ข้าคือ Sa'kyo
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
27 มีนาคม 2550
 
All Blogs
 
~~รักป่วน ๆ ของก๊วนเด็กแสบ~~ ตอนที่ 24


Mibu Sa’Kyo talk…….

อะไรกัน อะไร.....นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย

หลังจากที่มะเหมี่ยวไม่ได้มาเรียนเพราะปวดท้องถึง 3 วัน เขานอนพักอยู่ที่หอนอนตลอด ดังนั้นเหตุการณ์บางอย่างที่กำลังแล่นเข้าสู่สมองของเขาด้วยน้ำเสียงของน้อยหน่าตอนนี้ มันทำให้จิตใจของเขาหงุดหงิด

“จริง ๆ นะพู่ พู่นะนอนไม่สบายอยู่ที่ห้องตลอด เลยไม่รู้เรื่อง ช่วงนี้หน่ากับขิงก็ไม่ว่างด้วย เรื่องกิจกรรมยุ่งขนาดไหนก็รู้ เลยไม่ได้เล่าให้ฟัง คู่นั้นนะหวานกันจะตาย ดูแล้วอัพน่ะ เทคแคร์จอยจนแทบจะกลายเป็นเจ้าหญิงเลยละ จอยเองก็ดูจะพออกพอใจมากเลยนะ ก็แหงอยู่แล้ว อัพนะ ทั้งรวย ทั้งหน้าตาดี แถมยังเก่ง ป๊อบ ในหมู่สาว ๆ จะตาย จอยคงยืดละ.......”

น้อยหน่ายังพูดต่อมาอีกหลายประโยค และแต่ละประโยคก็เพิ่มความหงุดหงิดของมะเหมี่ยวให้เพิ่มขึ้นมา ภายใต้ใบหน้าที่เรียบเฉย

“น้อยหน่า เค้ามีอะไรจะถาม?”

“อะไรเหรอ?” น้อยหน่ารีบตอบกลับทันที ภายในใจกระหยิ่ม หากเรื่องที่คนตรงหน้าของเธอถามเกี่ยวกับจอย เธอก็พร้อมที่จะให้ข้อมูลที่ทำให้เขาเกลียด ไม่พอใจจอยทันที แม้มันจะเป็นเรื่องที่ไม่จริงก็ตาม

“ขิงไปไหนคะ?”

ผิดคาดเล็กน้อย น้อยหน่าคิดว่ามะเหมี่ยวจะถามเรื่องจอยซะอีก แต่กลับเปลี่ยนเป้าไปหาคนที่คบหาอยู่

“ไม่รู้สินะ หายไปตั้งแต่พักแล้ว คงไปที่ส่วนกลางแหละ วันนี้มีแข่งกีฬานี่ ขิงคงวุ่นนิด ๆ”

น้อยหน่าตอบไป และแวบหนึ่ง ความคิดที่จะทำให้มะเหมี่ยวรู้สึกแย่กับขิงก็โผล่เข้ามาในหัวของน้อยน่า เธอไม่สนใจหรอกว่าใครจะเป็นยังไง เธอสนแค่ว่า สิ่งที่เธอทำสามารถทำให้คนที่เธอมีใจสนใจเธอก็พอ

“แล้วพู่รู้อะไรไหมคะ?”

มะเหมี่ยวเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถามน้อยหน้า มือของเขายังคงกดปากกาเล่น หารู้ไม่ว่า ท่าทางอย่างนี้ของเขา ทำให้น้อยหน่าใจเต้น

“ว่าไงคะ” เมื่อไม่เห็นว่าคนช่างเม้าท์อย่างน้อยหน่าพูด มะเหมี่ยวจึงถามย้ำ

“ก็ดูท่าขิงจะมีอะไร ๆ แปลก ๆ กับน้อง ม.4 ที่มาช่วยงานนะคะ เป็นทอมน่ารักมากเลยนะคะพู่ ดูเขาสนิทกันมาก”

มะเหมี่ยวเลิกคิ้วขึ้นอีก และพยักหน้า ก่อนจะยิ้ม

“ไม่รู้สิคะ ไม่ได้มาเรียนแค่วันสองวัน ดูตกข่าวอยู่หลังเขายังไงไม่รู้ วันนี้อาจารย์คงไม่มาสอนนะคะ”

“ค่ะ ฟรีค่ะวันนี้ เพราะต้องเตรียมเรื่องงานกีฬา”

ได้ยินอย่างนั้นมะเหมี่ยวก็เก็บของที่วางอยู่บนโต๊ะเรียนใส่กระเป๋าอย่างรวดเร็ว.........น้อยหน่ามองตามอย่างงง ๆ

“จะไปไหนคะ?”

มะเหมี่ยวไม่ตอบ เขาแค่กระตุกยิ้มบาง ๆ ให้น้อยหน่าเท่านั้น และนาทีต่อมาเขาก็ลุกขึ้นยืน

“ถามอีกหน่อยค่ะ..........เค้ากับเด็ก ม.4 คนที่สนิทมาก ๆ กับขิง ใครดูดีกว่ากันคะ.....”

มะเหมี่ยวถาม พร้อม ๆ กับยกกระเป๋าพาดที่บ่า เขาไม่ได้อยากรู้หรอกว่าเด็กที่สนิทกับขิงนะ หน้าตาดี หรือดีเลิศขนาดไหน เขาแค่ไม่อยากให้น้อยหน่าสงสัยอะไร ถ้าเขาจะถามคำถามต่อไป

“ก็.......ต้องเป็นพู่อยู่แล้ว แต่เด็กคนนั้นก็น่ารักอยู่หรอกนะ ก็น่าที่ขิงจะสนใจบ้าง”

น้อยหน่าตอบโดยไม่วายทิ้งให้คนฟังแอบตะขิดตะขวางใจกับคำลงท้าย ถ้าเป็นคนอื่น การพูดแบบนี้คงทำให้อารมณ์หึงทำงานได้ แต่ไม่ใช่กับมะเหมี่ยว....... เขาแคร์ที่ไหนละว่าขิงจะสนใจใคร ที่เขาสนใจนะ......คือ....................

