Group Blog
 
All Blogs
 

"สูตรรักษาสิว".............บรรณาการ แด่ผู้มีบุญ





ที่ว่ามีบุญ ก็เพราะ ถ้าเข้ามาเจอบทความนี้ ก็คงไม่เป็นสิวง่ายๆแล้วล่ะค่ะ


ต่อไปนี้ คือ สูตรรักษาสิวส่วนตัวที่นำมาเป็นบรรณาการแด่ท่าน ที่ผ่านเข้ามาอ่าน ใช้งบน้อย ปลอดภัยและให้ผลดียิ่ง กรุณาอ่านกรณีศึกษาอย่างละเอียด ศึกษาวิธีปฏิบัติให้เข้าใจดี ก่อนตัดสินใจนำสูตรไปใช้นะคะ

สูตรนี้ใช้เวลานานกว่าการรักษาด้วยสารเคมี และการทำทรีทเม้นต์ตามคลีนิคมาก แต่ผลปรากฏว่าสภาพหน้าแข็งแรงขึ้น ดีขึ้น สิวแทบไม่กลับมาอีกเลย เมื่อเทียบกับการรักษาด้วยเคมีบำบัด ซึ่งหายเร็วแต่ไม่หายขาด

งบที่ใช้ 500-1000 บาท
ระยะเวลาที่ใช้ในการรักษาสิว : 4 เดือน (กรณีเป็นสิวมาก หรือเป็นทั่วหน้า)
ระยะเวลาโดยรวมเพื่อให้หน้าขาว-ใส เนียนเรียบ ไร้รอยสิว : 6-8 เดือน>





ผู้หญิงกับเรื่องผิวพรรณ

เรื่องผิวเป็นเรื่องใหญ่ของผู้หญิง เราจะไม่มั่นใจ และไม่ค่อยมีความสุข ถ้ารู้สึกว่าผิวของเรามีผดผื่น กระ หรือมีสิวเม็ดใหญ่ปรากฏอยู่บนใบหน้า แต่ ผู้หญิงส่วนใหญ่เคยมีปัญหาเรื่องผิวพรรณทั้งนั้น ไม่ว่าผิวหน้าจะดีขนาดไหน บางทีก็เคยมีปัญหา แพ้เครื่องสำอางค์ น้ำ แดด ฝุ่นละออง หรือแม้แต่ความร้อน เรามีผิวต่างกัน เพราะกรรม และพันธุกรรม ที่แตกต่างกัน




กรรมมีผลทำให้คนเรามีผิวพรรณที่ทรามและปราณีตต่างกัน

หากเป็นคนที่ศึกษาเรื่องธรรมะ ก็คงพอจะเชื่อว่า กรรมมีส่วนไม่น้อย ที่จะทำให้คนเราผิวพรรณที่หยาบ หรือปราณีตต่างกัน

คนที่มีนิสัยรักสะอาด ไม่ทิ้งข้าวของเลอะเทอะ ปรกติเป็นคนใจเย็นไม่โกรธง่าย ถวาย ผ้าไตรจีวร ดอกไม้ของหอมแด่ผู้ทรงศีล บำเพ็ญสาธารณประโชน์ ช่วยกวาดเสนาสนะ วัดวาอารามชุมชน ผลบุญมักจะส่งผลให้มีผิวพรรณวรรณะ งามสะอาดเรียบร้อยดี

และถึงแม้ว่าหน้าตาจะสะสวยอยู่แล้ว ก็ควรประพฤติตนให้ดี เนื่องจาก คุณค่าที่แท้จริงของผู้หญิงทุกคนอยู่ที่ความงามภายใน คือ จิตใจ มากกว่าความงามภายนอก เพราะเมื่ออายุมากขึ้น ก็ ไม่สามารถยั้งยุดความงามไว้ได้อีก




