ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการกัดสีผม

กัดสีผม



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

หลากหลายปัญหาเกี่ยวกับเรื่องผม มักจะมีเรื่องกังวลตามมาด้วยอยู่เสมอ เรื่องการกัดสีผม นี่ก็อีกเช่นกันที่สาว ๆ หลายต่อหลายคนกลัว แต่ถ้าหากอยากจะมีสีผมจี๊ด ๆ แซ่บ ๆ แล้วละก็ต้องผ่านกระบวนการ ฟอก กัด สีผมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ฉะนั้นก่อนเตรียมไปทำสีผมให้สวยเด่น ลองไปเก็บข้อมูลกันไว้ก่อนดีไหมค่ะ

ควรเตรียมตัว เตรียมใจก่อนลงมือ

          หากสาว ๆ เลือกที่จะกัดสีผมแล้วนั้นจะต้องเข้าใจว่าเส้นผมที่ได้รับการกัด จะแห้งและเสียมาก เพราะน้ำยา สารเคมีที่ใช้ในการกัดนั้นค่อนข้างรุนแรง จึงควรให้ช่างทำสีผมที่มีความเชี่ยวชาญเป็นคนกัดสีให้จะได้ผลดีที่สุด แต่ท้ายที่สุดแล้วหากสาว ๆ จะลงมือทำเองนั้นก็ควรมีการเตรียมเส้นผมให้พร้อม ควรทิ้งระยะการใช้เคมี อย่างการดัด ยืด ทำสีมาก่อนล่วงหน้า 2 อาทิตย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีแผลสดหรือสะเก็ดแผลบนหนังศีรษะก็ต้องรักษาให้หายสนิทเสียก่อน จึงทำการกัดสีผมได้

ไล่เรียงวิธีการกัดสีผม

          การกัดสี จะไม่เหมือนกับการทำสีตรงที่ว่า การกัดคือการทำให้สีผมนั้นอ่อนลง ไม่ได้เป็นการใส่สีลงไปที่เส้นผมเหมือนการทำสี โดยหาซื้อวัสดุและอุปกรณ์หลัก ๆ ได้จากร้านบิวตี้เสริมสวยทั่วไป ทั้งแบบสำเร็จรูปก็มีอยู่หลายยี่ห้อหรือจะหาซื้อแบบแยกชิ้นก็มีขาย ดังต่อไปนี้ คือไฮโดรเยนเปอร์ออกไซด์ ผงฟอก ภาชนะผสม แปรงป้าย ถุงมือ วาสลีน เป็นต้น

          เริ่มด้วยการทาวาสลีนให้ทั่วกรอบหน้าและใบหู เพื่อป้องกันสีติดกับผิวหนังในภายหลัง แล้วจึงเตรียมไฮโดรเยนเปอร์ออกไซด์ โดยเลือกใช้ตามสภาพเส้นผมตั้งแต่ 6% , 9% และ12% ยิ่งเปอร์เซ็นต์มากสีที่ออกมาก็จะยิ่งอ่อนมากไปผสมกับผงฟอกใส่ตามปริมาณที่แต่ละยี่ห้อกำหนดไว้ คนให้เข้ากันดี จึงค่อย ๆ ทาให้ทั่วทั้งศีรษะแบบชุ่ม ๆ ถ้าไม่ทั่วถึงจะทำให้ผมออกมาด่าง แล้วเว้นโคนไว้ (เหมือนกับการทำสีผม) จากนั้นจึงเติมโคน ทิ้งไว้จนได้สีในระดับที่ต้องการ แล้วจึงล้างออกด้วยแชมพูอ่อน ๆ เป่าให้แห้งก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

กัดสีผม

เทคนิคการดูแลหลังการกัดสี

  เมื่อกัดสีและลงสีผมที่ต้องการแล้วให้แวกซ์เคลือบเงาลงไปด้วย เพราะสีผมที่ฟอกนั้นจะหลุดเร็ว แถมยังได้สีผมสวย เปล่งประกายเงางาม

  เลือกใช้ทรีทเม้นท์บำรุงผม ครีมนวดผมสำหรับผมทำสีทุกครั้งหลังสระ เน้นยี่ห้อดี ๆ เพื่อคืนสุขภาพให้กับเกล็ดผมที่เราได้ทำร้ายไป

