[Beauty Service] ทำ IPL ลบรอยสิวหน้าใสในรอบ 3 ปีที่ 3A Centre รพ.จุฬารัตน์9 แอร์พอร์ต





สวัสดีค่า บล๊อคนี้จะพามา เสริมความงาม รักษารอยสิวกันหน่อย ต้องขอบอกเลยว่าลัลเป็นสิวเรื้อรังมามากกว่า 10 ปี เป็นๆหายๆ มันก็จะมีช่วงหน้าดีบ้างไม่ดีบ้าง ยิ่งช่วงปลายฝนต้นหนาวทีไร สิวอุดตันก็พากันเห่อขึ้นมาเต็มบริเวณช่วงแก้มและใต้กรามเลยค่ะ ปกติก็จะเป็นแค่ช่วงบริเวณนี้ เลยใจร้อนอยากให้หน้าใสไวๆ พอดีมีโอกาสได้เข้ามาใช้บริการที่ รพ.จุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ตเป็นสาขาที่ใกล้บ้านด้วย 

เดินทางมาถึงรพ.ด้วยรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์ค่ะ เป็นช่วงวันธรรมดาเลยรีบตรงบึ่งมาจากที่ทำงานซึ่งอยู่ใจกลางเมืองเว่อ 555+
 นั่งรถไฟฟ้ามาเกือบ 40 นาทีก็ลงที่สถานีลาดกระบัง แล้วต่อรถเเท็คซี่เข้ามาประมาณ 80 บาท ส่งถึงหน้ารพ.เลยค่ะ 



เข้ามาคือ งง ??? ไม่รู้จะไปทางไหนเลยถามหา ศูนย์ดูแลสุขภาพและความงาม 3A Center กับทางพี่บุรุษพยาบาลท่านหนึ่ง เค้าไม่ตอบค่ะ 555+ แต่เค้าบอกเดี๋ยวพี่พาไป ไม่งั้นคงหลง (ในใจก็คิดเออพี่หน้าดุแต่ใจจังแฮะ รอดแล้วเรา ฮ่าๆ ) Smiley

เดินลัดเลาะตามบริเวณตึกชั้น 1 มาได้สักพักเราก็เจอแล้วค่ะ ที่นี่เป็นคลินิกเสริมความงาม ที่เคลมไว้ว่า ใครมาที่นี่แล้วจะสวยครบจบในที่เดียว อะไรทำนองนี้ คือว้าวมากเพราะไม่เคยมาเลยคิดว่าเห้ย คลิกนิกขนาดแค่นี้คือจะสวยครบจบได้ไงเนี่ย ?


มาถึงลัลก็ได้เข้าไปติดต่อกับพี่พนักงาน ตรงเคาเตอร์ค่ะ พี่เค้าน่ารักพูดจาดีมาก แล้วก็บอกให้นั่งรอคุณหมอสักพัก ตรงนี้มีมุมเครื่องดื่มไว้รับรองแขกที่มาใช้บริการด้วยน้า ทานได้ฟรีเลยค่ะ สักพักพี่พนักงานก็มาเรียกให้ไปที่ห้องชั้น 2 ซึ่งเป็นห้องที่ต้องไปทำ IPL ค่ะ



สภาพหน้าของลัลก่อนจะเริ่มทำ IPL ตอนนี้สภาพแสงไฟในรพ.ค่อนข้างส้มไปหน่อยนะคะ พยายามปรับให้โทนสีผิวเป็นปกติที่สุดก็ได้ประมาณี้เลย จะเห็นได้ว่า มีทั้งสิวอุดตัน อักเสบด้วยรอยสิวก็เยอะ 555 นี่ก็ปัญหาครบจบในที่เดียวเหมือนกัน วันนี้คือฝากความหวังไว้ที่คุณหมอมาก





ถึงแล้วค่าห้องทำหัตการของเรา ค่อนข้างสะอาดและอุปกรณ์ครบครันมากๆ 
มีม่านผิดแต่ละเตียงเพื่อความเป็นส่วนตัวของคนไข้ผู้มาใช้บริการ 
ห้องนี้ส่วนใหญ่จะใช้ทำทรีทเมนต์นะคะ ส่วนบริการอื่นๆก็จะมีแยกไปแต่ละห้องอีก เริ่มเข้าใจแล้วค่ะว่าคลินิกเล็กๆที่เราเห็นด้านล่างนั้นเป็นเพียงโซนเอาไว้รับรองผู้มาใช้บริการเท่านั้นเอง 


ขั้นแรกพี่พยาบาลก็มาทำการเก็บผมและคลีนหน้าด้วยคลีนซิ่งน้ำนมค่ะ 
เช็ดล้างพวกคราบเครื่องสำอางและสิ่งต่างๆที่ยังอุดตันผิว



พร้อมแล้วจ้าจะเห็นได้ว่าเหมือนลัลเป็นมนุษย์ขวานฟ้าหน้าดำ 555 หน้าดำ (เต็มไปด้วยรอยสิว) อยู่ครึ่งหน้าตรงบริเวณส่วนล่างตั้งแต่แก้มยันปลายคาง 


คุณหมอเริ่มแล้วค่า ด้วยการใช้เจลเย็น (แบบเย็นมากๆ เเช่เย็นมาจัดๆเลย) 
ทาทั่วบริเวณใบหน้าลัล ความหนาพอประมาณค่ะ 
เจลตัวนี้จะช่วยอาการอักเสบและการปวดแสบปวดร้อนบริเวณผิวหนังของเรา เพราะการทำ IPL นั้น จะมีความร้อนออกมาจากเครื่องฉายแสงค่ะ 
วันนี้คุณหมอกำหนด scope การทำให้ 2 แบบ แบบแรกคือการรักษารอยสิว 
แบบที่ 2 คือการ ลดสิวอักเสบและสิวอุดตันค่ะ ซึ่งลัลจะต้องมาทำทั้งหมด 3 ครั้งของคอร์สบริการนี้ ครั้งนี้เป็นครั้งแรก 
อีก 2 สัปดาห์คุณหมอจึงจะนัดมาทำ ครั้งที่ 2 ค่ะ 

