รีวิว น้ำมันเปลือกมังคุด Xankin
       สวัสดีทุกคนค่ะ วันนี้เอลเบ้จะมารีวิวสกินแคร์ให้เพื่อนๆได้รับชมกันนะคะ :D บอกเลยว่าใครที่เป็นสิว ผิวแพ้ง่าย
จุดด่างดำเยอะ ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะไอเทมตัวนี้เด็ดมากจริงๆ

Xankin Mangosteen Facial Oil
แซนคิน น้ำมันเปลือกมังคุด ผลิตจากสารสกัดธรรมชาติ 100%


ปัจจุบันการใช้น้ำมันทาผิว เริ่มเป็นที่นิยมแพร่หลายมากขึ้น เนื่องด้วยคุณประโยชน์มากมายมหาศาล เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีผสมน้อย
และสามารถใช้ได้ทุกสภาพผิว จึงทำให้เมื่อใช้งานต่อเนื่องไปเรื่อยๆ จะช่วยปกป้องผิว และทำให้ผิวแข็งแรงขึ้นมาได้ค่ะ





น้ำมันเปลือกมังคุดมีดียังไง ?
ในเปลือกมังคุด จะมีสารตัวหนึ่ง ที่ชื่อว่า Xanthone (แซนโทน)
โดยสารแซนโทนมีดีตรงที่ สามารถยับยั้งการเกิดแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิวบนใบหน้า ช่วยฟื้นฟูซ่อมแซมเซลล์ผิว ทำให้ผิวพรรณดูอ่อนเยาว์
อีกทั้งยังยับยั้งเอนไซม์ “ไทโรซิเนส” (Tyrosinase) ที่เป็นต้นเหตุการสร้างเม็ดสีเมลานิน (Melanin) ซึ่งเป็นตัวที่ทำให้เกิดเม็ดสีดำบนผิวหน้า
เมื่อเมลานินถูกยับยั้ง ก็จะทำให้ริ้วรอย ฝ้า กระ จุดด่างดำ จางลงนั่นเอง





โดยน้ำมันของแบรนด์น้องใหม่ตัวนี้ นอกจากจะมีส่วนผสมของน้ำมันเปลือกมังคุดแล้ว ก็ยังมีส่วนผสมอื่นๆด้วย เช่น น้ำมันเมล็ดองุ่น
น้ำมันเชียร์บัตเตอร์ น้ำมันมะพร้าว เป็นต้นค่ะ



เนื้อผลิตภัณฑ์ และกลิ่น
น้ำมันตัวนี้ จะเป็นน้ำมันที่ใส ไม่มีสีค่ะ กลิ่นเปลือกมังคุดชัดเจน แต่ถ้าเอาไว้ในที่เย็น น้ำมันก็จะเปลี่ยนเป็นสีขาวขุ่นนะคะ ไม่ต้องตกใจค่ะ
เดี๋ยวก็จะกลับมาใสเอง





วิธีการใช้งาน
ให้เราทำการเขย่าขวดน้ำมันก่อนทุกครั้ง จากนั้น หยดน้ำมันลงบนฝ่ามือ 3-4 หยด แล้ววอร์มออยด์ที่มือให้อุ่นขึ้น เพื่อให้น้ำมันซึมสู่ผิวได้ไว 
จากนั้นนำมาทาและนวดเบาๆให้ทั่วใบหน้าและลำคอ เช้า-เย็น




ผลทดสอบ หลังจากใช้ผลิตภัณฑ์ 7 วัน



สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือ รอยแดงจากสิวจางลงไปมาก และสิวเกิดขึ้นใหม่น้อยลง ผิวดูฉ่ำน้ำ มีชีวิตชีวา เรื่องหลุมสิวยังเหมือนเดิม
ไม่ได้ตื้นขึ้น แต่แค่ผิวดูฟูขึ้นมาเฉยๆ เลยดูเหมือนจะลดลง คือจริงๆน้ำมันตัวนี้ใช้ได้ทุกสภาพผิวค่ะ ขนาดเบ้ผิวมัน ยังใช้แล้วผิวฉ่ำ
ผิวแข็งแรงขึ้นมาจากเดิมเยอะเลย  ถ้าคนผิวแห้ง หรือผิวผสม เบ้คิดว่าคงใช้ได้ดีเช่นกันค่ะ ^^


 

Xankin Mangosteen Facial Oil 20 ml  ราคา 390 บาท



สั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่
LINE: @xankinskincare หรือทาง LAZADA : bit.ly/xankin
หรือจะเป็นช่องทางอื่นๆเช่น Shopee , Konvy, JD Central

 

#xankin #xanthone #queenoffruits #mangosteen #natural #naturalskincare #naturalbeauty #organic #organicskincare #flawlessskin #สกินแคร์ #ผิว #ผิวขาว #หน้าใสไร้สิว #ธรรมชาติ #บำรุงผิวหน้า #บำรุงผิว #มังคุด #แซนโทน #เนียนใส




Create Date : 20 มีนาคม 2563
Last Update : 21 มีนาคม 2563 0:35:03 น.
Counter : 2330 Pageviews.

0 comment
รีวิว เมล็ดเจีย Super food กินเปล่าก็ดี ทำขนมก็ได้ By Body Shape
BODY SHAPE ORGANICS CHIA SEED  เมล็ดเจียออร์แกนิค 100% 



       "ถ้าจะพูดถึงผลิตภัณฑ์ที่ช่วยควบคุมน้ำหนัก ทำให้อิ่มท้อง โดยไม่ใส่สารอันตราย นาทีนี้ ไม่พูดถึงเมล็ดเจีย (Chia Seed) ไม่ได้แล้ว"

        สวัสดีทุกคนค่ะ :D วันนี้เอลเบ้จะมีรีวิวเมล็ดเจีย ในอีกแง่มุมหนึ่งที่ไม่ใช่แค่ช่วยเรื่องควบคุมน้ำหนัก แต่เมล็ดธัญพืชจิ๋วๆเหล่านี้ ยังอุดมไปด้วยสารอาหารมากมายที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย หรือที่เรียกว่ามีคุณสมบัติเป็นทั้ง Super food, Super Fruit และ Super Seed นั่นเองค่ะ 




