www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws

Group Blog
 
All blogs
 
ไม่งั้นเราจะไม่พบกัน...ตอนที่ ๒๔

น้ำเพชรเดินไปแล้ว บุ้งรู้สึกเหมือนกำลังเดินไปไกลออกจากชีวิตเขาไปเรื่อยๆ แล้วเขาจะปล่อยให้เป็นอย่างนี้หรือ จะปล่อยให้คนที่รักเดินจากไปง่ายๆอย่างนี้หรือ


บุ้งรีบเดินตามน้ำเพชรไปทันที เดินไปจนทัน แล้วคว้ามือเพื่อนเอาไว้ น้ำเพชรหันมามอง ถามกวนๆ


“ว่าไง มีอะไรอีกล่ะ”


“เมื่อกี้ที่แกพูดหมายความว่าไง ชั้นไม่ปล่อยให้แกเดินจากชั้นไปง่ายๆอย่างนี้หรอกนะ”


น้ำเพชรมองเพื่อนที่ยืนอยู่ตรงหน้า สายตาที่แสดงความมุ่งมั่นมองสบมาเขม็ง


“เมื่อกี้ที่ชั้นพูดหรอ...ชั้นล้อเล่นน่ะ” น้ำเพชรว่ายิ้มๆ “เอามาจากในหนังไง เคยดูเปล่า”


บุ้งฟังแล้วชะงักไป สบตาน้ำเพชรด้วยสายตาค้นคว้า เมื่อเห็นความรู้สึกบางอย่างที่ฉายชัดออกมาจากดวงตาคู่นั้น มันเป็นความรู้สึกเดียวกับที่เขารู้สึก หัวใจก็เต้นแรง


“แกล้อเล่นหรอ” บุ้งพูดอะไรไม่ออก ได้แต่ทวนคำ น้ำเพชรพยักหน้า


“ใช่ดิ ก็ล้อเล่นเหมือนพี่พลไง” น้ำเพชรพูดแล้วยิ้ม เมื่อนึกไปถึงพี่พล ก่อนจะพูดต่อ “วันนี้มีเรื่องไม่น่าเชื่อจริงๆ ก็พี่พลน่ะสิ ชั้นได้ไปดูพลุกับพี่พลด้วย”


บุ้งฟังแล้วขมวดคิ้ว หันมามองหน้าน้ำเพชร ก็เห็นกำลังยิ้ม พูดถึงพี่พลต่อไป “ชั้นเพิ่งรู้ว่าพี่พลเป็นคนๆเดียวกับคนที่ชั้นคุยด้วยทางเนตบ่อยๆ เราเข้าไปคุยในกระทู้เดียวกัน”


บุ้งขมวดคิ้วหนักขึ้น น้ำเพชรยังเล่าต่อ “ วันนี้ก็เจอกันทางเนต แล้วพี่พลชวนไปดูพลุ ชั้นก็ไปโดยที่ไม่รู้ว่าเป็นพี่พล มันไม่น่าเชื่อจริงๆนะ พี่พล...”


น้ำเพชรยังพูดไม่ทันจบ บุ้งก็ทนฟังไม่ไหว คว้ามือกระชากคนพูดเข้าไปกอดแนบแน่น น้ำเพชรชะงักอึ้ง ใจหายวาบแล้วเปลี่ยนเป็นเต้นโครมคราม พูดก็ไม่ออก ได้ยินเสียงบุ้งบอกว่า


“อะไรๆก็พี่พล เมื่อไหร่จะพูดถึงชั้นสักที”


น้ำเพชรรวบรวมสติ ขยับตัวออกจากอ้อมกอดบุ้ง แต่บุ้งไม่ยอมปล่อย


“แกปล่อยชั้นก่อนสิ” บุ้งเงียบไป ก่อนจะค่อยๆ คลายอ้อมแขนออก แต่ยังจับมือไว้ทั้งสองข้าง มองหน้าเพื่อนรักก็เห็นหน้าแดง นี่เราคิดเข้าข้างตัวเองหรือเปล่าเนี่ย บุ้งคิดพลางยิ้มๆ


“ว่าไง ปล่อยแล้ว คราวนี้ก็พูดถึงชั้นบ้างสิ” น้ำเพชรมองสบตาคู่นั้นของบุ้งแล้วเสหลบ ดวงตานั้นเป็นประกายสดใส เป็นดวงตาที่แฝงความจริงใจเอาไว้เต็มเปี่ยม