เดี๋ยวลัลจะเล่าประโยชน์เบื้องต้น ของการทำ IPL ให้ฟังกันก่อนน้า 



IPL (Intense Pulse Light) คือแสงที่มีช่วงคลื่นที่กว้างกว่าเลเซอร์โดยความยาวคลื่นเริ่มตั้งแต่ 420 nm ถึง 1200 nm จึงใช้รักษาปัญหาของผิวครอบคลุมได้หลายอย่าง ในการทำครั้งเดียว เพราะปัญหาผิวทั้งหลายบนใบหน้าไม่ว่าจะเป็นเรื่องริ้วรอย รูขุมขนกว้าง สิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยแดงต่าง ๆ ต้องใช้ความยาวคลื่นไม่เท่ากัน แต่สามารถรักษาได้ในช่วงคลื่นของแสงไอพีแอล และ IPL มีความเข้มข้นแสงน้อยกว่าเลเซอร์ 

IPL ช่วยรักษาสิว จัดการสิวจากต้นเหตุ ลดการเกิดสิวอักเสบได้ที่ระดับความยาวคลื่นช่วง 420 nm – 1200 nm

พลังงานแสงจากเครื่อง IPL จะลงลึกเข้าไปทำลายเชื้อสิวที่มีสาเหตุจากเชื้อแบคทีเรีย Propionibacterium Acnes หรือ P. Acnes เมื่อลำแสงไอพีแอล ในช่วงคลื่น 420 – 1200 นาโนเมตร ลงไปถึงสามารถทำลายสารเป้าหมายที่แบคทีเรียสร้างขึ้น ได้แก่ endogenous porphyrin ทำให้ลดการอักเสบของสิว และลดการเกิดสิว

IPL ช่วยลดเลือนจุดด่างดำฝ้า กระ และสลายเมลานินต้นเหตุของหน้าหมองคล้ำได้ที่ระดับความยาวคลื่นช่วง 480 nm – 1200 nm

ลำแสงคลื่น IPL จะไวต่อสีผิวเข้มจึงดูดซึมแสงได้ดี ซึ่งไม่เหมาะกับคนที่มีผิวคล้ำมากเกินไป อาจจะทำให้เกิดการ burn ผิวได้ และนั่นเองคือหลักการที่ใช้ทำลายเม็ดสีเมลานิน (Melanin) ในชั้นผิว ทำให้เมลานินสลายไป ฝ้า กระลดลง ผิวค่อย ๆ กลับมากระจ่างใสได้อีกครั้ง

IPL ช่วยลดเลือนรอยแดง และรอยแผลเป็นจากสิวได้ที่ระดับความยาวคลื่นช่วง 590 nm – 1200 nm

ใช้หลักการ Selective Absorption ที่หมายถึงการเลือกดูดซึมของฮีโมโกลบิน พบได้ในรอยแดง รอยแผลเป็นจากสิว และน้ำในเซลล์ ดูดซับแสง ทำให้รอยแดง รอยแผลเป็นจากสิวดูจางลงไปเรื่อย ๆ

IPL ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนรูขุมขนกระชับ ริ้วรอยและหลุมสิวดูตื้นขึ้นได้ที่ระดับความยาวคลื่นช่วง 560 nm – 1200 nm

พลังงานแสงจากเครื่อง IPL ลงลึกไปยังชั้นผิวใต้ผิวหนังกำพร้า ทำให้เซลล์ที่ได้รับพลังงานแสงในช่วงคลื่น 560 – 1200 นาโนเมตรถูกทำลายไป ร่างกายจึงกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน (collagen) ขึ้นมาซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอไป ส่งผลดีต่อผิวทำให้ผิวแน่นขึ้น รูขุมขนกระชับขึ้น และลดร่องริ้วรอย อีกทั้งหลุมสิวดูตื้นขึ้นได้อีก

ขอขอบคุณที่มา: https://pione.co.th/ipl-solutions/home-use/compare-ipl-with-laser/



คุณหมอจะคอยถามตลอดค่ะว่าช่วงความยาวคลื่นนี้เรารับไหวมั้ย?
 ร้อนผิวมากหรือเปล่า? ถ้าร้อนมากไปก็ให้รีบบอกหมอ 
ระยะเวลาการทำครั้งนี้ประมาณ 30 นาทีค่ะ ก็เป็นอันเสร็จ 
จริงๆคือสบายผิวมากเลยเนื่องด้วยเจลเย็นสดชื่นมาก 555+
 ไม่รู้ว่าแสบร้อนผิวด้วย ทำเสร็จแล้วพี่พยาบาลคนเดิมก็มาช่วยคลีนหน้าอีกครั้งหนึ่ง
แล้วทามอยเจอไรเซอร์เพื่อช่วยสมานผิวที่โดนความร้อนค่ะ




สภาพผิวหน้าลัลหลังจากที่ทำ IPL ทันทีรู้สึกได้เลยว่าไม่มีรอยช้ำ รอยบวมใดๆ คือชอบมาก ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคงจะเป็นเรื่องผิวหน้าดูสดชื่นและสดใสขึ้นมาเลยค่ะ 
เอามือลูบๆผิวแล้วรู้สึกว่าเนียนนุ่มนะ ส่วนเรื่องรอยสิวนี่ต้องใช้เวลา 
ลัลอยากลองทำให้จบคอร์สนี้ก่อนว่าเห็นผลเป็นที่น่าพอใจมั้ย 