  รับประทานอาหารที่มอบวิตามิน แร่ธาตุบำรุงเส้นผมให้สวยอย่าง ปลาแซลมอน นมถั่วเหลือง ข้าวกล้อง งาดำ ฟักทองและแครอท


          อย่างไรก็ดีสาว ๆ ต้องไม่ลืมที่จะศึกษาขั้นตอนและเครื่องมือที่ใช้ให้ถูกต้องเพื่อป้องกันอันตรายจากเคมีในการกัดสีผมกันด้วยนะคะ




 

Create Date : 15 มีนาคม 2556    
Last Update : 15 มีนาคม 2556 8:18:03 น.
Counter : 5476 Pageviews.  

ปาก 2 สี เฉพาะ “สาวมั่น“

แน่นอนว่าสุภาพสตรีผู้นิยมเมกอัพมักให้ความสำคัญกับการแต่งหน้าทาปากเขียนคิ้ว มีกรุเครื่องสำอางที่อุดมไปด้วยสีสันของการแต่งแต้ม ซึ่งมีเฉดสีและโทนการแต่งหน้าตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละวัน

บางวันอาจจะแต่งหน้าโดยเน้นการเล่นเฉดสีฉูดฉาด เสริมด้วยบุคลิกให้เปรี้ยวซ่า เติมพวกแก้มให้มีสีสันสดใส ปรุงแต่งได้หลากหลายสี

แต่บางครั้งการเลือกสีลิปสติกที่มีเฉดสีใกล้เคียงกันเป็นเรื่องที่ตัดสินใจยากพอสมควร ประหนึ่งรักพี่เสียดายน้อง

เนื่องจากลิปสติกมีให้เลือกหลากสี หากวันไหนที่อยากปรับลุกสีปากให้โดดเด่น ก็สามารถเลือกลิปสติกสองสีมาทาริมฝีปากให้จัดจ้านสดใส เรียบหรูดูดีได้แบบไม่รู้สึกเขินอาย เพียงแต่ต้องจับคู่สีและการระบายให้ถูกที่ถูกทาง และที่สำคัญต้องมีความกล้าพอสมควรในการเปลี่ยนแปลงตัวเอง

เปลี่ยนสีปากปรับลุคเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเองได้ไม่ยาก เพียงแค่เลือกสีที่เหมาะทาปากบน และเลือกอีกสีหนึ่งทาปากล่าง หรือจะเติมสีตรงกลางปากอีกสี เสริมด้วยเกล็ดแวววับสำหรับงานกลางคืน เพียงเท่านี้ก็สามารถอวดเรียวปากสวยได้ไม่ซ้ำใคร



  • สนับสนุนเนื้อหา นสพ.ประชาชาติธุรกิจ




 

Create Date : 14 มีนาคม 2556    
Last Update : 14 มีนาคม 2556 8:09:35 น.
Counter : 1738 Pageviews.  

โมเมพาเพลิน (ของฝากจาก New York) 11 มีนาคม 2556

โมเมพาเพลิน (ของฝากจาก New York) 11 มีนาคม 2556


สวัสดีค่า สวัสดีคุณผู้ชมที่น่ารักทุกคนนะคะ ปีนี้เป็นปีที่สองแล้วที่โมเมได้มีโอกาสไป New York Fashion Week กับเครื่องสำอาง Maybelline ค่ะ และเมื่อได้ไปถึงที่เคาน์เตอร์เครื่องสำอา­งต่างๆ ไม่มีทางที่โมเมจะกลับมามือเปล่าแน่นอนค่ะ คราวนี้ก็เป็นสรรพสิ่งที่ไปตำมาติดไม้ติดม­ือกลับมาให้คุณผู้ชมได้ชมกัน

โมเมพาเพลิน (ของฝากจาก New York) 11 มีนาคม 2556




 

Create Date : 12 มีนาคม 2556    
Last Update : 12 มีนาคม 2556 7:44:45 น.
Counter : 1653 Pageviews.  

