะ หาอะไรกินกันเป็นมื้ออาหารเย็นค่ะ
มื้อนี้จัดหนักเป็น ยากินุคุ ปิ้งๆย่างๆกันค่ะ









เพื่อนบางคนก็ไม่กินเนื้อ เราก็จัดซีฟู๊ด และ ผัก ให้กินแล้วกันค่ะ









โปรดติดตามวันต่อไป นะคะ




 

Create Date : 14 มิถุนายน 2560    
Last Update : 15 มิถุนายน 2560 7:55:03 น.
Counter : 2007 Pageviews.  

วันที่ 2 ไปคาวะกุจิโกะ ( Kawaguchiko ) 3 Apr.2017 Japan

แผลนวันต่อจากวันแรก คือ ตื่นแต่ตีห้า อาบน้ำ
แล้วเตรียมออกเดินทางไป Kawaguchiko ขึ้นรถบัส ที่ Shinjuku
เดินทางรอบ 07:15 am. ที่ได้จองไว้ทางเว๊ปล่วงหน้าเป็นเดือนค่ะ
ขากลับเลือกรอบ 18:10 pm.



ช่องเคาน์เตอร์โดยตรงของรถบัสไป Kawaguchiko
ยังไม่เปิดทำการ สังเกตุที่ผ้าม่านม้วนยังปิดอยู่
จากประสบการณ์ก็เคยมารอบนี้หรือเร็วกว่านี้ประจำ
เราไปเอาตั๋วตรงเคาน์เตอร์รถที่อยู่ติดกับเคาน์เตอร์บัสเราได้ค่ะ




ได้รับตั๋วรถบัสกันทั้ง 5 ชุด ทั้งไปและกลับแล้ว
พวกเราก็ไปร้าน Family mart ที่อยู่ในชั้นขายตั๋วนี่แหละ
ไปซื้อหาอะไรกินเป็นอาหารเช้า แล้วก็มีขนมบ้างยามต้องนั่งรถบัส
ไปคาวะกุจิโกะ เป็นระยะเวลาสองชั่วโมง ค่ะ





จะดื่มกาแฟ ทางร้านก็จะให้แก้วมา แล้วเอาแก้วไปกดน้ำกาแฟสดด้วยตัวเอง

ได้เวลาขึ้นรถแล้ว มีป้ายบอกแบบนี้มาเลย เที่ยวรถต่อไปว่างเลย
จนถึงเวลาบ่ายโมงโน้นเลยค่ะ ใครมาเห็นแบบนี้แบบไม่จองที่
ต้องรีบไปขึ้นที่อื่นแล้วอย่างเช่นที่ ชิบูยะ ไปขึ้นที่ห้างฯ Mark City
สาเหตุที่เราต้องมาชินจุกุทุกครั้ง เพราะบ้านอยู่ใกล้ชินจุกุมากกว่า



ได้เวลา 07:15 am.ประตูรถเปิดรอให้ขึ้นไปนั่งกันแล้วค่ะ เย้!



ขนมที่ซื้อพกมาตะกี้ แน่นอนกินบนรถไม่หมดหรอกค่ะ
เราก็เผื่อไว้เป็นเสบียงตอนเดินเที่ยวที่ทะเลสาปคาวะกุจิโกะ









กินอะไรที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นมต้องกินแต่ ยี่ห้อ Morinaga
ในมือคือ พุดดิ้ง ข้างล่างเป็นเจลลี่กาแฟ





กินเสร็จนอนดีกว่า มีคันโยก เอนตัว และ ปรับตรงได้
นอนล่ะค่ะ อีกสองชั่วโมงถึงสถานีป้าย Kawaguchiko
พร้อมซื้อตั๋วขึ้นๆลงๆไปกับรถรีโทรบัส คนละ 1,300 yen
มีเส้นทาง Red line กับ Green line
เราเลือกนั่ง Red line ประจำ





วันนี้เช้าไม่ขึ้นเจดีย์แดงล่ะ เพราะท้องฟ้ามืดครึ้ม ขึ้นไปก็ไม่ได้สวยอะไร
เอาเวลามาเดินเล่นนานๆหน่อยดีกว่า แล้วออนเซนแผลนท้ายจะได้ไม่เร่งรีบ
ขึ้นรถบัสไปเที่ยวกันแล้วค่ะ





