Group Blog
 
All Blogs
 

เที่ยววัดทำบุญรอบโลก "วัดม้าขาว"วัดพุทธแห่งแรกในประเทศจีน



ประเทศจีนในปัจจุบันมีความเจริญก้าวหน้าไปมาก ทั้งเดินทางง่าย สะดวกสบาย ค่าใช้จ่ายไม่แพง

สำหรับนักเที่ยววัดทำบุญแล้วถือว่าเป็นประเทศที่พลาดไม่ได้เลยค่ะ เนื่องจากเป็นประเทศที่พระพุทธศาสนาได้ตั้งรกรากมั่นคงมายาวนานเป็นพันๆปี ซึ่งปรากฏหลักฐานเป็น พุทธสถาน ต่างๆมากมาย ทั้งประชาชนยังมีความเคารพรักในพระพุทธศาสนาอย่างเหนียวแน่น ธรรมชาติเล่าก็ยังงดงามน่าดูน่าชม สามารถไปท่องเที่ยวได้ในทุกฤดูกาล

ดังนั้นหากท่านเป็นชาวพุทธและกำลังเลือกสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อน ทั้งยังได้ครบทั้งอรรถประโยชน์ อรรถกุศล และความเพลิดเพลินในวิทยาการสมัยใหม่ ทั้งความผ่อนคลายในการชื่นชมธรรมชาติที่งดงามแล้วล่ะก็ประเทศนี้คงจะไม่ทำให้ทุกท่านผิดหวังแน่ๆค่ะ

วันนี้เราไปชมวัดพุทธที่ติดอันดับ 1 ใน 10 วัด ที่น่าประทับใจที่สุดในประเทศจีนกันค่ะ



Smiley

วัดม้าขาว (White Horse Temple)

วัดม้าขาว หรือ ไป๋หม่าซื่อ (Baima Si) เป็นวัดทางพุทธศาสนาแห่งแรกที่ตั้งขึ้นในประเทศจีน ตั้งอยู่ที่เมืองลั่วหยาง มณฑลเหอหนานสร้างขึ้นเมือปี 68 ในสมัยราชวงศ์ฮั่น

ตามประวัติกล่าวไว้ว่า ในปี ค.ศ. 66 ในรัชสมัยจักรพรรดิมิ่งตี้ แห่งราชวงศ์ฮั่น หลังจากได้มีการส่งคณะทูต 18 คน ไปสืบพุทธศาสนาที่ประเทศอินเดีย โดยใช้เวลา 3 ปี คณะทูตก็ได้เดินทางกลับ พร้อมด้วยพระภิกษุอีก 2 รูป คือ พระกาศยะปะมาตังคะและพระธรรมรักษ์ และคัมภีร์ทางพุทธศาสนามาส่วนหนึ่งด้วย โดยบรรทุกมาบนหลังม้าสีขาวตัวหนึ่ง

ในปี ค.ศ. 68 จึงได้โปรดให้มีการสร้างวัดแห่งนี้ขึ้นที่ชานเมืองลั่วหยาง เพื่อเป็นที่เก็บพระคัมภีร์ และให้พระภิกษุทั้ง 2 จำพรรษา ณ วัดแห่งนี้ และพระราชทานนามให้ว่า "วัดม้าขาว" เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ม้าขาวตัวนั้น ต่อมาวัดม้าขาว กลายมาเป็นต้นกำเนิด และศูนย์กลางของพุทธศาสนาในประเทศจีน


ปัจุบันวัดมีเนื้อที่กว่า 80 ไร่เศษ ทั้งยังมีวิหารหลังหนึ่งซึ่งสร้างแบบสถาปัตยกรรมไทยในปี พ.ศ. 2535

Smiley

สิ่งที่น่าสนใจ

1.รูปปั้นม้าหินซึ่งตั้งอยู่ ณ ลานหน้า ประตูทางเข้า เชื่อว่าบริเวณดังกล่าวเป็นสถานที่ม้าเคยอยู่ และตายจากไปสู่โลกสวรรค์