"Super food คือ อาหารเพื่อสุขภาพ ที่มีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ให้คุณค่าทางโภชนาการสูง ชะลอความเสื่อมของร่างกาย บำรุงผิวพรรณ และช่วยเรื่องระบบขับถ่าย "





วิเคราะห์ประโยชน์ เมล็ดเจียปริมาณ 1ช้อนโต๊ะ  ( เท่ากับเมล็ดเจีย 1ซอง 12กรัม ที่ขายในเซเว่น)

ไขมัน
ถึงแม้จะมีปริมาณไขมันที่สูง แต่เมล็ดเจียอุดมไปด้วยไขมันดีมากมาย ทั้งชนิดโอเมก้า-3 และ โอเมก้า-6
-ไขมันโอเมก้า-6 จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมวิตามินที่ละลายในไขมัน จึงเป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ  
-ไขมันโอเมก้า-3  จะช่วยปกป้องหัวใจ โดยการลดความดันโลหิต ลดคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี และลดการอักเสบของผนังหลอดเลือด (สำหรับคนที่เป็นโรคความดันต่ำ ไม่ควรรับประทานเมล็ดเจียมากเกินไปนะคะ)

โปรตีน
เมล็ดเจีย 1ช้อนโต๊ะ มีปริมาณโปรตีนที่สูงถึง 4กรัม สามารถนำมารับประทานเพื่อเป็นแหล่งโปรตีนเสริมได้ในแต่ละมื้ออาหาร

คาร์โบไฮเดรต (ใยอาหาร)
ถึงแม้จะมีคาร์โบไฮเดรตสูงถึง 6กรัม แต่คาร์โบไฮเดรตที่ว่านี้คือ "ใยอาหาร" เป็นส่วนมาก ซึ่งใยอาหารเหล่านี้ เป็นอาหารพรีไบโอติก (prepiotic) ของแบคทีเรียที่ดีในลำไส้ใหญ่ ทำให้ระบบขับถ่ายดี ช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่

วิตามิน แร่ธาตุ
มีวิตามินบี1 แคลเซียม และแมกนีเซียม ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโต บำรุงประสาท กล้ามเนื้อ และ ช่วยเรื่องการเสริมสร้างโครงสร้างกระดูกและฟัน 

       โอโห นี่ขนาด 1ช้อนโต๊ะ ยังมีประโยชน์และคุณค่าทางอาหารเยอะขนาดนี้ เมล็ดจิ๋วๆแต่ประโยชน์ไม่จิ๋วตามขนาดนะคะ อยากลองกันแล้วใช่ไหม มาค่ะเดี๋ยวเบ้มาอธิบายรายละเอียด และพูดถึงผลิตภัณฑ์กันดีกว่า




เมล็ดเจียในประเทศไทยมีหลากหลายแบรนด์มากเลยนะคะ แต่วันนี้เบ้จะขอแนะนำแบรนด์ Body Shape  เพราะหาซื้อง่ายมากๆ ใน 7-11 ก็มีขายนะคะ อีกอย่างเบ้เคยรีวิวแบบถุงใหญ่ไปครั้งหนึ่งเมื่อประมาณ 1ปีที่แล้ว ถุงใหญ่ปริมาณเยอะมาก สารภาพว่าทุกวันนี้ยังกินไม่หมดเลยค่ะ ฮ่าๆ ถุงใหม่มาเพิ่มแล้ว



ขนาดใหญ่ ปริมาณ 400 กรัม 
ราคาถุงละ 320 บาท (มีจัดโปรโมชั่นบ่อยๆ เดี๋ยวเบ้จะแปะเพจเฟสบุ๊คไว้ใต้รีวิวนะคะ)
บรรจุในถุงฟอยด์ มีซิปล็อค ทึบแสง เก็บได้ยาวนานมากเลยค่ะ 

ขนาดเล็ก ปริมาณ 12 กรัม
ราคาซองละ 20 บาท
1ซองเล็กๆ ปริมาณเท่ากับที่เอลเบ้เทลงในถ้วยสีขาวเลยค่ะ ประมาณ 1ช้อนโต๊ะ เหมาะสำหรับคนที่อยากลองรับประทาน เบ้แนะนำซองแบบนี้เลยค่ะ หาซื้อง่ายมาก เดินเข้าเซเว่นเจอเลยค่ะ



วิธีการรับประทาน รสชาติ และ ไอเดียทำขนมสุดเจ๋ง

       โดยปกติ เบ้จะทานเมล็ดเจียเพื่อทำให้อิ่มท้องค่ะ ถือว่าลดน้ำหนักไปในตัว แถมได้ประโยชน์อีกด้วย ก็จะเอาเมล็ดเจียประมาณ 1ช้อนโต๊ะ ผสมกับ น้ำ แล้วดื่มเลย หรือถ้าวันไหนอยากทานเป็นอาหารเช้าที่มีประโยชน์สุดๆ ก็จะใส่นมพิทาชิโอ ผสมกับธัญพืชรวมค่ะ เรียกได้ว่า ประโยชน์แน่นๆ สารอาหารเน้นๆ ทานเสร็จแล้วจะรู้สึกได้เลยว่าร่างกายสดชื่นกระปรี้กระเปร่า พร้อมทำงานตลอดทั้งวันเลยค่ะ ^^



เมล็ดเจีย ยิ่งแช่นานยิ่งพองตัวค่ะ แต่จะพองได้เยอะมากถ้าแช่ในน้ำเปล่านะคะ แช่ในนมจะพองน้อยกว่านิดหน่อย
เรื่องรสชาติและสัมผัส จะกรุบกรอบ มีเมล็ดให้เคี้ยวคล้ายเม็ดแมงลัก แต่เมล็ดเจียจะมีความหอมธัญพืชมากกว่า สำหรับเบ้ชอบนะคะ มันหอมดี  ถ้าใครไม่มั่นใจกลัวไม่ชอบกลิ่น ลองซื้อซองเล็กๆมาทานก่อนก็ได้ค่ะ 



นอกจากแช่ในน้ำ นม หรือน้ำผลไม้ ยังเอามาทำขนมได้ด้วยนะคะ วันนี้เบ้ขอนำเสนอเมนู



" Chia Chocolate Mousse  ช็อคโกแลตมูสเมล็ดเจีย "
เมนูขนมแสนอร่อย แต่อุดมไปด้วยประโยชน์มหาศาล จากเมล็ดเจียและช็อคโกแลต