นอกจากนี้ สิ่งแวดล้อมภายนอก เช่นอาหารที่รับประทาน อากาศ น้ำดิ่มน้ำใช้ เครื่องประทินผิวส่วนตัว ก็มีผลต่อสภาพผิวพรรณในปัจจุบัน เช่นกันค่ะ

ผิวอย่างเราก็สวยได้

ผิวของเรา อาจจะไม่เฟอร์เฟค แต่เราสามารถเลี้ยงผิวให้ดีที่สุด ตามที่ผิวแบบเราสามารถจะดีขั้นสูงสุดได้



ประวัติผิวหน้าของผู้เขียน

โดยส่วนตัว เป็นคนผิวแพ้ง่ายขั้นปานกลาง คือตอนวัยรุ่นต้นๆ เมื่อเจออากาศร้อน ก็มักมีผดเม็ดเล็กๆ ตามหน้าผาก

นอกจากนี้ แพ้น้ำที่ไม่สะอาด ถึงสิวเม็ดใหญ่ไม่ค่อยมี แต่ก็สร้างความรำคาญให้ตัวอยู่ไม่น้อย…ขยันพบแพทย์ตามคลีนิคช่วงวัยรุ่นตอนปลายเพราะรักสวยรักงาม แต่ก็มักพบว่า พอห่างจากแพทย์ระยะหนึ่งก็กลับไปเป็นสิวอีก ต่อมาสิวกับผด ก็น้อยลงเรื่อยๆ ตอนอายุเข้า 25 ปี

จนเมื่อประมาณ ปลายพ.ศ 2552 – ต้นปี 2553 อยู่ๆก็เกิดเป็นสิวอย่างรุนแรง กระจายเต็มหน้าเริ่มตั้งแต่ คางถึงหน้าผาก ซึ่งอุดตันเป็นตุ่มนูน และไม่มีหัว จึงรักษายาก และทำให้ผิวไม่เรียบ ไม่ได้ไปพบแพทย์ เพราะภาวะเศรษฐกิจส่วนตัวตอนนั้นไม่ดี และเข้าใจดีว่า การเข้าคลีนิคเดือนหนึ่ง ต้องใช้เงินอยู่ไม่น้อยเลย เพื่อการทำทรีทเม้นต์ และเป็นค่ายาต่างๆ





ยารักษาที่ถูกกับผิว

การพบที่ถูกกับโรค ถือว่าเป็นโชคอย่างดีที่สุด...ได้รับแรงบันดาลใจให้หันมารักษาด้วยสมุนไพรพื้นบ้าน จากพระรูปหนึ่งซึ่งท่านเคยศึกษาเรื่องการแพทย์แผนโบราณเมื่อสมัยตั้งแต่ก่อนออกบวช อาจด้วยความเมตตาของท่าน ที่เห็นว่าเราควรได้ยารักษาที่ถูกต้องจริงๆ จึงสั่งให้อุปัฏกฐากในวัดคนหนึ่ง นำยาถุงหนึ่งมามอบให้ มันเป็นผงสีเหลือง คล้ายกับผงขมิ้นหรือ ไพล โดยท่านสั่งให้นำยานั้น ทาใบหน้าทุกๆวัน

ผลจากการใช้สมุนไพรพื้นบ้าน

หลังจากนั้นใช้เวลาไม่กี่สัปดาห์ หน้าก็ดีขึ้น ที่ชัดมาก คือนวลผ่องขึ้น รู้สึกสบายหน้ามากขึ้น ผู้เขียนจึงเกิดแรงบันดาลใจไปหาเครื่องสำอางค์ประเภทสมุนไพร มาใช้เพิ่มเติม และตัดใจหยุด ใช้เครื่องสำอางค์เก่าๆ ถูกและแพงทั้งหมดที่มีทั้งหมด




ความรู้เรื่องเครื่องสำอางค์พื้นฐานของผู้หญิง

เครื่องสำอางค์พื้นฐานหลักๆ ของผู้หญิง มี 2 ชุด คือชุดดูแลผิวพื้นฐาน และชุดเสริมบำรุง