“จะให้พูดว่าไรล่ะ” น้ำเพชรตอบเมินๆ


“ถ้าไม่รู้จะพูดอะไร ก็ตอบคำถามชั้นก็ได้” บุ้งพูดยิ้มๆ “ชั้นชอบแก แล้วแกชอบชั้นหรือเปล่า”


น้ำเพชรชะงัก มองหน้าบุ้ง แล้วพูดตะกุกตะกัก “พูดตรงไปหรือเปล่า จะบ้าหรอ”


“อ้าว จะอ้อมทำไมล่ะ”บุ้งว่า มองหน้าเพื่อนอย่างพอใจ “ตอนนี้ชั้นรู้แล้ว ว่าไม่ควรงี่เง่าอีกต่อไป”


น้ำเพชรมองบุ้งแล้วค้อนให้ “น่าจะรู้ตั้งนานแล้วนะ”


“เออน่า รู้ตอนนี้ก็ยังไม่สายไม่ใช่หรอ “ บุ้งพูดแล้วยิ้มให้กวนๆ “แล้วชั้นก็รู้อีกว่า การบอกความรู้สึกให้คนที่เรารักรู้นี่มันดีจังเลย”


น้ำเพชรมองแล้วเมินไป “งั้นหรอ”


“อืม แล้วแกอยากรู้สึกดีๆ มั่งไหม”บุ้งถามยิ้มๆ มองหน้าเพื่อนนิ่งๆ น้ำเพชรสบตาแล้วพยักหน้า


“อยากรู้สึกดีก็บอกชอบชั้นดิ” บุ้งพูดหน้าตาเฉย มองสบตาเพื่อนรักแล้วยิ้ม ดวงตาเรียวเล็กนั้นเป็นประกายสุกใส น้ำเพชรมองแล้วเมินไปแอบยิ้ม แต่หัวใจพองโต มีความสุขขึ้นมาอย่างประหลาด


พี่พลเดินมาตามทางเดินเพื่อตรงไปที่สโมสรนักกีฬา ระหว่างทางก็คิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ถ้าจะบอกว่าโลกนี้มีเรื่องบังเอิญเกิดขึ้นมากมาย ก็คงต้องรวมเรื่องนี้ไปด้วย


พี่พลนึกถึงเรื่องของตัวเองกับเพื่อน จะเรียกว่าเพื่อนในเนตก็คงได้ แม้ว่าจะรู้จักกันทางเนตได้ไม่นาน แต่ความรู้สึกที่มีให้ต่อกันนั้น มันก็คือความรู้สึกของเพื่อนคนหนึ่งพึงมีต่อเพื่อนคนหนึ่ง มันเป็นความรู้สึกเชื่อใจกัน โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยเวลา ระยะทางมากำหนด


ช่วงที่เขาซ้อมบอลเครียดๆ เหนื่อยๆ หรือเวลาเศร้าๆ ไม่น่าเชื่อว่า การเล่นเนตจะทำให้เขารู้สึกดีขึ้น แม้ใครจะมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ หรือไม่มีประโยชน์อะไร แต่บางครั้งคนเราจะต้องการสาระอะไรมากไปกว่าความสุข ความสบายใจที่ได้พูดคุยแสดงความคิดเห็นกันระหว่างเพื่อนในโลกไซเบอร์เล่า


เขาได้รู้จักกับเพื่อนทางเนต ได้คุยกันในหลายๆเรื่อง แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน อยู่เสมอๆ และคนๆหนึ่งที่เขารู้สึกคุ้นเคยจนรู้สึกผูกพันธ์ก็คือ WINDY_LOVE นี่เอง

ด้วยความที่คุยกันถูกคอ และมักจะมาเจอกันในกระทู้บ่อยๆ จะด้วยรสนิยม ความคิด ความชอบหรือจะเป็นเพราะความบังเอิญอะไรก็ตาม แต่ก็ทำให้พี่พลรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้เจอ WINDY_LOVE และได้พูดคุยแสดงความคิดเห็นกัน โดยไม่ต้องการอะไรมากกว่านี้