วิธีทำให้ดวงตาดูคมเข้ม โดยไม่ต้องใช้อายไลน์เนอร์

แต่งหน้า



ฉันไม่ชอบกรีดอายไลน์เนอร์เลยค่ะ มีวิธีไหนทำให้ดวงตาดูคมเข้มโดยไม่ต้องใช้อายไลน์เนอร์บ้างมั้ยคะ ? (Lisa)

A : นี่คือวิธีเพิ่มความคมเข้มให้ดวงตา โดยไม่ต้องใช้อายไลน์เนอร์สักหยดเดียว

  เตรียมผิวบนเปลือกตา ด้วยการแตะแต้มครีมรองพื้นหรือคอนซีลเลอร์ลงไป แล้วเกลี่ยขึ้นไปจนถึงโหนกคิ้ว ถ้าคุณใช้อายแชโดว์เนื้อฝุ่นก็อย่าลืมปัดแป้งฝุ่นโปร่งแสงลงไปก่อน

  ใช้พู่กันทาอายแชโดว์โทนสีกลาง ๆ ลงบนเปลือกตาเป็นรูปครึ่งวงกลม โดยเริ่มจากหางตาแล้วเกลี่ยให้ทั่วเปลือกตาตั้งแต่ฐานขนตาจนถึงรอยพับ

  ใช้พู่กันอันเล็กไล้อายแชโดว์สีเข้มกว่าเดิมเล็กน้อยบริเวณรอยพับ โดยเกลี่ยลงมาถึงหางตา และพยายามเกลี่ยให้ดีอย่าให้เป็นเส้นขอบแข็ง ๆ

  ใช้พู่กันปลายแหลมอันเล็ก ๆ แตะแต้มอายแชโดว์สีเข้ม ๆ ลงในบริเวณช่องว่างระหว่างโคนขนตา จบด้วยการปัดมาสคาร่าทั้งขนตาบนและล่าง









ขอขอบคุณข้อมูลจาก




 

Create Date : 11 มีนาคม 2556    
Last Update : 11 มีนาคม 2556 8:31:21 น.
Counter : 2080 Pageviews.  

How to เพิ่งรู้ว่าเล็มหน้าม้าด้วยตัวเองไม่ยากเลย !

วิธีตัดผมหน้าม้า



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก thebeautydepartment.com

คุณเป็นอีกคนหนึ่งที่ไว้ผมหน้าม้าหรือเปล่า? แล้วหน้าม้าของสาว ๆ ยาวแค่ไหนกันเอ่ย ของใครเริ่มทิ่มหน้าทิ่มตาแล้วก็ถึงเวลาจะต้องเล็มออกบ้างแล้วล่ะค่ะ แต่เรื่องแค่นี้ไม่จำเป็นต้องพึ่งฝีมือช่างก็ได้นะ เพราะคุณสามารถจัดการเล็มผมหน้าม้าด้วยตัวเองได้ง่าย ๆ ใครที่เคยคิดว่ายากลองมาดู How to ดี ๆ จาก thebeautydepartment อันนี้ซะก่อน แล้วคุณจะรู้ว่าแค่เล็มผมหน้าม้าของตัวเองนั้นไม่ยากเลย .. จริง ๆ นะ ^^

วิธีตัดผมหน้าม้า

  อุปกรณ์ที่คุณต้องใช้ ได้แก่ กรรไกรตัดผม และ กรรไกรซอย


วิธีตัดผมหน้าม้า

1. เริ่มต้นจากผมที่แห้งสนิท (ในการเล็มผมแบบนี้อย่าเริ่มต้นจากผมที่เปียก หรือใช้น้ำลูบผมเด็ดขาด เพราะมันจะทำให้คุณคะเนความยาวของเส้นผมได้ยาก แถมเมื่อแห้งมันก็จะกระดกขึ้นไปกว่าเดิม ในเวลานั้นคุณอาจพบว่าเผลอตัดจนสั้นเต่อไปมากเลยก็ได้) แบ่งผมส่วนหน้าม้าออกมา ซึ่งคุณควรแบ่งตามแนวผมธรรมชาติไม่ควรสร้างแนวผมขึ้นมาเอง ซึ่งทำได้ด้วยการมัดผมหางม้าหลวม ๆ สูง ๆ จากนั้นก้มศีรษะลงและเขย่าผมจนผมส่วนหน้าม้าร่วงลงมา

2. รวบผมที่เหลือไว้ด้านหลังหรือมวยไว้บนศีรษะ จะได้ไม่เผลอไปตัดเข้าโดยไม่ตั้งใจ

3. จัดแต่งผมหน้าม้าตามสไตล์ที่คุณทำเป็นประจำทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นหวีเรียบ ๆ กับหวีแบน หรือจะเซ็ตให้มีวอลลุ่มด้วยหวีแปรง ฯลฯ