1. ชุดดูแลผิวพื้นฐาน (ผู้หญิงควรใช้)

1.)Cleanser –ตัวทำความสะอาดหน้า (โฟม สบู่ สบู่เหลว)
2.)Toner – โลชั่นสูตรน้ำกระชับผิวหลังล้างหน้า
3.)Moisturizer-โลชั่นบำรุงผิวสำหรับผิวหน้าธรรมดา-มัน, ครีมบำรุงผิวสำหรับผิวหน้าแห้ง

2.ชุดเสริมบำรุง

หมายถึงเครื่องสำอางค์ เสริมความงามนอกเหนือไปจากชุดพื้นฐานขั้นต้น เช่น ครีมกันแดด, AHA (ปรับผิวหน้าขาวใส) เซรั่มเข้มข้นกระชับรูขุมขน ครีมลดรอยดำใต้ตา ฯลฯ เป็นชุดที่ทุกคนสามารถใช้ได้ตามความต้องการ เมื่อสภาพผิวดีขึ้นจากสิว




เครื่องสำอางค์สมุนไพร ที่ผู้เขียนหามาใช้เพิ่มเองระหว่างการบำบัดด้วยสมุนไพร ทั้งมีผลการรักษาสิวยอดเยี่ยม มีดังต่อไปนี้

1.สบู่มาดามเฮง รุ่นออสซี่ แอคเน่โซฟเคลียร์ 50 ก.ก้อนละ 100 บาท

2.โลชั่นแต้มสิวออสซี่ เคลียร์อัพโซลูชั่น 14 มล.l ของมาดามเฮง ขวดละ 180 บาท

3.ผงทานาคาอัดแข็ง ผ่านมาตรฐานอุตสาหกรรม ยี่ห้อตามภาพข้างล่าง 50 ก. กระปุกละ 25-60 บาท (ขึ้นกับว่าซื้อที่ไหน)

4.ครีมมะขามของกลุ่มแม่บ้านจังหวัด พะเยา (ช่วยให้หน้าขาว รอยสิวจางหายเร็ว- ทำงานเป็น AHA ) 70 ก. ราคากระปุกละ 35 บาท พอกหน้าก็ดี ขัดตัวก็ขาวใสขึ้น

5.เวอร์จิ้นโอลิเอะ โลชั่น (น้ำมันมะกอกผสมสมุนไพร) ทำหน้าที่เป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ 30 มล. ราคา 150 บาท

*** เครื่องสำอางค์ทุกตัว ทดสอบการแพ้เบื้องต้นโดยทาใต้ท้องแขนทิ้งไว้ เพื่อสังเกตอาการก่อนนะคะ





สูตร/วิธีรักษา

ระยะเริ่มต้น (1 เดือนแรกของการรักษา)

1.เลิกใช้เครื่องสำอางค์ทุกประเภท
2.ล้างหน้าวันละ 2 ครั้งเช้าเย็น ด้วยสบู่มาดามเฮง (ใช้ครั้งแรกจะได้กลิ่นสมุนไพร เข้มข้นมาก) ล้างหน้าแล้วจะรู้สึกทันที ว่าหน้าสะอาดและ Deep มาก (แถมไม่ตึง)
3.ต่อจากนี้แต้มบริเวณหัวสิวด้วยโลชั่นแต้มสิวออสซี่ (อย่าทาเป็นวงกว้าง เพราะจะรู้สึกเย็น-แสบหน้าเกินไป)

ระหว่างนี้ ดื่มน้ำสะอาดมากๆ ทานผักผลไม้ และ วิตามิน พวก ACE เพิ่มเติม ตอนรักษาใหม่ๆผู้เขียน ทำการ Detox ร่างกายด้วยน้ำกาแฟ อาทิตย์ละ 1 ครั้ง




ระยะ 2- 4 เดือนของการรักษา
สมุนไพรมหัศจรรย์ !!!

