www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws

Group Blog
 
All blogs
 
ไม่งั้นเราจะไม่พบกัน...ตอนที่ ๒๐

เช้าวันที่ 31 ธันวาคม วันสิ้นปี น้ำเพชรอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วลงมาจากหอ วันนี้มีนัดทำโปรเจ็กส์ที่มหาวิทยาลัย และปาล์มบอกว่าจะมารับ เมื่อลงมาข้างล่างก็เห็นรถปาล์มมาจอดรออยู่แล้ว


เข้ามานั่งในรถ หันไปมองปาล์ม แล้วมองไปเบาะหลังก็เห็นหนังสือเล่มโตวางไว้เป็นกองสูง มีโน็ตบุ๊คส์วางอยู่ข้างๆ


“เตรียมพร้อมดีจัง” น้ำเพชรว่า ปาล์มหันมายิ้มนิดหนึ่ง


“วันนี้กะว่าจะทำให้เสร็จ หรืออย่างน้อยก็ต้องให้ได้เกินครึ่ง” ปาล์มตอบแล้วหันไปมองถนน สักพักก็พูดขึ้นมาลอยๆ


“เธอไม่มีธุระที่ไหนใช่ไหม”


“ก็ไม่มีนี่” น้ำเพชรตอบ “วันนี้ก็กะมาทำงานให้เสร็จอยู่แล้ว”


“อืมๆ ดีแล้ว เรานึกว่ามีนัดไปฉลองปีใหม่ กับเพื่อนสนิท” ปาล์มพูดเรียบๆ น้ำเพชรหันมามองหน้า รู้สึกแปลกๆ


“เพื่อนสนิทไหน”


“ก็....บุ้งไง”


น้ำเพชรชะงัก หันมามองหน้าปาล์ม อึ้งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบออกมา “บุ้งก็ต้องทำงาน แก้วก็ต้องทำงาน นายก็ต้องทำงานไม่ใช่หรอ แล้วจะไปฉลองกันได้ไง”


ปาล์มชะงัก หันมามองหน้าน้ำเพชร “เราด้วยหรอ...”


น้ำเพชรยิ้ม พยักหน้า ปาล์มทำหน้าแปลกๆ จะยิ้มก็ไม่ใช่ จะบึ้งก็ไม่เชิง ไม่รู้ว่าจะดีใจกับตำแหน่งเพื่อนที่น้ำเพชรมอบให้หรือเปล่า ได้แต่พูดออกมาลอยๆ


“ถึงเราจะเป็น แต่คงไม่เหมือนบุ้งหรอกมั้ง”


น้ำเพชรได้ยินแล้วแต่ทำเป็นไม่ได้ยิน ไม่ตอบ หันไปมองวิวอีกด้านหนึ่ง ต่างคนต่างเงียบไปจนถึงมหาวิทยาลัย


แพทมารับบุ้งไปมหาวิทยาลัยแต่เช้า พอบุ้งขึ้นรถมาได้ แพทก็ยื่นถุงขนมแล้วยิ้มให้


“พี่บุ้ง กินขนม”


บุ้งมองแล้วส่ายหน้า “เบื่อขนมแพทแล้วอ่ะ”


“แหม อะไรเนี่ย กินไม่กี่วัน เบื่อแล้วหรอ พี่บุ้งเนี่ยเบื่อง่ายจัง” แพทว่า บุ้งจึงหัวเราะ


“เราชอบก็กินไปคนเดียวสิ จะมาบังคับพี่กินทำไม”


“ก็หวังดี อยากให้กินของอร่อยนี่นา จะบอกให้นะ เห็นว่าเป็นพี่บุ้ง แต่เป็นคนอื่น แพทไม่สนใจหรอก”


“พี่ก็เห็นเราสนใจไปทุกคนแหละ อย่ามาพูดเลยน่า” บุ้งดักคอ แพทหันมามอง แล้วพูดยิ้มๆ


“ไม่จริงหรอกค่ะ ที่พี่บุ้งเห็นอย่างงั้น ก็เพราะไม่ได้สนใจแพทมากกว่า”