“และคนที่เธอบอกว่า ป๊อป หน้าตาดี อย่างอัพละ..............เค้ากับหมอนั่นใครดูดีกว่ากัน”

“เอ่อ.....................”

น้อยหน่าอึ้งเล็กน้อย.......ไม่ใช่ว่าเธอเลือกไม่ถูกหรอกนะว่า ใครดูดีกว่า คำตอบก็ต้องเป็นมะเหมี่ยวอยู่แล้ว แต่ที่เธอไม่เข้าใจก็คือ ทำไมมะเหมี่ยวถึงถามอย่างนี้.....

“......ของมันก็แน่อยู่แล้วว่าต้องเป็นพู่ ว่าแต่ถามทำไมเหรอ??.....”


มะเหมี่ยวไม่ชอบให้ใครมาถามเรื่องที่เขาคิดอยู่ เขาแค่ยิ้มบาง ๆ แต่ก็ทำเอาน้อยหน่าหน้าแดง และขวยเขินขึ้นมา........อาการของเธอมีหรือจะรอดสายตาของเขา ทำไมเขาจะดูไม่ออกละว่าเพราะอะไรเธอคนนี้ถึงเป็นคนอย่างนี้ ทำไมเธอคนนี้ถึงพยายามนักหนาที่จะทำให้เขาไม่ชอบใจ ผู้หญิงคนอื่น ๆ

“ไม่มีอะไรหรอก....แค่อยากรู้นะ ว่าเค้าจะทำใครใจเต้นได้บ้าง ขอบใจนะคะ เค้าไปก่อนนะ”


มะเหมี่ยวหันหลังกลับทันที ไม่สนใจน้อยหน่าอีก ประโยคคำพูดสั้น ๆ ของน้อยหน่าที่ดังแผ่วเบา เขาก็ไม่สนใจจะฟัง


“ก็หน่านี่ไง............ที่ใจเต้น”









เกือบทุกคนหากได้ยินว่าคนรักของตัวเองอยู่กับใครก็คงไม่อยู่เฉย มะเหมี่ยวก็เช่นกัน คนรักของเขามีคนอยู่ใกล้ชิด และคน ๆ นั้นก็ไม่ใช่เขา เรื่องอะไรที่คนอย่างเขาจะยอม

เขาเดินดิ่งไปที่ห้องกิจกรรม เขารู้ว่าตอนนี้เธออยู่ที่นั่น และก็ต้องมีคนที่ใกล้ชิดเธออยู่ด้วย หลายคนคงดูไม่ออกว่าเขาอยู่ในอารมณ์ไหน ใบหน้าที่เรียบเฉยของมะเหมี่ยว เก็บซ้อนความรู้สึกได้เป็นอย่างดี

ฉันไม่มีทางให้เธอเป็นของใครหรอก................

“อ้าว!!! ไปไหนนะ ถ้าจะไปหาขิงละก็เขาอยู่ที่ส่วนกลางนะ มาทางนี้ ผิดทางแล้วไอ้พู่!!!”

เพื่อนคนหนึ่งในชั้นเรียนที่มะเหมี่ยวไม่สนใจจะจดจำชื่อทักระหว่างทางที่เดินสวนกับเขา.......มะเหมี่ยวไม่ตอบ แต่เดินผ่านไปเฉย ๆ

ใช่!!! ขิงอยู่ที่ห้องส่วนกลาง แต่คนที่เขาจะไปหานี่คือคนรัก นั่นก็คือ...............จอย

มะเหมี่ยวเร่งฝีเท้าให้เร็วมากยิ่งขึ้น เมื่อเขาเห็นร่างที่ตามหาอยู่ ใช่จริง ๆ เธอมีใครอีกคนอยู่ข้าง ๆ มะเหมี่ยวกำมือแน่น เขาจ้องมองจอยราวกับจะจับเธอเข้ามาอยู่ในร่างกายของเขา เขาไม่มองคนที่อยู่เคียงข้างเธอแม้แต่หางตา

จอย....เธอกำลังเดินออกจากห้องกิจกรรมมาพร้อมกับอัพที่มานั่งเฝ้าเธอ.....จอยแอบถอนหายใจเป็นระยะ ๆ เธอนิ่งเงียบและยิ้มรับเท่านั้นเวลาที่อัพพูดอะไร เธอไม่มีอาการตอบโต้อะไรมากมาย สาว ๆ หลายคนอิจฉาเธอที่อัพมาสนใจเธอ แต่เธอไม่ได้รู้สึกดีใจเลย ในใจของเธอมีเพียงคน ๆ เดียวที่เด่นชัดอยู่ตลอด

จอยแค่หันไปยิ้มบาง ๆ ให้กับอัพที่หันมาถามอะไรเธอสักอย่าง เธอไม่ทันฟังจึงได้แต่ยิ้มไปเท่านั้น.....

แต่แล้วอยู่ ๆ ร่างบางของเธอก็เซไปทางด้างหลัง ไม่ใช่เพราะมีใครอยู่ด้านหลังแล้วดึงเธอไป แต่เป็นเพราะ ร่างของใครคนหนึ่ง ที่เดินสวนเธอมา และกระชากร่างของเธอไปด้วย

“พู่!!!” จอยเบิกตากว้างขึ้นเมื่อเห็นว่าใครเป็นคนรั้งร่างของเธอออกไป อัพทำท่าจะตามารั้งร่างของจอยคืน แต่มะเหมี่ยวดึงให้จอยไปอยู่ด้านหลังของเขา พร้อม ๆ กับยืนขวางไว้

อัพมองหน้ามะเหมี่ยว ซึ่งสิ่งที่เขาได้รับตอบมาก็คือสายตาเย็นชาที่เขาไม่คิดว่า คนที่เคยดูบอบบางจะมีได้ แน่นอน หากคนตรงหน้าอัพ คือชมพู่ เขาคงไม่มีทางได้เห็นท่าทางอย่างนี้ แต่ตอนนี้ที่เขาเผชิญหน้าคือคนที่ชื่อว่า มะเหมี่ยว...........