จุดแรกของเราก็ไปที่ทะเลสาป ที่วิวสวยคือหมายเลข 21
สัญญลักษณ์ คือ หอนาฬิกาบลูเบอรี่ และมีลานต้นลาเวนเดอร์
ลาเวนเดอร์ไปเมษายังไม่เบิกบานค่ะ
ต้องหน้าร้อนเดือนกรกฏาคม ต้นจะเขียวและหอม





ป้าซิ่งให้เวลาเพื่อนดื่มด่ำกับบรรยากาศแถวนี้นานราวสองชั่วโมง
มีถ่ายรูปเล่นกัน หาอะไรกินบ้าง ไอศครีมที่นี่ก็จะมี รสวานิลลา, บลูเบอรี่
และซื้อของที่ระลึก และ ของฝาก



















ไปซื้อโมจิซากุระ กลับไทยเป็นของฝากกัน







หาน้ำดื่มกันเป็น ชามะลิ และ ชากลิ่นลูกพีช



ขึ้นรถบัสต่อไปที่หมายเลข 11 Kachikachi-ropeway
ซื้อตั๋วเคเบิ้ลคาร์ ทั้งขาไปและกลับ คนละ 800 yen













ขึ้นกระเช้าไปดูวิวชั้นบนกันค่ะ








เที่ยวนี้นับว่าโชคดีเล็กๆค่ะ เพราะได้เห็นภูเขาไฟฟูจิบ้าง
แต่ก็ยังไม่ใช่ว่าแจ่มแจ๋ว เพราะท้องฟ้าก็ครึ้มๆบางทีก็มีแดดอ่อนๆ



















ก่อนจะลากลับลงเคเบิ้ลคาร์ ตรงนี้มีหิมะที่ยังไม่ละลาย
มีเจ้า ทานุกิ ก้บ กระต่าย ในตำนานของนิทานญี่ปุ่น น่ารักเชียวค่ะ





เสร็จจากหมายเลข 11 เราไปหมายเลข 7 เป็นร้านดอกไม้แห้งหรือ Herb hall







เป้าหมายมาร้านนี้ จะมากินไอศครีม Cremia ราคา 500 yen
มาเที่ยวนี้มีเพิ่ม ถ้าต้องการโรยผงชาเขียว อีก 50 yen เป็น 550 yen









หลังจากนั้นเราขึ้นรถบัสกลับไปที่สถานีเดิมคือ Kawaguchiko
คราวนี้เป้าหมายต่อไปคือ การไปลงออนเซน ที่ Fujiyama
เราตัองนั่ง Blue line







คิดค่าบริการผู้ใหญ่ คนละ 1,350 yen
ไปแต่ตัวได้เลยค่ะ ข้างในมีแชมพู ครีมนวด เจลอาบน้ำ
ผ้าขนหนู เสร็จเรียบร้อย







ร้านอาหารของออนเซน อยู่ที่ชั้น 2 ได้แต่ถ่ายรูป
เพราะอิ่มแล้วจากการเที่ยว Red line
ร้านอาหารของเขาก็น่านั่ง ได้วิวบรรยากาศเห็นฟูจิด้วยค่ะ

บรรยากาศภายในออนเซนที่นี่ เขาสะอาด
มีบ่อภายใน และ บ่อด้านนอก
บ่อน้ำร้อน บ่อน้ำเย็น จากุชชี่ ห้องอบผิว
เราเล่นๆไปราวสองชั่วโมง ก็แต่งตัวออกเตรียมนั่งรถบัสที่จะมารับคน
กลับไปสถานีป้าย Kawaguchiko เช่นเดิม
เราต้องเตรียมไว้ซักหนึ่งชั่วโมงแหละ
กว่าจะถึงเวลารถไปชินจุกุรอบ 18:10