บุ้งชะงัก หันมามองหน้า “หมายความว่าไง” แพทมองบุ้ง แต่ไม่ตอบ


เมื่อมาถึงมหาวิทยาลัย บุ้งก็เดินมากับแพท ตรงไปที่ตึกคณะ สถานที่นัดทำโปรเจ็กส์


“วันเสาร์แทนที่จะนอนอยู่บ้าน ไม่รู้จะมาลำบากทำไม” บุ้งว่า


“เวลาที่เราเต็มใจทำอะไร มันไม่มีคำว่าลำบากหรอกค่ะ หรือถึงมันจะลำบากจริงๆ เราก็เต็มใจ” แพทพูดเรียบๆ บุ้งชะงักหันมามอง


“พี่บุ้งก็นึกถึงตอนที่พี่บุ้งขับรถเก่าๆ ไปรับพี่จิ๋วสิคะ” แพทพูดยิ้มๆ


บุ้งอึ้งไปพักหนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้นมา “พูดงี้หมายความว่าไง”


“พี่บุ้งก็รู้ความหมาย อย่ามาถามแพทเลย” แพทพูดเรียบๆ “อย่าคิดว่าแพทไม่รู้นะ แพทรู้ทุกอย่างแหละ แต่แพทไม่เข้าใจว่าทำไมพี่บุ้งไม่บอก หรือว่ากลัวใครเขาจะ...”


“แพท...”บุ้งรีบขัดขึ้นมาทันที “อย่าพูดอะไรเหลวไหลได้ไหม” บุ้งว่าหน้าขรึมลงไป


“แพทไม่ได้พูดเหลวไหล พี่บุ้งนั่นแหละ เป็นอะไร ทำไมไม่ยอมรับความจริง” แพทว่า บุ้งหยุดเดินหันมามองหน้าแพท


“เราอย่ามาทำรู้ดีได้ไหม”


“รู้ดีก็แสดงว่าจริงใช่ไหมพี่บุ้ง พี่จะปล่อยให้มันคาราคาซังยังงี้หรอ พี่มีหวังก็ยังดี ทำไมไม่นึกถึงคนที่เขาไม่มีหวังบ้าง บางคนแค่จะหวังยังไม่มีสิทธิเลย” แพทพูดเสียงดังขึ้น


“ไม่ใช่เรื่องของเรานะ” บุ้งพูดหน้าเข้มขึ้น ในใจรู้สึกสับสน ทำไมเขาจะไม่อยากบอกให้จิ๋วรู้ แต่ว่า ถ้าไม่มีปาล์มหรือพี่พลอยู่เคียงข้าง เขาคงจะมั่นใจมากกว่านี้


คิดๆแล้วรู้สึกยังไงก็ไม่รู้ บุ้งรู้ว่าในแววตาของเพื่อนสนิทคนที่เขาคิดอะไรเกินกว่าคำว่าเพื่อนมานานแล้วนั้น มันมีความหมายบางอย่างเมื่อยามที่เขามองสบ แต่เขาไม่อยากจะคิดเข้าข้างตัวเองว่ามันเป็นความหมายเดียวกับที่เขารู้สึก แล้วยิ่งมีคนที่ดีพร้อมอยู่ข้างๆ เขาเองก็รู้สึกไม่ค่อยมั่นใจตัวเองอย่างที่คนอย่างเขาไม่เคยรู้สึกมาก่อน


บุ้งสลัดหัวเมื่อคิดมาถึงตรงนี้ หันมามองแพท ก็เห็นแพทมองมาด้วยแววตาบางอย่างที่บุ้งรู้สึกว่ามันเศร้ากว่าที่เคย


“พี่บุ้ง อย่าขี้ขลาดได้ไหม อย่าให้แพทผิดหวังในตัวพี่เลย นึกถึงคนที่เค้าไม่มีหวังบ้าง”


บุ้งหันมามองแพท นิ่งอยู่นาน จะพูดอะไรบางอย่างแล้วก็ไม่พูด ตัดสินใจเอ่ยเสียงเรียบ “พูดเรื่องอะไรน่ะแพท ไปกันเถอะ เดี๋ยวพี่ต้องไปทำโปรเจ็กส์อีกนะ เพื่อนๆ คงมากันแล้ว”


“แพทก็พูดเรื่องของพี่กับพี่จิ๋วน่ะสิ พี่จะว่าไงล่ะ” แพทโพล่งออกมา บุ้งชะงักอึ้ง เงียบไป แพทมองแล้วยิ้มหยันๆ