ส่วนผสม
- เมล็ดเจียปั่นละเอียด                         2/3  ถ้วย
- นมพิตาชิโอ หรือนมอัลมอนด์             2  ถ้วย
- ผงโกโก้ชนิดไม่หวาน                        3 ช้อนโต๊ะ
- เนยถั่ว                                             1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลหล่อฮั่งก๊วย                            1/4 ถ้วย
(ถ้าไม่มีสามารถใช้ สารให้ความหวานอื่นๆได้นะคะ เช่น น้ำผึ้ง เมเปิ้ลไซรัป น้ำตาลหญ้าหวาน แต่ปริมาณน้ำตาลอาจต้องกะใหม่นะคะ เพราะสารแต่ละตัว หวานไม่เท่ากันจ้า)
- ถั่วชนิดต่างๆ หรือกราโนล่า  ปริมาณแล้วแต่ชอบค่ะ นำมาตกแต่ง

วิธีทำ
1. นำเมล็ดเจียไปปั่นในเครื่องปั่นให้ละเอียด จนเมล็ดแตกเป็งผง
2. นำส่วนผสมทั้งหมดมาใส่เครื่องปั่นรวมกัน เมล็ดเจียที่ปั่นละเอียด นมพิตาชิโอ ผงโกโก้ เนยถั่ว และน้ำตาลหล่อฮังก๊วย ปั่นจนเข้ากันเป็นเนื้อเนียนนุ่มเหมือนมูส
3. นำมาจัดใส่แก้ว ตกแต่งด้วยถั่ว หรือกราโนล่า ก็จะได้ช็อคโกแลตมูสเจีย พร้อมรับประทานแล้วจ้า
ทริค  สามารถนำช็อคโกแลตมูสเจียไปแช่เย็นก่อนรับประทานเพื่อเพิ่มรสชาติที่นุ่ม เนื้อแน่น หอมมากกว่าเดิม เพราะเมล็ดเจียพองตัว และส่วนผสมเข้ากันมากขึ้นนั่นเองค่ะ





หน้าตาน่ารับประทานมาก รสชาติก็ดีด้วยนะคะ เป็นขนมที่ดีต่อสุขภาพสุดๆ ทั้งช็อคโกแลต เมล็ดเจีย และผสมเนยถั่วนิดหน่อย หอมเตะจมูก ทานแล้วอิ่มมาก แก้วนี้เอลเบ้แบ่งทานไป 3รอบนะคะ ไม่ไหวค่ะ จุกเลย ฮ่าๆ 



เมนูนี้สาย Keto ก็สามารถนำไปประยุกต์ทำได้นะคะ ฝรั่งนิยมมากๆ โรยหน้าด้วยถั่ว ส่วนสายอื่นๆ เพิ่มท็อปปิ้ง หรือโรยหน้าด้วยกราโนล่าเพิ่มเติมได้นะคะ จะมีความกรุบกรอบมากขึ้น เนื้อมูสก็หอมอร่อยเข้มข้นช็อคโกแลต แช่เย็นยิ่งอร่อยค่ะ



ดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติม 
1. Website :https://www.bodyshape.co.th
2. Facebook :www.facebook.com/bodyshapeproduct
เพจเฟสบุ๊คจะมีโปรโมชั่นมาบ่อยๆค่ะ ติดตามกันได้เลยน้า
3. Line: @bodyshape (มีตัว @ ด้วยนะคะ )

ช่องทางจัดจำหน่าย
1. Tops suppermarket
2. 7-11 ใกล้บ้านท่าน




Create Date : 29 มกราคม 2563
Last Update : 30 มกราคม 2563 17:23:16 น.
Counter : 12525 Pageviews.

1 comment
รีวิว เครื่องดื่ม Dark Chocolate + Gingko ดาร์กช็อคโกแลตผสมใบแปะก๊วย
     

       สวัสดีทุกคนค่ะ ^^ ช่วงสิ้นปีนี้ไปเที่ยวที่ไหนกันบ้างคะ ส่วนเอลเบ้นั้นคงจะอยู่บ้านกับครอบครัว  ไม่ได้ไปไหนเป็นพิเศษ ว่างๆแบบนี้เลยมาเขียนรีวิวให้เพื่อนๆได้ชมกันดีกว่า ตอนนี้อากาศที่เชียงใหม่ ช่วงเช้าเย็นสบายมากค่ะ เบ้จะชอบออกไปนั่งร้านกาแฟ แล้วสั่งเครื่องดื่มร้อนๆมานั่งจิบ เครื่องดื่มที่โปรดที่สุดก็เป็น "โกโก้ร้อน" เพราะอร่อย กินแล้วสบายใจมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก ดื่มทุกวันจนติด และขาดไม่ได้ วันนี้เบ้ออกมาซื้อของเข้าบ้าน ก็เลยอยากซื้อแบบชงเองง่ายๆติดไว้ที่บ้าน เผื่อวันไหนนึกครึ้มอยากชงโกโก้เองค่ะ



วันนี้มา Central Food Hall  หรือห้าง Tops Supermarket นั่นเองจ้า



ที่เชลฟ์เครื่องดื่ม ก็มีมากมายหลายยี่ห้อเลยค่ะ แต่เบ้สะดุดตากับของ Body Shape เพราะเป็นแบรนด์ที่เบ้ได้มีโอกาสรีวิวบ่อยๆค่ะ ทั้งตัวไฟเบอร์ดีท็อกซ์ และกาแฟผสมเมล็ดเจีย 



โกโก้ ราคาซองละ 109 บาท มีทั้งหมด 8 ซอง
เฉลี่ยตกซองละ 13.6 บาท 


โอเคค่ะ เดี๋ยวเราซื้อกลับบ้านไปลองกันเลยค่ะ > <



ข้อมูลผลิตภัณฑ์
Body Shape Dark Chocolate + Gingko เครื่องดื่มดาร์กช็อคโกแลตผสมใบแปะก๊วย
- มีโกโก้สูง 39%
- ไม่ผสมน้ำตาล ใช้ความหวานจากธรรมชาติ 
- ไม่มีโคเลสเตอรอล