2.สุสานของพระกาศยะปะมาตังคะและพระธรรมรักษ์

3.เขตสังฆวาสเป็นสถานที่ที่สัมผัสได้ถึงความสงบแต่ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าไปภายใน

4.ซุ้มประตูโค้ง สูง 150 เมตร ซึ่งเพิ่งมีการก่อสร้างมาไม่นานนักตั้งอยู่หน้าทางเข้าดั้งเดิม ระหว่างซุ้มกับประตูจะมีบ่อน้ำซึ่งสะพานหิน

5.ในห้องโถงต่างๆจะตกแต่งด้วยศิลปะแบบจีนต่างๆ ภายในประดิษฐานพระศรีศากยมุนี และรูปเคารพ

6.ระฆังโบราณน้ำหนักมากกว่า 1 ตันตั้งอยู่ใกล้ห้องโถงหลัก

การเดินทาง : รถเมล์ สาย56 หรือ สาย 58 จากลั่วหยางไป ไป๋หม่าซื่อ
เวลาเปิด : 7.30-17.00 น.
ค่าธรรมเนียม เข้าชม : 35 CNY
























รวบรวมเรียบเรียงโดยอุ่นอาวรณ์
ขอบคุณภาพจากอินเทอร์เน็ต




 

Create Date : 30 ตุลาคม 2555    
Last Update : 31 ตุลาคม 2555 10:54:58 น.
Counter : 3022 Pageviews.  

เปลื้องบาป............[พุทธพจน์]

ภาพโดย@Single Mind for Peace.

เปลื้องบาป

Smiley

ถ้าประสพสุขทุกข์ เพราะบุญบาปที่ทำไว้ก่อนเป็นเหตุ

ชื่อว่าเปลื้องบาปเก่าที่ทำไว้ ดุจเปลื้องหนี้ฉะนั้น

 

ขุ. ชา. ปญฺญาส. ๒๘/๒๕




 

Create Date : 26 ตุลาคม 2555    
Last Update : 26 ตุลาคม 2555 19:52:15 น.
Counter : 1694 Pageviews.  

โทษแต่กรรม.................[โคลงโลกนิติ]

โคลงโลกนิติ

ขอขอบพระคุณภาพจาก : ตักบาตรถามพระ Smiley

 

Smiley

อย่าโทษไทท้าวท่วย......................เทวา

อย่าโทษสถานภูผา........................ย่านกว้าง

อย่าโทษหมู่วงศา..........................มิตรญาติ

โทษแต่กรรมเองสร้าง....................ส่งให้เป็นเองฯ




 

Create Date : 12 ตุลาคม 2555    
Last Update : 12 ตุลาคม 2555 17:55:59 น.
Counter : 2103 Pageviews.  

ใจปราชญ์........[โคลงโลกนิติ]

โคลงโลกนิติ

ขอขอบพระคุณภาพจาก @Single Mind for Peace  Smiley

 

 

มีอายุร้อยหนึ่ง................นานนัก
ศีลชื่อปัญจางค์จัก...........ไป่รู้
ขวบเดียวเด็กรู้รัก.............ษานิจ ศีลนา
พระตรัสสรรเสริญผู้.......เด็กนั้นเกิดศรี ฯ

 

คนใดยืนอยู่ร้อย..............พรรษา
ใจบ่มีปรีชา......................โหดไร้
วันเดียวเด็กเกิดมา..........ใจปราชญ์
สรรเพชญ์บัณฑูรไว้.........เด็กนั้นควรยอฯ

 

คนใดยืนเหยียบร้อย.........ขวบปี
ความอุตส่าหฤมี................เท่าก้อย
เด็กขวบหนึ่งดี...................เพียรพาก
พระตรัสว่าเด็กน้อย..........นี่เนื้อเวไนยฯ

 

อายุถึงร้อยขวบ..............เจียรกาล
ธัมโมชโอฬาร...............บ่รู้
เด็กน้อยเกิดประมาณ....วันหนึ่ง
เห็นถ่องธรรมยิ่งผู้........แก่ร้อยพรรษา

 

มีอายุอยู่ร้อย....................ปีปลาย
ความเกิดแลความตาย......ไป่รู้
วันเดียวเด็กหญิงชาย......เห็นเกิด ตายนา
ลูกอ่อนนั้นยิ่งผู้..............แก่ร้อยปีปลาย




 

Create Date : 29 กันยายน 2555    
Last Update : 29 กันยายน 2555 16:31:25 น.
Counter : 1951 Pageviews.  