เขาได้พบและได้คุยกับ WINDY_LOVE มาเรื่อยๆ จนถึงวันนี้ วันสิ้นปีเก่า และเมื่อเริ่มต้นปีใหม่ เขาก็ได้พบกับ WINDY_LOVE ได้พบกันโดยบังเอิญ แต่เป็นความบังเอิญที่น่าประทับใจ มันไม่สำคัญหรอกว่าเธอจะเป็นใคร ไม่สำคัญว่าจะได้พบกันหรือไม่ เพราะความรู้สึกดีๆ ที่มีให้กันนั้นมันไม่มีอะไรจะเปลี่ยนแปลงได้อยู่แล้ว


ที่สนามฟุตบอลนั้น พี่พลมองน้ำเพชรอย่างอึ้งไป ก่อนจะยิ้มออกมาแล้วเดินเข้าไปหา เมื่อเห็นคนตรงหน้าน้ำตาซึมออกมา เขาก็รีบปลอบเหมือนกับปลอบน้องสาวตัวเล็กๆคนหนึ่ง


“ว่าไง จะบอกพี่ได้หรือยัง ว่าร้องให้ทำไม”


น้ำเพชรส่ายหน้า ไม่ตอบแต่กลับถามมาว่า “พี่พลเป็นนายล่องลอยจริงๆหรอคะ”


พี่พลยิ้มแล้วว่า “พี่คงล้อเล่นมั้ง” น้ำเพชรชะงักหันมามองหน้า พี่พลจึงรีบแก้ “ไม่ครับๆ ไม่ได้ล้อเล่น ไม่ต้องสงสัยไปหรอกน้องจิ๋ว โลกนี้มันก็มีเรื่องแปลกประหลาดอย่างนี้เสมอแหละ”


น้ำเพชรมองพี่พลนิ่งไป ก่อนที่น้ำตาจะไหลมาอีก “พี่พลคะ ถ้าพี่พลเป็นนายล่องลอยจริง ก็ต้องช่วยจิ๋วเหมือนที่ช่วย WINDY_LOVE นะ”


“ได้สิครับ บอกมาสิ” พี่พลรับคำยิ้มๆ “น้องจิ๋วร้องให้เรื่องอะไร ร้องให้ให้ใคร”


“ก็.....” น้ำเพชรพูดไม่ออก เห็นหน้าพี่พลแล้วก็นึกอยากร้องให้ขึ้นมา เพราะมันนึกไปถึงคนอีกคนหนึ่ง ทำไม ทำไมคนๆนั้นถึงไม่ดีเหมือนพี่พลนะ


“ทำไมเขาไม่ดีเหมือนพี่พล” นึกแล้วก็รำพึงออกมา


“หือ รู้ได้ยังไงว่าเขาไม่ดี” พี่พลว่าแล้วหน้าขรึมลงไป “แล้วรู้ได้ยังไงว่าพี่ดี บางที มันอาจกลับกันก็ได้”


น้ำเพชรส่ายหน้า รีบบอกทันที “ไม่จริงหรอกค่ะ พี่พลดีจริงๆ พี่พลทำให้อุ่นใจและเชื่อมั่นได้เสมอ แต่เค้า...ไม่เคยชัดเจนอะไรเลย จิ๋วไม่แน่ใจอะไรเกี่ยวกับเค้าเลย”


“แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าเค้าจะไม่ดีนะครับ บางทีเรื่องแบบนี้อาจต้องใช้เวลา”


น้ำเพชรส่ายหน้าอีกครั้ง “คงไม่มีประโยชน์แล้วล่ะค่ะ เพราะเขาคงใช้เวลาไปกับคนอื่นแล้ว” พูดแล้วก้มหน้า เมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อเช้าขึ้นมา แพทบอกรักบุ้ง และบุ้งก็เดินเข้าไปหา พูดคุยหยอกล้อกัน ที่บุ้งไม่ชัดเจนกับเราก็เพราะจะไปชัดเจนกับแพทมากกว่า


พี่พลหันมามองหน้าน้ำเพชร มองตาแล้วพูดว่า


“ฟังพี่นะน้องจิ๋ว การที่เรารักใครสักคนหนึ่ง มันเป็นความรู้สึกพิเศษที่สวยงามมาก ไม่ว่าเราจะได้รับความรักตอบหรือไม่ก็ตาม แต่ความรักนั้นก็จะสวยงามอยู่ในใจเราเสมอ”พี่พลหยุดแล้วพูดต่อ


“เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะทำอะไร คิดให้ดีก่อน สิ่งสำคัญก็คือ อย่าเพิ่งไปคิดหรือด่วนสรุปอะไรทั้งนั้น ไม่อย่างนั้น บางทีเราอาจจะทำลายความรัก ความสวยงามในใจเราอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์”


