แซลมอนต้มสาเก


鮭の粕汁 (Sake no Kasujiru)

เมนูวันนี้ตั้งชื่อได้มั่วมากกกก ไม่รู้ว่าจะเรียกเป็นภาษาไทยว่าอะไรดี > <

ตั้งแต่รู้จักกับญี่ปุ่นมา ไม่เคยได้ยินชื่อเจ้าซุปนี่มาก่อน จนกระทั่งเมื่อปีที่แล้วค่ะคนที่บ้านร่ำร้องว่าอยากกิน อยากกินเหลือเกิน ไอ้เราก็ไม่รู้จัก รสชาติ หน้าตาเป็นยังไงก็ไม่รู้ ก็เลยไม่เคยได้ลงมือทำซักที จนเจ้าตัวคงใกล้จะลงแดงนั่นแหล่ะค่ะ ถึงได้ลุกขึ้นมาแสดงฝีมือให้ได้กินกัน

ขอบอกว่า.... ไม่อร่อยมากๆๆๆๆๆๆ ไม่อร่อยเลย จขบ.กินไปได้แค่คำเดียวก็ไม่แตะอีกเลย - -"

แ่ต่วันนี้....ไม่รู้อะไรเข้าสิง อยู่ๆก็อยากทำสนอง need คนที่บ้านซักหน่อย ไหนๆก็ไหนๆแล้วปีละครั้งก็ยังดี ^ ^

พอทำเสร็จก็ชิมรสอย่างกล้าๆกลัวๆ > <

....

........ อืม.. เข้าท่าแหะ =^ ^= ก็เลยอยากเอามาฝากกันค่ะ

แต่อย่างที่บอกอาจจะไม่ถูกปากคนไทยซักเท่าไหร่ (ถ้าใช้ปากจขบ.เป็นมาตรฐานอ่ะนะคะ) แต่พอเรารู้แล้วว่ารสมันจะออกมาประมาณไหนก็น่าจะพอทานกันได้ เหมือนกินนัตโตครั้งแรก ...อี๋.. หนืดๆ กินครั้งที่ 2 ที่ 3 เริ่มติดใจ ซักพักกลายเป็นชอบ บางคนถึงกับขาดไม่ได้ ประมาณนั้นน่ะค่ะ ^ ^

เริ่มกันเลย ^ ^/
วัตถุดิบ


ปลาแซลมอนหมักเกลือเล็กน้อย (Amajiozake – 甘塩鮭) 3 ชิ้น
เผือก 3 หัว (ปกติใช้มันฝรั่ง แต่คนที่บ้านไม่ชอบ เลยใช้เผือกแทน อร่อยดีค่ะ ^ ^)
แครอท 1 หัว
หัวไชเท้า 6 ซ.ม.
คอนยัคคุ 1 แผ่นเล็ก
กากสาเกแบบแผ่น (Sakekasu – 酒粕) 200 กรัม
ถั่วเหลืองหมัก (Miso – 味噌) 1 – 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำสต๊อคญี่ปุ่น (dashi) 6 ถ้วย
เกลือ พริกไทย โชยุ นิดหน่อย

** ปริมาณที่ทำนี่ เก็บไว้กินได้เป็นอาทิตย์ ถ้าใครอยากแค่ลองทำชิมดูก่อน ก็ลดสัดส่วนลงเอานะคะ

วิธีทำ
1. เตรียมเครื่องทั้งหมด


- หั่นเผือก แครอท หัวไชเท้าเป็นชิ้นพอคำ นำไปต้มให้พอนิ่ม (แต่ละอย่างใช้เวลาต้มไม่เท่ากัน ควรแยกต้มทีละอย่าง)
- บิคอนยัคคุเป็นชิ้นพอคำ ล้างแล้วนำไปลวก นำขึ้นโรยเกลือ พริกไทย


- หั่นแซลมอนเป็นชิ้นพอคำ นำไปลวกในน้ำร้อน แล้วนำขึ้นให้สะเด็ดน้ำ

2. นำกากสาเกไปละลายในน้ำร้อน (บิกากสาเกเป็นชิ้นเล็กๆ ใช้น้ำนิดหน่อยพอ นอกนั้นก็ต้องใช้แรงบี้ๆๆๆๆๆๆ)
** อันนี้ตอนจขบ.ทำก็บิลงไปในหม้อเลย แล้วมันไม่ค่อยละลาย จะบี้ก็บี้ไม่ได้ เดี๋ยวเครื่องเละ คุณสามีเลยบอกให้เอาไปละลายก่อนค่ะ ...ก็เมืองไทยมันไม่มีนี่นา...

3. ตั้งไฟน้ำสต๊อคญี่ปุ่นให้เดือด ใส่เครื่องทั้งหมดในข้อ 1 ลงไป ใช้ไฟกลาง


4. ใส่กากสาเกในข้อ 2 ตามด้วย Miso คนให้กระจายๆอย่างเบามือ แล้วต้มต่อประมาณ 7 – 8 นาที

5. ชิมรส ปรุงด้วยเกลือ หรือโชยุเพิ่มเติมตามชอบ

** ถ้าอยากได้อะไรเขียวๆ ก็ลวกถั่วแขกใส่ไปตอนท้ายก็ได้ค่ะ


เสร็จแล้วหน้าตาเป็นอย่างนี้ค่ะ ทำกินรอบ 2 นี่ จขบ.ติดใจอย่างไม่น่าเชื่อ ส่วนคนที่บ้านไม่ต้องพูดถึง เพราะชอบเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ^ ^

แต่จริงๆแล้วมันควรมีน้ำซุปมากกว่านี้นะคะ แต่ครั้งนี้จขบ.ทำแบบกล้าๆกลัวๆ (กลัวตัวเองกินไม่ได้) ก็เลยทำแบบขลุกขลิกๆพอ แต่พ่อบ้านยกซดอย่างไม่ปราณี เลยต้องต้มใหม่ ปรุงใหม่เลย - -"



Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2553 7:52:24 น. 0 comments
Counter : 870 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

HappyToBeMe*
Location :
Shizuoka Japan

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




เรียนเอกญี่ปุ่น ทำงานบริษัทญี่ปุ่น แต่งงานกับคนญี่ปุ่น มาใช้ชีวิตอยู่ที่ญี่ปุ่น บางช่วงก็เกลียดญี่ปุ่นเข้าไส้ บางช่วงก็รักใจจะขาด ไม่นึกว่าญี่ปุ่นจะมายุ่งเกี่ยวกับชีวิตมากมายขนาดนี้เลยนะเนี่ย

เพื่อการอ่านหน้าบล็อคให้ได้ตามความตั้งใจของจขบ. ลองดาว์นโหลดฟอนต์ดู ที่นี่ เลยค่ะ
ขอขอบคุณคุณ iannnnn มากๆที่สร้างสรรค์ฟอนต์สวยๆให้ได้ใช้กันนะคะ

**สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของรูปภาพ และ ข้อความใน blog แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยเผยแพร่และเพื่อการอ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุดนะคะ**

New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add HappyToBeMe*'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.