ล้างหน้าด้วยสบู่ออสซี่ ทาโลชั่นออสซี่เหมือนเดือนแรก ทานวิตามิน ผักผลไม้ นอนหลับให้เพียงพอ Detox บ้างเป็นระยะๆ และพอกหน้าด้วยสมุนไพรพม่าคือ ทานาคา (ตัวนี้ขาดไม่ได้เลย) ทดลองใหม่ๆ ก็ 2 วันครั้ง และค่อยๆเพิ่มมาเป็นวันละครั้ง
วิธีใช้

นำเนื้อแป้งขนาด 1-2 กรัมใส่บนฝ่ามือ หยดน้ำลงไปเล็กน้อย ใช้นิ้วเกลียให้เนื้อแป้งกลายเป็นของเหลวคล้ายเนื้อครีม นำมาทาทั่วใบหน้า ทิ้งไว้อย่างน้อย 10 นาที หรือพอกทิ้งไว้ทั้งคืนก็ได้ค่ะ ถ้าใช้จนชอบและชินแล้ว พอกทิ้งไว้ทั้งคืน ตื่นมาจะรู้สึกว่าหน้านวล ใสมาก โดยไม่ตึงเลย ทานาคาชนิดนี้เนื้อแป้งไม่เลอะติดเสื้อผ้า และปลอกหมอนด้วยนะคะ


ทานาคา มีหลายประเภท หลายยี่ห้อ ลองใช้ยี่ห้อที่ผ่านมาตรฐานของอุตสากรรม ตามภาพข้างล่างนี้ก่อนค่ะ ยี่ห้อนี้มีหลายกลิ่น เลือกเอาตามใจชอบ (ส่วนตัวชอบกลิ่นกุหลาบ) ถึงแม้ทานาคาที่ผ่านโรงงานอาจมี่ส่วนประกอบของทานาคาน้อยกว่าทานาคาบดเอง แต่จะให้ความชุ่มชื่นแก่ใบหน้ามากกว่า ใช้แล้วหน้าไม่ตึง
รวมถึงมั่นใจได้ว่า มีความสะอาด ทั้งยังสะดวกในใช้และพกพาค่ะ



ทานาคา เป็นสมุนไพรพม่า ซึ่งสาวๆและหนุ่มๆพม่าใช้กันตั้งแต่เป็นเด็ก ปลอดภัยไม่มีอันตราย ผู้เขียนเข้าใจว่า สมุนไพรที่พระท่านให้ครั้งแรก ก็น่าจะมีส่วนผสมนี้ด้วย ที่ยอมใช้เพราะเดินทางไปแถบประเทศพม่าหลายครั้ง สังเกตว่าคนพม่า100% ที่เคยพบ ผิวดี ....และปรากฏว่า ไม่มีพม่าคนไหน ที่หน้าปุเลย เป็นเรื่องที่แปลกมากๆ….

บนหน้าพวกเขามีผงสีเหลืองทาหน้าแทบตลอดเวลา ซึ่งต่อมาก็ทราบว่าคือทานาคานี่เอง

มีคำเปรียบเปรยว่า” ผิวพม่า นัยน์ตาแขก” ตอนนี้ยิ่งเขื่อ 100 % ว่าของพม่าเขาดีจริง บางคนใช้ทานาคาผิวอาจจะแห้งขึ้นบ้าง ช่วงนี้สามารถทาโลชั่นบำรุงผิว พวกน้ำมันมะกอกได้ ของมาดามเฮง ซึมเร็วและไม่มันเลยค่ะ


5-8 เดือนหลัง สวยใส ไร้รอย เนียนนุ่ม

ทำข้อ 2 มาประมาณ 4-5 เดือนหน้าก็ไม่มีสิวแล้วค่ะ ทีนี้จะเหลือรอยสิวนิดหน่อย (แค่นิดหน่อย เพราะเครื่องสำอางค์สมุนไพรข้างต้น ก็มีส่วนผสมช่วยรักษารอยสิวอยู่แล้ว)