ซึ่งตอนนี้ผ่านมา 7 วันแล้วหลังจากที่ได้ทำ IPL ไป รู้สึกได้อีกอย่างคือหน้ามันน้อยลงมาก เมื่อก่อนแต่งหน้าไปทำงานต้องซับหน้าวันละ 2 -3 ครั้ง เดี๋ยวนี้บางวันก็แค่ครั้งเดียว บางวันนี่อากาศไม่ร้อนมากก็ไม่ต้องซับหน้าเลย




อัพเดทมาทำ IPL ครั้งที่ 2 ค่ะ 
ผิวหน้าดูสดใสขึ้นจากครั้งแรกนะ ครั้งนี้คุณหมอก็ฆ่าเชื้อสิวและลบรอยดำให้เหมือนเดิมค่ะ IPL ฆ่าเชื้อสิวจะช่วยได้ในกรณีมีสิวอักเสบนะคะ ส่วนสิวอุดตันต้องรักษาด้วยวิธีการอื่นจ้า









อัพเดท ทำ IPL ครั้งที่ 3 ค่า 
มาแว้วว ! กลับมาอัพเดทหลังจากได้ทำ IPL กับทางรพ.จนครบ 3 ครั้งของคอร์สนี้

 อันนี้เป็นรูปหน้าสด รู้สึกเลิ้ฟผิวหน้าตัวเองขึ้นมาก เดี๋ยวนี้จะไม่ลงรองพื้นไปทำงานเหมือนเมื่อก่อน แค่ทาแป้งพัฟ แป้งก็ติดหน้าทนทั้งวัน อาจจะมีมันบ้าง 
เราก็แค่ซับๆ สิวอุดตันยังไม่หมดแต่หลายวันที่ผ่านมา ลัลสังเกตว่าพวกสิวอุดตัน แห้งและหลุดไปเองหลายเม็ดเหมือนกัน  (คุณหมอแนะนำว่าต้องใช้วิธีการรักษาอื่นร่วมด้วยถึงจะเห็นผลชัดเจน เช่น พวกอนุพันธ์วิตามินเอ , BHA เป็นต้น ) แต่สิ่งที่สังเกตได้คือ ผิวหน้าละเอียดขึ้น รูขุมขนดีงาม ไม่มันเยิ้มเหมือนแต่ก่อน ชอบนะมันเหมือนกับการยุบเอาครีม/สกินแคร์ 10 ตัวที่ใช้กับหน้าเราในแต่ละวันมาเหลือแค่ 30 นาทีของการทำ IPL หน้าเงาดูเด็กขึ้น และที่สำคัญคือในการทำ IPL แต่ละครั้งหน้าเราจะดูเหมือนได้รับการบูทส์ใหม่ขึ้นทุกครั้งดูสดชื่นไม่หมองเหมือนตอนแรกๆก่อนไปทำ 555+

ไว้มีโอกาสลัลจะไปทำอีกให้คะแนน 9/10 ไปเลย 
 ไม่มีไรเสียหายมีแต่ดีขึ้นๆ 






-- สำหรับใครที่กำลังจะลองไปเสริมความงามให้ตัวเองในช่วงเร็วๆนี้ 
ลัลฝากข้อมูลไว้ให้เพื่อเป็นทางเลือกน้า --

ช่องทางติดตามข้อมูลข่าวสาร
WEB : https://www.chularat-cac.com

https://goo.gl/maps/TK76gkQoEcN2








Create Date : 28 ธันวาคม 2561
Last Update : 14 กุมภาพันธ์ 2562 0:48:17 น.
Counter : 2058 Pageviews.

0 comment
Exclusive Workshop + Review: OLAY Whip ใหม่! นวัตกรรมที่ไม่ได้มีดีแค่คุมมัน
 
 
 
สวัสดีค่า ก่อนอื่นต้องขอเล่าก่อนว่า เมื่อประมาณปลายเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ลัลได้มีโอกาสร่วมกิจกรรมเวิร์คช้อปแบบพิเศษสุดๆ กับทาง pantip.com ซึ่งกิจกรรมนี้ มาในรูปแบบของ 
"Bliding Test"ซึ่งก็คือการร่วมทดสอบคุณสมบัติและประสิทธิภาพของสกินแคร์ในวิธีการต่างๆ 
โดยที่เราไม่รู้มาก่อนว่าสิ่งที่เรากำลังทดสอบอยู่นั้น คืออะไร ?
 
 
 
Part 1 : Exclusive Workshop
 
 
 
 
1.เริ่มด้วยการอธิบายวิธีการทดสอบ โดยจะมีอุปกรณ์เป็นกระดาษสติกเกอร์มาให้ 2 แผ่น  เว้นช่องไว้ให้เราเพื่อทาสกินแคร์ ลงบนผิวหนัง และไวท์บอร์ด เอาไว้เพื่อโชว์ผลการทดสอบค่ะ
 
 
 
 
 
2. สกินแคร์ที่เราได้ทำการทดสอบเปรียบเทียบนั้น มีด้วยกัน 5 ชนิด กำหนดชื่อเรียกว่า ครีม A B C  D และ E 
 
 
 
 
 
3. เริ่มทดสอบ การซึมลงสู่ผิว /การระคายเคืองผิวด้วยการ ใช้ไม้พาย ตักครีมเท่าปริมาณเมล็ดถั่วเขียวทั้ง 5 แบรนด์ ป้ายลงบนผิวพร้อมกัน แล้วใช้นิ้วเกลี่ยถูขึ้นลง เป็นจำนวน 10 ครั้ง ก่อนจะปล่อยให้ครีมซึมเป็นเวลา 5 นาทีค่ะ เราจะสังเกตเห็นได้ว่าเมื่อเวลาผ่านไป 5 นาที มีครีมบางตัวซึมลงบนผิวแล้วและบางตัวก็ยังเคลือบอยู่บนชั้นผิวค่ะ
 
