|
'ติดเกม' สิทธิเด็กที่ผู้ใหญ่ละเมิด ...
น่าจับตาและติดตาม ปัญหา “เด็กติดเกม” นับวัน จะแพร่กระจายลุกลามเป็นวงกว้างในสังคมไทย ทั้งนี้เนื่องเพราะการกระทำของผู้ใหญ่ที่ล่วงละเมิด ละเลยการคุ้มครองปกป้อง “สิทธิเด็ก” นั่นเอง “เดลินิวส์” จึงทำหน้าที่สื่อสารมวลชนเกาะติดตีแผ่ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น โดย เสนอเป็นสกู๊ปหน้า 1 และข่าวหน้า 1 ตั้งแต่สุดสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อเป็นกระจกเงาสะท้อนปัญหาและความคิดเห็นต่าง ๆ พร้อมกับกระตุ้นเร่งเร้าให้ผู้ใหญ่ทุกภาคส่วน ร่วมกันเป็น “เจ้าภาพ” คลี่คลายปัญหา จะเห็นว่า เบื้องหลังของปัญหานี้ผูกโยงไปที่ผลประโยชน์และเกี่ยวพันกับผู้ใหญ่ในหลาย ระดับด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ครอบครัว เจ้าหน้าที่ภาครัฐ อาทิ กระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งรับผิดชอบดูแลพระราชบัญญัติภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ. 2551 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ดูแลการคุ้มครองเด็ก กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ดูแลการจัดระบบคอมพิวเตอร์ กระทรวงศึกษาธิการ ดูแลสถาบันการศึกษาโรงเรียน เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดต่อเด็ก เยาวชนและสตรี ภาคธุรกิจโดยเฉพาะบริษัทผู้ผลิต-ผู้นำเข้า-ผู้จำหน่าย ผู้ให้บริการร้านอินเทอร์เน็ต และองค์กรพัฒนาภาคเอกชน “เอ็นจีโอ” จากอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (Convention on the Rights of the Child) ซึ่งเป็นสัญญาด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศที่ได้รับความเห็นชอบมากที่สุด ในโลก ทุกประเทศในโลกได้ให้สัตยาบัน ไม่เว้นประเทศไทยที่ได้ให้สัตยาบันเมื่อปี พ.ศ. 2535 โดยรายละเอียดของสิทธิขั้นพื้นฐานต่าง ๆ ระบุว่า ทุกประเทศต้องรับประกันเด็กในประเทศของตน ได้แก่ สิทธิที่จะมีชีวิตรอด สิทธิที่จะได้รับการพัฒนา สิทธิที่จะได้รับความคุ้มครอง และสิทธิที่จะได้ในการมีส่วนร่วม ซึ่งกรณีปัญหา “เด็กติดเกม” นี้ถือเป็นสิทธิที่จะได้รับการคุ้มครอง ให้รอดพ้นจากการทำร้าย การล่วงละเมิด การละเลย การนำไปขาย การใช้แรงงานเด็ก และการแสวงประโยชน์โดยมิชอบในรูปแบบอื่น ๆ เป็นความจริงที่ว่า สิ่งใดมีคุณประโยชน์อนันต์ ย่อมต้องมีโทษมหันต์แฝง “เกมคอมพิวเตอร์” ก็เช่นกัน ได้ส่งผลกระทบต่อเด็กที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ บางคนติดงอมแงมจนเสียการเรียน เสียสุขภาพ เสียอนาคต กลายเป็นคนก้าวร้าว หนีออกจากบ้าน มีพฤติกรรมเลียนแบบ ก่อเหตุลักขโมยหรือก่อคดีอาชญากรรมร้ายแรงเพียงเพื่อต้องการหาเงินไปเล่นเกม คาดหวังว่า ผู้ใหญ่จะตระหนักเห็นความสำคัญเข้ามามีส่วนร่วมกำหนดแนวทางแก้ไขอย่างเป็น รูปธรรม อย่าทำกันแบบไฟไหม้ฟางหรือวัวหายล้อมคอก เฉกเช่นอดีต เพื่อมิให้ผู้ใหญ่ใจร้ายที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน กระทำการละเมิดและเพิกเฉยต่อ “สิทธิเด็ก” มองเด็กเพียงเป็น “เหยื่อ” เท่านั้น. ที่มา: นสพ. เดลินิวส์
Create Date : 25 มีนาคม 2553 |
Last Update : 25 มีนาคม 2553 20:03:33 น. |
|
0 comments
|
Counter : 275 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|