|
บทเรียนจาก "บ้านครูน้อย"
เพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายเลี้ยงดูเด็กในบ้านกว่า 72 คน ซึ่งครูน้อยเผยว่า ยอดเงินบริจาคลดลงจึงจำเป็นต้องกู้เงินมาเพื่อใช้จ่าย และยังยอมรับว่ารู้สึกผิดที่นำเงินบริจาคไปจ่ายเป็นค่าดอกเบี้ยให้เจ้าหนี้ 20 ราย รวมแล้วประมาณ 5 หมื่นบาทต่อวัน
สำหรับมูลนิธิบ้านครูน้อยนั้น ก่อตั้งโดย “ครูน้อย” หรือครู “นวลน้อย ทิมกุล” ซึ่งเติบโตมาจากครอบครัวที่มีฐานะยากจน จึงมีประสบการณ์ทที่ช่วยให้เข้าใจความเดือดร้อนของเด็กด้อยโอกาส ครูน้อยจึงทุ่มเทแรงกายแรงใจในการช่วยเหลือเด็กเหล่านี้
เรื่องราวของครูน้อยเริ่มแพร่หลายโดยสื่อมวลชน องค์กร มูลนิธิ และกลุ่มบุคคลต่างๆ จึงเริ่มให้ความช่วยเหลือ "บ้านครูน้อย" ในด้านกำลังทรัพย์และสิ่งของและช่วยผลักดันให้สถานศึกษาภาครัฐให้โอกาส เด็กๆ ที่ขาดหลักฐานประกอบการศึกษา ได้เข้าสู่ระบบการศึกษาภาคบังคับ โดยได้รับการยกเว้นในเรื่องหลักเกณฑ์ เกี่ยวกับเอกสารต่างๆ
ในช่วงที่สื่อต่างๆ ประโคมข่าวเกี่ยวกับบ้านครูน้อยนั้น สังคมให้ความสนใจ หลายหน่วยงานให้ความช่วยเหลือ ยอดบริจาคทั้งเงินและสิ่งของมีมากมาย แต่หลังจากที่ข่าวคราวเกี่ยวกับบ้านครูน้อยเงียบหายไป สังคมก็เลิกให้สนใจ โดยหันไปสนใจเรื่องอื่นตามกระแสแทน หน่วยงานต่างๆ ก็ไม่ได้ให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง ผลกระทบตรงจุดนี้ ทำให้มูลนิธิบ้านครูน้อยต้องประสบกับปัญหาใหญ่ในเรื่องค่าใช้จ่ายที่จำเป็น ในชีวิตประจำวัน จนทำให้ครูน้อยต้องหาทางออกด้วยการไปพึ่งพาการกู้เงินนอกระบบ ที่ต้องเสียค่าดอกเบี้ยในอัตราสูง อีกทั้งยอดบริจาคยังลดลง ทำให้ครูน้อยต้องออกมายอมรับกับสื่อและขอความช่วยเหลือ เพราะแบกรับภาระต่อไปไม่ไหวแล้ว
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เป็นข่าวไป หลายๆ ฝ่ายได้ยื่นมือเข้ามาให้ความช่วยเหลือครูน้อย มีการช่วยเจรจาประนอมหนี้ ซึ่งเจ้าหนี้หลายรายก็ได้ยกเลิกดอกเบี้ยให้ และกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ยังได้ออกมาเผยว่าพร้อมรับ อุปการะเด็กๆ ที่บ้านครูน้อยทั้งหมด
ปัญหาหนี้สินของบ้านครูน้อย คงได้รับการแก้ไขคลี่คลายผ่านไปได้ด้วยดี แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นคงเป็นบทเรียนที่สะท้อนสู่สังคม หน่วยงานต่างๆ ควรให้ความสนใจแก่องค์กรเหล่านี้อย่างทั่วถึง และสม่ำเสมอ ไม่ใช่เพียงมูลนิธิบ้านครูน้อยเท่านั้น ยังมีมูลนิธิต่างๆ อีกมากมาย ที่ก่อตั้งขึ้นด้วยความตั้งใจจริงของผู้ก่อตั้ง ในการให้ความช่วยเหลือแก่เพื่อนมนุษย์หรือแม้แต่สัตว์ ในหลายรูปแบบ หากคนในสังคมต่างคนต่างอยู่ โดยไม่สนใจจะให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ด้อยโอกาสต่างๆ สุดท้ายแล้วปัญหาต่างๆ ก็จะย้อนกลับมาสู่คนในสังคมนั่นเอง กล่าวคือ เมื่อผู้ด้อยโอกาสเหล่านี้ไม่ได้รับความช่วยเหลือ สุดท้ายก็จะสร้างปัญหาสังคมในรูปแบบต่างๆ เช่น การก่ออาชญากรรม ซึ่งส่งผลกระทบต่อคนในสังคมอย่างแน่นอน
Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2553 |
Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2553 18:07:50 น. |
|
0 comments
|
Counter : 257 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|