น้ำเพชรมองหน้าพี่พล พูดไม่ออก พี่พลจึงพูดต่อ “เชื่อพี่นะน้องจิ๋ว อย่าเพิ่งสรุปหรือปักใจเชื่ออะไร พี่ไม่อยากให้เสียใจทีหลัง”


พี่พลพูดแล้วลูบผมน้ำเพชรอย่างอ่อนโยน น้ำเพชนเงยหน้าขึ้นมามองพี่พลด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจและซึ้งใจ


“พี่พลรู้ไหม จิ๋วดีใจมากเลยค่ะที่รู้ว่าพี่พลคือนายล่องลอย เพราะจิ๋วจะได้มีใครคนหนึ่งที่รู้ใจและเข้าใจเสมอ ยินดีที่ได้พบนะคะ นายล่องลอย”


“พี่ก็ยินดีครับที่ได้พบ WINDY_LOVE หวังว่ามีอะไร เราจะคุยจะปรึกษากันเหมือนก่อนนะครับ”


“แน่นอนค่ะ เรายังเป็นเพื่อนในเนตกันอยู่เหมือนเดิม” น้ำเพชรยิ้ม


“เราจะมาเจอกันในวันที่มีความสุข และมาร่วมทุกข์ในวันเศร้าๆ เหมือนเดิมนะ”พี่พลยิ้มสดใส ตาเป็นกระกาย เงยหน้ามองไปบนฟ้า พลุยังจุดอยู่อย่างต่อเนื่อง ก็หันไปบอกน้ำเพชรว่า


“พี่ต้องไปแล้วล่ะ น้องจิ๋วล่ะ”


“ค่ะ จิ๋วก็จะไปเหมือนกัน” น้ำเพชรตอบแล้วออกเดินเคียงข้างกัน มาหยุดอยู่ที่ข้างสนาม


“อย่าลืมที่พี่บอกนะครับ รับฟังและรอคอยเขาหน่อย พี่เชื่อ ว่าความรัก เมื่อถึงที่สุดแล้ว มันจะแสดงอานุภาพออกมาเอง คราวนี้ก็ขึ้นอยู่ที่เราแล้วล่ะ”


คิดมาถึงตรงนี้แล้วพี่พลก็ยิ้ม ภาวนาให้ความรักของน้องจิ๋วสมหวังด้วยเถอะ อย่าให้เหมือนพี่เลย มีความรัก มีคนที่รัก แต่ไม่สามารถจะทำอะไรได้ ได้แต่มองดูอยู่ห่างๆ


ว่าแต่ ที่เราบอกน้องจิ๋วไปว่า อานุภาพแห่งความรักมันจะแสดงออกมาเอง แล้วเราจะมีโอกาสนั้นไหมนะ พี่พลคิดพลางเดินไปพลาง จนถึงสโมสรนักกีฬา


ราวกับความคิดคำนึงจะส่งถึงกัน เพราะเมื่อพี่พลเดินมาจนถึงลานโล่งหน้าสโมสรนักกีฬาที่มีเก้าอี้หลายตัววางอยู่นั้น เขาก็เห็นใครคนหนึ่งกำลังนั่งหันหลังก้มหน้าดูเอกสารปึกหนึ่งอยู่


ที่ๆเธอนั่งประจำ ที่เขาคุ้นตา และเธอก็มาอยู่ตรงนี้อีกครั้งหนึ่ง มิ้นนั่นเอง พี่พลเผลอมองผมยาวสลวยด้านหลังของมิ้นเหมือนเคย มองด้วยสายตาที่เคยมองเมื่อหนึ่งปีก่อน มันไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลย ไม่เลย...


ราวกับมิ้นจะรู้สึกตัวมามีคนมองอยู่ จึงหันหลังกลับมา และก็พบกับดวงตาคู่นั้นของพี่พล ดวงตาที่ทำให้หวั่นไหวในใจได้เสมอ แม้เวลาจะผ่านไปนานแล้ว แม้ว่าจะเพียรบอกตัวเองไม่รู้กี่ครั้งว่าเป็นไปไม่ได้อีกแล้วก็ตาม


ทั้งสองสบตากันนิ่งๆ เหมือนตกอยู่ในภวังค์ แล้วพี่พลก็รู้สึกตัวก่อน เดินเข้าไปหามิ้น แล้วนั่งลงข้างๆ