ทีนี้มาทำให้หน้าเนียน ขาวแบบธรรมชาติ มากขึ้น
โดยการใช้ AHA จากสมุนไพรธรรมชาติในบ้านเรา คือมะขามค่ะ ซึ่งเป็นเครื่องสำอางค์แบบโบราณ...ขนาดนางทาสใช้ยังกลายเป็นเมียเจ้าคุณได้เลย ^^ ( ขำๆ)

หลังล้างหน้าแล้ว พอกมะขามทิ้งไว้สัก 3- 5 นาที ครั้งแรกๆ ถ้าแสบมาก็ล้างออกก่อนเวลาที่กำหนดได้

ระหว่างพอกหน้า ก็เอาครีมมะขามมาขัดดถูตัวด้วย ทำให้ผิวนุ่ม ใสขึ้นค่ะ ครีมมะขามนี้ พอกอาทิตย์ ละครั้ง หรือ อาทิตย์ละ 2 ครั้ง

กระซิบนิดหนึ่งว่า พอหน้าดีขึ้นสุดๆแล้ว อยากจะให้เปล่งปลั่ง รวมทั้งพอจะมีงบอยู่บ้าง แนะนำให้ซื้อเวชสำอางค์ของ ยูเซอรีน Eucerin Dermo Purifyer Active Concentrate Serum (ซึ่งเป็นเซรั่มสำหรับกระชัมรูขุมขน และลดปัญหาสิว ราคา 900บาท)มาใช้ร่วม นอกจากนี้ป้องกันหน้าก่อนออกจากบ้านด้วยครีมกันแดด จะทำให้เกิดผลที่ดียิ่งขึ้น
และทีนี้อยากบำรุงเสริมด้วยเครื่องสำอางค์ชนิดไหน ก็เลือกได้ตามใจชอบ เพราะหน้าเราแข็งแรงแล้ว แต่พยายามเลือกสมุนไพรเป็นหลัก ส่วนตัวชอบโลชั่นบำรุงผิวสมุนไพรจากน้ำมันกุหลาบ ตัวนี้ทาไปตอนเช้า เพื่อนๆมักจะทัก


สูตรข้างบนผู้เขียน ทดลองใช้เอง และประทับใจมาจนทุกวันนี้ เนื่องจากพบว่า สิวแทบไม่เคยกลับมาเยี่ยมเยียนบนหน้าอีก ผดเม็ดเล็กเม็ดน้อยที่เคยมี ก็ไม่มีเลยเป็นเวลาเกือบ 2 ปีแล้ว เทียบกับเพื่อนหลายคนที่เข้ารับการักษาในคลีนิค ซึ่งหายจากอาการสิวเร็วมาก แต่ก็ไม่หายขาด ต้องกลับไปรักษาบ่อยๆ แถมมีค่าใช้จ่ายสูง

สูตรนี้ ยังคงแจกจ่ายให้เพื่อนๆ ที่สงสัยและสอบถามอยู่เสมอ ว่า “ทำไม เดี๋ยวนี้ หน้าใสจัง ดีกว่าเมื่อก่อนมาก ใช้อะไรเหรอ? “

นำมาเป็นบรรณาการผู้มีบุญ ถ้าได้ผลดี อย่าลืมบอกต่อบ้างนะคะ
-อุ่นอาวรณ์-




 

Create Date : 16 พฤษภาคม 2555    
Last Update : 21 พฤษภาคม 2555 11:27:28 น.
Counter : 16902 Pageviews.  