"สูตรรักษาสิว".............บรรณาการ แด่ผู้มีบุญ [พิมพ์ครั้งที่ 3]



" ไม่อยากให้คนเป็นสิว  ขออนุญาตเผยแพร่สูตรนี้ไปเรื่อยๆอย่างไม่มีกำหนดค่ะ"


-อุ่นอาวรณ์-



ที่ว่ามีบุญ ก็เพราะ ถ้าเข้ามาเจอบทความนี้ ก็คงไม่เป็นสิวง่ายๆแล้วล่ะค่ะ


ต่อไปนี้ คือ สูตรรักษาสิวส่วนตัวที่นำมาเป็นบรรณาการแด่ท่าน ที่ผ่านเข้ามาอ่าน ใช้งบน้อย ปลอดภัยและให้ผลดียิ่ง กรุณาอ่านกรณีศึกษาอย่างละเอียด ศึกษาวิธีปฏิบัติให้เข้าใจดี ก่อนตัดสินใจนำสูตรไปใช้นะคะ

สูตรนี้ใช้เวลานานกว่าการรักษาด้วยสารเคมี และการทำทรีทเม้นต์ตามคลีนิคมาก แต่ผลปรากฏว่าสภาพหน้าแข็งแรงขึ้น ดีขึ้น สิวแทบไม่กลับมาอีกเลย เมื่อเทียบกับการรักษาด้วยเคมีบำบัด ซึ่งหายเร็วแต่ไม่หายขาด


งบที่ใช้  500-1000 บาท
ระยะเวลาที่ใช้ในการรักษาสิว : 4 เดือน (กรณีเป็นสิวมาก หรือเป็นทั่วหน้า)
ระยะเวลาโดยรวมเพื่อให้หน้าขาว-ใส เนียนเรียบ ไร้รอยสิว : 6-8 เดือน





ผู้หญิงกับเรื่องผิวพรรณ

เรื่องผิวเป็นเรื่องใหญ่ของผู้หญิง เราจะไม่มั่นใจ และไม่ค่อยมีความสุข ถ้ารู้สึกว่าผิวของเรามีผดผื่น กระ หรือมีสิวเม็ดใหญ่ปรากฏอยู่บนใบหน้า แต่ ผู้หญิงส่วนใหญ่เคยมีปัญหาเรื่องผิวพรรณทั้งนั้น ไม่ว่าผิวหน้าจะดีขนาดไหน บางทีก็เคยมีปัญหา แพ้เครื่องสำอางค์ น้ำ แดด ฝุ่นละออง หรือแม้แต่ความร้อน เรามีผิวต่างกัน เพราะกรรม และพันธุกรรม ที่แตกต่างกัน




กรรมมีผลทำให้คนเรามีผิวพรรณที่ทรามและปราณีตต่างกัน

หากเป็นคนที่ศึกษาเรื่องธรรมะ ก็คงพอจะเชื่อว่า กรรมมีส่วนไม่น้อย ที่จะทำให้คนเราผิวพรรณที่หยาบ หรือปราณีตต่างกัน

คนที่มีนิสัยรักสะอาด ไม่ทิ้งข้าวของเลอะเทอะ ปรกติเป็นคนใจเย็นไม่โกรธง่าย ถวาย ผ้าไตรจีวร ดอกไม้ของหอมแด่ผู้ทรงศีล บำเพ็ญสาธารณประโชน์ ช่วยกวาดเสนาสนะ วัดวาอารามชุมชน ผลบุญมักจะส่งผลให้มีผิวพรรณวรรณะ งามสะอาดเรียบร้อยดี