“ทำไมพี่ไม่พูดล่ะ นึกหรอว่าทำอย่างนี้แล้วจะมีความสุข” บุ้งมองหน้าแพท ไม่ตอบแล้วเดินออกไป แพทมองตามก่อนจะพูดออกมา


“แค่นี้ก็ไม่กล้า แค่จะยอมรับกับความรู้สึกตัวเองยังไม่กล้า แพทเองยังกล้าเลย ขนาดรู้ว่าไม่มีหวัง แพทยังอยากจะบอก”


บุ้งชะงักเท้า หันมามองหน้าแพทอีกครั้ง แพทจ้องตาบุ้งแล้วพูดออกมาด้วยความมั่นใจ


“แพทชอบพี่...” แพทพูดพร้อมกับน้ำตาที่ซึมออกมาทางหัวตา ก่อนจะค่อยๆไหลออกมา บุ้งอึ้ง หันไปมองแพท แล้วรีบเดินเข้ามาหาทันที


เดินมาถึงตัวแพท บุ้งก็เอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้ แล้วบอกเบาๆ “แพทอย่าร้องให้ พี่ชื่นชมแพทมากนะ แพทกล้าหาญมากกว่าพี่เยอะ พี่เองยังขี้ขลาด แต่แพทกลับเข้มแข็งได้ขนาดนี้”


แพทเงยหน้ามองบุ้ง “พี่คิดว่าแพทกล้าหาญหรอคะ แพทไม่ได้ทำอะไรเลยนะ ก็แค่บอกความรู้สึกให้พี่รู้ก่อนที่มันจะไม่มีโอกาสบอก แค่นั้นเอง”


บุ้งยิ้ม “นั่นแหละ ที่พี่นับถือ และพี่ก็อยากจะบอกแพทว่า พี่ก็รักแพท...”


แพทชะงัก จ้องตาบุ้ง “พี่รักแพทหรอ รักแบบน้องสาวใช่ไหมล่ะ” รีบดักคอทันที บุ้งหัวเราะ


“ใช่ พี่รักแพทเหมือนน้องสาว” บุ้งมองตาแพท “แพทจะรับพี่เป็นพี่ชายหรือเปล่า”


แพทนิ่งไป ในใจก็คิด ไม่ได้อยากให้เป็นพี่ชายสักหน่อย บุ้งเห็นแพทไม่พูดก็พูดขึ้นมายิ้มๆ ว่า


“เอาน่า เป็นน้องสาวก็รักละน่า แถมจะรักตลอดไป เพราะตำแหน่งน้องสาวเนี่ย มันคงลาออกไม่ได้แถมเลิกก็ไม่ได้ด้วยนะ ดีออก”


แพทฟังแล้วอดยิ้มออกมาไม่ได้ มองหน้าบุ้งแล้วหัวเราะ บุ้งก็หัวเราะด้วย เอื้อมมือมาขยี้หัวแพททีหนึ่งก่อนจะพากันเดินออกไป


ไกลออกไปไม่มาก น้ำเพชรเดินมากับปาล์ม ได้ยินที่แพทพูดออกมาอย่างชัดเจน แล้วก็เห็นบุ้งเดินเข้าไปหาแพท พูดอะไรเบาๆ แล้วยิ้ม ฝ่ายแพทก็หัวเราะ แล้วบุ้งก็ขยี้หัวแพท พากันเดินออกไป..


น้ำเพชรมองภาพนั้นอย่างอึ้งๆ ในใจรู้สึกเศร้าๆ จะเศร้าเรื่องอะไรล่ะ ก็ดูเพื่อนเรามีความสุขดีนี่ เราน่าจะคิดเรื่องนี้ได้ตั้งนานแล้วนะ เรื่องบุ้งกับแพท ทำไมไปมัวคิดเข้าข้างตัวเองอยู่ได้ เฮ้อ คิดแล้วน้ำเพชรก็เผลอถอนหายใจออกมา


ปาล์มมองภาพนั้นแล้วชำเลืองมองน้ำเพชร เห็นหน้าเศร้าลงไป รู้สึกบอกไม่ถูก จะดีใจก็อาจจะใช่ แต่ก็ดีใจไม่เต็มที่เมื่อเห็นท่าทางของน้ำเพชรทึ่มีปฏิกริยากับบุ้งแบบนั้น แล้วยิ่งเห็นน้ำเพชรถอนหายใจออกมา ปาล์มก็ยิ่งรู้สึกแปลกๆ มากขึ้น


