ไปเที่ยวหลายที่ ใน จังหวัดน่าน ( 22-24 กันยายน 2017)
วันที่ 22 กันยายน 2017นัดเจอะกับเพื่อนๆที่มากับป้าเกษ และ เจฟ และ น้องต่ายนัดกันที่ Big C สะพานควาย กันตอน 2 ทุ่มครึ่งนั่งรถตู้กัน 2 คัน มีคนไปกัน 20 คน เฉลี่ยคันละ 10 คนรวมคนขับก็เป็น 22 คนมาถึงจังหวัดน่าน หาอาหารเช้ากินกันที่ตลาดเช้าจังหวัดน่านของวันที่ 23 กันยายน 2017เสื้อผ้าในตลาดเช้าของจังหวัดน่าน ร้านอาหาร ร้านนี้อร่อย คอนเฟิร์มค่ะจะเป็นพวกข้าวต้มเลือดหมู ข้าวต้มต่างๆ และ ข้าวหน้าเป็ดต่อจากนั้นก็ไป วัดพระธาตุเบ็งสกัดวันที่สร้างขึ้นในจังหวัดน่านแห่งแรกค่ะเก่าแก่มากประวัติความเป็นมาของพระธาตุพระประธานในโบส์ถดอกไม้ที่พื้นหญ้าเสร็จจากวัดพระธาตุเบ็งสกัดนั่งรถต่อไปที่ วัดภูเก็ต ค่ะเข้าไปไหว้พระประธานในโบส์ถกันค่ะภาพวาดฝาผนังภายในงดงามตรงนี้ มองลงไปเป็น ตูบนา ทุ่งข้าวออกรวงเหลืองอร่ามมีร้านกาแฟ และ บ่อเลี้ยงปลามีเช่าชุดไทลื้อ ค่าเช่าชุด 30 บาทถ้าจะลงไปดูต้องไปลงบันไดด้านข้างๆเจอะทุ่งข้าว ก็ต้องจัดการถ่ายรูปนิดหน่อยค่ะเดินผ่านมาตรงจุดเช่าชุดใส่ถ่ายรูป ก็ได้แค่ดูเข้าทำอะไรกันค่ะค่าเช่าไม่แพงมากนะ แต่ไม่มีเวลาเพราะพรุ่งนี้ที่พักเราก็มีการเช่าชุดถ่ายรูปตามโปรแกรมร้อนมากค่ะ แวะพักในกระท่อมที่ตูบนาไทลื้อ มีเครื่องดื่มและ ถ่ายรูปวิวตามธรรมชาติค่ะมุมนี้มาถ่ายรูปเล่นกันค่ะไม่ได้รู้จักกันมาก่อนเลย แต่น้องๆเขาใจดีกับป้าซิ่งมากค่ะชวนมาถ่ายรูปด้วยกัน ต้องขอขอบคุณจากใจมาในบล๊อคนี้ด้วยค่ะไม่ไกลจากตูบนาไทลื้อ มีร้านอาหารใกล้ทุ่งนาของวัดภูเก็ตแวะทานอาหารกลางวันกันก่อน ที่ร้านจะมีขนมจีนน้ำเงี้ยว และ ก๋วยเตี๋ยว มีส้มตำด้วยค่ะหลังจากกินอาหารกลางวันเสร็จใกล้วัดภูเก็ตไปแล้วก็ขับรถมาที่ร้าน ลำดวนผ้าทอผ้าทอพื้นเมืองหลากหลายทั้งคุณภาพและราคาหลังร้านด้านข้างมีร้านกาแฟไทลื้อ และ ห้องพัก มีที่ถ่ายรูปเล่นในท้องนาด้วยค่ะอิ่มหนำสำราญใจแล้ว เตรียมตัวนั่งรถเข้าที่พักคือ โรงเรียนชาวนา ค่ะดูรายละเอียดและรูปภาพให้เยอะมากกว่านี้เลื่อนหาดูได้อีกบล๊อคนะคะเช้าๆ วันที่ 24 กันยายนมาเช่าชุดไทลื้อ ถ่ายรูปในตูบนา กันค่ะมีอาหารเช้าเป็นข้าวต้มเห็ด อร่อย ของที่พักค่ะอำลาจากโรงเรียนชาวนาแล้ว วันนี้เป็นวันกลับแล้วก่อนกลับเรามีเที่ยวต่อคือ หอศิลป์ริมน่านลงไปดูรูปภาพห้องข้างล่างกันค่ะเขาบอกห้ามถ่ายรูปแบบจะๆเป็นรูปภาพเดียวแต่ถ่ายรูปแบบมีภาพรวมๆได้ค่ะมีเรือนไม้ใกล้ที่แสดงภาพ เป็นร้านขายของที่ระลึกไปดูหอโถงแสดงศิลปะ ถ่ายรูปกับอาจารย์เปรม ผู้ดูแลของหอศิลป์ริมน่าน ค่ะมาตรงโซนใกล้ห้องน้ำค่ะห้องน้ำหญิงและชาย งดงาม ค่ะเสร็จจากตรงนี้แล้ว ไปร้านอาหาร เพื่อทานข้าวกลางวันกันค่ะกุ้งฝอยทอดเป็นแพกุ้งเต้นสด เผ็ด ตามสไตร์ชาวเหนือแกงอ่อมผักกูดปลาทับทิมทอดสมุนไพรไส้อั่วยำผักกูดไข่เจียวกินเสร็จ ไปต่ออีก 3 ที่จร้าที่แรก วัดพระธาตุแช่แห้งอุโบสถด้านนอกใกล้ที่จอดรถ ตอนที่ไปยังสร้างไม่เสร็จหาเครื่องดื่ม ดื่มกันแถวๆที่จอดรถ มีร้านขายของฝากซื้อผ้าพันคอกระซิบรัก เนื้อผ้านุ่มๆไปฝากเพื่อนๆ ราคาไม่แพงค่ะ ไม่ถึงร้อย ซื้อเยอะก็สามารถต่อรองราคาได้ค่ะเสร็จจากวัดพระธาตุแช่แห้ง ไปต่อกันที่ วัดภูมินทร์ซึ่งภายในมีรูปวาด กระซิบรัก ของ ปู่หม่านย่าหม่านด้านข้างวัด มีรูปภาพซื้อกลับบ้านได้นะคะเข้ามานมัสการพระประธานภายในโบส์ถที่เก่าแก่ กันค่ะภาพวาดฝาผนังตามสไตร์ชาวน่าน งดงามค่ะรูปนี้ น้องเจฟ ถ่ายค่ะ ถ่ายเก๋มากจากเสาที่สะท้อนเห็นภาพปู่หม่านย่าหม่านเนื้อที่ไม่ไกลจากวัดภูมินทร์ มีดงลีลาวดีคนที่ชอบการถ่ายรูปมาตรงนี้กันค่ะที่สุดท้าย ไปจุดชมวิวเมืองน่าน ที่วัดพระธาตุเขาน้อยพวกเราออกจากจังหวัดน่าน เดินทางกลับกันตอนหกโมงเย็นของวันอาทิตย์ที่ 24 มาถึงกรุงเทพฯกันวันจันทร์ที่ 25 กันยายน เวลาประมาณตีห้าคนที่ทำงานและรู้โปรแกรม เขาก็จะเตรียมชุดทำงานในวันจันทร์กันเลยค่ะจบจร้า
เที่ยวไปกับป้าเกษ โรงเรียนชาวนา ( Farmer School ) อ.ปัว จังหวัด น่าน 22-24 กันยายน 2017
มาเที่ยวจังหวัด น่าน พักที่ โรงเรียนชาวนา อำเภอ ปัว จังหวัด น่านมากับทริปป้าเกษ มากัน 20 คนได้ค่ะมีกล้องมือถือป้าซิ่งเองกับ ขอขอบคุณภาพเครดิตจากกล้องเทพฯของ้ป้าเกษ, น้องต่าย, น้องรัตน์ และ น้องเจฟ กับ น้องเติ้ลที่พักมีแบบเป็นบ้านๆในท้องนาข้าวที่พัก ของป้าซิ่ง คือบ้านนา หลังนี้ค่ะบรรยากาศภายในที่พักเป็นบ้านยกสูง มีใต้ถุนบ้าน และ ชั้นบนมีห้องหับหลายที่ ให้เลือกนอน ตามสบาย ชั้นล่าง มีที่นั่งกว้างใหญ่ และมีห้องน้ำ 2 ห้อง มีอ่างจากุชชี่ อิๆที่ใต้ถุนบ้านอีกหลัง มีกี่กระตุก ถักทอผ้า มีผ้าขายด้วยมีตัวด้วงด้วยค่ะตกเย็นได้เวลากินข้าวร่วมกันค่ะเช้าวันใหม่ มีใส่ชุดน่าน ที่พักมีให้เช่าถ่ายรูปค่ะเช้าๆมีพระเข้ามาบิณฑบาตรด้วยจบแล้วค่ะ ไปเที่ยวแบบธรรมชาติ อากาศดีๆ
JAPAN แผลนวันแรกเที่ยวโตเกียว ( 9/Sep./2017 )