และถึงแม้ว่าหน้าตาจะสะสวยอยู่แล้ว ก็ควรประพฤติตนให้ดี เนื่องจาก คุณค่าที่แท้จริงของผู้หญิงทุกคนอยู่ที่ความงามภายใน คือ จิตใจ มากกว่าความงามภายนอก เพราะเมื่ออายุมากขึ้น ก็ ไม่สามารถยั้งยุดความงามไว้ได้อีก




นอกจากนี้ สิ่งแวดล้อมภายนอก เช่นอาหารที่รับประทาน อากาศ น้ำดิ่มน้ำใช้ เครื่องประทินผิวส่วนตัว ก็มีผลต่อสภาพผิวพรรณในปัจจุบัน เช่นกันค่ะ

ผิวอย่างเราก็สวยได้

ผิวของเรา อาจจะไม่เฟอร์เฟค แต่เราสามารถเลี้ยงผิวให้ดีที่สุด ตามที่ผิวแบบเราสามารถจะดีขั้นสูงสุดได้



ประวัติผิวหน้าของผู้เขียน

โดยส่วนตัว เป็นคนเป็นคนผิวมันระดับเล็กน้อย ผิวแพ้ง่ายขั้นปานกลาง คือตอนวัยรุ่นต้นๆ เมื่อเจออากาศร้อน ก็มักมีผดเม็ดเล็กๆ ตามหน้าผาก

 นอกจากนี้ แพ้น้ำที่ไม่สะอาด  ถึงสิวเม็ดใหญ่ไม่ค่อยมี แต่ก็สร้างความรำคาญให้ตัวอยู่ไม่น้อย…ขยันพบแพทย์ตามคลีนิคช่วงวัยรุ่นตอนปลายเพราะรักสวยรักงาม แต่ก็มักพบว่า พอห่างจากแพทย์ระยะหนึ่งก็กลับไปเป็นสิวอีก ต่อมาสิวกับผด ก็น้อยลงเรื่อยๆ ตอนอายุเข้า 25 ปี

จนเมื่อประมาณ ปลายพ.ศ 2552 – ต้นปี 2553 อยู่ๆก็เกิดเป็นสิวอย่างรุนแรง กระจายเต็มหน้าเริ่มตั้งแต่ คางถึงหน้าผาก ซึ่งอุดตันเป็นตุ่มนูน และไม่มีหัว จึงรักษายาก และทำให้ผิวไม่เรียบ ไม่ได้ไปพบแพทย์ เพราะภาวะเศรษฐกิจส่วนตัวตอนนั้นไม่ดี และเข้าใจดีว่า การเข้าคลีนิคเดือนหนึ่ง ต้องใช้เงินอยู่ไม่น้อยเลย เพื่อการทำทรีทเม้นต์ และเป็นค่ายาต่างๆ





ยารักษาที่ถูกกับผิว

การพบที่ถูกกับโรค ถือว่าเป็นโชคอย่างดีที่สุด...ได้รับแรงบันดาลใจให้หันมารักษาด้วยสมุนไพรพื้นบ้าน จากพระรูปหนึ่งซึ่งท่านเคยศึกษาเรื่องการแพทย์แผนโบราณเมื่อสมัยตั้งแต่ก่อนออกบวช อาจด้วยความเมตตาของท่าน ที่เห็นว่าเราควรได้ยารักษาที่ถูกต้องจริงๆ จึงสั่งให้อุปัฏกฐากในวัดคนหนึ่ง นำยาถุงหนึ่งมามอบให้ มันเป็นผงสีเหลืองอ่อน คล้ายกับผงขมิ้นหรือ ไพล โดยท่านสั่งให้นำยานั้น ทาใบหน้าทุกๆวัน

ผลจากการใช้สมุนไพรพื้นบ้าน

หลังจากนั้นใช้เวลาไม่กี่สัปดาห์ หน้าก็ดีขึ้น ที่ชัดมาก คือนวลผ่องขึ้น รู้สึกสบายหน้ามากขึ้น ผู้เขียนจึงเกิดแรงบันดาลใจไปหาเครื่องสำอางค์ประเภทสมุนไพร มาใช้เพิ่มเติม และตัดใจหยุด ใช้เครื่องสำอางค์เก่าๆ ถูกและแพงทั้งหมดที่มีทั้งหมด