มุมมองเมืองบากัน(Bagan)จาก บอลลูนยักษ์ : ทุ่งทะเลพระเจดีย์นับพัน



เมืองบากัน (Bagan) ในวันนี้ ยังคงปรากฏร่องรอยแห่งความเจริญสุดขีดของพระพุทธศาสนาในประเทศพม่า เมืองมรดกโลกแห่งนี้ ยังสามารถเห็นร่องรอยของอดีตวัดและพระเจดีย์อันรุ่งเรือง ในอาณาจักรพุกามเก่าแก่ ซึ่งเดิมที มีวัดถึง 10,000 พร้อมพระเจดีย์ประจำวัด ถึงแม้ปัจจุบันนี้จะเหลือเพียง 2,200 กว่าแห่ง แต่ทุ่งทะเลพระเจดีย์แห่งนี้ ก็สมควรอย่างยิ่งที่ UNESCO จะให้ความสำคัญ ตั้งเป็นเมื่องมรดกโลกซึ่งมีค่าควรบูชาแก่ชาวพุทธและน่าตื่นตาตื่นใจสำหรับนักท่องเที่ยวไปในคราวเดียวกัน

การชมเมืองบากันในระนาบบนพื้นคนเดินดิน ถึงแม้ว่าน่าซาบซึ้ง เพราะได้มีโอกาสนั่งรถม้า ไหว้พระทำบุญไปตามวัดสำคัญต่างๆ แต่ภาพเมืองบากันจากมุมมองของตาบนฟ้าก็น่าประทับใจไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ที่สำคัญการไหว้พระทำบุญ นั่งบอลลูนชมเมืองบากัน อยู่ในสนนราคาระดับหลักพันปลายๆ..ซึ่งไม่ยากที่จะเอื้อมถึง

ชมภาพทุ่งทะเลพระเจดีย์นับพัน ที่น่าจดจำไปตลอดชีวิต จากภาพถ่าย ของฺ Brain Marrow กันเลยค่ะ

นำเที่ยวผ่านตัวอักษรโดย : อุ่นอาวรณ์




































































---------------




 

Create Date : 08 พฤษภาคม 2555    
Last Update : 9 พฤษภาคม 2555 17:10:24 น.
Counter : 1853 Pageviews.  

ไหว้พระทำบุญรอบโลก : มรัคอู - ทริปไหว้พระทำบุญสำหรับคนศรัทธากล้า

ภาพเมืองโบราณในรัฐยะไข่ แห่งประเทศพม่าซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก  ชายแดนสุดฝั่งทะเล อ่าวเบงกอล [Bays of Bangal] ของประเทศพม่า  มีพรมแดนธรรมชาติอันเป็นอุปสรรคสำคัญเนื่องจากอุปสรรคทางภูมิประเทศ และการคมนาคมที่ยังไม่เจริญ  การเดินทางทางบกจึงเป็นไปโดยลำบากยากเข็ญ ดังนั้นจึงมีเพียง 2 เส้นทาง เท่านั้นที่นักท่องเที่ยวส่วนมากเลือกใช้คือ การโดยสารทางเรือ และทางเครื่องบิน   เรือที่ใช้ในการเดินทาง ไปมรัคอู มีตั้งแต่การใช้เรือเล็กกางใบทำด้วยผื่นเสื่อ หรือสะโหร่งผืนเก่า  เลียบเลาะไปตามชายฝั่ง นอกจากนี้ยังมีเรือขนาดย่อม  เรือขนาดกลาง ไปจนถึงเรือโดยสาร 2 ชั้น ขนาดใหญ่ให้เลือก ซึ่งสามารถจบรรทุกผู้โดยสารได้เป็นร้อย

 

ชาวไทยไม่ใคร่รู้จักมรัคอูนักทั้งๆที่มีพรมแดนประเทศติดกัน  อย่างไรก็ตามการเดินทางไปมรัคอู นอกจากจะได้ชมพุทธสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่.. การล่องเรือไปตามแม่น้ำกัลดาล อันกว้างใหญ่ราวมหาสมุทรยังทำให้ได้มีโอกาสชื่นชมทัศนียภาพที่หาชมแทบไม่ได้แล้ว ในประเทศที่เรียกกันเอาเองว่า "อารยประเทศ"