แผลนวันแรกเที่ยวโตเกียว วันที่ 9 กันยายน 2017อันดับแรกออกจากบ้านที่ คาวะกุจิ ป้าเตียง ,ลูกสาวป้าเตียง และ น้อย เพื่อนๆจากเว็ปไซด์ พันทิปมาเช่าที่พักบ้านป้าซิ่ง อยู่หลายวัน คิดวันละ 5,000 yen ค่ะมีห้องนอน ห้องอาบน้ำ และ ห้องชักโครกอุปกรณ์พร้อมทุกอย่าง ยกเว้น ห้ามทำอาหารแต่มีไมโครเวฟ ให้ตู้เย็นใหญ่พอสมควรค่ะ บ้านป้าซิ่งอยู่สถานี Kawaguchi ไม่ไกลจากสถานี Ueno จร้าคือจากสถานีบ้าน นั่งไป Ueno แค่ 18 นาทีค่ะคาวะกุจิ (Kawaguchi ) ไม่มี Ko ลงท้ายนะคะถ้าที่ไปดูฟูจิใกล้ๆนั่นไกลจากโตเกียว 2 ชั่วโมงเรียกว่า Kawaguchiko นั่นไกลมากเพื่อนๆชอบ ต้นลูกพลับหน้าบ้านศาลเจ้าที่อยู่ตรงข้ามบ้านป้าซิ่งค่ะ ข้ามถนนจากบ้าน 1 นาทีก็ถึงวันนี้เพื่อนๆมาไหว้กันแต่เช้า ก่อนออกไปผจญภัยโตเกียวกันค่ะถ้ามาช่วงซากุระบาน ที่ศาลเจ้าก็มีต้นซากุระอยู่ 5 ต้นใหญ่ สวยงามค่ะถ้ามาวันที่ 15 ธันวาคม ของทุกปี เพราะเป็นงานประจำปีมีงานวัดอลังการณ์งานสร้าง ถนนเต็มไปด้วยของกิน ร้านค้า และ อาหาร รวมด้วยเกมส์ญี่ปุ่นตรึมค่ะ แถวบ้านมีห้างสรรพสินค้าชั้นนำ เช่น Sogo และห้างซุปเปอร์มาเก็ตใหญ่ที่เป็นที่รู้จักกันทั่วไปร้านค้า ร้านอาหาร เพียบ ร้านสะดวกซื้ออยู่รายล้อมแม้แต่ที่พักเราก็อยู่ใกล้ร้านสะดวกซื้อด้วยเช่นกันแต่วันนี้ เราจะพาไปห้างที่ใหญ่ที่สุด ที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านป้าซิ่งนั่นคือ ห้าง AEON สาขา Koshigaya-Laketownเนื้อที่ใหญ่ประมาณ 700,000 ตารางเมตรใหญ่กว่าห้าง AEON สาขา นาริตะถึง 10 เท่าตัวที่นาริตะเนื้อที่แค่ 70,000 ตารางเมตร เท่านั้น จร้าป้าซิ่งแนะนำเที่ยวโตเกียว โดยการซื้อการ์ด Suigaบัตรซื้อได้จากเครื่องอัตโนมัติ สีดำข้างหลังได้เลยค่ะไปห้างฯAEON สาขา Koshigaya-laketownกันค่ะ อยากให้ลูกทัวร์ของเราวันนี้ได้ช๊อปปิ้งอาหารและขนมกันก่อนช๊อปปิ้งเสร็จ กลับมาที่สถานีคาวะกุจิบ้านเราก่อนเพื่อ เก็บของที่ซื้อมาไว้ในล๊อคเกอร์ ตอนเดินกลับบ้านคงกลับกันวันนี้สี่ทุ่มแหละเพราะเรามีแผลนข้างหน้าเยอะมาก ไม่ต้องหิ้วไปเดินล่ะ เอาไว้ในล๊อคเกอร์ก่อนแล้วกันอยากให้มาซื้อของในซุปเปอร์มาเก็ตกันตรงนี้ตรงข้างหน้าซุปเปอร์มาเก็ตมี ประติมากรรมน้ำไหลแบบตกเป็นทอดๆค่ะข้างในมีร้านเสื้อผ้า ร้านอาหาร ร้านไดโซะ ร้าน3coins ร้านกระเป๋า ฟู๊ดครอส เพียบ ร้านรองเท้า ร้านกระเป๋า ร้านเสื้อผ้าเด็ก และ แฟชั่น ฯลฯ เพียบช๊อปปิ้งเสร็จ เดินทางกลับมาแถวบ้าน เพื่อเอาของไว้ที่ล๊อคเกอร์ของสถานีรถไฟก่อนต่อจากนั้น นั่งรถไฟจากสถานีบ้านเราKawaguchi ไป Ueno ด้วยรถไฟ Kehin-tohoku line ใช้เวลา 18 นาทีเป้าหมาย มากินข้าวหน้าปลาดิบกันค่ะ เป็นมื้อเที่ยงของเราวันนี้ค่ะมาตรงซุ้มทางเข้าตลาด อะเมโยโกะ ( AMEYOKO)ต่อด้วย Takoyaki ข้างร้าน อีกกระทงป้าเตียง เขาอยากกิน ผลไม้เสียบไม้เห็นหอยนางรมสดใหม่ น่ากิน ก็กินต่อได้อีกค่ะกินแต่พอเพียง แค่ 5 ตัวก็พอค่ะทำแบบ กินสดบีบมะนาว ซัก 2 ตัวและ ย่างซัก 3 ตัวค่ะต่อจากนั้น พามากินไอศครีมชาเขียว ที่ร้านขายชาของตลาดอะเมะโยะโกะกินกันอิ่มแล้ว ก็ออกเดินทางต่อไปวัด อะสะคุสะโดยนั่งรถไฟใต้ดินสาย Ginza lines ไป 3 สถานีก็เป็นสถานีสิ้นสุดเดินมาหน่อย ก็เป็นวัดอะสะคุสะ (Asakusa temple)คนเยอะมาก ลูกทัวร์ก็อยากหาขนมญี่ปุ่นกินหลังอาหารแหละค่ะป้าซิ่งเลยบอกให้หาของกินตามสบายภายในครึ่งชั่วโมงต่อจากนี้ให้ไปเจอะกันที่กระถางธูปยักษ์ข้างในวัด ซึ่งอยู่ไม่ไกลมากขนมปังกลิ่นเมล่อนสีส้มอมเหลือง อบใหม่ร้อนๆขนมของเจ้าแมวสีฟ้า โดราเอมอน ไส้ถั่วแดง แต่มีมันญี่ปุ่นให้อีกแท่งมาตรงจุดกระถางธูปยักษ์ป้าซิ่งพาลูกทัวร์ เขาไปในโบส์ถของวัดอะสะคุสะอยากให้ไปซื้อเครื่องรางของขลังภายในวัดที่ตรงกระถางธูปยักษ์ก็มี แต่เป็นจุดกระจายกำลังไม่ให้คนมารุมที่โบส์ถของดี ของเด่น ไปด้านในกันดีกว่าค่ะ มีของที่เหมือนกันทั้งซ้ายและขวาค่ะตรงนี้คือจุดอธิษฐาน มีเทียนบูชา หยอดเหรียญเล่มละ 50 yenถ่ายรูปเครื่องรางและความหมาย มีให้อ่านเป็นภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ ค่ะเสร็จแล้วพากันไปต่อ ที่ Tokyo Skytree นั่งรถไฟจากสถานี Asakusa ไปแค่สถานีเดียวก็ถึง จบพอสังเขปกันโตเกียว สกายทรีพาไปต่อที่ ชิบูยะ ( Shibuya )นั่งรถไฟใต้ดินสาย Ginza lines จากสถานี Asakusa สิ้นสุดที่ สถานี Shibuyaเจ๊น้อย อยากไปถ่ายรูปกันน้องหมา Hachiko ผู้ซื่อสัตย์ตามตำราพามาถ่าย MV ตรงห้าแยกชิบูยะกันค่ะ อิๆแล้วแยกย้ายกันไป ซื้อของให้เวลาแค่ชั่วโมงเดียวในชิบูยะต่อจากนั้นไปกันต่อแค่นั่งสถานีเดียวถึง ฮาราจุกุพามาที่ถนน Takeshita และ ทางแยกไปที่ Omotesandoมีรีเควสกันที่ ร้าน Kiddyland กับ PLAY และ ADIDASแนะนำเสร็จ ไกด์ป้าซิ่ง ขอนั่งรอที่จุดนัดพบเป็นร้านคาเฟ่นั่งสบายๆที่ถนน Takeshita ให้กลับมาภายในเวลาทุ่มครึ่งนัดเจอะกันตามเวลา มีเร็ทนิดหน่อย ไม่ว่ากันค่ะก็ของหรือสินค้า มันต้องดูกันนิ๊ดดดนึงรวมพลกันเรียบร้อย นั่งไปต่อที่ Ikebukuro อิเคะบุคุโระเป้าหมายของทุกคน ช๊อปปิ้งยามค่ำ ที่ร้าน มัสทสุโมะโตะ คิโยชินไม่ถ่ายรูปแล้วเพลียเดินเยอะ เคยถ่ายรูปร้านนี้อยู่บ่อยด้วยจบด้วยการรอริมฟุตบาธสามทุ่มกว่า มากินมื้อเย็นที่ร้าน