“กะ............”


“ผู้หญิงคนนี้ เป็นของฉัน.............อย่ามายุ่ง”

น้ำเสียงของมะเหมี่ยว แม้จะราบเรียบแต่ก็เฉียบคม และแฝงไปด้วยอำนาจ อัพนิ่งอึ้ง ไม่คิดว่ามะเหมี่ยวจะกล้าพูดแบบนี้ ทั้ง ๆ ที่เขามีขิงเป็นแฟนอยู่ อัพอยากจะอ้าปากต่อว่ามะเหมี่ยว แต่ความรู้สึกบางอย่างที่แผ่ออกมาจากมะเหมี่ยว ทำให้เขาไม่อยากขยับตัว ชั่ววูบหนึ่ง เขารู้สึกตัวได้ทันที ว่าเขากลัวคน ๆ นี้

มะเหมี่ยวไม่สนใจอัพ หันไปทางจอย และพาเธอเดินออกมา พูดให้ถูกก็คือ เขาดึงกึ่งลากจอยออกมา

“จะพาฉันไปไหน??”


มะเหมี่ยวไม่ตอบ เขาพากเธอเดินออกจากอาคารเรียน ตลอดทางมีสายตาหลาย ๆ คู่มองมาทางคนทั้งคู่ คงไม่มีใครสงสัยอะไร ถ้าคนทั้งคู่ไม่มีแฟนอยู่แล้ว และทั้งสองไม่ใช่แฟนกัน

มะเหมี่ยวไม่สนใจสายตาที่มองมา เขาไม่แคร์ว่าใครจะมองและพูดอะไรยังไง ไม่สนว่าใครจะเอาไปพูดให้ขิงฟัง ที่เขาสนใจก็คือ ผู้หญิงที่เดินตามเขามาเพราะแรงดึงของเขาต่างหาก

ทั้งคู่มาหยุดอยู่ที่หลังตึกนอน มะเหมี่ยวดึงให้จอยมายืนเผชิญหน้ากับเขา จอยสลัดแขนออกจากการเกาะกุมของมะเหมี่ยว เธอลูบแขนตัวเองโดยอัตโนมัติ

“ฉันเจ็บนะ.....”

“ก็ดีแล้วไง......จะได้รู้ว่า เธอทำให้ฉันรู้สึกยังไง”

จอยหันหน้าหนีทันที เมื่อได้ยินประโยคนี้ของมะเหมี่ยว ยิ่งสายตาที่เธอไม่เคยเห็นเขาแสดงมากก่อน ยิ่งทำให้เธอไม่อยากสู้หน้าเขา เธอกลัวเหลือเกินว่าจะต้องกลับไปเป็นอย่างเดิม ต้องไปเป็นคนที่คอยตามรักเขาเพียงลำพัง

“.......................”

ไม่มีคำพูดอะไรหลุดออกจากปากของคนทั้งคู่.........จอยเริ่มอึกอัดมากขึ้นกับความเงียบที่ก่อตัว คนตรงหน้าเธอกำลังเล่นสงครามประสาทกับเธอหรือไงกัน

มะเหมี่ยวยังคงไม่พูดอะไร จอยเองก็เงียบ ทุกอย่างดูจะหยุดนิ่ง และเมื่อเธอทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ เสียงสั่นเคลือของเธอก็เอ่ยขึ้น

“มีอะไรกับฉันอีก......”

“........................” เงียบอีกตามเคย มะเหมี่ยวไม่พูดอะไร และดูเหมือนจอยจะหมดความอดทนกับเขาแล้ว เธอยกมือขึ้นหมายจะทุบเขา แต่ก็ชะงักและทิ้งมือลงข้างตัว มะเหมี่ยวมองแขนขาวของจอยที่แดงเถือกเพราะแรงบีบของเขาด้วยสายตาที่อ่อนแสงลง

“เจ็บมากมั้ย??? ขอโทษนะคะ”

มะเหมี่ยวพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เขาเดิมมาหยุดใกล้ ๆ กับจอย และจับแขนของเธอมาลูบไล้เบา ๆ คล้ายกับจะซึมซับความเจ็บนั้นมา

จอยไม่ตอบ เธอรู้ดีว่าคนตรงหน้าเธอไม่ใช่คนใจดีอะไรมากมาย เขาเป็นคนอันตราย แต่เวลาที่เขาทำดี อ่อนโยนกับเธอทีไร เธอก็แทบจะลืมเหตุผล ความเป็นจริงทุก ๆ อย่าง

ตอนนี้.........เธอมีอัพ

ตอนนี้..........เขามีขิง

ตอนนี้......เธอกับเขาไม่ได้เป็นคนรักกัน


“ไม่เป็นไร......มีอะไรรึเปล่า?”

จอยพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ พยายามอย่างเต็มที่ในการสะกดกลั้นน้ำเสียงของตัวเองให้ดูห่างเหินเข้าไว้

“ไม่มีอะไร แค่อยากอยู่ด้วย”

มะเหมี่ยวไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่า ทำไมถึงไม่พูดเรื่องของจอยกับอัพ ทำไมต้องหลีกเลี่ยงไม่พูดถึงเรื่องนั้น ทำไม? หรือเพราะกลัว..................กลัวคำตอบของจอย

“ถ้าไม่มีอะไร ฉันไปก่อนนะ.......” พูดจบจอยก็ขยับกาย เดินผ่านมะเหมี่ยว แต่เธอกลับถูกเขารั้งไว้อีก

“กับหมอนั่น..............ทำไม?”