ความรู้เรื่องเครื่องสำอางค์พื้นฐานของผู้หญิง

เครื่องสำอางค์พื้นฐานหลักๆ ของผู้หญิง มี 2 ชุด คือชุดดูแลผิวพื้นฐาน และชุดเสริมบำรุง

1. ชุดดูแลผิวพื้นฐาน (ผู้หญิงควรใช้)

1.) Cleanser –ตัวทำความสะอาดหน้า (โฟม สบู่ สบู่เหลว)
2.)Toner – โลชั่นสูตรน้ำกระชับผิวหลังล้างหน้า
3.) Moisturizer-โลชั่นบำรุงผิวสำหรับผิวหน้าธรรมดา-มัน, ครีมบำรุงผิวสำหรับผิวหน้าแห้ง

2.ชุดเสริมบำรุง

หมายถึงเครื่องสำอางค์ เสริมความงามนอกเหนือไปจากชุดพื้นฐานขั้นต้น เช่น ครีมกันแดด, AHA (ปรับผิวหน้าขาวใส) เซรั่มเข้มข้นกระชับรูขุมขน ครีมลดรอยดำใต้ตา ฯลฯ เป็นชุดที่ทุกคนสามารถใช้ได้ตามความต้องการ เมื่อสภาพผิวดีขึ้นจากสิว




เครื่องสำอางค์สมุนไพร ที่ผู้เขียนหามาใช้เพิ่มเองระหว่างการบำบัดด้วยสมุนไพร ทั้งมีผลการรักษาสิวยอดเยี่ยม มีดังต่อไปนี้

1.สบู่มาดามเฮง รุ่นออสซี่ แอคเน่โซฟเคลียร์ 50 ก.ก้อนละ 100 บาท

2.โลชั่นแต้มสิวออสซี่ เคลียร์อัพโซลูชั่น 14 มล.l ของมาดามเฮง ขวดละ 180 บาท

3.ผงทานาคาอัดแข็ง ผ่านมาตรฐานอุตสาหกรรม ยี่ห้อตามภาพข้างล่าง 50 ก. กระปุกละ 25-60 บาท (ขึ้นกับว่าซื้อที่ไหน)

4.ครีมมะขามของกลุ่มแม่บ้านจังหวัด พะเยา (ช่วยให้หน้าขาว รอยสิวจางหายเร็ว- ทำงานเป็น AHA ) 70 ก. ราคากระปุกละ 35 บาท พอกหน้าก็ดี ขัดตัวก็ขาวใสขึ้น

5.เวอร์จิ้นโอลิเอะ โลชั่น (น้ำมันมะกอกผสมสมุนไพร) ทำหน้าที่เป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ 30 มล. ราคา 150 บาท

*** เครื่องสำอางค์ทุกตัว ทดสอบการแพ้เบื้องต้นโดยทาใต้ท้องแขนทิ้งไว้ เพื่อสังเกตอาการก่อนนะคะ





สูตร/วิธีรักษา

ระยะเริ่มต้น (1 เดือนแรกของการรักษา)

1.เลิกใช้เครื่องสำอางค์ทุกประเภท
2.ล้างหน้าวันละ 2 ครั้งเช้าเย็น ด้วยสบู่มาดามเฮง (ใช้ครั้งแรกจะได้กลิ่นสมุนไพร เข้มข้นมาก) ล้างหน้าแล้วจะรู้สึกทันที ว่าหน้าสะอาดและ Deep มาก (แถมไม่ตึง)
3.ต่อจากนี้แต้มบริเวณหัวสิวด้วยโลชั่นแต้มสิวออสซี่ (อย่าทาเป็นวงกว้าง เพราะจะรู้สึกเย็น-แสบหน้าเกินไป)

ระหว่างนี้ ดื่มน้ำสะอาดมากๆ ทานผักผลไม้ และ วิตามิน พวก ACE เพิ่มเติม ตอนรักษาใหม่ๆผู้เขียน ทำการ Detox ร่างกายด้วยน้ำกาแฟ อาทิตย์ละ 1 ครั้ง




ระยะ 2- 4 เดือนของการรักษา
สมุนไพรมหัศจรรย์ !!!