หากถึงสถานีรถก่อนก็จะอุ่นใจแล้ว
มีเวลาเหลือก็มีร้านขายของที่ระลึกให้เลือกซื้อ
และก็ร้านอาหารที่อยู่ติดกัน
ความอยากนั่งเก้าอี้ กินอะไรนิดๆหน่อยๆก็ดีเหมือนกัน





กินเสร็จ ส่งโปสการ์ดกลับไปรษณีย์ไทย ติดแสตมป์ญี่ปุ่น 70 yen
ไปรอรับที่ไทยประมาณ 5-7 วัน
ใช้ตั๋วเที่ยวขนาดโปสการ์ด 1,300 yen นั่นแหละ
ที่อยู่เขียนภาษาไทยไปเลยก็ได้ค่ะ
แต่เขียนชื่อประเทศเป็นภาษาอังกฤษว่า THAILAND
รับรองว่าถึงบ้านที่เมืองไทยแน่นอน

จากนั้นเราก็รอรถบัสมารับ แต่ไม่ตรงเวลาอ่ะ
คนเที่ยวเยอะ การนั่งรถบัสหน้าเทศกาลก็เป็นซะอย่างนี้
ไม่เหมือนรถไฟ เวลาจะตรงเป๊ะ
แต่ให้นั่งรถไฟมาคาวะกุจิโกะ มันแพง และ เสียเวลาเยอะ ไม่เอาล่ะ
อย่างไงก็เลือก รถบัส นอนสบายๆเลย ค่ะ

จบไปอีกวัน ขอบคุณที่แวะอ่านกันนะคะ




 

Create Date : 13 มิถุนายน 2560    
Last Update : 13 มิถุนายน 2560 9:48:55 น.
Counter : 1974 Pageviews.  

ไปญี่ปุ่นช่วงซากุระโตเกียว 2-6 เมษายน 1017 วันแรก Japan

ไปญี่ปุ่นกันอีกแล้ว พกเพื่อนๆไปกัน 4 คนรวมป้าซิ่งเป็น 5
ชอบไปช่วงซากุระ สนุกดี คนเที่ยวเยอะไม่เหงาค่ะ

เครื่องบินออกตอนเที่ยงคืนกับอีก 30 นาทีของวันที่ 2 เมษายน
แต่พวกเราต้องมาเช็คอินตั๋วเครื่องบินกันในวันที่ 1 เมษายน
ไปกับสายการบิน ANA ( All Nippon airways )
นัดเจอะกันแถวประตู 4 เพราะมีที่นั่งรอ
แต่เคาน์เตอร์เช็คอินอยู่ที่ Row L







NH. 808









ผ่านกองตรวจคนเมืองมากันแล้ว ก็มาตรงเกษียรมหาสมุทร





มีเวลาเหลือเฟือ ไปซบอกเล้าจน์คิงส์ เพาเวอร์ ดีกว่า



ได้เวลาเรียกขึ้นเครื่องแล้ว ไปที่ประตู D2







เขาประจำที่ ตามที่นั่งแล้วค่ะ







ได้เวลาดื่มค่ะ กับสแน็ค ในถุง
อาหารเช้าจะได้ตอนใกล้ๆหนึ่งชั่วโมงก่อนที่เครื่องบินจะลงที่นาริตะ
ตอนนี้ได้เครื่องดื่มไปก่อน เวลานี้ทุกคนเลือกดื่มเบียร์ประจำชาติญี่ปุ่นไปก่อน
มี Asahi กับ Kiren





ดื่มมากก็ต้องเช้าห้องน้ำกันล่ะ
ห้องน้ำสายการบิน ANA มีแบบกดปุ่มชำระด้วย น้ำอุ่นดีจัง







เครื่องบินย่างเข้าเขตประเทศญี่ปุ่นแล้ว
เช้าๆก็ได้เวลากินอาหาร กันแล้วค่ะ
ป้าซิ่งขาประจำ เลือกชุดข้าวต้มญี่ปุ่น
เพราะมันหอม นุ่ม อร่อยที่สุดเร้ยยยย



เพื่อนที่มาด้วย บางคนก็เลือกเอาเมนูอื่น



เครื่องลงตอน 08:00 am.ยามเช้าของญี่ปุ่นอากาศเย็นพอสมควรในเดือนเมษา
ผ่านกองตรวจคนเข้าเมืองกันทุกคน ตม.ไม่ถามอะไรเลย