ส่วนผสมสำคัญ
- ดาร์กช็อคโกแล็ต  มี Flavanol สูง ช่วยบำรุงสุขภาพหัวใจ ช่วยลดความดันโลหิต ช่วยการทำงานของสมอง ลดความเสี่ยงเป็นอัลไซเมอร์ กระตุ้นสมองหลั่งความสุข และช่วยควบคุมน้ำหนัก
- ใบแปะก้วย  มีฟลาโวนอยด์และเทอร์ปินอยด์สูง ช่วยเรื่องการทำงานของสมอง ลดความกังวล ลดความซึมเศร้า และ ลดระดับคอเลสเตอรอลได้
- ผงพรุน  มีไฟเบอร์สูง ช่วยในการขับถ่าย ช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่ มีวิตามิน K และธาตุเหล็กสูง
- อินนูลิน ใยอาหารช่วยกระตุ้นการขับถ่าย และลดระดับไขมันในร่างกาย
- และส่วนผสมอื่นๆอีกมากมาย ที่มีประโยชน์ อีกกว่า 20 รายการ



โกโก้ซองนี้ ให้พลังงานเพียงแค่ 60 กิโลแคลอรีเท่านั้นค่ะ น้ำตาลเพียง 2กรัม เอลเบ้ว่า เหมาะมากๆสำหรับสาวๆที่ต้องการหาเครื่องดื่มเพื่อควบคุมน้ำหนักนะคะ หรือจะดื่มเพื่อสุขภาพก็ได้ เพราะว่ามีแต่ส่วนผสมดีๆมีประโยชน์ต่อร่างกายทั้งนั้นเลยค่ะ 



อดใจไม่ไหวแล้ว มาแกะซองชงกันเลยจ้า 



ผงโกโก้นุ่ม เนียนละเอียด ที่สำคัญ " หอมกรุ่นกลิ่นดาร์กช็อคโกแลต " กลิ่นนี่ลอยเตะจมูกเลยจ้า



วิธีชง เพียงแค่เติมน้ำร้อนไปประมาณ 120 มิลลิลิตรค่ะ กำลังดี



ตอนแกะซองว่าหอมแล้ว ตอนชงหอมกว่าอีกค่ะ แนะนำว่าถ้าอยากให้ละลายง่ายๆ ให้เทน้ำร้อนใส่แก้วแล้วค่อยเทผงโกโก้ลงไปค่ะ ถ้าใส่ผงก่อนแล้วค่อยเติมน้ำร้อน จะคนละลายยากนิดนึง 



สีสันโกโก้สวยงาม น่าดื่มมากค่ะ น้ำตาลเข้มใช้ได้เลย



ทดลองดื่มกันค่ะ 
       หลังจากที่จิบเบาๆคำแรกแล้ว ก็กระดกหมดแก้วอย่างรวดเร็ว เพราะตัวโกโก้มีรสชาติเข้มข้น อร่อยมากค่ะ ไม่ได้มีรสชาติส่วนผสมอื่นแปลกๆโดดมาเลย มีแต่กลิ่นหอมโกโก้ ดื่มแล้วรู้สึกอารมณ์ดี ผ่อนคลาย แถมดื่มแล้วไม่รู้สึกผิดด้วยค่ะ เพราะแก้วนี้ 60 กิโลแคลอรีเอง 

       ใครที่มองหาโกโก้แบบชง ที่ดีต่อสุขภาพ เบ้ขอแนะนำซองนี้เลยค่ะ เพราะดื่มง่ายมากๆ แค่ฉีกซอง เทน้ำร้อน ได้ทานเลยค่ะ และที่ชอบที่สุดน่าจะเป็นส่วนผสมที่ใส่มาในโกโก้ 1ซองค่ะ เพราะว่าใส่สารสำคัญมาเยอะจริงๆ ถึงแม้เปอร์เซ็นต์ที่ผสมมาไม่สูงมาก แต่ถ้าดื่มเป็นประจำ เบ้คิดว่ามีผลดีกับสุขภาพแน่นอนค่ะ



ช่องทางการจำหน่าย
1.ทางออนไลน์  Shopee Lazada 
 2.Tops Supermarket

ช่องทางติดตามข่าวสาร  
FB : https://www.facebook.com/bodyshapeproduct/




Create Date : 23 ธันวาคม 2562
Last Update : 24 ธันวาคม 2562 1:52:35 น.
Counter : 1762 Pageviews.

0 comment
รีวิว น้ำมัน Rosehip ตัวฮอตฮิต จากแบรนด์ Trilogy


       สวัสดีทุกคนจ้า เอลเบ้เองค่ะ ^^  วันนี้มีผลิตภัณฑ์ตัวใหม่มารีวิวให้เพื่อนๆรู้จักกันค่ะ
ขอแนะนำ
Trilogy Certified Organic Rosehip Oil  น้ำมันโรสฮิป ออร์แกนิค สกัดเย็น  ตัวดัง ตัวฮิต
จากแบรนด์ "Trilogy" แบรนด์ที่มีต้นกำเนิดจากประเทศนิวซีแลนด์นั่นเองจ้า



       คือต้องเล่าความเป็นมาสักหน่อย ว่าแบรนด์ Trilogy นี้เนี่ย เค้าก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2002 แล้วนะคะ โดยสองพี่น้องสาวสวย ที่เป็นผู้ริเริ่มสกัดน้ำมันโรสฮิปบริสุทธิ์จากเมล็ดดอกกุหลาบป่า Rosa Canina แล้วสองสาวเค้าได้ลองเอาน้ำมันที่สกัดได้มาทาผิวดูค่ะ แล้วพบว่า โอ้พระเจ้า!!  ผิวชั้นช่างเจิดจรัสเปล่งปลั่งอะไรเยี่ยงนี้ เครื่องสำอางไหนก็เทียบไม่ติดเลย เท่านั้นแหละค่ะ เค้าเลยทำการค้นคว้าวิจัยต่อเกี่ยวกับน้ำมันโรสฮิป และได้ก่อตั้งแบรนด์นี้ขึ้นมา โดยคงคอนเซ็ปต์ว่า 

"การดูแลตนเองนั้นไม่ควรมาพร้อมกับค่าใช้จ่ายที่แพงจนเกินไป และ สิ่งที่สาวๆ ใช้นั้น ไม่ควรมีสารเคมีอันตรายใดๆ ปะปนอยู่ด้วย จึงตั้งเป็นบรรทัดฐานว่าผลิตภัณฑ์ทุกตัวที่ Trilogy ขาย จะต้องเป็นผลิตภัณฑ์ Organic และ All-Natural หรือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากส่วนประกอบจากธรรมชาติทั้งหมด ปราศจากสารเคมีอันตรายทุกชนิด"

       Trilogy เป็นแบรนด์ที่เป็น Natural  และ Organic  100% โดยได้รับการการันตีจากสถาบัน  Natrue Natural Cosmetics และสถาบัน Biogro ซึ่งเป็นสองสถาบันที่จะให้การรับรองเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่เป็นธรรมชาติและเป็นออร์แกนิคแบบ 100% เท่านั้น Trilogy เลยขึ้นชื่อเรื่องของการนำพืช, ผัก, ผลไม้ที่ทรงคุณค่าจากธรรมชาติ มาสกัดเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์นั่นเองค่ะ 
แต่ตัวสินค้าตัวแรก และตัวที่ขายดีตลอดกาลผ่านมา17 ปี ก็ยังเป็น Rosehip oil อยู่ดีค่ะ^^



       แล้วน้ำมันโรสฮิปนี่มันดีขนาดนั้นเลยเหรอ ?? 

หลายคนอาจะเกิดคำถามนี้ขึ้นมาในหัวใช่ไหมคะ มาค่ะ เดี๋ยวเบ้จะพาทุกคนไปรู้จักกับน้ำมันโรสฮิปกันแบบเนื้อหาเน้นๆค่ะ 



       
       Rosehip คือผลกุหลาบป่า จากสายพันธ์ุ Rosa Canina L. มีรูปร่างทรงกลม ไปถึงรี มีสีแดง สีส้ม แตกต่างกันตามสายพันธ์ุ โดยผลกุหลาบป่านั้นอุดมไปด้วยสรรพคุณทางยามากมาย คนสมัยก่อนนำผลโรสฮิปมารับประทาน หรือชงเป็นชาเพื่อรักษาโรคต่างๆค่ะ เช่น ใช้รักษาโรครูมาตอยด์ โรคการติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะ รักษาอาการหวัด และ บรรเทาอาการปวดศรีษะ
        สำหรับในแง่ของผิวพรรณ มักจะนำผล Rosehip มาสกัดเป็น น้ำมันโรสฮิป โดยการสกัดเย็น จะช่วยคงคุณประโยชน์ของน้ำมันได้ดีที่สุด สรรพคุณคร่าวๆ ก็คือ ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น อีกทั้งยังสามารถช่วยลดรอยแผลเป็น รอยสิว หลุมสิว รอยแตกลาย ริ้วรอยต่างๆให้ดีขึ้นได้ อย่างมีนัยยะสำคัญ



 
 
     Rosehip oil มีสารสำคัญใดบ้าง ?
จากการค้นคว้าข้อมูลจาก paper ที่ตีพิมพ์ทางด้านวิทยาศาสตร์ เอลเบ้ขอเลือกแค่ตัวหลักๆ ที่มีหน้าที่สำคัญในการบำรุงผิวนะคะ 

- Vitamin C และ A   
       ช่วยเรื่องการต่อต้านอนุมูลอิสระ และช่วยลดเลือนริ้วรอย จุดด่างดำโดยเฉพาะ Vitamin C ที่มีปริมาณสูงมากที่สุดในน้ำมันโรสฮิป สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ตัวนี้จะช่วยให้เมื่อใช้น้ำมันโรสฮิปไปนานๆ จะมีส่วนช่วยทำให้ริ้วรอยหรือหลุมสิวตื้นขึ้นมาเล็กน้อย 

อีกทั้ง Vitamin A หรือเรตินอยด์ที่มีอยู่ในน้ำมันโรสฮิป ก็มีประโยชน์ในการผลัดเซลล์ผิวเก่าออกอย่างอ่อนโยน ทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น ถึงแม้ว่าจะมีปริมาณที่น้อยกว่า Vitamin C ประมาณ 7 เท่า แต่ถ้าใช้อย่างเป็นประจำ และสม่ำเสมอ ก็จะเห็นผลเหมือนกันค่ะ

- กรดไขมัน Linolenic / Linoleeic / oleic acid
       เป็นกรดไขมันในกลุ่มโอเมก้า 3,6,9 มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ลดการเสื่อมของเซลล์ผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้น ช่วยรักษาสมดุลย์ของผิวหน้าให้แข็งแรง โดยเฉพาะกรดไขมัน Linoleic acid (กรดลิโนเลอิก) ที่มีสัดส่วนมากที่สุด จะช่วยให้น้ำมันโรสฮิปมีคุณสมบัติที่โดดเด่น ในเรื่องการซึมสู่ผิวที่ง่าย และทำให้น้ำมันมีความหนืดน้อย จึงเหมาะกับผู้ที่มีผิวผสม ผิวมัน และเป็นสิว เพราะก่อให้เกิดการอุดตันน้อยนั่นเองค่ะ
       Linoleic Acid เป็นกรดไขมันที่มีอยู่ใน Sebum หรือน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวของเราอยู่แล้ว ซึ่งตัวของ Linoleic Acid นี้จะทำให้ Sebum ของเรานั้นมีความเหลวและช่วยต้านการอักเสบได้ แต่หากร่างกายขาด Linoleic Acid หรือมีไม่เพียงพอนั้น ต่อมไขมันของเราจะผลิต Sebum มากขึ้น โดยใช้ Oleic Acid ขึ้นมาแทน ซึ่งทำให้น้ำมันหล่อเลี้ยงผิวมีความข้นเหนียวกว่า จึงเพิ่มโอกาสในการเกิดการอุดตันและในขณะเดียวกันก็ทำให้เกิดการระคายเคืองผิวได้มากกว่า
       สรุปสั้นๆก็คือ
น้ำมันโรสฮิปมี Linoleic Acid มากกว่า Oleic Acid ทำให้เหมาะกับผู้ที่ผิวมัน และมีแนวโน้มเป็นสิวง่ายนั่นเองค่ะ

- Carotenoid  ( Lycopene และ Beta-carotene )
       สารในกลุ่ม แคโรทีนอยด์ มีประโยชน์ในการช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระและฟื้นฟูเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย รวมถึงช่วยลดความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเซลล์ 