“มิ้นมาทำไรครับ แล้วเพื่อนหายไปไหนหมด” พี่พลถามพลางมองไปรอบๆ ไม่มีใครอยู่จริงๆ


“เพื่อนๆ กลับกันหมดแล้วค่ะ มิ้นก็กำลังจะกลับ รอที่บ้านมารับอยู่ ก็เลยอ่านเอกสารการประชุมกรรมการนักกีฬาไปพลางๆก่อน”


“งั้นผมนั่งเป็นเพื่อนนะ”


“แล้วพลไม่กลับบ้านหรอคะ ซ้อมเสร็จหรือยัง” มิ้นหันมาถาม พยายามหลบสายตาที่มีความหมายคู่นั้น พยายามไม่คิดอะไร


“ก็ กำลังจะกลับครับ นักกีฬาก็แยกย้ายไปกันหมดแล้ว ผมแวะมาเอาโน๊ตบุ๊คส์” พี่พลบอกพลางมองไปที่โน๊ตบุ๊คของตัวเองที่วางอยู่อีกโต๊ะหนึ่ง มิ้นมองตาม พยักหน้ารับรู้ แล้วเงียบไป ต่างคนต่างมองเมินไปทางอื่น แม้จะนั่งอยู่ข้างๆ กัน


แล้วสุดท้าย พี่พลก็หันมาหามิ้น แล้วพูดเบาๆ


“สวัสดีปีใหม่ครับมิ้น ขอให้มีความสุขมากๆ คิดอะไรสมความปรารถนานะครับ” มิ้นชะงักหันมามองหน้าแล้วตอบ


“สวัสดีปีใหม่ค่ะพล ขอให้มีความสุขมากๆ คิดอะไรสมความปรารถนาเช่นกัน”


พี่พลยิ้มขื่นๆ “แต่ตอนนี้สิ่งที่ผมคิด ทำไมมันไม่สมความปรารถนาเลยล่ะครับ”


“อะไรล่ะคะ “ มิ้นเผลอถามออกไป


“ก็ผมปรารถนาให้เรากลับมารักกันเหมือนเดิม แต่ทำไมไม่เห็นเป็นอย่างที่ผมคิดเลยล่ะครับ” พี่พลพูดเรียบๆ จ้องหน้ามิ้นนิ่ง มิ้นเงียบไปก่อนจะตอบออกมา


“เรื่องบางเรื่องมันก็อยู่เหนือความควบคุมค่ะ และบางเรื่อง มันก็ผ่านไปแล้ว”


“มันผ่านไปแล้วก็จริง แต่สำหรับผมทุกอย่างยังเหมือนเดิม”พี่พลตอบเสียงหนักแน่น “ถ้าผมจะบอกว่าผมชอบมิ้น มันก็มาจากความรู้สึกผมจริงๆ ความรู้สึกที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยแม้ว่าเวลาจะผ่านไปเป็นปีแล้วก็ตาม”


“แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรล่ะคะ” มิ้นมองพี่พลด้วยสายตาปวดร้าว แม้คำพูดของพี่พลจะเหมือนน้ำที่มาคอยชะโลมหัวใจแห้งผากให้ชุ่มชื่นขึ้น เมื่อนึกถึงความเป็นจริงแล้ว มันก็เป็นไปไม่ได้


“มันไม่มีประโยชน์อะไรหรอกค่ะ พล มันเป็นไปไม่ได้ พลลืมแล้วหรอ ลืมน้องพลอยแล้วหรอ”


“ก็เพราะผมไม่ลืมนี่ไง ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา เราถึงห่างเหินกันอย่างนี้” พี่พลตอบแล้วมองมิ้นด้วยสายตาปวดร้าวเช่นเดียวกัน


“ ถ้าพลไม่ลืม ก็คงจะไม่ลืมที่เราสองคนเคยสัญญากับน้องพลอยเอาไว้ วันนั้น ที่น้องพลอยหมดสติไป พวกเราสองคนต่างตกลงกันว่า จะทำอะไรก็ได้ให้น้องพลอยดีขึ้น และน้องพลอยก็ขออะไรอย่างหนึ่ง น้องพลอยขอให้เราสัญญา...”