ไปรับสัมภาระที่สายพานหมายเลข B3
จากนั้นพวกเราก็นั่งรถไฟKeisei lines ราคาคนละ 1,030 yen
เป้าหมายลงที่สถานี Nippori
แล้วต่อไปลงที่สถานี Kawaguchi ( ไม่มี Ko ) คือบ้านของเราอยู่ที่นี่
จากนั้นก็ไปเที่ยวตามแผลนค่ะ

ตั้งใจกับวันอาทิตย์ เพื่อที่จะได้ซื้อสินค้ามือสองที่ Shinagawa inter City





===========================

เสร็จจากการซื้อสินค้ามือสอง ก็แค่เดินไปอีกฟากฝั่งเป็นโรงแรม Prince shinagawa
คือ กินบุฟเฟ่ย์ปู นั่นเองค่ะ









อย่างอื่นก็มีนะคะ ไม่ใช่มีแต่ปู
ทั้งอาหารยุโรป เนื้อย่าง, สปาเก็ตตี้ ,พิซซ่า ไข่, เฟรนด์ฟราย ,ขนมปัง
อาหารเกาหลี อาหารจีน และ อาหารญี่ปุ่น
เค้ก ไอศครีม อาหารหวานประจำชาติญี่ปุ่น เป็นต้น











ทำบล๊อคบุฟเฟ่ย์ปูไปเยอะแล้ว ก็จะไม่ถ่ายรูปอาหารอื่นๆที่อยู่ในบริเวณแล้วค่ะ
จะพูดถึงอะไรที่ใหม่ๆ
แก้วนี้น้ำโยเกิร์ต เย็นๆ อร่อย หาดื่มได้ที่เคาน์เตอร์โต๊ะกลาง

เครื่องดื่มพวกน้ำหวาน ชา กาแฟ มีอยู่ 2 โซน (เคยถ่ายไปแล้ว)



คราวที่แล้วมีของหวานพิเศษที่มอบให้ทุกคนต่อ 1 ชิ้นเป็นเครปกลิ่นส้ม
เชฟออกมาทำให้สดๆใหม่ๆ ร้อนๆ เลย
คราวนี้ เซฟ ทำเมนูของหวานให้ทุกคนต่อ 1 ชิ้น เป็น ช๊อคโกแล๊ตลาวา
พนักงานจะมาบอกที่โต๊ะ ว่าเซฟจะแจกขนม ให้ไปต่อคิว ที่ลานเค้ก










เพิ่มกาแฟร้อนๆอีกแก้ว ก็ฟินน์เลยค่ะ





-===========================

กินเสร็จเดินกลับไปที่สถานี Shinagawa
เพื่อนั่งรถไฟไปเที่ยวต่อที่วัด Asakusa







มาถึงวัด อะสะคุสะ กันแล้วค่ะ



พอดีพวกเราเกิดปีมะโรงกัน ป้าซิ่งก็เลยให้ดูลวดลายแกะสลักมังกรไฟใต้โคม



ดูของที่ระลึกภายในบริเวณหน้าวัด ส่วนวัดวันนี้พวกเรามาเกือบห้าโมงเย็น
วัดปิดทำการไปซะแล้ว











หกโมงเย็น มาอยู่ตรง โตเกียว สกายทรี









มาตั้งแต่บนหอโตเกียวสกายทรียังไม่เปิดไฟ
พอพลบค่ำเริ่มเปืดไฟเปลี่ยนสีแล้วค่ะ

====================

แผลนต่อไปมื้อค่ำนี้ ไปช๊อปฯที่ย่าน Ikebukuro
ช๊อปฯแหลกที่ Matsumoto-Kiyoshin

ช๊อปฯเสร็จก็ไปกิน Okonomiyaki & Yakisoba ทำเอง
ที่อยู่ชั้นล่างของห้างฯ Sunshine City
( เคยทำบล๊อคนี้แล้วค่ะ อยู่ที่หน้าหลักของบล๊อค อาหารการกิน )



กว่าจะกลับบ้านก็ราวๆสี่ทุ่มค่ะ
อาบน้ำ เข้านอน
แล้วพบกันใหม่ในบล๊อคถัดไปนะคะ




 

Create Date : 12 มิถุนายน 2560    
Last Update : 12 มิถุนายน 2560 16:30:18 น.
Counter : 2264 Pageviews.  