หากนับว่าเป็นทริปการเดินทางของผู้มีศรัทธากล้าเท่านั้น ก็คงใช่ เพราะการไปไหว้พระทำบุญ ณ เมืองโบราณแห่งนี้ ไม่สะดวกสบายนัก ทั้งยังต้องคำนึงถึงความปลอดภัยให้มากอีกด้วย

การได้ชมภาพถ่ายของมรัคอูเมืองโบราณแสนมีเสน่ห์ในวันนี้ คงจะทำให้หลายๆคนรู้สึกว่า เราช่างตัวกระจ้อยนัก เมื่อเทียบกับโลกใบใหญ่ ทั้งมีพุทธสถานศักดิ์สิทธิ์ และความงามตามธรรมชาติมากมาย ที่เรายังไม่เคยได้สัมผัสถึง

ท่องโลกผ่านตัวอักษรโดย : อุ่นอาวรณ์

******************************

Trip tto Sittwe and Mrauk-U, Burma February 13 -16, 2011

Photo : Dhamma Sanctuary, Etc.

 

 

 

 Smiley 

 




 

Create Date : 02 พฤษภาคม 2555    
Last Update : 2 พฤษภาคม 2555 21:06:00 น.
Counter : 2648 Pageviews.  

ผญา"การเมืองการปกครอง" กับ"คุณธรรม"




1.เกิดเป็นคน................ให้มีใจกว้าง
เอาหูห้าง...................ฟังบ้านฟังเมือง


เป็นคนให้มีใจกว้าง ให้ฟังเสียงคนอื่นอย่าคับแคบ


2.ครันเจ้าได้ขี่ช้าง.............กั้งฮ่มเป็นพระยา
อย่าได้ลืมคราวทุกข์.......ขี่ควายคอนกล้า


ถ้าได้ดี มีหน้าที่สูงส่งแล้วไม่ควรลืมคนจน และคราวจน


3.ครันสิทำการสร้าง.......ให้ถามดูพวกไพร่
ครันแม่นไพร่บ่พร้อม.......แปรงบ้านกะบ่เฮือง


เป็นผู้นำอย่าลืมประชาชน เพราะหากประชาชนไม่พร้อม จะทำให้สีหน้าไม่เบิกบาน ทำอะไรได้ยาก


4.เพิ่นแต่งให้ ......ฮักษาเมืองปลายด่าน
อย่าได้มอบบ่อนบ้าน..........เมืองให้แก่โจร


รัฐบาล ราชการให้มาทำหน้าที่ปกครองบ้านเมือง อย่ามากินบ้านกินเมืองเสียเอง


5.เป็นผู้ใหญ่บ้าน.........ต้องมืนตารอบบ้าน

เป็นผู้ใหญ่ปกครองบ้านเมืองต้องมองให้รอบด้าน


6. กรรมสังโอ้...........โอคำสังมาแตก
บาดกะโบ๋บักพร้าว....สังมาหมั้นว่าโอ


ทำไมคนยากจนประชาชนธรรมดาทั่วๆไปจึงมีความอดทน หนักเอาเบาสู้ แต่คนร่ำรวยมีอำนาจราชศักดิ์กลับมีความเปราะบางทนทุกข์ยากไม่ได้


7.ไม้ลำเดียว ............ล้อมฮั้วบ่ไขว่
ไพร่บ่พร้อม..............แปลงบ้านบ่เฮือง


ไม่ลำเดียวล้อมรั้วไม่ได้ ประชาชนไม่พร้อมพัฒนาบ้านเมืองไม่ได้


8.ครันได้นั่งบ้าน........เป็นเอกสูงศักดิ์
อย่าได้โวโวเสียง........ลื่นคนทั้งหลาย
ชื่อว่าเป็นนายนี้........ให้หวังดีดอมบ่าว
ครันหากบ่าวบ่พร้อม.....สิเสียหน้าบาดเดิน