โอโคโนมิยากิ ที่ตึก Sunshine cityพิซซ่าญี่ปุ่น ทำกันเอง อิ่มอร่อย แล้วเดินทางกลับบ้านกันต่อไปจากสถานี Ikebukuro นั่ง Yamanoteไปเปลี่ยนสายที่ Tabata แล้วนั่งสาย Kehin-tohoku lineต่อไปลงบ้านที่สถานี Kawaguchiตั๋วรถไฟราคา 170 yenหรือจากสถานี Ikebukuro นั่งรถไฟสาย Saikyo lines เปลี่ยนสายที่ Akabane แล้วเปลี่ยนสาย Kehin-tohoku lines อีกป้ายหน้าแค่สถานีเดียวคือ Kawaguchi ราคาตั๋วรถไฟ 170 yen เหมือนกันสาธยายรายละเอียด การเดินทางกลับบ้านไว้เผื่อมีใครมาค้างที่บ้านจะได้ทำตามนี้ค่ะ
JAPAN ไปเที่ยวก็คาบของช๊อปฯมา 8-13 เดือนกันยายน 2017
ไปเที่ยวญี่ปุ่น มันก็ต้องช๊อปฯเป็นเรื่องปรกติ8-13 กันยายน 2017ผ่านไปหนึ่งเดือนแล้วเพิ่งมีเวลาทำบล๊อคน้ำหอม JO Molone หาซื้อจากสินค้ามือสอง Shinagawa Inter Buildราคา 3,000 yenกระเป๋าหิ้วลายเสื้อซีต้าร์ kate spade จากสินค้ามือสอง Shinagawa Inter Buildราคา 500 yenครีมทาหน้ากลางวัน เม็ดคาเวียร์สีชมพูราคา 3,200 yenโฟมล้างหน้า หลอดสีฟ้าหอมกลิ่นกุหลาบราคา 298 yenทรีสเม้นท์ผมกลิ่นกุหลาบ หลอดละ 1,620 yenใช้ประจำมา 10 กว่าปีแล้ว ดีมากครีมล้างหน้าเครื่องสำอางค์ เพื่อนสั่งซื้อโฟมล้างหน้าขนาดพกพา ชอบไปเที่ยวก็พกแบบนี้ค่ะล้างและเช็ดเครื่องสำอางค์ถุงทรายร้อน เตรียมเก็บไว้ เพื่อที่จะต้องไปประเทศที่หนาวๆราคาแพ็คละ 500 yenมีดโกนขน ขายดีเป็นอันดับหนึ่ง มาตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมาก็ยังครองอันดับหนึ่งตลอดไป ราคาแพ็คละ 198 yen1 แพ็คมี 3 อัน มี 3 สี ฟ้า เหลือง ชมพู ผงแช่ตัวในอ่าง กลิ่นมะนาวเย็น ราคาประมาณ 500 yenสวันรัปปุ พลาสติกปิดภาชนะอาหาร ใช้ดีจริงจังสก๊อตไบท์ญี่ปุ่น มันน่าร้ากค่ะ เพลิดเพลินกับการล้างจาน กันไปถุงเท้า WEGO 4 คู่ 1000 yenถุงน่องแค่เข่า กับ ถุงเท้า ที่ตึก 109 ชิบูยะ for womensอันละ 600-700 yen+++++++ โมเม้นท์ ของกิน กันบ้างค่ะ +++++เม็ดอม บรรจุกล่องพกพาสะดวกซอสเมนไทโกะ และ ทาระโก ราคาแพ็คละ ร้อยกว่าเยนไว้ไปทำกับสปาเก็ตตี้ แค่ไปหาเส้นสปาเก็ตตี้มาลวกแล้วเอาซอสใส่ลงไป คนให้เข้ากัน ตามด้วยสาหร่ายฝอยๆโรยหน้าเพียงเท่านี้ก็อร่อย กำลังพออิ่ม พอเพียงกับการกินค่ะยากิโซบะ มาเก็บไว้ทำเองที่บ้าน คัปปุราเมง รสดั้งเดิม และ รสแกงกะหรี่ญี่ปุ่นผสมชีสมูกิฉะ หรือ ชาข้าวบาเล่ย์เค้กช๊อคโกแล๊ตLUMONDE ขนมญี่ปุ่นที่มีนานเป็น 30 ปีแล้ว อร่อยแบบ forget me not ผลิตภัณฑ์ยี่ห้อ BOURBON