- Flavonoid
       ฟลาโวนอยด์  ถือว่าเป็นวิตามินที่มีโครงสร้างโมเลกุลเหมือนกับฮอร์โมนเพศหญิง หรือ เอสโตรเจน ดังนั้นจึงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในเรื่องของการเพิ่มความชุ่มชื้น ความเต่งตึงให้แก่ผิวพรรณ อีกทั้งยังมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) โดยมีการศึกษาหลายชิ้นพบว่าฟลาโวนอยด์บางชนิดมีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระเหนือกว่าวิตามินซีหรือวิตามินอี ถึง 50 เท่า เลยทีเดียวนะคะ

- Quercetin 
เควอซิทิน คือสารที่สามารถยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase ได้ ซึ่งไทโรซิเนสเป็นเอนไซม์สำคัญในการสร้างเม็ดสี เมลานินแต่เมื่อถูกยับยั้งแล้ว เม็ดสีก็จะไม่ถูกสร้างขึ้น ทำให้รอยดำที่เกิดจากสิวหรือแผลสามารถจางหายได้เร็วขึ้นนั่นเองค่ะ



       "Trilogy มีทุกอย่างที่ผิวต้องการ ปราศจากทุกอย่างที่ผิวไม่ต้องการ"



        หลังจากทราบประโยชน์ของน้ำมันโรสฮิป และสารสำคัญที่ช่วยทำให้ผิวสวยเป๊ะแล้ว
ก็มารีวิวในส่วนผลิตภัณฑ์และรูปลักษณ์กันบ้างค่ะ :) 

Trilogy Certified Organic Rosehip Oil  ขนาด 10 ml
มีจำหน่ายที่ Watsons ราคา 390 บาท (โปรโมชั่นลดราคาจาก 490 บาท)
สะดวก พกพาง่าย เพราะตัวนี้เป็นลูกกลิ้งค่ะ





ลักษณะเนื้อผลิตภัณฑ์
- เป็นน้ำมันสีเหลือง มีกลิ่นเฉพาะตัวที่อธิบาย หรือเปรียบเทียบไม่ถูก แต่ไม่ใช่กลิ่นดอกกุหลาบนะคะ เบ้ว่าต้องลองมาดมเองมากกว่า สำหรับเบ้คิดว่ากลิ่นมันคล้ายๆเปลือกไม้
-น้ำมันไม่หนืดมาก เนื่องจากมีสัดส่วนของ Linoleic acid สูง เมื่อกลิ้งลูกกลิ้ง แล้วเอามือวนเบาๆ ทิ้งไว้สักครู่ ก็ซึมสู่ผิวได้ไวมาก และไม่ทิ้งคราบมันใดๆบนผิวเลย




การใช้งาน
       สามารถใช้ได้ทุกส่วนของร่างกายจริงๆค่ะ เบ้จะแนะนำคร่าวๆ ว่ามีส่วนไหนที่ใช้ได้บ้าง


       
       โดยรวมๆแล้ว จะใช้บริเวณที่มีปัญหาผิวเฉพาะจุดค่ะ หรือจะกลิ้งๆบางๆ แล้วทาทั้งหน้าก้ได้นะคะ  ไม่ว่าจะเป็น ผิวแห้ง ผิวมีริ้วรอย รอยดำจากสิว หลุมสิว ก็สามารถใช้ได้หมดเลยค่ะ
       แต่บริเวณที่เบ้ใช้บ่อยๆก็จะมี ใต้ตา ร้องแก้ม ข้างแก้มที่มีรอยสิว ลำคอ ริมฝีปาก จมูกเล็บ รอยด่างดำบริเวณต่างๆ รอยยุงกัด แมลงกัดต่อยก็ใช้ได้นะคะ น้ำมันตัวนี้มีฤทธิ์ทางยาในการรักษา ต้านการอักเสบด้วยค่ะ
       เบ้เคยโดนมดตะนอยกัด คันแผลมาก บวมแดงเลย ตรงหลังมือค่ะ เอาน้ำมันมาทา เอ้ย หายคันจริงๆด้วย แถมแผลหายไวขึ้นด้วย ดีมากจริงๆค่ะ 





ผลลัพธ์หลังจากใช้ไป 14 วัน


       
       สิ่งแรกที่สังเกตเห็นเลยว่า ผิวมีความฉ่ำเงา ชุ่มชื้นกว่าเดิมมาก และ รอยแดงจากสิวจางลงไปเยอะเลยค่ะ อันนี้เบ้ถ่ายเปรียบเทียบข้างแก้ม เพื่อจะดูประสิทธิภาพในเรื่องของการลดเลือน รอยดำ รอยแดง จุดด่างดำจากสิวค่ะ น้ำมันตัวนี้ ไม่ก่อให้เกิดสิวขึ้นใหม่จริงๆค่ะ ขนาดเบ้เป็นคนผิวมันอุดตันง่ายนะคะ
       ส่วนเรื่องรอยหลุมสิว มันดูนวลเนียนจากการที่ผิวชุ่มชื้นมากกว่าค่ะ ถ้าอยากให้เห็นเรื่องรอยหลุม ริ้วรอยจริงๆ ทางแบรนด์บอกไว้ค่ะ ว่าให้ใช้ไปประมาณ 2-3 เดือน ถึงจะเห็นผลที่ชัดเจน  ในแง่ของการทำให้ผิวที่แห้ง กลับมาฉ่ำวาว ตัวนี้ให้ไปเต็มๆเลยค่ะ เห็นผลที่สุดเรื่องนี้ และไม่เหนียวเหนอะหนะด้วยนะคะ
      สรุปก็คือ น้ำมันโรสฮิป เหมาะกับสภาพผิวมัน เป็นสิวง่าย แบบเบ้มากค่ะ แต่อาจไม่ได้เหมาะกับทุกคนที่มีสภาพผิวคล้ายเบ้นะคะ แนะนำให้ลองทาเฉพาะจุดก่อน เพราะมันมีหลายปัจจัยที่ก่อให้เกิดสิวขึ้นค่ะ ถ้าเกิดใช้แล้วถูกจริต ถูกกับผิวตัวเอง ก็ใช้ได้ยาวๆเลยค่ะ ^^ ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ ไม่มีสารเคมี ถือว่ามีความปลอดภัย และใช้ต่อไปได้เรื่อยๆ โดยไม่ต้องกลัวผิวแพ้ หรือดื้อสารเคมีเลยค่ะ



ช่องทางจัดจำหน่าย 
Trilogy Certified Organic Rosehip Oil 
แบบลูกกลิ้ง รุ่นใหม่ล่าสุด รุ่นมีวางจำหน่ายที่ วัตสัน เท่านั้นจ้า


ช่องทางติดตามข่าวสาร
FB : https://www.facebook.com/TrilogyThailand





 



Create Date : 28 พฤศจิกายน 2562
Last Update : 29 พฤศจิกายน 2562 23:16:13 น.
Counter : 1822 Pageviews.