 
 
 
 
 
 
4. ต่อไปเป็นการทดสอบความมัน ด้วยการใช้กระดาษซับมัน แบบฟิล์มสีฟ้า (ซึ่งจะเป็นสีที่เราสามารถเห็นผลการทดสอบได้ชัดเจนที่สุด) วิธีการก็เหมือนกับการทดสอบแรก แต่จะเพิ่มขั้นตอนหลังจากที่เราพักให้ครีมซึมแล้ว ก็นำเอากระดาษซับมันมาแปะลงบนผิว โดยจะทำการทดสอบทีละแบรนด์ค่ะ 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
5. ผลการทดสอบเป็นดังภาพค่ะ เมื่อทำการทดสอบทั้ง 2 วิธีการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาให้สาวๆร่วมกันโหวต ครีมที่ชอบที่สุดในดวงใจ เราจะเห็นได้ว่าขวดโหลที่บรรจุลูกปิงปองมากที่สุดนั้น คือ A
 
 
 
 
 
6. ถึงเวลา เฉลยกันแล้วค่ะว่า ครีมทั้ง 5 แบรนด์นั้นจะเป็นอะไรกันบ้าง โดย A นั่นก็คือ !!! 
"OLAY WHIP" นั่นเองค่ะ 
 
 
 
และได้ทำการทดสอบความชุ่มชื้นของเนื้อครีมกันให้เห็นจะๆด้วยเครืื่องมือที่แม่นยำและเชื่อถือได้ ให้ค่าการทดสอบถึง 99.99% เลยทีเดียว 
 
 
 
 
 
โดย OLAY รุ่นใหม่นี้เค้าผลิตมาด้วยกันถึง 3 สูตร นั่นก็คือ Olay Regenerist / Olay Total Effect และ Olay White Radiance
 
 
 
 
 
 
 
อย่ากระนั้นเลย สิบปากว่ายังไม่เท่าตาเห็น ลัลก็ได้รับผลิตภัณฑ์ให้มาร่วมใช้ด้วย 1 กระปุกเป็นสูตร  Total Effect 
และจะมารีวิวผลการใช้ให้ได้ชมกันค่ะ  ...
 
 
 
 
 
 
Part 2 : Review >> Olay Total Effect Whip
 
 
 
 
 
เนื้อครีมของ Olay รุ่นนี้  มีกลิ่นหอมเตะจมูกมากๆ กลิ่นคล้ายๆแป้งเด็ก สีขาวขุ่นนวลๆ เรียกได้ว่าถือเป็นความแปลกใหม่ ของวงการสกินแคร์ เพราะเท่าที่ผ่านมาเราไม่เคยเห็นสกินแคร์ที่เป็นเนื้อวิป ถ้าไม่เป็นเนื้อเซรั่ม เนื้อออย ก็จะเป็นครีมข้นๆไปเลยทีเดียว แต่เหมือนครีมตัวนี้จะมีความเป็นลูกผสมค่ะ เพราะรูปลักษณ์เข้มข้นแบบเนื้อครีมแต่ประสิทธิภาพนั้นซึมไว เหมือนเซรั่ม และให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหน้าได้เหมือน ออยจริงๆ 
 
 
 
 
 
ส่วนผสมที่สำคัญในครีมตัวนี้  มีทั้งวิตามิน B3 , โปรวิตามิน B5 , วิตามิน E 
- Tapioca Starch: ตัวนี้คืออนุพันธ์ของแป้งมันสำปะหลังค่ะ ช่วยทำให้เครื่องสำอางคงรูป ดูดซับความมัน ช่วยปรับสัมผัสผิวหน้าให้เรียบเนียนและนุ่มขึ้น
- Camilia Sinesis Leaf Extract: ซึ่งก็คือสารสกัดจากชาเขียว มีความสำคัญคือช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ Polyphenols ที่มีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์คอลลาจีเนส ตัวการสำคัญในการย่อยสลายคอลลาเจน และ Methylxantines ช่วยให้เส้นเลือดขยายตัวได้ดี และปกป้องผิวจากสังสี UVB ด้วยค่ะ
 
 
 
 
 
 
ลัลได้ทดลองใช้มาแล้วเป็นระยะ 2 สัปดาห์ ก่อนหน้าที่จะใช้ลัลเป็นคนผิวหน้ามันแต่ขาดน้ำ มันง่าย แพ้ง่าย และรูขุมขนกว้าง ผิวหน้าไม่เรียบเนียนเลยค่ะ ลัลใช้ครีมตัวนี้ในตอนเช้าหลังจากที่เราเช็ดทำความสะอาดหน้าด้วยโทนเนอร์เรียบร้อยแล้ว ก็แต้มครีมในปริมาณเท่าเม็ดถั่วเขียว 5 จุดทั่วใบหน้า แล้วทำการเกลี่ยด้วยนิ้วนางให้ทั่ว สัมผัสคือเบาบาง และมีความคล้ายกับเนื้อแป้ง ไม่เหนอะหนะผิวเลยค่ะ (ตรงนี้คือชอบมากๆ) สังเกตได้ว่าครีมตัวนี้แอบเป็นไพรเมอร์ได้ด้วยสังเกตรูขุมขนเริ่มมีความเนียน ทาทับด้วยกันแดด แป้งผสมรองพื้น แต่งหน้าออกไปทำงาน 
 
 
 
 
 