ที่มีชื่อเสียงมาช้านานซุปซอง กับผงมิโซะคลุกกับผักต้มฟุเระคาเคะ ผงโรยข้าวสำหรับเด็กมิโซะมีเม็ดถั่วเหลือง ไว้ทำสลัดแตงกวาฺBlack Meijiสเต็กซอสน้ำราดผักสลัดงาขาวผงหมักไว้ทำไก่ทอดญี่ปุ่น หรือ อะราคาเงะ ใช้เนื้อไก่สะโพก ครึ่งกิโลต่อซองกาแฟ Lavazza แบบคั่วละเอียด ต้องไปทำกับเครื่องทำกาแฟห่อละ 720 yenเป็นเงินไทยประมาณ 200 กว่าบาทที่เมืองไทยขายตามห้างห่อละ 600-700 บาทกาแฟคั่วชนิดซอง เทน้ำร้อนต่อหนึ่งแก้วไดท์ซาละมิชีสฉาบแผ่นปลา 1 แพ็ค มี 2 ซอง ราคา 1,000 yenชานม Royal milk tea สุดท้ายที่สนามบินนาริตะ เที่ยวนี้ซื้อน้อยมากเพราะนั่งสายการบินแอร์เอเชีย หิ้วได้ไม่เกิน 7 กิโลเอาขึ้นไปกับตัวบนเครื่องเก็บไว้กินในเมืองไทย อีก 3-4 เดือนค่อยไปญี่ปุ่นอีกค่ะใครอยากไปเที่ยวโตเกียวกับป้าซิ่งอีกให้ตามมา จร้ากรุ๊ปล่าสุด คือ รูปข้างบนนี้
JAPAN Update เที่ยวคาวะกุจิโกะ ( Kawaguchiko ) 11.Sep:2017
วันนี้มีแผลนมาเป็นเดือนแล้วที่จองตั๋วรถบัสไป Kawaguchikoถึงฟ้าจะมืดครึ้มบ้าง ก็ต้องไปกันล่ะ เพราะแผลนวันอื่นก็เต็ม//highway-buses.jp/course/kawaguchiko.php?gclid=EAIaIQobChMImImuvfjN1QIVhZKPCh2Q1wIHEAAYAiAAEgIULPD_BwEเว็ปจองรถบัสไปคาวะกุจิโกะ ค่ะ จองผ่านและจ่ายบัตรเครดิตกันแล้วเมื่อก่อนจองแล้ว พอวันไป ค่อยไปเอาตั๋วจริง จ่ายตังค์ตรงนั้นเลยแต่เดี๋ยวนี้ เว็ปนี้ได้เปลี่ยนแปลงแล้ว จองแล้วต้องจ่ายผ่านบัตรเครดิต เลยแล้วปริ๊นท์ใบจอง พอวันไปเที่ยว Kawaguchiko ก็เอาใบจองไปขึ้นตั๋วจริงราคาไปและกลับ คนละ 3,500 yen เราไปกัน 4 คนค่ะรวม 14,000 yenตั๋วของเราได้มาแบบรวมๆคน พร้อมโชว์บัตรเครดิตการ์ด ตอนขึ้นรถด้วยหาซื้อของกินที่ร้านสะดวกซื้อ ที่ชั้นขายตั๋วหรือชั้นที่รถบัสออก Family martมาถึงหกโมงเช้า กว่ารถจะออก 06:45 am.เลยหาอะไรมากินรองท้องก่อนแป๊บพวกเรา 4 คน มี ป้าเตียง และ ลูกสาวน้องหมูแดงส่วนป้าซิ่งกับ น้อย หรือป้าไฮเทค นั่งกันเรียงเป็น A,B,C,Dนั่งรถผ่านไป 2 ชั่วโมง ก็ถึงสถานีรถบัส Kawaguchikoซื้อตั๋วแบบโปสการ์ด นั่ง Retro Bus เที่ยวได้รอบ ทั้ง Red + Green linesอายุโปสการ์ดนี้ ได้ 2 วัน ขึ้นๆลงๆได้ทุกป้าย ราคาใบละ 1,300 yen ต่อคนแต่พวกเรามาเที่ยวเช้าและกลับเดียวในวันเดียว ก็คุ้มค่ะ เอาโปสการ์ดมาปั๊มตราประทับของเมือง ภูเขาไฟฟูจิกันหน่อยค่ะสามารถติดแสตมป์ 70 yen เขียนชื่อที่อยู่ปลายทางที่ไหนก็ได้ทั่วโลกต่างประเทศก็เขียนภาษาอังกฤษหรือพื้นเมืองนั้นๆไปก็ได้ แต่ชื่อประเทศเขียนกำกับเป็นภาษาอังกฤษ ด้วยนะคะของเราประเทศไทย ก็เขียนชื่อที่อยู่เป็นภาษาไทยก็ได้แต่เขียนกำกับว่า THAILAND ตัวโตๆหน่อยค่ะแค่นี้ก็ถึงเมืองไทยภายใน 5-7 วันถึงบ้านให้คิดถึงฟูจิกันอีกรอบมารอบนี้ดีใจ ได้นั่งรถรีโทรบัส รุ่นเก๋ากิ๊กค่ะ ได้นั่งน้อยคนปัจจุบันมีรถบัสใหม่ ทันสมัยมีที่นั่งเยอะกว่าเดิมแล้วนั่งรถออกเดินทาง ผ่านร้านซุปเปอร์มาเก็ต เอารูปมาให้คนที่จะไปค้างคืนขอเซฟไว้ในบล๊อคนี้ล่ะกัน Ogino Super market สาขา kawaguchikoรถพามาแวะจุด YAGISAKI Park ป้ายที่ 6โซนนี้ได้มาทั้ง Red และ Green lines ค่ะ มาได้ทั้ง 2 สีเลยแต่ขากลับ อาจจะรอนาน ถ้าไปที่ไหนต่อ ก็ให้ถามคนรถก่อน ว่าจะไปไหนเพราะตรงนี้ มีรถที่ทั้งเพิ่งออกจากสถานี คาวะกุจิโกะ และจะเดินทางต่อไปป้ายอื่นๆอีกรถบางทีก็กำลังจะกลับเข้าสถานี คาวะกุจิโกะ ค่ะโซนนี้จะเป็นสวนดอกไม้ และภาพที่คุ้นตาคือ มีศาลเจ้าเล็กๆอยู่กลางทะเลสาปเทศกาลฤดู ลาเวนเดอร์ ของเดือนกรกฏาคม ล้างลาจากไปแล้วเหลือแต่ใบ ดอกหายหมดแล้วในเดือนที่เราไปคือกันยายนเหลือให้ดูดอกลาเวนเดอร์เพียงแค่ สักต้น สองต้นแต่อีกโซนก็มีสวนดอกไม้ ที่มีสีสรรค์ รอคอยพวกสาวๆอย่างเรา ได้มาถ่ายรูปกันได้สดชื่น ยามเช้า เหมือนกันนะ มีเส้นทางเดินดินเล็กๆ ให้ไปนั่งยองๆถ่ายรูปด้วยเราต้องตรวจดูให้แน่นอนว่า เขาไม่มีป้าย ห้ามเข้าก่อน เด๊ว จะเป็นข่าวว่า เราบุกรุกเข้าสวน ไปถ่ายรูป เสียชื่อเราหมดถ้ามีเส้นทางเดิน มีช่องทาง แบบในรูป ก็เข้าได้ค่ะเดินเข้าไปใกล้ๆ ร้านอาหาร และ เครื่องดื่ม มีของที่ระลึกด้วยภายในก็ยังมีดอกไม้ และ วิว ทะเลสาป ให้ได้ชมดอกชบาใหญ่เท่าใบหน้า หรือกระด้งดอกสีชมพูอ่อนๆพลิ้วลม ถ้าได้วิวเป็นท้องทุ่ง จะสวยงามล่ะแต่ตรงนี้มีนิดเดียว แต่ก็ได้ถ่ายรูปงามๆบางส่วนก็ยังดีค่ะวิวทะเลสาป จุดนี้ ถ้ามีต้นซากุระด้วย ถ้าช่วงกลางเดือนเมษายนดอกซากุระจะบานที่่ Kawaguchiko น่ามาเที่ยวที่สวน Yagisaki ด้วยนะคะจะเห็นเป็นทิวแถวรอบทะเลสาปแวะเข้าอุดหนุนร้านในสวนนี้หน่อยค่ะจุดนี้ไม่ค่อยมีใครแวะเท่าไหร่ นานๆรถจะเข้ามาน้องหมูแดง ขอกินไอศครีมรสองุ่น มีแคร๊กเกอร์รูปภูเขาไฟฟูจิ ด้วยส่วนป้าซิ่ง ก็ขอชุดนี้ค่ะ ของหวานชาเขียวญี่ปุ่น ชาร้อน และ ไอศครีมวานิลลาถ่ายรูปกับเทพในป่านิยาย สัญญลักษณ์ของป่าเมือง คาวะกุจิโกะ ค่ะต้นไม้บางที่ก็จะเปลี่ยนสี ก่อนเวลาอันควรแล้ว ก็มี ======================ไปอีกโซนค่ะ ป้ายที่ 22 " Kawaguchiko Natural Living Center"จุดที่มีหอนาฬิกา บลูเบอรี่ และ เห็นภูเขาไฟฟูจิเต็มหน้าทั้งลูก ทั้งหัว และ ปลายเขาและมีฟูจิจำลอง มีทุ่งลาเวนเดอร์ด้วย ดอกไม้อื่นๆมีประปรายมาวันนี้ โชคไม่ดีเลย ท้องฟ้ามืดครึ้ม แต่อากาศดีไม่ร้อนนั่งกินแถวๆนี้ สบายดีค่ะ ส่วนอาหารไปซื้อตรงครัว สุดๆในร้านค่ะฮอดด๊อก ไส้กรอกสไตร์ญี่ปุ่นน่องไก่งวงรมควัน กับ โอเด้งไว้วันหน้ามาพักตรงนี้ดีกว่า เห็นภูเขาไฟฟูจิ ตรงหน้าเลยที่พักในวงกลมแดง ถ่ายรูปแล้วว่าจะไปถามคนที่เคาน์เตอร์ของร้านซะหน่อยว่าจะติดต่อหรือมีโบรชัวร์ที่พักนี้ไหม ซะหน่อย กินซะจนลืมไปเลยค่ะไงก็ หากใครไปแล้ว ช่วยถามมาให้หน่อย นะคะ ติดต่อหลังไมค์ได้ค่ะขอบคุณล่วงหน้า ขอเบอร์โทรศัพท์ที่พักก็ยังดีค่ะ====================ไปกันต่อที่ ป้ายเบอร์ 11 ค่ะ " Kachikachi -Yama Ropewayตอนนี้ส่วนบนสุดจุดชมวิว ได้เปลี่ยนแปลงสถานที่ มีอะไรมาใหม่ ให้ได้ชมค่ะค่าขึ้นเคเบิ้ลคาร์ ไปกลับ ราคา 800 yenขึ้นไปก็มีร้านขนมและเครื่องดื่ม มีอาหารเล็กๆน้อยๆเอาเมนูมาให้ดูเรียกน้ำย่อยขนมโมจิ อร่อยๆ มีตราประทับฟูจิซังเสร็จแล้วพอใจก็ลงด้วยเคเบิ้ลคาร์กลับลงมาแล้วไปต่อที่ป้ายหมายเลข 7 Herb Hall ค่ะที่มีจะมีมวลบุพพชาติงามๆ และดอกไม้แห้งห้อยระย้าตรงเพดานชั้น 2มีผลิตภัณฑ์พันธ์ไม้ให้เลือกซื้อ และ มีไอศครีมอร่อยๆอยู่หลังร้านนะคะเช่น ไอศครีม Cremia และ ไอศครีมรส ลาเวนเดอร์เที่ยวเสร็จสิ้นเวลาผ่านไป แผลนเราต่อไปคือ ไปออนเซน ชื่อ Fujiyama Onsen กันต่อค่ะเพราะรถบัสที่เราจองกลับไว้ รอบ 18:10 pm.ใช้เวลาเดินทาง และ ลงแช่ เปลี่ยนเสื้อผ้า กลับมาที่สถานีคาวะกุจิโกะไปไม่เกิน 4 ชั่วโมงก็พอกับเวลาแช่แบบชิวๆแล้วค่ะค่าลงออนเซน 1,500 yen ภายในมีพร้อมทุกสิ่งอย่างจากสถานี Kawaguchiko ให้นั่งรถบัส สาย Blue line อยู่ไม่ไกลจากสถานีคาวะกุจิโกะ แต่อยู่ใกล้ Fuji Q Highlandถ่ายแบบรูปภาพสไตร์ญี่ปุ่น ในรูปดูดีๆมีสวนสนุกฟูจิคิว ไฮท์แลนด์ ด้วยนะคะตารางเวลารถ ถ้าไม่ทันอย่างไร เรียกแท๊กซี่ โดยไปบอกที่ฟร้อนท์ของออนเซน ว่าเราต้องการแท๊กซี่ไปส่ง ค่ะพวกเราไม่ทันเวลา เลยเรียกแท๊กซี่ กลัวกลับขึ้นรถบัสไม่ทันค่าแท๊กซี่วันนั้นจากฟูจิยามะ ออนเซน ไปส่งที่สถานี คาวะกุจิโกะ 1,200 yen ค่ะได้เวลารถบัสมาตามเวลา แต่เร็ทนะ ทุกทีเลย ตอนเย็นๆรถติดเวลาเลื่อนตลอด เลื่อนครึ่งชั่วโมงบ้าง เป็นชั่วโมงบ้างแต่ก็ได้กลับแหละค่ะ สิ้นสุดปลายทางที่สถานีชินจุกุมีกินเนื้อย่างกันต่อ ก่อนกลับบ้าน เช็คบิล ถ้าคิดเป็นเงินไทยก็จ่ายไปประมาณ 5,000 บาทสิ้นสุดคืนนี้แล้วจร้า