ทะเลสาป ทิทิเซ่ ( Titisee lake ) Faeiburg ประเทศเยอรมันนี ( 19/Apr./2017)

ไปเที่ยวทะเลสาป ทิทิเซ่ กันค่ะ อยู่เมือง Faeiburg
ขับรถไปเอง แต่ถ้าใครอยากนั่งรถไฟมาลงที่ สถานี ทิทิเซ่
แหล่งท่องเที่ยวนี้ อยู่ติดกับสถานีรถไฟเลยค่ะ
พอดีจอดรถเสร็จ แล้วเห็นสถานีรถไฟ เลยได้ถ่ายรูปมาให้ดู
ใกล้สถานีรถไฟ ก็มีโรงแรม และ ในสถานที่ท่องเที่ยวก็มีโรงแรม










สถานที่ท่องเที่ยว แน่นอนต้องมีร้านขายของที่ระลึก
ของที่ระลึกก็จะแพงพอๆกับสถานที่ท่องเที่ยวทั่วไป
แต่ที่นี่ร้านเสื้อผ้าถูกมากเลยค่ะ ลดแหลก
เสื้อกันหนาวน่าซื้อมากๆ ราคาถูกกว่าที่อื่นๆ





สัญญลักษณ์การแต่งกายของผู้หญิง
ถ้าหมวกที่มีลูกกลมอยู่บนหมวก ก็มาจาก ทิทิเซ่







แก้วเบียร์



บริเวณทางเดินกว้างขวาง เดินสบายๆเลยค่ะ









ภาพนี้เราก็ผ่านเข้ามาที่ร้านขายอาหาร จำพวก
แฮม, ไส้กรอก , ไวน์ , สแนป และอาหารที่ซื้อแบบด่วนๆ









ของประดับบ้าน ลักษณะเหมือนเขียง แต่มีตัวพิมพ์เขียนไว้
ก็ไม่เหมาะกับที่จะนำมาทำหั่นผักและเนื้อต่างๆนะคะ
เดี๋ยวตัวพิมพ์ติดอาหาร เอามาติดฝาผนังบ้านตกแต่งบ้านจะดีกว่าค่ะ









มาตรงโซนนี้เป็นด้านทะเลสาป ก็จะมีบริการเรือพาย
หรือจะนั่งเรือใหญ่เป็นหมู่คณะก็มี นั่งไปและกลับ 25 นาที
" Titisee - Rundfahrt "






=====================























มีลำธาร





เดินมาท้ายๆของสถานที่นี้ ก็จะมีร้านอาหาร อยู่หลายร้านค่ะ
ต้นๆทางส่วนใหญ่ ที่เราเดินผ่านมา จะเป็นอาหารจานด่วน

















เดินมาตรงบ้านเดี่ยวหลังนี้ มีจั่วหอนาฬิกา ผนังจะเป็นรูปวาดน่ารักเชียว
ส่วนนาฬิกาเดินตามลานไปเรื่อยๆ เป็นจุดที่นิยมชอบถ่ายรูป











หลังจากเดินเล่นได้ซักพัก ก็ได้เวลากินอาหารมื้อเที่ยง
เราเลือกร้านชื่อว่า Café & Brauhaus Zur Muhle
อาหารอร่อยดีค่ะ
อยู่ติดกับร้านเครื่องประดับ Swarovski
โปรดติดตามร้านอาหารนี้ได้ในบล๊อค อาหารการกิน นะคะ






 

Create Date : 01 มิถุนายน 2560    
Last Update : 1 มิถุนายน 2560 8:27:45 น.
Counter : 1511 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  
 
 

ป้าซิ่ง Naomichan
Location :
นนทบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 70 คน [?]




........หลังไมค์ถึงป้าซิ่งค่ะ.........
[Add ป้าซิ่ง Naomichan's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com