พี่พลพยักหน้า “ผมจำได้ไม่ลืม น้องพลอยขอสัญญาจากเราสองคน ว่าเราจะต้องเลิกสนิทสนมกัน เพราะน้องพลอยทนไม่ได้ที่จะต้องกลายเป็นส่วนเกิน” พี่พลพูดแล้วนึกถึงน้องพลอยในตอนนั้น สภาพของน้องพลอยนั้นน่าสงสารมาก ในภาวะจิตใจอ่อนแอ ก็ทำให้ร่างกายอ่อนแอจนเกิดโรคแทรกซ้อนตามมาอีกมากมาย มากจนน้องพลอยเองต้องขอสัญญา..


“ถ้าพลอยไปแล้ว พี่สองคนอย่าสนิทสนมกันได้ไหมคะ มันอาจฟังดูเหมือนเห็นแก่ตัว แต่พลอยอยากจะขอ ในฐานะที่เราทั้งสามคนรักกันได้ไหมคะ จะทำเพื่อพลอยสักครั้งได้ไหม พลอยไม่อยากเป็นส่วนเกินของพวกพี่ ที่รอเวลาที่จะถูกลืมเท่านั้น พลอยไม่อยากเป็น พลอยอยากจะอยู่ในความทรงจำและความคิดคำนึงของพวกพี่ตลอดไป...”


น้องพลอยว่าหายใจรวยริน “เมื่อพลอยไปแล้ว ก็ขอให้ได้เป็นคนสำคัญในใจพี่ทั้งสองคนนะคะ” แล้วพลอยก็เหนื่อยเกินกว่าที่จะพูดอะไรได้อีก ทั้งพี่พลและมิ้นต่างมองหน้ากัน แล้วรับคำพลอยในทันที


“ครับ พี่สัญญา” พี่พลพูดหนักแน่น แต่แววตาเศร้า ส่วนมิ้นก็พูดต่อ


“พี่ก็สัญญาค่ะ”


แล้วทั้งสองก็ได้เห็นความพอใจฉายชัดขึ้นมาบนใบหน้าของน้องพลอย แม้ไม่มีแรงจะพูดแล้ว ได้แต่นอนหายใจรวยริน แต่ก็ยังมองพี่ทั้งสองคนด้วยแววตาลึกซึ้ง ก่อนจะค่อยๆ หลับตาลง


พี่พลนึกถึงเรื่องราวในตอนนั้นแล้วอดเศร้าไม่ได้ หันมามองมิ้น พูดออกมาเบาๆ


“เราคงไม่มีทางกลับมารักได้ใช่ไหมครับ มิ้น” มิ้นมองสบตาพี่พลเศร้า


“มันคงเป็นไปไม่ได้อีกแล้วล่ะค่ะ เราต้องรักษาสัญญา” มิ้นตอบเบาๆ ด้วยแววตาเศร้า แล้วแอบเมินหน้าไปซ่อนหยาดน้ำตา



Create Date : 25 มกราคม 2549
Last Update : 5 มีนาคม 2549 16:12:06 น. 0 comments
Counter : 245 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชมเช้า
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




ชมเช้า..มาจาก ชมเช้า ชมสาย ชมบ่าย ชมเย็น ชมค่ำ ทุกกาลเวลาช่างน่าชื่นชม จะเวลาไหนก็เลือกชมเอาตามสะดวก..

...เวลาเช้า เป็นเวลาที่รู้สึกสดชื่น มีชีวิตชีวา ดูสดใส จอมแก่นแสนซน ที่ไหนได้ ใครๆ เห็นชื่อแล้วบอกว่า 40 ขึ้นแน่ๆ บ้างก็ว่าป้า..เอ่อ เป็นงั้นไป...ขอบอกว่ายังห่างค่ะ ห่างมาก อิอิ...

ตอนนี้มีภารกิจเพื่อชาติให้ปฏิบัติค่ะ รู้สึกภูมิใจจังเลย (โบกมือแบบนางงาม) ดิฉันจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดค่ะ เอาใจช่วยด้วยนะคะ อิอิ...

คุณที่เข้ามาอย่าเพิ่งงงค่ะ ภารกิจอะไรขอเก็บไว้เป็นความลับ(ว่าแต่ ไม่ได้มีใครเขาอยากรู้สักหน่อย ^^") แต่ยังไงก็ขอบคุณทุกคนที่เข้ามานะคะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ อ้อ อีกอย่าง เป็นแฟนหงส์ค่ะ (เกี่ยวไหมเนี่ย อิอิ)

Friends' blogs
[Add ชมเช้า's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.