 
ใช้ตั้งแต่เช้า รู้สึกว่าผิวหน้าเริ่มมันประมาณช่วงเวลา บ่าย 2 ถือว่าอยู่ได้ยาวนานมากจริงๆ เพราะปกติ ลัลใช้แค่แป้งผสมรองพื้นแต่งหน้าตั้งแต่เช้าขนาดนี้ ไม่เกิน 10 โมงคือตายอย่างสงบศพสีชมพูเลยค่ะ ฮ่าๆ ๆ 
 
สังเกตว่ารอยดำจากสิวเริ่มจางลงนิดหน่อย ในสัปดาห์แรก ผิวหน้าเริ่มนุ่มขึ้นเรียบเนียนขึ้นบ้าง (เริ่มชอบจับผิวตัวเองมากขึ้น ^^ ) แต่เรื่องรูขุมขนและริ้วรอยยังไม่เห็นผล จนมาเริ่มสังเกตได้ในช่วงก่อนจะมาทำรีวิวนี้ในสัปดาห์ที่ 2 รูขุมขนดูเล็กลงผิวหน้ากระจ่างใสขึ้น ส่วนหลุมสิวที่เห็นตื้นขึ้นนั้นลัลเพิ่งจะทำเลเซอร์มาค่ะ 
 
 
 
 
 
 
ผลลัพธ์ถือได้ว่า โอเคมากๆ ลองแล้วรู้สึกค่อนข้างประทับใจจะติดก็แต่กลิ่นน้ำหอมที่เตะจมูกมากไปหน่อย ความจริงกลิ่นไม่ได้แย่เลยค่ะ แต่ออกจะเข้มข้นไป อาจไม่เหมาะกับคนที่แพ้น้ำหอมมากๆ หรือไวต่อน้ำหอมค่ะ สำหรับใครที่ใช้แบรนด์นี้อยู่แล้วเป็นประจำอาจจะชอบมากขึ้น  ส่วนคนที่ยังไม่เคยลองแนะนำว่าให้ไปลองดูนะคะ เพราะลัลก็ไม่เคยใช้แบรนด์นี้มาก่อน ลองแล้วรู้สึกค่อนข้างประทับใจเป็นสัมผัสใหม่ที่ไม่มีดีแค่คุมมัน เเต่เรื่องประสิทธิผลนั้นค่อนข้างคุ้มค่ากับราคาเลยทีเดียวค่ะ 
 
 
 
 
-----------------------------------------
 
 
 



Create Date : 16 พฤศจิกายน 2561
Last Update : 28 สิงหาคม 2562 15:34:32 น.
Counter : 411 Pageviews.

0 comment
Beauty Service /// พามาทำสปาหน้าและมือกับ "The Body Shop" กันค่ะ



Smileyสวัสดีค่าลัลไม่ได้เข้ามาบ้านนี้นานมากเหตุเนื่องจากขัดข้องทางเทคนิคบล๊อคที่เขียนมาหายหมดเกลี้ยง กว่าจะกู้คืนมาได้ก็นานเหมือนกันอิ้ๆ 
หลังจากที่ เมื่อคราวก่อนลัลได้ทำการสมัครสมาชิกกับทาง The Body Shop ไปนั้นความต้อนรับอย่างอบอุ่นของแบรนด์นางก็ส่ง Voucher มาให้ถึงที่บ้านเลยจ้า ไม่ว่าจะเป็น สปามือ สปาหน้าซึ่งมีทั้งสครับและมาร์ค รวมทั้งส่วนลดอีกนิดหน่อย อยู่มาเพลินๆก็ลืมดูวันหมดเขตเข้ารับบริการเลยรีบโทรไปจองคิวกับสาขาที่ใกล้บ้าน พนักงานเลยนัดเวลาเป็น 18.00 น. เพราะส่วนมากวันเสาร์-อาทิตย์สุดสัปดาห์นี่ลูกค้าเค้าค่อนข้างแน่นค่ะ แต่สาขานี้จะไม่มีห้องนวดนะคะ เป็นบางสาขาเท่านั้น เริ่มต้นด้วยขั้นตอน Cleansing
-คลีนหน้าด้วย Camomile Sumptuous Cleansing Butter นวดวนๆทั่วใบหน้า  








และใช้สำลีเช็ดซ้ำอีกทีด้วย Camomile waterproof eye&lip makeup remover



กลิ่นหอมอ่อนๆค่ะ ไม่รู้สึกแสบผิวหรือมีอาการคันแต่อย่างใด ตัวนี้ No Alcohol จ้าหลังจากนั้นจะเป็นขั้นตอนมาร์คหน้าค่ะ ทาง BA เน้นไปที่  DROPS OF YOUTH RANGE ซึ่งตรงกับใจลัลมากๆ เพราะอินเลิ้ฟผลิตภัณฑ์ไลน์นี้เป็นพิเศษ 555 สำหรับใครที่สงสัยว่ามันดียังไงเดี๋ยวครั้งหน้าจะมาทำรีวิวให้ชมกันนะคะ มาร์คทิ้งไว้ 20 นาทีค่ะ  ระหว่างรอมาร์คหน้าเราก็มาทำสปามือและเเขนกัน 
Smiley

เริ่มด้วยการสครับผิว โดยใช้ African Ximenia Scrub ตัวนี้หอมมากเลยชอบมากกลิ่นละมุนๆติดผิว เม็ดบีดส์ไม่ใหญ่มาก กำลังดีค่ะไม่บาดผิว BA น่ารักดีคอยถามตลอดว่าเจ็บมั้ย 555 นี่อยากจะบอกว่าขัดมาเลยค่ะเเรงๆ คราบเหงื่อไคลจะได้ออกไปเยอะๆ (แอบหวังว่าจะขาวในสักวันอิๆ )