จอยหันไปสบตากับมะเหมี่ยว......

“ทำไมต้องไปคบกับไอ้บ้านั่น”

จอยพยายามแกะฝ่ามือที่เกาะกุมแขนของเธอไว้ แต่ไม่สามารถทำได้ง่าย ๆ ยิ่งเธอพยายามขัดขืน แรงบีบก็ยิ่งเพิ่มขึ้น และยิ่งเธอทำท่าทางเหมือนไม่ต้องการอยู่ใกล้กับเขา ก็เหมือนกับยิ่งกระตุ้นความไม่พอใจของเขาให้ขุ่นมัวมากยิ่งขึ้น

“ทำไม........ไหนบอกว่ารักฉันไง แล้วทำไมไปอยู่กับไอ้นั่น”

ทั้ง ๆ ที่เขาคิดว่าจะไม่เอ่ยถึงเรื่องนี้แล้วแท้ ๆ แต่สุดท้ายมะเหมี่ยวก็ทนไม่ได้ เขาไม่ต้องการให้เธอคนนี้ไปเป็นของใคร เขาไม่ต้องการให้ใครมายุ่งอะไรกับเธอ.....

“มันไม่เกี่ยวกับนายนะ”

“ชอบมันหรือไง!?!?”

มะเหมี่ยวเสียงเขียว แม้จะไม่ได้เพิ่มระดับเสียงให้น่ากลัว แต่แค่นี้ก็สามารถทำให้จอยสั่นได้ทั้งตัว มะเหมี่ยวตอนนี้พร้อมที่จะบีบเธอให้แหลกคามือ

“เปล่า......ไม่ได้ชอบ!!!”

“แล้วคบกับมันทำไม แล้วไหนละที่เธอบอกแคร์ฉัน ไหนละที่บอกว่ารักนะ.......เรื่องนั้นอยู่ไหน?”

คำพูดกดดันของมะเหมี่ยวทำให้จอยรู้สึกแย่

เธอทำอะไรได้บ้าง??? พยายามอย่างเต็มที่....เพื่อที่จะรักษาระยะห่างระหว่างเธอกับเขา ไม่อยากให้ใครรู้เรื่องระหว่างทั้งสองคน เพราะหากเรื่องนี้ยังเป็นความลับอยู่ เธอกับเขาก็สามารถที่จะมีกันได้ต่อไปเรื่อย ๆ

แล้วตอนนี้มันอะไรกัน ทำไมทุก ๆ คนที่อยู่รอบ ๆ ตัวของเธอถึงต้องคอยบีบบังคับเธอ ทำไมไม่ปล่อยให้เธออยู่ในมุมของเธอ แม้แต่เขา คน ๆ นี้ คนที่เธอรัก.............

“ปล่อยนะ.......ปล่อย!!!!”

มะเหมี่ยวไม่ยอมปล่อยให้จอยเป็นอิสระ เขาไม่มีทางปล่อยให้เธอไปจากเขาแน่ ๆ

“ไม่!!! บอกแล้วใช่มั้ย!!! ว่าเธอนะ เป็นของฉัน เธอไม่มีสิทธิ์ไปมีใคร!!”

“ปล่อย.....ฉันไม่ได้เป็นของนายนะพู่!!! นายไม่ได้เป็นเจ้าของฉัน!!! นายต่างหากที่ไม่มีสิทธิ์!!!”

เหมือนโลกทั้งโลกมันหยุดหมุนทันทีที่จอยพูดจบ เขาจ้องเธอราวกับจะกลืนกิน

“เธอเป็นของฉัน...”

“ไม่!!! ปล่อย!!!.........”

จอยหลุดจากพันธนาการของมะเมี่ยวจนได้ เธอถอยมาจ้องหน้ามะเหมี่ยว กลืนก้อนน้ำตากลับเข้าไป เธอต้องไม่อ่อนแอ ไม่อย่างนั้น ทุกอย่างที่เธอตั้งใจจะทำ มันจะพังลง

จอยหมุนตัวเดินจากมะเหมี่ยวมา ทันทีที่เธอเดินหันหลังมา น้ำตาที่เคยกลั้นไว้ตลอดเวลาไหลออกมาช้า ๆ เมื่อไหร่นะ ที่เธอจะไม่เจ็บปวดกับเรื่องของคน ๆ นี้สักที


เธอเดินออกไปจากที่ตรงนั้น ที่ที่มีมะเหมี่ยวยืนอยู่ เธอไม่มีทางรู้เลยว่ามะเหมี่ยวมองตามเธอมาด้วยสายตาอย่างไร........จอยไม่มีทางรู้ ว่าสายตานั้นมันแสดงความเจ็บปวดขนาดไหน..................



“ขิงเห็นหรือยังว่าสองคนนั้นมีความสัมฟันธ์กันแบบไหน......หน่าเคยเตือนแล้วใช่มั้ย ว่าสองคนนี้นะ มีลับลมคมใน”

เสียงน้อยหน่ากระซิบที่ข้างหูของขิงเบา ๆ เธอลงทุนเดินไปตามขิงที่ตึกส่วนกลาง ดีว่าระหว่างทางได้ยินคนพูดว่าสองคนไปทางไหนเลยตามมาถูก แม้ระยะทางที่น้อยหน่าและขิงยืนอยู่จะไม่สามารถทำให้ทั้งสองได้ยินบทสนทนาของทั้งคู่ได้ แต่ท่าทางของคนทั้งสองก็พอจะทำให้ขิงรู้อะไรหลาย ๆ อย่าง รวมทั้งคำเป่าหูของน้อยหน่าอีก ทุกอย่างดูลงตัวกันหมด

ขิงปากสั่นระริก ใบหน้าซีดเผือด เธอไม่รู้ว่าทั้งสองคุยอะไรกัน แต่ท่าทางของคนรักของเธอดูจะแคร์เพื่อนของเธอเหลือเกิน ท่าทางที่เขาไม่เคยแสดงกับเธอสักครั้ง

“ทำไม?........พู่เป็นคนรักของขิงนะ” เสียงแผ่วเบาของขิงแทบจะลอยไปตามสายลมที่พัดมา น้อยหน่ากระซิบถ้อยคำเจ็บปวดใส่หูของเธออีก

“พู่เป็นคนรักของขิงก็จริง แต่ขิงเป็นคนรักของพู่หรือเปล่า?”

น้ำตาของขิงไหลออกมาช้า ๆ เธอเจ็บที่เห็นคนรักของตัวเองรักเพื่อนของตัวเอง แต่ที่เธอเจ็บมากกว่าอะไรทั้งหมดตอนนี้คือ สิ่งที่เธอได้เห็น.................

คนที่เธอรัก.......เขากำลังเจ็บปวด..........









หลังจากที่ขิงวุ่นวายกับการลงชื่อนักกีฬาบาส ฯ กับวอลล์เล่ย์บอลเสร็จแล้ว ขิงก็พอจะมีเวลาที่จะได้นั่งพักบ้าง เธอนั่งลงที่โต๊ะข้าง ๆ กับ อัฒจรรย์ สายตาของเธอเหม่อลอย แววตาแฝงความเจ็บปวดทอดมองที่พื้นสนามบาส ฯ

ภาพที่เธอได้เห็นก่อนหน้านี้มันยังคงติดตาและฝังอยู่ในจิตใจของเธอ วนเวียนอยู่ในสมองไม่ยอมเลือนหายไป

“ขิง!!!”

เสียงกระด้างที่เรียกเธอจากด้านหลังทำให้เธอหันไปมอง อัพนั่นเองที่มาเรียกเธอ สาวหล่อหน้าตาดีที่ใคร ๆ ก็หลงรัก และตอนนี้เขาก็คือคนที่คบหาอยู่กับจอย

“มีอะไรเหรออัพ???”

ขิงถามกลับ เธอลุกขึ้นยืนหันไปทางอัพที่ยืนทำสีหน้าไม่ดีเท่าที่ควร

“มีเรื่องจะคุยด้วยสักหน่อย ไปทางโน้นได้มั้ย”

“ได้สิ” ขิงรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่กับท่าทางของอัพ แต่เธอก็ยินยอมที่จะเดินตามเขาออกจากโรงยิมฯ ไป

ทั้งคู่เดินมาถึงสวนย่อมไม่ไกลจากโรงยิมฯเท่าไหร่ แต่ที่นี่ก็มีคนบางตากว่าที่บริเวณโรงยิมฯ ค่อนข้างมาก

“มีอะไรเหรออัพ?? มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?? ดูหน้าตาไม่ค่อยสบายใจเลยนะ”

“มันจะมีอะไรละขิง...............เธอดูแฟนเธอยังไง!! ถึงปล่อยให้มันมายุ่งวุ่นวายกับแฟนคนอื่นเขานะ!!”

ขิงถึงกับหน้าชาเมื่อรู้ว่าอัพมาคุยกับเธอเรื่องอะไร........ใจของเธอสั่นระริก เรื่องของทั้งสองคนนี้ เธอพยายามหลีกเลี่ยงไม่รับรู้ แต่ก็มีแต่คนมาขุดคุ้ย

“เขาไปยุ่งกับใครละ??” ขิงเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบา ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่เต็มอก

“เธอไม่รู้หรือไงขิง!!! ไอ้พู่นะ มันมายุ่งวุ่นวายกับจอย ดูอย่างเมื่อกลางวัน มันก็มาลากจอยไปซะอย่างนั้น ทำยังกับเป็นเจ้าของจอยอย่างนั้นแหละ อบรมแฟนของตัวเองซะบ้าง!! ปล่อยมาเพ่นพ่านก่อกวนคนอื่นอย่างนี้ได้ยังไง หรือเธอรู้สึกดีนัก ที่ได้เห็นแฟนตัวเองไปยุ่งกับคนอื่น”

คำพูดร้ายกาจของอัพกรีดเข้ามาในจิตใจของเธออย่างร้ายกาจ ขิงไม่ใช่คนแข็งกระด้าง แต่เธอก็ไม่ใช่คนหัวอ่อน การที่เธอถูกต่อว่าแรง ๆ อย่างนี้ก็สามารถทำให้เธอรู้สึกโมโหอย่างช่วยไม่ได้....และยิ่งคนที่อัพต่อว่า คือคนที่เธอรัก เธอยิ่งโมโห

“ที่บอกว่า แฟนของขิงไปวุ่นวายกับแฟนอัพนะ ไม่คิดดูหน่อยเหรอไง.... ว่าแฟนตัวเองนะ ก็อยากให้เขาไปวุ่นวาย ที่บอกว่าพู่ไปเอาจอยมา... ไม่คิดต่ออีกละ.... ว่าจอยก็อยากจะไปกับพู่ แล้วจะบอกอะไรให้อีกนะอัพ... ถ้าคู่นั่นเขาจะมีอะไรกัน มันก็ไม่แปลก อย่าลืม..... ว่าคนที่มาทีหลังนะคือเธอนะอัพ ไม่ใช่พู่ ....... คู่นั้นนะ เขาอาจจะคบกันก่อนที่เธอจะเข้ามาเสนอหน้าด้วยซ้ำ ใช้สมองคิดดูบ้างนะ ก่อนที่จะมาพาลใส่คนอื่น”

ขิงตอกกลับอัพด้วยความความโมโห แต่สิ่งที่เธอพูดก็สามารถทำให้อัพสะอึกไปได้เหมือนกัน เขาทำได้แค่อ้าปากค้างเท่านั้น ใจหนึ่งก็คงไม่คิดว่าขิงจะเข้าข้างคนก่อเรื่องได้ขนาดนี้ อย่าว่าแต่อัพเลย ขิงยังตกใจเลยที่ตัวเองสามารถเข้าข้างมะเหมี่ยวได้ขนาดนี้..............