มองคนสองคนเดินไปแล้ว อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมาลอยๆ


“ดูท่าทางเขามีความสุขกันนะ”


น้ำเพชรเหลือบตาไปมองปาล์ม แต่ไม่พูดอะไร ปาล์มหันมามอง


“ว่าไง ไม่ดีใจหรอ ที่เห็นเพื่อนมีความสุข”


น้ำเพชรไม่ตอบ รีบออกเดินไปทันที แต่ปาล์มยังเดินตามมา


“ทำไมรีบเดินมาล่ะ จะรีบไปหา 2 คนนั้นหรอไง อย่าไปเป็นก้างขวางคอเขาดีกว่าน่า”


น้ำเพชรชะงัก หันมามองหน้าปาล์ม “เมื่อไหร่จะหยุดพูดสักที” ปาล์มฟังแล้วเริ่มโมโหขึ้นมา


“ทำไมล่ะ เราพูดแทงใจดำเธอหรอ ถึงทนฟังไม่ได้”


น้ำเพชรเริ่มตาเขียว จ้องหน้าปาล์มเขม็ง ทำไมต้องรู้สึกโกรธอย่างนี้ก็ไม่รู้ หรือว่าจะแทงใจดำจริง อย่างที่ปาล์มบอก


“เราจะทนฟังได้หรือไม่ได้ก็ไม่เกี่ยวกับนาย และเราจะพูดหรือไม่พูดก็ไม่เกี่ยวกับนายเหมือนกัน”


“สรุปว่าอะไรเราก็ไม่เกี่ยวกับเธอทั้งนั้นใช่ไหม น้ำเพชร ไม่ว่าวันนี้หรือวันไหน เราก็ไม่มีสิทธิไปเกี่ยวกับเธอเลยใช่ไหม ต้องเป็นไอ้บุ้งคนเดียวใช่ไหมที่เกี่ยวกับเธอได้” ปาล์มโพล่งออกมาทันควัน น้ำเพชรฟังแล้วชะงัก อึ้งไป ก่อนจะเดินออกไปทางตึกคณะด้วยอารมณ์ขุ่นมัว ส่วนปาล์มมองตามหลังน้ำเพชรนิ่งอยู่ครู่ ก่อนจะก้าวตามไป


พี่พลวิ่งเยาะๆ ไปรอบๆ สนามฟุตบอลเพื่อวอร์มร่างกายก่อนถึงเวลาซ้อม ในเวลาเช้าเช่นนี้ที่สนามฟุตบอลไม่มีใคร พี่พลวิ่งเหยียบย่ำลงไปบนต้นหญ้าที่ยังชื้นด้วยน้ำค้างยามเช้า สูดอากาศบริสุทธิ์และสลัดหัวให้สมองปลอดโปร่ง วิ่งเหยาะๆ ไปเรื่อยๆ สายตาก็เหลือบไปเห็นคนคู่หนึ่งกำลังเดินผ่านสนามฟุตบอลตรงไปยังตึกคณะ


นั่นมันน้องแพทกับบุ้งนี่นา วันนี้มาทำอะไรกันนะ พี่พลคิดก่อนจะมองไปที่น้องแพทอีกครั้ง แล้วก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงใครอีกคนเมื่อวันวานที่ผ่านมา


พลอยนอนอยู่ในห้องคนไข้ เมื่อตอนที่พี่พลและมิ้นเข้าไป หาในห้อง มีคุณแม่นั่งอยู่ชิดเตียงมองดูลูกสาวอยู่ด้วยความเป็นห่วง


พลอยหันมาเห็นพี่พลกับมิ้นก็รีบเรียกทันทีด้วยความดีใจ


“พี่พล พี่มิ้น”


พี่พลกับมิ้นสาวเท้าเข้าไปหา ชิดเตียงอีกด้านหนึ่ง



“น้องพลอยเป็นยังไงบ้างครับ”พี่พลถาม มิ้นก็ถามต่อ “ตอนนี้ยังเจ็บตรงไหนหรือเปล่าคะ”


พลอยส่ายหน้า “พลอยคงไม่เป็นอะไรมากไปกว่านี้หรอกค่ะ ปกติ พลอยก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว โรคแบบนี้ พลอยคงไม่มีทางหายไปตลอดชีวิต” พูดแล้วก็หน้าม่อยลง ก่อนจะว่า