สครับเสร็จแล้วก็ทาครีมบำรุงกันค่ะ BA เลือกใช้สูตร Japanese Camellia สูตรนี้กลิ่นหอมหวานค่ะดมแล้วผ่อนคลายดีแอบมีกลิตเตอร์แบบละเอียดๆด้วย ส่วนตัวไม่ค่อยชอบเท่าไหร่รู้สึกว่า texture มีความมันและเหนอะหนะไปซึมลงผิวค่อนข้างช้าค่ะ แล้ว BA ก็นวดแขนและมือให้ลัล น้ำหนักมือตอนนวดค่อนข้างโอเคค่ะ ไม่หนักและเบาไป



มาถึงขั้นตอนล้างหน้าที่เราได้มาร์คไปในขั้นต้น จากนั้นลงเซรั่มตัวโปรดอย่าง Drops of Youth หยดลงบนบริเวณผิวหน้า 5 จุดได้แก่ หน้าผาก /โหนกแก้ม 2 ข้าง /คาง และจมูกค่ะ นวดให้ทั่วแล้วตบเบาๆให้เซรั่มซึมลงผิว จากนั้นตามด้วยครีมบำรุงของไลน์นี้เช่นเดียวกันค่ะ เนื้อครีมถือว่าทำได้ดีซึมไวแต่ไม่คุมมันนะคะค่อนข้างชุ่มชื้นไปสำหรับผิวมันขาดน้ำแบบลัล






(สังเกตุได้ว่ารูปเริ่มเบลอเพราะมือเปื้อนเจ้าครีมตัวเมื่อกี้หนักมากเปื้อนไปยันกล้องไอโฟนเลย 555 ) 
และขั้นตอนเกือบสุดท้ายคือแต้มสิวด้วย Tea Tree Oil ค่ะถ้ามีสิวอักเสบเม็ดไหนเวลาเราทาเจ้าตัวนี้ลงไปจะรู้สึกว่าคันยิบๆไปจนถึงแสบเลยค่ะ 555 นางกำลังดำเนินการฆ่าเชื้อสิวให้เรานั่นเอง แล้วก็แต่งหน้าให้เบาๆก่อนกลับบ้าน โดยที่ไม่ลืมเขียนคิ้วค่ะ 555 ไม่งั้นคนแถวนั้นคงได้ตกใจเป็นแน่ 
Smiley



ปิดท้ายด้วยแอบเก็บภาพผลิตภัณฑ์ที่วางเรียงรายอยู่ตรงเคาเตอร์มาฝากค่ะมีแต่ของน่าใช้ๆทั้งนั้นเลย กำลังเล็งบอดี้ครีมสูตรใหม่กับครีมวิตามิน E อยู่ค่ะรอยสิวจากการแพ้โฟมล้างหน้าครั้งก่อนค่อนข้างเยอะ เดี๋ยวถ้าลัลมีโอกาสได้ลองจะมารีวิวให้ชมกันนะจ้า ไปล้าวววว

Smiley
***ขอขอบคุณทุกการติดตามและเข้ามาเเวะเยี่ยมบ้านหลังนี้น้า จุ้บๆ ***




Create Date : 17 มิถุนายน 2561
Last Update : 17 มิถุนายน 2561 23:52:22 น.
Counter : 627 Pageviews.

0 comment
[Review]:Hanol Eyelash มาแปลงร่างเป็นสาวเกาหลี ตาแบ๊วๆกันค่ะ !!




สวัสดีวันอาทิตย์ตอนค่ำๆค่ะ  บล๊อคนี้เป็นบล๊อครีวิว/ขี้เห่อของลัลอีกบล๊อคนึง เนื่องจากได้มีโอกาสไปเเปลงร่างเปลี่ยนลุค สไตล์สาวเกาหลีมา 555+ อ่านมาถึงตรงนี้ เพื่อนๆต้องคิดไปแน่ๆว่าลัลไปทำจมูกหรือ เสริมคาง ทุบโหนก เหลากรามอะไรมาหรือปล่าว Smiley
 ขอบอกเลยว่าไม่ได้ทำจ้า เเต่เป็นวิธีที่สวยง่ายกว่านั้น แถมไม่เจ็บตัวอีกด้วยค่ะ อิๆ อยากรู้แล้วละสิว่าคืออะไร งั้นตามมาโล๊ดดดด !!! Smiley



Hanol Eyelash Salon

ฮันโอล อายแลช ซาลอน
@ PENNY'S BALCONY ทองหล่อ




ต้องขอบอกก่อนว่าครั้งนี้เป็นการต่อขนตาครั้งแรกของลัลเลยค่ะ เพราะปกติจะชอบติดขนตาปลอมมาก ที่บ้านนี่มีเป็นกระบะกันเลยทีเดียว 555+ แต่อะไรที่ทำให้เราประหยัดเวลาแต่งหน้าแต่งตัวลงไปได้เราก็ทำค่ะ อิๆ ลัลเดินทางมากับสถานีรถไฟฟ้า BTS สายสุขุมวิท ลงที่สถานีทองหล่อ ออกตรงทางออก 3,4 ค่ะ แล้วไปต่อคิวขึ้นวินมอเตอร์ไซต์รับจ้างค่าเสียหาย 20 THB ขาดตัว มาลงตรงซอย ทองหล่อ 16 ในส่วนของพื้นที่ที่มีชื่อว่า "PENNY' S BALCONY " ค่ะ








เดินขึ้นมาตรงบริเวณชั้นสอง ล๊อคแรกที่ติดกับบันไดเลยค่ะ เจอแล้ววว!! Hanol Eyelash Salon ค่ะ 