ได้เป็นใหญ่แล้วอย่าหลงตัว ลืมตนเที่ยวคุยโวโอ้อวดทำตัวเหนือคนทั่วไป ผู้เป็นใหญ่ต้องหวังดีต่อประชาชน เพราะหากประชาชฃนไม่พอใจ จะทำงานลำบาก


9.ครั้นเป็นพระยาแล้ว......อย่าลืมไพร่เสนา
บาดห่าสงครามมา...........สิเพิ่มคนทั้งค่าย นั้นเด


ได้เป็นผู้นำหน้าที่สูงส่งไม่ควรลืมประชาชน หากมีปัญหาจะได้อาศัยเขา
(ทุกคนล้วนมีความสำคัญ เช่นเมื่อมีสงคราม ต่างคนหน้ามีหน้าที่สำคัญที่จะรักษาปกป้อง กอบกู้บ้านเมือง)


10.เป็นผู้นำคนบ่มีศีลห้า............กระทำโตให้ต้อยต่ำ
ศีลกับธรรมบ่เหลียวเบิ่งจ้อย.......เป็นด้อยพัฒนา


เป็นผู้นำต้องมีศีลธรรม ถ้าทำตัวต่ำต้อยน้อยคุณธรรมก็ไม่ถือว่าเป็นคนพัฒนา



**ผญาคือคำประพันธ์คล้องจองของคนอีสานโบราณ




 

Create Date : 25 เมษายน 2555    
Last Update : 22 ธันวาคม 2555 10:23:36 น.
Counter : 5664 Pageviews.  

ใบตองห่อข้าว.......(ผญาสอนหญิง)



1. ผู้สาวมีหลายชู้………………..พอปานกันกับข้าวห่อ
ขาดเขากินอิ่มแล้ว……………ไล่ถิ้มแต่ตอง


หญิงสาวใดมีแฟนมาก ก็เหมือนกับตองข้าว เมื่อเขากินอิ่มก็ไม่สนใจ


2. แนววังบ่มีแข้………………….. ชาวแหสิลงท่องเอาแหล้ว
มีสวนบ่มีฮั้วล้อม………………ควายสิข้าน่ำมอน


สาวใดไม่อยู่ในศีลธรรมอันดี ชายใดเห็นก็มัดพูดจาแทะโลม หวังเชยชิดใกล้


3. กกบ่เที่ยง……………….…ทางเปล่าบ่งาม
คนฮูปทราม……………….ศีลธรรมย้อยสู้


ถ้าพื้นฐานเหล่ากอไม่ดี (ศีลธรรม การศึกษา ตระกูล) ปลายต่อไป (หมายถึงชีวิตนเองและลูกหลาน)มักไม่ค่อยดี คนขี้เหร่ หากมีความดีงาม มีศีลธรรมจะช่วยให้มีเสน่ห์ได้


4. เกลี้ยงแต่นอก……………ทางในเป็นหมากเดื่อ
หวานนอกเนื้อ…………….ในส้มจั่งหมากนาว


คนหน้าตาดี แต่งตัวดี แต่ใจเลว พูดจาไพเราะอ่อนหวาน แต่ใจเป็นตรงกันข้ามถือว่าเป็นคนไม่ดี


5.แก้วขอให้เป็นดั่งแก้ว…………..มณีในใสส่อง
อย่าสิใสแต่นอก………………….ในขุ่นคุนมัว


เป็นคนขอให้ดีทั้งนอกและใน อย่าได้เพียงผัดหน้าทาแป้งแต่งตัว แต่จิตใจเลวทราม



* ผญา คือคำประพันธ์คล้องจองเป็นปรัชญาของชาวอีสานโบราณ






 

Create Date : 20 เมษายน 2555    
Last Update : 22 ธันวาคม 2555 10:22:36 น.
Counter : 8510 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  

อุ่นอาวรณ์
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




Friends' blogs
[Add อุ่นอาวรณ์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.