“ถ้าไม่มีอะไรแล้วขิงขอตัวนะ จะดูที่งานกีฬา” พูดเสร็จเธอก็หันหลังเดินออกมา เธอก้าวเท้าให้เร็วที่สุด เพื่อเดินหนีอัพ เธอไม่อยากรับรู้เรื่องที่เกิดขึ้นอีกแล้ว รู้สึกปวดปร่าไปหมด

.....ทั้ง ๆ ที่พู่ทำกับขิงมากขนาดนี้ แต่ทำไม ขิงยังรักพู่อยู่ละ.....ทำไม??......

ขิงเดินเข้ามาในโรงยิมฯ ที่ตอนนี้เต็มไปด้วยเสียงเชียร์ดังกระหึ่ม เพราะบาสฯ เริ่มแข่งกันแล้ว เธอยืนมองสนามที่มีนักกีฬาวิ่งขวักไขว่เต็มไปหมด โดยไม่ขยับไปไหน จนกระทั่ง................

“ทำไม....ไม่ไปหาที่นั่งคะ?”

เสียงราบเรียบของมะเหมี่ยวดังขึ้นใกล้ ๆ เธอ เธอหันไป ตอนนี้เขายืนอยู่ข้าง ๆ ของเธอ ใบหน้าของเขา จ้องมองไปที่สนามบาส ฯ

“คนเต็มอัฒจรรย์น่ะค่ะ ขิงไม่ได้ให้เพื่อนจองที่นั่งไว้ด้วยสิ......เลยมายืนดูตรงนี้”

มะเหมี่ยวแค่พยักหน้า.....ไม่พูดอะไรอีก เขามองไปที่สนามบาส ฯ ดูการแข่งขันเงียบ ๆ ขิงมองตามสายตาของมะเหมี่ยวไป และอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองไร้ตัวตนสำหรับคน ๆ นี้ก็คือ ไม่ว่าเมื่อไหร่ คนที่อยู่ในสายตาของเขาคนนี้ ก็คือ ผู้หญิงที่ชื่อ จอย...............

ดูแล้วเหมือนคนที่ยืนเคียงข้างเธอมองการแข่งขันอย่างสนใจ แต่ความเป็นจริงแล้ว หากมองตามดี ๆ แล้ว จะรู้ว่า สายตาของเขา ไปหยุดอยู่ที่ร่างบางของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่กำลังเตรียมตัวแข่งวอลเล่ย์บอลอยู่ที่สนามข้าง ๆ

“พู่เป็นอะไรหรือเปล่าคะ??”

ขิงทนไม่ได้ที่เห็นมะเหมี่ยวยืนจ้องมองร่างของจอย ไม่ใช่หึง เธอไม่มีอารมณ์นั้นอยู่เลย แต่เธอทนไม่ได้จริง ๆ ที่เห็นคนที่เธอรัก มีแววตาที่เจ็บปวด

มะเหมี่ยวหันมาสบตากับขิงก่อนจะยิ้มบาง ๆ รอยยิ้มนั้นไม่ได้สดใสเหมือนทุกที ถึงจะดูดีแต่ในสายตาของเธอมันก็ยังดูเศร้าหมองอยู่ดี

“เป็นไรรึเปล่า??” เขาส่ายหน้า

“ไม่เป็นไรหรอก คงเพลียนะ นอนตั้งหลายวันนี่น่า”

ว่าแล้วมะเหมี่ยวก็หันไปทางสนามอีก แต่ก็เหมือนเคยสายตาของเขาไปหยุดที่ทีมวอลเลย์บอลและคนที่เขามอง ก็คือ.............จอย

........เธอคงคิดว่าฉันไม่รู้สินะชมพู่ เรื่องของเธอกับจอย แต่ฉันทำเป็นไม่รู้เองต่างหาก สายตาที่เธอมองจอยมันฟ้องทุกอย่างแล้ว....................


ฉันจมอยู่กับความคิดเรื่องของชมพู่ มือข้างหนึ่งก็กุมสร้อยที่เขาให้ในวันเกิดไว้แน่น นานเท่าไหร่ไม่รู้ บาส ฯ แข่งใกล้เสร็จแล้ว ชมพู่ก็ยังอยู่ท่าเดิม สายตาของเขาก็ยังอยู่ที่เดิม คือที่จอย จอยเดินไปทางไหน สายตาของชมพู่ก็มองไปทางนั้น

.......ได้โปรดเถอะชมพู่ สังเกตเห็นฉันบ้าง ฉันนั่งอยู่ตรงนี้ อยู่ข้าง ๆ เธอ หันมามองฉันบ้าง ฉันยังเป็นคนรักของเธออยู่นะ........