Smileyรรยากาศในร้าน เค้าจะตกแต่งแบบเรียบง่ายใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ และคุมโทนด้วยสีเปลือกไม้+ขาวค่ะ ออกสไตล์ LOFT  ความรู้สึกแบบชอบมากเหมือนได้มาพักผ่อน 555+ เปิดประตูเข้าไปจะมีโต๊ะบริการอยู่ทางซ้ายมือ  และโซฟานั่งพักผ่อนอยู่ขวามือ ด้านในจะเป็นเตียงนอนที่ใช้ในการต่อขนตาแบ่งเป็นสัดส่วนมีทั้งหมด 2 ห้องบริการ 3 เตียงนอนค่ะ ในส่วนของห้องเล็กจะเป็นบริการสักคิ้วจากช่างเกาหลีเลยนะ แต่เค้าจะมาไม่บ่อยครั้งค่ะ ต้องนัดคิวล่วงหน้ากันค่อนข้างยาวนานพอสมควร ส่วนห้องใหญ่นั้นเป็นช่างไทยของเรานี่เองจะใช้สำหรับให้บริการต่อขนตาค่ะ 









Hanol Eyelash เป็นร้านต่อขนตาสไตล์เกาหลี ขนตาและอุปกรณ์ต่างๆก็นำเข้ามาจากเกาหลีทั้งหมดเลยค่ะ ที่นี่มีแบบขนตาให้เลือกมากมาย ตามใจลูกค้าค่ะ ลัลบอกว่าอยากลองที่ตาหวานๆ ขนตาเดิมลัลมีอยู่แล้วบ้างแต่ไม่ค่อยหนาเท่าไหร่ ช่างเลยแนะนำให้เป็นแบบที่ขนตายาวขึ้นมาหน่อยนึง แต่จะเสริมความหนาขึ้นให้อีกนิดค่ะ 






หลังจากปรึกษาให้คำแนะนำกันเรียบร้อยแล้วก็ขึ้นเขียง ! เอ๊ยยย !! ขึ้นเตียงเพื่อไปต่อขนตากันค่ะ ช่างบอกคุณลัลหลับไปได้เลยนะคะ อาจจะนานนิดหน่อย 555+ โดนช่างหลอกมาความจริงแล้วมันนานมากค่ะ เกือบ 2 ชม.เต็มๆ ลัลหลับฝันไปประมาณ 2 เรื่องเลย ก็บรรยากาศมันเป็นใจนี่นา เหนื่อยจากทำงานเสร็จตอนเย็นแล้วไปนอนในห้องแอร์ มีเพลงเบาๆฟังอีก หืมมมม ! คือดีต่อใจค่ะ 55555 
และแล้วเวลาก็ผ่านไป ขนตาใหม่ของเราก็เสร็จแล้วค่าาา ฟรุ้งฟริ้งระดับ 10 Smiley











ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจค่ะ ขนตานิ่มในระดับนึง ไม่เคือง ไม่เเสบตา เรียงเส้นเป็นธรรมชาติมากๆ คุ้มค่ากับราคามีคำเตือนจากช่างของเราว่า *** ภายหลังจากการใช้บริการต่อขนตาที่ร้าน Hanol Eyelash จะต้องไม่ทำการดัดขนตา /ไม่ควรใช้มาสคาร่า /หลีกเลี่ยงการล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น และทำความสะอาดเครื่องสำอางบริเวณรอบดวงตาอย่างอ่อนโยนโดยไม่ใช้คลีนซิ่งประเภท oil ค่ะ 

ขนตาเกรดที่ลัลต่อมาจะมีอายุประมาณ 1 เดือนค่ะ บางเกรดที่ดีกว่านี้จะมีอายุถึง 3 เดือน / การต่อขนตา 1 ครั้งเลยทีเดียว ในตอนที่เช็ดทำความสะอาดเบ้าตาด้วยคลีนซิ่งสูตรน้ำ ก็มีหลุดร่วงบ้างแต่เราต่อมาเเน่นค่ะอิๆ ไม่มีผลต่อความเเบ๊วที่ลดลงเลย 









สำหรับใครที่สนใจอยากแปลงร่างเป็นสาวเกาหลีแบบลัล หรือสาวๆที่มีปัญหาขนตาน้อยๆ บาง สั้น และอีกสารพัดปัญหา ลองโทรมาปรึกษาทางร้านก่อนก็ได้ค่ะ ที่หมายเลข 02-714-7775 / 095-782-4366 / 095-249-7638 อ่อลืมบอกไปทางร้านเปิดให้บริการตั้งแต่ 10.00-20.00 ของทุกวันนะคะ  หรือ ใครที่ผ่านไปแถวนั้นแวะเข้าไปสอบถามพนักงานที่ร้านได้โดยตรงค่ะ
ที่ 2fl Penny,s Balcony, Sukhumvit 55 thonglor Rd.Soi 16 (Opposite to J Avenue) 

หรือ!!! อีกสักรอบ 555+  สามารถทักแชทไปสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เเฟนเพจ https://www.facebook.com/Hanoleye/ ได้เลยค่า





Smiley วันนี้ต้องขอตัวไปนอนก่อนนะค้าแล้ว พบกันใหม่บล๊อคหน้า 
... สวัสดีค่ะ Smiley









Create Date : 06 พฤศจิกายน 2559
Last Update : 6 พฤศจิกายน 2559 22:13:55 น.
Counter : 1649 Pageviews.