ล้างหน้าด้วยสบู่ออสซี่ ทาโลชั่นออสซี่เหมือนเดือนแรก ทานวิตามิน ผักผลไม้ นอนหลับให้เพียงพอ Detox บ้างเป็นระยะๆ และพอกหน้าด้วยสมุนไพรพม่าคือ ทานาคา (ตัวนี้ขาดไม่ได้เลย) ทดลองใหม่ๆ ก็ 2 วันครั้ง และค่อยๆเพิ่มมาเป็นวันละครั้ง

วิธีใช้

นำเนื้อแป้งขนาด 1-2 กรัมใส่บนฝ่ามือ หยดน้ำลงไปเล็กน้อย ใช้นิ้วเกลียให้เนื้อแป้งกลายเป็นของเหลวคล้ายเนื้อครีม นำมาทาทั่วใบหน้า ทิ้งไว้อย่างน้อย 10 นาที หรือพอกทิ้งไว้ทั้งคืนก็ได้ค่ะ ถ้าใช้จนชอบและชินแล้ว พอกทิ้งไว้ทั้งคืน ตื่นมาจะรู้สึกว่าหน้านวล ใสมาก โดยไม่ตึงเลย ทานาคาชนิดนี้เนื้อแป้งไม่เลอะติดเสื้อผ้า และปลอกหมอนด้วยนะคะ


ทานาคา มีหลายประเภท หลายยี่ห้อ ลองใช้ยี่ห้อที่ผ่านมาตรฐานของอุตสากรรม ตามภาพข้างล่างนี้ก่อนค่ะ ยี่ห้อนี้มีหลายกลิ่น เลือกเอาตามใจชอบ (ส่วนตัวชอบกลิ่นกุหลาบ) ถึงแม้ทานาคาที่ผ่านโรงงานอาจมี่ส่วนประกอบของทานาคาน้อยกว่าทานาคาบดเอง แต่จะให้ความชุ่มชื่นแก่ใบหน้ามากกว่า ใช้แล้วหน้าไม่ตึง
รวมถึงมั่นใจได้ว่า มีความสะอาด ทั้งยังสะดวกในใช้และพกพาค่ะ



ทานาคา เป็นสมุนไพรพม่า ซึ่งสาวๆและหนุ่มๆพม่าใช้กันตั้งแต่เป็นเด็ก ปลอดภัยไม่มีอันตราย ผู้เขียนเข้าใจว่า สมุนไพรที่พระท่านให้ครั้งแรก ก็น่าจะมีส่วนผสมนี้ด้วย ที่ยอมใช้เพราะเดินทางไปแถบประเทศพม่าหลายครั้ง สังเกตว่าคนพม่า100% ที่เคยพบ ผิวดี ....และปรากฏว่า ไม่มีพม่าคนไหน ที่หน้าปุเลย เป็นเรื่องที่แปลกมากๆ….

บนหน้าพวกเขามีผงสีเหลืองทาหน้าแทบตลอดเวลา ซึ่งต่อมาก็ทราบว่าคือทานาคานี่เอง

มีคำเปรียบเปรยว่า” ผิวพม่า นัยน์ตาแขก” ตอนนี้ยิ่งเขื่อ 100 % ว่าของพม่าเขาดีจริง บางคนใช้ทานาคาผิวอาจจะแห้งขึ้นบ้าง ช่วงนี้สามารถทาโลชั่นบำรุงผิว พวกน้ำมันมะกอกได้ ของมาดามเฮง ซึมเร็วและไม่มันเลยค่ะ


5-8 เดือนหลัง สวยใส ไร้รอย เนียนนุ่ม

ทำข้อ 2 มาประมาณ 4-5 เดือนหน้าก็ไม่มีสิวแล้วค่ะ ทีนี้จะเหลือรอยสิวนิดหน่อย (แค่นิดหน่อย เพราะเครื่องสำอางค์สมุนไพรข้างต้น ก็มีส่วนผสมช่วยรักษารอยสิวอยู่แล้ว)