1 comment
รีวิว Yodsang ผลิตภัณฑ์ลดผมร่วงจากข้าวสังข์หยด คอมโบ 3ตัวเด็ด






 

สวัสดีค่าาา เอลเบ้รีวิววันนี้ จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับผลิตภัณฑ์ดีๆของไทยนะคะ เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้านเป็นที่สุดดดด ขอแนะนำ "Yodsang ผลิตภัณฑ์ปลูก เส้นผมใหม่ แก้ปัญหาผมร่วง จากสารสกัดข้าวสังข์หยดของไทย"

ที่มา https://www.yodsang.com/

Yodsang ป็นผลิตภัณฑ์ที่มีผลงานวิจัยรับรอง จากผลวิจัยโดยอาจารย์นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง นำสารสกัดจาก ข้าวสังข์หยด ช่วยลดการขาดหลุดร่วงของเส้นผม และกระตุ้นการงอกใหม่ของเส้นผม จากผลงานวิจัยนี้ยังได้รับรางวัลระดับนานาชาติ ถึง 3 รางวัลเลยค่ะ 
1. รางวัลเหรียญทอง Gold Medal จากงาน 2015 Kaohsiung International Invention & Design Expo ประเทศไต้หวัน
2. รางวัล Special Prize จาก Eurobusiness,-Haller, ประเทศโปแลนด์
3. รางวัล Special Prize จาก Euro Invent, ประเทศโรมันเนีย

และ ปี 2018 ผลิตภัณฑ์ได้รับรางวัลรองชนะเลิศ การประกวดผลิตภัณฑ์นวัตกรรมจากข้าวไทย
Rice Plus Award 2018 จากกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ด้วย โอ้วว รางวัลการันตีแบบนี้ พลาดไม่ได้เด้ออ

 
 
 
สารสกัดข้าวสังข์หยดที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ Yodsang นั้นเป็นสารสกัดที่ผ่านงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ซึ่งได้ผลทดสอบว่า เปลือกหุ้มเมล็ดข้าวสังข์หยด มีสารประเภทฟลาโวนอยด์สูง ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและส่งเสริมการเจริญของเส้นผม
ประโยชน์ของสารต้านอนุมูลอิสระ ฟลาโวนอยด์ 
1. ช่วยกระตุ้นการงอกใหม่ และลดการขาดหลุดร่วงของเส้นผม
2. ช่วยลดการเกิดแบคทีเรียบนหนังศรีษะ
3. เพิ่มการไหลเวียนของเลือดบนศีรษะ


ขั้นตอนการทำงานของสารสกัดข้าวสังข์หยด



 รู้รายละเอียดงานวิจัยผลิตภัณฑ์ไปแล้ว คราวนี้มาดูของจริงกันเลยค่า ผลิตภัณฑ์มาเป็นเซต 3 ตัวนะคะ ก็คือ
แชมพู ครีมนวดผม และ โทนิคเข้มข้น


 
 

 1. Yodsang Hair Nourishing Shampoo

 แชมพูทำความสะอาดจากพืชธรรมชาติ ด้วยสารชำระล้างที่อ่อนโยนจากมะพร้าว ปราศจากสาร SLS/SLES ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง บำรุงให้ผมนุ่มชุ่มชื้นด้วยน้ำมันอาร์แกนออย และลดผมร่วงด้วยสารสกัดจากข้าวสังข์หยด
 
วิธีใช้ : ชโลมแชมพูลงบนผมที่เปียก นวดเบาๆ ให้ทั่วศรีษะ แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด เพื่อประสิทธิภาพที่ดี ควรใช้แชมพูปลูกผมคู่กับครีมนวดและแฮร์โทนิคหยดสังข์

 

2. Yodsang Replenishing Conditioner

ครีมนวดบำรุงเส้นผมสูตรอ่อนโยน ปราศจากซิลิโคน อุดมไปด้วยสารบำรุงจากธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น น้ำมันมะพร้าว เชียร์บัทเทอร์ น้ำมันอาร์แกนออแกนิกส์ และน้ำมันโจโจบา อุดมไปด้วยโปรวิตามิน B5 และกรดอะมิโน ช่วยฟื้นฟูเส้นผมให้ดูชุ่มชื่น มีชีวิตชีวา สุขภาพดี

วิธีใช้ : หลังจากทำความสะอาดผมด้วยแชมพู ชโลมครีมนวดผมลงบนเส้นผมให้ทั่วศรีษะ ทิ้งไว้ 3 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด เพื่อประสิทธิภาพที่ดีควรใช้คู่กับแชมพูปลูกผมและแฮร์โทนิคหยดสังข์
 


3. Yodsang Revitalizing Tonic

แฮร์โทนิคจากสารสกัดข้าวสังข์หยด ที่เน้นการกระตุ้นการงอกใหม่ของเส้นผม จากนวัตกรรมสารสกัดจากข้าวสังข์หยด ช่วยบำรุงเส้นผมบริเวณที่หนังศีรษะบาง และทำให้รากผมแข็งแรง 
 

วิธีใช้ :หลังสระผมทุกครั้ง เช็ดผมให้หมาด ฉีดแฮร์โทนิคลงบนศรีษะบริเวณที่ต้องการ โดยไม่ต้องล้างออก เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น แนะนำให้ใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เดียวกัน



มาทดลองใช้จริงกันเลยค่าา 
 

- ชโลมผมให้เปียก เทแชมพูลงฝ่ามือถูให้เกิดฟอง จากนั้นนำฟองแชมพูมาชโลมให้ทั่วศรีษะ
ความรู้สึก แชมพูมีกลิ่นหอมอ่อนๆแบบธรรมชาติ สีใส และฟองค่อนข้างน้อย อาจะเป็นเพราะว่าไม่มีสารทำให้เกิดฟองอย่าง SLS/SLES ความรู้สึกเหมือนจะไม่สะอาด แต่จริงๆสะอาดนะคะ ให้เราค่อยๆคลึงแชมพูให้ทั่วศรีษะ นวดๆไปเรื่อยๆ จากนั้นล้างน้ำออกให้สะอาดค่ะ
ทริคเล็กๆ
-การที่เอลเบ้ถูแชมพูที่มือก่อนจะชโลมไปที่ศรีษะ เป็นเพราะว่า ผมในตอนเปียก จะมีความอ่อนแอ การที่เราเทแชมพูใส่ผมแล้วขยี้เลย จะทำให้ผมถูกรบกวน และขาดง่ายค่ะ


 


-หลังจากที่ล้างแชมพูออกแล้ว ก็ชโลมครีมนวดผม และนวดเบาๆ จนพอใจค่ะ
ความรู้สึก
ครีมนวดสีขาว กลิ่นหอมอ่อนๆ ชื่นใจมาก รู้สึกได้ว่าเนื้อบางเบากว่าในท้องตลาด อาจเป็นเพราะว่าไม่มีซิลิโคนค่ะ เหมาะสำหรับคนที่ผิวอุดตันง่ายนะคะ ใครที่เป็นสิวที่แผ่นหลัง แล้วไม่หาย เอลเบ้แนะนำให้เลือกครีมนวดที่ไม่มีส่วนผสมของซิลิโคนจ้า
ทริคเล็กๆ
-ปกติเอลเบ้ใช้ครีมนวดทั่วเส้นผม โดยเว้นที่หนังศรีษะไว้ค่ะ เพราะกลัวว่าจะอุดตันหนังศรีษะ แต่ทางแบรนด์ YODSANG บอกมาว่าของเค้าไม่มีซิลิโคน แถมยังมีสารสกัดจากข้าวสังข์หยดอีก เพราะฉะนั้นใส่ที่โคนผมและบริเวณหนังศรีษะได้เลยจ้า
-ขั้นตอนสุดท้ายในการล้างน้ำ ควรล้างให้สะอาด และให้เวลามากที่สุดค่ะ เพื่อป้องกันสารตกค้างที่เส้นผม คือเราไม่รู้หรอกค่ะ ว่าสารที่ตกค้างที่เส้นผมเราจะก่อให้เกิดปัญหาเส้นผมตามมาเมื่อไหร่ แต่ถ้าเราป้องกันไว้ ก็ดีกว่ากลับมาแก้ไขทีหลังน้า

 


-เช็ดผมให้พอหมาด ฉีดโทนิคให้ทั่วหนังศรีษะ หรือจะฉีดที่มือก่อน แล้วค่อยขยี้เบาๆให้ทั่วหนังศรีษะก็ได้นะคะ 
ความรู้สึก
โทนิคออกมาเป็นสเปรย์ เนื้อเหลวใสเหมือนน้ำ กลิ่นหอมอ่อนๆเช่นเดิม อาจจะรู้สึกว่าชโลมไม่ทั่วศรีษะ ให้เราค่อยๆคลึงเบาๆไปเรื่อยๆค่ะ เดี๋ยวจะทั่วเอง
ทริคเล็กๆ
หลังจากที่ใช้ผลิตภัณฑ์ทุกตัวเรียบร้อยแล้ว ก็เป็นขั้นตอนการทำให้ผมแห้งค่ะ เราไม่ควรปล่อยให้ผมเปียกนาน หรือว่าโพกหัวด้วยผ้าขนหนู เพราะจะเป็นการกระตุ้นให้แบคทีเรียเกิดการเติบโต และทำให้หนังศรีษะระคายเคืองกว่าเดิมค่ะ วิธีที่ดีที่สุดคือ เช็ดผมให้แห้งหมาด และไดร์ผมให้แห้งภายใน 5-10นาทีค่า คนที่ผมร่วงเยอะๆลองปรับเปลี่ยนขั้นตอนนี้ดูนะคะ เบ้ว่าเป็นขั้นตอนสุดท้ายที่สำคัญมากเลยค่ะ


รีวิวหลังจากใช้ไป 14 วัน....
 

ความรู้สึกหลังใช้ ผมนุ่มสลวย ดูดีมากค่ะ พริ้วไหว และดูแข็งแรง

ทดสอบสางผม และกระตุกผมเบาๆ

           มันเยี่ยมมากกกก ผมเบ้ร่วงน้อยลงกว่าเดิมเยอะเลยค่ะ ใครที่มีปัญหาผมร่วงที่แก้ไม่หาย อยากให้มาลองผลิตภัณฑ์ของ Yodsang ดูนะคะ เบ้รู้สึกได้เลยว่าอ่อนโยนต่อเส้นผมมาก ใช้แล้วรู้สึกเฮลตี้มากค่ะ 
           แต่อย่างไรก็ตาม เราควรดูแลเส้นผมอย่างถูกวิธีตั้งแต่แรกนะคะ เช่น ไม่มัดผมรวบตึงนานเกินไป ไม่ดึงผมเล่น หรือขั้นตอนการสระผม และทำผมให้แห้งก็สำคัญมากค่ะ ทริคเล็กๆที่สอดแทรกในแต่ละขั้นตอนการใช้ผลิตภัณฑ์ คือสิ่งที่เบ้ตั้งใจให้ทุกคนเป็นความรู้ค่ะ และสุดท้ายนี้เบ้ขอเป็นกำลังใจ ให้คนที่ผมบาง หรือผมร่วง กลับมาผมหนาแข็งแรงเหมือนเดิมนะคะ เส้นผมก็เป็นเหมือนความมั่นใจของเรา
          วันนี้ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้นะคะ ขอบคุณทุกคน ที่ติดตามรีวิวมากค่า :)



ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมจากทางแบรนด์ YODSANG
ผ่านช่องทางเว็ปไซต์ https://www.yodsang.com/
FB : Yodsang ลดผมร่วง ปลูกผม
และสามารถเข้าไปดูสินค้าได้ที่
Shop Kis Beauty Store, Siam Discovery Shop Ecotopia ชั้น 4, Siam Paragon ShopBodyShape ชั้น3, IConSiam ชั้น5  ใครสะดวกใกล้ที่ไหนลองเข้าไปลองดูนะคะ 



Create Date : 06 ตุลาคม 2562
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2562 23:43:37 น.
Counter : 1547 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  

Elbe_tayrabert
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



All Blog