“รายการต่อไปเป็นการแข่งขันวอลเลย์บอลระหว่างสีม่วงและสีเขียว เชิญนักกีฬาทั้งสองสีมาที่สนามด้วยค่ะ”

เสียงโฆษกประกาศ มะเหมี่ยวขยับตัวนิดหน่อย แต่สายตายังคงอยู่ที่จุดเดิม วอลเลย์บอลเริ่มแข่งแล้ว เสียงเชียร์ของสีม่วงแข่งกับสีเขียวดังกระหึ่ม จอยดูโดดเด่นเสมอในสายตาของใครหลาย ๆ คน ขิงยอมรับในข้อนี้ดี จอยมีหลาย ๆ สิ่งที่สามารถดึงดูดให้ทุกคนรัก ไม่เว้นแม้แต่คนที่ยืนอยู่เคียงข้างเธอตอนนี้

ขิงไม่มีสมาธิในการดูการแข่งขันเท่าไรนัก เพราะในความคิดของเธอมีแต่เรื่องของคนที่ยืนอยู่ข้างกาย ท่าทางของเขาทำให้เธอรู้สึกน้อยใจ บางครั้งเธออยากจะเดินหนีเขาไปซะเดี๋ยวนี้ แต่ที่เธอยังไม่ไปไหน ก็เพราะกลัวว่าเขาอาจจะไม่ตามเธอก็ได้

หรือบางทีเขาจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอนั้นหายไปไหน ดังนั้นถึงตอนนี้อาจจะดูไม่มีความหมายอะไรแต่เธอก็ขออยู่ตรงนี้เผื่อวันหนึ่ง แค่สักวันหนึ่งเขาอาจจะมองเห็นเธอก็ได้


ขิงสะดุ้งกับเสียงฮือฮาของพวกกองเชียร์ที่ดังขึ้น เธอหันไปมองที่สนาม ร่างของจอยทรุดลงกับพื้น จอยกุมที่น่องของตัวเองไว้

อุบัติเหตุจากการแข่งขัน ร่างของจอยทรุดลงกับพื้น การเกร็งอย่างรุนแรงที่กล้ามเนื้อที่น่องสวยของเธอ ทำให้เธอเจ็บปวดจนไม่สามารถขยับไปไหนได้ หน่วยปฐมพยาบาลรีบเข้ามาพาตัวของเธอออกไปที่ข้างสนาม


อัพรีบลงมาจากอัฒจรรย์ลงมาหาจอย ส่วนมะเหมี่ยวนั้นเขายื่นนิ่ง แต่ความเกร็งของร่างกายมันมากจนขิงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ รู้สึกได้

........คงอยากลงไปหาด้วยตัวเองสินะ คงอยากลงไปอุ้มร่างของจอยเองใช่มั้ย?? คงอยากดูแลอยู่ใกล้ ๆ ใช่หรือเปล่า??..........

“ไปดูจอยกันเถอะ”

ขิงพูดด้วยเสียงเบาหวิว เขาหันมามองฉัน และไม่ต้องรอให้อะไรมารั้งเขาอีก ร่างของมะเหมี่ยวเดินไปหากลุ่มนักเรียนที่ช่วยกันปฐมพยาบาลจอยอยู่


จอยน้ำตาไหลพราก ความเจ็บปวดแทรกไปทั้งน่องสวย ๆ ของเธอ เกร็งจนเป็นก้อนแข็งไปหมด น้อยหน่านำผ้าห่อน้ำแข็งประคบที่น่องของจอยแต่ดูมันไม่ดีขึ้นเลย

“ทำบ้าอะไร??”

เสียงเรียบ ๆ ของมะเหมี่ยวดังขึ้น ก่อนที่ร่างของเขาจะเดินเข้าไปคว้าเอาห่อน้ำแข็งที่น้อยหน่าเอาประคบออก

“เธอเอาน้ำแข็งมาประคบคนที่เป็นตะคริวเนี๊ยะนะ สมองมีรอยหยักหรือเปล่า? ไปเอาผ้ากับน้ำอุ่นมาเร็ว!!!”

หลังจากที่ต่อว่าน้อยหน้ากับพวกที่เป็นหน่วยพยาบาล มะเหมี่ยวก็จัดการสั่งทันที ทุกคนที่เหลือยืนนิ่งดูท่าทางของมะเหมี่ยวที่ดูแลจอยอย่างคล่องแคล่ว

“ปวดไปถึงตรงไหน??” เสียงของเขาช่างอ่อนโยนเหลือเกิน ในความคิดของขิง

“ถึงหัวเข่า มันเป็นทั้งน่อง.......”

เสียงจอยสะอื้น ความเจ็บไม่ได้ปรานีเธอเลย มะเหมี่ยวเอาผ้ามาเช็ดน่องที่ชื้นไปเพราะน้ำแข็ง จนแห้งก่อนจะนวดเบา ๆ ไปทั่วทั้งน่องของเธอ

“เจ็บ” เสียงของจอยร้องออกมา

“ทนหน่อยนะ กล้ามเนื้อมันกำลังเกร็งต้องค่อย ๆ นวดให้คลายตัว เหยียดขาตรง ๆ ได้มั้ย ?? พยายามหน่อย อาจจะเจ็บแต่มันจะดีกว่างอขาไว้แบบนี้” จอยทำตามที่ชมพู่บอกอย่างว่าง่าย

“มีสเปรย์คลายกล้ามเนื้อมั้ย? ยานวดด้วย” เขาหันไปทางคนที่ยื่นใกล้กับกล่องยา

“น้ำอุ่นกับผ้าได้แล้ว!!!”

เสียงของน้อยหน่าดังมา ก่อนจะวางกะละมังน้ำอุ่นไว้ใกล้ ๆ กับมะเหมี่ยว เขาเอาผ้าชุบน้ำอุ่นมาประคบน่องของจอย แล้วก็นวดเบา ๆ ปากก็คอยถามเธอว่าเจ็บมั้ย

การเปรียบเทียบการกระทำของเขาเกิดขึ้นเงียบ ๆ ภายในใจของขิง เขาอยู่กับเธออ่อนโยนมากก็จริง แต่..........หากเปรียบเทียบกับสิ่งที่เขาแสดงกับจอยแล้ว ต่างกันโดยสิ้นเชิง

“โอเคมั้ย? ดีขึ้นหรือเปล่า?”

ดูเหมือนจอยจะลดความเจ็บลงกว่าตอนแรกมาก มะเหมี่ยวเช็ดน่องขิงเธอจนแห้งอีกครั้ง ก่อนจะเอาสเปรย์คลายกล้ามเนื้อมาฉีดให้แล้วก็นวดเบา ๆ จากนั้นก็ทายานวดอีกที

“เป็นไงบ้าง?”