ทีนี้มาทำให้หน้าเนียน ขาวแบบธรรมชาติ มากขึ้น
โดยการใช้ AHA จากสมุนไพรธรรมชาติในบ้านเรา คือมะขามค่ะ ซึ่งเป็นเครื่องสำอางค์แบบโบราณ...ขนาดนางทาสใช้ยังกลายเป็นเมียเจ้าคุณได้เลย ^^ ( ขำๆ)

หลังล้างหน้าแล้ว พอกมะขามทิ้งไว้สัก 3- 5 นาที ครั้งแรกๆ ถ้าแสบมาก็ล้างออกก่อนเวลาที่กำหนดได้

ระหว่างพอกหน้า ก็เอาครีมมะขามมาขัดดถูตัวด้วย ทำให้ผิวนุ่ม ใสขึ้นค่ะ ครีมมะขามนี้ พอกอาทิตย์ ละครั้ง หรือ อาทิตย์ละ 2 ครั้ง

กระซิบนิดหนึ่งว่พอหน้าดีขึ้นสุดๆแล้ว อยากจะให้เปล่งปลั่ง รวมทั้งพอจะมีงบอยู่บ้าง แนะนำให้ซื้อเวชสำอางของ ยูเซอรีน Eucerin Dermo Purifyer Active Concentrate Serum (ซึ่งเป็นเซรั่มสำหรับกระชัมรูขุมขน และลดปัญหาสิว ราคา 900บาท)มาใช้ร่วม ผิวหน้าจะละเอียดเนีนนเรียบเหมือนเปลี่ยนผิวหน้ากันไปเลยทีเดียว นอกจากนี้ป้องกันหน้าก่อนออกจากบ้านด้วยครีมกันแดด จะทำให้เกิดผลที่ดียิ่งขึ้น

และทีนี้อยากบำรุงเสริมด้วยเครื่องสำอางค์ชนิดไหน ก็เลือกได้ตามใจชอบ เพราะหน้าเราแข็งแรงแล้ว แต่พยายามเลือกสมุนไพรเป็นหลัก ส่วนตัวชอบโลชั่นบำรุงผิวสมุนไพรจากน้ำมันลิลลี่และกุหลาบ ตัวนี้ทาไปตอนเช้า เพื่อนๆมักจะทัก


สูตรข้างบนผู้เขียน ทดลองใช้เอง และประทับใจมาจนทุกวันนี้ เนื่องจากพบว่า สิวแทบไม่เคยกลับมาเยี่ยมเยียนบนหน้าอีก ผดเม็ดเล็กเม็ดน้อยที่เคยมี ก็ไม่มีเลยเป็นเวลาเกือบ 2 ปีแล้ว เทียบกับเพื่อนหลายคนที่เข้ารับการักษาในคลีนิค ซึ่งหายจากอาการสิวเร็วมาก แต่ก็ไม่หายขาด ต้องกลับไปรักษาบ่อยๆ แถมมีค่าใช้จ่ายสูง


สูตรนี้เป็นสูตรที่ประทับใจมากค่ะ ตอนนี้ถึงอายุมากขึ้น แต่ยังพอใจกับสภาพผิวหน้าในปัจจุบัน มากกว่าตอนเป็นวัยรุ่นตอนต้นเสียอีก ยังคงแจกจ่ายให้เพื่อนๆ ที่สงสัยและสอบถามอยู่เสมอ ว่า “ทำไม เดี๋ยวนี้ หน้าใสจัง ดีกว่าเมื่อก่อนมาก ใช้อะไรเหรอ? “



นำมาเป็นบรรณาการผู้มีบุญ ถ้าได้ผลดี อย่าลืมบอกต่อบ้างนะคะ




-อุ่นอาวรณ์-




 

Create Date : 26 กันยายน 2555    
Last Update : 26 กันยายน 2555 18:25:51 น.
Counter : 8027 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  

อุ่นอาวรณ์
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




Friends' blogs
[Add อุ่นอาวรณ์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.