4. เช็กดูความลึกของผมหน้าม้าด้วยการแบ่งผมออกเป็นสองฝั่งซ้ายขวา คุณก็จะเห็นแนวผมที่บอกความลึกของหน้าม้าได้ชัดเจน ซึ่งจะช่วยให้คุณแบ่งผมเป็นสองส่วนตามแนวขวาง ด้านบนและด้านล่างได้ง่ายขึ้น

วิธีตัดผมหน้าม้า

5. แบ่งผมเป็นสองส่วนด้านบนและด้านล่าง โดยคุณจะเริ่มตัดจากชั้นล่างก่อน วิธีนี้มีข้อดีคือ หากตัดผมชั้นล่างแหว่งไปก็ยังมีผมชั้นบนมาคอยช่วยปกปิดความไว้ได้

6. ใช้กิ๊บเก็บผมด้านบนไว้ก่อน โดยให้ใช้กระดาษทิชชู่รองใต้กิ๊บก่อนจะติดกับผมเพื่อป้องกันไม่ให้ผมเกิดรอย

7. ติดกิ๊บแล้วก็จะเป็นดังรูปที่ 7 นี้ค่ะ

วิธีตัดผมหน้าม้า

8. เริ่มตัดผมส่วนด้านล่างก่อนด้วยกรรไกรตัดผม ใช้กรรไกรตัดผมทำมุมเฉียง ๆ กับปลายผมแล้วเล็มไปเรื่อย ๆ โดยแนวผมม้าของคุณไม่ควรสูงเกินกว่าระดับคิ้ว

9. ระหว่างตัดหวีปัดผมไปทางซ้ายและขวาบ้าง ซึ่งจะทำให้คุณเห็นผมในทิศที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น รวมทั้งยังแก้ปัญหาผมแฟบแบนติดหน้าผากขณะตัดหน้าม้าได้ดี

10. เมื่อตัดผมส่วนล่างได้ตามระดับที่ต้องการแล้ว ปล่อยผมส่วนบนที่ติดกิ๊บไว้ลงมา

วิธีตัดผมหน้าม้า

11. หวีผมด้านบนกับด้านล่างมารวมกัน คุณจะสามารถมองเห็นแนวผมด้านล่างผ่านผมชั้นนอกได้ และใช้แนวนั้นในการตัดผมชั้นนอกต่อไป

12. ตัดผมชั้นนอกด้วยการใช้กรรไกรซอย โดยจับผมขึ้นมาทีละปอยแล้วใช้กรรไกรซอยเล็มผมออก คุณจะต้องงับหลายครั้งมากกว่าการใช้กรรไกรธรรมดา เพราะกรรไกรซอยมีช่องว่างระหว่างซี่ แต่มีข้อดีที่ผมที่คุณตัดได้จะดูไม่ทื่อเกินไป

13. ค่อย ๆ เล็มกรรไกรซอยเก็บรายละเอียดและไล่ระดับผมให้เสมอกับชั้นใน หากรู้สึกว่าหน้าม้าหนาไปก็สามารถใช้กรรไกรซอยงับผมออกให้บางลงได้ ส่วนผมที่อยู่ด้านข้างของใบหน้าสามารถปล่อยให้ยาวกว่าส่วนหน้าม้านิดหน่อย ซึ่งจะทำให้ลุคหน้าม้าที่คุณได้ดูไม่เด๋อด๋าหรือว่าแข็งทื่อเกินไป แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสไตล์และความชื่นชอบของแต่ละคนด้วยค่ะ


เอาล่ะ เท่านี้การเล็มผมหน้าม้าด้วยตัวเองก็เป็นอันเสร็จสิ้น แล้วคุณก็ได้ผมหน้าม้าเป๊ะ ๆ กลับคืนมาอีกครั้ง เห็นไหม ไม่ยากเลยใช่ไหมล่ะคะ  :D




 

Create Date : 10 มีนาคม 2556    
Last Update : 10 มีนาคม 2556 11:35:16 น.
Counter : 3497 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  111  112  113  114  115  116  117  118  119  120  121  122  123  124  125  126  127  128  129  130  131  132  133  134  135  136  137  138  139  140  141  142  143  144  145  146  147  148  149  150  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.