0 comment
[Guide]: พาทัวร์เเว็กซ์คิ้ว ที่ Anastasia Beverly Hills





วันนี้พามาทัวร์แว็กซ์ขนคิ้วที่ " Anastasia Beverly Hills " ค่ะ






ซึ่งแบรนด์นี้บอกเลยว่าเป็นผู้นำเรื่องคิ้วๆ อันดับ หนึ่งของโลก พนักงานที่คอยให้บริการน่ารักมาก เค้าจะถามว่าอยากได้แบบไหนเราบอก ขอตามโครงหน้าและให้เสริมโหงวเฮ้ง นางเลยจัดให้ตามนั้น โดยเค้าจะเริ่มจาก

-ทำความสะอาดคิ้วให้ก่อน (สำหรับผู้ที่เขียนคิ้วมา)
-ตรวจสอบลักษณะคิ้ว รวมทั้งโครงสร้างและกระดูก 
สอบถามถึงความต้องการลักษณะของคิ้วที่ชอบและไม่ชอบก่อนเข้า รับบริการ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เข้าใจและตรงกันค่ะ
- ระยะเวลาในการทำของลูกค้าใหม่ จะอยู่ที่ประมาณ 45 นาที (รวมเวลาในการพูดคุย) ส่วนลูกค้าเก่า จะอยู่ที่ประมาณ 20 นาที เพราะทาง Anastasia จะมีการเก็บข้อมูลของลูกค้าที่เคยมาทำด้วย เพื่อการตกแต่งคิ้วครั้งต่อไป จะง่ายขึ้น แล้วก็ทำการร่างโครงคิ้วและเขียนให้ดูตามหลัก >>> Golden ratio ค่ะ


4 Step

Step1 : แว็กซ์ขนคิ้วส่วนเกินออก โดยใช้ขี้ผึ้งร้อนทา แล้วนำแผ่นแว็กซ์ แปะ ดึง! เป็นคำถามที่หลายคนอยากรู้มากว่า เจ็บไหม? ถ้าสำหรับคนที่ถอนขนคิ้วตัวเองบ่อยๆ จะไม่ค่อยมีปัญหา เพราะเจ็บกว่าถอนขนคิ้วนิดนึง แล้วถ้าคนที่ไม่เคยถอนล่ะ? เจ็บในปริมาณที่เราทนได้ แต่ความร้อนนั้นมากกว่าค่ะ 5555 เราผิวไวต่อสัมผัสมากแว็กซ์เสร็จทั้งแดง ทั้งร้อน ทั้งมีผื่น 

Step2 : ลบโครงคิ้วที่ร่างไว้ตอนแรกออก โดยใช้ Cleansing Oil ค่ะ

Step3 : ใช้แหนบเก็บขนเส้นใหญ่ ที่แว็กซ์ออกไม่หมดค่ะ

Step4 : สำหรับบางคนที่ขนคิ้วยาว เค้าจะใช้กรรไกรเล็มช่วย ตัดแต่งให้เป็นระเบียบยิ่งขึ้นค่ะ

/// หลังแว็กซ์ จะใช้มาร์กสาหร่ายเขียว เพื่อช่วยเรื่องกระชับผิว ผิวหายแดง ตัวมาร์คจะดูดเอาความร้อนจากผิวเราที่โดนแว็กซ์ไปเมื่อกี้ออกมา ใช้เวลามาร์กประมาณ 7 นาที รอให้ซึมลง แข็งตัว แล้วลอกออกได้เลย



หลังจากนั้นเค้าจะทำการเขียนคิ้วให้เราใหม่ตามที่ได้เเว็กซ์ออกไปข้างต้นเสร็จเรียบร้อยเเล้ว โดยวันนี้พนักงานแนะนำให้ลัลเป็น สี Medium-Brown ค่ะ สีนี้ไมไ่ด้เข้มหรืออ่อนจนเกินไปเขียนแล้วออกมาดูเป็นธรรมชาติดีและเขียนได้ทุกโอกาสด้วยค่ะ







สาว ๆ หรือ หนุ่ม ๆ คนไหน สนใจไปตกแต่งคิ้วที่ Anastasia มีคำแนะนำดังนี้ค่ะ

1.งดการทำ AHA Treatment, เลเซอร์ หรือการใช้ยารอบดวงตาอย่างน้อย 3 สัปดาห์ ก่อนเข้ารับบริการ
2.เพื่อผลลัพธ์ที่น่าพอใจ ผู้เข้ารับบริการ กรุณางดการกันหรือถอนขนคิ้วก่อนเข้ารับบริการ อย่างน้อย 2 สัปดาห์

เนื่องจากขณะนี้มีผู้สนใจเข้ารับบริการเป็นจำนวนมาก เพื่อความสะดวกของท่านกรุณาจองล่วงหน้าก่อนเข้ารับบริการทางร้านขอสงวนสิทธ์ยกเลิกการให้บริการที่จองไว้สำหรับท่านที่มาช้ากว่ากำหนดเกิน 20 นาที

** ราคา 800 THB / ครั้งค่ะ
ระยะเวลามาทำครั้งต่อไปประมาณ 1 เดือน
Location
- Central ปิ่นเกล้า
- Central World
- Central ลาดพร้าว
- Central Ambassy
- Mega บางนา ค่ะ




Create Date : 09 ตุลาคม 2559
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2559 23:58:42 น.
Counter : 581 Pageviews.

0 comment
1  2  

Beautyrush98
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



สวัสดีค่ะขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและทักทายกันนะคะ
ลัลเริ่มเขียน Blog จริงจังตอนปี 59 ส่วนมากจะเป็นรีวิวและสอนแต่งหน้าค่ะ มีท่องเที่ยวบ้างตามโอกาสที่ได้ไป
สีผิวกลางๆ undertone gold/neutral NC30
สภาพผิวผสม - ผิวมันขาดน้ำค่ะ แพ้ง่ายเป็นสิวบ่อย
อยากให้เขียนเนื้อหาเกี่ยวกับอะไรหลังไมค์มาได้นะคะ จะได้เป็นข้อมูลแลกเปลี่ยนความรู้กัน

**************************
New Comments