กี่ครั้งแล้วนะที่ขิงได้ยินเสียงอ่อนโยนแบบนี้ของเขาที่พูดกับจอย แล้วมันเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วนะที่หัวใจของเธอปวดร้าว

จอยพยักหน้าเป็นคำตอบให้กับมะเหมี่ยว ทั้งสองคนสบตากัน ขิงหันหน้าไปทางอื่น เธอไม่อยากจะเห็นภาพแบบนี้ อัพก็คงไม่ต่างจากขิงเท่าไหร่

“บอกกี่ครั้งแล้วว่าไอ้การพยักหน้านะ ฉันไม่เข้าใจว่าหมายความว่ายังไง”

“ดีขึ้นแล้ว ฉันต้องแข่งต่อ”

“ไม่ได้ !!! ตะคริวทั้งขาอย่างนี้ลงไปก็เป็นตัวถ่วงเปล่า ๆ นัดนี้ไม่มีเธอก็คงชนะอยู่ดี ใช่มั้ยอาจารย์??”

ชมพู่หันไปถามทางอาจารย์สุนันท์ที่มายืนอยู่ใกล้ ๆ

“ใช่ เธอไม่ต้องลงแล้วจอย ทีมเรากำลังไปได้สวย ไม่น่าเป็นห่วง”

“แต่......”

“ฉันบอกว่าให้พัก” เสียงเรียบ ๆ ของชมพู่ทำให้จอยนิ่ง

“เดี๋ยวเธอขึ้นไปพักบนห้องเถอะ จะพาไป”

มะเหมี่ยวพูดขึ้น แต่ดูเหมือนอัพจะทนไม่ไหวแล้ว เขาคงไม่อยากให้สองคนใกล้กันมากกว่านี้

“เดี๋ยวฉันพาไปเอง” มะเหมี่ยวหันไปมองอัพ ที่พูดแทรกขึ้นด้วยสายตาเฉยเมย

“ฉันเป็นแฟนจอย”

เสียงของอัพทำให้มะเหมี่ยวหันไปมองจอย สายตาเจ็บปวดของเขาทำให้ขิงเจ็บแปลบขึ้นมาอีก ส่วยจอยก็ทำได้แต่เพียงหลบสายตาของมะเหมี่ยว

“เดี๋ยวจอยให้อัพพาไปพัก”

จอยบอกด้วยเสียงแผ่วเบา มะเหมี่ยวผละมือออกจากจอยแทบจะทันที เขาเดินออกจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว

“พู่ รอขิงด้วย!!!”

ขิงเดินตามเขามาเร็ว ๆ มะเหมี่ยวไม่สนใจว่าขิงจะเดินตามเขามาหรือเปล่า???


เขาไม่เคยคิดว่า ความรู้สึกอยากหายไปจากโลก จะเกิดขึ้นกับตัวเขา แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว เขาไม่อยากอยู่เห็นจอยอยู่ในอ้อมกอดของคนอื่น เขาไม่ต้องการรับรู้ว่า จอยเป็นของใครที่ไม่ใช่เขา เขาไม่ต้องการยอมรับว่า จอยเลือกคนอื่นที่ไม่ใช่เขา

ขิงก้าวเท้าเร็ว ๆ ตามแผ่นหลังของมะเหมี่ยว สายตาของเธอเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา เธอไม่ได้น้อยใจที่เขาไม่ได้สนใจเธอ เธอไม่ได้ห่วงตรงนั้นเลย แต่ที่เธอเสียใจก็คือ....................การที่เธอได้เห็นคนที่เธอรักเจ็บปวด

.....เจ็บมากเลยเหรอชมพู่ ดูสิขนาดด้านหลังของเธอยังดูเศร้าขนาดนี้ เธอไม่ได้เจ็บคนเดียวนะชมพู่ ฉันก็เจ็บด้วย.......การที่เห็นเธอเจ็บแบบนี้นะมันเจ็บซะยิ่งกว่าการที่เธอไม่ได้รักฉันซะอีก ฉันจะทำยังไงให้เธอหายเจ็บปวดละ ฉันต้องทำยังไงเธอถึงจะยิ้มได้เหมือนเดิม บอกฉันที.......บอกผู้หญิงคนนี้ที..........


ขิงอยากโอบกอดร่างของมะเหมี่ยวเหลือเกิน เธออยากทำให้เขารู้ว่า เขาไม่ได้เจ็บเพียงคนเดียว การที่ได้เห็นเขาเจ็บปวดอย่างนี้ เป็นการทำร้ายเธอดี ๆ นี่เอง........


ร่างกายที่ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงของเขานั้น จะมีใครรับรู้ได้บ้างว่ามันเจ็บปวดเหลือเกิน กับการที่ต้องปล่อยให้คนที่ตัวเองรักอยู่ในอ้อมกอดของใครคนอื่น ใครจะรับรู้ได้บ้างว่าเขาเจ็บปวดขนาดไหน



-----------------******จบตอนขอรับ******-------------------




แม่เจ้า!!!!!!!!


และแล้ว ตอนที่ 24 ก็คลอดออกมาอย่างปลอดภัย..................

งง ๆ เบลอ ๆ ไปนอนดีก่า.............

สุดท้ายยยย!!!!

เม้นต์ ๆ ๆ ๆ เมนต์เท่านั้นที่ครองโลก

อิอิ

ขอให้มีความสุขในการอ่านนะขอรับ...........





< ตอนที่ 23ตอนที่ 25 >



Create Date : 27 มีนาคม 2550
Last Update : 5 เมษายน 2550 15:28:00 น. 0 comments
Counter : 975 Pageviews.

samurai_KYO
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




"ข้าคือ...มิบุ ซา'เคียว"

Friends' blogs
[Add samurai_KYO's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.