ว่าแต่เค้า อิเหนาเป็นเอง ....         หลายต่อหลายครั้ง ที่ฉันเจ็บใจที่คนต่างชาติมองหญิงไทยไม่ดี แต่ฉันไม่เคยคิดเลยว่าซักวันนึง เมื่อถึงคราวตัวเอง ฉันก็มองคนผิวดำอย่างไม่เป็นธรรมเหมือนกัน         เริ่มจากเมื่อสองปีที่ผ่านมา มีเด็กแทนซาเนียที่โรงเรียน โดดเรียน ไม่มาเรียนเป็นประจำ อาจารย์ให้เราโทรตามแล้วตามอีก พ่อคุณก็ยังไม่ค่อยจะมาโรงเรียน มาถึงช่วงปิดเทอมหน้าร้อน เจ้าเด็กแทนซาเนียก็ขอลากลับบ้านไป 3 สัปดาห์          หลังจากนั้นพอโรงเรียนเปิดเทอม เจ้าเด็กที่ควรกลับมาเรียนก็หายตัวไปอย่างลึกลับ ปกติแล้ว ฉันโทรไปหาทั้งคุณแม่ของเจ้าเด็กน้อย ทั้งพี่ชายของเจ้าเด็กน้อย เป็นครั้งคราว เพื่อรายงานความประพฤติ (อันเหลวไหล) ก่อนหน้านั้นทุกคนรับโทรศัพท์ฉันเป็นอย่างดี จนกระทั้งถึงเวลาเปิดเทอมและเจ้าเด็กน้อยหายไป ทุกคนพร้อมใจกันไม่รับโทรศัพท์ฉัน เจ้าเด็กน้อยไม่ได้หายไปเฉย ๆ ยังพกปัญหาค้างค่าเช่าให้โรงเรียนต้องตามประสานงานกับเจ้าของห้องเช่าอีกด้วย          แน่นอนตลอดเวลาคนรับเรื่องและประสานงานคือฉันเอง จริง ๆ แล้วมันไม่สามารถเรียกว่าการประสานงานด้วยซ้ำ เพราะฉันไม่สามารถติดต่อใครในแทนซาเนียได้เลย ไม่รู้ว่าเจ้าเด็กน้อยเป็นตายร้ายดีอย่างไร ทำได้แต่บอกให้เจ้าของห้อง ย้ายของในห้องเจ้าเด็กนั่นออกไปได้ลย          ในปีถัดมา เมื่อกรมตรวจคนเข้าเมืองประกาศรายชื่อนักเรียนที่ overstay ของโรงเรียนเรา มีรายชื่อเจ้าเด็กนั่นอยู่ด้วย  เด็กนั้นกลายเป็นโรบินฮู้ดไปแล้ว แย่กว่านั้น ทั้งหมดเป็นความรับผิดชอบของฉันเต็ม ๆ (T^T)          หลังจากนั้น ถ้ามีผู้สมัครเป็นนักเรียนแอฟริกา ฉันจะระมัดระวังเป็นพิเศษในทุก ๆ เรื่อง อย่างไรก็ดี จากนี้ไปคงมีนักเรียนจากแอฟริกาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เป็นแน่แท้ นี่เป็นแนวโน้มที่เห็นได้จากทั้งประเทศญี่ปุ่น ประเทศจีน และประเทศไทย          ถ้าถามว่าพวกเค้ามาญี่ปุ่นทำไม ฉันตอบได้ทันทีเลยว่า มาหาเมียคนญี่ปุ่น แต่งงานและเปลี่ยนเป็นวีซ่าคู่สมรส ถ้าหาไม่ได้ก็เป็นโรบินฮูดต่อไปจนกว่าจะหาเมียญี่ปุ่นได้ ระหว่างนั้นก็หลบ ๆ ซ่อน ๆ เอา          ถ้าถามว่าทำไม่ถึงคิดอย่างนั้น ฉันก็ตอบว่าฉันเห็นมาอย่างนั้น 3-4 รายแล้ว เพียงแค่นี้ฉันก็สรุปไปแล้วว่าคนแอฟริกาเป็นแบบนั้นทั้งหมด มาถึงตอนนี้ฉันถึงเข้าใจ ฉันเข้าใจว่าทำไมคนญี่ปุ่นถึงมองคนไทยแบบนั้น เพราะว่าฉันก็มองคนแอฟริกาแบบนั้น และฉันก็เข้าใจว่ามันไม่เป็นธรรมกับคนแอฟริกา เหมือนกับที่มันไม่เป็นธรรมกับคนไทย            ถึงอย่างนั้นก็ตาม ฉันก็ยังอดอคติไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพื่อนคนญี่ปุ่นของฉัน เพิ่งเิริ่มคบกับพ่อหม้ายชาวกาน่า มีลูกติดอีก 2 คน จะให้ฉันบอกว่ายังไง จะให้ฉันบอกว่ายินดีด้วยกับแฟนใหม่งั้นหรอ จากประสบการณ์ทั้งหมดในชีวิตการทำงานกับคนต่างชาติมา ที่คือเรื่องซวยที่สุดของเพื่อนฉันเลยก็ว่าได้ จะให้ฉันพูดว่ายินดีด้วย มันคงฝืนความรู้สึกกันเกินไป แม้ฉันรู้ว่าฉันไม่ควรจะยุ่งเรื่องส่วนตัวของเพื่อนแบบนี้ ฉันจึงเพียงแค่เตือนว่า "คิดดีแล้วหรือ" และอยู่ห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ ต่อไป   Create Date : 06 สิงหาคม 2555 5 comments Last Update : 6 สิงหาคม 2555 15:46:40 น. Counter : 6164 Pageviews. Share Tweet

เราคงไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของเพื่อนไม่ได้หรอก ให้เค้าตัดสินใจเองก็แล้วกัน แค่เตือน ๆ อย่างห่าง ๆ อย่างนี้   โดย: เด็กน้อยตัวแสบ 10 สิงหาคม 2555 12:41:02 น.

ในฐานะเพื่อนถ้าเตือนได้ก็ดี แต่ก็ต้องดูจังหวะเวลาเพราะความรักมันทำให้คนตาบอด   โดย: cyberlifenlearn 5 กันยายน 2555 12:55:53 น.

สวัสดีค่ะ แวะมาสวัสดีปีใหม่นะคะ   โดย: keng_toshi IP: 101.51.67.89 7 กุมภาพันธ์ 2556 11:32:57 น.

แอบมายกมือว่าเป็นเหมือนกัน เราก็มองไม่ดีกับคนเกาหลี เพราะคนเกาหลีที่เราเจอแต่ละคนเหลือจะทน ที่จริงกลุ่มคนผิวสีเราก็ไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร เพราะเจอทีไรหน้าหม้อ ลามกแล้วก็พูดจาแปลกๆบ่อยๆ พยายามไม่คิดแต่อดไม่ได้ ทุกครั้งถ้าเจอจะเลี่ยงห่างๆประจำเลยค่ะ รู้ว่านิสัยไม่ดีแต่อดไม่ได้ พยายามฝึกเหมือนกันค่ะ   โดย: แม่บ้านมือใหม่ IP: 111.171.237.14 30 พฤษภาคม 2556 1:50:01 น.

นานๆแวะเข้ามาที สบายดีมั้ยคะ พยายามเข้านะสู้ๆๆ ส่วนเรื่องของคุณเพื่อน ได้แค่ห่วงจริงๆค่ะ แต่คิดในแง่ดีไว้ ไม่แน่เค้าสองคนอาจเป็นคู่ของกันก็ได้นะคะ สู้ๆๆๆๆค่ะ   โดย: yoyos IP: 1.113.221.144 14 กันยายน 2556 21:10:21 น.