“พลอยต้องขอโทษพี่ทั้งสองคนด้วยที่ก่อเรื่องยุ่งยาก พลอยแค่อยากลองทำอะไรสนุกๆ ที่ไม่เคยทำบ้าง ยังไงในชีวิตนี้พลอยคงไม่มีโอกาสได้ไปสวนสนุกอีกแล้ว”


พี่พลมองหน้ามิ้นแล้วหันมาพูดกับพลอยอย่างปลอบโยน


“ไม่เป็นไรหรอกครับ แต่น้องพลอยอย่าทำอย่างนี้อีกนะ พี่สองคนเป็นห่วงมากรู้ไหม”


พลอยพยักหน้า “ค่ะ พลอยก็ไม่อยากทำให้ต้องเป็นห่วงกันอีก นี่พลอยบอกคุณแม่แล้วล่ะคะว่าไม่ใช่ความผิดของพี่ทั้งสองคน เพราะพลอยเป็นหาเรื่องเอง”


คุณแม่ที่อยู่อีกข้างหนึ่งของเตียงก็พยักหน้า แล้วยิ้มให้ทั้งสองคน


“แต่พี่ก็ยังรู้สึกผิดอยู่ดี ที่ไม่ได้ดูแลน้องพลอยให้ดี” มิ้นพูด พลอยหันมายิ้มให้


“ถ้าพี่มิ้นรู้สึกผิด งั้นพี่มิ้นมาดูแลพลอยทุกวันเลยได้หรือเปล่าคะ”


“ได้สิคะ” มิ้นตอบแบบไม่ลังเล ทำเอาพลอยยิ้มอย่างถูกใจ เสร็จแล้วก็หันไปยิ้มหวานกับพี่พล...


จากวันนั้น มิ้นก็มาดูแลพลอยทุกวัน นอกจากพยาบาลพิเศษที่จ้างมาดูแลเฉพาะแล้ว ก็มีมิ้นนี่แหละที่ใกล้ชิดพลอยมากที่สุด และพี่พลเองก็ดูเหมือนจะมาเยี่ยมพลอยบ่อยมากขึ้น


แล้วความสัมพันธ์ของพี่พลและมิ้นก็งอกงามขึ้นเรื่อยๆ พอๆกับความสัมพันธ์ของพี่พล มิ้นและพลอย แต่ความสัมพันธ์อย่างหลังดูท่าจะมีอะไรบางอย่างเคลือบแคลงอยู่ อะไรที่ว่านั้นมันเกิดจากความคิดที่ไม่ตรงกัน....




Create Date : 25 มกราคม 2549
Last Update : 5 มีนาคม 2549 16:00:48 น. 0 comments
Counter : 434 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชมเช้า
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




ชมเช้า..มาจาก ชมเช้า ชมสาย ชมบ่าย ชมเย็น ชมค่ำ ทุกกาลเวลาช่างน่าชื่นชม จะเวลาไหนก็เลือกชมเอาตามสะดวก..

...เวลาเช้า เป็นเวลาที่รู้สึกสดชื่น มีชีวิตชีวา ดูสดใส จอมแก่นแสนซน ที่ไหนได้ ใครๆ เห็นชื่อแล้วบอกว่า 40 ขึ้นแน่ๆ บ้างก็ว่าป้า..เอ่อ เป็นงั้นไป...ขอบอกว่ายังห่างค่ะ ห่างมาก อิอิ...

ตอนนี้มีภารกิจเพื่อชาติให้ปฏิบัติค่ะ รู้สึกภูมิใจจังเลย (โบกมือแบบนางงาม) ดิฉันจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดค่ะ เอาใจช่วยด้วยนะคะ อิอิ...

คุณที่เข้ามาอย่าเพิ่งงงค่ะ ภารกิจอะไรขอเก็บไว้เป็นความลับ(ว่าแต่ ไม่ได้มีใครเขาอยากรู้สักหน่อย ^^") แต่ยังไงก็ขอบคุณทุกคนที่เข้ามานะคะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ อ้อ อีกอย่าง เป็นแฟนหงส์ค่ะ (เกี่ยวไหมเนี่ย อิอิ)

Friends' blogs
[Add ชมเช้า's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.